ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

หน้า: [1] 2 3 ... 5   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Ebay Amazon & The Art of Price War  (อ่าน 18526 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
April07
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 680



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 11:16:13 »


ก่อนหน้านี้เราขายสินค้านำเข้าเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องเจอกับผู้ขายต่างชาติเป็นหลัก ปีนี้เริ่มเหนื่อยกับการทำงานหนัก จึงเริ่มหาคำตอบของการทำงานไม่กี่ชั่วโมงแต่ได้เดือนเป็นแสน คำตอบแรกมันอยู่ที่สินค้าแฮนด์เมดของไทย เราจึงทดลองเริ่มขายสินค้าไทยที่ยังไม่มีใครขายในอเมซอน  ล็อตแรกที่เอาขึ้นขาย ราวๆ 20 รายการ ต้นทุนราวๆ 1000 บาท ได้กำไร 700-1000 บาทต่อชิ้น ก่อนเริ่มขาย ตั้งใจไว้แค่ขายได้วันละ 5 ชิ้นเท่านั้นเอง พอขายจริงๆ ขายได้วันละ 15-20 ชิ้นต่อวัน  กำไรดีๆมันอยู่ได้ไม่นานค่ะ พอผ่านไป 3-4 เดือน คนเข้ามาขายตัดราคา ถ้าเข้ามาตัดราคาลงเล็กๆน้อยๆก็คงไม่กระทบมากมาย แต่ที่เกิดขึ้นคือ เค้ามีสินค้าทุกรายการของเรา เดิมเราขายอยู่ราวๆ $90-$100 คู่แข่งเข้ามาตัดราคาเหลือ $80 มันจึงเป็นที่มาของสงครามราคา คู่แข่งมองว่าเราเป็นร้านเล็กๆ และสินค้าทั้งร้านขายดี คงมองว่าเรามีทุนไม่มาก ดังนั้นการจะเข้ามายึดเอาธุรกิจของเรามันง่าย  แรกๆที่เจอแบบนี้เราหงุดหงิดมาก คิดแต่ว่าทำไมนะ ก่อนหน้านี้ที่เรายังไม่เปิด product page ทำไมคุณไม่ขาย คิดแต่ว่าทำไมเค้านิสัยแย่จัง คิดไปก็เท่านั้นค่ะ ไม่เกิดผลดีกับตัวเอง เราจึงมองหาทางแก้ไข  สิ่งที่เราต้องการทำคือ ปกป้องธุรกิจของเรา และให้บทเรียนกับคนที่พยายามเข้ามายึดธุรกิจของเรา มันจึงเป็นที่มาของสงครามราคา  นานๆเข้าความโกรธความหงุดหงิดมันแปรเปลี่ยนเป็นความสนุกสนาน มีชีวิตชีวา ไม่เหลือความรู้สึกโกรธคู่แข่งเลยค่ะ ตอนนี้เราสนุกกับการขายมาก รู้สึกว่าการขายมีชีวิตชีวากว่าเดิมเยอะ มีเพื่อนเล่นซ่อนหา เล่นไล่จับ เล่นต่อสู้ เหมือนตอนเด็กๆเลย

เราจึงเปิดกระทู้นี้เพื่อจะแชร์เกี่ยวกับวิธีการทำสงครามราคา ศิลปะชั้นเชิงในการก๊อบ การหั่น การเขมือบร้านค้าของคู่แข่ง เราจะเข้ามาเขียนเรื่อยๆ วันละนิดหน่อย เท่าที่มีเวลา ถ้าใครมีอะไรจะเสริม จะแชร์ก็เชิญเลยค่ะ เราคิดว่าคนที่ขายของในอีเบย์ อเมซอน มีประสบการณ์ตรงนี้ทุกคน

คู่แข่งเราก็คงเข้ามาอ่านบอร์ดนี้อยู่เหมือนกัน เราหวังว่าคุณจะได้อ่าน ต้องการแชร์ก็เชิญค่ะ เรากำลังสนุกกับการถูกโจมตี คุณให้โจทย์เรา เราแก้โจทย์เสร็จก็ตั้งโจทย์ส่งให้คุณ ตอบโต้กันไปมา สนุกดี ทำให้เรามองหาไอเดียการขายใหม่ๆทุกวัน


บันทึกการเข้า

กำลังนอนกลางวัน
endou156
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 181



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 12:13:46 »

การตัดราคามีในทุกตลาดแหละครับ
ทั้งในและนอก ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์

ผมเองก็เจอ  เยอะเลยด้วย จากกำไรชิ้นละเกิน 100% เหลือแค่ 20% หรือต่ำกว่า
ดีที่มีฐานลูกค้าเก่า กับของเรามีคุณภาพ ไม่งั้นตายเลย

แต่ดีใจด้วยนะครับที่เจ้าของกระทู้สามารถปรับอารมณ์ให้สนุกสนานไปกับการรบได้ wanwan011
บันทึกการเข้า
ppluminor
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 12:20:15 »

ผมเพิ่งเข้าวงการIMครับ แต่จะเล่าประสบการณ์ตรงจากธุรกิจที่บ้านให้ฟังครับ

บ้านผมทำธุรกิจรังนกครับเมื่อ10กว่าเกือบๆ20ปีที่แล้วช่วงประเทศจีนเปิดประเทศใหม่ทัวร์จีนที่มาลงในไทยส่วนมากจะหมดเงินกับการซื้อยาสมุนไพรรักษาโรคมาเป็นอันดับหนึ่งครับ ไม่ว่าจะเป็น ดีงู เลือดงู ซุปงู เนื้อจรเข้ และรังนกอย่างที่บ้านผมทำ.....เมื่อก่อนทัวร์ลงที่ร้านวันนึงขายกำไรสุทธิเป็นหลักแสน(เฉพาะกินหน้าร้าน) ซื้อกลับแบบวัตถุดิบอีกหลักล้านต่อวันเป็นแบบนี้อยู่เกือบๆ5ปี ฟังเหมือนจะดูดีนะครับ แต่ๆๆๆๆ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นคลื่นลูกแรก เริ่มมีหลายบริษัทมาทำธุรกิจนี้เช่นเดียวกัน ทำให้มีปัญหากระทบกับธุรกิจบ้านผมดังนี้: โดนบริษัททัวร์ที่เคยเป็นนายหน้าเอาลูกค้ามาให้เราหักดิบไปขึ้นกับบริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นเพราะให้ค่าคอมสูงกว่า / บางคนคงสงสัยทำไมทางบ้านผมไม่ให้ค่าคอมเท่าๆกับบริษัทใหม่ๆละ?? คือจะบอกว่าสินค้าที่บ้านผมขายกำไรหลังหักค่าคอมแล้ว%ที่ไกด์ได้และกำไรเรามันแฟร์สุดๆแล้ว เอ้า! แล้วทำไมคู่แข่งให้คอมสูงได้ละ? ผมกำลังจะเล่าความหายนะของธุรกิจนี้ให้ฟัง.......เพราะทางคู่แข่งเริ่มมีความคิดแบบค่อนข้างสกปรกครับ ช่วงแรกหลอกขายรังนกบ้านว่าเป็นรังนกเกาะให้ลูกทัวร์ ต่อมาบริษัทใหม่ก็แย่กว่านั้น หลอกเอายางไม้มาขายให้ลูกทัวร์อีก แย่มั้ยละครับ?? ด้วยเหตุนี้ทางบ้านผมเลยไปตลุยตลาดจีนเองเลย ตลุยได้1ปีกว่าๆทำท่าเหมือนจะดี ก็มีกลุ่มคนเดิมตามมาตลุยเมืองจีนเหมือนกัน และแล้วก็ใช้วิธีเดิม......นั้นยังแย่ไม่พอเรายังต้องแข่งกับ ตังเกร็งๆอย่าง มาเลย์และอินโดนีเซียอีก จนช่วงหลังสุดๆทั้ง3ประเทศที่มีรังนกเยอะก็ประสบปัญหาเดียวกันคือจีนแผ่นดินใหญ่ปิดกั้นสินค้ารังนกที่อย่าง!! ไม่ให้เข้าประเทศเค้าครับ งานเข้ามั้ยละครับ?? จนตอนนี้บ้านผมก็ยังมีธุรกิจนี้เหมอนเดิมจากยอดขายหน้าร้านได้วันละหลักแสน ปัจจุบันขายแขกได้วันละ 10000 บาทก็ถือว่าเยอะแล้ว เพราะลูกทัวร์หมดสิ้นศรัทธาในสินค้าที่ชื่อว่ารังนกแล้ว ต่อให้ขายถูกเท่าทุนยังไม่ยอมจะคิดกินหรือซื้อกลับไปเลยครับ.....

เล่ามาซะยาวนะครับ ผมสรุปเลยนะกันครับคนที่ขายตัดราคาคุณตัดได้แต่ว่ารักษามาตรฐานสินค้าด้วยนะครับ ไม่งั้นคุณจะเน่าตายตามคู่แข่งของที่บ้านผม ถูกฟ้องยับ ล้มหนีหายเข้ากลีบเมฆ และที่แย่สุดคือบ่อนทำลายตลาดการค้านะครับ แต่ที่อยู่รอดจริงๆคือเจ้าที่รักษามาตรฐานไว้ได้นานที่สุดครับ ส่วนเจ้าของกระทู้อย่าหยุดพัฒนาสกิลนะครับ(สกิลการตลาดด้านดี) สู้ครับ

ใครสนใจธุรกิจรังนกหรือมีธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอยู่PMมาคุยกันก็ได้นะครับ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

 wanwan020 สู้ต่อไปครับทุกท่าน wanwan020
บันทึกการเข้า
kakato
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 131
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,205



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 12:29:23 »

มีแต่เรื่องน่าอ่าน ขอบคุณทุกท่านครับ wanwan017
บันทึกการเข้า

คอร์สเรียนขายของออนไลน์ ปูพื้นฐานการขายตลาดออนไลน์ มีสินค้าอยากลงขายfacebook ads ต้องมา 20ธคเหลือ5ที
E-Book Facebook Ads2014-2015 สอนทำโฆษณาบนเฟซบุ๊ค ตีแตก!!!เทคนิคเพิ่มยอดขาย ในงบประมาณที่คุ้มค่าลดต้นทุนตั้งแต่เริ่มต้น Step by Step ไม่อยากขาดทุนต้องอ่าน [55ชุดเหลือ-ชุด]สอบถามก่อนโอนเงินนะครับ
trudy
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 518
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,237



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 13:49:24 »

Seller คนเก่าและคนใหม่ที่ขาย Amazon wanwan005

อาจจะมีรายได้ตกลงแบบ ฮวบฮาป เพราะระบบของ amazon ไม่ได้จำกัดจำนวนการขายของคนขายใหม่ หากอยากรู้ว่าสินค้าตัวไหนขายดีก็เพียงข้าไปคลิก ที่ link ตัวนี้ ต้องขอบอกว่าตามสูตรที่ได้อบรมมา แล้วคุณก็ไปหาสินค้าตัวนั้นมาขายสะ จากคำที่โมษณาว่าเราจะรวยเร็ว มันก็ตัดราคากัน่าดู จากที่เคยได้กำไรสินค้าชิ้นละ 250 บาท ตอนนี้ เหลือแค่ 10 บาท ต่อ 1 ชิ้น จากคำพูดของพนักงาน UOB ที่ทำ Amazon เป็นอาชีพเสริม


seller ใหม่ ที่มีอายุการขาย 1ปี – 3ปี ถ้าคุณขายของได้กำไรเดือนละ 15,000 up ทุกๆ เดือนคุณก็ไม่เลวนะคะ
wanwan016

ตอนนี้จะอยู่รอดไม่รอดมันขึ้นอยู่กับความสามารถในการแข่งขัน ของคุณ ความต้องการของลูกค้ากับสินค้า ของคุณว่ามันมีเอกลักษณ์หรือเปล่า ถ้าเป็นสินค้าตัวเองขายเอง หรือ คุณเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายไม่กีจ้าว บน e commerce ตัวนั้น
จะไม่เจอสงครkมราคา


 :wanwan004:คนขายที่จะขายของตัดราคาคุณ April ได้ น่าจะมี skill เรื่องการตลาด การหา product และการลดต้นทุนค่าขนส่ง และการผลิต หรืออาจจบ MBA จากเมืองนอกมาก็ได้  wanwan004

ทางแก้เราไม่ขอบอกนะคะ เราคิดว่าคุณ April คงคิดออก หลายวิธี แต่คุคุณ April ณ ตอนนั้นคงไม่อยากมีเริ่องกับใครและคุณ April เวลาที่จะหาของมาขายก็ไม่อยากใช้วิธีแบบหนังสือที่บอกการหาสินค้าที่ขายดี อยากจะใช้การของตัวเองแต่ก็ไม่ลืมขั้นตอนการวิเคราะห์ ถ้าคุณ April สู้ขึ้นมาสักตั้ง คนนั้นก็หนาว เหมือนกัน

color=teal]Seller คนเก่าและคนใหม่ที่ขาย eBay[/color] wanwan005

ส่วน ebay นั้น ถ้ารู้จัก หลบรู้จัก หลี ก ก็อยู่ได้ค่ะ เราอาจจะไม่เป็นพวกดู tools รบร้อยครั้งชนะ 100 ครั้ง wanwan003
แต่คนขายจ้าวใหญ่ พวกคน US บน ebay เขาอยากให้เรามาเป็นพวก คือไม่ขายตัดราคา แบ่งสินค้าขาย
ถ้าเขาขายแบบนี้ เราจะขายแบบนี้ เราต้องหาของส่งไปให้เขาขาย ก็ลดสงครามราคาไปได้ไม่น้อย  wanwan044 wanwan044

สำหรับเราร้านเล็กๆก็เจอสงครามราคาสำหรับสินค้าหาขายได้ทั่วไป ถึงเวลาที่เราต้องสู้เพื่อป้องกันอาณาเขตของเรา ขยายดินแดนเสียบ้าง
เราไม่ใช้ วิธีการลดราคานะคะ เราทำให้จ้าวใหญ่คนนั้น ขาดทุนจากการสต็อกสินค้าที่ตอนนี้คนไม่ต้องการซื้อแล้ว และกำไรลดลงจากการขายสินค้าใน account หลัก
ให้กำไรเขาหายไปตั้งแต่ 5 หมื่นขึ้นไปต่อเดือน เขาอ่านบอร์ดนี้ เพราะเขาเคยกลับไปแก้ไชช้อความที่เราคอมเม้นท์ไว้
wanwan007 wanwan007
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 สิงหาคม 2014, 14:01:59 โดย trudy » บันทึกการเข้า

รับส่งด่วนสินค้าไป USA ราคาถูก รับแก้ปัญหา eBay&Paypal บริการเปิดบัญชี  สร้าง Feedback แก้ Suspension
บริการ แก้ปัญหา Paypal Limit และปลด Limit Sales จาก eBay รับเขียน Title & Product Description
chankoos
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 183
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,121



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 15:24:27 »

รำระบำชาวเกาะ เกาะแล้วก็ตัดราคา ลั้ลลา

เซ็ง ทำไงได้ก็หนังสือเค้าสอนมาแบบนี้ สินะ.... wanwan044
บันทึกการเข้า
April07
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 680



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 16:23:50 »

เดี๋ยวเรามาเขียนต่อช่วงหัวค่ำนะคะ

เราอาจจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นสองส่วน

ส่วนแรกคือเนื้อหาที่ที่โพสต์บนกระทู้นี้ ซึ่งข้อมูลบางส่วนจะถูกตัดออก ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลภายในของบริษัทชิปปิ้ง

ส่วนที่สองคือเนื้อหาส่งทาง PM ให้กับคนที่แชร์ประสบการณ์ หรือคนที่เข้ามาตอบคำถาม ช่วยเหลือเพื่อนๆบ่อยๆ เราจะส่งเนื้อหาฉบับเต็มให้
ขอความกรุณาคนที่ได้รับทาง PM อย่าเอาข้อมูลมาโพสต์นะคะ


บันทึกการเข้า

กำลังนอนกลางวัน
tiamkeaw
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 281



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 16:44:29 »

ขอบคุณและติดตามตอนต่อไปครับ  wanwan017
บันทึกการเข้า

ถอนหายใจ
touchapong
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 19:04:52 »

นอกจากจะเป็น The Art of Price War แล้ว ยังเป็น Red Ocean อีกด้วย ไม่มีสินค้าอะไรในเมืองไทยที่ยังไม่มีขายในอีเบย์และอเมซอน ยกเว้นเป็นสินค้าที่เราผลิตเอง
ใครจะขายของ  เซเว่น  โลตัส บอกได้คำเดียวว่าคุณรอวันเจ๊งอย่างเดียว Cry
บันทึกการเข้า
April07
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 680



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 20:08:54 »

นอกจากจะเป็น The Art of Price War แล้ว ยังเป็น Red Ocean อีกด้วย ไม่มีสินค้าอะไรในเมืองไทยที่ยังไม่มีขายในอีเบย์และอเมซอน ยกเว้นเป็นสินค้าที่เราผลิตเอง
ใครจะขายของ  เซเว่น  โลตัส บอกได้คำเดียวว่าคุณรอวันเจ๊งอย่างเดียว Cry

อันนี้เราขอค้านค่ะ มีสินค้าไทยอีกมาก ที่ยังไม่มีขายในอีเบย์ อเมซอน
เรามีลิสของสินค้าที่เตรียมเอาขึ้นขายอีกเพียบ เป็นสินค้าที่ยังไม่มีใครขายในอีเบย์ อเมซอน
บันทึกการเข้า

กำลังนอนกลางวัน
kakato
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 131
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,205



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 20:20:23 »

ช่วงนี้ผมก็กล้าๆกลัวๆ กลัวเอาลงขายแล้วโดนตัดราคา
ต้องหาความรู้เยอะๆ Sad
บันทึกการเข้า

คอร์สเรียนขายของออนไลน์ ปูพื้นฐานการขายตลาดออนไลน์ มีสินค้าอยากลงขายfacebook ads ต้องมา 20ธคเหลือ5ที
E-Book Facebook Ads2014-2015 สอนทำโฆษณาบนเฟซบุ๊ค ตีแตก!!!เทคนิคเพิ่มยอดขาย ในงบประมาณที่คุ้มค่าลดต้นทุนตั้งแต่เริ่มต้น Step by Step ไม่อยากขาดทุนต้องอ่าน [55ชุดเหลือ-ชุด]สอบถามก่อนโอนเงินนะครับ
April07
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 680



ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 20:22:38 »

ก่อนเริ่มทำสงครามราคา เราต้องมีความพร้อมพอสมควร ทั้งในเรื่องของสินค้า ตลาด และจิตใจ การแข่งขันของเราไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัยชนะ มีเป้าหมายเพียงแค่ปกป้องธุรกิจ เรียนรู้คู่แข่ง ขยายตลาด และให้บทเรียนกับคู่แข่ง ให้เค้ารู้ว่าไม่ว่าคุณจะขายเก่งแค่ไหน ทำดีลมาดีแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถชนะในการทำสงครามราคา แต่สงครามราคาจะทำให้คุณต้องทำงานมากขึ้นในขณะที่กำไรลดลง

เหตุเกิดเมื่อคู่แข่งเข้ามาหั่นราคาในหน้าสินค้าที่เราเปิดไว้บนอเมซอน หั่นราคาลงนิดๆหน่อยๆ เราก็จะไม่หั่นกลับ แต่คู่แข่งรายนี้เข้ามาหั่นเลย $10 - $15 กรณีนี้เรารับไม่ได้ ลองนึกดู ถ้าเรามีรายได้จากอเมซอนทางเดียว แล้วเจอแบบนี้ นั่นคือรายได้ที่เคยได้จะหายไปทั้งหมด เราไม่ได้ลำบากคนเดียว คนในครอบครัวลำบากไปด้วย

เราจึงต้องทำสงครามราคา เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การห้ำหั่นทำให้คู่แข่งล้มหายตายจาก เรามีเป้าหมายเพียงแค่ขายสินค้าในอเมซอนต่อไป คู่แข่งจะต้องได้เรียนรู้ว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรทำเพราะมันจะทำให้เค้าลำบากตลอดชีพ

โดยปกติแล้วเราไม่ค่อยชอบมีปัญหาหรือทะเลาะกับใคร เวลาที่เราต้องการลงขายราคาถูกกว่าคนอื่นมากๆ เราก็จะเปิด product page ขึ้นมาใหม่ เราไม่ค่อยชอบให้มีคนตามติดเราซักเท่าไหร่


ก่อนตัดสินใจทำการอย่างใดลงไป อันดับแรกเราเริ่มด้วยการประเมินคู่แข่ง ตามหาตัวตนของคู่แข่ง ร้านค้า การตลาด ประเมินต้นทุนและศักยภาพในการแข่งขัน

การตามหาตัวตนของคู่แข่ง ร้านค้าในอเมซอนอาจจะบอกอะไรได้ไม่มาก ดังนั้นเราต้องตามหาร้านค้าในอีเบย์ของคู่แข่งให้เจอ(ทุกร้าน) การเซ็ตค่าต่างๆให้กับร้านค้าในอีเบย์ จะทำให้เราเข้าใจคู่แข่งได้มากขึ้น

อย่าลืมมิตรแท้อย่างอากู๋นะคะ เสริจชื่อร้าน สินค้า เราจะเจอว่านอกจากอีเบย์ อเมซอน คู่แข่งเราขายที่ไหนบ้าง คู่แข่งเรามีเวบไซต์เป็นของตัวเอง ขายบนเฟซบุ๊คด้วย คู่แข่งเราขายเก่งจริงๆ ค่ะ

เมื่อเจอร้านค้าคู่แข่ง เราก็สำรวจสินค้าคร่าวๆก่อนว่าเค้าขายอะไรบ้าง แล้วจึงเริ่มด้วยการอ่านฟีดแบค อ่านไปเรื่อยๆ จะเจอฟีดแบคที่เป็นประโยคกับเราเองค่ะ อ่านฟีดแบคจบ เราจะพอรู้คร่าวๆถึงความสามารถในการขาย อาจมีข้อมูลอื่นหลุดออกมาในฟีดแบคด้วย เราก็ตามหาจนเจอว่าคู่แข่งเราเป็นใครเพราะฟีดแบคนี่แหล่ะ
กรณีของเราประเมินคู่แข่งจะง่ายหน่อย เพราะใช้ทางลัด เมื่อรู้ว่าเค้าคือใคร เราก็ใช้วิธีโทรถามข้อมูลจากบ.ขนส่ง เราได้ข้อมูลเพิ่มมาคือเรทค่าส่ง และปริมาณการส่งของในแต่ละวัน กรณีหาทางลัดไม่เจอ เราต้องประเมินแยกต้นทุนของคู่แข่งให้ออก

ทำการประเมินสินค้าในร้านของคู่แข่ง แบ่งกลุ่มให้ได้  จัดกลุ่มสินค้าขายดีมาก ปานกลาง น้อย สินค้าทำกำไรมาก ปานกลาง น้อย ดูให้ละเอียด
ประเมินต้นทุนสินค้าในร้านคู่แข่งให้ละเอียด cross check ด้วยการทดลองทำดีลกับบริษัทผู้ผลิต

เรารู้ราคาขายบนเวบ และเมื่อประเมินต้นทุนได้แล้ว เราจะรู้ตัวเลขกำไร ถ้าเช็กทั้งร้าน และคอยติดตามพฤติกรรมการขาย เราจะรู้ได้ว่า คู่แข่งจะมีเกณฑ์การทำกำไรอย่างไร ต้องประเมินตัวเลขกำไรต่ำสุดที่คู่แข่งยอมรับได้ออกมาให้ได้
บันทึกการเข้า

กำลังนอนกลางวัน
Udonthanitimes
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,107



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 20:27:24 »


ว้าว ...  สุดยอดกลยุทธ์   

รู้เขา รู้เรา..

ขอติดตามต่อ    wanwan003
บันทึกการเข้า

trudy
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 518
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,237



ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 21:30:33 »

ก่อนเริ่มทำสงครามราคา เราต้องมีความพร้อมพอสมควร ทั้งในเรื่องของสินค้า ตลาด และจิตใจ การแข่งขันของเราไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัยชนะ มีเป้าหมายเพียงแค่ปกป้องธุรกิจ เรียนรู้คู่แข่ง ขยายตลาด และให้บทเรียนกับคู่แข่ง ให้เค้ารู้ว่าไม่ว่าคุณจะขายเก่งแค่ไหน ทำดีลมาดีแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถชนะในการทำสงครามราคา แต่สงครามราคาจะทำให้คุณต้องทำงานมากขึ้นในขณะที่กำไรลดลง

เหตุเกิดเมื่อคู่แข่งเข้ามาหั่นราคาในหน้าสินค้าที่เราเปิดไว้บนอเมซอน หั่นราคาลงนิดๆหน่อยๆ เราก็จะไม่หั่นกลับ แต่คู่แข่งรายนี้เข้ามาหั่นเลย $10 - $15 กรณีนี้เรารับไม่ได้ ลองนึกดู ถ้าเรามีรายได้จากอเมซอนทางเดียว แล้วเจอแบบนี้ นั่นคือรายได้ที่เคยได้จะหายไปทั้งหมด เราไม่ได้ลำบากคนเดียว คนในครอบครัวลำบากไปด้วย

เราจึงต้องทำสงครามราคา เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การห้ำหั่นทำให้คู่แข่งล้มหายตายจาก เรามีเป้าหมายเพียงแค่ขายสินค้าในอเมซอนต่อไป คู่แข่งจะต้องได้เรียนรู้ว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรทำเพราะมันจะทำให้เค้าลำบากตลอดชีพ

โดยปกติแล้วเราไม่ค่อยชอบมีปัญหาหรือทะเลาะกับใคร เวลาที่เราต้องการลงขายราคาถูกกว่าคนอื่นมากๆ เราก็จะเปิด product page ขึ้นมาใหม่ เราไม่ค่อยชอบให้มีคนตามติดเราซักเท่าไหร่


ก่อนตัดสินใจทำการอย่างใดลงไป อันดับแรกเราเริ่มด้วยการประเมินคู่แข่ง ตามหาตัวตนของคู่แข่ง ร้านค้า การตลาด ประเมินต้นทุนและศักยภาพในการแข่งขัน

การตามหาตัวตนของคู่แข่ง ร้านค้าในอเมซอนอาจจะบอกอะไรได้ไม่มาก ดังนั้นเราต้องตามหาร้านค้าในอีเบย์ของคู่แข่งให้เจอ(ทุกร้าน) การเซ็ตค่าต่างๆให้กับร้านค้าในอีเบย์ จะทำให้เราเข้าใจคู่แข่งได้มากขึ้น

อย่าลืมมิตรแท้อย่างอากู๋นะคะ เสริจชื่อร้าน สินค้า เราจะเจอว่านอกจากอีเบย์ อเมซอน คู่แข่งเราขายที่ไหนบ้าง คู่แข่งเรามีเวบไซต์เป็นของตัวเอง ขายบนเฟซบุ๊คด้วย คู่แข่งเราขายเก่งจริงๆ ค่ะ

เมื่อเจอร้านค้าคู่แข่ง เราก็สำรวจสินค้าคร่าวๆก่อนว่าเค้าขายอะไรบ้าง แล้วจึงเริ่มด้วยการอ่านฟีดแบค อ่านไปเรื่อยๆ จะเจอฟีดแบคที่เป็นประโยคกับเราเองค่ะ อ่านฟีดแบคจบ เราจะพอรู้คร่าวๆถึงความสามารถในการขาย อาจมีข้อมูลอื่นหลุดออกมาในฟีดแบคด้วย เราก็ตามหาจนเจอว่าคู่แข่งเราเป็นใครเพราะฟีดแบคนี่แหล่ะ
กรณีของเราประเมินคู่แข่งจะง่ายหน่อย เพราะใช้ทางลัด เมื่อรู้ว่าเค้าคือใคร เราก็ใช้วิธีโทรถามข้อมูลจากบ.ขนส่ง เราได้ข้อมูลเพิ่มมาคือเรทค่าส่ง และปริมาณการส่งของในแต่ละวัน กรณีหาทางลัดไม่เจอ เราต้องประเมินแยกต้นทุนของคู่แข่งให้ออก

ทำการประเมินสินค้าในร้านของคู่แข่ง แบ่งกลุ่มให้ได้  จัดกลุ่มสินค้าขายดีมาก ปานกลาง น้อย สินค้าทำกำไรมาก ปานกลาง น้อย ดูให้ละเอียด
ประเมินต้นทุนสินค้าในร้านคู่แข่งให้ละเอียด cross check ด้วยการทดลองทำดีลกับบริษัทผู้ผลิต

เรารู้ราคาขายบนเวบ และเมื่อประเมินต้นทุนได้แล้ว เราจะรู้ตัวเลขกำไร ถ้าเช็กทั้งร้าน และคอยติดตามพฤติกรรมการขาย เราจะรู้ได้ว่า คู่แข่งจะมีเกณฑ์การทำกำไรอย่างไร ต้องประเมินตัวเลขกำไรต่ำสุดที่คู่แข่งยอมรับได้ออกมาให้ได้



สินค้าไทยขายดีที่คนไทยมองข้ามยังมีอีกมาก แต่นึกกันยังไม่ออกเอง บางอย่างก็ยังไม่ถูกนำขึ้นสู่ท้องตลาด
ของเราค่อยๆทยอยเอาขึ้น ทำตัวไม่ให้กระโตกกระตาก ไม่ให้ terapeak จับได้

มาวิเคราะห์คู่แข่งของคุณ  April ต่อ ขอเตือนน้องใหม่แล้วกัน
กลยุทธ ของเขาไม่ได้มีหลาย account เหมือนที่คนขายจ้าวใหญ่ทั้วไปใช้ ที่จะขายสินค้า เหมือนๆกัน แล้วให้ราคาขายต่ำๆ เพราะต้องซื้อของราคาส่ง คนมองอาจจะคิดว่ากำไรแค 10 บาทต่อชิน
แต่จริงๆ กำไรคือ 60บาmต่อชิ้น เดือนนึงสินค้าตัวนี้ขยได้มากกว่า 200 ชิ้น

ขาใหญ่รายนี้ เขามีเว็บไซต์เป็นของตนเอง กลยุทย์การขายดีกว่า เปิดหลาย account ทำให้สินค้าราคาต่ำ คนอื่นะไม่สนใจมาขาย
รายได้หลักไม่ได้มาจากหมวดสินค้าในหมวดเดียว ยอดขายเขาก็สูงเอาการอยู่
เขาจะแตก product line ใหม่ๆ ความคิดไม่ต้องใช้มาก ดูคนที่ขายอยู่ก่อนหน้านี้ หรือน้องใหม่หากเห็นตัวไหนที่มีศักยภาพ เขาจะเปิดร้านใหม่ เรื่อยๆ สงสัยจะไปทำ Alibaba อีกทาง
เมื่อเห็นว่าสินค้าตัวนั้นมีศักยภาพ เขาก็จะไม่รอช้าที่จะลงทุน เขาศึกษาต้นทุนมาอย่างดี ได้เปรียบเรื่องค่าขนส่ง

รายได้เขาไม่ได้มาจากหมวด ก หมวด ส หมวดของ ต บ  ็handmade เท่านั้น


จาก คุณ April อย่าลืมมิตรแท้อย่างอากู๋นะคะ เสริจชื่อร้าน สินค้า เราจะเจอว่านอกจากอีเบย์ อเมซอน คู่แข่งเราขายที่ไหนบ้าง คู่แข่งเรามีเวบไซต์เป็นของตัวเอง ขายบนเฟซบุ๊คด้วย คู่แข่งเราขายเก่งจริงๆ ค่ะ

นอกจากอากู๋แล้วพวกน้องสามารถดูได้จาก ฟอร์แมทการใช้ HTML การเขียนบรรยายสินค้า นโยบาย ต่างๆ สำหรับการ Returูn หรือ Refund Policy หรือการตั้งชื่อร้านอาจจะคล้ายๆกัน มีคำว่า Thai หรือ Thailand ก็จะหาความสัมพันธ์ว่าใครเป็นเจ้าของได้ จากนั้นก็มาประเมิณต้นทุนและดูพฤติกรรมของเขา เจ๊โหดดูทุกอาทิตย์


สินค้าบางชิ้นที่คู่แข่งของคุณ April ขายไม่ดี เขาก็จะมี trick อาจจะให้คนรู้จักมาประมูล wanwan004 wanwan004

สงสัยในตัวสินค้านี้มาก เพราะมันไม่ใช่ style ที่ฝรั่งชอบ พวกน้องที่คิดว่าสินค้าตัวนี้น่าจะทำกำไรมากกว่าชิ้นละ 1000 บาทขึ้นไปได้ ก็ search ข้อมูลจากอากู๋จากนั้นก็ไปเจอเว็บไซด์ของสินค้าที่แสร้งว่ามีกำไร สั่งของผ่าน หน้าเว็บ หรือ โทรสั่งจากที่ร้านโดยตรง
อยากได้ราคาทุน ก็ต้องซื้ออย่างน้อยกี่ชิ้น Huh???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ตุลาคม 2014, 23:51:39 โดย trudy » บันทึกการเข้า

รับส่งด่วนสินค้าไป USA ราคาถูก รับแก้ปัญหา eBay&Paypal บริการเปิดบัญชี  สร้าง Feedback แก้ Suspension
บริการ แก้ปัญหา Paypal Limit และปลด Limit Sales จาก eBay รับเขียน Title & Product Description
trudy
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 518
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,237



ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2014, 22:00:23 »

นอกจากจะเป็น The Art of Price War แล้ว ยังเป็น Red Ocean อีกด้วย ไม่มีสินค้าอะไรในเมืองไทยที่ยังไม่มีขายในอีเบย์และอเมซอน ยกเว้นเป็นสินค้าที่เราผลิตเอง
ใครจะขายของ  เซเว่น  โลตัส บอกได้คำเดียวว่าคุณรอวันเจ๊งอย่างเดียว Cry

ยังขายได้อยู่แต่จ้าวใหญ่เขาปกป้องธุรกิจเต็มที่
Shocked Shocked
มีหลาย account ขายสินค้า เหมือนๆกัน แล้วให้ราคาขายต่ำๆ เพราะต้องซื้อของราคาส่ง คนมองอาจจะคิดว่ากำไรแค 10 บาทต่อชิน wanwan044 wanwan044

 ยกตัวอย่างสบู่ถูแล้วตัวขาว 3 ก้อน 100 บาท เราไปซื้อมาก้อนละ 20 บาท ราคาขาย$5.5 เจ้าใหญ่ $3.98
เจ้าใหญ่อาจซื้อเป็น lot ซื้อ 3 ลัง แถม 1 ลัง เขาซื้อได้ 9 บาท
หรือครีมเปลี่ยนสีผม เราอาจซื้อมา 50 บาท ขาย $12 free shipping แต่จ้าวใหญ่ขาย $7.35 free shipping เข่าได้ราคา 30 บาทต่อกล่องแต่ต้องซื้อ 200 ชิ้นขึ้นไป

Mistine สีเขียว หนูเป็นสาวมิสทัน ซื้อราคา สาธิต 50 บาท ขายได้ $6.5 ต่อหลอด
 แต่เขาได้ราคา 25 บาทต่อหลอด จ้าวใหญ่ขาย เหลือ $4.98 ต่าส่งก็ $60 บาทเข้าไปแล้ว

ต้นทุนของหนู ปาไป 110 บาทแล้ว ยังไม่รวม ค่า fee ต่างๆ ขาย $4.98 ไม่ไหวหรอก Cry Cry

ไม่อยากพูดมาก ขอสลายตัว wanwan035
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 สิงหาคม 2014, 22:13:33 โดย trudy » บันทึกการเข้า

รับส่งด่วนสินค้าไป USA ราคาถูก รับแก้ปัญหา eBay&Paypal บริการเปิดบัญชี  สร้าง Feedback แก้ Suspension
บริการ แก้ปัญหา Paypal Limit และปลด Limit Sales จาก eBay รับเขียน Title & Product Description
touchapong
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2014, 08:01:01 »

สินค้าไทยที่ยังไม่มีใครขายบนอีเบย์หรืออเมซอนคืออะไร  ผมอยากให้ชี้แจงรายละเอียดเป็นตัวอย่างไปเลย อธิบายกลยุทธ์ลึกซึ้งอย่างนี้พวกเด็กมือใหม่เค้าเข้าใจยากครับ โดยส่วนตัวแล้วหากใครคิดว่าสามารถปกป้องธุรกิจตัวเองได้มีกลยุทธ์หลากหลาย จะกลัวอะไรกับการขายของเลียนแบบ
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าคนที่ขายของบนอีเบย์หรืออเมซอนก็คือการทำธุรกิจซื้อมาขายไป รายย่อย ในส่วนตัวคิดว่าไม่มีสินค้าไทยอะไรชนิดไหนที่ยังไม่มีใครขาย ทั้งขายตัดราคากันเองหรือคนจีนก๊อบสินค้าทำแข่งออกมาขาย ถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้ผลิตเอง คุณซื้อมาขายไปย่อมต้องขายซ้ำกันอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเหลือสินึ้าไทยที่ยังไม่มีใครขาย

โดยส่วนตัวแล้วผมใช้ช่องทางพวกนี้แค่ประชาสัมพันธ์สินค้าของผมแค่นั้นเอง อาศัยกลยุทธ์ด้านราคาเปิดตลาด ขายฝรั่งที่เป็นคนจน  ผมเน้นตลาดส่งออกขนาดใหญ่มากกว่าตลาดย่อยอย่างอีเบย์หรืออเมซอน ลูกค้าผมผมติดต่อมาจากกรมส่งอออกโดยตรง ลูกค้าของผมคือ ญี่ปุ่น, อเมริกา, ยุโรป บ้างประปราย อ้อ ผมลืมบอกไปว่าธุรกิจผมคือเครื่องสำอางครับ ผมไม่กลัวการเลียนแบบ เพราะผมผลิตเอง ต่อให้พวกคุณเลียนแบบสินค้าผม คุณก็ไม่สามารถหาลูกค้าได้อย่างผมหรือดิวกับต่างประเทศได้อย่างผม ผมมั่นใจ
ว่าแต่พวกคุณเถอะมีใครกล้าบอกมั้ย ว่าใครขายอะไร ?
ผมเห็นการวิเคราะห์ของใครหลายคน ในบอร์ด อธิบายอย่างนั้นอย่างนี้ ผมอ่านมาหลายกระทู้แล้ว ยิ่งเขียนยิ่งอ่าน ยิ่งงง แต่ไม่มีใครกล้าบอกว่าใครขายอะไร (ถ้าสามารถปกป้องธุรกิจตัวเองได้จริง จะกลัวโดนเลียนแบบทำไมครับ)

ขออนุญาตแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกยังไงขออภัยไว้ ณ. ที่นี่  wanwan017

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Udonthanitimes
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,107



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2014, 10:34:34 »

สินค้าไทยที่ยังไม่มีใครขายบนอีเบย์หรืออเมซอนคืออะไร  ผมอยากให้ชี้แจงรายละเอียดเป็นตัวอย่างไปเลย อธิบายกลยุทธ์ลึกซึ้งอย่างนี้พวกเด็กมือใหม่เค้าเข้าใจยากครับ โดยส่วนตัวแล้วหากใครคิดว่าสามารถปกป้องธุรกิจตัวเองได้มีกลยุทธ์หลากหลาย จะกลัวอะไรกับการขายของเลียนแบบ
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าคนที่ขายของบนอีเบย์หรืออเมซอนก็คือการทำธุรกิจซื้อมาขายไป รายย่อย ในส่วนตัวคิดว่าไม่มีสินค้าไทยอะไรชนิดไหนที่ยังไม่มีใครขาย ทั้งขายตัดราคากันเองหรือคนจีนก๊อบสินค้าทำแข่งออกมาขาย ถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้ผลิตเอง คุณซื้อมาขายไปย่อมต้องขายซ้ำกันอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเหลือสินึ้าไทยที่ยังไม่มีใครขาย

โดยส่วนตัวแล้วผมใช้ช่องทางพวกนี้แค่ประชาสัมพันธ์สินค้าของผมแค่นั้นเอง อาศัยกลยุทธ์ด้านราคาเปิดตลาด ขายฝรั่งที่เป็นคนจน  ผมเน้นตลาดส่งออกขนาดใหญ่มากกว่าตลาดย่อยอย่างอีเบย์หรืออเมซอน ลูกค้าผมผมติดต่อมาจากกรมส่งอออกโดยตรง ลูกค้าของผมคือ ญี่ปุ่น, อเมริกา, ยุโรป บ้างประปราย อ้อ ผมลืมบอกไปว่าธุรกิจผมคือเครื่องสำอางครับ ผมไม่กลัวการเลียนแบบ เพราะผมผลิตเอง ต่อให้พวกคุณเลียนแบบสินค้าผม คุณก็ไม่สามารถหาลูกค้าได้อย่างผมหรือดิวกับต่างประเทศได้อย่างผม ผมมั่นใจ
ว่าแต่พวกคุณเถอะมีใครกล้าบอกมั้ย ว่าใครขายอะไร ?
ผมเห็นการวิเคราะห์ของใครหลายคน ในบอร์ด อธิบายอย่างนั้นอย่างนี้ ผมอ่านมาหลายกระทู้แล้ว ยิ่งเขียนยิ่งอ่าน ยิ่งงง แต่ไม่มีใครกล้าบอกว่าใครขายอะไร (ถ้าสามารถปกป้องธุรกิจตัวเองได้จริง จะกลัวโดนเลียนแบบทำไมครับ)

ขออนุญาตแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกยังไงขออภัยไว้ ณ. ที่นี่  wanwan017

ขอบคุณครับ


การขายปลีก / การขายส่ง 
หรือ เป็นผู้ผลิต / ซื้อมาขายไป
วิธีการก็ต่างกันไปครับ

เขาแชร์เทคนิด เท่าที่ทำได้แบบนี้
ผมก็ว่า เป็นการแบ่งปันประสบการณ์แล้วละครับ
บันทึกการเข้า

kasetthai
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 47
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,060



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2014, 11:24:20 »

แวะมาทักทาย อาจารย์เจ๊กับคุณเมษาครับ ผมขอเรียกพวกชอบขายตัดราคาและตามเกาะว่า Me Too Marketing คุณขายอะไร ฉันขายด้วย.....เกาะกันไป แบกกันไป....พวกนี้ไม่นานสมองจะฝ่อตายไปเองครับ..แต่ต้นแบบอย่างคุณ April จะยิ่งเก่งขึ้นคมขึ้น ......รวยขึ้น...ฟันธงครับ wanwan017 wanwan017 wanwan017
บันทึกการเข้า

เป็ดที่พยายามทำตัวเป็นนกอินทรี
April07
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 680



ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2014, 11:42:10 »

วันนี้ช่วงหัวค่ำ หลังจากเสร็จงาน จะมาเขียนต่อค่ะ

คู่แข่งเราเก่งจริงๆค่ะ เค้าคงไม่ใช่คนนิสัยไม่ดี เราไม่เคยรู้จักเค้าเราคงบอกไม่ได้ว่าเค้าเป็นคนไม่ดี ที่เค้าเข้ามาตัดราคาเรา น่าจะเป็นเค้าขยายธุรกิจตามโอกาสที่เค้ามองเห็น ส่วนเราก็มีหน้าที่ปกป้องธุรกิจเรา

ส่วนเรื่องสินค้าไทยที่ยังไม่มีใครขายในอีเบย์ อเมซอน มีอีกเพียบค่ะ อย่าไปมองแค่ใน 7/11 บิ๊กซี โลตัส
เอาแค่ลองไปเดินแผนกของใช้ในบ้านของห้างอื่นดู ก็จะเริ่มเห็นสินค้าบ้าง เราคงไม่มานั่งอธิบายว่าอันไหนขายได้ขายไม่ได้

เมื่อเราเริ่มศึกษาคู่แข่ง เราพบว่าเค้าเก่งจริงๆค่ะ เราได้ความรู้จากเค้าเยอะเลย
บันทึกการเข้า

กำลังนอนกลางวัน
BB
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 184
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,314



ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2014, 11:58:36 »

ดุเดือดน่าดู ค้ลายๆ Lotus มาเปิดแล้ว โชว์ห่วยรายย่อย ทยอยปิดตัวเลยครับ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3 ... 5   ขึ้นบน
พิมพ์