ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeคำถามของ ไอสไตน์ เขาว่า 98% ของคนบนโลกนี้
หน้า: 1 2 [3] 4   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: คำถามของ ไอสไตน์ เขาว่า 98% ของคนบนโลกนี้  (อ่าน 15421 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ก้ามปู
เสือซุ่มด่า
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 218
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,195



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #40 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009, 19:00:58 »

วิธีของคุณruptureขัดกับข้อกำหนดครับ....ใส่เหรียญทีละ2เหรียญ สองข้างแล้วดูว่าหนักเท่ากันไหม ก็ถือเป็นการชั่งหนึ่งครั้งแล้วครับ....ทำจนครบข้างละ 6 เหรียญมันก็ครบสามครั้งไปแล้วครับ
ชื่อ user ผมคือ Rapture นะครับไม่ใช่ rupture
ผมจะบอกว่าผมไม่ได้ขัดข้อกำหนดของโจทย์แม้แต่น้อย
แต่ผมแค่ทำขัดต่อข้อกำหนดหรือข้อจำกัดที่่คุณตั้งขึ้นมาเองต่างหาก
คนโดยทั่วไปแล้วมักคิดว่าโจทย์นี้เวลาชั่งต้องหยิบของทั้งหมดที่จะชั่งใส่ตราชั่ง ใส่ไปทีเดียวแล้วดูผลที่เกิดขึ้น
ปกติแล้วเวลาจะชั่งของ ถ้าของที่ชั่งไม่สามารถหยิบใส่ตราชั่งทั้งหมดได้ในครั้งเดียว ต้องทำไง
มีเหรียญอยู่ 100 เหรียญต้องการชั่งทั้งหมดต้องทำไง
สามารถหยิบใส่ตราชั่ง ได้ครั้งละ 10 เหรียญ เพราะมือสามารถหยิบมากสุดได้ 10 เหรียญ
ผมก็จะหยิบเหรียญใส่ตราชั่ง 10 ครั้ง แต่มีความหมายว่าผมชั่ง 1 ครั้ง
ทำไม
การชั่ง 1 ครั้ง คือ การเอาของใส่ตราชั่ง แล้วเอาของเดิมออก ก่อนที่จะเอาของสิ่งใหม่มาชั่ง
อย่างการตอบข้อ 10.ของผมคือ
ผมชั่ง 1 ครั้ง โดยใส่ข้างละ 6 เหรียญ โดยค่อยๆหยิบเหรียญ 2 เหรียญมาใส่ข้างละเหรียญ
โดยที่ผมไม่ได้เอาเหรียญเดิมออกจนครบ ข้างละ 6 เหรียญ
จากนั้นผมจึงเอาเหรียญทั้งหมดออก
นั่นหมายความว่าผม ชั่งเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
โดยชั่งครั้งที่ 2 และ 3
ผมก็เอาเหรียญ 2 เหรียญที่น้ำหนักไม่เท่ากันมา ชั่งเทียบกับเหรียญปกติเท่านั้น
และที่สำคัญ -การชั่งไปแล้วค่อยๆนำเหรียญออกหรือเพิ่มถือว่า
เป็นการชั่งครั้งใหม่
เป็นข้อกำหนดของข้อ 3. ไม่ใช่ ข้อ 10.

มันเป็นคำถามตรรกะมั้งครับ ไม่ใช่คำถามเชาว์
ถ้าตอบอย่างคุณ Rapture บอก ก็คงคล้ายๆกับว่า กินข้าวช้อนเดียวทำยังไงให้อิ่ม บางคนตักหลายครั้งก็ยังใช้ช้อนเดียว
การชั่งหรือการวัดหนึ่งครั้ง ไม่ได้จำเป็นต้องยกออกนะครับ เราอ่านค่าครั้งนึงน่าจะถือว่าเป็นการชั่งหนึ่งครั้ง
ซึ่งถ้านิยามความหมายที่ผมพูดใส่ทีละเหรียญได้ แต่ต้องหลับตา

นิยามของการชั่งจริงๆแล้วมันคืออะไรครับเนี่ย

หรือถ้าจะตอบปัญหานั้นแบบกวนๆคือผมไม่ต้องชั่งด้วยซ้ำ ผมให้เพื่อนชั่งแล้วค่อยถามมันเอาก็ได้นี่ นี่ก็แสดงว่าผมตอบได้เหมือนกัน  Grin
บันทึกการเข้า

ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่างตอบอะไรใครนะครับ เพราะไม่ได้เข้าบอร์ดเลย
mai8888
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 16
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 714



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009, 21:21:30 »

บางข้อคิดไม่ออก ยากจังคะ
แต่เห็นเทพๆในนี้ตอบแล้ว น้องๆพี่ไอสไตน์เลยนะคะเนี่ย
บันทึกการเข้า

Rapture
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 116
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639



ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009, 22:16:21 »

วิธีของคุณruptureขัดกับข้อกำหนดครับ....ใส่เหรียญทีละ2เหรียญ สองข้างแล้วดูว่าหนักเท่ากันไหม ก็ถือเป็นการชั่งหนึ่งครั้งแล้วครับ....ทำจนครบข้างละ 6 เหรียญมันก็ครบสามครั้งไปแล้วครับ
ชื่อ user ผมคือ Rapture นะครับไม่ใช่ rupture
ผมจะบอกว่าผมไม่ได้ขัดข้อกำหนดของโจทย์แม้แต่น้อย
แต่ผมแค่ทำขัดต่อข้อกำหนดหรือข้อจำกัดที่่คุณตั้งขึ้นมาเองต่างหาก
คนโดยทั่วไปแล้วมักคิดว่าโจทย์นี้เวลาชั่งต้องหยิบของทั้งหมดที่จะชั่งใส่ตราชั่ง ใส่ไปทีเดียวแล้วดูผลที่เกิดขึ้น
ปกติแล้วเวลาจะชั่งของ ถ้าของที่ชั่งไม่สามารถหยิบใส่ตราชั่งทั้งหมดได้ในครั้งเดียว ต้องทำไง
มีเหรียญอยู่ 100 เหรียญต้องการชั่งทั้งหมดต้องทำไง
สามารถหยิบใส่ตราชั่ง ได้ครั้งละ 10 เหรียญ เพราะมือสามารถหยิบมากสุดได้ 10 เหรียญ
ผมก็จะหยิบเหรียญใส่ตราชั่ง 10 ครั้ง แต่มีความหมายว่าผมชั่ง 1 ครั้ง
ทำไม
การชั่ง 1 ครั้ง คือ การเอาของใส่ตราชั่ง แล้วเอาของเดิมออก ก่อนที่จะเอาของสิ่งใหม่มาชั่ง
อย่างการตอบข้อ 10.ของผมคือ
ผมชั่ง 1 ครั้ง โดยใส่ข้างละ 6 เหรียญ โดยค่อยๆหยิบเหรียญ 2 เหรียญมาใส่ข้างละเหรียญ
โดยที่ผมไม่ได้เอาเหรียญเดิมออกจนครบ ข้างละ 6 เหรียญ
จากนั้นผมจึงเอาเหรียญทั้งหมดออก
นั่นหมายความว่าผม ชั่งเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
โดยชั่งครั้งที่ 2 และ 3
ผมก็เอาเหรียญ 2 เหรียญที่น้ำหนักไม่เท่ากันมา ชั่งเทียบกับเหรียญปกติเท่านั้น
และที่สำคัญ -การชั่งไปแล้วค่อยๆนำเหรียญออกหรือเพิ่มถือว่า
เป็นการชั่งครั้งใหม่
เป็นข้อกำหนดของข้อ 3. ไม่ใช่ ข้อ 10.

มันเป็นคำถามตรรกะมั้งครับ ไม่ใช่คำถามเชาว์
ถ้าตอบอย่างคุณ Rapture บอก ก็คงคล้ายๆกับว่า กินข้าวช้อนเดียวทำยังไงให้อิ่ม บางคนตักหลายครั้งก็ยังใช้ช้อนเดียว
การชั่งหรือการวัดหนึ่งครั้ง ไม่ได้จำเป็นต้องยกออกนะครับ เราอ่านค่าครั้งนึงน่าจะถือว่าเป็นการชั่งหนึ่งครั้ง
ซึ่งถ้านิยามความหมายที่ผมพูดใส่ทีละเหรียญได้ แต่ต้องหลับตา

นิยามของการชั่งจริงๆแล้วมันคืออะไรครับเนี่ย

หรือถ้าจะตอบปัญหานั้นแบบกวนๆคือผมไม่ต้องชั่งด้วยซ้ำ ผมให้เพื่อนชั่งแล้วค่อยถามมันเอาก็ได้นี่ นี่ก็แสดงว่าผมตอบได้เหมือนกัน  Grin

การชั่งหรือหรือวัด สำหรับทางวิทยาศาสตร์ จำเป็นต้องยกออกครับถึงจะเรียกว่ามีการวัดหรือชั่ง 1 ครั้ง
จริงอยู่ว่า โจทย์อาจต้องการให้คิดแบบตรรกะ
แต่ มันก็เหมือนเรื่อง ครูที่ถามนักเรียนว่ามีเงิน 10 บาท ซื้อของ 3 บาท ได้เงินทอนกี่บาท
โจทย์แค่ต้องการแค่การ 10 - 3 เท่านั้น
ซึ่งก็คือ 7 บาท
แต่ถ้าผมจะตอบว่า 2 บาท หรือ 1 บาท หรือ ไม่ต้องทอนเลย ผมก็ไม่ผิดตามความจริง
คำตอบไม่ได้มี 1 คำตอบนี่ครับ วิธีแก้ปัญหาก็ไม่ได้มี 1 วิธีด้วย
และผมก็บอกด้วยว่า
"ผมจะบอกว่าผมไม่ได้ขัดข้อกำหนดของโจทย์แม้แต่น้อย
แต่ผมแค่ทำขัดต่อข้อกำหนดหรือข้อจำกัดที่่คุณตั้งขึ้นมาเองต่างหาก"
วิธีที่ผมตอบก็แค่อ้างตามสถานการณ์จริงเท่านั้น

บันทึกการเข้า
angelniwa
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009, 22:20:14 »

ผมเอาใจช่วยครับ

 Cry Cry
บันทึกการเข้า
kittiwong
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009, 22:39:00 »

ข้อ9...ผมคิดได้จำนวนครั้งน้อยกว่าที่มีเคยเฉลยไว้ครับ  19 13 7
ครั้งที่1และ 2...ใส่น้ำใน 7 จนเต็มแล้วเทลงใน 13  เหลือน้ำใน7 อยู่ 1
ครั้งที่3และ4...เทน้ำที่เต็มใน 13 ลงใน 19 แล้วเอาน้ำที่มี 1ลิตร เทลงแก้ว13..แก้ว13มีอยู่1
ครั้งที่4และ5....เทน้ำจนเต็มแก้วเจ็ดเสร็จเอามาเทใส่ในแก้ว13ที่มีอยู่แล้ว1 รวมเป็น8 ลิตร
ครั้งที่6 เขาไม่ได้บอกว่าเทน้ำที่อยู่ในแก้วออกได้ไหม ถ้าได้ที่ทำต่อจากนี้ก็ได้ ผมเทน้ำจากแก้ว19ทิ้งหมด แล้วตักน้ำใส่แก้วเจ็ดจนเต็มแล้วเทใสแก้ว19ที่ว่าง รวมอีก 6ครั้ง โดยมีน้ำเหลือในแก้ว7อีก2ลิตร เพราะ7X3=21
ครั้งที่13 ผมเทน้ำ2ลิตรในแก้ว7ลงในแก้ว13 ที่มีน้ำรอไว้8ลิตร.....รวมทั้งหมด 13 ครั้ง
ถ้าโจทย์กำหนดว่าห้ามเทน้ำทิ้งเด็ดขาด.....ต้องไปนั่งคิดใหม่แต่แรก และถ้าว่าปริมาณน้ำที่ใช้น้อยที่สุดและจำนวนครั้งที่น้อยที่สุด....ยิ่งสุดยอดครับ
บันทึกการเข้า

ชอบก้อนหินน้อย...เฮ้งเสี่ยวเจียะในเรื่องสุดยอดศัตราวุธของอุนสุยอัน....ถ่อมตน อดกลั้น เพียรมานะ ยึดถือคุณธรรมน้ำมิตร

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Simplyway

Modify Blogger

ดนตรีที่เป็นเพื่อนกับทุกอารมณ์ของคุณ
kittiwong
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #45 เมื่อ: 11 มีนาคม 2009, 23:08:09 »

ในการใช้ตาชั่งแบบสองแขนนั้น เราดูได้แค่ว่าสองข้างเท่ากันไหม การชั่งหนึ่งครั้งจะบอกได้แค่ว่าเท่ากันหรือข้างไหนหนักกว่าอีกข้าง ถ้าใส่เหรียญทีละข้าง ครั้งแรกใส่ข้างขวาหนึ่งเหรียญ ครั้งที่สองใส่ข้างซ้าย พอปล่อยมือ มันก็กลายเป็นการชั่งหนึ่งคร้งแล้วครับ เพราะเข็มมันกระดิกให้คุณดูว่ามันเท่ากันไหม คุณจะบอกว่าผมบอกแต่แรกว่าผมจะชั่งทีละ6เหรียญ จริงๆโจทย์เต็มๆข้อนี้เขาจะระบุว่า การชั่ง 1 ครั้งนั้นคือการมีของใส่ทั้งสองข้างแล้วคุณดูว่าเท่ากันหรือไม่.....ผมเห็นโจทย์นี้มาเป็นปีแล้วครับ เคยนั่งคิดไปครั้งหนึ่งแล้วลืมไปแล้ว ถ้าจะว่าคนแต่งโจทย์ก็คงต้องว่ากำหนดความหมายของการชั่งไม่ชัดเจน วิธีอย่างคุณนั้นผมเคยตอบไปแล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า การชั่งหนึ่งครั้งคือการอ่านค่าหนึ่งครั้ง....มันก็จบเลยครับ ผมคิดมาแล้ว แล้วแต่ไอเดียครับ มันก็เป็นแค่เกมอ่ะครับ

ส่วนข้อ3นั้น ผมได้โจทย์คล้ายกัน คือมีบริษัทรับทำลูกปืนใหญ่ ทำลูกปืนใหญ่มา10 กอง มีอยู่กองหนึ่งที่รู้ว่ามันทำมาเบากว่าปกติ คือลูกละ 9 ขีด ปกติลูกปืนใหญ่หนัก 10 ขีด ให้ชั่งได้ครั้งเดียวแล้วชี้ได้เลยว่ากองไหนผิดปกติ
ก็หยิบไล่มาจากกองแรกถึงกองที่สิบ
กองแรก 1 ลูกมกองที่สอง 2ลูก.....จนถึงกองที่สิบ 10 ลูก แล้วชั่งทีเดียว
เรารู้อยู่แล้วว่า เราชั่งทั้งหมด 1+2+3+4+5+6+7+8+9+10 = 55 ลูก ต้องได้ 55x10ขีด เป็น 550 ขีด
เอาจำนวนขีดที่ชั่งได้ สมมุติเป็น x ขีด...เอาไปลบกับ 550 ได้เท่าไหร่ก็ตอบเลยว่ากองนั้น
อย่างชั่งได้ 549 แสดงว่า หายไป 1 ขีด คือ 1ลูกก็เป็นกองที่1
ถ้าชั่งได้ 541 ขีด แสดงว่าหายไป 9 ขีด ก็คือเป็นกองที่หยิบมา 9 ลูกครับ....คิดง่ายๆแค่นี้

อย่าลืมครับว่ามันเป็นแค่เกม
บันทึกการเข้า

ชอบก้อนหินน้อย...เฮ้งเสี่ยวเจียะในเรื่องสุดยอดศัตราวุธของอุนสุยอัน....ถ่อมตน อดกลั้น เพียรมานะ ยึดถือคุณธรรมน้ำมิตร

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Simplyway

Modify Blogger

ดนตรีที่เป็นเพื่อนกับทุกอารมณ์ของคุณ
Rapture
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 116
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639



ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 00:00:57 »

ในการใช้ตาชั่งแบบสองแขนนั้น เราดูได้แค่ว่าสองข้างเท่ากันไหม การชั่งหนึ่งครั้งจะบอกได้แค่ว่าเท่ากันหรือข้างไหนหนักกว่าอีกข้าง ถ้าใส่เหรียญทีละข้าง ครั้งแรกใส่ข้างขวาหนึ่งเหรียญ ครั้งที่สองใส่ข้างซ้าย พอปล่อยมือ มันก็กลายเป็นการชั่งหนึ่งคร้งแล้วครับ เพราะเข็มมันกระดิกให้คุณดูว่ามันเท่ากันไหม คุณจะบอกว่าผมบอกแต่แรกว่าผมจะชั่งทีละ6เหรียญ จริงๆโจทย์เต็มๆข้อนี้เขาจะระบุว่า การชั่ง 1 ครั้งนั้นคือการมีของใส่ทั้งสองข้างแล้วคุณดูว่าเท่ากันหรือไม่.....ผมเห็นโจทย์นี้มาเป็นปีแล้วครับ เคยนั่งคิดไปครั้งหนึ่งแล้วลืมไปแล้ว ถ้าจะว่าคนแต่งโจทย์ก็คงต้องว่ากำหนดความหมายของการชั่งไม่ชัดเจน วิธีอย่างคุณนั้นผมเคยตอบไปแล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า การชั่งหนึ่งครั้งคือการอ่านค่าหนึ่งครั้ง....มันก็จบเลยครับ ผมคิดมาแล้ว แล้วแต่ไอเดียครับ มันก็เป็นแค่เกมอ่ะครับ

ส่วนข้อ3นั้น ผมได้โจทย์คล้ายกัน คือมีบริษัทรับทำลูกปืนใหญ่ ทำลูกปืนใหญ่มา10 กอง มีอยู่กองหนึ่งที่รู้ว่ามันทำมาเบากว่าปกติ คือลูกละ 9 ขีด ปกติลูกปืนใหญ่หนัก 10 ขีด ให้ชั่งได้ครั้งเดียวแล้วชี้ได้เลยว่ากองไหนผิดปกติ
ก็หยิบไล่มาจากกองแรกถึงกองที่สิบ
กองแรก 1 ลูกมกองที่สอง 2ลูก.....จนถึงกองที่สิบ 10 ลูก แล้วชั่งทีเดียว
เรารู้อยู่แล้วว่า เราชั่งทั้งหมด 1+2+3+4+5+6+7+8+9+10 = 55 ลูก ต้องได้ 55x10ขีด เป็น 550 ขีด
เอาจำนวนขีดที่ชั่งได้ สมมุติเป็น x ขีด...เอาไปลบกับ 550 ได้เท่าไหร่ก็ตอบเลยว่ากองนั้น
อย่างชั่งได้ 549 แสดงว่า หายไป 1 ขีด คือ 1ลูกก็เป็นกองที่1
ถ้าชั่งได้ 541 ขีด แสดงว่าหายไป 9 ขีด ก็คือเป็นกองที่หยิบมา 9 ลูกครับ....คิดง่ายๆแค่นี้

อย่าลืมครับว่ามันเป็นแค่เกม
ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นเกมครับ
ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นตัวแทนของปัญหา
ที่สะท้อนอะไรหลายๆอย่างในตัวปัญหา และการแก้ปัญหา
ที่ผมพยายามโต้เถียง
ไม่ใช่ต้องการเอาชนะเพราะคิดว่าเป็นเกมอย่างคุณ
เพราะไม่ต้องการให้หลายคน ยึดติดกับรูปแบบของปัญหา
ไม่ว่าโจทย์เก่าจะเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่โจทย์นี้ไม่ได้จำกัดไว้
อย่าได้ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆที่มันไม่ได้มี
ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่แล้วคุณจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามบอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 มีนาคม 2009, 05:50:36 โดย Rapture » บันทึกการเข้า
kazama
CoDe iS PoeTRy
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 470
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,676



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 00:27:08 »

ฝึก iq แล้ว
ควรมี eq กันด้วยครับ  Kiss
บันทึกการเข้า

kittiwong
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 00:31:54 »

ผมไม่ซีเรียสหรอกครับ....ถ้าsolutionมันได้เหมือนกัน อะไรก็ได้ เหมือนที่ประธานเหมาเจ๋อตุงเคยบอกไว้ว่า"แมวดำหรือแมวขาว ขอเพียงจับหนูได้เป็นอันใช้ได้".....ผมเป็นคนหนึ่งสนับสนุนการคิดนอกกรอบ แต่ก็ยอมรับว่าตัวผมเองก็ยังติดนิสัยที่คิดในกรอบจนหมดทางแล้วจริงๆผมค่อยแหกกรอบครับ
...มันก็เป็นแค่เกมอ่ะครับ เอาเวลาไปซีเรียสกับเรื่องอื่นดีกว่า
...จบแล้ว ไขได้แล้วก็แค่นั้น... Smiley Smiley Smiley
บันทึกการเข้า

ชอบก้อนหินน้อย...เฮ้งเสี่ยวเจียะในเรื่องสุดยอดศัตราวุธของอุนสุยอัน....ถ่อมตน อดกลั้น เพียรมานะ ยึดถือคุณธรรมน้ำมิตร

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Simplyway

Modify Blogger

ดนตรีที่เป็นเพื่อนกับทุกอารมณ์ของคุณ
ก้ามปู
เสือซุ่มด่า
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 218
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,195



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 00:34:53 »

ไอสไตน์ กับ ขงเบ้งใครเก่งกว่ากันครับ  Huh?
บันทึกการเข้า

ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่างตอบอะไรใครนะครับ เพราะไม่ได้เข้าบอร์ดเลย
barbies55
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 417
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,521



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #50 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 00:40:29 »

ตอบข้อ 2. โจทย์ข้อนี้ไม่ต้องการให้ทำอะไรกับห้อง แต่ให้หาเส้นทางที่มดจะเคลี่อนที่ได้สั้นที่สุด
ถ้ามดมันเดินเส้นทางที่สั้นที่สุด ก็คือเดินผ่านตามแนวเส้นทะแยงมุมห้อง
แต่ ในที่นี้มีจุดอ้างอิงคือ  ตัวเราเอง เนื่องจากว่า
ถ้าไปยืนกลางห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่งและหันหน้าเข้ากำแพงด้านใดด้านหนึ่ง
แล้วมองไปข้างหน้าที่ซ้ายมือบนมีมดอยู่ตัวหนึ่งกำลังจะเดินไปที่มุม
ถ้างั้น เราก็หมุนตัวเองกลับหลังหัน ก็จะทำให้สิ่งที่เราสังเกตเห็นเปลี่ยนไป
นั่นคือ เดิมทีมดอยู่ที่บนซ้าย จะกลายเป็นว่ามดอยู่มุมล่างด้านขวาแทน โดยที่มดไม่จำเป็นต้องเดิน

ชอบคำตอบนี้ที่สุดเลยค่ะ มันจอร์จมาก
บันทึกการเข้า

รับทำเทมเพลท รับโมเทมเพลทให้เข้ากับสคริปต์ต่างๆ


On the Internet, Never One Know You are a Dog.
ผ้าขี้ริ้วห่อทองย่อมเป็นทองฉันใด เอาทองเปลวมาห่อขี้ก็ยังเป็นขี้ฉันนั้น
zenar218
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 36
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 351



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #51 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 10:49:03 »

อ้างถึง
ข้อ 12 มีห้องอยู่ห้อง 1 เป็นห้องทึบ(จากข้างนอกไม่สามารถมองเห็นข้างในได้)และในนั้นมี
หลอดไฟอยู่ 3 หลอด

ข้างนอก จะมีสวิตท์ไฟของหลอด 3 หลอด อยู่
3 อัน

คำถามว่า - จะทำยังไง ให้รู้ว่า สวิตท์ของอันไหนเป็นของอันไหน

-เดินเข้าห้องได้แค่ครั้งเดียว และออกมา
สามารถบอกได้

ข้อ 12 ก่อนอื่นเปิดสวิตซ์ 1 อัน รอซักพัก 3-5 นาที
แล้วค่อยกดเปิดสวิตซ์อีก 1 อัน
แล้วรีบเดินเข้าห้องไปครับ

สวิตซ์ไฟเพิ่งเปิดจะกระพริบๆ ยังไม่สว่งเต็มที่
อันที่เปิดนานแล้วสว่างแล้ว
อันที่ไม่ได้เปิดก็คือ ไม่ได้เปิด
ออกจากห้องมาก็เห็นได้หมด อันไหนเป็นอันไหน

ขอย้ำอีกทีครับ โจทย์ไอน์สไตน์ เฉพาะข้อ 1 เท่านั้นครับ
ข้ออื่นๆ ไม่ใช่ของ ไอน์สไตน์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มีนาคม 2009, 11:23:31 โดย zenar218 » บันทึกการเข้า

ฉนวนกันเสียง แผ่นซับเสียง  ติดตั้งผนังกันเสียง ปรึกษาด้านอะคูสติก ติดต่อ ZEN ACOUSTIC
เว็บไซต์ หยุดที่นี่ ดอตคอม เว็บไซต์รวบรวมสาระต่างๆครบ ในที่เดียว
ฝึกเล่นโอเทลโล่ ที่นี่ ชมรมหมากกระดานโอเทลโล่ (Thailand Othello Association)
สอนธรรมะทาง Tiktok อ้างอิงพระไตรปิฎก Zen The Upasaka
เฟสบุคผมเอง Zen Thammatorn
utto
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 308



ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 11:53:04 »

อ้างถึง
จะต้องชั่งน้ำหนักอย่างน้อยที่สุดกี่ครั้ง
ถึงจะรู้ว่า ถุงไหนเป็นของปลอม

ตอบข้อ3
ชั่งอย่างน้อยที่สุด 1 ครั้ง  ในครั้งแรกบังเอิญหยิบได้ถุงทองปลอมพอดี  เหรียญทองปลอมหนัก 9g ถ้าสมมติมี 10 เหรียญ ก็หนัก 90g ก็ถุงนี้แหละปลอม  Smiley
บันทึกการเข้า
เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร
~*มาเฟีย บอร์ดเสียว*~
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 206
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,266



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 13:03:54 »

เออวุ้ย ผมอ่านโจทย์ผิดแฮะ
บันทึกการเข้า

เศรษฐีผู้รวยด้วยหนูตายหนึ่งตัว บริการรีวิว เพิ่มคำวิจารณ์ 5 ดาวแฟนเพจ ขายชิบ ไพ่เท็กซัส
เกิดในที่...ที่ดี...นั้นดีแน่ 
เกิดในที่...ที่แย่...ก็ดีได้  
เกิดที่ดี...แล้วแย่...มีถมไป  
เกิดที่ไหน...ก็ดีได้ถ้าใฝ่ดี
barbies55
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 417
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,521



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #54 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 13:11:10 »

อ้างถึง
จะต้องชั่งน้ำหนักอย่างน้อยที่สุดกี่ครั้ง
ถึงจะรู้ว่า ถุงไหนเป็นของปลอม

ตอบข้อ3
ชั่งอย่างน้อยที่สุด 1 ครั้ง  ในครั้งแรกบังเอิญหยิบได้ถุงทองปลอมพอดี  เหรียญทองปลอมหนัก 9g ถ้าสมมติมี 10 เหรียญ ก็หนัก 90g ก็ถุงนี้แหละปลอม  Smiley

คำตอบนี้ก็จ๊าบอีกแล้ว  Cry

กระทู้นี้มีประโยชน์นะนี่ ทำให้คิดได้ว่ายังมีมุมมองที่เป็นไปได้อีกหลายมุม ไม่ได้มีแค่ทฤษฎี
บันทึกการเข้า

รับทำเทมเพลท รับโมเทมเพลทให้เข้ากับสคริปต์ต่างๆ


On the Internet, Never One Know You are a Dog.
ผ้าขี้ริ้วห่อทองย่อมเป็นทองฉันใด เอาทองเปลวมาห่อขี้ก็ยังเป็นขี้ฉันนั้น
Rapture
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 116
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639



ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 13:31:17 »

อ้างถึง
จะต้องชั่งน้ำหนักอย่างน้อยที่สุดกี่ครั้ง
ถึงจะรู้ว่า ถุงไหนเป็นของปลอม

ตอบข้อ3
ชั่งอย่างน้อยที่สุด 1 ครั้ง  ในครั้งแรกบังเอิญหยิบได้ถุงทองปลอมพอดี  เหรียญทองปลอมหนัก 9g ถ้าสมมติมี 10 เหรียญ ก็หนัก 90g ก็ถุงนี้แหละปลอม  Smiley
ว่าจะไม่ตอบล่ะ อดใจไม่ได้  Cry
นั่นสิ ถ้าเหรียญทองปลอมหนัก 9g ถ้าสมมติมี 10 เหรียญ ก็หนัก 90g
แต่ถ้าเหรียญทองจริงหนัก 10g แล้วบังเอิญมี 9 เหรียญ ก็หนัก 90g เท่ากันล่ะ  Shocked

ขอเสริมโจทย์ข้อ 2.หน่อย
ความจริงโจทย์ข้อนี้มองได้ 2 กรณี
กรณีที่ 1.
มุมซ้ายบน หมายถึง ทางด้านหน้าซ้ายมือโดยมุมอยู่ติดกับพื้นห้อง
มุมซ้ายล่าง หมายถึง ทางด้านหลังซ้ายมือโดยมุมอยู่ติดกับพื้นห้อง
มุมขวาบน หมายถึง ทางด้านหน้าขวามือโดยมุมอยู่ติดกับพื้นห้อง
มุมขวาล่าง หมายถึง ทางด้านหลังขวามือโดยมุมอยู่ติดกับพื้นห้อง
ซึ่งถ้ามองแบบกรณีที่ 1 ผมจะตอบแบบที่ตอบไป

กรณีที่ 2.
มุมซ้ายมือบน หมายถึง ทางด้านหน้าซ้ายมือโดยมุมอยู่ติดกับเพดานห้อง
มุมขวาล่าง หมายถึง ทางด้านหลังขวามือโดยมุมอยู่ติดกับพื้นห้อง
ถ้าเป็นแบบกรณีที่ โจทย์คงอยากให้ตอบว่า
สมมติว่า ห้อง กว้าง 5 เมตร ยาว 5 เมตร สูง 5 เมตร
คือให้คิดว่าผนังห้องด้านหน้ากับด้านข้างขวาให้มองรวมกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร
ซึ่งด้านกว้างก็คือความสูงของห้องนั่นเอง ส่วนด้านยาวเป็นความกว้างของผนังด้านหน้ากับด้านข้างขวารวมกัน
เวลามดเดินให้เดินตามเส้นทะแยงมุมของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร นั่นเอง
จะได้ระยะทางใกล้สุด คือ 5 คูณด้วย(รากที่ 2 ของ 5) เมตร
แต่ผมจะไม่ตอบแบบนี้
ผมจะตอบว่าให้มดเดินตามแนวความสูงของห้อง จากด้านหน้ามุมซ้ายติดเพดาน มา ด้านหน้ามุมซ้ายติดพื้นห้อง
โดยมีระยะทาง 5 เมตร จากนั้นก็ตำราเดิม ให้หมุนตัวกลับหลังหัน มดก็อยู่ตำแหน่ง มุมขวาด้านหลังติดพื้นห้อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มีนาคม 2009, 15:35:44 โดย Rapture » บันทึกการเข้า
utto
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 308



ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 12 มีนาคม 2009, 23:17:24 »

อ้างถึง
นั่นสิ ถ้าเหรียญทองปลอมหนัก 9g ถ้าสมมติมี 10 เหรียญ ก็หนัก 90g
แต่ถ้าเหรียญทองจริงหนัก 10g แล้วบังเอิญมี 9 เหรียญ ก็หนัก 90g เท่ากันล่ะ

เท่าไม่ได้ครับ เพราะเราชั่งครั้งเดียว ไม่ได้ชั่ง 2 ครั้ง และถูกตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ถ้าถุงมี 9 เหรียญ ก็ต้องหนัก 81G ครับ  Smiley แต่จริงๆแล้ว ถ้าหาวิธีที่ชั่งที่น้อยสุด ที่สามารถใช้ได้กับทุกกรณี ถึงจะถูกมั้งครับ คนตั้งโจทย์เค้าคงต้องการแบบนั้น
บันทึกการเข้า
Rapture
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 116
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639



ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 13 มีนาคม 2009, 00:18:56 »

อ้างถึง
นั่นสิ ถ้าเหรียญทองปลอมหนัก 9g ถ้าสมมติมี 10 เหรียญ ก็หนัก 90g
แต่ถ้าเหรียญทองจริงหนัก 10g แล้วบังเอิญมี 9 เหรียญ ก็หนัก 90g เท่ากันล่ะ

เท่าไม่ได้ครับ เพราะเราชั่งครั้งเดียว ไม่ได้ชั่ง 2 ครั้ง และถูกตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ถ้าถุงมี 9 เหรียญ ก็ต้องหนัก 81G ครับ  Smiley แต่จริงๆแล้ว ถ้าหาวิธีที่ชั่งที่น้อยสุด ที่สามารถใช้ได้กับทุกกรณี ถึงจะถูกมั้งครับ คนตั้งโจทย์เค้าคงต้องการแบบนั้น
เท่ากันได้ครับ ก็อย่างที่ผมบอกไป โอกาสในการเท่ากันมันมีอยู่
หมายความว่าวิธีนี้ใช้ระบุว่าถุงที่ชั่งเป็นถุงปลอมไม่ได้ 100 %
การชั่งครั้งเดียวแล้วบังเอิญว่าได้น้ำหนัก 90g แล้วบอกว่าถุงที่เหลือไม่มีน้ำหนัก 90 กรัมอีกได้หรือครับ
ถ้าได้แปลว่าคุณรู้แต่แรกแล้วว่าถุงที่ชั่งอยู่เป็นถุงที่มีเหรียญปลอม
ไม่งั้นคุณก็ต้องบอกกำกับว่า
เมื่อเหรียญในถุงปลอม มีจำนวน 10,20,30,... ต้องไม่มีน้ำหนักทั้งถุงเท่ากับถุงที่มีเหรียญจริงที่เหลือ
แต่
ถ้าคุณบอกว่าคุณบังเอิญหยิบ เหรียญ 1 เหรียญ จากถุงปลอมมาชั่งได้ 9 g
แล้วบอกว่าถุงนี้เป็นถุงปลอม แบบนี้โอเคครับ


ปล.กรณีนี้ไม่เหมือนกับกรณี ครูถามเงินทอนนักเรียนนะครับ
ดูเผินๆมันอาจจะดูเหมือนเฉยๆแต่จริงๆมันแตกต่างนะ ผมอยากให้แยกแยะให้ออก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 มีนาคม 2009, 00:47:34 โดย Rapture » บันทึกการเข้า
ไข่ลิง
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 624



ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 13 มีนาคม 2009, 00:38:41 »

คิดตั้งนานตอบไม่ได้ซักข้อ  Tongue
บันทึกการเข้า
teesong
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4



ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 13 มีนาคม 2009, 03:59:55 »

  สำหรับ ข้อ 12 ที่คุณ zenar218 ตอบมา ผมมีทางเลือกอีกทางหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นไงบ้าง คือมีเพื่อนผมเคยถามคำถามนี้แล้ว โดยผมตอบไปว่า เปิดไฟดวงหนึ่งไว้ก่อน จากนั้นรออีกประมาณ 20 นาที แล้วค่อยเปิดอีกดวง จากนั้นเข้าไปในห้อง แล้วปีนขึ้นไปสัมผัสไฟ 2 ดวงนี้ ไฟดวงไหนร้อน แสดงว่าเป็นไฟที่เปิดดวงที่หนึ่ง ส่วนอีกดวงที่ไม่ร้อนเป็นไฟดวงที่ 2 
 ป.ล. เพื่อนผมเค้าเฉลยว่าใช้ได้  เลยคิดมาตลอดว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ( แถมแอบภูมิใจมาตลอดว่าตอบได้ด้วย ) ตอนนั้นเพื่อนมันชมว่า คนที่ตอบได้ไม่ใช่คนปกติ แต่มันหมายถึงออกแนวเพี้ยนๆ ไม่ได้ไปในแนวทางชมสักเท่าไร
เพิ่งมาเห็นคำตอบของคุณ zenar218 ทำให้รู้ว่าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้เหมือนกัน หุ หุ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4   ขึ้นบน
พิมพ์