จบปัญหา! "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ปิดตำนาน "จอมช็อต" การไฟฟ้าฯ อดีตแชมป์ไทยลีก หน 12 ปี 51 หลังควักเงินเกือบ 40 ล้าน ซื้อหุ้นที่เหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ ของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้งหมด เพื่อเข้า บ.สโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด พร้อมเตรียมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บ.สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด และเปลี่ยนชื่อทีมเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แข่งขันฟุตบอลภายใต้สมาคมฟุตบอลฯ และเอเอฟซี กำหนด ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป
เนวินซื้อหุ้นไฟฟ้าเกลี้ยง
หลังจากคลุมเคลือกันอยู่นานสำหรับสิทธิ์ของสโมสร "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ระหว่าง บุรีรัมย์ ที่มี "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ เป็นประธานสโมสร กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทีมสโมสรสมาชิกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ม.ค.2555 ที่ห้องกรกมล ร.ร.สยามซิตี้ ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยมี "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ, นิวัฒน์ คีรีวรรณ ตัวแทนสโมสรการไฟฟ้า ร่วมแถลง พร้อมกับ นิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสรสงลา เอฟซี ทีมใน ดิวิชั่น 1 ร่วมแถลงด้วย รวมถึง กนกศักดิ์ ปิ่นแสง ผู้จัดการทีม บุรีรัมย์ พีอีเอ
โดยบทสรุปในเรื่องดังกล่าวมีข้อสรุปว่าสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่เป็นสโมสรสมาชิกของสมาคมฟุตบอลฯ ได้โอนสิทธิให้กับ บ.สโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด ด้วยการโอนหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ทำให้ บ.สโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด ได้สิทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม พร้อมสิทธิขาดในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลภายใต้การรับรองของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี
ใช้ชื่อ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ตลอดไป
ทั้งนี้ได้เตรียมเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บ.สโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด เป็น บ.สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ เพื่อยื่นต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในการเปลี่ยนแปลงชื่อทีมและแจ้งให้กับ เอเอฟซี รับทราบ พร้อมเปลี่ยนชื่อทีมจาก บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการแข่งขันฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ลีก และเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก อย่างถูกต้องตั้งแต่ฤดูกาล 2012 เป็นต่อไป
ส่วนฉายายังคงใช้คำว่า "นักรบปราสาทสายฟ้า" ต่อไป และโลโก้จะยังคงมี "สายฟ้า" ตรงคำว่า "ยูไนเต็ด" เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ครั้งหนึ่งเคยได้ร่วมงานกับ การไฟฟ้าฯ นอกจากนั้น "บิ๊กเน" เตรียมทำหนังสือและเอกสารเปลี่ยนแปลงทะเบียนสโมสรสมาชิกกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อให้สิทธิเป็นของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยสมบูรณ์ และไม่ต้องให้มีเรื่องสงสัยแคลงใจในอนาคตเกี่ยวกับสิทธิ์ทำทีม
ทุ่มเกือบ 40 ล้านปิดตำนานจอมช็อต
ขณะเดียวกัน “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ได้เปิดเผยว่าจากการที่ การไฟฟ้าฯ ได้โอนสิทธิให้กับ บ.สโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าฯ จำกัด และอยู่ร่วมกันมาจนกระทั่งเป็นแชมป์ ไทย พรีเมียร์ลีก ทำให้ทางสโมสรต้องการตอบแทนด้วยการบริจาคเงินจำนวน 23 ล้านบาท ให้กับสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อนำไปสร้างอาคารที่ทำการสโมสร เพื่อเป็นอนุสรณ์ของความร่วมมือพัฒนาทีมฟุตบอล บุรีรัมย์ พีอีเอ ขึ้นมา
นอกจากนั้น "บิ๊กเน" ยังบอกด้วยว่า บ.สโมสรบุรีรัมย์ฯ จะสร้างภาพลักษณ์ให้กับการไฟฟ้าฯ ด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์สโมสร มูลค่า 15 ล้านบาท และให้สิทธิใช้สนาม ไอ โมบาย สเตเดี้ยม ในปี พ.ศ.2555 จำนวน 2 ครั้งทั้งนี้จากข้อสรุปดังกล่าวทำให้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อดีตแชมป์ ไทยลีก ครั้งที่ 12 ปี 2551 ในฉายา "จอมช็อต" หรือ "มนุษย์ไฟฟ้า" ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่ง นิวัฒน์ คีรีวรรณ ตัวแทนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า การไฟฟ้าฯ จะยังคงสนับสนุนกีฬาฟุตบอลของพนักงานการไฟฟ้าฯ เหมือนเดิม เพียงแต่จะเปลี่ยนบทบาทจากฟุตบอลอาชีพกลับไปสู่การส่งแข่งขันในกีฬารัฐ วิสาหกิจเหมือนที่เคยเป็นเท่านั้น
ทางออกที่ดีหวดเอเอฟซีฉลุย
สำหรับการโอนหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือของ การไฟฟ้าฯ ให้กับ บ.สโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าฯ จำกัด ทำให้สิทธิ์เด็ดขาดตกเป็นของ บ.สโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าฯ จำกัด ซึ่งทาง "บิ๊กเน" ได้เตรียมเปลี่ยนชื่อทีมเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ตามต้องการ
เรื่องดังกล่าวถือว่าทำได้อย่างไร้ปัญหา เนื่องจากกรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับทีมในระดับเอเชียมาแล้ว โดยเมื่อปี 2008 ทีมจากประเทศอุซเบกิสถาน อย่าง คูรุชิ ได้เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ทว่าระหว่างการแข่งขันได้มีการเปลี่ยนชื่อทีมมาเป็น "บุนยากอร์" ซึ่งทาง เอเอฟซี ได้ขอเอกสารชี้แจงและเอกสารการเปลี่ยนชื่อทีมที่มีตราสัญลักษณ์ทางกฎหมายของประเทศยืนยัน ซึ่งปรากฏว่า เอเอฟซี อนุญาตให้ คูริชิ หรือ บุนยากอร์ ทำการแข่งขันต่อไป เพราะมีการเปลี่ยนชื่อทีมอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ
http://www.ballthaistore.com/article/18369/จบปัญหาเนวินซื้อขาดหุ้น-กฟภ-ใช้ชื่อบุรีรัมย์ยูไนเต็ด 