ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeมีใครเป็นสัตวแพทย์บ้างครับ ให้แมวกินยาถ่าพยาธิ แล้วมึนและน้ำลายฟูม ปาก
หน้า: 1 [2] 3   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มีใครเป็นสัตวแพทย์บ้างครับ ให้แมวกินยาถ่าพยาธิ แล้วมึนและน้ำลายฟูม ปาก  (อ่าน 22768 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
dummy
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 878



ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:38:24 »

ยา Helminticide-L ข้อบ่งใช้คือ 1 เม็ด/ 10 kg นี่คะ

ให้ 1/4 เม็ด มันก็เกิน นน. ตามข้อบ่งใช้มาตั้งครึ่ง

วิธีที่ดีที่สุดคือให้สารน้ำเพื่อเร่งการขับยาออกมาจากร่างกาย ปกติน่าจะเข้าทางเส้นเลือดนะคะ ไม่ใช่ใต้ผิวหนัง

เพราะการดูดซึมจะเร็วกว่ากันมาก
บันทึกการเข้า

อยากลองปั่น ลองนี่ โฮสต์ + โดเมนฟรีเดือนแรก เทคนิคการใช้ PM มาเลย...
sodsaikung
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 693



ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:39:39 »

แมวน่ารักดีครับ
ดีแล้วครับที่ไม่เป็นอะไร wanwan019
บันทึกการเข้า
Legolas
Global Moderator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 889
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,116



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:40:21 »

ส่วนตัว ผมคิดว่าให้ปลาทูเค้ากินวันละ3ตัว ผมว่าอยู่ยาว สุขภาพดีเกิน10ปีแน่นอน  อาหารอะไรก็สู้ปลาทูนึ่งไม่ได้หรอกนะครับผม


นึกว่าจะชวนแมวมาทำเวบบอล  wanwan003
บันทึกการเข้า




ตอนนี้มีโปร $29.99 Creative Fabrica ถูกที่สุดสำหรับทำ POD,KDP
ขาย License wp theme 5 ธีมจา่ก Themeforest Newspaper, KALLYAS, Puzzle, Valenti, Jarida ราคาถูกมาก pm มาได้เลยครับ
รับทำ vdo avartar สำหรับนำเสนอ aff ต่างประเท
romeo2413
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 59
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 567



ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:41:24 »

ยา Helminticide-L ข้อบ่งใช้คือ 1 เม็ด/ 10 kg นี่คะ

ให้ 1/4 เม็ด มันก็เกิน นน. ตามข้อบ่งใช้มาตั้งครึ่ง

วิธีที่ดีที่สุดคือให้สารน้ำเพื่อเร่งการขับยาออกมาจากร่างกาย ปกติน่าจะเข้าทางเส้นเลือดนะคะ ไม่ใช่ใต้ผิวหนัง

เพราะการดูดซึมจะเร็วกว่ากันมาก

แล้วทำไมหมอนั่นไม่ให้ ทางเส้นเลือดอ่ะครับ

ขี้เกียจหรอ หรือมันเด็กไป หรือ ขี้เกียจหาเส้นเลือด
บันทึกการเข้า
สลับดอก ศิษย์หนองยางทอย
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 129
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 787



ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:41:27 »

ส่วนตัว ผมคิดว่าให้ปลาทูเค้ากินวันละ3ตัว ผมว่าอยู่ยาว สุขภาพดีเกิน10ปีแน่นอน  อาหารอะไรก็สู้ปลาทูนึ่งไม่ได้หรอกนะครับผม


นึกว่าจะชวนแมวมาทำเวบบอล  wanwan003

มู้นี้เฮียดุสิต คอมเม้นสวดยวดครับ wanwan004
บันทึกการเข้า
gobank01
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 77
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,181



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:42:37 »


ระวัง เหมือนแมวผมนะครับ

นึกว่าโดนยา ตกใจแทบแย่

ที่ไหนได้ หลังจากให้ยาไปแล้ว มันมียาติดปาก ขมๆเลย พยายาม บ้วนน้ำลาย

ต้องไปกวาดลิ้นให้ไม่งั้นไม่หยุด
บันทึกการเข้า
BoyzMZ
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 28
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:46:20 »

รักแมวเหมือนกัน  wanwan008
บันทึกการเข้า

romeo2413
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 59
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 567



ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:50:56 »

พอมีสติ  หายจิตตก กลับมานั่งคิด

ผมไม่เคยเลี้ยงสัตว์ รู้สักรักมันมาก  (ยิ่งแฟนผมนะ ออกอาการยิ่งกว่านี้อีก)


บางทีรู้สึกเหมือนกับเรา ตั้งใจเกินไปหรือ เชื่อ คนที่เอาอะไรมาขายให้เราเกินไป


ต้องถ่ายพยาธิทุก เดือนนะ มีวัคซีน เป็นรอบๆ กินอาหารก็ต้องเกรด พรีเมี่ยมนะ  


รู้สึกเหมือน โดนปั่นหัวในระบบ ทุนนิยม ยังไงก็ไม่รู้

แต่ละคนมีอะไรมาขาย ให้เราเยอะแยะ  

พร้อมกับการตลาดที่ ชอบทำให้เรากลัวอ่ะ เช่น ไม่ทำแล้วจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ๆ บลาๆๆๆ


ถ่ายพยาธิเเมว ยาตัวใหม่ สามารถถ่ายพยาธิแมวชนิดปากขอ ได้ บลาๆๆๆ  (มันมากไปมั้ย)

นึกถึงตอนอยู่บ้านนอก แม่เลี้ยงแมว เป็นสิบตัว  ไม่เห็นจะ อะไรขนาดนี้ ก็อยู่ได้เป็นสิบปี



จุดไหนที่มันอยู่ตรงความพอดีนะที่เราไม่ต้องไล่ตามไปซะทุกอย่าง อย่างนี้

พระพุทธเจ้าสอน เดินสายกลาง พระเจ้าอยู่หัว สอน ความพอดี และพอเพียง

 
ความพอดี อยู่ตรงไหน???        
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กันยายน 2011, 23:51:23 โดย romeo2413 » บันทึกการเข้า
mSkyline
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 131
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,472



ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 04 กันยายน 2011, 23:57:49 »

อย่าว่าผมงั้นงี้เลย

บางคน เลี้ยงปกติ ถึงเวลาให้ข้าวให้น้ำ ไม่เห็นต้องดีอะไรนักหนาเลย
มันก้ยังไม่ตาย

ไปหลงเชื่อคนขาย หลอกขายของละซิน่ะ


คนต่างจัวหวัด เลี้ยงก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย เศาข้าวบ้างอะไรบ้าง มันก็ยังอยู่กันได้ดีเลย

ผมเห้นคนเลี้ยง ส่วนใหญ่จะในกรุง อะไรก็ไมุ่ร้ ละเอียดหยิบไปหมด เลี้ยงบากกว่าลูกอีก Tongue Tongue
บันทึกการเข้า

AnyWhereToThai รับขนสินค้าจาก US UK JP KR CN กลับไทย
https://www.facebook.com/AnyWhereToThai
vespa62
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 182
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,380



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 00:00:43 »

ผมก็เคยให้กินก็ฟูมแบบนี้ละ และต่อไปไม่ว่าป้อนยาไรหากน้องเขาไม่ชอบก็จะน้ำลายฟูมแบบนี้เรื่อยๆ ให้เห็นครับ

คือหากให้ยาเม็ด พยายามหย่อนให้ลงกลางคอ จังหวะน้องเขากลืนพอดีก็จะไม่น้ำลายฟูม แต่หากไปค้างที่ปากน้องเขาไม่ชอบรสชาดก็จะคายทิ้งละทำน้ำลายฟูมปากให้เห็น เคยให้หมอดู มันว่าแมวสปอย จะไม่กินยา แต่อันนี้เกิดกะแมวผมนะ เวลาป้อนยา วันไหนโชคดีหย่อนลงถูกจังหวะก็สบายไป วันไหนหย่อนไม่ถูกก็ปล้ำกันนานหน่อยกว่าจะกินยาได้  Tongue

ตามนี้่ครับ ให้บ่อยๆ ให้จนชินจะแม่นเหมือนชูตบาสลงห่วง อิอิ
บันทึกการเข้า

ยุคนี้สมัยนี้ปี 2022 การซื้อลอตเตอรี่ง่ายๆผ่านแอปมังกรฟ้า ตัวแทนมังกรฟ้า
มังกรฟ้าตัวแทน
ซื้อหวยมังกรฟ้า
ซื้อมังกรฟ้า
ตรวจหวยมังกรฟ้า
veemala
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 323
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 651



ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 00:04:27 »

ยา Helminticide-L ข้อบ่งใช้คือ 1 เม็ด/ 10 kg นี่คะ
ให้ 1/4 เม็ด มันก็เกิน นน. ตามข้อบ่งใช้มาตั้งครึ่ง
วิธีที่ดีที่สุดคือให้สารน้ำเพื่อเร่งการขับยาออกมาจากร่างกาย ปกติน่าจะเข้าทางเส้นเลือดนะคะ ไม่ใช่ใต้ผิวหนัง
เพราะการดูดซึมจะเร็วกว่ากันมาก

แล้วทำไมหมอนั่นไม่ให้ ทางเส้นเลือดอ่ะครับ
ขี้เกียจหรอ หรือมันเด็กไป หรือ ขี้เกียจหาเส้นเลือด


เมื่อเหมียวอาเจียน(ผิดปกติ)...ควรทำอย่างไรดี ?
เมื่อน้องเหมียวอ้วกๆๆ (Cat Magazine)
อาเจียนเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยในน้องแมว ซึ่งบางครั้ง อาจเป็นเรื่องปกติ เช่น อาเจียนหลังกินหญ้า หรือหลังจากเลียขนตัวเองเข้าไป
แต่ในบางครั้ง อาการอาเจียนก็อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติในร่างกายได้เช่นกัน

อาการอาเจียน เกิดจากความผิดปกติของทางเดินอาหาร ทำให้เกิดการขย้อนเอาสิ่งที่อยู่ในกระเพาะอาหารกลับออกมาทางปาก
อาจเกิดได้จากการกินอาหารเยอะเกินไป กินเร็วเกินไป กินของที่ย่อยยากลงไป กินอาหารหลากหลายประเภทเกินไป หรือกินของเน่าเสียเข้าไป
ซึ่งอาการอาจไม่รุนแรงและสามารถหายเองได้ แต่นอกเหนือจากนี้ อาจเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างเช่น โรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร
มีพยาธิภายใน โรคไต โรคตับ โรคมะเร็ง หรือโรคเบาหวาน เป็นต้น

ทั้งนี้ หากแมวมีอาการอาเจียนแค่ครั้งเดียว และยังคงวิ่งเล่นร่าเริงสนุกสนานได้ตามปกติ ก็คงไม่น่าเป็นห่วงอะไร
เพราะอาการอาเจียนนั้นอาจเกิดจากสาเหตุธรรมดา ๆ ที่กล่าวไป แล้วและหายไปได้เอง

ถ้าแมวมีอาการอาเจียนและเราพอที่จะทราบถึงสาเหตุ
เช่น เกิดหลังจากการเปลี่ยนอาหาร หรือแมวไปกินใบไม้หรือต้นไม้บางอย่างแล้วอาเจียน ก็ให้กำจัดสาเหตุนั้นออกไป

แต่ถ้าแมวมีอาการอาเจียนหลายครั้ง ซึม เบื่ออาหาร หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย
ควรจะรีบนำไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำและช็อคได้

การตรวจวินิจฉัย
เริ่มจากการสอบถามประวัติทั่วไป เช่น การกินอาหาร การฉีดวัคซีน การถ่ายพยาธิ ความถี่ของอาการอาเจียน และลักษณะของอาเจียน เป็นต้น
ร่วมกับการตรวจร่างกาย คลำช่องท้องว่ามีอาการปวดเกร็งหรือมีก้อนผิดปกติในช่องท้องหรือไม่
ตรวจเลือดและปัสสาวะ ตรวจอุจจาระว่ามีไข่พยาธิหรือมีเลือดปนหรือไม่
นอกเหนือจากนี้ อาจมีการตรวจพิเศษอื่น ๆ เช่น เอ็กซเรย์ อัลตร้าซาวนด์หรือส่องกล้อง
ในรายที่มีความซับซ้อนของโรคเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการอาเจียนต่อไป

การรักษา
รักษาให้ตรงตามสาเหตุที่ทำให้อาเจียน สำหรับแมวที่มีอาการอาเจียน แต่ยังร่าเริงดี และไม่มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย
อาจให้เพียงยาแก้อาเจียน หรือให้น้ำเกลือทางใต้ผิวหนัง และสังเกตอาการต่อที่บ้าน
แต่ในแมวที่มีอาการอาเจียนร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย เบื่ออาหาร
ควรจะต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอก่อนภายใน 24 ชม.
โดยงดน้ำงดอาหาร เปลี่ยนเป็นให้ยา ให้น้ำเกลือ ให้สารอาหารและแร่ธาตุทางเส้นเลือดแทน


ถ้าน้องเหมียวมีอาการดีขึ้นแล้ว สามารถกลับบ้านได้ เจ้าของก็ควรจะให้ยาตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัดและตรงต่อเวลา
ค่อย ๆ ลองป้อนน้ำให้น้องเหมียวกินทีละนิด ๆ ถ้าไม่มีอาการอาเจียนอีกก็ลองให้น้องเหมียวกินอาหารอ่อน ๆ
เช่น ข้าวต้ม เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หรืออาหารกระป๋องสำเร็จรูป สำหรับแมวป่วย
ถ้าไม่มีอาการอาเจียนภายใน 1-2 วัน จึงเริ่มให้กลับมากินอาหารตามปกติ แต่ถ้าอาเจียนอีก จะต้องรีบกลับไปปรึกษาคุณหมอทันที

การป้องกัน
การป้องกันไม่ให้น้องเหมียวอาเจียน อาจทำได้โดยระวังไม่ให้น้องเหมียวมีโอกาสสัมผัสกับสิ่งที่อาจเป็นพิษหรือกินสิ่งแปลกปลอม
และหมั่นคอยสังกตการกินอาหารและสุขภาพโดยทั่วไป ฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ครบถ้วนและถ่ายพยาธิเป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน

โดย สพ.ญ.ปิยกาญ โรหิตาคนี
ที่มา http://pet.kapook.com/view19754.html
บันทึกการเข้า
geravet
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 720



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 00:04:57 »

โล่งนึกว่าจะเป็นอะไรไปแล้ว
บันทึกการเข้า

ฝากทำแบบสอบถามด้วยครับ
https://docs.google.com/forms/...sJSN0C_wmp8KOBmqIaKt0/viewform
vet
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #32 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 00:50:06 »

เนื่องจากเป็นสัตวแพทย์และเลี้ยงแมวเหมือนกันค่ะ เลยเข้ามาแชร์ประสบการณ์ ความรู้ และอยากให้คำแนะนำ เพื่อให้ท่านเจ้าของกระทู้และท่านอื่นๆสบายใจนะคะ

ขอตอบคำถามทีละข้อเลยนะคะ

ข้อหนึ่ง ช่วง 6 โมงเย็น ให้ยาถ่ายพยาธิ ชื่อยา  Helminticide-L เฮลมินติไซด์-แอลน้องแมว อายุ 3 เดือนกว่า น้ำหนัก 1 กิโลกว่า  2 ตัว ปริมาณที่ให้ 1/4 ของเม็ด  ตอนนี้ 2 ทุ่มครึ่ง มันมีอาการเหมือนเมาแต่ไม่มาก  มองเห็นม่านตาสีขาวจากปกติไม่เคยเห็น แต่ยังเดินได้ เล่นได้ อาการเหล่านี้ผิดปกติมั้ย เป็นห่วงน้อง ช่วยแนะนำหน่อย  เมื่อกี้มีน้ำลายฟูมปากออกมาหน่อย นึง  แต่ก็ยังวิ่งเเละมาเล่นได้อยู่  จะพาไปหาหมอ ตอนนี้ก็ฝนตกหนัก และ ใช้มอเตอร์ไซค์


ทำไงดีครับ  อาการน่าห่วงมั้ย

ตอบ อาการนี้น่าจะมาจากการแพ้ตัวยาอย่างที่เจ้าของกระทู้ได้ทราบดีอยู่แล้วนะคะ แมวของพี่ก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ แต่ว่าโชคดีที่พอจะทราบอยู่ว่าสาเหตุน่าจะมาจากตัวยาเพราะได้ทำการศึกษาไว้ก่อนที่จะให้ยาแต่ละชนิดแก่สัตว์แล้วค่ะ ซึ่งคาดว่าหมอส่วนใหญ่น่าจะรู้เหมือนกันค่ะ เพราะเท่าที่จำได้ก็ทราบมาตั้งแต่เรียนปีต้นๆเลย (ถึงแม้ว่าตอนนี้จะผ่านมานมนานแล้วก็เถอะ)

ข้อที่สอง  อาการน้ำลายไหล(ไม่ใช่ฟูม)ของแมวนั้น ต้องระมัดระวังนะคะ อาจจะเป็นได้ทั้งแพ้ตัวยา ได้รับสารพิษ หรือแม้แต่กระทั่งโรคอื่นๆที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปาก หรือแมวบางตัวอาจจะเป็นพฤติกรรมของตัวสัตว์เองก้ได้ค่ะ

ข้อที่สาม การให้ยานั้น ที่ถูกที่สุดคือให้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้นค่ะ อาจจะปฏิบัติได้ยาก แต่ว่าอย่างน้อยก็คือวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัยนะคะ หากให้ยาเกินขนาดแม้จะเพียงเล็กน้อย ถ้าสัตว์ตัวนั้นมีความเสี่ยงที่จะแพ้ยาชนิดนั้นอยู่แล้ว อาจจะทำให้แสดงอาการออกมาได้ค่ะ (อันนี้เคยเจอกับน้องแมวที่เราเลี้ยงไว้เลยค่ะ ให้เกินนิดเดียวเอง ตอนนี้ยังเสียใจอยู่เลย  แต่ว่าปลอดภัยนะคะ)

ข้อที่สี่ การรักษา อาการแพ้ยาจากที่อ่านมา เราสามารถรักษาได้หลายรูปแบบค่ะ แต่ถ้าไม่รุนแรงมาก ไม่จำเป็นต้องให้เข้าเส้นเลือดนะคะ และการรักษาของหมอแต่ละคนค่อนข้างจะแตกต่างกัน เราเองก็จะมีวิธีการรักษาในแบบของเราเหมือนกันค่ะและเราก็จะไม่เบลมกันเอง
ถ้าเคสนี้มาหาเรา เราคงจะไม่ให้เข้าเส้นเหมือนกันค่ะ เพราะน้องแมวน่าจะตัวไม่ใหญ่มาก การหาเส้นเลือดในแมวเด็กจากประสบการณ์ค่อนข้างจะเส้นเล็กค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าหาไม่ได้ แต่เราคิดว่าที่หมอไม่ให้เข้าเส้น(รวมทั้งเราเอง)อาจจะมีเหตุผลเดียวกันคือ ถ้าให้เข้าเส้นแล้วน้องแมวเกิดด้ิ้นหลุดหรืออะไรก็ตาม มีความเสี่ยงสูงที่จะทให้เส้นเลือดเกิดการฉีกขาด และทีสำคัญเลยก็คือ การให้เข้าเส้นนั้น เจ้าของต้องเข้าใจนะคะว่ามันเป็นการรักษาที่ได้ผลดีก็จริง แต่ความเสี่ยงนั้นจะสูงขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากว่าถ้าเข็มที่ใช้ไม่สะอาด(ซึ่งอันนี้นั้นหมอไม่มีทางรู้ได้ค่ะ แต่ค่อนข้างจะน้อยมากๆ)หรือว่าทำความสะอาดบริเวณที่จะให้ไม่ดีก็จะเสี่ยงต่อการนำเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดได้ค่ะ  ซึ่งในกรณีนี้ตัวเราเองค่อนข้างซีเรียสกับจุดนี้มากกว่าการได้รับยาเกินขนาดในเคสนี้นะคะ เพราะว่าน้องแมวยังไม่ได้เป็นอะไรมากถึงขนาดช็อก

อาการแต่ละเคสค่อนข้างจะแตกต่างกันค่ะ เราไม่สามารถจะบอกได้ว่าทำอย่างนี้แล้วถูกทำอย่างนี้แล้วผิด เราเลยมาแนะนำให้เจ้าของสบายใจค่ะ

สุดท้าย อันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับเคสนะคะ แต่ว่าอยากจะฝากไว้หน่อยค่ะ
การจะเลี้ยงสัตว์ศักตัวนั้น เราควรทำความเข้าใจตั้งแต่วิธีการเลี้ยง สายพันธุ์ และพฤติกรรม ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดแต่ละตัวก็จะแตกต่างกันออกไป เจ้าของคือผู้ที่ใกล้ชิดและถ่ายทอดลักษณะอาการที่สัตว์ผิดปกติไปให้หมอฟัง หากเจ้าของไม่สนใจอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด แล้วเกิดการรักษาที่ไม่ตรงกับโรคตามมาได้เช่นกันค่ะ

และแม้เราจะทำงานมาเกือบสิบปี เราก็ยังเปิดหนังสืออยู่เหมือนกันค่ะ เพราะว่าไม่่มีใครที่จำยาทุกชนิดในหนังสือได้แน่นอนค่ะ หมอคนตอนเราไปรักษาก็เช่นกันค่ะ(บางทีก็ไปเปิดดูหลังร้านเหมือนกัน) แต่เราคิดว่าน่าจะดีกว่าการที่รักษาไปทั้งๆที่ไม่แน่ใจ เพราะถ้าทำอย่างนั้นความเสียหายจะตกอยู่กับตัวสัตว์แล้วก็กระเป๋าสตางค์ของเจ้าของค่ะ  

ความคิดเห็นของเราอาจจะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ยังไงก็แค่อยากจะฝากไว้เพื่อให้เจ้าของสบายใจ และ ไขความข้องใจเกี่ยวกับการทำงานของสัตวแพทย์ด้วยค่ะ
ยาวไปนิด

ด้วยความเคารพ
หมอจุ๋ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2011, 00:55:43 โดย vet » บันทึกการเข้า
Legolas
Global Moderator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 889
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,116



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 00:51:38 »

เนื่องจากเป็นสัตวแพทย์และเลี้ยงแมวเหมือนกันค่ะ เลยเข้ามาแชร์ประสบการณ์ ความรู้ และอยากให้คำแนะนำ เพื่อให้ท่านเจ้าของกระทู้และท่านอื่นๆสบายใจนะคะ

ขอตอบคำถามทีละข้อเลยนะคะ

ข้อหนึ่ง ช่วง 6 โมงเย็น ให้ยาถ่ายพยาธิ ชื่อยา  Helminticide-L เฮลมินติไซด์-แอลน้องแมว อายุ 3 เดือนกว่า น้ำหนัก 1 กิโลกว่า  2 ตัว ปริมาณที่ให้ 1/4 ของเม็ด  ตอนนี้ 2 ทุ่มครึ่ง มันมีอาการเหมือนเมาแต่ไม่มาก  มองเห็นม่านตาสีขาวจากปกติไม่เคยเห็น แต่ยังเดินได้ เล่นได้ อาการเหล่านี้ผิดปกติมั้ย เป็นห่วงน้อง ช่วยแนะนำหน่อย  เมื่อกี้มีน้ำลายฟูมปากออกมาหน่อย นึง  แต่ก็ยังวิ่งเเละมาเล่นได้อยู่  จะพาไปหาหมอ ตอนนี้ก็ฝนตกหนัก และ ใช้มอเตอร์ไซค์


ทำไงดีครับ  อาการน่าห่วงมั้ย

ตอบ อาการนี้น่าจะมาจากการแพ้ตัวยาอย่างที่เจ้าของกระทู้ได้ทราบดีอยู่แล้วนะคะ แมวของพี่ก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ แต่ว่าโชคดีที่พอจะทราบอยู่ว่าสาเหตุน่าจะมาจากตัวยาเพราะได้ทำการศึกษาไว้ก่อนที่จะให้ยาแต่ละชนิดแก่สัตว์แล้วค่ะ ซึ่งคาดว่าหมอส่วนใหญ่น่าจะรู้เหมือนกันค่ะ เพราะเท่าที่จำได้ก็ทราบมาตั้งแต่เรียนปีต้นๆเลย (ถึงแม้ว่าตอนนี้จะผ่านมานมนานแล้วก็เถอะ)

ข้อที่สอง  อาการน้ำลายไหล(ไม่ใช่ฟูม)ของแมวนั้น ต้องระมัดระวังนะคะ อาจจะเป็นได้ทั้งแพ้ตัวยา ได้รับสารพิษ หรือแม้แต่กระทั่งโรคอื่นๆที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปาก หรือแมวบางตัวอาจจะเป็นพฤติกรรมของตัวสัตว์เองก้ได้ค่ะ

ข้อที่สาม การให้ยานั้น ที่ถูกที่สุดคือให้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้นค่ะ อาจจะปฏิบัติได้ยาก แต่ว่าอย่างน้อยก็คือวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัยนะคะ หากให้ยาเกินขนาดแม้จะเพียงเล็กน้อย ถ้าสัตว์ตัวนั้นมีความเสี่ยงที่จะแพ้ยาชนิดนั้นอยู่แล้ว อาจจะทำให้แสดงอาการออกมาได้ค่ะ (อันนี้เคยเจอกับน้องแมวที่เราเลี้ยงไว้เลยค่ะ ให้เกินนิดเดียวเอง ตอนนี้ยังเสียใจอยู่เลย  แต่ว่าปลอดภัยนะคะ)

ข้อที่สี่ การรักษา อาการแพ้ยาจากที่อ่านมา เราสามารถรักษาได้หลายรูปแบบค่ะ แต่ถ้าไม่รุนแรงมาก ไม่จำเป็นต้องให้เข้าเส้นเลือดนะคะ และการรักษาของหมอแต่ละคนค่อนข้างจะแตกต่างกัน เราเองก็จะมีวิธีการรักษาในแบบของเราเหมือนกันค่ะและเราก็จะไม่เบลมกันเอง
ถ้าเคสนี้มาหาเรา เราคงจะไม่ให้เข้าเส้นเหมือนกันค่ะ เพราะน้องแมวน่าจะตัวไม่ใหญ่มาก การหาเส้นเลือดในแมวเด็กจากประสบการณ์ค่อนข้างจะเส้นเล็กค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าหาไม่ได้ แต่เราคิดว่าที่หมอไม่ให้เข้าเส้น(รวมทั้งเราเอง)อาจจะมีเหตุผลเดียวกันคือ ถ้าให้เข้าเส้นแล้วน้องแมวเกิดด้ิ้นหลุดหรืออะไรก็ตาม มีความเสี่ยงสูงที่จะทให้เส้นเลือดเกิดการฉีกขาด และทีสำคัญเลยก็คือ การให้เข้าเส้นนั้น เจ้าของต้องเข้าใจนะคะว่ามันเป็นการรักษาที่ได้ผลดีก็จริง แต่ความเสี่ยงนั้นจะสูงขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากว่าถ้าเข็มที่ใช้ไม่สะอาดหรือว่าทำความสะอาดบริเวณที่จะให้ไม่ดีก็จะเสี่ยงต่อการนำเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดได้ค่ะ  ซึ่งในกรณีนี้ตัวเราเองค่อนข้างซีเรียสกับจุดนี้มากกว่าการได้รับยาเกินขนาดในเคสนี้นะคะ เพราะว่าน้องแมวยังไม่ได้เป็นอะไรมากถึงขนาดช็อก

อาการแต่ละเคสค่อนข้างจะแตกต่างกันค่ะ เราไม่สามารถจะบอกได้ว่าทำอย่างนี้แล้วถูกทำอย่างนี้แล้วผิด เราเลยมาแนะนำให้เจ้าของสบายใจค่ะ

สุดท้าย อันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับเคสนะคะ แต่ว่าอยากจะฝากไว้หน่อยค่ะ
การจะเลี้ยงสัตว์ศักตัวนั้น เราควรทำความเข้าใจตั้งแต่วิธีการเลี้ยง สายพันธุ์ และพฤติกรรม ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดแต่ละตัวก็จะแตกต่างกันออกไป เจ้าของคือผู้ที่ใกล้ชิดและถ่ายทอดลักษณะอาการที่สัตว์ผิดปกติไปให้หมอฟัง หากเจ้าของไม่สนใจอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด แล้วเกิดการรักษาที่ไม่ตรงกับโรคตามมาได้เช่นกันค่ะ

และแม้เราจะทำงานมาเกือบสิบปี เราก็ยังเปิดหนังสืออยู่เหมือนกันค่ะ เพราะว่าไม่่มีใครที่จำยาทุกชนิดในหนังสือได้แน่นอนค่ะ หมอคนตอนเราไปรักษาก็เช่นกันค่ะ(บางทีก็ไปเปิดดูหลังร้านเหมือนกัน) แต่เราคิดว่าน่าจะดีกว่าการที่รักษาไปทั้งๆที่ไม่แน่ใจ เพราะถ้าทำอย่างนั้นความเสียหายจะตกอยู่กับตัวสัตว์แล้วก็กระเป๋าสตางค์ของเจ้าของค่ะ 

ความคิดเห็นของเราอาจจะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ยังไงก็แค่อยากจะฝากไว้เพื่อให้เจ้าของสบายใจ และ ไขความข้องใจเกี่ยวกับการทำงานของสัตวแพทย์ด้วยค่ะ
ยาวไปนิด

ด้วยความเคารพ
หมอจุ๋ม


บอร์ดนี้มีสัตวแพทย์ด้วยแฮะ ดีจัง
บันทึกการเข้า




ตอนนี้มีโปร $29.99 Creative Fabrica ถูกที่สุดสำหรับทำ POD,KDP
ขาย License wp theme 5 ธีมจา่ก Themeforest Newspaper, KALLYAS, Puzzle, Valenti, Jarida ราคาถูกมาก pm มาได้เลยครับ
รับทำ vdo avartar สำหรับนำเสนอ aff ต่างประเท
Neymar
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22



ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 01:38:34 »

แนะนำหาหมอทันที่ครับ
แมวบ้านผมเคยเอา ยาหยอดมัดหมา มันเลีย  เป็นเหมือนกันเลย
ต้องพาไปหาหมอครับ
บันทึกการเข้า
romeo2413
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 59
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 567



ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 02:26:29 »

เนื่องจากเป็นสัตวแพทย์และเลี้ยงแมวเหมือนกันค่ะ เลยเข้ามาแชร์ประสบการณ์ ความรู้ และอยากให้คำแนะนำ เพื่อให้ท่านเจ้าของกระทู้และท่านอื่นๆสบายใจนะคะ

ขอตอบคำถามทีละข้อเลยนะคะ

ข้อหนึ่ง ช่วง 6 โมงเย็น ให้ยาถ่ายพยาธิ ชื่อยา  Helminticide-L เฮลมินติไซด์-แอลน้องแมว อายุ 3 เดือนกว่า น้ำหนัก 1 กิโลกว่า  2 ตัว ปริมาณที่ให้ 1/4 ของเม็ด  ตอนนี้ 2 ทุ่มครึ่ง มันมีอาการเหมือนเมาแต่ไม่มาก  มองเห็นม่านตาสีขาวจากปกติไม่เคยเห็น แต่ยังเดินได้ เล่นได้ อาการเหล่านี้ผิดปกติมั้ย เป็นห่วงน้อง ช่วยแนะนำหน่อย  เมื่อกี้มีน้ำลายฟูมปากออกมาหน่อย นึง  แต่ก็ยังวิ่งเเละมาเล่นได้อยู่  จะพาไปหาหมอ ตอนนี้ก็ฝนตกหนัก และ ใช้มอเตอร์ไซค์


ทำไงดีครับ  อาการน่าห่วงมั้ย

ตอบ อาการนี้น่าจะมาจากการแพ้ตัวยาอย่างที่เจ้าของกระทู้ได้ทราบดีอยู่แล้วนะคะ แมวของพี่ก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ แต่ว่าโชคดีที่พอจะทราบอยู่ว่าสาเหตุน่าจะมาจากตัวยาเพราะได้ทำการศึกษาไว้ก่อนที่จะให้ยาแต่ละชนิดแก่สัตว์แล้วค่ะ ซึ่งคาดว่าหมอส่วนใหญ่น่าจะรู้เหมือนกันค่ะ เพราะเท่าที่จำได้ก็ทราบมาตั้งแต่เรียนปีต้นๆเลย (ถึงแม้ว่าตอนนี้จะผ่านมานมนานแล้วก็เถอะ)

ข้อที่สอง  อาการน้ำลายไหล(ไม่ใช่ฟูม)ของแมวนั้น ต้องระมัดระวังนะคะ อาจจะเป็นได้ทั้งแพ้ตัวยา ได้รับสารพิษ หรือแม้แต่กระทั่งโรคอื่นๆที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปาก หรือแมวบางตัวอาจจะเป็นพฤติกรรมของตัวสัตว์เองก้ได้ค่ะ

ข้อที่สาม การให้ยานั้น ที่ถูกที่สุดคือให้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้นค่ะ อาจจะปฏิบัติได้ยาก แต่ว่าอย่างน้อยก็คือวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัยนะคะ หากให้ยาเกินขนาดแม้จะเพียงเล็กน้อย ถ้าสัตว์ตัวนั้นมีความเสี่ยงที่จะแพ้ยาชนิดนั้นอยู่แล้ว อาจจะทำให้แสดงอาการออกมาได้ค่ะ (อันนี้เคยเจอกับน้องแมวที่เราเลี้ยงไว้เลยค่ะ ให้เกินนิดเดียวเอง ตอนนี้ยังเสียใจอยู่เลย  แต่ว่าปลอดภัยนะคะ)

ข้อที่สี่ การรักษา อาการแพ้ยาจากที่อ่านมา เราสามารถรักษาได้หลายรูปแบบค่ะ แต่ถ้าไม่รุนแรงมาก ไม่จำเป็นต้องให้เข้าเส้นเลือดนะคะ และการรักษาของหมอแต่ละคนค่อนข้างจะแตกต่างกัน เราเองก็จะมีวิธีการรักษาในแบบของเราเหมือนกันค่ะและเราก็จะไม่เบลมกันเอง
ถ้าเคสนี้มาหาเรา เราคงจะไม่ให้เข้าเส้นเหมือนกันค่ะ เพราะน้องแมวน่าจะตัวไม่ใหญ่มาก การหาเส้นเลือดในแมวเด็กจากประสบการณ์ค่อนข้างจะเส้นเล็กค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าหาไม่ได้ แต่เราคิดว่าที่หมอไม่ให้เข้าเส้น(รวมทั้งเราเอง)อาจจะมีเหตุผลเดียวกันคือ ถ้าให้เข้าเส้นแล้วน้องแมวเกิดด้ิ้นหลุดหรืออะไรก็ตาม มีความเสี่ยงสูงที่จะทให้เส้นเลือดเกิดการฉีกขาด และทีสำคัญเลยก็คือ การให้เข้าเส้นนั้น เจ้าของต้องเข้าใจนะคะว่ามันเป็นการรักษาที่ได้ผลดีก็จริง แต่ความเสี่ยงนั้นจะสูงขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากว่าถ้าเข็มที่ใช้ไม่สะอาด(ซึ่งอันนี้นั้นหมอไม่มีทางรู้ได้ค่ะ แต่ค่อนข้างจะน้อยมากๆ)หรือว่าทำความสะอาดบริเวณที่จะให้ไม่ดีก็จะเสี่ยงต่อการนำเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดได้ค่ะ  ซึ่งในกรณีนี้ตัวเราเองค่อนข้างซีเรียสกับจุดนี้มากกว่าการได้รับยาเกินขนาดในเคสนี้นะคะ เพราะว่าน้องแมวยังไม่ได้เป็นอะไรมากถึงขนาดช็อก

อาการแต่ละเคสค่อนข้างจะแตกต่างกันค่ะ เราไม่สามารถจะบอกได้ว่าทำอย่างนี้แล้วถูกทำอย่างนี้แล้วผิด เราเลยมาแนะนำให้เจ้าของสบายใจค่ะ

สุดท้าย อันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับเคสนะคะ แต่ว่าอยากจะฝากไว้หน่อยค่ะ
การจะเลี้ยงสัตว์ศักตัวนั้น เราควรทำความเข้าใจตั้งแต่วิธีการเลี้ยง สายพันธุ์ และพฤติกรรม ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดแต่ละตัวก็จะแตกต่างกันออกไป เจ้าของคือผู้ที่ใกล้ชิดและถ่ายทอดลักษณะอาการที่สัตว์ผิดปกติไปให้หมอฟัง หากเจ้าของไม่สนใจอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด แล้วเกิดการรักษาที่ไม่ตรงกับโรคตามมาได้เช่นกันค่ะ

และแม้เราจะทำงานมาเกือบสิบปี เราก็ยังเปิดหนังสืออยู่เหมือนกันค่ะ เพราะว่าไม่่มีใครที่จำยาทุกชนิดในหนังสือได้แน่นอนค่ะ หมอคนตอนเราไปรักษาก็เช่นกันค่ะ(บางทีก็ไปเปิดดูหลังร้านเหมือนกัน) แต่เราคิดว่าน่าจะดีกว่าการที่รักษาไปทั้งๆที่ไม่แน่ใจ เพราะถ้าทำอย่างนั้นความเสียหายจะตกอยู่กับตัวสัตว์แล้วก็กระเป๋าสตางค์ของเจ้าของค่ะ  

ความคิดเห็นของเราอาจจะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ยังไงก็แค่อยากจะฝากไว้เพื่อให้เจ้าของสบายใจ และ ไขความข้องใจเกี่ยวกับการทำงานของสัตวแพทย์ด้วยค่ะ
ยาวไปนิด

ด้วยความเคารพ
หมอจุ๋ม

ขอบคุณ คุณหมอ จุ๋ม ครับ

สละเวลา พิมพ์ อย่างตั้งใจ นี่ น้ำใจประเสริฐจริง ๆ  wanwan017


ดีจังบอร์ดนี้ มีทุกอาชีพ เราน่าจะแต่งตั้ง ให้เป็นทางการนะครับ
คุณหมอ ประจำบอร์ด
ทนายประจำบอร์ด
สัตวแพทย์ประจำบอร์ด
อัยการประจำบอร์ด

ขอบคุณทุกคน จริงๆ  wanwan017

ขอแอบ ถามนิดนึง ตอนนี้ อาการน้ำลายไหล ยังมีบ้างตอนตื่น แต่วิ่งเล่นกับอีกตัว เป็นปกติ  เเละเดินไม่เซเเล้ว
อย่างนี้ น่าเป็นห่วงมั้ยครับ  ตอนนี้ ยังไม่นอน เป็นห่วงแมว


หมอจุ๋ม หมอให้ ยาแก้แพ้มา (เม็ดสีเหลืองเม็ดเล็กๆ) กินพรุ่งนี้ให้กินดีมั้ยครับ ถ้า ไม่มีอาการผิดปกติแล้ว

ที่ไม่อยากให้กิน เพราะแมวกินยายากมาก และ รู้สึกกลัวที่ จะให้มันกินยาแล้ว
บันทึกการเข้า
undeath13
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 130
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,477



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 06:41:27 »

ผมรู้มาจากแม่ค้า ว่าอาหารที่แมวชอบที่สุดคือปลาทูจากตลาดนี่ล่ะครับ ไม่ต้องทอดนะ โยนให้มันเลย รับรองมันจะแข็งแรง สุขภาพดี

เสียดายครับ - -' ให้ปลาแล้วอุจจาระเหลว+เหม็น  Tongue

ให้อาหารเม็ด

สุดท้ายตอนนี้เป็นนิ้วครับ  Lips Sealed หมดค่ารักษาไปครึ่งหมื่น
บันทึกการเข้า
city
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 161
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,348



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 07:40:54 »

ผมรู้มาจากแม่ค้า ว่าอาหารที่แมวชอบที่สุดคือปลาทูจากตลาดนี่ล่ะครับ ไม่ต้องทอดนะ โยนให้มันเลย รับรองมันจะแข็งแรง สุขภาพดี

เสียดายครับ - -' ให้ปลาแล้วอุจจาระเหลว+เหม็น  Tongue

ให้อาหารเม็ด

สุดท้ายตอนนี้เป็นนิ้วครับ  Lips Sealed หมดค่ารักษาไปครึ่งหมื่น

เป็นนิ้ว  หรือ  เป็น นิ่ว ค่ะท่าน
บันทึกการเข้า

Withoon
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 09:44:06 »

มีเพื่อนผมเขาบอกว่าอาหารแมวแบบเม็ดบางยี่ห้อจะมีรสเค็ม ซึ่งจะทำให้แมวชอบกินมาก แต่จะทำให้สุดท้ายแล้วแมวจะกลายเป็นโรคไต
บันทึกการเข้า

koko1001
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 31
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 645



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 05 กันยายน 2011, 10:33:17 »

 wanwan020 ถ้าซื้อปลาทูสดมานึ่งให้เค้ากินเองได้จะดีที่สุดค่ะ  เพราะในปัจจุบันปลาทูที่วางขายกันจะใส่เกลือเยอะนึ่งแล้วแช่แข็งไว้แล้วถึงนำมาจำหน่าย จะไม่ค่อยดีต่อน้องเหมียวเท่าไหรค่ะ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3   ขึ้นบน
พิมพ์