ส่วนตัว ผมกับภรรยาเป็นคนชอบถ่ายรูปครับ และคิดว่า งานถ่ายรูปก็ไม่ต่างจากงานอื่น ๆ
กว่าเราจะรู้ว่า รูปที่ดีเป็นแบบไหน มุมไหนที่มันจะสวยที่สุด Compose ออกมาดูดีที่สุด
ต้องใช้ประสบการณ์กับการฝึกฝน และมีต้นทุนทั้งอุปกรณ์ ค่าเดินทาง รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตั้งมากมาย
กว่าเราจะได้รูป กว่าจะเลือกรูป กว่าจะออกแบบไอคอน ออกแบบ template ของเว็บ ได้เป็นเว็บเพจหนึ่ง ๆ ขึ้นมา
ต้องเสียเวลา และสิ้นเปลืองพลังสมองตั้งขนาดไหน
แล้วอยู่ ๆ มาวันหนึ่ง สิ่งที่เราทำมากับมือ ก็ไปปรากฏอยู่บนเว็บ "ruammid"
ความรู้สึกของผม คงไม่ต่างกับคำพูดของคนในบอร์ดนี้ที่เขียนไว้ว่า
"กรุณาอย่านำโปรแกรมนี้ไปขายต่อนะครับ เห็นใจคนพัฒนาโปรแกรมบ้าง"
เซ็งมาก ๆ ครับ งานเราทำมาแทบตาย คนอื่นเอาไปหาผลประโยชน์เฉย ๆ
ตอนแรกคิดว่าจะปล่อยไปเหอะ ไม่เป็นไร ช่างมันเหอะน่า
แต่หลังจากทบทวนดูอีกครั้งว่า
วันนี้ มี "ruammid" เกิดขึ้นมาแล้ว และหากทุกคนต่างพากันวางเฉย
วันข้างหน้าจะมี "รวมเว็บ" , "รวมเพจ" และ รวมอะไรต่อมิอะไร ขึ้นมาอีกมากมาย
แล้ว "สังคมคนทำ SEO" จะเป็นสังคมที่ดีได้อย่างไร ในเมื่อมีแต่สิ่งเลว ๆ เป็นต้นแบบให้คนรุ่นหลังเต็มไปหมด
หากคุณคิดว่า สังคมเช่นนั้น เป็นสิ่งที่คุณยอมรับได้ ก็ขอได้โปรดข้ามผ่านกระทู้นี้ไป
หากคุณเชื่อว่า สองมือของคุณจะร่วมสร้าง "สังคมที่ดี" ได้ .... กรุณาอ่านข้อเสนอของผมครับ
ผมอยากให้คุณ ๆ ที่โดนดูดเว็บไปไว้ใน "ruammid" ลงชื่อในกระทู้นี้ (ลงชื่อคุณอย่างเดียว และอย่าลงชื่อเว็บของคุณนะครับ)
และ print sreen เว็บของคุณ และเว็บเพจในruammid ที่ copy เว็บคุณไป เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้น วันอังคารที่ 10 พ.ค. นี้ ผมจะส่งกระทู้นี้ไปให้เจ้าของเว็บruammid
และยื่นข้อเสนอให้ปิดเว็บruammid เป็นการถาวร
หากเจ้าของเว็บruammidไม่ยินยอม ผมอยากให้ทุกท่าน ช่วยกันหาทนายร่วมเพื่อยื่นฟ้องละเมิดลิขสิทธิกับruammid
ทุกท่านสามารถเสนอชื่อทนายมาได้เลยครับ แล้วเราจะมาช่วยกันเลือกอีกที
และจะขอสรุปว่าจะใช้ทนายท่านใด ภายในวันศุกร์ที่ 13 พ.ค.(วันดีซะด้วย)
ซึ่งหากท่านใด อยากจะแยกฟ้องร้องเองต่างหาก ก็ทำได้ตามสะดวกครับ
จากนั้นเป็นการรวบรวมหลักฐาน จะนำหลักฐานยื่นฟ้องให้ได้ภายในวันพุธที่ 18 พ.ค.
เล่าให้ฟ้งว่า
มีคดีเกี่ยวกับละเมิดลิขสิทธิรูปภาพ โดยผู้ละเมิดนำรูปภาพรูปหนึ่งของสมาชิกใน pantip มาใช้ในเว็บของตน
ศาลตัดสินว่า ผู้ละเมิดต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของรูปเป็นเงิน 50,000 บาท (ย้ำอีกครั้งนะครับว่า รูปเดียวเท่านั้น)
เมื่อมีคดีตัวอย่างแล้ว การตัดสินคดีนั้น ก็จะเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินคดีครั้งต่อ ๆ ไป
ซึ่งจะง่ายสำหรับทนาย ทั้งในการพิจารณาว่าจะรับทำคดีให้หรือไม่ และในการว่าความ
และที่สำคัญ ง่ายสำหรับศาลที่จะตัดสินคดี
-----------------------------------------------------------------
หมายเหตุ
1. งานนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายด้วยนะครับ ซึ่งทางทนายก็จะบอกมาเองว่าเป็นเท่าไหร่
หรือแบ่งกันระหว่างทนายและผู้เสียหายคนละเท่าไหร่
2. หากมีการฟ้องร้องและมีการชดใช้ค่าเสียหายเกิดขึ้นจริง
หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ผมจะมอบเงินส่วนที่เหลือทั้งหมดให้องค์กรการกุศลครับ
"ผมอยากสร้างสังคมดี ๆ มากกว่าอยากได้เงิน"
-----------------------------------------------------------------
ขออนุญาตทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า ละเมิดลิขสิทธิ
การตัดสินว่า ละเมิดหรือไม่นั้น เขาดูแค่ว่า
ผู้ถูกละเมิดนั้นเป็นเจ้าของลิขสิทธิของ content จริงหรือไม่
และผู้ละเมิดนั้น นำ content ไปใช้จริงหรือไม่
ถ้าสองอย่างข้างบนจริง ก็ตัดสินได้แล้วครับ
ส่วน source of contents ศาลไม่สนใจหรอกครับว่า
ผู้ละเมิดจะได้ source of contents ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือ wording มาจากที่ไหน
หากคุณไป scan รูปมาจากนิตยสารอะไรสักอย่างแล้วนำไปใช้ แล้วถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ
ศาลไม่นำสืบหรอกครับ ว่า Source of content ซึ่งในที่นี้คือนิตยสารเล่มนั้น คือหนังสือชื่ออะไร ใครเป็นเจ้าของ
ในกรณี raummid ก็เช่นกัน
ศาลจะไม่เสียเวลานำสืบว่า ผู้ละเมิด ได้ Source of contents จาก google หรือจากเว็บอะไร หรือจาก frame ชนิดไหน
Source of contents เป็นแค่เปลือกครับ
แก่นของคดีคือ ผู้ละเมิดนำ content ของเราไปใช้จริงหรือไม่
ลองทำความเข้าใจกันใหม่นะครับ