กรณีนี้ จะต้องโทษคนบริหารจัดการ จะแก้ปัญหาอย่างนึง ไปสร้างปัญหาใหม่อีก 10 อย่าง ปัญหาเก่าก็เละทะ
เบื่อมากคนที่บอกว่า ต้องไปให้ รัฐบาล แก้ปัญหา ตัวคนกินเองยังแก้เองไม่ได้ ก็ไม่ต้องกินมันครับ
เลิกกินครับ ไม่ต้องเสียเงิน เลิกบ่นครับ เอาเวลามาบ่น ไปทำมาหากินครับ
มุมมองของผม มองการบริการจัดการด้านการเกษตร
ผมคิดว่า ถ้าตัวเกษตรกรเอง ยังแก้ปัญหาเองไม่ได้ จะรัฐบาลไหน ก็ต้องคอยตามแก้ตลอดไปเหรอครับ
ผมรู้จักคนที่ทำเกษตรแล้วรวย เริ่มตั่งแต่ไม่มีอะไรเลย หลายคน
แล้วก็คนที่ทำเกษตรแล้วจน ก็ยังจนต่อไป
ผมรู้จักคนหลายคน ทำอาชีพเดียวกัน บางคนรวย บางคนจน
ผมว่า คนที่เค้าไปได้ดีกว่า เค้าก็คงจะไม่ได้หวังให้มีคนมาช่วยตลอดไปหรอกนะครับ
ผมว่าเท่าที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี่ เราก็ช่วยเกษตรกรเรามาก ๆ ๆ ๆ แล้ว
เคล็ดลับการเลี้ยงหมูให้รวย ถ้ามันเลี้ยงรวยกันทุกคน ประเทศนี้ก็ไม่มีคนจน เพราะเลี้ยงหมูรวยกันทุกคน (เจ๊งพร้อมกันทั้งประเทศแน่ ๆ )
แต่คนที่เลี้ยงแล้วรวย เค้าก็ไม่ได้เลี้ยงแบบ ปล่อยปะ ละเลย เลี้ยงให้อย่างดี
ตามมาตรฐานโรงงาน ตั่งใจทำ เช่น คนที่ผมรู้จัก สนิทกันเลี้ยงหมู ในบริเวณใกล้เคียง มีฟาร์มหมูกว่า 30 แห่ง
แห่งที่ได้รายได้ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องใหญ่ที่สุด แต่เค้าใส่ใจเลี้ยงดีที่สุดนะครับ
ส่วนพวกคนที่โวยวายมักจะทำชุ่ย ๆ พอไม่ได้ผลเหมือนคนอื่น ๆ ก็ไปโทษคนนู้น คนนี้ โทษมั่วซั่ว ไปเรื่อย
มันมีทุกอาชีพแหละครับ ทำอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น ทำดีได้ดีครับ
ไม่อยากบอกเลยว่า บ้านผมทำเกษตรมาหลายอย่างมาก ที่เจ้งก็เยอะ ที่ได้ดีก็มีถมไป
แต่เรารู้จักปรับเปลี่ยน รู้จักพัฒนา รู้จักหาความรู้ คนที่เริ่มทำพร้อม ๆ กันมาสมัยผมยังเด็ก
ก็ยังทำกันเหมือนเดิม
จนเหมือนเดิม สิ่งที่เค้าขาด ไม่ใช่ขาด
คนสนใจที่จะดูแลอย่างจริงจัง นะครับ
เค้าไม่ดูแลตัวเองครับ ที่เค้าขาดจริง ๆ คือ ระเบียบ วินัย และการพัฒนาตนเอง
ผมว่า รัฐช่วยเหลือเยอะมากครับ แต่คนที่ รอคอยแต่ความช่วยเหลือ ช่วยเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นมา
คนที่ช่วยแล้วไปได้ดี เค้าก็ไปต่อ แต่มันมีคนอีกหลายคน ช่วยแล้ว ก็ต้องช่วยต่อไป ตลอดปี ตลอดชาติ (เจอะมาหลายคน)
ปัญหาหมูแพง ผมว่า ของมันแพงขึ้นทุกอย่าง ไม่ใช่แค่หมู ทองคำก็แพง น้ำมันพืชก็แพง ผักก็แพง ยาสระผม ยาสีฟัน อะไร ๆ ก็แพง
แต่ที่ไม่แพงก็คือ ค่าแรง เพราะอะไร?


เพราะมีคนขายแรงเยอะมั้งครับ พอของมีเยอะ มันก็เลยถูกไงครับ
ถ้าใช้สมองเยอะ ๆ ค่าแรงก็จะแพงเองครับ เพราะไม่มึคนขายแรงงาน มีแต่คนหันไปใช้สมองกันหมดแล้ว
ถึงวันนึง รัฐก็ต้องออกมาแก้ปัญหา ขาดแคลนแรงงานราคาถูกอีกหรือเปล่า เพราะมีแต่แรงงานราคาแพง
ยกตัวอย่าง ผมจ้างคนทำงาน เฉพาะงานบางประเภท มีพนักงาน 10 คน ทำแบบเดียวกัน
เชื่อไหมว่า ผมยังสามารถแบ่งผลงานออกมาได้อีกหลายระดับ เช่น นาย ก. ทำได้ดีมาก นาย ข.ทำได้ดี นาย ค. ทำได้พอใช้
นาย ง. ทำได้แย่มาก นาย จ. ทำได้โคตรแย่ นาย ฉ. ทำได้โคตรบรมห่วยแตก .....................
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไทย ลูกน้องผม นาย ก. ปัจจุบัน ซื้อรถป้ายแดง ซื้อที่ดิน ปลูกบ้านเพิ่มเติม
เพราะผลงานที่เค้าตั้งใจทำงาน ใส่ใจทำงาน รับผิดชอบผลงาน ไม่เป็นพวก ทำลวก ๆ หรือ พวกทำน้อย แต่อยากได้เยอะ
คนแบบนี้แหละครับ ประสบความสำเร็จ ส่วนอีกหลาย ๆ คนที่ผมจ้าง ก็มีตั่งแต่ระดับ นาย ข. ไล่ลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งมีจำนวน
มากกว่า นาย ก. อยู่เยอะครับ ส่วนประเภท นาย ง. ลงไป ถึงนาย จ. ผมก็ค่อย ๆ เชิญออกไป หาคนใหม่ มาลองทำแทนไป
จริง ๆ แล้วงานทั้งหมดไม่ได้แตกต่างกันเลยครับ แต่คนที่เค้ามีความรับผิดชอบ ความใส่ใจ เค้าสามารถทำสิ่งเดียวกัน
สิ่งที่คนอื่นคิดว่าทำไม่ได้ ให้มันทำออกมาได้ครับ ผมเบื่อไอ้พวกคนกระจอก วัน ๆ ไม่ขยัน ไม่ค่อยทำอะไร ทำก็ทำแบบขอไปที
ทำแล้วก็ไม่เรียบร้อย แบบอย่างที่ดีก็มีให้ดู ก็ไม่ทำ นึกจะหยุดก็หยุด ไม่เคยวางแผนการใช้ชีวิต หรือ การทำงาน
ทั้ง ๆ ที่ทางเราก็สอน และ แนะนำการดำเนินการใช้ชีวิตให้ (จริง ๆ เรื่องพวกนี้ ไม่ควรไปสอนกันแล้วนะ)
แต่มันก็ยังมีคนประเภท นาย ค. ..... นาย ง. นาย จ. อยู่อีกเรื่อย ๆ
คนที่จะเป็น นาย ก.ได้ จะต้องเป็น นาย ข. ที่รู้จักการพัฒนาตัวเองครับ แล้วจะก้าวเข้าสู่ นาย ก.
นาย ก. อาจจะพัฒนาตนเอง จนมาเป็น คู่แข่งที่น่ากลัวของนายจ้างได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว
แต่คนไทยส่วนใหญ่ คอยแต่จะรอรับความช่วยเหลือ ก่อนลงมือทำอะไร ก็ไม่เคยมองหน้ามองหลัง คิดแค่ว่า อยากปลูกพืชก็ปลูก
ไม่มีการวางแผน ลองคิดดู ถ้าจะข้ามถนน แล้วไม่มองซ้ายมองขวา ความเสี่ยงจะมีมากขนาดไหน ที่จะถูกรถชน
แต่ถ้าเรามองซ้าย มองขวาก่อน โอกาสพลาดก็มีน้อย แต่คนพวกนี้ ทำเกษตรมาเป็นสิบ ๆ ปี ก็ไม่เคยคิดจะวางแผนเลย
แค่นี้ ผมก็หมดหนทางช่วยเหลือครับ ตัวเค้าเองช่วยตัวเองได้น้อยเกินไป ต่อให้คนอื่นไปช่วย ก็ไม่ได้ดีขึ้น
เพราะตัวเค้าเอง ไม่เคยที่จะใช้สมองคิด แล้วไตร่ตรองดูความเป็นจริง รอบ ๆ ตัวเอง. Copy คนอื่น ๆ แม้แต่ความขี้เกียจ ก็ Copy มาครับ
คนที่บอกว่าวันนี้หมูแพง วันหน้า เค้าก็อาจจะบอกว่า ไก่แพง แต่เค้าจะไม่บอกว่า น้ำมันแพง เพราะน้ำมัน แพงจริง ๆ
และรัฐบาลก็ไม่มีทางแก้ปัญหาน้ำมันแพงได้ ถ้าหากเรายังพึ่งพาน้ำมันเป็นหลัก ในการพัฒนาประเทศ (ระดับโลกยังแก้ไม่ได้เลยครับ)
น้ำมันแพง ก็จะพาทุกอย่างแพงขึ้นไปด้วย ดังนั้น หมูแพง เป็นเรื่องปกติครับ!!!!
เมื่อก่อน ก๋วยเตี๋ยว 1 บาท (สมัยผมเด็ก ๆ ) ตอนนี้ ก๋วยเตี๋ยว 25 - 30 แพงกว่าเมื่อก่อนตั่งไม่รู้กี่เท่า
ที่ถูกต้อง เราต้องบอกว่า ข้าวของทุกอย่างราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ
แต่วิธีแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงนั้น ผมว่าไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลเลยครับ อยู่ที่ตัวคนซื้อครับ ถ้าคนซื้อรู้จักที่จะ
หาเงินมาให้ได้เหมาะสมกับฐานะการครองชีพแล้วหล่ะก็ ไม่มีอะไรแพงหรอกครับ
ของแพงของคุณอาจจะเปลี่ยนเป็น อาหารในภัตราคารหรู อะไรแบบนี้แทนที่จะบอกว่า หมู แพงไงครับ
ข่าวชอบบอกว่า รัฐแก้ปัญหาไม่สำเร็จ ผมว่า ไม่มีรัฐบาลไหนแก้ได้หรอกครับ เพราะมันอยู่ที่ เวลา
ลองอ่านยอนขึ้นไปเรื่อง ก๋วยเตี๋ยวสิครับ เดี๋ยวอีกหน่อย คนก็จะชินชากันไปเอง ถ้าหากินกันไม่ได้จริง ๆ ก็มองสภาพแถว ๆ Afirica ไว้ครับ
แถวนั้น คนไม่่มีอาหารกินก็ยังพอมีชีวิตอยู่รอดได้ครับ
กินดิน กันไงครับ
ถ้าไม่อยากลำบาก ก็จง ขยัน ๆ กันนะครับ
ทำแล้วเจ๊งกะบ้ง ก็ลุกขึ้นมาทำใหม่ครับ ถ้าตอนเป็นเด็ก คุณหัดเดินก้าวแรกแล้วล้ม แล้วไม่ยอดลุกขึ้นมาเดินต่อ ตอนนี้คุณอายุ 20 ปี คุณก็เดินไม่เป็นครับ
ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ ผมบอกเลยว่า อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ครับ หรือคุณจะบอกว่า ตอนนี้คุณยังคลาน 4 ขาอยู่
ปัญหาข้าวของแพง ผมว่ามันไม่ใช่ปัญหาเลย มันอยู่ที่การมองปัญหามากกว่า การแก้ปัญหามันอยู่ที่ตัวคุณเอง
ไม่ต้องรอให้ รัฐบาลไหน ๆ มาแก้ให้หรอกครับ เริ่มต้นตอนนี้ ด้วยตัวเองครับ
แล้ว อนาคต คุณจะเลิกบ่นเรื่องอาหารแพง หมูแพง น้ำมันแพง แต่ไปบ่นว่า อาหารที่แพงกว่านี้ ดีกว่านี้ อร่อยกว่านี้ มีอีกไหม! เอามาเลย!!!!
มีความรู้ เหมือนมีทรัพย์ อยู่นับแสน จำคำนี้ได้ไหมครับ
ถ้ารู้อย่างเดียว ไม่เอาออกมาใช้ ก็ไม่มีประโยชน์นะครับ ถ้าเอาออกมาใช้ ก็เป็นได้ได้ว่าเค้าจะเลิกบ่นว่า หมูแพง เพราะหาเงินได้เพิ่มขึ้นครับ!!!
หรือ ทางเลือกสุดท้าย อยู่ในกะลาก็ OK ครับ เพราะอาจจะไม่เคยกินหมูเลย และ ไม่เคยรับรู้ว่าหมูแพง (ปลีกวิเวก โดดเดี่ยวไปเลยครับ)
ผมแนะนำเคล็ดลับ การแก้ปัญหาให้กับทุกคนที่บ่นว่าหมูแพงให้ฟังเอาไว้เป็นแนวทางปฏิบัตินะครับ
อ่านแล้ว ทำตามด้วยนะครับ
ลองทำงาน ทำงาน และ ทำงาน
จนรู้สึกว่า ทำวันละ 25 ชั่วโมง ดูนะครับ
แล้วหาทางทำให้ได้หลาย ๆ วัน ทำให้ได้ประจำ
เอาตัวอย่างง่าย ๆ มีคนบอกว่า พนักงาน 7 - 11 ได้เงิน ชั่วโมงละ 27 - 29 บาท
ถ้าทำเต็มที่ 24 ชั่วโมง (โคตรคนเหนือมนุษย์) ได้วันละ 640 - 690 โดยประมาณ ถ้าทำแบบไม่พักเลย
ทั้ง 30 วันก็จะได้เงินประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน
มองดูแล้ว โคตรเหนื่อย + ไม่เห็นหนทางรวย แต่ถ้าใครทำได้
รวยแน่นอน เพราะ ไม่มีเวลาใช้เงิน อิอิ !!!!!
ดังนั้น ขยัน + ประหยัด + อดทน รวยครับ!!!! นี่แค่งานใช้แรงงานอย่างเดียวนะครับ
บางคนมองก่อนเลยว่า แบบนี้ ตายตั่งแต่ สามวันแรกแล้ว ผมว่า ก็คงจริง
แต่ผมอยากให้มองตรงคำว่า
ไม่มีเวลาใช้เงิน น่ะครับ (เริ่มที่ประหยัดก่อนเลยครับ)
แน่นอนว่า ถ้าใครยอมแพ้ตั่งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ก็คงไม่ต้องพูดถึงอนาคต เพราะแค่เริ่ม ก็ขาดไฟในการทำงานซะแล้ว
ถ้าเอาแบบ ทำได้แน่นอน แบบโคตรขยัน ไม่เอาแบบ โคตรคนเหนือมนุษย์แล้ว ก็น่าจะทำงานวันละ 15 ชั่วโมง สมมุติค่าแรง 7 - 11
ได้ ชั่วโมง ละ 26 - 29 บาท ต่อชั่วโมง ก็ประมาณวันละ 400 บาท ก็จะได้ประมาณเดือนละ 12,000 (นี่แบบไม่หยุดเลยนะ 30 วัน)
ดูเหมือนว่า ไอ้งานใช้แรงงานเนี่ย ทำยังไงก็ไม่รวยเป็นแน่แท้ ผมแนะนำให้ ทำไปด้วย คิดไปด้วย
ถ้าใช้แรงทำงาน ก็น่าจะไม่ได้มากไปกว่านี้อ่ะครับ
ทำให้ตายก็ไม่รวยครับ (เนื้อหมูสำหรับคุณก็ยังแพงเหมือนเดิม)
ดังนั้น มองต่อไป ทำอย่างอื่นดีกว่าครับ ที่ไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่ใช้สมองให้มากหน่อย
แต่ก่อนอื่น ก่อนที่จะเริ่มทำอย่างอื่น คุณต้องเหนื่อยก่อนครับ เพราะ ต้องใช้แรงกาย หาเงินทุนก้อนแรก และต้องหาได้แบบเหน็ดเหนื่อยแบบสุด ๆ แบบเกินขีดจำกัดของร่างกาย แล้วมันจะสอน ให้ตัวคุณเห็นค่าของเงินก้อนแรกครับ
คุณจะรู้จักใช้มันอย่างรู้คุณค่า และ เห็นคุณค่าของมัน ไม่ใช้แบบ ฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย เหมือนกับว่าหามันมาได้ง่าย ๆ
และมันคือแรงพลักดันในชีวิตของคุณ ให้คุณหามันต่อไป ถึงตอนนี้ มันจะแสนขมขื่น ทรมาณแบบสุด ๆ
แต่วันนึง คุณต้องเริ่ม คิด พัฒนา ปรับปรุงตัวเอง เพราะผมว่า ประสบการณ์จากการที่คุณได้เป็นคน ขยันแบบสุด ๆ
ทำงานแบบมีระเบียบ วินัย ยิ่งทำงานหนัก งานเดิมซ้ำๆ กันมากขึ้น คุณก็คงต้องเริ่มคิดบ้างแล้วหล่ะว่า จะทำยังไง
ให้เหนื่อยน้อยลง แต่ได้เท่าเดิม หรือได้มากขึ้น มาถึงตรงนี้ ประสบการณ์มันจะสอนคุณเองอะไร ๆ ที่เคยเห็นว่าเมื่อก่อนมันยาก แต่เมื่อผ่านประสบการณ์การทำงานอันโชกโชนมาแล้ว ไอ้ที่เคยคิดว่ายาก
วันนี้ มันช่างง่าย เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก
ยิ่งคุณขยันทำหลาย ๆ อย่าง คุณก็ยิ่งเก่งหลายอย่าง ยิ่งขยันทำไม่หยุด ก็ยิ่งเชี่ยวชาญ ยิ่งชำนาญในงาน ยิ่งมีประสบการณ์ ยิ่งเห็นในคุณค่าของเงิน คุณค่าของเวลา คุณค่าของหยาดเหงื่อที่ได้เสียไป
สมองคุณก็จะยิ่งพัฒนา เมื่อคุณมีเวลาว่าง เอาไปอ่านหนังสือหรือ หาความรู้ นะครับ เอาไปพักผ่อน อย่าเอาไป เล่นเกมส์ เตร็ดเตร่ หรือ สร้างความเดือนร้อน
หรือเอาเวลาว่างไปกินเหล้า เมายา ถ้าเอาเวลาที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว ไปทำอะไร ๆ ที่ไม่มีประโยชน์
ปัญญาก็จะไม่เกิด อนาคตก็มืดมน สิ่งที่ไม่ดี ก็จะดึงให้คุณตกต่ำ
ถ้าทำอย่างที่ผมบอกแล้วยังไม่รวย ผมว่าโลกนี้คงมีแต่คนจน
บางคนบอกว่า ทำแบบที่ผมให้ทำเนี่ยเหนื่อยตายเลย
ผมว่า มันต้องเหนื่อยแน่ ๆ ครับ หลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จก็ล้วนแต่ผ่านจุดที่ต้องเหนื่อยสุด ๆ กันมาแล้วทั้งนั้น
แต่ผมยังจำข้อความได้ข้อความหนึ่ง ผมไปเจอข้อความนี้ที่วัดสวนแก้ว
"ความเหนื่อย เมื่อเรานอนหลับ ตื่นขึ้นมาแล้ว มันก็หายเหนื่อย"ดังนั้น อย่ากลัวเหน็ดเหนื่อยครับ ทำงานหนัก ร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
ผมว่า เรายอมเหนื่อยตอนที่ร่างกายเรายังเอื้ออำนวย ยังดีกว่ารอไปเหนื่อยตอนอายุมาก ๆ แล้วนะครับ
เลือกกินอาหารดี ที่ไม่แพง กินที่เหมาะสมกับฐานะ รู้ว่าอะไรแพง อะไรไม่แพง
ถึงตอนนี้ คงไม่ต้องมีใครมาบอกคุณว่า อะไรแพง หรือ ไม่แพง เพราะเงินทุกบาท ทุกสตางค์ มันเหมือนกลั่นมาจาก
สมองของคุณ กลั่นมาจากความเป็นตัวตนของคุณ เงินเป็นสิ่งที่หามาได้ทุกเมื่อ เพียงแค่ใช้อย่างพอเพียง เหมาะสมฐานะ
ประสบการณ์หาซื้อไม่ได้ครับ ต้องออกไปคว้ามาเอง
ป.ล. หมูต้องแพงกว่านี้ ฉะนั้น เลิกบ่นว่าหมูแพงซะที ถ้ามีสมอง
อีก 2 ปี หมูน่าจะอยู่ที่ ก.ก. ละ 200 บาท++ (ถ้าคุณรอดชีวิตจาก 2012 ไปได้นะ) เพราะตอนผมเด็ก ๆ หมู ก.ก.ละ 20 - 30 บาท
ทุกอย่าง ล้วนแพงขึ้นเสมอ เพียงแค่ไม่ต้องตกใจไปกับมัน เราใช้แค่คติง่าย ๆ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
แต่ถ้า วันนี้ขี้เกียจ ไม่ทำงาน หรือ ทำน้อย ทำโดยใช้แต่แรง ไม่ใช้สมองให้มากขึ้น วันไหน ๆ หมูมันก็แพงครับ เพราะไม่มีเงินไปซื้อไงครับ!!! แพงมาตั่งแต่อดีตแล้วไงครับ!
ส่วนหมูธงฟ้า คือ ราคาหมู ที่ตัดกำไรพ่อค้าคนกลางออกไป แต่ถึงยังไงก็ไม่ได้แก้ปัญหาได้อย่าง ยั่งยืน ถาวร เพราะ อนาคต วันพรุ่งนี้ หมูจะแพงขึ้นไปอีก!!!!!!
จะธงสีไหน หมูก็จะแพงขึ้นไปอีก คนที่ไม่พัฒนาตัวเอง ขี้เกียจ ก็จะบ่นว่าของแพงต่อไปอีก ฉันใดก็ฉันนั้น.......................................
1 วันมี 24 ช.ม.
ทำงาน 15 ชั่วโมง นอน 8 ชั่วโมง รวม 23 ชั่วโมง
อีก 1 ชั่วโมง เอาไว้เพื่อสำหรับ การเดินทาง / อาบน้ำ
ขยันเท่านั้นครับ ที่จะทำให้คุณเลิกบ่นคำว่า หมูแพง หมูแพง หมูแพง หมูแพง................ หมูแพงโว้ย.ยยยย..............ไปนอนแล้ว.... 
Edit แก้คำผิด