พอดี เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปปฏบิติธรรมวัดมเหยงคณ์ และรู้สึกประทับใจมาก เลยเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกัน เผื่อมีใครสนใจจะอยากไปบ้าง
ผมเพิ่งไปวัดนี้ครั้งแรกปกติไปที่อื่นและทำที่บ้านส่วนใหญ่ แต่คราวนี้ไม่ได้ไปนาน เลยลองหาออกนอกสถานที่บ้าง เลยลองไปวัดมเหยงคณ์ดูใกล้กรุงเทพด้วยไปสะดวก ก่อนหน้านี้มองๆ หาที่ปฏิบัติธรรมส่วนตัว ธรรมชาติ สามารถปฏิบัติได้เอง พอมาเจอวัดนี้ ใช่เลย
สถานที่: คือที่วัดจะเป็นแนววัดป่า นั่งในสวนของวัด ตามร่มไม้ โขดหิน เดินจงกรมลานดิน ร่มรื่นเย็นสบายดีครับ
เวลาการปฏิบัติ: ไม่เคร่งครับ สบายๆ มาก เคยทำมาไงก็ทำงั้นต่อไปได้เลย เวลาก็จะมีรอบเช้ามืด สาย บ่าย เย็น และหัวค่ำ แต่ก็ไม่ได้บังคับ ว่าต้องมาทำต้องมาปฏิบัติเท่านั้น เท่านี้ ใครทำก็ของของคนนั้น ดีมากครับ ตอนเช้ากำหนดให้มาพร้อมกกันตี 4.30 น. เพื่อเตรียมทำวัตรเช้า ตี 5 แต่ก็จะมีมาก่อนตี 3 มาเดินจงกรมนั่งสมาธิ บ้าง แต่อันนี้เขาก็จะมากันเอง ไม่มีใครเรียกใคร ออกกันมาก่อนกันเองเพื่อปฏิบัติกัน
เวลาพัก: ก็หลังกินข้าวเช้า กลางวัด และดืมน้ำปาณะ เสร็จก็จะให้ทำภาระกิจส่วนตัวได้ เข้าตึกนอน หากไม่ใช่เวลาก็จะปิดไว้
อาหารการกิน: กินแค่ 2 มื้อเหมือนวัดทั่วไป เช้า กลางวัด บ่ายๆ น้ำปาณะ (ยกเว้นนม ไม่ถือเป็นน้ำปาณะ หลวงพ่อบอกว่าถือเป็นอาหารปาณีต แต่ไปอยู่แบบนั้น มันก็ไม่หิวไปเอง) ตอนเช้ากินกันประมาณ 8 โมง เป็นอาหารที่พระไปบิณฑบาตมา หรืออาหารมังสาวิรัตที่ทางครั้งจัดเตรียม กลางวันก็ราวๆ 11 โมง
ที่พัก: แบ่งห่างกันชายหญิง ผมไปกับแฟนก็แทบไม่เจอไม่ได้พูดคุยกันเลยจนวันกลับ ของชายจะอยู่เข้าไปในโซนกุฏิสงฆ์ด้านในเข้าไปอีก เป็นการพักแบบนอนรวมเรียงยาวรวมกันไป มีหมอน เสือ มุ้ง และพัดลมเพดานให้
กิจกรรมอื่นๆ (ชาย): อันนี้ผมได้ไปถือยามช่วยหลางตาบิณฑบาตมาด้วย ดีครับ ดีมาก ก็เลือกเอาจะไปกับพระกับหลวงพี่ หลวงตารูปไหนก็ไปได้ครับ หากว่างไม่มีคนไปด้วยก็อาสาได้เลย ไปเช้าๆ เช้าหลังทำวัตรเช้าเสร็จประมาณ 6 โมง ก็ไปกันเลย กลับมาก็เอาอาหารไปโรงครัวให้แม่ชี และอุบาสิกาจัดต่อไป ส่วนผมก็เอายามมาเก็บหากเหลือเวลาก็ได้ทำธุรส่วนตัวบ้าง หากไม่มีก็ไปปูเสื่อรอหน้าถ้ำเพื่อกินอาหารเช้าต่อ.. ผู้ชายดีมาก ได้ร่วมกินอาหารพร้อมที่พระสงฆ์ฉันท์ไปด้วย ได้พบหลวงพ่อสุรศักดิ์ทุกวันเลย เห็นพระพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วก็รู้สึกดี.. ยามบ่ายซัก 3 โมงครึ่ง ก็จะเป็นเวลากวาดลานวัด ส่วนกิจกรรมอย่างอื่นก็ตามแต่ทางวัดจะขอความช่วยเหลือ หรือมีให้ช่วยก็จะรีบๆ ช่วยกันช่วยกันไป
ผมเสียดายแค่ว่าได้ไป 2 วัน ไม่ติดว่าต้องกลับมาจัดการเรื่องงานจะอยู่ถึงวันมาฆบูชาเลย แต่ถึงแค่ 2 วันก็รู้สึกแล้วว่ามันช่างคุ้มค่ากับชีวิตจริงๆ เพราะแทบไม่ได้เข้าตึกนอนเลย นอกจากนอนตอนกลางคืนหรือล้างหน้าล้างตา นอกนั้นแบ่งเวลาให้การปฏิบัติ และกิจกรรมทางวัด เกือบหมด วันสึกผู้ชายจากน้อยๆ อยู่แล้ว ก็สึกกันเกือบหมด เหลือกันไม่กี่คน ไม่ถึง 5 คนเอง และใครจะไปบิณฑบาตรช่วยหลวงตา หลวงพี่กัน บางสายหิ้วย่ามกัน 4 ใบ 8 ใบ หนักๆ ทั้งนั้น ร้องเท้าก็ไม่ได้ใส่ วันไหนไม่มีลูกศิษย์ไปก็หิ้วกันมาเอง เหนื่อยมากๆ เอามาแล้วก็แบ่งให้ผู้ปฏิบติธรรมได้กินกันทุกคน ผู้ปฏิบัตที่เป็นหญิงเยอะมาก แต่ไม่สามารถทำหน้าที่เหล่านี้ได้ แต่ผู้ชายก็เข้าวัดน้อยไม่ค่อยพอเท่าไหร่ ใครไปก็ไปช่วยๆ กันนะครับได้บุญเยอะเลย เดี๋ยวมีโอกาสคงได้ไปอีก..
ผมไม่ได้เอากล้องไปเลยไม่ได้มีเวลาเก็บภาพมาฝากเลย แต่ลองหาดูรูปในเน็ตน่าจะเยอะมากครั้ง และเชื่อว่าหลายๆ คนก็น่าเคยไปมาบ้างแล้วไงลองมาเล่านะครับว่าเป็นไง
ขอนุญาต และขอบคุณพื้นที่บอร์ดที่ให้โพสในครั้งนี้ และขอแบ่งบุญให้กับทุกท่านๆ ครับ

Himalayan