ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.com< กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน)สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe)ไทยโชว์เหนือ! ค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 2 ของ ASEAN
หน้า: 1 2 3 [4] 5   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ไทยโชว์เหนือ! ค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 2 ของ ASEAN  (อ่าน 7255 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #60 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 12:15:48 »

ที่จริงผมก็ไม่ได้เครียดอะไรครับ  แต่เวลารุ้มันก็ต้องรู้ให้จริงแล้วรู้ให้ละเอียด

เช่นพ่อค้าหมู  ไก่รายย่อยจะตายเพราะผุ้ค้ารายใหญ่  ราคาสินค้าในการบริโภค

สินค้าทุกตัวล่ะครับ  เกิดจากนักการเมือง  +  พ่อค้ารายใหญ่ฮั้วกันเพื่อกำหนด

นโยบายเพื่อกำหนดทิศทางราคาสินค้าแต่ละตัว  สภาพสถานการณ์ปัจจุบันเป็น

แบบนี้ 

ส่วนเหตุอื่น ๆ  มันเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้นเอง  แต่ถ้าบ้านเรามีการเมืองที่ดีปัญหา

ทุกปัญหาแก้ได้หมดล่ะครับ
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
ก้ามปู
เสือซุ่มด่า
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 218
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,195



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #61 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 12:43:18 »

ไม่อยากออกความเห็นเพราะนี่เป็นเรื่องการเมืองแท้ ๆ  เลย  แต่จะเล่าให้ฟังเมื่อวานแม่บ้านจะไปซื้อไข่เบอร์ 0  แต่ไปหาซื้อไม่ได้

ทั้ง ๆ  ที่มีข่าวว่าตอนนี้หน้าฝนมีอุปสงค์น้อยกว่าอุปทาน  ราคาน่าจะถูกลงแล้วของหน้าจะซื้อง่าย  อันนี้มีเหตุเดียวเลยครับคือการ

กักตุนสินค้าทำให้สินค้าขาดตลาดจะได้สร้างอุปทานเทียมขึ้นมา  แล้วอุปทานเทียมนำไปสู่การขึ้นราคาสินค้าโดยอ้างเหตุมาจากอุปทาน

มากกว่าอุปสงค์  นี่เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นแล้วสำหรับประเทศไทยนี่ปัญหานี้เลยครับ  ปัญหาอื่น ๆ  ก็มีแต่ไม่ได้สำคัญเท่า

คุณมั่ว ครับ...ช่วงนี้ช่วงเปิดเทอม ความต้องการซื้อมากกว่าขาย....

ผมเคยทำฟารมไข่

ช่วงนี้เนื้อสัตว์ราคาขึ้น ไข่ก็ต้องขึ้นตามเพราะอุปสงค์เยอะขึ้น

จากประสพการณ์การเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่มา หน้าฝนสัตว์จะให้ผลผลิตน้อย
แต่ที่ราคาพยุงอยู่ได้เพราะอาหารธรรมชาติออกมาเยอะกว่าหน้าอื่น
แต่ตอนนี้อาหารธรรมชาติลดลง เพราะมีการใช้สารเคมีในการเกษตร
คนที่ทำไร่ไถนาจะรู้ดีว่าทุกวันนี้แม้แต่ปลาตามไร่นายังอยู่ไม่ได้
 แช่น้ำในนานานๆจะเจอพิษยาฆ่าหญ้า แล้วปลามันจะอยู่เหรอ
คราวนี้ก็มาโทษว่ารัฐบาลไม่ควบคุมอีก ทั้งๆที่รัฐพยายามผลักดันให้ลดการใช้ยาฆ่าหญ้า
กรมวิชาการเกษตรก็โดนชาวบ้านด่าประจำ หาว่าเป็นเสือกระดาษ
เกษตรกรไม่เชื่อ ใช้สารเคมีฉีดหนะดีแล้ว รัฐก็ทำอะไรไม่ได้
แต่พอชักหน้าไม่ถึงหลังมาก็โบกให้รัฐมาช่วยอีก คราวนี้ก็ด่ารัฐกันใหญ่หาว่าไม่ช่วย

ดังนั้นบางทีก็ดูด้วยว่าเป็นเพราะการบริหารรึสันดานคน ไม่ว่าใครบริหารก็จะแก้ปัญหานี้ไม่ได้
เพราะสันดานคนก็ยังพาให้ไปกินชาบูชิอิ่มละ 289 ดีกว่ากินจิ้มจุ่มข้างทางอิ่มละ 139 บาทอยู่ดี

ราคาไข่มันเป็นกลไกตลาดจริง ตอนนี้คนเลี้ยงเป็ดไขก็ทำขายแทบไม่พอ เพราะคนซื้อกินเยอะขึ้น

จากใจคนเลี้ยงหมู

อันนี้มีส่วนถูกครับตรงที่เดี๋ยวนี้ใช้สารเคมีกันเยอะขึ้น  ต้นเหตุมาจากการใช้เศรษฐกิจแบบทุนนิยม

ส่วนทุกอย่างเดี๋ยวนี้มันไม่ได้เป็นไปตามกลไกการตลาดแล้วครับ  เดี๋ยวนี้เขาไม่ได้เลี้ยงสัตว์ปลูก

พืชไว้กินอยู่แล้วแต่เน้นผลิตเพื่อขาย  แล้วมีนักการเมืองร่วมกับบริษัทค้ายาค้าปุ๋ยรวมทั้งอาหาร

สัตว์ข้ามชาติ  มาส่งเสริมให้ใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อเร่งผลผลิตให้ออกได้มาก ๆ  จะได้ขายได้มาก ๆ  

ส่วนสิ่งที่คุณว่ามานั้นเป็นผลที่เกิดขึ้นตามมา

เรื่องราคาไข่จะถูกหรือจะแพง  หรือสิ้นค้าอะไรจะถูกหรือจะแพงพวกนี้เค้าวางแผนกันเป็นปี

ผมยกตัวอย่างก่อนน้ำมันปาล์มจะขึ้นราคาจาก ขวดละ 38  เป็นขวดละ  47  นโยบาย

กระทรวงพานิช  ตอนปีที่แล้วในช่วงน้ำท่วม  ซึ่งผลผลิตปาล์มได้รับผลกระทบ  แต่แล้ว

มีนโยบายให้ส่งน้ำมันปาล์มออกไปขายต่างประเทศ  พอน้ำมันปาล์มขาดตลาดก็ขึ้น

ราคาตามฟอร์มครับ  แล้วพอน้ำมันปาล์มขึ้นราคาปุ๊บของก็ทะลักเข้าเต็มห้างราวปาฏิหารย์

ก่อนหน้าที่ของจะขึ้น  แถบหาซื้อไม่ได้ซักหยด

ความจริงวันนี้ กล้าปาล์มพันธ์ดีจากหน้าโรงงาน 150+ (บางพันธ์200+ ยังมีคนซื้อ) กากปาล์ม จาก 2.5 เป็น 7.5
ความจริงก็คือผลผลิตปาล์มขาดจริงๆ ผมเป็นคนเลี้ยงหมู ซื้อกากปาล์มมาใช้ แล้วก็เลิกไปเพราะราคาขึ้น
มีพี่ที่สนิทกันเค้าเป็นพ่อค้าซื้อปาล์มแถวภาคอีสาน ทำให้รู้มาว่าโรงงานเองแทบไม่มีผลผลิตเข้า
หาใช่ว่าทำน้ำมันไปแล้วกักไว้ทีหลัง แล้วผลผลิตปาล์มสดก็เก็บไว้ไม่ได้นาน
ก่อนหน้านั้นที่ส่งออกเพราะผลผลิตไม่เสียหาย แต่เกิดภัยธรรมชาติผลผลิตเลยลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย
อีกส่วนหนึ่งปาล์มถูกนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล ความต้องการเลยพุ่งขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

ผมเลยสงสัยว่านักการเมืองมันสั่งฟ้าสั่งฝน สั่งให้มีภัยธรรมชาติได้เหรอครับ
ผมได้ข้อมูลมาจากข้อเท็จจริง ไม่ได้ฟังมาจากข่าว ไปดูหน้าโรงงานจริง
ทำไมหนะเหรอ เพราะผมมีแผนจะปลูกปาล์ม พี่เค้าเลยชวนไปดู ชวนไปคุยกับเจ้าของโรงงาน (เค้าสนิทกัน เป็นลูกศิษย์พระวัดเดียวกัน)
งานนี้พลิกโผครับ การกักตุนน้ำมันปาล์มไม่ได้มีผลมาก แต่เพราะโรงงานไม่มีผลผลิตเข้า ต้องลดกำลังการผลิตลง

ลองไปดูให้เห็น อย่าเชื่อแต่พวกเอาหนังสือพิมพืมาอ่านแล้ววิเคราะห์ แล้วคุณจะรู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง

ส่วนเรื่องราคาของที่แพงขึ้น นั่นหละสันดานคนไทย ที่ชอบกอบโกย กรมการค้าภายในเองก็ทำงานเท่าที่จะทำได้แล้ว (แต่ก็ยังทำน้อยกว่าคนปกติ)
แต่พ่อค้าแม่ค้าก็สับขาหลอกได้เรื่อยๆ ตอนมาตรวจใส่ราคาหนึ่ง ลับหลังอีกราคาหนึ่ง นี่เองคือสันดานคน

ที่จริงผมก็ไม่ได้เครียดอะไรครับ  แต่เวลารุ้มันก็ต้องรู้ให้จริงแล้วรู้ให้ละเอียด

เช่นพ่อค้าหมู  ไก่รายย่อยจะตายเพราะผุ้ค้ารายใหญ่  ราคาสินค้าในการบริโภค

สินค้าทุกตัวล่ะครับ  เกิดจากนักการเมือง  +  พ่อค้ารายใหญ่ฮั้วกันเพื่อกำหนด

นโยบายเพื่อกำหนดทิศทางราคาสินค้าแต่ละตัว  สภาพสถานการณ์ปัจจุบันเป็น

แบบนี้ 

ส่วนเหตุอื่น ๆ  มันเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้นเอง  แต่ถ้าบ้านเรามีการเมืองที่ดีปัญหา

ทุกปัญหาแก้ได้หมดล่ะครับ

เอาจริงๆเลยนะท่าน ผมไม่ได้อยากขัดท่านหรอก แต่ผมเองคลุกคลีกับวงการค้าหมูมาสองปีละ (ผมคนเลี้ยงหมูไง)
พ่อค้าหมูรวยขึ้นไม่มีจน ยิ่งรายใหญ่เข้ามา พ่อค้าหมูยิ่งได้กำไร คนที่จะตายหนะเกษตกรต่างหาก
เพราะปลายปีที่แล้วรายใหญ่ปล่อยหมูออกมาต่ำกว่าราคาตลาด พ่อค้าหมูกำไรอื้อซ่า
ตอนแรกราคาตลาดหมูหน้าฟาร์ม 57 บาท หล่นฮวบมา 46 บาท ผมเกือบเจ๊ง
ไหวตัวทัน เอาหมูตัวเองมาทำเนื้อขายเลย ใช้รถเร่วิ่งเอา ราคาถูกกว่าตลาด 10-20บาท
หมู 100 โล ขายเหลือวันละ 5-10 โล หักราคาเนื้อและค่าจ้างค่าน้ำมันออกแล้วยังได้กำไร 800-1800/ ตัว
เฮ้ยคิดดูสิ พ่อค้าหมูตามตลาดจะได้กำไรตัวละเท่าไหร่ ชัวร์ป๊าบครับ 2000+ วันนึงขายไป 3-4 ตัว/ราย (สำหรับรายย่อยตลาดเล็ก)

เฮ้ย คุณยังจะมาทำ Adsense ทำ Amazon อยู่ทำไมเนี่ย ไป๊! ไปขายหมู

จากใจคนเลี้ยงหมูครับ
บันทึกการเข้า

ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่างตอบอะไรใครนะครับ เพราะไม่ได้เข้าบอร์ดเลย
candygurl
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 94
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 12:50:56 »

ไม่อยากออกความเห็นเพราะนี่เป็นเรื่องการเมืองแท้ ๆ  เลย  แต่จะเล่าให้ฟังเมื่อวานแม่บ้านจะไปซื้อไข่เบอร์ 0  แต่ไปหาซื้อไม่ได้

ทั้ง ๆ  ที่มีข่าวว่าตอนนี้หน้าฝนมีอุปสงค์น้อยกว่าอุปทาน  ราคาน่าจะถูกลงแล้วของหน้าจะซื้อง่าย  อันนี้มีเหตุเดียวเลยครับคือการ

กักตุนสินค้าทำให้สินค้าขาดตลาดจะได้สร้างอุปทานเทียมขึ้นมา  แล้วอุปทานเทียมนำไปสู่การขึ้นราคาสินค้าโดยอ้างเหตุมาจากอุปทาน

มากกว่าอุปสงค์  นี่เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นแล้วสำหรับประเทศไทยนี่ปัญหานี้เลยครับ  ปัญหาอื่น ๆ  ก็มีแต่ไม่ได้สำคัญเท่า

คุณมั่ว ครับ...ช่วงนี้ช่วงเปิดเทอม ความต้องการซื้อมากกว่าขาย....

ผมเคยทำฟารมไข่

ช่วงนี้เนื้อสัตว์ราคาขึ้น ไข่ก็ต้องขึ้นตามเพราะอุปสงค์เยอะขึ้น

จากประสพการณ์การเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่มา หน้าฝนสัตว์จะให้ผลผลิตน้อย
แต่ที่ราคาพยุงอยู่ได้เพราะอาหารธรรมชาติออกมาเยอะกว่าหน้าอื่น
แต่ตอนนี้อาหารธรรมชาติลดลง เพราะมีการใช้สารเคมีในการเกษตร
คนที่ทำไร่ไถนาจะรู้ดีว่าทุกวันนี้แม้แต่ปลาตามไร่นายังอยู่ไม่ได้
 แช่น้ำในนานานๆจะเจอพิษยาฆ่าหญ้า แล้วปลามันจะอยู่เหรอ
คราวนี้ก็มาโทษว่ารัฐบาลไม่ควบคุมอีก ทั้งๆที่รัฐพยายามผลักดันให้ลดการใช้ยาฆ่าหญ้า
กรมวิชาการเกษตรก็โดนชาวบ้านด่าประจำ หาว่าเป็นเสือกระดาษ
เกษตรกรไม่เชื่อ ใช้สารเคมีฉีดหนะดีแล้ว รัฐก็ทำอะไรไม่ได้
แต่พอชักหน้าไม่ถึงหลังมาก็โบกให้รัฐมาช่วยอีก คราวนี้ก็ด่ารัฐกันใหญ่หาว่าไม่ช่วย

ดังนั้นบางทีก็ดูด้วยว่าเป็นเพราะการบริหารรึสันดานคน ไม่ว่าใครบริหารก็จะแก้ปัญหานี้ไม่ได้
เพราะสันดานคนก็ยังพาให้ไปกินชาบูชิอิ่มละ 289 ดีกว่ากินจิ้มจุ่มข้างทางอิ่มละ 139 บาทอยู่ดี

ราคาไข่มันเป็นกลไกตลาดจริง ตอนนี้คนเลี้ยงเป็ดไขก็ทำขายแทบไม่พอ เพราะคนซื้อกินเยอะขึ้น

จากใจคนเลี้ยงหมู

อันนี้มีส่วนถูกครับตรงที่เดี๋ยวนี้ใช้สารเคมีกันเยอะขึ้น  ต้นเหตุมาจากการใช้เศรษฐกิจแบบทุนนิยม

ส่วนทุกอย่างเดี๋ยวนี้มันไม่ได้เป็นไปตามกลไกการตลาดแล้วครับ  เดี๋ยวนี้เขาไม่ได้เลี้ยงสัตว์ปลูก

พืชไว้กินอยู่แล้วแต่เน้นผลิตเพื่อขาย  แล้วมีนักการเมืองร่วมกับบริษัทค้ายาค้าปุ๋ยรวมทั้งอาหาร

สัตว์ข้ามชาติ  มาส่งเสริมให้ใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อเร่งผลผลิตให้ออกได้มาก ๆ  จะได้ขายได้มาก ๆ  

ส่วนสิ่งที่คุณว่ามานั้นเป็นผลที่เกิดขึ้นตามมา

เรื่องราคาไข่จะถูกหรือจะแพง  หรือสิ้นค้าอะไรจะถูกหรือจะแพงพวกนี้เค้าวางแผนกันเป็นปี

ผมยกตัวอย่างก่อนน้ำมันปาล์มจะขึ้นราคาจาก ขวดละ 38  เป็นขวดละ  47  นโยบาย

กระทรวงพานิช  ตอนปีที่แล้วในช่วงน้ำท่วม  ซึ่งผลผลิตปาล์มได้รับผลกระทบ  แต่แล้ว

มีนโยบายให้ส่งน้ำมันปาล์มออกไปขายต่างประเทศ  พอน้ำมันปาล์มขาดตลาดก็ขึ้น

ราคาตามฟอร์มครับ  แล้วพอน้ำมันปาล์มขึ้นราคาปุ๊บของก็ทะลักเข้าเต็มห้างราวปาฏิหารย์

ก่อนหน้าที่ของจะขึ้น  แถบหาซื้อไม่ได้ซักหยด

ความจริงวันนี้ กล้าปาล์มพันธ์ดีจากหน้าโรงงาน 150+ (บางพันธ์200+ ยังมีคนซื้อ) กากปาล์ม จาก 2.5 เป็น 7.5
ความจริงก็คือผลผลิตปาล์มขาดจริงๆ ผมเป็นคนเลี้ยงหมู ซื้อกากปาล์มมาใช้ แล้วก็เลิกไปเพราะราคาขึ้น
มีพี่ที่สนิทกันเค้าเป็นพ่อค้าซื้อปาล์มแถวภาคอีสาน ทำให้รู้มาว่าโรงงานเองแทบไม่มีผลผลิตเข้า
หาใช่ว่าทำน้ำมันไปแล้วกักไว้ทีหลัง แล้วผลผลิตปาล์มสดก็เก็บไว้ไม่ได้นาน
ก่อนหน้านั้นที่ส่งออกเพราะผลผลิตไม่เสียหาย แต่เกิดภัยธรรมชาติผลผลิตเลยลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย
อีกส่วนหนึ่งปาล์มถูกนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล ความต้องการเลยพุ่งขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

ผมเลยสงสัยว่านักการเมืองมันสั่งฟ้าสั่งฝน สั่งให้มีภัยธรรมชาติได้เหรอครับ
ผมได้ข้อมูลมาจากข้อเท็จจริง ไม่ได้ฟังมาจากข่าว ไปดูหน้าโรงงานจริง
ทำไมหนะเหรอ เพราะผมมีแผนจะปลูกปาล์ม พี่เค้าเลยชวนไปดู ชวนไปคุยกับเจ้าของโรงงาน (เค้าสนิทกัน เป็นลูกศิษย์พระวัดเดียวกัน)
งานนี้พลิกโผครับ การกักตุนน้ำมันปาล์มไม่ได้มีผลมาก แต่เพราะโรงงานไม่มีผลผลิตเข้า ต้องลดกำลังการผลิตลง

ลองไปดูให้เห็น อย่าเชื่อแต่พวกเอาหนังสือพิมพืมาอ่านแล้ววิเคราะห์ แล้วคุณจะรู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง

ส่วนเรื่องราคาของที่แพงขึ้น นั่นหละสันดานคนไทย ที่ชอบกอบโกย กรมการค้าภายในเองก็ทำงานเท่าที่จะทำได้แล้ว (แต่ก็ยังทำน้อยกว่าคนปกติ)
แต่พ่อค้าแม่ค้าก็สับขาหลอกได้เรื่อยๆ ตอนมาตรวจใส่ราคาหนึ่ง ลับหลังอีกราคาหนึ่ง นี่เองคือสันดานคน

ที่จริงผมก็ไม่ได้เครียดอะไรครับ  แต่เวลารุ้มันก็ต้องรู้ให้จริงแล้วรู้ให้ละเอียด

เช่นพ่อค้าหมู  ไก่รายย่อยจะตายเพราะผุ้ค้ารายใหญ่  ราคาสินค้าในการบริโภค

สินค้าทุกตัวล่ะครับ  เกิดจากนักการเมือง  +  พ่อค้ารายใหญ่ฮั้วกันเพื่อกำหนด

นโยบายเพื่อกำหนดทิศทางราคาสินค้าแต่ละตัว  สภาพสถานการณ์ปัจจุบันเป็น

แบบนี้ 

ส่วนเหตุอื่น ๆ  มันเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้นเอง  แต่ถ้าบ้านเรามีการเมืองที่ดีปัญหา

ทุกปัญหาแก้ได้หมดล่ะครับ

เอาจริงๆเลยนะท่าน ผมไม่ได้อยากขัดท่านหรอก แต่ผมเองคลุกคลีกับวงการค้าหมูมาสองปีละ (ผมคนเลี้ยงหมูไง)
พ่อค้าหมูรวยขึ้นไม่มีจน ยิ่งรายใหญ่เข้ามา พ่อค้าหมูยิ่งได้กำไร คนที่จะตายหนะเกษตกรต่างหาก
เพราะปลายปีที่แล้วรายใหญ่ปล่อยหมูออกมาต่ำกว่าราคาตลาด พ่อค้าหมูกำไรอื้อซ่า
ตอนแรกราคาตลาดหมูหน้าฟาร์ม 57 บาท หล่นฮวบมา 46 บาท ผมเกือบเจ๊ง
ไหวตัวทัน เอาหมูตัวเองมาทำเนื้อขายเลย ใช้รถเร่วิ่งเอา ราคาถูกกว่าตลาด 10-20บาท
หมู 100 โล ขายเหลือวันละ 5-10 โล หักราคาเนื้อและค่าจ้างค่าน้ำมันออกแล้วยังได้กำไร 800-1800/ ตัว
เฮ้ยคิดดูสิ พ่อค้าหมูตามตลาดจะได้กำไรตัวละเท่าไหร่ ชัวร์ป๊าบครับ 2000+ วันนึงขายไป 3-4 ตัว/ราย (สำหรับรายย่อยตลาดเล็ก)

เฮ้ย คุณยังจะมาทำ Adsense ทำ Amazon อยู่ทำไมเนี่ย ไป๊! ไปขายหมู

จากใจคนเลี้ยงหมูครับ

รู้จริงยกนิ้วให้เลยคร่าาาาา  wanwan013 +1
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #63 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 13:23:40 »

ไม่อยากออกความเห็นเพราะนี่เป็นเรื่องการเมืองแท้ ๆ  เลย  แต่จะเล่าให้ฟังเมื่อวานแม่บ้านจะไปซื้อไข่เบอร์ 0  แต่ไปหาซื้อไม่ได้

ทั้ง ๆ  ที่มีข่าวว่าตอนนี้หน้าฝนมีอุปสงค์น้อยกว่าอุปทาน  ราคาน่าจะถูกลงแล้วของหน้าจะซื้อง่าย  อันนี้มีเหตุเดียวเลยครับคือการ

กักตุนสินค้าทำให้สินค้าขาดตลาดจะได้สร้างอุปทานเทียมขึ้นมา  แล้วอุปทานเทียมนำไปสู่การขึ้นราคาสินค้าโดยอ้างเหตุมาจากอุปทาน

มากกว่าอุปสงค์  นี่เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นแล้วสำหรับประเทศไทยนี่ปัญหานี้เลยครับ  ปัญหาอื่น ๆ  ก็มีแต่ไม่ได้สำคัญเท่า

คุณมั่ว ครับ...ช่วงนี้ช่วงเปิดเทอม ความต้องการซื้อมากกว่าขาย....

ผมเคยทำฟารมไข่

ช่วงนี้เนื้อสัตว์ราคาขึ้น ไข่ก็ต้องขึ้นตามเพราะอุปสงค์เยอะขึ้น

จากประสพการณ์การเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่มา หน้าฝนสัตว์จะให้ผลผลิตน้อย
แต่ที่ราคาพยุงอยู่ได้เพราะอาหารธรรมชาติออกมาเยอะกว่าหน้าอื่น
แต่ตอนนี้อาหารธรรมชาติลดลง เพราะมีการใช้สารเคมีในการเกษตร
คนที่ทำไร่ไถนาจะรู้ดีว่าทุกวันนี้แม้แต่ปลาตามไร่นายังอยู่ไม่ได้
 แช่น้ำในนานานๆจะเจอพิษยาฆ่าหญ้า แล้วปลามันจะอยู่เหรอ
คราวนี้ก็มาโทษว่ารัฐบาลไม่ควบคุมอีก ทั้งๆที่รัฐพยายามผลักดันให้ลดการใช้ยาฆ่าหญ้า
กรมวิชาการเกษตรก็โดนชาวบ้านด่าประจำ หาว่าเป็นเสือกระดาษ
เกษตรกรไม่เชื่อ ใช้สารเคมีฉีดหนะดีแล้ว รัฐก็ทำอะไรไม่ได้
แต่พอชักหน้าไม่ถึงหลังมาก็โบกให้รัฐมาช่วยอีก คราวนี้ก็ด่ารัฐกันใหญ่หาว่าไม่ช่วย

ดังนั้นบางทีก็ดูด้วยว่าเป็นเพราะการบริหารรึสันดานคน ไม่ว่าใครบริหารก็จะแก้ปัญหานี้ไม่ได้
เพราะสันดานคนก็ยังพาให้ไปกินชาบูชิอิ่มละ 289 ดีกว่ากินจิ้มจุ่มข้างทางอิ่มละ 139 บาทอยู่ดี

ราคาไข่มันเป็นกลไกตลาดจริง ตอนนี้คนเลี้ยงเป็ดไขก็ทำขายแทบไม่พอ เพราะคนซื้อกินเยอะขึ้น

จากใจคนเลี้ยงหมู

อันนี้มีส่วนถูกครับตรงที่เดี๋ยวนี้ใช้สารเคมีกันเยอะขึ้น  ต้นเหตุมาจากการใช้เศรษฐกิจแบบทุนนิยม

ส่วนทุกอย่างเดี๋ยวนี้มันไม่ได้เป็นไปตามกลไกการตลาดแล้วครับ  เดี๋ยวนี้เขาไม่ได้เลี้ยงสัตว์ปลูก

พืชไว้กินอยู่แล้วแต่เน้นผลิตเพื่อขาย  แล้วมีนักการเมืองร่วมกับบริษัทค้ายาค้าปุ๋ยรวมทั้งอาหาร

สัตว์ข้ามชาติ  มาส่งเสริมให้ใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อเร่งผลผลิตให้ออกได้มาก ๆ  จะได้ขายได้มาก ๆ  

ส่วนสิ่งที่คุณว่ามานั้นเป็นผลที่เกิดขึ้นตามมา

เรื่องราคาไข่จะถูกหรือจะแพง  หรือสิ้นค้าอะไรจะถูกหรือจะแพงพวกนี้เค้าวางแผนกันเป็นปี

ผมยกตัวอย่างก่อนน้ำมันปาล์มจะขึ้นราคาจาก ขวดละ 38  เป็นขวดละ  47  นโยบาย

กระทรวงพานิช  ตอนปีที่แล้วในช่วงน้ำท่วม  ซึ่งผลผลิตปาล์มได้รับผลกระทบ  แต่แล้ว

มีนโยบายให้ส่งน้ำมันปาล์มออกไปขายต่างประเทศ  พอน้ำมันปาล์มขาดตลาดก็ขึ้น

ราคาตามฟอร์มครับ  แล้วพอน้ำมันปาล์มขึ้นราคาปุ๊บของก็ทะลักเข้าเต็มห้างราวปาฏิหารย์

ก่อนหน้าที่ของจะขึ้น  แถบหาซื้อไม่ได้ซักหยด

ความจริงวันนี้ กล้าปาล์มพันธ์ดีจากหน้าโรงงาน 150+ (บางพันธ์200+ ยังมีคนซื้อ) กากปาล์ม จาก 2.5 เป็น 7.5
ความจริงก็คือผลผลิตปาล์มขาดจริงๆ ผมเป็นคนเลี้ยงหมู ซื้อกากปาล์มมาใช้ แล้วก็เลิกไปเพราะราคาขึ้น
มีพี่ที่สนิทกันเค้าเป็นพ่อค้าซื้อปาล์มแถวภาคอีสาน ทำให้รู้มาว่าโรงงานเองแทบไม่มีผลผลิตเข้า
หาใช่ว่าทำน้ำมันไปแล้วกักไว้ทีหลัง แล้วผลผลิตปาล์มสดก็เก็บไว้ไม่ได้นาน
ก่อนหน้านั้นที่ส่งออกเพราะผลผลิตไม่เสียหาย แต่เกิดภัยธรรมชาติผลผลิตเลยลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย
อีกส่วนหนึ่งปาล์มถูกนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล ความต้องการเลยพุ่งขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

ผมเลยสงสัยว่านักการเมืองมันสั่งฟ้าสั่งฝน สั่งให้มีภัยธรรมชาติได้เหรอครับ
ผมได้ข้อมูลมาจากข้อเท็จจริง ไม่ได้ฟังมาจากข่าว ไปดูหน้าโรงงานจริง
ทำไมหนะเหรอ เพราะผมมีแผนจะปลูกปาล์ม พี่เค้าเลยชวนไปดู ชวนไปคุยกับเจ้าของโรงงาน (เค้าสนิทกัน เป็นลูกศิษย์พระวัดเดียวกัน)
งานนี้พลิกโผครับ การกักตุนน้ำมันปาล์มไม่ได้มีผลมาก แต่เพราะโรงงานไม่มีผลผลิตเข้า ต้องลดกำลังการผลิตลง

ลองไปดูให้เห็น อย่าเชื่อแต่พวกเอาหนังสือพิมพืมาอ่านแล้ววิเคราะห์ แล้วคุณจะรู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง

ส่วนเรื่องราคาของที่แพงขึ้น นั่นหละสันดานคนไทย ที่ชอบกอบโกย กรมการค้าภายในเองก็ทำงานเท่าที่จะทำได้แล้ว (แต่ก็ยังทำน้อยกว่าคนปกติ)
แต่พ่อค้าแม่ค้าก็สับขาหลอกได้เรื่อยๆ ตอนมาตรวจใส่ราคาหนึ่ง ลับหลังอีกราคาหนึ่ง นี่เองคือสันดานคน

ที่จริงผมก็ไม่ได้เครียดอะไรครับ  แต่เวลารุ้มันก็ต้องรู้ให้จริงแล้วรู้ให้ละเอียด

เช่นพ่อค้าหมู  ไก่รายย่อยจะตายเพราะผุ้ค้ารายใหญ่  ราคาสินค้าในการบริโภค

สินค้าทุกตัวล่ะครับ  เกิดจากนักการเมือง  +  พ่อค้ารายใหญ่ฮั้วกันเพื่อกำหนด

นโยบายเพื่อกำหนดทิศทางราคาสินค้าแต่ละตัว  สภาพสถานการณ์ปัจจุบันเป็น

แบบนี้  

ส่วนเหตุอื่น ๆ  มันเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้นเอง  แต่ถ้าบ้านเรามีการเมืองที่ดีปัญหา

ทุกปัญหาแก้ได้หมดล่ะครับ

เอาจริงๆเลยนะท่าน ผมไม่ได้อยากขัดท่านหรอก แต่ผมเองคลุกคลีกับวงการค้าหมูมาสองปีละ (ผมคนเลี้ยงหมูไง)
พ่อค้าหมูรวยขึ้นไม่มีจน ยิ่งรายใหญ่เข้ามา พ่อค้าหมูยิ่งได้กำไร คนที่จะตายหนะเกษตกรต่างหาก
เพราะปลายปีที่แล้วรายใหญ่ปล่อยหมูออกมาต่ำกว่าราคาตลาด พ่อค้าหมูกำไรอื้อซ่า
ตอนแรกราคาตลาดหมูหน้าฟาร์ม 57 บาท หล่นฮวบมา 46 บาท ผมเกือบเจ๊ง
ไหวตัวทัน เอาหมูตัวเองมาทำเนื้อขายเลย ใช้รถเร่วิ่งเอา ราคาถูกกว่าตลาด 10-20บาท
หมู 100 โล ขายเหลือวันละ 5-10 โล หักราคาเนื้อและค่าจ้างค่าน้ำมันออกแล้วยังได้กำไร 800-1800/ ตัว
เฮ้ยคิดดูสิ พ่อค้าหมูตามตลาดจะได้กำไรตัวละเท่าไหร่ ชัวร์ป๊าบครับ 2000+ วันนึงขายไป 3-4 ตัว/ราย (สำหรับรายย่อยตลาดเล็ก)

เฮ้ย คุณยังจะมาทำ Adsense ทำ Amazon อยู่ทำไมเนี่ย ไป๊! ไปขายหมู

จากใจคนเลี้ยงหมูครับ

ที่จริงแล้วหลักการพวกนี้มันก็ไม่ต่างจากเรื่องธรรมะหรอก  ผมเองก็ยอมรับว่าผมอาจจะไม่มีปัญญาไปล้วงลึกอย่างที่ท่านทำ

การที่ผมออกมาแสดงความเห็นจึงไม่ได้เป็นไปเพื่อเถียงเอาเป็นเอาตาย  ถ้าคุณทำกิจการอย่างที่คุณว่าจริง  ผมจะเอาอะไร

ไปเถียงคุณได้  นอกจากอ่านแล้วนำมาพิจารณาเอา

สิ่งที่คุณทำก็ไม่ต่างจากที่ผมทำแหล่ะ  อย่างเรื่องธรรมะนี่ถ้าจะให้เข้าใจประจักษ์แจ้งอย่างแรกตนเองก็ต้อวมีประสบการณ์

นั้นประจักษ์แจ้งกับตนก่อน  แล้วแสดงความคิดเห็นของตนเพื่อให้คนอื่นมาแย้ง  แล้วนำความเห็นเหล่านั้นไปวิเคราะห์โดย

เทียบกับประสบการณ์ของตน

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยเถียงใครเพื่อเอาชนะใคร  เพราะถ้าทำแบบนั้นผมก็ไม่มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองหรอกครับ

คุณลองดูนะครับถ้าผมเถียงแล้วแพ้คุณผมก็ได้ประโยชน์เพราะได้รับรุ้ข้อมุลจากคนที่ปฏิบัติจริงนำมาปรับปรุงคุณภาพ

ความรู้ที่ตนมี  แต่ถ้าผมเถียงแล้วชนะแสดงว่าสิ่งที่ผมรู้มาแล้วนั้นถุกต้องแล้ว  ก็ได้นำความรุ้นั้นไปต่อยอดให้พัฒนา

ให้ดีขึ้น  ไม่ว่าผมจะแพ้หรือจะชนะไม่มีอะไรเสียหายสำหรับผมเลยครับ  อีกอย่างคนอื่นที่เข้ามาอ่านก็ได้รู้ข้อมุล

แล้วอ่านข้อมุลไปพร้อมกันกับที่ผมได้อ่านด้วย  มันก็เป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วยมิใช่รึ

เพิ่มเติมอีกหน่อย  อ่อสิ่งที่ผมพูดเรื่องปาล์มนี่  ผมไม่ได้พูดถึงปาล์มดิบหรือผลปาล์มนะครับ  แต่ผมพูดถึงน้ำมันปาล์มและการกักตุนน้ำ

มันปาล์มจริง ๆ  และเรื่องน้ำมันปาล์มสำเร็จรูปกับผลปาล์มของเกษตรกรมันก็ต้องแยกเป็นคนละประเด็นกัน  แล้วก็

ใช้ตรรกะที่ต่างกันมาพิจารณาอีกนั่นแหล่ะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มิถุนายน 2011, 13:40:06 โดย tanawat30 » บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
ก้ามปู
เสือซุ่มด่า
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 218
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,195



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #64 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 14:03:08 »


......
เพิ่มเติมอีกหน่อย  อ่อสิ่งที่ผมพูดเรื่องปาล์มนี่  ผมไม่ได้พูดถึงปาล์มดิบหรือผลปาล์มนะครับ  แต่ผมพูดถึงน้ำมันปาล์มและการกักตุนน้ำ

มันปาล์มจริง ๆ  และเรื่องน้ำมันปาล์มสำเร็จรูปกับผลปาล์มของเกษตรกรมันก็ต้องแยกเป็นคนละประเด็นกัน  แล้วก็

ใช้ตรรกะที่ต่างกันมาพิจารณาอีกนั่นแหล่ะครับ

ตรรกะของผมคือ

เมื่อใดไร้ผลปาล์ม เมื่อนั้นก็ไร้น้ำมันปาล์มเช่นกันครับ

น้ำมันปาล์มไม่ได้ตกลงมาจากฟ้า

ยังมีอีกเรื่องคือเรื่องข้าวที่คนยังไม่รู้ แต่ด่ารัฐบาล ด่าพ่อค้า ด่าโรงสี ด่าคนอื่น ด่าๆๆๆๆ ทั้งๆที่ไม่รู้ความจริงเลย แต่ผมไม่เล่าหรอก รกบอร์ด ให้นักวิชาการงมงายต่อไป

****************จบบริบูรณ์************************
ประวัติก้ามปู

ผมมันคนที่ใช้ชีวิตด้วยความบังเอิญครับ ทั้งหมดที่ผมทำหนะทำได้เพราะบังเอิญ
นอกจากงานออนไลน์แล้ว ที่ผมเคยทำนะครับ
-ขายผลไม้
-ทำนา
-ทำสวนมะขาม
-ทำสวนเงาะ (แต่ไฟไหม้)
-ปลูกข้าโพด ฟักทอง ฟัก และพืชไร่อีกหลายชนิด
-เลี้ยงตุ๊กแกตอนเด็ก (พ่อพาทำ)
-ทำสวนยาง
-ขายอาหารสัตว์กับพี่
-ขายเสื้อผ้า
-เลี้ยงหมู
-เป็นพ่อค้าหมู
-เลี้ยงไก่ 3 สายพันธุ์
-เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่
-ทำโรงสีเล็ก
-รับจ้างอัดฟาง
-เลี้ยงวัว (เคยโดนชนแขนเกือบหักแหนะ wanwan009)
-รับจ้างไถดิน
-รับจ้างปั่นนวดข้าว
-รับจ้าเกี่ยวข้าว (รถเกี่ยวเก่าๆ)
-อื่นๆ จิปาถะ

ที่บอกไว้เดี๋ยวมีคนไม่เชื่อ จะหาว่าคนบ้าอะไรอายุ 26 เคยทำตั้งหลายอย่าง แต่บอกแล้วว่าบังเอิญ
ผมไม่ได้ติดใจอะไรหรอก ไม่ดูชื่อด้วยซ้ำว่าใครโพสต์ ผมดูแค่ว่า เฮ้ยที่เค้าว่ามาเนี่ยไม่เหมือนที่เราเคยทำมานี่หว่า

เพราะจริงๆแล้วคนส่วนมากเห็นแต่เรื่องตามข่าว ซึ่งนักข่าวเองก็โดนแหกตามาอีกที แล้วมาปั้นเรื่องให้น่าสงสารขึ้นอีก
มีครั้งหนึ่งที่แถวบ้านผมออกข่าวว่าน้ำท่วมหนัก ทั้งๆที่ท่วมถนนแค่ 100 กว่าเมตร แถมไม่ลึกด้วย ทำให้ผมไม่ปักใจเชื่อข่าว 100% ตั้งแต่นั้นมา

แค่อยากเล่าครับ
จากใจคนเลี้ยงหมู
บันทึกการเข้า

ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่างตอบอะไรใครนะครับ เพราะไม่ได้เข้าบอร์ดเลย
บ่าวไทบ้าน
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 180
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 284



ดูรายละเอียด
« ตอบ #65 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 14:12:02 »

เงินเฟ้อไม่กลัว กลัวเงินบาทแข็ง  Cry
บันทึกการเข้า

Dr.K
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 436
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,820



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #66 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 14:18:38 »

ช่วงหลังๆเจอคนชกกันอยู่บ่อยๆ
ชกอยู่ในมุมของตัว
บางทีก็มาม่าใส่กัน
เลยไม่ค่อยเข้ามา

เฮ่อ
เบื่อ wanwan023
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #67 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 14:31:54 »

เอ้อนีคุณก้ามปู  ผมอ่านแล้วผมก็ชอบความเห็นของคุณขึ้นมาจับใจเลยทีเดียว  ที่ผมไม่นำมาอ้างต่อจาก  rep  บนคือมันจะยาวเกิน

สรุปแล้วใครปฏิบัติอะไรมาก็มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นแหล่ะ  หลักการของคุณกับของผมก็คือหลักการเดียวกันเลย  

สิ่งที่คุณว่ามาก็ถูก  แต่ความเป็นจริงแล้วการกักตุนน้ำมันปาล์มมันมีมาก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมเสียอีก  คนที่ไม่มีประสบการณ์

ในการปลูกปาล์มก็รุ้ครับ  ทุกปีตามฤดูกาลที่ฝนจะตกย่อมมีผลกระทบต่อผลปาล์มที่จะออกมาสู่ตลาด  พอถึงเวลาที่ผล

ปาล์มขาดแคลนจริงได้นำเหตุผลตามที่คุณว่ามา  นำมาอ้างได้ว่าเป็นเพราะช่วงนี้ของทุกปีฝนตกผลผลิตปาล์มเลยออกน้อย

แล้วคนที่รู้ไม่ทันก็เสร็จครับ  สมัยก่อนผมก็ไม่ได้คิดแตกต่างจากคุณหรอก  ผลปาล์มกักตุนไม่ได้จริงแต่น้ำมันปาล์มนี่กักตุน

ไว้เป็นโกดัง ๆ  เลยครับ

ผมก็ไม่ได้เถียงกับคุณหรอกครับ  เหตุผลของคุณ ณ.  มันถูกอยู่แล้ว  แต่สิ่งที่ผมพูดนี่คือปัญหาจากพวกพ่อค้านักธุรกิจ

การเมืองพวกนี้ต่างหาก  แล้วอีกอย่างหนึ่งเมื่อรู้ว่าน้ำมันปาล์มกำลังจะขาดตลาดด้วยเหตุผลอย่างที่คุณว่ามา  ธรรมดาแล้ว

รัฐบาลต้องมีนดยบาลสำรองหรือมีคลังสำรองที่จะเก็บน้ำมันสำเร็จรูปเอาไว้  เป็นการป้องกันเมื่อถึงเวลาเกิดภัยพิบัติธรรม

ชาติอยุ่แล้ว  แต่ถ้าป้องกันไม่ได้จริง ๆ  เช่นน้ำท่วม 5 เดือนติดต่อกัน  แล้วมีน้ำมันสำรองสะสมไว้แค่  2  เดือนแล้ว

คาดไม่ถึงว่าน้ำจะท่วมถึง 5 เดือนติดต่อกัน  แล้วคาดไม่ถึงว่าจะมีเหตุนี้เกิดขึ้น  แล้วส่งผลให้ต้องขึ้นราคาขายปลีกน้ำมัน

ปาล์มก็ต้องทำใจ

ประเด็นจึงมีอยุ่ว่าพูดในเรื่องเดียวกันแต่คนละประเด็น  แล้วผมในฐานะผู้บริโภคก็ไม่ได้ไปสนใจว่าราคาผลปาล์มเท่าไหร่

หรอก  แต่สนใจว่าวันนี้ราคาน้ำมันปาล์มขวดละเท่าไหร่ต่างหาก  สิ่งที่ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนขึ้นไม่ว่าคุณในฐานะผู้ผลิต

หรือผมในฐานะผุ้บริโภค  มีจุดร่วมเดียวกันเมื่อความเดือดร้อนเกิดขึ้นคือนักการเมือง

ผมเล่าต่ออีกนิด  สมมุติว่าผลผลิตปาล์มมีน้อย  ตามหลักราคาผลปาล์มน่าจะสูงขึ้น  แต่นักการเมืองที่ร่วมมือกับพ่อค้าคนกลาง

ปล่อยน้ำมันปาล์มที่สำรองไว้ออกมามากรอจนกระทั่งผลผลิตปาล์มออกมามาก ๆ  จะได้ให้พ่อค้าคนกลางไปซื้อในราคาถูก

อย่าลืมว่านักการเมืองควบคุมนโยบายการบริหารประเทศนะครับ  อีกอย่างหนึ่งผุ้บริโภคมีมากกว่าผู้ผลิตอยุ่แล้ว  นั่นคือ

ระหว่างผุ้ซื้อนำมันปาล์มไปบริโภคย่อมมีมากกว่าคนเลี้ยงหมูที่จะซื้อผลปาล์มไปเลี้ยงหมูอยุ่แล้ว  อันนี้ล่ะครับมันทำให้เกิด

ช่องทางการทำมาหากิน  ประเด็นของผมอยู่ตรงนี่้ครับ  ซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อกระทุ้ด้วย
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #68 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 14:35:40 »

ช่วงหลังๆเจอคนชกกันอยู่บ่อยๆ
ชกอยู่ในมุมของตัว
บางทีก็มาม่าใส่กัน
เลยไม่ค่อยเข้ามา

เฮ่อ
เบื่อ wanwan023


อ้าวถ้าพี่หมอเปิดใจให้กว้างซักหน่อยจะไม่มีความเห็นนี้ออกมา

ทุกคนมีความเห็นเป็นของตัวเองนะครับ  คนอ่านเข้ามาอ่าน

จะได้เห็นมุมมองที่หลากหลายนะครับ  ไม่ใช่ว่าจะต้องเห็นด้วยหรือ

เห็นต่างไปหมดนะครับ

อะไรที่ผมเห็นด้วยผมก็เห็นด้วย  อะไรที่ผมเห็นต่างก็เห็นต่าง  แล้ว

เมื่อเห็นต่างก็ต้องมีเหตุผลประกอบว่าเห็นต่างอย่างไรซิครับ
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
mikeyx
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 271
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #69 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 14:39:09 »

ถ้ามาม่าซองละ 40 บาทจะเชื่ออยู่ครับเหมือนญี่ปุ่น
บันทึกการเข้า
SearchMarketing
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 522
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,613



ดูรายละเอียด
« ตอบ #70 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 14:44:44 »

ยาวไปครับ ยาวไป

 wanwan020
บันทึกการเข้า
KINGRPG
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 381
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,486



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #71 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 14:57:39 »

ทุนการศึกษาก็ไม่ค่อยมี ค่ารักษาพยาบาลก็เบิกไม่ได้ ต้องทำบัตรช่วยเอาซะแล้ว  Cry
บันทึกการเข้า

Nongkhai_tong
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 236
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,542



ดูรายละเอียด
« ตอบ #72 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 15:01:21 »

ปะ ยาวไปครับพี่น้อง
บันทึกการเข้า

bubuki
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 77



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #73 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 15:11:09 »

เศรษฐกิจมันแย่จริงๆครับพี่น้อง   wanwan044
บันทึกการเข้า

White Fairy (ไวท์ แฟรี่)  ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาว กระจ่างใส
เสริมความงาม  ครีมบำรุงผิว อาหารเสริม กลูต้ากิน
กลูต้าฉีด ผิวขาว ลดอายุ โบท็อกซ์ ลดน้ำหนัก
mikeyx
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 271
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #74 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 15:14:07 »

เศรษฐกิจมันแย่จริงๆครับพี่น้อง   wanwan044

ยอดขาย TOYOTA พุ่งโบนัสพนักงาน 10 เดือน ยอดขาย HONDA MASDA
คนแถวบ้านเอารถไปเจิมที่วัดไม่ขาดสายสักวัน ทำบุญบ้านใหม่ สร้างโน้นสร้างหนี้ แต่ที่พูด ๆ มาสงสัยจะมีแต่ หนี้  wanwan004
บันทึกการเข้า
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #75 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 15:16:32 »

เศรษฐกิจมันแย่จริงๆครับพี่น้อง   wanwan044

ยอดขาย TOYOTA พุ่งโบนัสพนักงาน 10 เดือน ยอดขาย HONDA MASDA
คนแถวบ้านเอารถไปเจิมที่วัดไม่ขาดสายสักวัน ทำบุญบ้านใหม่ สร้างโน้นสร้างหนี้ แต่ที่พูด ๆ มาสงสัยจะมีแต่ หนี้  wanwan004

สูตรเกมใหม่ครับ  ผ่อนต่องวดน้อย  ผ่อนต่องวดนาน  ดอกเบี้ยแพง  แห้งเหี่ยวในอนาคตข้างหน้า   wanwan004
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
nooknikz
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 197



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #76 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 15:33:00 »

เห็นแต่บ่นคนไทยจน ข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจแย่ พอถึงงานมอเตอร์โชว์ ยอดจองรถถล่มทลายทุกงาน  wanwan013
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มิถุนายน 2011, 15:33:51 โดย nooknikz » บันทึกการเข้า

KonRaiNamJai
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 44
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #77 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 15:56:23 »

ตามอ่านครับ..ชอบครับรู้เยอะๆ

 wanwan017
บันทึกการเข้า

yodskkdoe
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 121
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 479



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #78 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 16:14:19 »

สินค้าราคาแพงจริง
บันทึกการเข้า

Blackhat IM Thailand Underground เป็นกลุ่มลับ โดยในกลุ่มจะมีเนื้อหาการสอน เช่น การทำให้ url index ครบทุกตัวในโดเมน การทำ seo ดันอันดับโดเมนหลัก และ url ในโดเมน โดยใช้ tools ที่แจกในกลุ่ม มีแจกหนึ่งพันกว่าตัวและอัพเดท tools ทุกเดือน การหาทราฟฟิคจากแหล่งอื่นโดยไม่พึ่ง search engine เช่นการส่งข้อความเข้า inbox ของผู้ใช้ facebook ในสหรัฐทั้ง 50 รัฐ และสอนวิธีหาเงินหลายๆ ด้าน โดยมี ebook และวีดีโอสอนให้ทำตาม โดยจะมีออกมาให้ศึกษาประมาณเป็นระยะ โดยการสมัครเข้าร่วมกลุ่มจะมีการเสียค่าสมัคร 1,000 บาท ครั้งเดียว หากสนใจเข้าร่วมกลุ่ม สามารถติดต่อชำระเงินได้ทาง https://www.facebook.com/chaovalith1
eawcrup
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 60
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 863



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #79 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2011, 16:15:55 »

ถึงว่าครับ เงินไม่เคยพอใช้เลย
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4] 5   ขึ้นบน
พิมพ์