สวยครับ ผมก็กำลังทำแผนที่เหมือนกัน กำลังออกแบบอยู่
ได้มาดูอันนี้ก็ดูเข้าใจง่ายดีครับ

อันนี้ของผม เป็น Version 1 ยังต้องปรับปรุงอีกเยอะเลย
http://www.benjarong.net/benjarong_img/new_map.jpg

ผมพอจะมีวิธีครับ
ส่งไปเป็นทหารครับ เข้าค่ายไปฝึก ถ้าเข้าไปดี ก็จะดีครับ อนาคตดีกว่าเดิม
ส่วนวัด ผมว่ายากครับ จะไปทำเสื่อมเสียพุทธศาสนาเพิ่มเติมอีกครับ

ประสบการณ์ตรง เพื่อนติดยา พ่อแม่ไม่รู้ทำยังไง เลยส่งไปเป็นทหาร
จบออกมา 2 ปี มันดูดีขึ้นเป็นกอง ทำงานทำการ มีเงินเดือน มาดดูดี

แนะนำครับ ส่งไปเป็นทหาร หรือ ให้ไปสมัคร แต่ถ้าอายุมากแล้ว ก็อาจจะลำบากหน่อย ร่างกายไม่เอื้ออำนวย 

เมื่อก่อนสมัยเป็นเด็ก เข้ามาอยู่ กทม. ใหม่ ๆ
มีเพื่อนบ้านในซอย เค้าเป็นนักมายากลอยู่ที่ แดนเนรมิตร (สมัยนั้น ยังเปิดอยู่)
เค้าก็มาสอนวิธีโกงไพ่แบบนี้แหละ

โชคดีรู้ตั่งแต่เป็นเด็ก เลยไม่คิดจะเล่นพวกการพนันเลย

มือระดับนี้ต้องเจอ ฟิลิปส์ กับ ลิซ่า สุดยอดนักมายากลของไทยด้วยกัน!!!

ฮาดีครับ รีดผ้าแบบ Extreme

เมื่อไม่รู้ซึ่งวิธีการหาเงิน ก็อย่าริอาจคิดหาวิธีใช้เงิน

ถ้ารู้วิธีหาเงินให้ได้เยอะ ๆ ได้เมื่อไหร่ อยากใช้อะไร ก็ใช้ไปเถอะครับ ไม่เดือดร้อนใคร

เมื่อก่อนผมก็เคยจน เคยตั้งเป้าหมายตอนเรียนจบว่า ต้องทำเงินให้ได้เดือนละ 15k
จนปัจจุบัน 100k++ อยู่ได้สบาย ๆ อะไรที่เคยคิดว่าแพง มันก็ไม่แพงเท่าไหร่

สิ่งที่แตกต่างในการมอง เมื่อเราจน เรามักจะไม่คิดที่จะปรับเปลี่ยนอะไร ก็มีความเป็นไปได้
ที่เราจะจนอยู่อย่างนั้น ทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ จำกัดรายได้ แล้วก็ใช้เวลาหมดไปกับอะไร ๆ ที่เปล่าประโยชน์

ผมไม่เชื่อหรอกครับ ว่าคนไทยจน เพราะเหล้า เบียร์ บุหรี่ หวยใต้ดิน ยังขายดีอยู่!!!
ถ้าจนจริง ของพวกนี้ไม่น่าจะขายได้ครับ แต่ที่จน น่าจะจนเพราะทำตัวเอง!!!


การขึ้นค่าแรง ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ของการที่จะทำให้คนรากหญ้ารวยขึ้นมา แล้วก็ไม่ใช่เพราะ รัฐบาลไหน ๆ จะช่วยได้ด้วย
ผมเชื่อว่า คนที่รวยมาส่วนใหญ่ ไม่ได้พึ่งรัฐบาลครับ รวยด้วยตัวเองทั้งนั้นครับ รวยจากการทำงาน การสู้งาน
รวยจากการใช้สมอง การทำงานหนักกว่าคนอื่น การใช้ความคิดที่เฉียบคมกว่าคนอื่น ๆ
หรือ การรวมกลุ่มกับคนดี กลุ่มคนเก่ง ก็ทำให้เกิด กลุ่มองค์กรที่จะทำให้คนในกลุ่มๆ  นั้นรวยได้ง่ายกว่าทำคนเดียว

ขึ้นค่าแรง -> ของแพงขึ้น -> ขึ้นค่าแรง -> ของแพงขึ้น -> ขึ้นค่าแรง

เงินเท่าเดิม -> ใช้สมองมากขึ้น -> ทำงานหนักมากขึ้น -> รายได้มากขึ้น -> ของถูกลง

ง่าย ๆ ครับ เลิกงานกลับบ้าน หาความรู้ อ่านหนังสือ คิดอะไรออก ก็ลงมือทำครับ
เวลาว่าง เอามาวางแผนการทำงานครับ ทำอะไรให้มีระเบียบ มีวินัย เอาความขี้เกียจออกไป

ถ้าโง่ ก็ทำให้หายโง่ เอาเงินที่เคยกินเหล้า บุหรี่ เที่ยว ไปซื้อหนังสือมาอ่านครับ หรือ ไปฝึกงานอะไรก็ได้
ฝึกเป็นแล้ว เอามาพัฒนาให้ดีขึ้น เดี๋ยวก็เก่งขึ้น ยิ่งฝึกเยอะ ยิ่งเก่ง ยิ่งฝึกหลายสายอาชีพ ยิ่งรู้เยอะ รู้กว้าง
ยิ่งทำนาน ก็ยิ่งเชี่ยวชาญ  เรื่องพวกนี้ รัฐบาลไหน ก็ช่วยคุณไม่ได้ครับ ถ้าคุณที่อยากรวยไม่ช่วยตัวเอง!!!

คนจนบางคน เฝ้าฝันแต่อะไรฟรี ๆ อยากได้ของฟรี ชอบคิดทำอะไรแย่ ๆ เพราะพ่อแม่เองก็ไม่ค่อยสอนสิ่งที่ดี
หรือ สอนแล้ก็ไม่ฟัง เพราะสังคมรอบตัวไม่ค่อยมีคนดี ให้ดูเป็นแบบอย่าง ก็เลยเป็นข้ออ้างการเป็นคนเลว คนขี้เกียจ
ถ้าคิดแบบนี้ มันก็ไม่พัฒนาไปไหน เริ่มที่ตัวเอง คิดดี ทำดี พูดดี ขยัน ใจสู้ อะไรที่ดี ๆ ทำเข้าไป
อะไรที่ไม่ดี ก็เลิกทำซะ คนดีที่ไม่รวย ก็เพราะ ดีจริง แต่ไม่ได้งาน.....

งานคือเงิน เงินคืองาน อยากได้เงิน ต้องทำงาน แต่ คนจนชอบ ทำน้อยอยากได้เยอะ ทำลวก ๆ แต่จะเอาเยอะ ๆ
เวลาผมไปจ้างชาวบ้านทำงาน ผมก็ไม่รู้ว่า ทำไมต้องมีชาวบ้านที่ชอบทำอะไรแย่ ๆ ชอบเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน
ชอบทำให้งานเสีย ทำงานไม่เรียบร้อย ทำแบบขอไปที แม้แต่ทำอาหาร มันยังไม่คิดที่จะทำให้อร่อย!!! ห่วย!!!
ของจะเน่า จะเสีย แบบกินไม่อร่อย ก็เอามาทำ ผมบอกเลยว่า ทำแย่ ๆ แบบนี้ ไม่มีใครเค้าคบด้วยได้นานหรอก
ยิ่งทำ ลูกค้า ก็ยิ่งหนีหาย แล้วบ่นว่าจน ผมกินเสร็จก็แช่งว่า จงจนต่อไป ไอ้คนพวกนี้ไม่เคยคิดตั้งใจทำงานอะไรให้ดี
กว่าจะคิดได้ ก็ตอนที่เกือบจะสาย หรือ สายเกินเยียวยา

- คนปลูกยางพาราเฮ ยางแพง (เพราะจีนมีความต้องการยางพาราสูงมากครับ)
- คนปลูกข้าวเฮ ข้าวแพง (เพราะประเทศแถวเอเซียด้วยกัน โดนน้ำท่วมหนัก หรือ แล้งหนัก ราคาข้าวเลยแพง ไม่ใช่เพราะรัฐบาลทำให้แพง)
- คนใช้แรงงานเฮ ได้ขึ้นค่าแรง (เอาไปกินเหล้าขาวเพิ่มได้อีกเป๊ก!!)
- คนทำงานกินเงินเดือนประจำ ที่บ่นว่าเงินเดือนน้อย ไม่พอใช้ เพราะได้รายได้ทางเดียว ก็เป็นเพราะไม่รู้จัก การพัฒนาตนเอง ให้เจริญก้าวหน้า หาความรู้เพิ่ม หรือ หางานทำที่อื่น ที่ได้รายได้มากขึ้น แต่เค้าจะจ้างแพงขึ้น ตัวเองก็ต้องมีความสามารถตามที่ ผู้ว่าจ้างต้องการด้วย เช่น พูดภาษาอื่น ๆ ได้คล่อง เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น แล้วก็ความกล้า ที่จะท้าทาย สิ่งใหม่ ๆ

อาจารย์สอนภาษาอังกฤษ สมัยเรียนที่ ม.หอการค้า เล่าให้ฟังว่า
ตลกมาก ที่อาจารย์ในมหาลัย ที่เป็นคนไทย เค้ามีกฏว่า ห้ามถามเงินเดือนกัน
อาจารย์คนนี้เค้ามาจากอเมริกา เค้าได้เงินเดือน เดือนแรก 30k แล้วเค้าไปถามคนอื่น ที่สอนแบบเดียวกัน เค้าได้ 60k
เค้าก็เดินไปที่ห้อง อธิบดีของมหาลัย แล้วบอกว่า ผมควรจะได้เงินเดือนเท่ากับ อีกคนที่สอนแบบเดียวกัน
ทางมหาวิทยาลัยก็ตกลง เพิ่มให้เท่ากัน  เค้าคิดว่า คนไทย ควรกล้าแสดงออก กล้าท้าทาย ในสิ่งที่ถูกต้อง

เพื่อนที่ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ทำงานมานาน ได้เงินเดือน 12k + เบี้ยเลี้ยงรวม ๆ ได้ 20k
ทำมานาน เงินเดือนก็ไม่ขึ้น อยากได้เงินเดือนเพิ่ม เพื่อนผมก็เริ่มจากการ ปรับปรุงบุคลิคตัวเอง
เริ่มอ่านหนังสือมากขึ้น เริ่มเสริมเขี้ยวเล็บ ให้กับงานที่ตัวเองทำ แต่บริษัท ก็ไม่เลื่อนตำแหน่งให้
ดังนั้น มันจึงเริ่ม มองหาตำแหน่งงานใหม่ ที่เหมาะกับตัวเอง และ ได้ค่าแรงที่เหมาะสม มันจึงได้
งานทำที่ใหม่ เงินเดือนเริ่มต้น 28k และใกล้ที่พักด้วย แต่ทั้งหมดนี้ จะไม่เกินขึ้น ถ้าหากไอ้เพื่อน
คนนี้ มันไม่พัฒนาบุคคลิค หาความรู้เพิ่ม ทำงานหนักขึ้น และ กล้าท้าทาย โอกาศใหม่ ๆ ตอนนี้
เงินเดือนมันก็ยังได้เพิ่มเรื่อย ๆ เพราะมันรู้แล้วว่า ทำยังไง ถึงจะก้าวหน้า

คนทำงานกินเงินเดือน ที่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง หรือ ได้เงินเดือนเท่าเดิม คุณต้องพิจารณาตัวเอง
แล้วหล่ะครับ ว่าทำไมถึงไม่ก้าวหน้า เพราะตัวเอง หรือ เพราะใคร หรือ รัฐบาลชุดไหนไปกำหนดชะตาชีวิตให้คุณ ??

ไอนสไตล์ ค้นพบ E=mc2 เพราะรัฐบาล ?
โทมัน อัลวา เอดิสัน ค้นพบหลอดไฟ เพราะรัฐบาล ?
เจ้าของ รถยนตร์ฮอนด้า สร้างโช็ครถยนต์ไปเสนอขายโตโยต้า แต่ถูกปฏิเสธ เลยทำรถยนต์แข่งกันโตโยต้าเลย เพราะรัฐบาล ?
Google ขายโปรแกรมให้กับ ยาฮู ไม่สำเร็จ ถูกเมิน เลยทำ กูเกิ้ลแข่งเองเลย เพราะรัฐบาล ?
คนรวยใน Thaiseoboard ขายของออนไลน์จนรวย เพราะรัฐบาล ?
คนรวยใน Thaiseoboard ทำ Adsense จนรวย เพราะรัฐบาล ?
คนรวยใน Thaiseoboard ทำ Amazon จนรวย เพราะรัฐบาล ?
สรุปคนขายของบนเน็ตจนรวย เพราะรัฐบาล ?
แม่ค้าขายอาหารรวย เพราะรัฐบาล ? (ผมว่าเพราะค้าทำอร่อย และ อัธยาศัยดีมากกว่า)
หัวหน้าแผนก ได้เงินเดือนมากกว่าคุณ เพราะรัฐบาล ? (ถ้ามันไม่เก่งจริง เค้าคงไล่มันออกไปแล้ว)
กับตัน ได้เงินเดือนมากกว่า โค ไพลอท (นักบินที่สอง) เพราะรัฐบาล (กว่าจะเป็นกัปตัน บินกันจนแก่กว่าจะได้เลื่อนเป็นกัปตัน)

สังเกตุว่า ยิ่งเรามีความสามารถมาก เราก็จะยิ่ง รวยมากขึ้น แต่ยิ่งความสามารถน้อย ก็ยิ่งจน
ดังนั้น เมื่อรู้ดังนี้แล้ว ก็ควรจะ พัฒนาตนเอง ยิ่งแก่ ก็ยิ่งเก่ง ไม่ใช่ ยิ่งแก่ ยิ่งโง่

ของแพง เป็นเรื่องของกลไกลตลาด ถ้าวันนี้ไข่ไก่ล้นตลาด ไข่ไก่ราคาถูกแน่นอน
ทำไม มะนาว เดี๋ยวถูกเดี๋ยวแพง เพราะรัฐบาลหรือเปล่า ? (เพราะสภาวะอากาศ)
ที่อเมริกา รถยนตร์ราคาถูก แต่น้ำมัน และ ค่าที่จอด และ ภาษี หรือ ค่าปรับ แพงมหาโหด (เคยไปจอดรถที่ย่านการเงินใน LA ชั่วโมงละ 800 บาท)
ที่ยุโรบ/อเมริกา อาหารแพงกว่าบ้านเราแน่นอนครับ แต่คุณภาพ ก็ดีกว่าเยอะครับ

ผมมองว่า คนจนในประเทศไทย ชอบหลงเชื่อนักการเมือง เชื่อว่าจะทำให้รวยได้ เชื่อว่าถ้าไม่ได้
คนที่ชอบมาเป็น นายกรัฐมนตรี แล้วเค้าจะต้องจนแน่ ๆ  ก็เลยไม่คิดจะทำอะไร ก็ทำแบบเดิม ๆ
ซ้ำ ๆ อยู่ในวังวน ต้องรอจน นายกรัฐมนตรีมาบอก ว่าทำอย่างนั้นนะ ทำอย่างนี้นะ แล้วจะดีขึ้น
แล้วทำไม คุณไม่คิดเอง ทำเอง คิดใหม่ ทำใหม่ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาบอกหล่ะครับ จะรอทำไม
แล้วใครจะเป็นรัฐบาล ก็ช่วยคุณไม่ได้หรอก ปัญหาของแพง รัฐบาลไหนก็แก้ไม่ได้ เพราะ ของมัน
แพงขึ้นมาตลอด มีแต่คนที่จนเท่านั้น ที่จนลง  ๆ ๆ ๆ ๆ  เพราะไม่พัฒนาตัวเอง แปลกแต่จริง
จนแต่แทงหวย จนแต่กินเหล้า จนแต่สูบบุรี่ จนแต่ขี้เกียจ จนแต่ไม่รู้จักคิด จนแต่ไม่มีระเบียบ
จนแต่ไม่มีวินัย แล้วเจือกอยากรวย

คนจนปลูกข้าว ก็คิดแต่ปลูกข้าว ไม่เคยคิดว่าจะขายได้หรือเปล่า หรือ ใครจะซื้อ ไม่เคยคิดเพื่อ แผนสำรอง
ว่าถ้าน้ำท่วมจะทำยังไง ปลูกอย่างเดียว...... ถ้าเป็นทำธุรกิจอย่างอื่น เจ๊ง ตั่งแต่ยังไม่เริ่มแล้วครับ
เพราะ ไม่วางแผนอะไรเลย........ปลูกอย่างเดียวจริง ๆ รอรัฐบาลมาประกันราคา มารับจำนำ ?

ช่วงข้าวแพง ผมยังเคยคิดหาวิธีเอาข้าวไปขายให้ได้ราคาเลย แต่ชาวนาคงไม่เคยคิด (ไม่พูดถึงชาวนาที่รวยนะ)
ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ที่รวยก็มีเยอะแยะ แต่เค้าไม่รอหวังพึ่งรัฐบาลกันหรอกครับ


สรุป คนจน สมควรโดนครับ ของแพง (ต้องถากถางไว้ จะได้อ่าน และ จำ และนำเอาไปใช้) ไม่ใช่ คิดแต่ว่า จน หาเงินได้เท่าเดิม (น่าเวทนา)

ผมผลิตสินค้า ถ้าอยากได้ ก็เอาเงินมาแลก ถ้าไม่มีเงินมาแลก ก็เอาแรง เอามันสมอง มาแลก
ถ้ามีแต่แรงงาน ก็ได้น้อยหน่อยนะ ถ้ามีสมอง ก็ได้มากหน่อย
ทุกวันนี้ ต้องคอยบอก พวกขี้เกียจทั้งหลาย พวกขาดระเบียบวินัย ให้ปรับปรุงตัว บางคนก็ดีไปเลย บางคนก็ดีขึ้นบ้าง บางคนเหมือนเดิม

สรุป ไอ้คนที่ดีขึ้น ตอนนี้มันรวยไปแล้ว คนที่ดีขึ้นบ้างก็เริ่มมีเงินแล้ว ส่วนคนที่เหมือนเดิม ก็ยังจนเหมือนเดิม

ถ้าไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ก็จะไม่จน จงจำไว้
พวกยี่ปั๊ว ซาปั๊ว รวยเพราะรอคนจนมาซื้อไงครับ

บางคนบ่น CP รวยทั้งขึ้นทั้งร่อง
ผมบอกให้ฟังว่า CP ทำปุ๋ย ทำอาหารสัตย์ ทำ True Vision ทำ ADSL ทำ TrueMove ทำ 7-11 และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
ถ้าไม่เก่งจริง ไม่มีปัญญาไปทำหรอกครับ หรือ ให้พวกโง่ทำ ก็เจ๊งครับ
ที่ CP ทำแล้วเจ๊งก็มีครับ แต่เค้าไม่บอกคุณหรอกครับ

บางคนบ่น น้ำมันแพง
- ถ้าน้ำมันถูก เราจะใช้แบบไม่บันยะบันยัง ไงครับ (ยิ่งเร่งให้แพงขึ้นเร็วขึ้นไปอีก)
- บ้านเราไม่มีบ่อน้ำมันใหญ่ ๆ นะครับ มีแต่ก๊าซธรรมชาติ NGV กับ LPG ที่เริ่มไม่พอใช้แล้ว
- น้ำมัน ทำให้เกิดอาชีพมากมาย สร้างรายได้มากมาย แต่ ยิ่งใช้น้ำมันเยอะ สินค้าก็ยิ่งแพงขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
- ปตท. กำไรมหาศาล ไม่ใช่เฉพาะปตท.ที่ขายน้ำมัน จริง ๆ แล้ว ปตท. ยังมีธุรกิจย่อย ๆ อีกเยอะ ซึ่งก็กำไรเยอะมาก ๆ อีกด้วย แต่เวลาขาดทุนก็ขาดเยอะ แต่เค้าคงไม่ยอมขาดทุนง่าย ๆ หรอกครับ เพราะตอนนี้ ปตท. ก็ทำกำไรเพื่อผู้ถือหุ้นที่เป็นเจ้าของตัวจริงไงครับ แต่น้ำมันในประเทศที่เจริญกว่าเราหลาย ๆ ประเทศ แพงกว่าเรานะครับ แพงกว่าเยอะด้วยครับ แต่อย่าไปเทียบกับมาเลเซีย หรือ ตะวันออกกลางนะครับ มันคนละสถาณการณ์กัน

ไม่เคยเห็นคนจนบ่น
- ไทยเบฟ/บุญรอดบิวเวอร์รี่ ทำไมรวยจังว๊ะ (ก็กินมันทุกวัน มันจะไม่รวยได้ไง ช้างกับลีโอ)
- ค่ายมือถือ รวยจัง ทำไมเจ้าของสัมปะทานอย่าง TOT กับ CAT ถึงไม่รวย (ก็พวกมือถือมันโกงจนองค์กรรัฐจะไปไม่รอดอยู่แล้ว)
- ทำไมเจ้ามือหวยใต้ดิน ถึงรวยจังว๊ะ (อ้าว! ก็เงินจากพวกกรูเองนี่หว่า)



ทำไมนักการเมือง รวยจังว๊ะ (ก็ช่วยกันเลือกพวกมันเข้าไปโกงกินกันเองนี่หว่า)
พวกฝ่ายค้านทำงานนอกสภา เอาคนไปเย้ว ๆ แทน เพราะในสภามันหน้าด้าน หน้าทน กันเกินไป
นักเลือกตั้งบางคนโง่หนัก ฟังข้อกฏหมาย ก็ฟังไม่รู้เรื่อง เชื่อแต่ว่า มันไม่ผิด ยังไงมันก็ไม่ผิด ทั้ง ๆ ที่มันโกงแบบหน้าด้าน ๆ ก็เชื่อว่า มันไม่ผิด


ย่อหน้าสุดท้าย บางคนบอกของแพง ให้ดูสลากกินแบ่งเป็นตัวอย่าง ผมว่า ถ้าไม่ซื้อสลาก มันก็ไม่แพงหรอกครับ
เลิกงมงาย เลิกหวังพึ่งโชคลาภ เดี๋ยวพอยอดจำหน่ายสลากลดลง จนขายไม่หมดกันหลาย ๆ งวด ดีไม่ดี
แม่ค้าขายสลากกินแบ่ง จะขายสลากราคาต่ำกว่าราคาหน้าสลากกันเองแหละครับ เชื่อผม!!!
ถ้ายังมีคนแย่งกันซื้อ เพราะหวังลม ๆ แล้ง ๆ มันก็ไม่ลงหรอกครับ ราคาสลากน่ะ

วันนี้หวยออก คาดว่า จนลงแบบไม่มีเหตุผลกันอีกหลายคน (ของแพงขึ้นทันทีเลย ทีนี้)


จาก คนเคยจน.....
ผมต้องขอบคุณ ความจน ที่ทำให้รวย

สองมือ สองเท้า เท่ากัน ต่างกันที่ หัวสมอง และ ทัศนคติการดำเนินชีวิต!

โอกาส โชคดี โชคร้าย สุข ทุกข์ มีกันทุกคน ปล่อยวางครับ พอเพียง เพื่อเพียงพอ จะได้ไม่จน

ของบางอย่าง ต้องมีการเรียนรู้การใช้งานครับ ใช้บริการครั้งแรกอาจจะไม่สะดวก
ถ้าอยากสะดวก รวดเร็ว ต้องลองของแพงครับ อย่างโทรเรียก DHL มารับสินค้า แล้วนำส่งภายในประเทศ
อิอิ ค่าบริการต่างกันประมาณ 6 - เท่า แต่บริการแบบมืออาชีพ ก็ต้องเลือกเอาครับ
ผมทดลองส่งของ 20 กิโล จาก กทม. ถึง อ.เมือง จ.ชลบุรี ราคา 2,050 บาท รวมประกันเต็มราคา!!!!
พอเอาเข้าจริง ๆ ส่ง Logis post แค่ 320 บาท นำจ่ายถึงที่ ภายใน 3 วัน

ของชิ้นใหญ่ ผ่าน Logis post ไม่ได้นำจ่ายถึงที่ ทุกรหัสไปรษณีย์นะครับ

ส่วนไปรษณีย์ไทย เมื่อใช้บริการบ่อย ๆ ก็พอจะรู้ลู่ทางแล้วหล่ะครับ
ส่วนบริการส่งของชิ้นใหญ่ชื่อ Logis post นะครับ ส่วนของใหญ่ ๆ ที่เห็นส่งกันเยอะ ๆ
ก็คือมอเตอร์ไซด์ครับ เห็นส่งกันเต็มเลย ราคาก็ไม่แพงด้วยครับ (คุ้มกว่าขี่ไปเองแน่นอน)


แต่ผมส่งของผ่าน DHL ไปเวียดนาม สินค้าเสียหาย ผู้รับก็แจ้ง Claim ทุกวันนี้ ยังไม่รู้เลยว่า
สินค้าที่รับคืนไปที่เวียนนามอยู่ไหน DHL เวียนนามหาไม่เจอ (รอมานานแล้ว)!!

ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้าน เราดีกว่าแน่นอน

อันนี้ของผมครับ ลองเข้าไปอ่านดู อิอิ 

http://www.lovemelovemyweb.com...0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2.html

ensogo ก็ได้ลองใช้บริการไปหลายครั้ง พวกร้านอาหารหลาย ๆ ร้าน ที่อยากกิน แต่ไม่อยากจ่ายเต็ม
ก็ยอมรับว่า ร้านที่จะคุ้มค่า แบบว่ายอมให้เรากลับไปกินในราคาเต็มอีกเนี่ย
มันต้องโคตรอร่อย เท่านั้นแหละครับ

ซึ่งจากการลองสิบกว่าร้าน ก็คัดเลือกมาได้ 1 ร้าน ที่ประทับใจที่สุด
เพราะอร่อย จนต้องกลับไปกินอีกในราคาปกติ

ส่วนบริการที่คุ้ม และ ได้กำไรแน่ ๆ ก็คงจะเป็นพวกสปา
เพราะ ต้นทุนส่วนใหญ่คงที่ ยังไงต้องเสียอยู่แล้ว ค่าสถานที่ พนักงานนวด
อย่างแย่ เราก็ได้ส่วนแบ่งค่านวดน้อยลง แต่ก็มีงานเยอะ
และยังได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มด้วย

แต่ถ้าหาก สินค้าหรือบริการ ยังไม่ดีจริง ๆ คิดว่า ยังไม่น่าไปทำโฆษณาแบบนี้นะ
จริง ๆ ผมเชื่อว่าการทำการตลาด โดยการยอมใช้เงินซื้อลูกค้า มันก็น่าจะได้ผลนะ
ถ้าสินค้า หรือ บริการของเรา มันดีจริง ๆ ยังไง มันก็ต้องมีคนบอกต่อกันหล่ะครับ

แต่บางร้านไปกินมาก็งั้น ๆ รู้สึกไม่คุ้ม (ไม่อร่อย) หรือบางร้านก็อร่อย แต่ยังไม่ประทับใจ
เจ้าของร้านบางร้านก็บอกว่า คุ้ม ที่ทำกับ ensogo แต่บางร้านก็บอกไม่คุ้ม
ดังนั้น ผมว่าอยู่ที่ตัวสินค้าหรือบริการแล้วหล่ะครับ ว่ามันจะสร้าง การกลับมาซื้อซ้ำ ได้หรือไม่ !!!!

เบื่อมากคนที่บอกว่า ต้องไปให้ รัฐบาล แก้ปัญหา ตัวคนกินเองยังแก้เองไม่ได้ ก็ไม่ต้องกินมันครับ
เลิกกินครับ ไม่ต้องเสียเงิน เลิกบ่นครับ เอาเวลามาบ่น ไปทำมาหากินครับ

มุมมองของผม มองการบริการจัดการด้านการเกษตร

ผมคิดว่า ถ้าตัวเกษตรกรเอง ยังแก้ปัญหาเองไม่ได้ จะรัฐบาลไหน ก็ต้องคอยตามแก้ตลอดไปเหรอครับ
ผมรู้จักคนที่ทำเกษตรแล้วรวย เริ่มตั่งแต่ไม่มีอะไรเลย หลายคน
แล้วก็คนที่ทำเกษตรแล้วจน ก็ยังจนต่อไป  

ผมรู้จักคนหลายคน ทำอาชีพเดียวกัน บางคนรวย บางคนจน
ผมว่า คนที่เค้าไปได้ดีกว่า เค้าก็คงจะไม่ได้หวังให้มีคนมาช่วยตลอดไปหรอกนะครับ

ผมว่าเท่าที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี่ เราก็ช่วยเกษตรกรเรามาก ๆ ๆ ๆ แล้ว

เคล็ดลับการเลี้ยงหมูให้รวย ถ้ามันเลี้ยงรวยกันทุกคน ประเทศนี้ก็ไม่มีคนจน เพราะเลี้ยงหมูรวยกันทุกคน (เจ๊งพร้อมกันทั้งประเทศแน่ ๆ )
แต่คนที่เลี้ยงแล้วรวย เค้าก็ไม่ได้เลี้ยงแบบ ปล่อยปะ ละเลย เลี้ยงให้อย่างดี
ตามมาตรฐานโรงงาน ตั่งใจทำ เช่น คนที่ผมรู้จัก สนิทกันเลี้ยงหมู ในบริเวณใกล้เคียง มีฟาร์มหมูกว่า 30 แห่ง
แห่งที่ได้รายได้ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องใหญ่ที่สุด แต่เค้าใส่ใจเลี้ยงดีที่สุดนะครับ

ส่วนพวกคนที่โวยวายมักจะทำชุ่ย ๆ พอไม่ได้ผลเหมือนคนอื่น ๆ ก็ไปโทษคนนู้น คนนี้ โทษมั่วซั่ว ไปเรื่อย
มันมีทุกอาชีพแหละครับ ทำอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น ทำดีได้ดีครับ

ไม่อยากบอกเลยว่า บ้านผมทำเกษตรมาหลายอย่างมาก ที่เจ้งก็เยอะ ที่ได้ดีก็มีถมไป
แต่เรารู้จักปรับเปลี่ยน รู้จักพัฒนา รู้จักหาความรู้ คนที่เริ่มทำพร้อม ๆ  กันมาสมัยผมยังเด็ก
ก็ยังทำกันเหมือนเดิม จนเหมือนเดิม สิ่งที่เค้าขาด ไม่ใช่ขาด คนสนใจที่จะดูแลอย่างจริงจัง นะครับ

เค้าไม่ดูแลตัวเองครับ ที่เค้าขาดจริง ๆ คือ ระเบียบ วินัย และการพัฒนาตนเอง
ผมว่า รัฐช่วยเหลือเยอะมากครับ แต่คนที่ รอคอยแต่ความช่วยเหลือ ช่วยเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นมา
คนที่ช่วยแล้วไปได้ดี เค้าก็ไปต่อ แต่มันมีคนอีกหลายคน ช่วยแล้ว ก็ต้องช่วยต่อไป ตลอดปี ตลอดชาติ (เจอะมาหลายคน)

ปัญหาหมูแพง ผมว่า ของมันแพงขึ้นทุกอย่าง ไม่ใช่แค่หมู ทองคำก็แพง น้ำมันพืชก็แพง ผักก็แพง ยาสระผม ยาสีฟัน อะไร ๆ ก็แพง
แต่ที่ไม่แพงก็คือ ค่าแรง เพราะอะไร?   เพราะมีคนขายแรงเยอะมั้งครับ พอของมีเยอะ มันก็เลยถูกไงครับ
ถ้าใช้สมองเยอะ ๆ ค่าแรงก็จะแพงเองครับ เพราะไม่มึคนขายแรงงาน มีแต่คนหันไปใช้สมองกันหมดแล้ว
ถึงวันนึง รัฐก็ต้องออกมาแก้ปัญหา ขาดแคลนแรงงานราคาถูกอีกหรือเปล่า เพราะมีแต่แรงงานราคาแพง

ยกตัวอย่าง ผมจ้างคนทำงาน เฉพาะงานบางประเภท มีพนักงาน 10 คน ทำแบบเดียวกัน
เชื่อไหมว่า ผมยังสามารถแบ่งผลงานออกมาได้อีกหลายระดับ เช่น นาย ก. ทำได้ดีมาก นาย ข.ทำได้ดี นาย ค. ทำได้พอใช้
นาย ง. ทำได้แย่มาก นาย จ. ทำได้โคตรแย่ นาย ฉ. ทำได้โคตรบรมห่วยแตก .....................

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไทย ลูกน้องผม นาย ก. ปัจจุบัน ซื้อรถป้ายแดง ซื้อที่ดิน ปลูกบ้านเพิ่มเติม
เพราะผลงานที่เค้าตั้งใจทำงาน ใส่ใจทำงาน รับผิดชอบผลงาน ไม่เป็นพวก ทำลวก ๆ หรือ พวกทำน้อย แต่อยากได้เยอะ
คนแบบนี้แหละครับ ประสบความสำเร็จ ส่วนอีกหลาย ๆ คนที่ผมจ้าง ก็มีตั่งแต่ระดับ นาย ข. ไล่ลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งมีจำนวน
มากกว่า นาย ก. อยู่เยอะครับ ส่วนประเภท นาย ง. ลงไป ถึงนาย จ. ผมก็ค่อย ๆ เชิญออกไป หาคนใหม่ มาลองทำแทนไป

จริง ๆ แล้วงานทั้งหมดไม่ได้แตกต่างกันเลยครับ แต่คนที่เค้ามีความรับผิดชอบ ความใส่ใจ เค้าสามารถทำสิ่งเดียวกัน
สิ่งที่คนอื่นคิดว่าทำไม่ได้ ให้มันทำออกมาได้ครับ ผมเบื่อไอ้พวกคนกระจอก วัน ๆ ไม่ขยัน ไม่ค่อยทำอะไร ทำก็ทำแบบขอไปที
ทำแล้วก็ไม่เรียบร้อย แบบอย่างที่ดีก็มีให้ดู ก็ไม่ทำ นึกจะหยุดก็หยุด ไม่เคยวางแผนการใช้ชีวิต หรือ การทำงาน
ทั้ง ๆ ที่ทางเราก็สอน และ แนะนำการดำเนินการใช้ชีวิตให้ (จริง ๆ เรื่องพวกนี้ ไม่ควรไปสอนกันแล้วนะ)

แต่มันก็ยังมีคนประเภท นาย ค. ..... นาย ง. นาย จ. อยู่อีกเรื่อย ๆ
คนที่จะเป็น นาย ก.ได้ จะต้องเป็น นาย ข. ที่รู้จักการพัฒนาตัวเองครับ แล้วจะก้าวเข้าสู่ นาย ก.

นาย ก. อาจจะพัฒนาตนเอง จนมาเป็น คู่แข่งที่น่ากลัวของนายจ้างได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว

แต่คนไทยส่วนใหญ่ คอยแต่จะรอรับความช่วยเหลือ ก่อนลงมือทำอะไร ก็ไม่เคยมองหน้ามองหลัง คิดแค่ว่า อยากปลูกพืชก็ปลูก
ไม่มีการวางแผน ลองคิดดู ถ้าจะข้ามถนน แล้วไม่มองซ้ายมองขวา ความเสี่ยงจะมีมากขนาดไหน ที่จะถูกรถชน
แต่ถ้าเรามองซ้าย มองขวาก่อน โอกาสพลาดก็มีน้อย แต่คนพวกนี้ ทำเกษตรมาเป็นสิบ ๆ ปี ก็ไม่เคยคิดจะวางแผนเลย
แค่นี้ ผมก็หมดหนทางช่วยเหลือครับ ตัวเค้าเองช่วยตัวเองได้น้อยเกินไป ต่อให้คนอื่นไปช่วย ก็ไม่ได้ดีขึ้น
เพราะตัวเค้าเอง ไม่เคยที่จะใช้สมองคิด แล้วไตร่ตรองดูความเป็นจริง รอบ ๆ ตัวเอง. Copy คนอื่น ๆ แม้แต่ความขี้เกียจ ก็ Copy มาครับ

คนที่บอกว่าวันนี้หมูแพง วันหน้า เค้าก็อาจจะบอกว่า ไก่แพง  แต่เค้าจะไม่บอกว่า น้ำมันแพง เพราะน้ำมัน แพงจริง ๆ
และรัฐบาลก็ไม่มีทางแก้ปัญหาน้ำมันแพงได้ ถ้าหากเรายังพึ่งพาน้ำมันเป็นหลัก ในการพัฒนาประเทศ (ระดับโลกยังแก้ไม่ได้เลยครับ)
น้ำมันแพง ก็จะพาทุกอย่างแพงขึ้นไปด้วย ดังนั้น หมูแพง เป็นเรื่องปกติครับ!!!!

เมื่อก่อน ก๋วยเตี๋ยว 1 บาท (สมัยผมเด็ก ๆ ) ตอนนี้ ก๋วยเตี๋ยว 25 - 30 แพงกว่าเมื่อก่อนตั่งไม่รู้กี่เท่า
ที่ถูกต้อง เราต้องบอกว่า ข้าวของทุกอย่างราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ

แต่วิธีแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงนั้น ผมว่าไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลเลยครับ อยู่ที่ตัวคนซื้อครับ ถ้าคนซื้อรู้จักที่จะ
หาเงินมาให้ได้เหมาะสมกับฐานะการครองชีพแล้วหล่ะก็ ไม่มีอะไรแพงหรอกครับ

ของแพงของคุณอาจจะเปลี่ยนเป็น อาหารในภัตราคารหรู อะไรแบบนี้แทนที่จะบอกว่า หมู แพงไงครับ

ข่าวชอบบอกว่า รัฐแก้ปัญหาไม่สำเร็จ ผมว่า ไม่มีรัฐบาลไหนแก้ได้หรอกครับ เพราะมันอยู่ที่ เวลา
ลองอ่านยอนขึ้นไปเรื่อง ก๋วยเตี๋ยวสิครับ เดี๋ยวอีกหน่อย คนก็จะชินชากันไปเอง ถ้าหากินกันไม่ได้จริง ๆ ก็มองสภาพแถว ๆ Afirica ไว้ครับ
แถวนั้น คนไม่่มีอาหารกินก็ยังพอมีชีวิตอยู่รอดได้ครับ กินดิน กันไงครับ

ถ้าไม่อยากลำบาก ก็จง ขยัน ๆ กันนะครับ ทำแล้วเจ๊งกะบ้ง ก็ลุกขึ้นมาทำใหม่ครับ
ถ้าตอนเป็นเด็ก คุณหัดเดินก้าวแรกแล้วล้ม แล้วไม่ยอดลุกขึ้นมาเดินต่อ ตอนนี้คุณอายุ 20 ปี คุณก็เดินไม่เป็นครับ
ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ ผมบอกเลยว่า อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ครับ  หรือคุณจะบอกว่า ตอนนี้คุณยังคลาน 4 ขาอยู่

ปัญหาข้าวของแพง ผมว่ามันไม่ใช่ปัญหาเลย มันอยู่ที่การมองปัญหามากกว่า การแก้ปัญหามันอยู่ที่ตัวคุณเอง
ไม่ต้องรอให้ รัฐบาลไหน ๆ มาแก้ให้หรอกครับ เริ่มต้นตอนนี้ ด้วยตัวเองครับ
แล้ว อนาคต คุณจะเลิกบ่นเรื่องอาหารแพง หมูแพง น้ำมันแพง แต่ไปบ่นว่า อาหารที่แพงกว่านี้ ดีกว่านี้ อร่อยกว่านี้ มีอีกไหม! เอามาเลย!!!!


มีความรู้ เหมือนมีทรัพย์ อยู่นับแสน จำคำนี้ได้ไหมครับ
ถ้ารู้อย่างเดียว ไม่เอาออกมาใช้ ก็ไม่มีประโยชน์นะครับ  ถ้าเอาออกมาใช้ ก็เป็นได้ได้ว่าเค้าจะเลิกบ่นว่า หมูแพง เพราะหาเงินได้เพิ่มขึ้นครับ!!!

หรือ ทางเลือกสุดท้าย อยู่ในกะลาก็ OK ครับ เพราะอาจจะไม่เคยกินหมูเลย และ ไม่เคยรับรู้ว่าหมูแพง (ปลีกวิเวก โดดเดี่ยวไปเลยครับ)



ผมแนะนำเคล็ดลับ การแก้ปัญหาให้กับทุกคนที่บ่นว่าหมูแพงให้ฟังเอาไว้เป็นแนวทางปฏิบัตินะครับ
อ่านแล้ว ทำตามด้วยนะครับ

ลองทำงาน ทำงาน และ ทำงาน
จนรู้สึกว่า ทำวันละ 25 ชั่วโมง ดูนะครับ
แล้วหาทางทำให้ได้หลาย ๆ วัน ทำให้ได้ประจำ

เอาตัวอย่างง่าย ๆ มีคนบอกว่า พนักงาน 7 - 11 ได้เงิน ชั่วโมงละ 27 - 29 บาท
ถ้าทำเต็มที่ 24 ชั่วโมง (โคตรคนเหนือมนุษย์) ได้วันละ 640 - 690 โดยประมาณ ถ้าทำแบบไม่พักเลย
ทั้ง 30 วันก็จะได้เงินประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน

มองดูแล้ว โคตรเหนื่อย + ไม่เห็นหนทางรวย แต่ถ้าใครทำได้ รวยแน่นอน เพราะ ไม่มีเวลาใช้เงิน  อิอิ !!!!!  

ดังนั้น ขยัน + ประหยัด + อดทน รวยครับ!!!!  นี่แค่งานใช้แรงงานอย่างเดียวนะครับ
บางคนมองก่อนเลยว่า แบบนี้ ตายตั่งแต่ สามวันแรกแล้ว ผมว่า ก็คงจริง
แต่ผมอยากให้มองตรงคำว่า  ไม่มีเวลาใช้เงิน น่ะครับ (เริ่มที่ประหยัดก่อนเลยครับ)

แน่นอนว่า ถ้าใครยอมแพ้ตั่งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ก็คงไม่ต้องพูดถึงอนาคต เพราะแค่เริ่ม ก็ขาดไฟในการทำงานซะแล้ว

ถ้าเอาแบบ ทำได้แน่นอน แบบโคตรขยัน ไม่เอาแบบ โคตรคนเหนือมนุษย์แล้ว ก็น่าจะทำงานวันละ 15 ชั่วโมง สมมุติค่าแรง 7 - 11
ได้ ชั่วโมง ละ 26 - 29 บาท ต่อชั่วโมง ก็ประมาณวันละ 400 บาท ก็จะได้ประมาณเดือนละ 12,000 (นี่แบบไม่หยุดเลยนะ 30 วัน)

ดูเหมือนว่า ไอ้งานใช้แรงงานเนี่ย ทำยังไงก็ไม่รวยเป็นแน่แท้ ผมแนะนำให้ ทำไปด้วย คิดไปด้วย
ถ้าใช้แรงทำงาน ก็น่าจะไม่ได้มากไปกว่านี้อ่ะครับ ทำให้ตายก็ไม่รวยครับ (เนื้อหมูสำหรับคุณก็ยังแพงเหมือนเดิม)

ดังนั้น มองต่อไป ทำอย่างอื่นดีกว่าครับ ที่ไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่ใช้สมองให้มากหน่อย
แต่ก่อนอื่น ก่อนที่จะเริ่มทำอย่างอื่น คุณต้องเหนื่อยก่อนครับ เพราะ ต้องใช้แรงกาย หาเงินทุนก้อนแรก
และต้องหาได้แบบเหน็ดเหนื่อยแบบสุด ๆ แบบเกินขีดจำกัดของร่างกาย แล้วมันจะสอน ให้ตัวคุณเห็นค่าของเงินก้อนแรกครับ
คุณจะรู้จักใช้มันอย่างรู้คุณค่า และ เห็นคุณค่าของมัน ไม่ใช้แบบ ฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย เหมือนกับว่าหามันมาได้ง่าย ๆ
และมันคือแรงพลักดันในชีวิตของคุณ ให้คุณหามันต่อไป ถึงตอนนี้ มันจะแสนขมขื่น ทรมาณแบบสุด ๆ
แต่วันนึง คุณต้องเริ่ม คิด พัฒนา ปรับปรุงตัวเอง เพราะผมว่า ประสบการณ์จากการที่คุณได้เป็นคน ขยันแบบสุด ๆ
ทำงานแบบมีระเบียบ วินัย ยิ่งทำงานหนัก งานเดิมซ้ำๆ กันมากขึ้น คุณก็คงต้องเริ่มคิดบ้างแล้วหล่ะว่า จะทำยังไง
ให้เหนื่อยน้อยลง แต่ได้เท่าเดิม หรือได้มากขึ้น มาถึงตรงนี้ ประสบการณ์มันจะสอนคุณเอง

อะไร ๆ ที่เคยเห็นว่าเมื่อก่อนมันยาก แต่เมื่อผ่านประสบการณ์การทำงานอันโชกโชนมาแล้ว ไอ้ที่เคยคิดว่ายาก
วันนี้ มันช่างง่าย เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก ยิ่งคุณขยันทำหลาย ๆ อย่าง คุณก็ยิ่งเก่งหลายอย่าง
ยิ่งขยันทำไม่หยุด ก็ยิ่งเชี่ยวชาญ ยิ่งชำนาญในงาน ยิ่งมีประสบการณ์ ยิ่งเห็นในคุณค่าของเงิน คุณค่าของเวลา คุณค่าของหยาดเหงื่อที่ได้เสียไป
สมองคุณก็จะยิ่งพัฒนา เมื่อคุณมีเวลาว่าง เอาไปอ่านหนังสือหรือ หาความรู้ นะครับ เอาไปพักผ่อน อย่าเอาไป เล่นเกมส์ เตร็ดเตร่ หรือ สร้างความเดือนร้อน
หรือเอาเวลาว่างไปกินเหล้า เมายา  ถ้าเอาเวลาที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว ไปทำอะไร ๆ ที่ไม่มีประโยชน์ ปัญญาก็จะไม่เกิด อนาคตก็มืดมน สิ่งที่ไม่ดี ก็จะดึงให้คุณตกต่ำ

ถ้าทำอย่างที่ผมบอกแล้วยังไม่รวย ผมว่าโลกนี้คงมีแต่คนจน

บางคนบอกว่า ทำแบบที่ผมให้ทำเนี่ยเหนื่อยตายเลย
ผมว่า มันต้องเหนื่อยแน่ ๆ ครับ หลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จก็ล้วนแต่ผ่านจุดที่ต้องเหนื่อยสุด ๆ กันมาแล้วทั้งนั้น
แต่ผมยังจำข้อความได้ข้อความหนึ่ง ผมไปเจอข้อความนี้ที่วัดสวนแก้ว

"ความเหนื่อย เมื่อเรานอนหลับ ตื่นขึ้นมาแล้ว มันก็หายเหนื่อย"

ดังนั้น อย่ากลัวเหน็ดเหนื่อยครับ ทำงานหนัก ร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ

ผมว่า เรายอมเหนื่อยตอนที่ร่างกายเรายังเอื้ออำนวย ยังดีกว่ารอไปเหนื่อยตอนอายุมาก ๆ แล้วนะครับ

เลือกกินอาหารดี ที่ไม่แพง กินที่เหมาะสมกับฐานะ รู้ว่าอะไรแพง อะไรไม่แพง
ถึงตอนนี้ คงไม่ต้องมีใครมาบอกคุณว่า อะไรแพง หรือ ไม่แพง เพราะเงินทุกบาท ทุกสตางค์ มันเหมือนกลั่นมาจาก
สมองของคุณ กลั่นมาจากความเป็นตัวตนของคุณ เงินเป็นสิ่งที่หามาได้ทุกเมื่อ เพียงแค่ใช้อย่างพอเพียง เหมาะสมฐานะ

ประสบการณ์หาซื้อไม่ได้ครับ ต้องออกไปคว้ามาเอง



ป.ล. หมูต้องแพงกว่านี้
ฉะนั้น เลิกบ่นว่าหมูแพงซะที ถ้ามีสมอง
อีก 2 ปี หมูน่าจะอยู่ที่ ก.ก. ละ 200 บาท++ (ถ้าคุณรอดชีวิตจาก 2012 ไปได้นะ) เพราะตอนผมเด็ก ๆ หมู ก.ก.ละ 20 - 30 บาท

ทุกอย่าง ล้วนแพงขึ้นเสมอ เพียงแค่ไม่ต้องตกใจไปกับมัน เราใช้แค่คติง่าย ๆ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
แต่ถ้า วันนี้ขี้เกียจ ไม่ทำงาน หรือ ทำน้อย ทำโดยใช้แต่แรง ไม่ใช้สมองให้มากขึ้น วันไหน ๆ หมูมันก็แพงครับ เพราะไม่มีเงินไปซื้อไงครับ!!! แพงมาตั่งแต่อดีตแล้วไงครับ!

ส่วนหมูธงฟ้า คือ ราคาหมู ที่ตัดกำไรพ่อค้าคนกลางออกไป แต่ถึงยังไงก็ไม่ได้แก้ปัญหาได้อย่าง ยั่งยืน ถาวร เพราะ อนาคต วันพรุ่งนี้ หมูจะแพงขึ้นไปอีก!!!!!!
จะธงสีไหน หมูก็จะแพงขึ้นไปอีก คนที่ไม่พัฒนาตัวเอง ขี้เกียจ ก็จะบ่นว่าของแพงต่อไปอีก ฉันใดก็ฉันนั้น.......................................


1 วันมี 24 ช.ม.

ทำงาน 15 ชั่วโมง นอน 8 ชั่วโมง รวม 23 ชั่วโมง
อีก 1 ชั่วโมง เอาไว้เพื่อสำหรับ การเดินทาง / อาบน้ำ

ขยันเท่านั้นครับ ที่จะทำให้คุณเลิกบ่นคำว่า หมูแพง หมูแพง หมูแพง หมูแพง................ หมูแพงโว้ย.ยยยย..............


ไปนอนแล้ว....

Edit แก้คำผิด

ไปเลี้ยงหมูครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมหมูแพง

ตอนนี้คนรู้จัก ที่อยู่ในบริเวณ ตำบลที่เลี้ยงหมูกันเยอะมาก
เค้าก็รวยกันมานานแล้วนะ แต่เค้าก็เลี้ยงดีขึ้น สะอาดกว่าเมื่อก่อน
มีการตรวจสอบควบคุมคุณภาพการเลี้ยงมากขึ้น

ถ้าเทียบกับประเทศอื่น ๆ แล้วบ้านเราอาหารยังถูกมากครับ

แต่ไม่ต้องห่วงครับ สินค้าแพงถึงจุดหนึ่ง ก็จะไม่แพงขึ้นอีกต่อไป
เพราะ กำลังซื้อก็จะค่อย ๆ หายไปครับ ดังนั้น ถ้าสินค้าแพง แต่ยังขายได้
ก็เป็นไปตามกลไกลตลาดครับ

นอกจากกำลังซื้อนี้ จะมาจากต่างประเทศ ก็จะแพงขึ้นไปได้อีก เพราะมีมาไม่อั้น
และเค้ามีกำลังซื้อสูงครับ แน่นอนว่า เกษตรกรก็จะรายได้ดีขึ้นไปด้วยครับ

คนจนมีทางเดียวครับ ใช้สมองให้มากขึ้นกว่าสองมือ

ปีต่อไป ประมาณ  $11.99 ครับ พึ่งต่อไปเมื่ออาทิตย์ก่อน

480 

... ทดสอบเวลา

ผมคิดว่า นอกจากคนร้ายจะได้ username กับ password ไปแล้ว
ยังต้องรู้เบอร์มือถือ แล้วไปหาวิธีแอบทำซิมใหม่ด้วย ถึงจะสามารถเข้าไปเพิ่มบัญชี
ที่ต้องการโอนเงินเข้าไปได้

ซึ่งการจะเพิ่มบัญชีปลายทางนั้น ถ้ามือถือไม่หาย ก็ลำบากครับ
ที่จะเดารหัส OTP

ดังนั้น การโอนเงินออกจากบัญชีผ่าน ibanking อาจะจะเป็นคนในก็ได้ครับ
เช่น คนใกล้ชิด ที่แอบเพิ่มบัญชี และ ลบ SMS ข้อความ OTP ของธนาคารในมือถือ
เพื่อไม่ให้เจ้าของบัญชีรู้ว่ามีการเพิ่มข้อมูลบัญชีลงไป

คิดว่า ไม่ควรคาดเดาไปต่างๆ  นา ๆ ควรจะหาดูก่อนว่า จุดอ่อนมาจากตรงไหน
เพราะอย่าลืมว่า มีแค่ Username กับ Password ก็ยังไม่สามารถโอนได้
ต้องได้มือถือมาด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็คนในทั้งนั้น ที่จะรู้เบอร์มือถือกัน

astalavista.box.sk
cracks.am

คนเล่นคอมพ์รุ่นแรก ๆ คงเข้ากันจนชิน
สำหรับเทคนิคเมื่อก่อน คือจะไม่ใช้ IE เข้าเด็ดขาย
แต่จะเข้าไปด้วย Opera ซึ่งสมัยนั้น Opera จะไม่รับพวก Code แปลก ๆ ทั้งหลาย
ทำให้ไวรัส ทำอะไรเราไม่ได้

ส่วนไฟล์ที่โหลดมา ถ้าเราจะใช้ เราก็ต้องทำใจยอมรับ Trojan หรือ อะไรก็แล้วแต่
ที่มันแฝงมา เพราะถ้าไม่มีไอ้เวปพวกนี้ ก็ไม่รู้จะไปหา ยาแก้ไอ กันที่ไหน

เรียกว่า รู้ว่าโดน แต่ก็ยังยอม อิอิ  เพราะไม่อยากเสียเงินซื้อของแท้ หรือ แค่อยากลองโปรแกรม
พวกนี้มันเทพขนาดเขียน ยาแก้ไอได้ แค่ Trojan คงหมู ๆ ไปเลยหล่ะครับ

 

กำลังสนใจเปิดรับสมัคร Webmaster + Graphic 1 ตำแหน่ง (ยังไม่รับ แต่ส่งประวัติ/ลงชื่อสมัครมาก่อนได้)

สิ่งที่ควรรู้
- สถานที่ทำงาน ติดกับ ตลาด อตก. (สวนจตุจักร)
- การเดินทาง จาก BTS สะพานความ เดิน 300 เมตร หรือ เดินจาก MRT 100 เมตร
- เวลาเริ่มงาน 10.15 น. - 19.00 น.
- การทำงาน จันทร์ - ศุกร์ ถ้าขยัน มาทำทุกวันก็ได้
- ทางร้านมี Computer + internet ให้ที่ทำงาน
- ไม่จำเป็นต้องมีพาหนะ แต่ถ้ามี เวลาออกไป รับ/ส่งของ ก็จะมีค่าจ้างให้ตามระยะทาง (รายได้เสริม)
- เวลาพัก ไม่เป็นเวลา แต่ช่วงไหนว่าง ก็พักได้
- ที่ทำงานติดแอร์
- ไม่สนวุฒิการศึกษา ขอให้มีความสามารถตามที่ทางร้านต้องการ
- อายุไม่เกิน 30 ปี (เกินกว่านี้คงไม่สนค่าจ้างที่ผมเสนอแน่ ๆ)
- เพศ ชาย หรือ หญิง ก็ได้
- อุปนิสัย : ขยัน ซื่อสัตว์ ประหยัด อดทน (ก๊อปคำขวัญวันเด็กมา) และขอระเบียบวินัย + ความรับผิดชอบด้วยครับ
- ภาษา English ควรมีพื้นฐานนิดหน่อย เพราะทำงานกับ internet, website, hosting, ไม่ต้องถึงกับพูดได้
- พิมพ์ดีด ควรจะพิมพ์ได้บ้าง แต่ไม่ต้องถึงกับเก่ง
- การหยุดงาน ถ้าไม่มา ก็โทรบอกกันสักหน่อย แค่นั้นเอง  เพราะเราจ่ายค่าแรงตามวันที่มาทำงาน
- ควรมีประสบการณ์ ด้านการทำเวปไซด์ด้วยตนเอง และเป็น PHP และ รักในงานด้าน Website และ ยังมีไฟในการทำงาน

ขอบเขตงาน และ ความสามารถที่ต้องการ
-  เริ่มงานด้วยการวางแผนการถ่ายรูป และ นำรูปสินค้าขึ้นเวป โดยปรึกษากับ พี่ ๆ ที่ร้าน
โดย แต่ละวัน จะนำสินค้าขึ้นเวปประมาณ 3 - 6 ชิ้น แล้วแต่เวลาจะอำนวย
แต่ละชิ้น จะต้องจด รายละเอียดเช่น ชื่อสินค้า, ขนาด, Dimension, น้ำหนัก, ราคา, คำอธิบาย
สินค้าที่ถ่าย ก็จะมีหลากหลาย แต่หลัก ๆ ก็จะเป็น เซรามิคไปก่อนครับ

- ถ่ายรูปสินค้า ทางร้านมีกล้องให้ Nikon D90 + 18-105VR + ขาตั้ง
สินค้า 1 ชิ้น จะถ่ายประมาณ 4 - 5 รูป โดยอาจจะประกอบด้วย
รูปด้านหน้า, รูปด้านข้าง, รูปพร้อม Package, รูปในมุมอื่น ๆ อีก 1 - 2 รูป
ถ้าหากพอมีความรู้ด้านการใช้กล้อง DSLR มา ก็จะดีครับ
เช่น การถ่ายด้วยค่า F ต่าง ๆ หรือ ความเร็วชัตเตอร์ต่าง ๆ
ไม่ต้องเทพขนาดปรับชดเชยแสงเป็น เพราะผมก็ถ่ายเป็นแค่นี้เหมือนกัน

- หลังจากถ่ายเสร็จ ก็ปรับแต่งรูปใน Photoshop
โดยปรับแสง ปรับความคมชัด ของรูปทุกรูป (ทางร้านมีแนวทางสอนให้) ทำเป็น Photoshop Action ได้
และ จะมี 1 รูปหลัก ที่จะต้องตัด Background ออกไป (เป็นรูปขนาดเล็ก 150 x 180 pixel )
และ save รูปเป็น .jpg  หรือ .gif
ถ้า 1 วัน ถ่ายรูปสำหรับสินค้า 4 ชิ้น ก็จะแต่งรูปประมาณ 20  รูป

- เสร็จแล้วก็ Upload รูปขึ้นไปเก็บไว้ FTP
แล้วก็เข้าไปเพิ่ม ข้อมูลสินค้าลงใน Website เป็น Backend แบบง่าย ๆ
โดยต้องมีพื้นฐาน HTML สักหน่อย เช่น รู้จักคำสั่งพื้นฐานพวก
br, hr, table, div, class, img, b, i และ พอจะมีพื้นฐาน css สักนิดหน่อย
คาดว่า สินค้า 4 ชิ้น ใน 1 วันน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 -  4 ช.ม.
ตั้งแต่การวางแผน จนถึง การเพิ่มข้อมูลลงเวปจนเสร็จ

- งานอื่น ๆ ถ่ายรูป ตัดต่อภาพ นำตราโลโก้ของลูกค้ามาวางลงบนตัวสินค้า แล้วส่งเมล์
ให้ลูกค้าดู

- ทำ Artwork แล้วส่ง Fax /Mail ให้ไปให้เจ้าหน้าที่คนต่อไปทำงาน
Artwork ในที่นี้ แค่ทำรูปใน Photoshop ไม่ต้องเก่งขนาดเขียนลายเส้น illustrator ได้
ทางร้านจะแนะนำและสอนเพิ่มเติมให้ เพื่อให้ปฏิบัติงานได้ตรงตามที่ต้องการ
โดยเป็นงานที่ไม่ยากเลย สำหรับคนที่เป็น Photoshop หรือ มีพื้นฐานที่ดีพอ

- Update Stock สินค้าในเวปไซด์ เช่น สินค้าตัวไหนขายหมด ก็ไปติดป้ายว่า ขายหมดแล้ว (กดแค่ปุ่มเดียว)

เวลาที่เหลือ
- ก็ช่วยเหลืองานทั่ว ๆ ไป เช่นจัดสินค้า, ดูแลสินค้า
- พิมพ์ใบเสนอราคา แล้วส่งเมล์หรือ fax (ผ่านโปรแกรม)
- เช็คอีเมล์ และพิมพ์ ตอบตามคำสั่งของพี่ที่ร้าน
- ออกแบบ Graphic บ้างนิดหน่อย และ ทำโบว์ชัวร์สินค้าบ้าง
- ถ้าว่าง ๆ ก็ออกไปส่งของ (นั่งรถไปเป็นเพื่อนกับคนส่งของ)

- สินค้าในร้านเป็น เซรามิค แตกง่าย และ แต่ละชิ้นมีมูลค่าสูง ถ้ารู้ตัวว่า เป็นคนไม่ระมัดระวัง
ก็อาจจะไม่เหมาะกับงานนี้ครับ เนื่องจาก ในร้านมีพื้นที่ไม่มาก
การทำงานก็ทำงานแบบเป็นกันเอง ไม่มีระบบอะไรที่แน่นอนมาก เนื่องจาก เราเป็นแค่ร้านค้า
ไม่ใช่บริษัท ไม่มีประกันสังคม ไม่มีสัญญาว่าจ้าง ทำงานกันด้วยใจ

คิดค่าแรงเป็น รายวัน ตามจำนวนวันที่ทำ วันละ 390 บาท
เช่น 1 เดือน ทำงาน 22 วัน ก็ 390 x 22 = 8,580 บาท
ถ้าหากทำงานได้ดี ก็จะได้ 9,000 - 10,000 บาท ดูตามความสามารถ
หรือ อาจจะมากกว่านี้ ถ้าหากมีความสามารถที่มากกว่านี้

ถ้าหากมาทำงานทุกวันใน 1 เดือน เช่น เสาร์ - อาทิตย์ไม่หยุด ก็นับจำนวนวันเพิ่มให้
เช่น มาทำ 3 วันเสาร์ 1 วันอาทิตย์ ก็เพิ่มไปอีก 4 วัน ได้เงินเพิ่มอีก 390 x 4 = 1,560 บาท
หรือถ้า 1 เดือน มาทำครบทั้ง 31 วัน ก็ 31 x 390 = 12,090 บาท
เพราะร้านจะเปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด (นอกจากวันหยุดยาว ๆ เช่น สงกรานต์, ปีใหม่)

เงินพิเศษ ถ้าหากทางร้านมีจัดงานนอกสถานที่ หรือ ส่งของ Lot ใหญ่ ๆ แล้วแต่ความเหมาะสม

เบิกเงินได้ทุก ๆ 10 วัน ที่ทำงานไปแล้ว
ไม่มีค่าอาหารกลางวันให้, ไม่มีค่ารถให้
ดังนั้น ถ้าบ้านอยู่ไม่ไกล ก็จะประหยัดค่าเดินทางได้มาก
หรือ สามารถเดินทางมาโดย BTS หรือ MRT ได้ ก็สะดวกดี

สนใจสอบถามมาที่ กระทู้นี้ก่อน ตอนนี้กำลัง ลังเลอยู่ ว่าจะรับดีไหม
อยากฟังความเห็น ของผู้ที่สนใจครับว่า มีใครสนใจงานแบบนี้ไหม
และผู้สนใจคิดว่า ปริมาณงานขนาดนี้ เหมาะสมกับ ค่าจ้างไหมครับ 

อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม PM มาได้ครับ หรือ สอบถามทาง Email : i n f o @ b e n j a r o n g . n e t
แผนที่และที่ตั้งสถานที่ทำงาน  Click ดูที่นี่ครับ

ชื่อผู้ลงประกาศ : E A K K A C H A I
นามสกุล : L I M V A C H A R A V O N G
Email : i n f o @ b e n j a r o n g . n e t   (ของจริงไม่ต้องเว้นช่องว่างครับ กันสแปม)
Phone : ศูนย์*แปด*หนึ่ง*8*2*2*5*5*2*0    (เอาเครื่องหมาย * ออก นั่นคือเบอร์โทรผมครับ) (ตอนนี้ยังไม่ต้องโทรก็ได้ครับ รอให้เปิดรับสมัครก่อน)

หากสนใจก็ลอง ส่งผลงาน, เล่าเกี่ยวกับประวัติงานที่เคยทำ, หรือ ส่งผลงานที่ผ่านมา, เช่น Web ที่เคยทำ หรือ ร่วมงาน
หรือ ความสามารถพิเศษอื่น ๆ แล้วส่งมาทาง Email
หลังจากพิจารณา เราอาจจะได้ร่วมงานกันครับ

ป.ล. ตอนนี้ยังไม่ได้รับนะครับ แต่คิดว่า มีโอกาสที่จะเปิดรับสมัครในเร็ว ๆ นี้ครับ
สำหรับตำแหน่ง Webmaster + Graphic


กระทู้นี้ อาจหายไปเมื่อไหร่ก็ได้ครับ ถ้าหากทางเราพิจารณากันแล้ว ตำแหน่งนี้ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มคน

ผมก็ไปมาช่วง กลางเดือน กุมภา อากาศเย็นสบายดี บางวันหมอกลงจัด มีฝนตกปรอย ๆ 1 วัน
ก็พอเที่ยวได้ทั่ว ๆ ต้องจัดตารางเที่ยวแบบ indoor กับ out door ตามความ
เหมาะสมในแต่ละวัน

เที่ยวให้สนุกนะครับ

สังคมไทยต้องการคนอย่างคุณครับ ผมคิดว่าทำให้เป็นข่าวออกทีวี น่าจะดีกว่าครับ
ปิดเกมส์เลย ร้องเรียนโทรทัศน์ ทุกช่อง โทรแจ้ง จ.ส. 100 ด้วย (เกี่ยวกับจราจรตรงไหนเนี่ย)

มีมาหลายเวอร์ชั่น แต่อันนี้ ฮาจริง ๆ 

ช่อง true 105 ครับ
กำลังร้องเพลงชาติ ลุ้น ๆ ๆ
น่าจะลองส่ง ทักษิณ VS อภิสิทธิ์ บ้างนะ
เอาแถว ๆ สนามมวยราชดำเนินก็ได้!!!