หัวข้อ: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Optimus ที่ 07 มกราคม 2013, 19:59:42 พอดีผมอยากทราบแนวทาง และวิธีการว่าทำอย่างไรถึงจบปริญญาโท - เอกได้
เนื่องจากผมมีปมอยู่ข้อนึงว่า ทางบ้านผมฐานะยากจน คนแถวๆ บ้านที่เขามีฐานะดีกว่า ชอบเหยียดหยาม ผม และครอบครัวเอาอย่างมาก ว่าครอบครัวผมเป็นอย่างงั้น อย่างงี้ ทั้งที่บางทีมันไม่จริง ประเด็นที่ผมตั้งกระทู้นี้จริงๆ คือ ตรงนี้ครับ ทุกวันนี้ผมเรียน ป.ตรี ปี 1 หาเงินส่งตัวเองเรียน (ค่าหอ , ค่ากินอยู่แต่ละวัน , ค่า บลาๆ ๆ ) ได้เงินจาก กยศ. รายเดือนเดือนละ 2,200 บาท + เงินจาก IM เล๊กๆ น้อยๆ แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ผมต้องส่งให้แม่ที่อยู่ทางบ้านด้วย ท่านอายุมากแล้วครับ (64 มั้งผมถ้าจำไม่ผิด) ท่านทำงานได้เดือนละ 3,500 โดยประมาณ ใช้จ่ายในครอบ ส่งให้หลานผมไป รร. สองคน รวแล้ววันละ 100 ค่ากับข้าว ค่าสารพัด แค่ 10 - 15 วันก็ไม่พอแล้วครับ ขอบคุณครับ :wanwan017: :wanwan017: หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: mija ที่ 07 มกราคม 2013, 20:03:54 ถ้ารัฐบาลก็ยื่นเกรดของปริญญาตรีด้วยนะและอาจจะมีการสอบเผื่อดูคุณสมบัติ แต่ถ้าเอกชนก็เกรดไม่ต่ำกว่า 2.5 และมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่า (ม.เกษตรจะถูกกว่าที่อื่นหน่อย)
จ-ศ ตอนเย็นจะถูกกว่า ส-อ ประมาณ 50,000 บาท เรียนก็ดีก็มีสารพัดทุนให้ตั้งแต่ ตรี โท เอก จะทุนเปล่าหรือกลับมาใช้ทุนทีหลังก็แล้วแต่พิจารณา รวมถึงมูลนิธิที่ให้ทุนแจกทุนทั้งหลายด้วย ค้นหาทางอินเตอร์เน็ตหน่อยจะเจอเอง ตอนนี้ขอบอกว่าปริญญาโทเกลื่อนตลาดและไม่ค่อยเป็นที่ต้องการ เนื่องจากค่าตอบแทนสูงหรือบางทีจบตรีมาก็ต่อโท ประสบการณ์ทำงานเลยน้อยแต่เรียกเงินเดือนแพง บางคนจ้างทำวิทยานิพนธ์ด้วยซ้ำ ปริญญาโทบางคนยังอ่านเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้เลยสักะนิดนึงจากที่ประสบด้วยตนเอง เชื่อสิจะจบ ตรี โท เอก ก็สู้มีเงินในกระเป๋าไม่ได้ ให้คำนวณเงินที่ใช้เรียนตั้งแต่อนุบาล ค่าหนังสือ ค่าเดินทาง ค่ารายงาน ค่าขนม ค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าเข้าค่าย ค่าหอ และค่าอื่น ๆ ดู แล้วมาหารกับเงินเดือนตามวุฒิที่ได้รับ คำนวณดูสิว่าอีกกี่ปีอีกกี่ชาติถึงใช้ทุนในการเรียนรู้เหล่านั้นคืนหมด ปริญญาก็แค่กระดาษแปะข้างฝา 1 ใบ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: ชาละวันหรรษา ที่ 07 มกราคม 2013, 20:05:15 แฟนผมเรียนสายบริหารการศึกษาครับ ม.นเรศวร
2 ปีจบ ค่าเทอมเหมา 100,000 บาท เฉลี่ยเทอมละ 25,000 เรียนที่ศูนย์พิจิตร ^^ ตอนนี้จบแล้ว ทำงานกินค่าแรงวันละ 300 :P หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: phpthailand ที่ 07 มกราคม 2013, 20:06:24 พอดีผมอยากทราบแนวทาง และวิธีการว่าทำอย่างไรถึงจบปริญญาโท - เอกได้ เนื่องจากผมมีปมอยู่ข้อนึงว่า ทางบ้านผมฐานะยากจน คนแถวๆ บ้านที่เขามีฐานะดีกว่า ชอบเหยียดหยาม ผม และครอบครัวเอาอย่างมาก ว่าครอบครัวผมเป็นอย่างงั้น อย่างงี้ ทั้งที่บางทีมันไม่จริง ขอบคุณครับ :wanwan017: :wanwan017: ผมรุ้แต่ว่า พอเพียงแล้วตอนนี้ ไม่ต้องการอะไรอีกและ เพียงแค่ หาตังรักษาดวงตาพ่อ และ รักษาคุณตา หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: boardseo ที่ 07 มกราคม 2013, 20:11:58 จะไปสนทำไมสียงนกเสียงกาครับ :wanwan010:
จบสูงๆใช่ว่าจะร่ำรวยแล้วมีความสุขเสมอไป ครอบครัวผมก็ไม่ใช่เศรษฐีครับ ระดับกลาง แต่มีความสุขมาก พ่อ แม่ ผม น้องของผม ได้อยู่และทำงานด้วยกัน กินข้าวพร้อมหน้า เที่ยวพร้อมครอบครัว มีสุขล้นหลาม ผมจบแค่ป.ตรี น้องสาวจบม.6 แต่สถานะปัจจุบันก็สุขจนล้นแล้วครับ แต่ถ้ามองจากมุขของ จขกท.ท่านน่าจะมีความกดดันจากสังคมรอบข้างพอสมควร ผมก็ไม่รู้จะแนะนำยังไงนะครับ รู้แต่ว่าโท-เอก มันแพงมาก ยังไงก็สู้ๆครับ :wanwan003: :wanwan003: หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Optimus ที่ 07 มกราคม 2013, 20:18:56 จะไปสนทำไมสียงนกเสียงกาครับ :wanwan010: จบสูงๆใช่ว่าจะร่ำรวยแล้วมีความสุขเสมอไป ครอบครัวผมก็ไม่ใช่เศรษฐีครับ ระดับกลาง แต่มีความสุขมาก พ่อ แม่ ผม น้องของผม ได้อยู่และทำงานด้วยกัน กินข้าวพร้อมหน้า เที่ยวพร้อมครอบครัว มีสุขล้นหลาม ผมจบแค่ป.ตรี น้องสาวจบม.6 แต่สถานะปัจจุบันก็สุขจนล้นแล้วครับ แต่ถ้ามองจากมุขของ จขกท.ท่านน่าจะมีความกดดันจากสังคมรอบข้างพอสมควร ผมก็ไม่รู้จะแนะนำยังไงนะครับ รู้แต่ว่าโท-เอก มันแพงมาก ยังไงก็สู้ๆครับ :wanwan003: :wanwan003: มันไม่ใช่แค่กดดันจากคนภายนอกสิครับ กดดันตัวเองด้วยครับ ทุกวันนี้ผมเรียน ป.ตรี ปี 1 หาเงินส่งตัวเองเรียน (ค่าหอ , ค่ากินอยู่แต่ละวัน , ค่า บลาๆ ๆ ) ได้เงินจาก กยศ. รายเดือนเดือนละ 2,200 บาท + เงินจาก IM เล๊กๆ น้อยๆ แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ผมต้องส่งให้แม่ที่อยู่ทางบ้านด้วย ท่านอายุมากแล้วครับ (64 มั้งผมถ้าจำไม่ผิด) ท่านทำงานได้เดือนละ 3,500 โดยประมาณ ใช้จ่ายในครอบ ส่งให้หลานผมไป รร. สองคน รวแล้ววันละ 100 ค่ากับข้าว ค่าสารพัด แค่ 10 - 15 วันก็ไม่พอแล้วครับ :'( :'( หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: amabie ที่ 07 มกราคม 2013, 20:19:33 จบโทจ้า ที่ถามถึงแนวทาง-วิธีการให้เรียนจบ เราว่ามี 3 อย่างประกอบกัน คือ
- ความรู้ - เวลา - เงิน ความรู้ แน่นอนว่าต้องมีความรู้ในสาขาที่เรียน ไม่งั้นคงสอบเข้าไม่ได้ และทำวิทยานิพนธ์ไม่ผ่านแน่ๆ เวลา เรื่องนี้ประสบด้วยตัวเอง มีเพื่อนในรุ่นหลายคนเรียนๆอยู่ก็ลาออกซะอย่างงั้น เพราะงานประจำค่อนข้างหนัก เลยไม่มีเวลาเข้าเรียน+ทำการบ้านต่างๆ หรือบางคนมาตกม้าตายเอาเทอมสุดท้ายที่ต้องทำวิทยานิพนธ์ เพราะไม่มีเวลาตัวเดียว เงิน แต่ละหลักสูตรมีค่าใช้จ่ายต่างกัน เราเรียนที่มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ทั้งหลักสูตรตกแสนต้นๆค่ะ ก่อนเรียนโทอยากให้ทบทวนว่ามันจำเป็นจริงๆไหม ได้ช่วยส่งเสริมวิชาชีพรึเปล่า ถ้าตอบโจทย์ไม่ได้หมดก็น่าเสียดายเวลาและเงินทองค่ะ สำหรับเราถ้าให้ย้อนกลับไปคงไม่เรียนค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ) :] หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอŦ เริ่มหัวข้อโดย: chui761 ที่ 07 มกราคม 2013, 20:19:47 ป.โท ผมขอทุนของมหาลัยครับ ถ้าขยันก็จบไว มหาลัยของรัฐจะประหยัดหน่อย
พอจบโทก็ทำงานเก็บเงินก่อน ตอนนี้ลาเรียนเอก ก็ยังรับเงินเดือนที่เดิมอยู่ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยนะถ้าจะเรียนต่อ เพื่อลบคำดูถูกเหยียดหยาม เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ และต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะไม่ได้มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชเหมือน ป.ตรี ผมเห็นหลายๆ คนเรียนไม่จบก็เยอะ เสียดายค่าเทอม นอกเสียจากว่า มองอนาคตไว้ว่าถ้าจบโทแล้วจะได้ทำงานที่ดี ลืมบอกไปครับ ผมก็กู้ กยศ.ครับ เป็นรุ่นแรกเลย กู้ตั้งแต่ ม.6 จนจบ ป.ตรีเลย หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Optimus ที่ 07 มกราคม 2013, 20:22:13 ป.โท ผมขอทุนของมหาลัยครับ ถ้าขยันก็จบไว มหาลัยของรัฐจะประหยัดหน่อย พอจบโทก็ทำงานเก็บเงินก่อน ตอนนี้ลาเรียนเอก ก็ยังรับเงินเดือนที่เดิมอยู่ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยนะถ้าจะเรียนต่อ เพื่อลบคำดูถูกเหยียดหยาม เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ และต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะไม่ได้มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชเหมือน ป.ตรี ผมเห็นหลายๆ คนเรียนไม่จบก็เยอะ เสียดายค่าเทอม นอกเสียจากว่า มองอนาคตไว้ว่าถ้าจบโทแล้วจะได้ทำงานที่ดี นั่นไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ ทุกวันนี้ผมเรียน ป.ตรี ปี 1 หาเงินส่งตัวเองเรียน (ค่าหอ , ค่ากินอยู่แต่ละวัน , ค่า บลาๆ ๆ ) ได้เงินจาก กยศ. รายเดือนเดือนละ 2,200 บาท + เงินจาก IM เล๊กๆ น้อยๆ แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ผมต้องส่งให้แม่ที่อยู่ทางบ้านด้วย ท่านอายุมากแล้วครับ (64 มั้งผมถ้าจำไม่ผิด) ท่านทำงานได้เดือนละ 3,500 โดยประมาณ ใช้จ่ายในครอบ ส่งให้หลานผมไป รร. สองคน รวแล้ววันละ 100 ค่ากับข้าว ค่าสารพัด แค่ 10 - 15 วันก็ไม่พอแล้วครับ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: boardseo ที่ 07 มกราคม 2013, 20:22:35 จะไปสนทำไมสียงนกเสียงกาครับ :wanwan010: จบสูงๆใช่ว่าจะร่ำรวยแล้วมีความสุขเสมอไป ครอบครัวผมก็ไม่ใช่เศรษฐีครับ ระดับกลาง แต่มีความสุขมาก พ่อ แม่ ผม น้องของผม ได้อยู่และทำงานด้วยกัน กินข้าวพร้อมหน้า เที่ยวพร้อมครอบครัว มีสุขล้นหลาม ผมจบแค่ป.ตรี น้องสาวจบม.6 แต่สถานะปัจจุบันก็สุขจนล้นแล้วครับ แต่ถ้ามองจากมุขของ จขกท.ท่านน่าจะมีความกดดันจากสังคมรอบข้างพอสมควร ผมก็ไม่รู้จะแนะนำยังไงนะครับ รู้แต่ว่าโท-เอก มันแพงมาก ยังไงก็สู้ๆครับ :wanwan003: :wanwan003: มันไม่ใช่แค่กดดันจากคนภายนอกสิครับ กดดันตัวเองด้วยครับ ทุกวันนี้ผมเรียน ป.ตรี ปี 1 หาเงินส่งตัวเองเรียน (ค่าหอ , ค่ากินอยู่แต่ละวัน , ค่า บลาๆ ๆ ) ได้เงินจาก กยศ. รายเดือนเดือนละ 2,200 บาท + เงินจาก IM เล๊กๆ น้อยๆ แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ผมต้องส่งให้แม่ที่อยู่ทางบ้านด้วย ท่านอายุมากแล้วครับ (64 มั้งผมถ้าจำไม่ผิด) ท่านทำงานได้เดือนละ 3,500 โดยประมาณ ใช้จ่ายในครอบ ส่งให้หลานผมไป รร. สองคน รวแล้ววันละ 100 ค่ากับข้าว ค่าสารพัด แค่ 10 - 15 วันก็ไม่พอแล้วครับ :'( :'( ภาระท่านใหญ่หลวงยิ่งนัก ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปได้ดีครับ ป.โท ผมขอทุนของมหาลัยครับ ถ้าขยันก็จบไว มหาลัยของรัฐจะประหยัดหน่อย พอจบโทก็ทำงานเก็บเงินก่อน ตอนนี้ลาเรียนเอก ก็ยังรับเงินเดือนที่เดิมอยู่ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยนะถ้าจะเรียนต่อ เพื่อลบคำดูถูกเหยียดหยาม เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ และต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะไม่ได้มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชเหมือน ป.ตรี ผมเห็นหลายๆ คนเรียนไม่จบก็เยอะ เสียดายค่าเทอม นอกเสียจากว่า มองอนาคตไว้ว่าถ้าจบโทแล้วจะได้ทำงานที่ดี ใช่เลย ผมเห็นด้วยครับ เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาอาจารย์ซักคนที่ท่านไว้วางใจ ผมว่าท่านต้องได้แน่ๆเลย หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอŦ เริ่มหัวข้อโดย: mija ที่ 07 มกราคม 2013, 20:25:07 ป.โท ผมขอทุนของมหาลัยครับ ถ้าขยันก็จบไว มหาลัยของรัฐจะประหยัดหน่อย พอจบโทก็ทำงานเก็บเงินก่อน ตอนนี้ลาเรียนเอก ก็ยังรับเงินเดือนที่เดิมอยู่ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยนะถ้าจะเรียนต่อ เพื่อลบคำดูถูกเหยียดหยาม เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ และต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะไม่ได้มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชเหมือน ป.ตรี ผมเห็นหลายๆ คนเรียนไม่จบก็เยอะ เสียดายค่าเทอม นอกเสียจากว่า มองอนาคตไว้ว่าถ้าจบโทแล้วจะได้ทำงานที่ดี นั่นไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ ทุกวันนี้ผมเรียน ป.ตรี ปี 1 หาเงินส่งตัวเองเรียน (ค่าหอ , ค่ากินอยู่แต่ละวัน , ค่า บลาๆ ๆ ) ได้เงินจาก กยศ. รายเดือนเดือนละ 2,200 บาท + เงินจาก IM เล๊กๆ น้อยๆ แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ผมต้องส่งให้แม่ที่อยู่ทางบ้านด้วย ท่านอายุมากแล้วครับ (64 มั้งผมถ้าจำไม่ผิด) ท่านทำงานได้เดือนละ 3,500 โดยประมาณ ใช้จ่ายในครอบ ส่งให้หลานผมไป รร. สองคน รวแล้ววันละ 100 ค่ากับข้าว ค่าสารพัด แค่ 10 - 15 วันก็ไม่พอแล้วครับ กยศ. คุณจบมาก็ต้องใช้คืนหรือคุณจะไม่จ่าย? ถ้าไม่จ่ายคุณจะมีหนี้กยศ.ติดตัวทำธุรกรรมทางการเงินประเภทสินเชื่อและเครดิตไม่ได้เพราะธนาคารตรวจสอบพบว่าคุณมีหนี้กยศ.อยู่ บางที่มันหักจากเงินเดือนคุณเลยนะ แล้วไหนจะค่าบลา ๆ ที่คุณจะต้องจ่ายในแต่ละเดือนอีก ดังนั้นพับโครงการปริญญาโทไปก่อน คิดหาทางทำอย่างไรได้เงินมากมากที่สุดโดยไม่ต้องเสียสุขภาพจิตและสุขภาพกายมากโดยที่เป็นอาชีพสุจริต อีกทั้งพยายามตั้งใจเรียนเอาทุนเรียนฟรีจากมหาวิทยาลัยให้ได้ก็ช่วยประหยัดค่าเทอมไปได้มากโขแล้ว จบมาหนี้ก็ไม่มีเกรดก็ดีไปที่ไหนใครก็อยากรับเข้าทำงานด้วย หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: GoOeaZy ที่ 07 มกราคม 2013, 20:32:08 - เรียน ป.ตรีให้ดี่ที่สุดก่อน ทำเกรดและการเรียนให้อยู่ในระดับที่ดีที่สุด เกียรตินิยม ยิ่งดี
- ยื่นขอทุนมหาลัยในสาขาที่สามารถเอามาทำประโยชน์ กับทางต้นสังกัดได้ - พอได้ทุนแล้วเรียน ป.โท และทำเรื่องเป็น อ.ฝึกสอนในมหาลัยนั้นๆ เรียนไปด้วยสอนไปด้วยเพื่อเป็นการคืนทุน - เรียน ป.โทจบ ก็ทำเรื่องขอทุน ป.เอกต่อ หรือให้คนในนั้นช่วย ( คราดว่าพออยู่ไประยะหนึ่งจะเริ่มมีเส้นมีสาย ก็ทำเรื่องขอทุน ทุนอานันทมหิดล แต่คุณต้องเรียนให้เก่งนะ) จะได้ไปเรียน ป.เอก ที่ต่างประเทศ หากทำไม่ได้ก็ขอทุน ป.เอกในไทยเอาค่ะ ทุกอย่างที่กล่าวมา มีคนทำได้แล้วเป็น คนแถวๆบ้าน ปัจจุบันเป็น อ.สอนอยู่มหาลัย ( ต้องขยันและเรียนให้เก่งเพื่อมาล้างปม ) หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: pooklook ที่ 07 มกราคม 2013, 20:35:20 อย่าไปใส่ใจคนรอบข้างเลยค่ะ ต้องถามว่าจบแล้วจะเอาไปทำอะไร คุ้มหรือเปล่าที่เรียน นำไปใช้ได้จริงเปล่า ตอนเราเรียนมีเพื่อนทำงานแบ้งค์กับ กลต แต่เรียนไม่จบ เพราะไม่ยอมแก้วิทยานิพนธ์ ก็เสียเงินฟรี เห็นมั้ยค่ะ เขาก็ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ แถมเสียเงินฟรีอีก :wanwan017: :wanwan017: เห็นคุณตันมั้ยค่ะ เขาจบแค่ม 3 เอง
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: WPDSign ที่ 07 มกราคม 2013, 20:38:52 เรียนไปทำงานไปได้ครับ ที่สำคัญ จบ ปตรี หาที่ทำงานแบบวางโครงสร้างไว้ให้หมดครับ
ไม่น่ายากเกิน พยายามครับ ผมว่าคุณทำได้ บาที่เราต้องพึ่งตนเอง เพื่อไปถึงเป๋าหมาย ผมหัวไม่เดินสะแล้ว แม่บ่นๆเหมือนกัน หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: diamondza ที่ 07 มกราคม 2013, 20:39:06 ผมไม่รู้ชีวิตคุณมีอะไรมากกว่านี้อีกไหมจากที่พิมพ์มา ชีวิตคุณเทียบกับใครหลายๆคนก็ดีกว่าเยอะครับอย่าเพิ่งท้อ อย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกา
ตอนนี้ตั้งเป้าหมายชีวิตคุณให้จบ ป.ตรี ก่อนอันดับแรก แต่ระหว่างนั้นคุณต้องทำทุกอย่างที่ทำเพิ่มให้ได้เงินให้ได้(ถูกกฏหมาย) ผมก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก จขกท. มากมายนัก แต่ทุกวันนี้ผมมีทุกอย่างได้เพราะกำลังใจครอบครัวครับ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: gamepc2u ที่ 07 มกราคม 2013, 20:40:59 ถ้าอยากเรียน โท-เอก ด้วยเหตุผล แค่นั้นอย่าเรียนดีกว่าครับ เสียเวลา
ปากคนเราห้ามไม่ให้พูดไม่ได้ มีแต่เราต้องแผ่เมตตาให้เค้าเยอะๆ ทำเหมือนในหนังไปได้ เรียนจบมาแล้วความรู้เพิ่มขึ้น แต่การดำเนินชีวิตยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม สู้เอาเวลา ไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ยังดีกว่าครับ อยากได้ความรู้ไปเรียน อยากได้ตังทำงาน ไม่ว่าประกอบอาชีพไหนที่สุจริตก็รวยได้ทั้งนั้น ถ้ารู้จักประยุกษ์และมองการไกล หาลู่ทางใหม่ๆ อย่าย่ำอยู่ที่เดิม ไม่ต้องจบตรี ก็มีเงินเดือนมากว่าแสนได้ครับ ถ้ารู้จักลู่ทาง ที่สุจริตนะ แต่การเรียนก็สำคัญเพราะเราได้เจอคนในสังคม โดยเฉพาะสังคมมหาลัย หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: คนกำลังรวย ที่ 07 มกราคม 2013, 20:44:32 สู้ๆนะครับ เห็นคุณแล้วผมคิดกลับมาตัวเอง พ่อแม่ส่งเรียน ตรีก็ไม่จบ มัวแต่ติดเกมติดเพื่อน ได้แค่วุฒิม6 เอง ไม่น่าเลยตอนนั้น
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Solid Snake ที่ 07 มกราคม 2013, 20:46:30 ผมจบตรีนะ ทำงานประจำ
แต่จะเรียนโท ด้าน E-marketing รออยู่ว่าเมื่อไหร่เปิดสอนกัน ว่าแล้วใครพอแนะนำได้บ้างครับ คือจะได้วุฒิ ป.โท ติดตัวเพื่องานประจำด้วย และได้ความรู้สำหรับ ธุรกิจเสริมผมด้วยอ่ะ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: chW4t4 ที่ 07 มกราคม 2013, 20:46:43 สำหรับผม เรียนโท เปิดโอกาสให้ชีวิตผมเยอะมากครับ
เพราะตอนเรียนตรี ไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ สมัครงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ จะมาตั้งบริษัทเองก็ไม่มีทุนเลยครับ พอได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกรอบ ช่วงเรียนโท ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะครับ เพิ่มโอกาสในการทำงานด้วยครับ สิ่งที่ควรมีคือ เวลา กับเงิน อย่าลืมพิจารณาความชอบในสาขาที่เรียนด้วยนะครับ ว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้รึเปล่า รึว่าเรียนตามๆ กันเอาพอจบๆ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Kamilia ที่ 07 มกราคม 2013, 20:47:02 จบโทใช่ว่าจะโก้อย่างที่คิด เรียนโทไป 2 ปีสูญเงินไป 4 - 5 แสน แต่ชีวิตตอนนี้ยังเท่าเดิม
ไม่เห็นว่าจบโทชีวิตจะดีขึ้นกว่าเดิมเลยนะจะบอกให้ ถ้าไม่ได้มีจุดมุ่งหมายว่าจะเรียนมาเพื่อ อะไรแนะนำว่าอย่าไปเรียนให้เสียเงินเล่นๆเลย เงิน 4 -5 แสนซื้อเว็บไ้ด้หลายเว็บนะ อีกอย่างการจะทำให้แม่และครอบครัวภูมิใจ มีหน้ามีตา ไม่จำเป็นต้องจบโท จบเอกก็ทำได้ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: rachaninta ที่ 07 มกราคม 2013, 20:50:50 ลองศึกษาประวัติเศรษฐีหลายๆคนบนโลกนี้ ส่วนใหญ่เรียนไม่จบ หรือ เรียนไม่สูงแต่ก็รวยได้ เพราะพวกเขาเหล่านี้คิดแปลกและแตกต่างจากคนทั่วไปครับ วันนี้ถ้าเราคิดเหมือนคนอื่นที่ต้องการเรียนให้สูงจบมามีงานดีๆทำ เราก็เป็นได้แค่ลูกจ้างทำงานให้คนอื่นรวยเหมือนกับคนที่เขาเคยคิดแบบนี้เมื่อ 2-4 ปีที่แล้วครับ
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: june_pinkfloyd ที่ 07 มกราคม 2013, 20:53:19 ลองหาเหตุผลที่จะเรียนต่อ ก่อนดีมัยครับ
เอาที่ตัวเราเป็นที่ตั้งอะครับ อย่าเอาความคิดคนอื่นมาเป็นตัวกำหนด เดียวนี้ค่าเรียนมันสูงนะครับ ลองคิดให้รอบคอบ แต่ถ้าการเงินไม่มีปัญหาก็ลองดูครับ :-D หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Solid Snake ที่ 07 มกราคม 2013, 20:55:31 จบโทใช่ว่าจะโก้อย่างที่คิด เรียนโทไป 2 ปีสูญเงินไป 4 - 5 แสน แต่ชีวิตตอนนี้ยังเท่าเดิม ไม่เห็นว่าจบโทชีวิตจะดีขึ้นกว่าเดิมเลยนะจะบอกให้ ถ้าไม่ได้มีจุดมุ่งหมายว่าจะเรียนมาเพื่อ อะไรแนะนำว่าอย่าไปเรียนให้เสียเงินเล่นๆเลย เงิน 4 -5 แสนซื้อเว็บไ้ด้หลายเว็บนะ อีกอย่างการจะทำให้แม่และครอบครัวภูมิใจ มีหน้ามีตา ไม่จำเป็นต้องจบโท จบเอกก็ทำได้ ลึกซึ้ง หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: businessman ที่ 07 มกราคม 2013, 20:56:25 ท่านเรียนในกรุงเืทพหรือที่ไหนครับ มีอะไรที่ผมพอช่วยได้เดี่ยวจะช่วยละกัน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่หาเงินจากการขายของออนไลน์ไปเรียนไปจนจบได้ ท่านก็ต้องได้เหมือนกันสู้ๆ
:wanwan003: สำหรับผมถ้าคนอื่นดูถูกผมยิ่งชอบ เปลี่ยนคำดูถูกเป็นแรงประตุ้นว่าซักวันหนึ่งเราจะต้องได้ดีให้ได้ การที่เราเรียนจบสูงจะช่วยให้คนอื่นไม่ดูถูก นั้นไม่จริงหรอก พวกคนที่ชอบดูถูกผู้อื่นมันก็จะหาข้ออ้างมาดูถูกคนอื่นตลอด บอกเลยชีวิตคนพวกนี้ไม่มีความสุขหรอก เงินมันซื้อความสุขได้แค่ความสุขชัวคราว ถ้าคนพวกนี้ไม่มีเงินขึ้นมาคราวนี้แหละ ชีวิตแทบจบ สุขที่จริงมันอยู่ที่ใจ เรื่องโดนคนอื่นดูถูกเป็นเรื่องปกติ คนพวกนี้มีแต่เงิน อย่างอื่นไม่มีหรอก อย่างแรกคนพวกนี้มีเงิน แต่ชีวิตไม่มีความสุข เงินมันสร้างแค่ความสุขชั่วคราวเท่าันั้น พ่อแม่ผมจบป.4ทั้งคู่แต่ก่อน เรื่องจนไม่ต้องพูดถึง เป็นปีกว่าจะได้กินหมูซักครั้ง ต้องลักอ้อยเขากิน ไม่มีเงินซื้อขนม รับจ้างทุบหินตามเขื่อนที่เขาสร้าง ตอนนี้ท่าน รายได้มากกว่า CEO ปริษัทชั้นนำของเมืองไทยอีก คนเราจงอย่าดูถูกตัวเอง หมั่นหาความรู้ใส่ตัว ที่สำคัญต้องกตัญญูรู้คุณคน ไม่โกงใคร ผมแนะนำคำคมจีนที่ผมใช้เป็นแรงบันดาลใจ ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจ มีแรงที่จำทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เวลาเหนื่อย เพราะแสวงหามิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถมิใช่เพราะโชคช่วย ดั่งนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน ปรมาจารย์ขงจื้อ (อันนี้เป็นคำคมประจำใจของเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์) เจ้าของCP คนรวยสุดในประเทศไทยปัจจุบันจากการจัดของฟอร์ป เจ้าสัว ธนินท์ จากชาวจีนเสื่อผืนหมอนใบ รวยที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ จงทิ้งปริญญา แต่อย่างทิ้งการศึกษา กล่าวในงานที่ มหาลัยอันดับ1ของโลกเชิญไปพูดตอนนักศึกษาจบ สตีฟจ๊อป คนที่ไม่จบปริญญา แต่มหาลัยอันดับ1ของโลกต้องเชิญไปพูด ถ้าท้อผมชอบหาประวัติคนที่ประสบความสำเร็จมาอ่าน แนะนำประวัต มหาเศรษฐี ที่ไม่ได้รวยมาตั้งแต่เกิด แต่ละคนจนๆทั้งนั้น ดังนี้ 1. ลีกาชิง ชาวจีนที่รวยที่สุดบนเกาะห้องกง 2. สแตน ลีโฮ เจ้าพ่อมาเก้า 3.เจ้าสัวธนิน เจ้าของCP 4 เจ้าสัว เฉลียว อยู่วิทยา 5.เจ้าสัว เจริญ เจ้าของไทยเบฟ โออิชิ เบียร์ช้าง รวยอันดับ3ของประเทศไทยถ้าจำไม่ผิด มีต่ออีก หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: dearzakub ที่ 07 มกราคม 2013, 21:02:30 แต่ละคนมีจุดมุ่งหมาย มีฐานะไม่เหมือนกัน
ผมมันสายอาชีพ ^^ IM เลยมาก่อน หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอŦ เริ่มหัวข้อโดย: Optimus ที่ 07 มกราคม 2013, 21:04:05 ท่านเรียนในกรุงเืทพหรือที่ไหนครับ มีอะไรที่ผมพอช่วยได้เดี่ยวจะช่วยละกัน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่หาเงินจากการขายของออนไลน์ไปเรียนไปจนจบได้ ท่านก็ต้องได้เหมือนกันสู้ๆ :wanwan003: สำหรับผมถ้าคนอื่นดูถูกผมยิ่งชอบ เปลี่ยนคำดูถูกเป็นแรงประตุ้นว่าซักวันหนึ่งเราจะต้องได้ดีให้ได้ การที่เราเรียนจบสูงจะช่วยให้คนอื่นไม่ดูถูก นั้นไม่จริงหรอก พวกคนที่ชอบดูถูกผู้อื่นมันก็จะหาข้ออ้างมาดูถูกคนอื่นตลอด บอกเลยชีวิตคนพวกนี้ไม่มีความสุขหรอก เงินมันซื้อความสุขได้แค่ความสุขชัวคราว ถ้าคนพวกนี้ไม่มีเงินขึ้นมาคราวนี้แหละ ชีวิตแทบจบ สุขที่จริงมันอยู่ที่ใจ เรื่องโดนคนอื่นดูถูกเป็นเรื่องปกติ คนพวกนี้มีแต่เงิน อย่างอื่นไม่มีหรอก อย่างแรกคนพวกนี้มีเงิน แต่ชีวิตไม่มีความสุข เงินมันสร้างแค่ความสุขชั่วคราวเท่าันั้น ผมแนะนำคำคมจีนที่ผมใช้เป็นแรงบันดาลใจ ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจ มีแรงที่จำทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เวลาเหนื่อย เพราะแสวงหามิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถมิใช่เพราะโชคช่วย ดั่งนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน ปรมาจารย์ขงจื้อ (อันนี้เป็นคำคมประจำใจของเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์) เจ้าของCP คนรวยสุดในประเทศไทยปัจจุบันจากการจัดของฟอร์ป เดี๋ยวมาต่อ ธุระแปป ผมคิดเหมือนท่านครับ ผมเรียนครูคอมพิวเตอร์ที่ราชภัฏโคราชครับ ที่ผมอยากเรียนสูงๆ เพื่อลบคำสบประมาทนั้นมันแค่ส่วนน้อยครับ แต่ที่ผมตั้งใจจริงๆ คือ ผมอยากเห็นแม่ผมสบาย อยากให้ท่านนั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านเฉยๆ แบบคนอื่นเขาบ้าง ท่านอายุจนป่านนั้นแล้วยังต้องมาทำงานมันไม่ใช่นะครับ อยากไถ่บ้านและที่ดินที่ต้องเอาไปใช้หนี้ และที่อยากมากที่สุดคือทำให้แม่มีความสุขในบั้นปลายชีวิต TT เพราะเวลาคงเหลือไม่มาก กว่าผมจะเรียนจบก็อีกหลายปี หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: nongnarak ที่ 07 มกราคม 2013, 21:08:04 ท่านเรียนในกรุงเืทพหรือที่ไหนครับ มีอะไรที่ผมพอช่วยได้เดี่ยวจะช่วยละกัน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่หาเงินจากการขายของออนไลน์ไปเรียนไปจนจบได้ ท่านก็ต้องได้เหมือนกันสู้ๆ :wanwan003: สำหรับผมถ้าคนอื่นดูถูกผมยิ่งชอบ เปลี่ยนคำดูถูกเป็นแรงประตุ้นว่าซักวันหนึ่งเราจะต้องได้ดีให้ได้ การที่เราเรียนจบสูงจะช่วยให้คนอื่นไม่ดูถูก นั้นไม่จริงหรอก พวกคนที่ชอบดูถูกผู้อื่นมันก็จะหาข้ออ้างมาดูถูกคนอื่นตลอด บอกเลยชีวิตคนพวกนี้ไม่มีความสุขหรอก เงินมันซื้อความสุขได้แค่ความสุขชัวคราว ถ้าคนพวกนี้ไม่มีเงินขึ้นมาคราวนี้แหละ ชีวิตแทบจบ สุขที่จริงมันอยู่ที่ใจ เรื่องโดนคนอื่นดูถูกเป็นเรื่องปกติ คนพวกนี้มีแต่เงิน อย่างอื่นไม่มีหรอก อย่างแรกคนพวกนี้มีเงิน แต่ชีวิตไม่มีความสุข เงินมันสร้างแค่ความสุขชั่วคราวเท่าันั้น พ่อแม่ผมจบป.4ทั้งคู่แต่ก่อน เรื่องจนไม่ต้องพูดถึง เป็นปีกว่าจะได้กินหมูซักครั้ง ต้องลักอ้อยเขากิน ไม่มีเงินซื้อขนม รับจ้างทุบหินตามเขื่อนที่เขาสร้าง ตอนนี้ท่าน รายได้มากกว่า CEO ปริษัทชั้นนำของเมืองไทยอีก คนเราจงอย่าดูถูกตัวเอง หมั่นหาความรู้ใส่ตัว ที่สำคัญต้องกตัญญูรู้คุณคน ไม่โกงใคร ผมแนะนำคำคมจีนที่ผมใช้เป็นแรงบันดาลใจ ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจ มีแรงที่จำทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เวลาเหนื่อย เพราะแสวงหามิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถมิใช่เพราะโชคช่วย ดั่งนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน ปรมาจารย์ขงจื้อ (อันนี้เป็นคำคมประจำใจของเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์) เจ้าของCP คนรวยสุดในประเทศไทยปัจจุบันจากการจัดของฟอร์ป จงทิ้งปริญญา แต่อย่างทิ้งการศึกษา กล่าวในงานที่ มหาลัยอันดับ1ของโลกเชิญไปพูดตอนนักศึกษาจบ สตีฟจ๊อป คนที่ไม่จบปริญญา แต่มหาลัยอันดับ1ของโลกต้องเชิญไปพูด ซึ้งอ่ะ เช่นกันค่ะมีไรให้ช่วยก็บอก เราก็เรียนไปทำงานไปตั้งแต่เรียนตรี จนโท เรียนไปงั้นแหละค่ะ วุฒิไว้ประดับฝาบ้าน ไว้ให้พ่อแม่ภูมิใจ ไว้ update profile เวลารับงาน project มี profile ดีก็ bit สู้เค้าได้ เงินที่ได้มาเรียน ได้มาจาากความรู้ในเน็ตทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเราว่าอยากจะทำอะไรเป็นอะไร คนที่เรียนไม่จบเลย เก่งกว่าจบโทอย่างเรามีเยอะแยะ อยากได้อยากเป็นอะไร อยู่ที่สองมือเราจะทำให้มันเป็นไปค่ะ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: kik12 ที่ 07 มกราคม 2013, 21:14:08 สู้ๆ ครับผม :wanwan003:
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: SmartSeo ที่ 07 มกราคม 2013, 21:17:17 เป็นกำลังใจให้ครับ
การที่จะเรียนให้สูงนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่หลายคนเขามีโอกาสจากหน้าที่การงานและฐานะ ประกอบกับมีทุนด้วย แต่การที่มีเป้าหมายว่าอยากเรียน ป.โท ป.เอก เพื่อลบคำสบประมาทนั้น มันไม่ค่อยสมเหตุสมผล (ในขณะที่ยังต้องพึ่งกองทุนกู้ยืม) การที่จะทำให้สังคมรอบตัวรอบบ้านยอมรับ จะต้องเป็นคนดี ประพฤตดี มีคุณธรรม สักวันสังคมจะยอมรับ บางครั้งเราอาจเข้าใจว่าสังคมรอบข้างทำร้าย ซึ่งบางทีอาจไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทุกคนที่บ้านอาจคิดไปเอง ดังนั้นเราไม่ควรไปสนใจ คำพูด การกระทำเชิงลบ ซึ่งผู้ที่กระทำเขาอาจไม่ได้ตั้งใจดูถูกก็เป็นได้ (เราคิดมากไปเอง) การที่ชีวิตจะดีขึ้นต้องหมั่นทำบุญ ทำทาน รักษาศีล สร้างบารมี จะไม่มีใครกล้ามาดูถูกได้ในวันข้างหน้า หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Kalin ที่ 07 มกราคม 2013, 21:22:56 ส่วนมากแค่ตรีก็พอและ :wanwan019:
ใช้ความรู้หาเงิน หรือใช้วุฒิหาเงิน? หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: banbow1234 ที่ 07 มกราคม 2013, 22:09:25 ถ้าท่านไม่มีเงินเยอะพอเรียนโทไม่ไหวหรอกครับ เป็นภาระตัวเองเพิ่มอีก :wanwan044: แต่ถ้าจะเอาจริง ๆ แนะนำช่องให้
วิธีฟรีให้ไปสมัครทำงานราชการครับ แล้วทำตัวดี ๆ แล้วขอทุนหน่วยงานไปเรียนโทต่างประเทศเลย หลายคนทำกันแบบนี้ :-[ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Hanma ที่ 07 มกราคม 2013, 22:17:24 พอดีผมอยากทราบแนวทาง และวิธีการว่าทำอย่างไรถึงจบปริญญาโท - เอกได้ เนื่องจากผมมีปมอยู่ข้อนึงว่า ทางบ้านผมฐานะยากจน คนแถวๆ บ้านที่เขามีฐานะดีกว่า ชอบเหยียดหยาม ผม และครอบครัวเอาอย่างมาก ว่าครอบครัวผมเป็นอย่างงั้น อย่างงี้ ทั้งที่บางทีมันไม่จริง ประเด็นที่ผมตั้งกระทู้นี้จริงๆ คือ ตรงนี้ครับ ทุกวันนี้ผมเรียน ป.ตรี ปี 1 หาเงินส่งตัวเองเรียน (ค่าหอ , ค่ากินอยู่แต่ละวัน , ค่า บลาๆ ๆ ) ได้เงินจาก กยศ. รายเดือนเดือนละ 2,200 บาท + เงินจาก IM เล๊กๆ น้อยๆ แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ผมต้องส่งให้แม่ที่อยู่ทางบ้านด้วย ท่านอายุมากแล้วครับ (64 มั้งผมถ้าจำไม่ผิด) ท่านทำงานได้เดือนละ 3,500 โดยประมาณ ใช้จ่ายในครอบ ส่งให้หลานผมไป รร. สองคน รวแล้ววันละ 100 ค่ากับข้าว ค่าสารพัด แค่ 10 - 15 วันก็ไม่พอแล้วครับ ขอบคุณครับ :wanwan017: :wanwan017: จบโท ไม่ได้ทำให้รวยขึ้นนะครับ หาทางที่เราชอบ ตั้งเป้า ขยันและมุ่งมั่น ผมว่าดีกว่าไปเรียนโทอีก (ในแง่การหาเงิน ยกเว้น connection) หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Optimus ที่ 07 มกราคม 2013, 22:19:47 พอดีผมอยากทราบแนวทาง และวิธีการว่าทำอย่างไรถึงจบปริญญาโท - เอกได้ เนื่องจากผมมีปมอยู่ข้อนึงว่า ทางบ้านผมฐานะยากจน คนแถวๆ บ้านที่เขามีฐานะดีกว่า ชอบเหยียดหยาม ผม และครอบครัวเอาอย่างมาก ว่าครอบครัวผมเป็นอย่างงั้น อย่างงี้ ทั้งที่บางทีมันไม่จริง ประเด็นที่ผมตั้งกระทู้นี้จริงๆ คือ ตรงนี้ครับ ทุกวันนี้ผมเรียน ป.ตรี ปี 1 หาเงินส่งตัวเองเรียน (ค่าหอ , ค่ากินอยู่แต่ละวัน , ค่า บลาๆ ๆ ) ได้เงินจาก กยศ. รายเดือนเดือนละ 2,200 บาท + เงินจาก IM เล๊กๆ น้อยๆ แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ผมต้องส่งให้แม่ที่อยู่ทางบ้านด้วย ท่านอายุมากแล้วครับ (64 มั้งผมถ้าจำไม่ผิด) ท่านทำงานได้เดือนละ 3,500 โดยประมาณ ใช้จ่ายในครอบ ส่งให้หลานผมไป รร. สองคน รวแล้ววันละ 100 ค่ากับข้าว ค่าสารพัด แค่ 10 - 15 วันก็ไม่พอแล้วครับ ขอบคุณครับ :wanwan017: :wanwan017: จบโท ไม่ได้ทำให้รวยขึ้นนะครับ หาทางที่เราชอบ ตั้งเป้า ขยันและมุ่งมั่น ผมว่าดีกว่าไปเรียนโทอีก (ในแง่การหาเงิน ยกเว้น connection) ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมกำลังเอาจริงเอาจังกับ Amazon มากๆ ครับ อยากทำให้ได้เกิน 1,000$ ต่อเดือน อยากส่งเงินให้แม่ใช้ อยากใหแม่อยู่บ้านเฉยๆ ครับ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: pongpiya ที่ 07 มกราคม 2013, 22:26:03 ผมจบแค่ ปวส คอมครับ จบสาขา DotA ตอนเรียนแชร์เล่น DotA กันทั้งห้อง ตอนนี้ มาทำงานประจำแล้ว เลยรู้ซึ้งเลยครับ เลยหอบความรู้อันน้อยนิด มาสู่วงการ IM นี่แหล่ะครับ ส่วนงานประจำ ตอนนี้ ค่าแรงขึ้น เริ่มรู้สึกว่า มันจะใช้งานเราจนคุ้มเลยครับ ตอนนี้ งานประจำก็รายได้พอส่งบ้าน เก็บอีกนิดนึง แต๋เก็บหลายๆเก็บรวมกัน ตอนนี้ มันก็เป็นก้อนแล้วครับ อาศัยว่าผมเป็นคนประหยัดครับ วันหยุด อยู่แต่หน้าคอม มาม่าซองเดียว อยู่ได้ทั้งวัน เป็นคนไม่เลือกกินครับ (คิดอยู่ทุกลมหายใจว่า ไอ้จิ๊บเอ๋ย ถ้ามึงไม่ขยันหา แล้วประหยัดจ่าย มึงก็จะเป็นลูกจ้างเค้าอย่างนี้แหล่ะหนา)
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: iTrendy360 ที่ 07 มกราคม 2013, 22:31:05 ลองศึกษาประวัติเศรษฐีหลายๆคนบนโลกนี้ ส่วนใหญ่เรียนไม่จบ หรือ เรียนไม่สูงแต่ก็รวยได้ เพราะพวกเขาเหล่านี้คิดแปลกและแตกต่างจากคนทั่วไปครับ วันนี้ถ้าเราคิดเหมือนคนอื่นที่ต้องการเรียนให้สูงจบมามีงานดีๆทำ เราก็เป็นได้แค่ลูกจ้างทำงานให้คนอื่นรวยเหมือนกับคนที่เขาเคยคิดแบบนี้เมื่อ 2-4 ปีที่แล้วครับ เฉียบคม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเป้าหมายในชีวิต :wanwan002: หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Coupon ที่ 07 มกราคม 2013, 22:36:21 :wanwan008: ตามอ่านครับว่างๆมีโอกาศผมก็ยากเรียนต่อนะครั้บ :'(
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: pink-roof ที่ 07 มกราคม 2013, 22:36:30 ลองหามุมมองใหม่ ๆ รอบตัวค่ะ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปค่ะ สู้ ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: sodsaikung ที่ 07 มกราคม 2013, 22:43:52 ผมก็เรียนป.ตรี ครับ
กยศ เหมือนกัน ทุนให้เปล่าก็เยอะ ทุนอื่นๆอีกสารพัดครับ แล้วแต่เงื่อนไข ถ้าตั้งใจเรียนจริงๆ เกรดงามๆ ขอทุนง่ายๆครับ เค้าสนับสนุนคนตั้งใจเรียนอยู่แล้ว ทำงาน IM เงินดีบ้างแล้วแต่โอกาสและโชควาสนา บางทีทำเดือนเดียวได้ยิ่งกว่าทำทั้งปีอีก :wanwan004: คนเราจะสู้ชีวิตทั้งที ไม่มีทางแพ้หรอกครับ ถ้าจบตรี จะต่อโท ก็แล้วแต่ครับ ผมว่าทำงานก่อน ใช้หนี้ กยศ + เก็บประสบการณ์ก่อนครับ แล้วทำงานไปเรียนโท ไปด้วยก็ได้หนิครับ ผมเห็นเยอะแยะเลย จบโทแล้วจะต่อเอก ไหมค่อยคิดทีหลังครับ เอาตรีให้จบ มีการ มีงาน มีเงินก่อนดีกว่าครับ สู้ๆครับผมเอาใจช่วย จบตรีมา แล้วลองทำงานดูครับ จะได้มุมมองใหม่ๆ ว่าเราต่อโท สาขาไหนดีที่เอาไปต่อยอดได้ จบแล้วเงินดี พี่ผมเรียนจบตรีสาขาบัญชี มา เงินเดือนสองหมื่นบาท ทำไปได้ 4เดือน ลาออก งานหนัก ใช้งานให้คุ้มกับเงินที่เค้าจ่ายมาครับ ตัดสินใจต่อโท สาขา... ซึ่งมันไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่มันก็เข้ากันได้ ทำงานเฉพาะด้านทางบัญชี แต่สบายกว่ากันเยอะ รายได้มากกว่าก่อนสิบเท่า หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: pamad ที่ 07 มกราคม 2013, 22:53:12 การจบปริญญาสูงๆใช่ว่าจะดีเสมอไป ผมล่ะคนหนึ่งจบปริญญาโท รับราชการ สุดท้ายเงินเดือนติดลบ เงินเดือนไม่พอใช้ แถมหนี้สินยังท่วมหัวอีก ต่างกับคนที่เขาจบปริญญาหรือวุฒิต่ำกว่าเรา เขากับไม่เดือดร้อนเหมือนเรา แถมยังใช้ชีวิตดูเหมือนจะมีความสุขกว่าเราอีก มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งผมอยากให้ทุกคนอ่าน"พ่อรวยสอนลูก" เขาให้แง่คิดดีๆ ที่พ่อรวยกับพ่อจนสอนลูก ที่มีแนวคิดต่างกัน ดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ http://binetuniongold.blogspot.com/p/blog-page_1455.html
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: ziidan ที่ 07 มกราคม 2013, 22:56:15 การจบปริญญาสูงๆใช่ว่าจะดีเสมอไป ผมล่ะคนหนึ่งจบปริญญาโท รับราชการ สุดท้ายเงินเดือนติดลบ เงินเดือนไม่พอใช้ แถมหนี้สินยังท่วมหัวอีก ต่างกับคนที่เขาจบปริญญาหรือวุฒิต่ำกว่าเรา เขากับไม่เดือดร้อนเหมือนเรา แถมยังใช้ชีวิตดูเหมือนจะมีความสุขกว่าเราอีก มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งผมอยากให้ทุกคนอ่าน"พ่อรวยสอนลูก" เขาให้แง่คิดดีๆ ที่พ่อรวยกับพ่อจนสอนลูก ที่มีแนวคิดต่างกัน ดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ [url]http://binetuniongold.blogspot.com/p/blog-page_1455.html[/url] เหมือนคนเขียนจะล้มละลายมั้งครับ ^___^ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: adsene5438 ที่ 07 มกราคม 2013, 23:15:44 จบ ป.โท แล้วครับ ชีวิตวัยเด็กลำบากมาก เอาเป็นว่าลำบากว่าละครน้ำเน่าก็แล้วกันแหละ
ครูคนหนึ่งผมท่านเสียแล้ว เคยพูดไว้กับผมเสมอว่า "ตอนนี้เราไม่มีเงิน ยากจน อยากกินอะไร อยากได้อะไร ต้องอดเอาไว้ก่อน ตั้งใจเรียนหนังสือให้จบมีงานทำ แล้วค่อยไปซื้อไปหาเอาทีหลัง" ซึ่งมันก็เป็นจริงครับ ชีวิตมีขึ้นมีลง เวลาขึ้นอย่าหลง เวลาลงอย่าท้อ ครับ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Blogger ที่ 07 มกราคม 2013, 23:49:32 ผมเรียนจบแค่ป.ตรี
ส่วนตัวไม่คิดจะต่อโท-เอก เพราะศัทธาการศึกษานอกรั้วมหาลัยมากกว่า :wanwan002: หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: shooter ที่ 08 มกราคม 2013, 00:15:24 ท่านโซว งัยคับ
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: goldxp ที่ 08 มกราคม 2013, 00:41:16 จบโทถ้าประวัติดีๆ เข้าบริษัทใหญ่ได้น่าจะเงินดีอยู่ครับ
แต่อย่าไปสนใจเรื่องการเรียนจบโทมากเกินไปครับ หันมาทำสิ่งที่เกิดประโยชน์จริงๆ จังๆ ก่อนดีกว่า ถ้ามีเงินมากขนาดไปเรียนโทได้ผมว่าเอาเงินตรงนั้นมามอบความสุขให้แก่ครอบครัวที่รักของคุณก่อนจะมีค่ามหาศาล หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: igett ที่ 08 มกราคม 2013, 00:48:58 ผมกำลังจะจบโทครับ พอดีได้ทุนเรียน + ค่าใช้จ่ายทุกอย่างจากหน่วยงานอิสระแห่งหนึ่งในประเทศไทย อนาคตผมก็วางแผนไว้อยู่ 2-3 แนวครับ อย่างแรกคือเรียนต่อเอก ซึ่งผมเคยไปทำวิจัยต่างประเทศ แล้วก็มีคนเสนอทุนให้เรียนต่อในหลายประเทศ แต่จะว่าไปแล้ว มันก็ไม่ใช่ทางของผมเท่าไหร่ อีกทางนึงคือมาทำสิ่งที่ตัวเองรักซะที วุฒิ ป.โท คงเอาเก็บไว้ที่บ้านครับ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ตั้งแต่ ป.ตรี จนถึง ป.โท ทำให้ผมรู้ว่า เกรดมันไม่ใช่ทุกๆอย่างของชีวิตหรอกครับเพราะผมเคยเห็นคนมีทุกอย่าง ยกเว้นเกรดดีๆ กับอีกหลายคนที่มีเกรดดีๆ แต่ไม่มีอะไรซักอย่างมาแล้ว
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: คนใจดี ที่ 08 มกราคม 2013, 01:01:59 กระผมขออนุญาติเข้ามาดูคนที่จบโทซักกะหน่อยนะครับผม กระผมเองไม่ได้เรียนสูงครับ. พอดีทางบ้านจน ไม่มีเงินค่าเทอม เงินปีละ10,000บาทไม่สามารถหาได้ครับ. ข้าวบางวันกินไม่ครบสามมื้อ ส่วนมากแล้วข้าวเช้าไม่ได้กิน ถ้าวันไหนโชคดีมีข้าวเช้ากินก็จะเป็นข้าวที่เหลือจากเมื่อคืนซะมากกว่า และหลายครั้งข้าวหนึ่งมื้อจะทำเผื่อไว้กินหลายๆมื้อ เรียกว่าทำหม้อเดียวกินกันทั้งบ้าน2วันเลยก็มี เช่น แกงไก่ แกงปลาดุก แกงเห็ด ทอดไข่เจียว ทอดปลานิล แม้กระทั้งกล้วยบวชชีก็ยังทำหม้อใหญ่กินกันสามวัน. นึกถึงสมัยเรียนแล้วมันเศร้าจริงๆ เฮ้อ ปั่นจักรยาน5กิโลไปโรงเรียนมัธยม
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: bullybrandname ที่ 08 มกราคม 2013, 02:09:25 เป็นกำลังใจให้ครับ
แต่ตอนนี้เพิ่งเรียนปี 1 เองไม่ใช่หรือ ภาระก็ดูเหมือนจะเยอะมาก ตอนนี้อยากให้คิดว่าทำยังไงจะจบปริญญาตรี โดยที่ต้องทำงานไปด้วย เพื่อส่งทางบ้านก่อนดีกว่า เพราะดูจากที่เล่า กว่าจะจบปริญญาตรีได้ ก็คงสาหัสพอประมาณ อย่าเพิ่งไปถึงขั้นปริญญาโท หรือเอกเลย ถ้าจบปริญญาตรีแล้ว หรือเรียนปี 4 แล้ว ณ วันนั้น งานที่ทำไปดว้ยอาจประสบความสำเร็จมีรายได้ เพียงพอให้เรียนต่อได้อย่างสบาย ๆ ไมต้องมานั่งคิดมากก็ได้ครับ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: ShowOff ที่ 08 มกราคม 2013, 02:26:15 สู้ๆครับ :wanwan003:
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอŦ เริ่มหัวข้อโดย: mija ที่ 08 มกราคม 2013, 07:27:31 กระผมขออนุญาติเข้ามาดูคนที่จบโทซักกะหน่อยนะครับผม กระผมเองไม่ได้เรียนสูงครับ. พอดีทางบ้านจน ไม่มีเงินค่าเทอม เงินปีละ10,000บาทไม่สามารถหาได้ครับ. ข้าวบางวันกินไม่ครบสามมื้อ ส่วนมากแล้วข้าวเช้าไม่ได้กิน ถ้าวันไหนโชคดีมีข้าวเช้ากินก็จะเป็นข้าวที่เหลือจากเมื่อคืนซะมากกว่า และหลายครั้งข้าวหนึ่งมื้อจะทำเผื่อไว้กินหลายๆมื้อ เรียกว่าทำหม้อเดียวกินกันทั้งบ้าน2วันเลยก็มี เช่น แกงไก่ แกงปลาดุก แกงเห็ด ทอดไข่เจียว ทอดปลานิล แม้กระทั้งกล้วยบวชชีก็ยังทำหม้อใหญ่กินกันสามวัน. นึกถึงสมัยเรียนแล้วมันเศร้าจริงๆ เฮ้อ ปั่นจักรยาน5กิโลไปโรงเรียนมัธยม ไม่ชอบการกระแนะกระแหนแบบนี้เลย ทำเหมือนตัวเองลำบากอยู่คนเดียวในโลก ไม่มีข้าวแล้วทำไมไม่กินข้าววัด ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมโรงเรียนวัดก็มีและเรียนฟรี นี่ยังไม่รวมสารพัดทุนแจกเด็ก ๆ มากมาย ไอ้ที่มาบ่น ๆ นอกจากนั่งรำพรรณถึงความลำบากของตนเองแล้ว ยังไม่เห็นจะขวยขวายทำอะไรเลย คนในนี้ไม่ได้เรียนเลยก็มีเยอะแยะแต่อาศัยความอยากเรียนรู้ได้ดิบได้ดีก็มี บางคนก็โตมากับข้าววัด พี่ในบอร์ดนี้คนหนึ่งที่สนิทเคยไม่มีบ้านนอน เคยรื้อถังขยะหาของกิน ยังเติบใหญ่และมีเงินทองด้วยความพยายามของตัวเอง และใช้ความลำบากนั้นช่วยเหลือผู้อื่นเพราะตัวเองเคยไม่มีมาก่อนถึงเข้าใจ ไม่เห็นเขาจะมาพร่ำเพ้อพรรณาอะไรแบบนี้เลย คนอาภัพก็น่าสงสารแต่คนอาภัพไม่มีสิทธิ์เอาความอาภัพนั้นมากระแนะกระแหนผู้อื่นว่าตัวเองสุดแสนลำบาก รวยจนอยู่ที่ใจ ดีชั่วอยู่ที่ทำตัว ไม่เกี่ยวกับยากดีมีจน หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: phurich ที่ 08 มกราคม 2013, 07:40:05 ทุกวันนี้ ทุกคนลำบากมาก ๆ ครับ ลำบากกันหมดจริง ๆ เพราะการงานอาชีพมันทำยาก และ คู่แข่งเยอะขึ้นเรื่อย ๆ สมัยนี้จะไปซื้อของมาขาย เป็นโชว์ห่วย มันทำไม่ได้แล้วนะครับ สมัยรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายทำอาชีพแบบนี้เยอะมาก ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่า อาชีพนี้ตายสนิทจริง ๆ จะทำให้ไปได้ดีผมว่ายากกว่างมเข็มอีก
ผมอ่านข่าวต่างประเทศเค้าก็ทำอาชีพแบบนี้พอหาเลี้ยงตัวเองได้ เพราะเค้ามีผังเมืองที่ห้ามค้าปลีกขนาดใหญ่มาตั้งใจกลางเมือง ต้องไปอยู่ไกล ๆ โน้น ครอบครัวผมก็ลำบากครับ ผมเป็นลูกคนโตด้วย แม่ผมจะ 60 แล้ว ยังต้องมานั่งคิดหาอาชีพใหม่ทำเลยครับ เพราะอาชีพเก่ามันไปแทบไม่ไหวแล้ว ผมเองก็คิดแทบทุกวันว่าจะทำอะไรดี เหนื่อยครับ โลกทุกวันนี้ ... เรียกว่าถ้าไม่ถึงกับอดตายก็ถือว่าโชคดีมากแล้วครับ สู้ ๆ ครับ ต้องสู้อย่างเดียวถึงจะรอด :'( สู้ทั้งน้ำตา หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Jumpman999 ที่ 08 มกราคม 2013, 07:49:24 จบตรี หรือ โท ก็ขอให้เป็นคนดีครับ เพราะสังคมยอมรับ ส่วนความรู้สามารถหาเพิ่มเติมได้ทั้งใน มหาลัย และนอกมหาลัย
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: JamesKung ที่ 08 มกราคม 2013, 08:01:46 ผมวิเคราะห์ปัญหาหลักๆ ของน้องได้ประมาณนี้นะครับ อันดับหนึ่งเลยคือ น้องรักและห่วงแม่น้องมาก ซึ่งข้อนี้พี่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งนะคับ อย่าลืมบุญคุณท่านนะครับ บางคนได้ดีแล้วลืมพ่อแม่ อันนี้ไม่ควรนะครับ ถึงแม้พ่อแม่เราจะจน เราหยิบยื่นอะไรได้เราก็หยิบยื่นให้ท่าน
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: JamesKung ที่ 08 มกราคม 2013, 08:11:47 ผมวิเคราะห์ปัญหาหลักๆ ของน้องได้ประมาณนี้นะครับ อันดับหนึ่งเลยคือ น้องรักและห่วงแม่น้องมาก ซึ่งข้อนี้พี่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งนะคับ อย่าลืมบุญคุณท่านนะครับ บางคนได้ดีแล้วลืมพ่อแม่ อันนี้ไม่ควรนะครับ ถึงแม้พ่อแม่เราจะจน เราหยิบยื่นอะไรได้เราก็หยิบยื่นให้ท่าน เหมือนกับผมตอนเด็กก็จะติดแม่มากครับ แม่อยู่ห่างผมไม่ได้ห่างเมื่อไหร่ชาวบ้านเดือดร้อนทุกที เพราะต้องช่วยกันจับผมไม่ไห้ดิ้นนะคับ ฝนตกฟ้าร้องเมื่อไหร่ ผมเป็นห่วงแม่ผมตลอด เมื่อไหร่ที่ไม่เห็นแม่ผม ผมต้องออกไปตะโกนตามเรียกหาแม่ทุกครั้ง แม่ยังเคยเล่าให้ผมและคนอื่นๆฟัง ด้วยความรู้สึก ที่ดีที่ผมเป็นห่วงท่าน แต่ผมก็ทำให้ท่านไม่สบายใจหลาย อย่างเพราะถูกตามใจ เช่น อยากได้อะไรต้องได้ แม้ไม่มีเงิน แม่ก็ต้องหามาให้ผมให้ได้ นึกถึงตอนนี้ผมก็ยังเสียใจอยู่เลย ที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่อาจจะกลับไปย้อนสิ่งที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว แต่ปัจจุบันและอนาคต ขอทำให้ดีที่สุดเพื่อแม่ พ่อ พี่น้อง และครอบครัวครับ ผมก็เป็นคนนึงที่เหมือนท่านครับ คือไม่อยากให้แม่ทำงาน อยากให้ท่านอยู่สบาย เพราะเรื่องนี้ทำให้ผมต้องทะเลาะกับแม่บ่อยๆ เพราะแม่ไม่ค่อยนอน ทำงานตลอด บางครั้งก็พูดกับแม่เสียงดังๆ อยากให้แม่นอนให้ได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงเพราะเห็นแกปวดหัวบ่อยๆ คงพักผ่อนไม่พอ ผมไม่เหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ ตรงที่ถ้าผมอยากซื้ออะไรให้แม่ ผมก็จะหาตังค์ซื้อให้เลย ไม่มีเงินเองก็ยืมของน้องๆ ช่วยกันแชร์ อย่างเช่นซื่อจานดาวเทียมให้พ่อ เห็นพ่อบ่นว่าดูมวยแล้วมันไม่ชัด ผมก็แชร์กับน้องซื้อให้เลย แต่สำหรับพี่ผมเค้าบอกว่าให้รอก่อน แต่ผมอยากซื้ออะไรหรือทำอะไรให้พ่อแม่ผม ก็ต้องรีบทำให้ทันทีเหมือนกันครับ ผมก็กล้วเหมือนที่น้องกล้วนั่นแหละครับ พ่อแม่เราก็อายุมากแล้ว ปัญหาข้อที่สอง สิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ทำให้น้องกังวล ไม่สบายใจ และเครียดคือ เรื่องเงิน ไม่พอที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือนทำให้ มีผลกระทบไปยังแม่ ตัวเองและครอบครัว ซึ่งพี่วิเคราะห์แล้วว่าข้อนี้ข้อเดียวกระทบไปทุกข้อเลย เพราะถ้าเรามีเงิน เราไม่จำเป็นต้องดิ้นรนมาทำงานถึงกรุงเทพ ต้องห่างจากครอบครัว และข้อที่สามคือ อยากจะเรียนต่อปริญญาโท จากที่พี่ใช้ Psychology(จิตวิทยา)วิเคราะห์ดูพี่วิเคราะห์ได้ว่าที่น้องอยากเรียนโทตอนนี้นะครับ เพราะเกิดจากโดนดูถูกเหยียดหยาม และโดนถามบ่อยๆ เช่นจบหรือยังล่ะ ลูกสาวป้า หลานป้า เค้าจบแล้วนะจบโท จบเอกที่โน่น ที่นี่ ตอนนี้ทำงานนั้นนี่ เงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ พี่โดนประจำล่ะครับ เช่น ตอนแรก(ตอนยังเรียนอยู่)ถามว่าจบหรือยังล่ะ ลูกป้าจบแล้วนะทำงานที่โน่นที่นี่ เงินเดือนโน่นนี่ (ตอนเรียนจบ)อ้าว มีเมียหรือยังล่ะ ไม่พามีมาด้วยเหรอ ซะอย่างงั้น!!!บางครั้งต้องทำใจครับ เพราะสังคมสมัยนี้สอนให้แก่งแย่งแข่งขันกันครับ อยากโชว์อยากอวด ประเภทไม่มีเงินก็ยอมเป็นหนี้ แบบภายนอกดูดีเข้าไว้ประมาณนั้น บางครั้งก็ต้องปล่อยวางบ้างนะครับ คิดมากจะปวดหัวครับ สังคมสมัยนี้มีเงินเนรมิตได้ทุกอย่างครับ แต่ความสุขเนรมิตไม่ได้ ถ้าไม่รู้จักคำว่าพอครับ ฟังคน ฟังได้ครับ อะไรที่เราฟังแล้วมันได้ประโยชน์กับตัวเราเราก็รับไว้ อะไรที่ทำให้ปวดกะโหลกก็ปล่อยวางครับ
ไม่ทราบว่าน้องเรียนเต็มวันหรือป่าวนะครับ ถ้าสอบอย่างเดียวหรือไม่ได้เข้าเรียนเต็มเวลาก็หางานพวก 7-Family Mart-คลังสินค้า Big C,Lotus ประมาณนี้นะครับ ช่วยได้เยอะเลย ครับอย่างน้อยได้มีเงินเหลือเก็บ และมีเงินส่งให้ทางบ้านมากขึ้นนะคับ อาจเหนือยหน่อย แต่ต้องอดทน เราไม่ได้เกิดมา มีเงินกองไว้ตรงหน้า ตื่นขึ้นมามีคนรถรับส่ง ต้องพยายามครับ อย่างน้อยได้รู้จักอดทน พ่อแม่เราเคยลำบากมามากกว่าเราต้องกี่ปี ลองคิดดูสิครับ นี่เรายังไม่ได้ซักครึ่งชีวิตของท่านเลย อย่าพึ่งท้อ หนทางมีให้เดินเสมอครับ หาให้เจอ แล้วสู้กับมันครับ คนที่เป็นหัวหน้าคนที่แท้จริง ส่วนใหญ่แล้วเคยล้มลุกคลุกคลาน กันมาแล้วทั้งสิ้นครับ ล้มแล้วล้มอีก ไม่เหมือนกับคนที่มีเงินทองมากองให้ผิดหวังขึ้นมาซักนิดหน่อยก็หาทางไม่เจอสุดท้ายก็ไม่มีทางออกเพราะไม่เคยเจออุปสรรคอะไรเลย มีคนคอยเคลียร์ให้ตลอด และอีกอย่างที่พี่คิดว่าที่น้องเป็นอย่างนี้ตอนนี้น้องอยู่คนเดียวหรือป่าวครับ มีเพื่อนเยอะมั้ย อาจจะเกิดจากความเหงา ไม่มีใครให้ปรึกษาก็ได้ครับ ปริญญาโทหรือเอก ถ้ามีโอกาสใครก็อยากเรียนครับ แต่อย่าไปเรียนตอนที่เรายังไม่พร้อมนะครับ นอกจากเราจะลำบากแล้ว อาจจะไม่จบและอาจจะเครียดยิ่งกว่าเก่านะครับ เรียนโทเรียนเอก ควรจะเรียนเมื่อเราพร้อมนะครับ เรียนตอนไหนก็ไม่สายครับ แต่ตอนนี้พี่ว่า ถ้ามีเวลาว่างก็หางานเสริมครับ ที่ได้กล่าวไปแล้ว และตอนนี้ขอให้ตั้งใจเรียนให้มากๆนะคับ สู้ๆนะคับ :wanwan003: :wanwan003: :wanwan003: หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: thaiauto ที่ 08 มกราคม 2013, 08:14:36 ถ้าเรียนดีลองสอนพิเศษดูครับ ถ้ายังเรียนไม่ดีก็ลองหาเพื่อนดีแล้ววันข้างหน้าก็จะมีอะไรดีๆ ขึ้นมาครับ
หลักๆ ต้องดูแลสุขภาพคู่กันไปด้วย จะมีเวลามากขึ้นถ้าสุขภาพดีครับ ของผมเรียนโท โดยขอทุนเรียน แต่ที่ผมเรียนผมไม่ค่อยได้คบเพื่อนมากเพราะว่าฐานะไม่ดีครับห่วงแต่เรียน กลัวไม่ได้ทุนเอาแต่เกรด มันก็ได้เกรดได้ทุนครับ แต่เพื่อนจะน้อย โตช้ากว่าคนที่ทำกิจกรรมครับ :P หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: nanjaow ที่ 08 มกราคม 2013, 09:30:08 ลองอ่านดูนะครับ เรื่องจริงจากสาวโรงงานคนหนึ่ง ไม่มีเงินเรียนต่อชั้นมัธยม แต่ด้วยความที่่เป็นคนรักการอ่านตั้งแต่เด็ก และความมานะพยายาม พลิกชีวิตจนกลายมาเป็นท่านผู้พิพากษาได้อย่างไร
(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/394941_356266271137319_576961354_n.jpg) กว่าจะมาเป็นผู้พิพากษา .โดย ธรรมมะกับกฎหมาย เมื่อ 17 ธันวาคม 2012 เวลา 10:50 น. ·.ชีวิตคือการเดินทางที่แสนไกล บางครั้งเมื่อฉันมองย้อนกลับไปก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าฉันเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ชีวิตของฉันเริ่มต้นที่หมู่บ้านเล็กๆบนภูเขาแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสานตอนบน ตั้งแต่เด็ก ทุกคนมองว่าฉันเป็นเด็กขี้อาย ไม่กล้าสู้หน้าคนแปลกหน้า ติดยาย เวลาไปไหนมาไหน ยายจะตามไปด้วยตลอดเวลา ในช่วงวัยเรียนประถม ฉันชอบอ่านหนังสือมาก ในขณะที่เพื่อนๆ ไปวิ่งเล่นกัน ฉันก็จะอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุดของโรงเรียน โรงเรียนของฉันเป็นโรงเรียนเล็กๆ ในชนบทห่างไกล ไม่ค่อยมีหนังสือให้อ่าน ดังนั้น ฉันจึงอ่านหนังสือในโรงเรียน ทุกเล่ม เล่มละหลายๆรอบ ............................................................. เมื่อฉันจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ พ่อแม่บอกว่าไม่มีเงินส่งฉันเรียนในชั้นมัธยมศึกษา ประกอบคนในหมู่บ้านของฉันก็ไม่มีใครเรียนต่อกัน ดังนั้น ฉันจึงต้องหยุดเรียนและออกมาช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนา แต่ด้วยความที่ฉันถูกเลี้ยงมาแบบทะนุถนอม ยายไม่เคยปล่อยให้ฉันทำงานบ้านเอง ฉันจึงโตมาแบบทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ทำกับข้าวไม่เป็น ทำไร่ทำนาก็ไม่ไหว จนคนรอบข้าง มองฉันแล้วส่ายหน้า พร้อมกับพูดว่า ถ้าฉันไม่มีพ่อแม่ ยาย แล้ว ชีวิตฉันจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนั้นฉันอายุสิบเอ็ดขวบ ฉันมีความคิดว่า ฉันไม่ชอบการทำไร่ทำนา เพราะมันเหนื่อย ฉันอยากเรียนหนังสือสูงๆ ทำงานดี ส่งเงินให้พ่อแม่ ฉันจึงขวนขวายที่จะเรียนการศึกษานอกโรงเรียน ฉันจึงขอพ่อไปเรียนการศึกษานอกโรงเรียน พ่อก็อนุญาต แต่แม่มีข้อแม้ว่า ฉันจะไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ประจำปี ไม่ได้สร้อยคอทองคำใส่ เหมือนกับเพื่อนๆ ในหมู่บ้าน ฉันก็ตกลง ต่อมาฉันจึงได้ไปเรียนการศึกษานอกโรงเรียน ที่จังหวัดข้างเคียง อยู่ห่างจากหมู่บ้านของฉันประมาณ สามสิบกิโลเมตร ฉันต้องเดินจากหมู่บ้านประมาณสามกิโลเมตร เพื่อขึ้นรถเมล์ไปเรียนทุกวันอาทิตย์ ยาย เป็นห่วงฉันมาก จึงเดินตามมาส่งฉันทุกอาทิตย์ และรอฉันอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านจนกระทั่งฉันกลับมาในตอนเย็น ภาพที่คนแถวนั้นเห็นจนชินตา คือ จะมียายหลานคู่หนึ่ง เดินขึ้นเขาลงเขา ทุกวันอาทิตย์ ตอนเช้า และตอนเย็น ฉันใช้เวลา สองปี จึงเรียนได้วุฒิเทียบเท่า ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ สาม ขณะนั้น ฉันอายุ สิบห้าปีพอดี ฉันจึงขอพ่อแม่ เข้ากรุงเทพเพื่อหางานทำและหาที่เรียนต่อ พ่ออนุญาต และแม่มีข้อแม้ว่า ฉันต้องส่งเงินให้แม่ทุกเดือน เพราะถ้าฉันไปก็ไม่ใครช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนา หลังจากนั้น ฉันและเพื่อนในหมู่บ้านอีกหลายคนก็ไปหางานที่สำนักจัดหางานประจำอำเภอ ฉันและเพื่อนถูกส่งไปทำงานที่โรงงานปลาทูน่ากระป๋องในจังหวัดนครปฐม ฉันและเพื่อน ทำงานวันแรก ก็คลื่นไส้ เป็นลม เพราะเหม็นปลาทูน่า มีหลายคนที่ทำงานไม่ไหว และลาออกในวันรุ่งขึ้น ส่วนฉันคิดว่าฉันทนได้ เพราะเป้าหมายของฉันคือการได้เรียนต่อ ฉันคิดว่าที่นี่เหมาะกับฉันเพราะ ฉันทำงานเข้ากะกลางคืน ในเวลากลางวันฉันก็จะสามารถไปเรียนต่อได้ตามความฝัน และฉันเห็นพนักงานที่โรงงานนี้ ก็เรียนต่อที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกันหลายคน ฉันประทับใจกับคำพูดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล ที่บอกว่า “อย่าคิดว่างานที่ทำเป็นงานที่ต่ำต้อย งานทุกอย่างมีคุณค่าในตัวเอง” ซึ่งฉันก็เห็นด้วยและคิดว่าฉันได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการทำงานนี้ เป็นต้นว่า การฝึกความอดทน ไม่ย่อท้อต่อการทำงานหนัก ซึ่งเป็นพื้นฐานทำให้จิตใจเข้มแข็ง สามารถฝันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้ ฉัน ทำงานอยู่ได้หนึ่งเดือน ทางโรงงานประสบปัญหาขาดทุนและเลิกจ้างพนักงานใหม่ ฉันจึงต้องออกจากงาน และย้ายไปทำงานโรงงานทอผ้า อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงกัน ทำงานอยู่ได้หกเดือน ฉันก็ยังมองไม่เห็นหนทางที่จะได้เรียนต่อ ฉันจึงตัดสินใจกลับไปตั้งหลักที่บ้าน อยู่บ้านได้สักพัก ฉันก็ชวนเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ไปหางานที่อำเภอ เราสัญญากันว่า จะไปหางานทำด้วยกันและหาที่เรียนด้วยกัน จากนั้น ฉันและเพื่อนถูกส่งไปทำงานที่โรงงานผลไม้กระป๋อง ทำงานได้สักระยะ เพื่อนของฉันบอกว่า เค้าทนลำบากไม่ไหวแล้ว อยากจะกลับบ้าน ตัวฉันยังไม่อยากกลับบ้าน แต่ไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย ฉันก็กลัว จึงต้องตามเพื่อนกลับบ้าน พอกลับไปอยู่บ้านสักพัก ฉันก็หาเพื่อคนใหม่ เพื่อไปหางานทำด้วยกันอีกครั้ง ฉันและเพื่อนอีกสี่คน ไปหางานที่สำนักจัดหางานประจำอำเภอ และถูกส่งกลับไปทำงานที่โรงงานปลากระป๋องในจังหวัดนครปฐม ที่เดียวกับที่ฉันเคยไปครั้งแรก ขณะนั้นกิจการดีขึ้นแล้ว ฉันรู้สึกดีใจมากและคิดว่าคราวนี้คงได้เรียนต่อสมใจซะที หลังจากทำงานได้สักระยะ ฉันก็สมัครเรียนการศึกษานอกโรงเรียนใกล้ๆกับที่ทำงาน แต่แล้วฉันก็ประสบปัญหาเดิมๆ นั่นคือ เพื่อนที่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน เค้าอยากจะกลับบ้านอีกแล้ว ฉันจึงตัดสินใจที่จะไม่ตามเพื่อนกลับบ้าน และนั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันต้องอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า โดยไม่มีคนจากหมู่บ้านเดียวกันอยู่ด้วย และแล้วฉันก็ผ่านมันไปได้ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ สิ่งที่ฉันยังจำได้ติดใจ คือ มีอยู่วันหนึ่ง ฉันเดินเข้าไปขออนุญาตหัวหน้างาน ขอเลิกงาน ห้าโมง เย็นโดยไม่ทำโอทีต่อถึง สองทุ่ม เพราะวันรุ่งขึ้นฉันต้องไปสอบ คำตอบที่ฉันได้รับคือ หน้าตาบึ้งตึงของหัวหน้างานพร้อมกับคำพูดเสียงแข็งว่า ไม่ได้ งานก็คืองาน วันนั้นฉันจึงต้องทำงานถึงสองทุ่ม และไปสอบในตอนเช้า โดยมีเวลาอ่านหนังสือเพียงน้อยนิด แต่ในที่สุด ฉันก็ได้วุฒิ ม. ๖ มาครอบครอง ซึ่งในเวลานั้น ฉันไม่รู้ว่าจะเอาวุฒิ ม. ๖ ไปทำงานอะไร หรือเรียนอะไร มีแต่คนรอบข้างที่บอกฉันว่า ขนาดคนที่เรียนในระบบโรงเรียน ยังตกงาน ยังไม่สามารถเรียนให้จบมหาวิทยาลัยได้เลย แล้วเด็กบ้านนอก จบกศน อย่างฉัน จะไปทำอะไรได้ ตอนนั้น ฉันเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ จึงตัดสินใจกลับไปตั้งหลักที่บ้านอีกครั้ง พอกลับไปบ้านสักพัก ความอยากเรียนต่อของฉันก็เร่งรัดให้ฉันเข้ามากรุงเทพอีกครั้งเพื่อหางานทำและหาที่เรียน คราวนี้ฉันมาทำงานก่อสร้าง พร้อมกับคนในหมู่บ้าน โดยมีแม่ตามมาทำงานด้วย ฉันทำงานก่อสร้างอยู่ได้เจ็ดวัน ก็เหน็ดเหนื่อยมากๆ จึงออกไปสมัครงานโรงงานอีกครั้ง และได้ทำงานโรงงานทำชิ้นส่วนอิเล็กทรอนนิกส์แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อได้งานแล้วฉันก็ส่งแม่กลับบ้านนอก ฉันชอบที่นี่มาก งานสบาย สวัสดิการดี กว่าโรงงานที่ฉันเคยทำเยอะ ฉัน ตั้งใจว่า จะสมัครเรียนรามคณะรัฐศาสตร์ เพราะมีคนบอกว่า จบ กศน. อย่างฉัน เรียนได้แค่รัฐศาสตร์รามเท่านั้น ฉันทำงานที่นี่ได้สี่เดือน และกำลังจะสมัครเรียนราม แต่อนิจจา โรงงานที่ฉันทำงานอยู่ มีนโยบายไม่รับพนักงานประจำ คือจะจ้างพนักงานแค่สี่เดือนแล้วเลิกจ้าง จากนั้นก็รับสมัครพนักงานใหม่ ฉันจึงถูกเลิกจ้างด้วยประการฉะนี้ เมื่อตกงาน ฉันจึงต้องพักเรื่องการสมัครเรียนต่อไว้ก่อน ต่อมาฉันได้งานใหม่ ที่โรงงานทำเครื่องแฟกซ์ แถว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่นี่ เงินเดือนไม่ได้เท่าที่เดิม แต่ก็วันหยุดเยอะดี ต่อมาฉันก็วางแผนจะสมัครเรียนรามอีกครั้ง ตอนนั้นฉันคิดว่า ฉันคงเรียนสาขารัฐศาสตร์ไม่ได้ เพราะ วิชาพื้นฐานเยอะมาก และฉันไม่ได้เรียนมัธยมในระบบโรงเรียน คงตามเพื่อนไม่ทัน ส่วนคณะนิติศาสตร์ วิชาพื้นฐานน้อยดี วิชาหลักก็ไม่มีสอนในชั้นมัธยม มาเริ่มต้นพร้อมกัน ฉันคงพอเรียนได้ ปีแรก ฉันก็ลงทะเบียนเรียน ตามวันเวลาว่าง เพื่อจะได้ลางานให้น้อยที่สุด บางครั้งฉันลงทะเบียนเรียนสองวิชาที่สอบวันเดียวกัน ผลคือ ตอนเช้าสอบรามหนึ่ง ตอนบ่ายสอบรามสอง ตอนดึก ก็ไปทำงาน ผลสอบในปีหนึ่งเป็นที่น่าพอใจ ฉันสอบผ่านเป็นส่วนใหญ่ พอเริ่มปีสอง วิชาเรียนเริ่มยากขึ้น ฉันคิดการการทำงานโรงงานหนักเกินไป และไม่เหมาะแก่การเรียน ฉันตัดสินใจ ลาออกจากงานโรงงาน มา ทำงานร้านเซเว่น ใกล้กับมหาวิทยาลัย ช่วงไหนที่เข้ากะดึกและกะบ่าย ฉันก็จะหาโอกาสไปนั่งฟังคำบรรยาย ขณะนั้นฉันยังไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว ฉันจึงตัดสินใจ เข้าไปฝึกอบรมการพูดที่ศูนย์พัฒนาการพูดรามคำแหง ที่นี่ฉันมีเพื่อนมากมายและไม่อยากจะทำงานอีกต่อไป ประกอบกับช่วงนั้นมีโครงการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ฉันจึงตัดสินใจ ลาออกจากงานและกู้เงินเรียน ฉันใช้เวลาสามปีก็จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากนั้นก็ไปเรียนต่อที่เนติฯ อีกหนึ่งปี ก็จบเนติฯ ช่วงที่เรียนรามและเรียนเนติฯ ฉันไม่มีเงินซื้อหนังสือข้างนอกมาอ่าน ฉันจึงใช้วิธียืมหนังสือจากห้องสมุดมาอ่าน เมื่อยืมมาแล้วก็ต้องอ่านให้จบ ทำโน๊ตย่อไว้เพื่อทบทวนเพราะไม่ใช่หนังสือของเรา ตลอดเวลาสามปีที่รามและหนึ่งปีที่เนติ ฉันอ่านหนังสือในห้องสมุดแทบทุกเล่ม ตอนนั้นฉันสงสารตัวเองมากที่ไม่มีเงินซื้อหนังสือมาอ่าน แต่พอมองย้อนกลับไป พบว่า นั่นคือข้อดีอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ฉันมีความตั้งใจ อ่านหนังสือให้ได้เยอะ ๆเร็วๆ ฉับพบว่า หลังจากที่ฉันมีเงินซื้อหนังสือแล้ว ความขยันอ่านหนังสือหายไปเพราะคิดว่า หนังสือเป็นของเรา จะอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ สุดท้าย ฉันมีหนังสือเต็มห้องแต่ยังอ่านไม่ครบทุกเล่ม ในช่วงสองปีที่ราม และหนึ่งปีที่เนติฯ เป็นครั้งแรกที่ฉันมีโอกาสได้ฟังคำบรรยายที่มีอาจารย์สอนแทนการอ่านหนังสือ ในขณะที่คนอื่นคิดว่าการนั่งเรียนเป็นเร่ืองน่าเบื่อ อ่านหนังสืออย่างเดียวดีกว่าเร็วดี แต่สำหรับฉันแล้วรู้สึกว่าเป็นเร่ืองโชคดีมากที่มีโอกาสได้รับทั้งความรู้และประสบการณ์โดยตรงจากผู้สอน บางครั้งอาจารย์ไม่ได้ถ่ายทอดเฉพาะความรู้เท่านั้น แต่ยังถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆที่ท่านเคยประสบการณ์ มาให้เราด้วย ดังนั้น ฉันจึงตั้งใจเรียน เกี่ยวทั้งความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่าของท่าอาจารย์ มาปรับใช้ในการเรียนและการดำเนินชีวิตประจำวัน หลังจากจบปริญญาตรีฉันเคว้งคว้างอยู้สักพัก หางานทำไม่ได้ ฉันไม่ค่อยชินกับการเรียนอย่างเดียวโดยไม่ได้ทำงาน ฉันสัญญากับตัวเองว่าถ้าหางานทำได้แล้วฉันจะตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุด ต่อมา ฉัน สอบเข้าบรรจุเป็นข้าราชการที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปีแรกที่ทำงานที่นี่ฉันมีความสุขมากๆ ฉันประทับใจกับการอบรมพนักงานใหม่ซึ่งให้ข้อคิดกับฉันว่า อะไรก็ตามถ้าเราทำถูกวิธีมันจะไม่เหนื่อย และประสบความสำเร็จได้ง่าย ถ้าเราทำอะไรแล้วเหนื่อยและไม่ได้ผล แสดงว่าเราทำผิดวิธีเราต้องหาวิธีการใหม่ ฉันก็ได้ใช้หลักการข้อนี้ มาปรับใช้กับการเตรียมตัวสอบผู้พิพากษา เพื่อนๆที่บรรจุพร้อมกันบอกว่างานที่นี่เหนื่อย หนัก เครียด แต่ในความรู้สึกของฉันคือ สบายกว่างานโรงงานที่ฉันทำตั้งเยอะ ในการเตรียมตัวสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา บางครั้งเมื่อฉันเห็นคนที่อ่านหนังสือสอบอย่างเดียวฉันก็นึกอิจฉาอยากเป็นแบบนั้นบ้างแต่ทำไม่ได้เพราะมีภาระครอบครัวมากมาย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฉันลาพักผ่อนและไปนั่งอ่านหนังสือสามวันเต็ม ทั้งวันโดยไม่พัก ฉันอ่านจูริส จบไปสองสามเล่ม และฉันรู้สึกว่าความรู้เต็มหัวจนหนักอึ้งดพราะสมองซึมซับไม่ทัน ฉันเห็นหนังสือแล้วรู้สึกเวียนหัว อ่านหนังสือไม่ได้ไปอีกสองอาทิตย์ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฉันเรียนรู้ว่า การศึกษาหาความรู้ ไม่ใช่การนำข้อมูลจำนวนมหาศาลมายัดใส่สมองภายในครั้งเดียว ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี แต่เป็นการค่อยซึมซับความรู้ทีละน้อยและฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ จุดสำคัญอยู่ที่ความต่อเนื่อง ถ้าเราอ่านหนังสือแค่วันละสองชั่วโมงแต่สามารถจนจำและนำไปปรับใช้ได้ มันจะเป็นความเข้าใจที่นานเท่าไหร่ก็จะไม่ลืม ถ้าเราทำได้ต่อเน่ืองทุกวัน ความรู้ที่มีจะค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ต้องเหนี่อยฟรี นับแต่นั้นฉันจึงคิด เป็นความโชคดีของฉันที่ได้ ทำงานและเรียนด้วยมาโดยตลอด มันทำให้ฉันมีทั้งความรู้และประสบการณ์ที่นำมาใช้ด้วยกันได้อย่างลงตัว แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันพลาดไปก็คือ ฉันประมาทไปหน่อย ตอนที่ยังอายุไม่ครบที่จะสอบผู้พิพากษา ฉันก็ไม่ค่อยได้เตรียมตัว มัวแต่สนุกกับงาน สนุกเพื่อนใหม่ สถานที่แปลกใหม่ และคิดว่าอายุไม่ครบก็ยังไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย พอฉันมีคุณสมบัติครบที่จะสอบผู้พิพากษาได้ และเริ่มเตรียมตัวอย่างจริงจังก็รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา คิดว่าเราน่าจะเตรียมตัวก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว และนั่นทำให้ฉันสอบผู้พิพากษาครั้งแรกไม่ผ่าน แต่ก็ยังดีที่ฉันยังสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตัวเองได้เร็ว และสามารถแก้ไขได้ จนทำให้สอบผ่านได้อย่างเฉียดฉิวในการสอบครั้งที่สอง นับจากวันที่ฉันสอบผ่านได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา จนถึงวันนี้ เป็นเวลาแปดปีเศษ หลายครั้งที่มองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกว่า แทบไม่น่าเชื่อว่าเด็กบนดอยคนหนึ่งจะมายืนจุดนี้ได้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันมีวันนี้ได้ คือความรักแบบไม่มีเงื่อนไขของคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ยาย น้องสาว แม้พวกเค้าจะไม่เข้าใจว่าฉันจะเรียนไปทำไมเยอะแยะมากมาย รู้แต่ว่าฉันอยากเรียนก็สนับสนุนทุกทางเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่คนในหมู่บ้านมีแนวคิดว่าการเรียนหนังสือไม่มีประโยชน์เสียเวลาทำมาหากินและมีตัวอย่างของคนในหมู่บ้านที่ไปเรียนจบมาแล้วก็แต่งงานเลี้ยงลูกโดยไม่ได้ประกอบอาชีพตามที่เรียนมาเลย ดังนั้น พวกเค้าจึงไม่คิดที่จะส่งลูกหลานเรียนต่อ ตอนนั้นฉันชวนเพื่อนไปเรียนต่อด้วยกัน แต่พ่อแม่ของเพื่อนไม่อนุญาต และซื้อเครื่องเสียงให้เป็นการปลอบใจโดยให้เหตุผลว่า เครื่องเสียงฟังได้ทั้งครอบครัว แต่การเรียนต่อ คนในครอบครัวไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วย ส่วนพ่อของฉันอยากให้ฉันเรียนอยู่แล้วแต่ไม่มีเงินส่งเรียน เมื่อฉันขอไปเรียน กศน. พ่อก็อนุญาต ส่วนแม่และยายแม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่เคยห้าม มีแต่ช่วยสนับสนุนทุกทาง ยายมารับส่งทุกครั้งที่ไปเรียน ตอนที่ฉันเข้ามาทำงานกรุงเทพ แม่และยายก็ยอมแม้ว่าจะคิดถึงและเป็นห่วงฉันมากแค่ไหน คนข้างบ้านบอกว่าแม่ฉันจิตใจเข้มแข็งมากๆ ที่ยอมให้ลูก อายุไม่ถึงยี่สิบปีมาอยู่กรุงเทพเพียงลำพัง ฉันคิดว่าที่แม่ยอมเพราะแม่เชื่อว่าฉันดูแลตัวเองได้ดี และฉันสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้ครอบครัวผิดหวัง ส่วนน้องสาวคนเดียวของฉัน ฉันรักเค้ามาก และเค้าก็รักฉันมากเช่นเดียวกัน ในขณะทำงานฉันส่งเงินกลับบ้านเพื่อให้น้องสาวได้เรียนต่อ ซึ่งเค้าก็ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง เค้าเรียนดี ตั้งใจเรียน มาโดยตลอด โดยที่ฉันไม่ต้องแนะนำสั่งสอน น้องเดินมาในทางเดียวกันกับที่ฉันเดิน ฉันดีใจที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้น้องได้ บางทีฉันก็รู้สึกว่าน้องสาวของฉันอาจจะรู้สึกกดดัน ที่ใครก็ชื่นชมฉันและคาดหวังว่าน้องจะทำได้เหมือนฉัน ฉันอยากจะบอกน้องสาวว่าถึงแม้วันนี้น้องจะทำไม่ได้เท่าพี่ เพราะมีเหตุปัจจัยที่ต่างกัน ฉัน ก็รักและภูมิใจในตัวเค้ามากและดีใจที่ได้เกิดมาเป็นพี่น้องกัน อะไรที่พี่จะช่วยให้น้องประสบความสำเร็จได้พี่ก็พร้อมจะทำ อย่างเช่น การเปิดเพจธรรมมะกับกฎหมาย เพื่อแนะนำการเรียนกฎหมาย พี่เขียนเพจนี้ขึ้นมาก็เพราะคิดว่าเพจนี้จะเป็นประโยชน์กับน้องของพี่และคนอื่นๆ .....................................เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าฉันมาจากครอบครัวที่ยากจน แต่วันนี้ฉันรู้แล้วว่าครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์ที่สุด ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเลย เงินทุกบาทที่หามาได้ พ่อจะให้แม่เก็บทั้งหมด หากพ่อเอาเงินไปใช้ พ่อจะกลับมาบอกแม่ว่าใช้อะไรไปบ้าง ที่เหลือจะคืนแม่ทั้งหมด พ่อไม่เคยซื้อเสื้อผ้าใส่เอง แม่ซื้อเสื้อผ้าแบบไหนให้ก็ใส่แบบนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ พ่อแม่ทำงานหนักเพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัว ยายเลี้ยงดูฉันอย่างดี ตอนเด็กฉันไม่เคยถูกตีเพราะมียายคอยปกป้องอยู่เสมอ ญาติพี่น้องทุกคนรักกันและคอยช่วยเหลือกันอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้ทำให้ฉันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความรักในหัวใจ ที่พร้อมจะเดินตามความฝันของตัวเอง และแบ่งปันความรักให้แก่คนรอบข้าง ทำให้ฉันเรียนรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะให้แก่คนที่เรารักได้คือ การให้เค้าได้เป็นตัวเอง ได้ทำในส่ิงที่รักและอยากมีความสุขที่จะทำ และนี่คือสิ่งที่ฉันได้จากครอบครัวของฉัน ...............................สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้ฉันเดินมาถึงตรงนี้ได้ นั้น คือ ฉันมีเป้าหมายชัดเจน และหาวิธีการเดินไปสู่จุดหมายนั้น ฉันไม่เคยยอมแพ้ ทุกครั้งที่ทุกอย่างไม่เป็นไปดังหวัง ฉันก็จะบอกกับตัวเองว่า มันต้องมีวิธีการอื่นที่ให้เราเดินไปสู่ความสำเร็จได้ ทุกเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาไม่ว่าดีหรือร้ายก็สามารถเป็นครูสอนเราได้ สิ่งที่ดีเราก็ดูไว้เป็นตัวอย่างที่ควรทำตาม สิ่งที่ไม่ดีเราก็ดูไว้เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรทำตาม คนเราเกิดมาเพื่อเรียนรู้และเติบโตขึ้น คนเราไม่รู้หรอกว่า ทำกรรมอะไรไว้จึงได้ตัวตนแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่ถึงวันนี้ วันที่เรายังมีลมหายใจอยู่กับปัจจุบันขณะ เราสามารถเลือกได้ว่าจะเดินไปตามเส้นทางที่กรรมเก่าขีดเส้นไว้ หรือเลือกที่จะสำรวจข้อบกพร่องตัวเอง เลือกแก้ไขนิสัยเสียๆ ของตัวเอง และเลือกแก้ไขในส่ิงที่ผิด เลือกหาวิธีการที่เหมาะกับตัวเอง หาตัวเองให้เจอ แทนการเลือกโทษโชคชะตาฟ้าดิน พ่อแม่ คนรอบข้าง credit : facebook หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: webbest89 ที่ 08 มกราคม 2013, 09:31:45 แค่ ป.ตรี ก็จะแย่แล้วครับ :wanwan044: :wanwan044: :wanwan044:
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: reviewer ที่ 08 มกราคม 2013, 09:39:40 ศักดิ์ศรี ความสุข อยู่ที่เรา
ถ้าจะเรียนมีทุนให้ขอเยอะแยะ ของคณะของมหาวิทยาลัย ของเอกชน ขององค์กรต่างๆ มีคนจบเอกเยอะนะที่จบด้วยทุน หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: dekmv ที่ 08 มกราคม 2013, 10:17:25 ได้ข้อคิดดีๆเยอะครับ ส่วนผมกำลังจะจบตรี ... :wanwan011:
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: hippoyim ที่ 08 มกราคม 2013, 10:21:50 หลายคนแนะนำมาเยอะแล้ว
ขอแนะนำหนังสือเล่มหนึ่ง ความจริงมีหลายเล่ม แต่ลองเริ่มจากเล่มนี้ก่อน "พ่อรวยสอนลูก" คนแต่ง Robert T. Kiyosaki แปล. นันทวัน รุจิวงค์ สำนักพิมพ์ ซีเอ็ด ราคาเล่มละ 160 บาท คิดว่าในห้องสมุดมหาวิทยาลัย น่าจะมีให้ยืม ลองอ่านดูอาจช่วยเปิดมุมมองให้อีกทาง หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: denich ที่ 08 มกราคม 2013, 10:23:50 :wanwan044: ผมก็จบโทครับ แต่ผมก็ทำงานกับครอบครัวอ่ะนะ แต่ผมก็เข้าใจความคิดของคุณนะ เพราะผมก็มีเพื่อนคนหนึ่งจบโทเหมือนกัน คือว่า ฐานะของเพื่อนของผมคนนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่เขาก็ทำงานมาเรื่อย ๆ จากเด็กเสริ์ฟร้าน KFC ทำตอนสมัยเรียน ป.ตรี นะ จนจบ ป.ตรี ก็มาสมัครงานเป็นระดับ supervisor ของ Starbucks หยุดวันอาทิตย์วันเดียว เขาก็สมัครไปเรียน ป.โท เฉพาะ วันอาทิตย์ วันเดียว เขาก็ใช้วิธีการหาแหล่งเงินกู้เป็นค่าเทอม เมื่อจบ ป.โท แล้ว เขาก็ได้ไปสมัครตำแหน่ง รองผู้จัดการ ของห้างคาร์ฟูร์ จวบจนถึง ปัจจุบันเขาก็ได้ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการห้าง LOTUS แต่ความก้าวหน้าก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราจะต้อง ป.โท หรือ ดร. หลอกนะ มันขึ้นอยู่ดวง ประกอบกับเทคนิคและกลยุทธว่าจะปรับใช้กับชีวิตอย่างไร จะทำให้ตัวเองได้ตำแหน่งงานดี ๆ เงินเดือนดี ๆ ได้อย่างไร ตอนเข้าสัมภาษณ์งาน กับผลการเรียนและประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาด้วย ปล. เรียนโท ถ้าเลือกเรียนแผน ก ก็ต้องทำ วิทยานิพนธ์ ถ้าเลือกแผน ข ก็ไม่ต้องทำวิทยานิพนธ์ แต่ต้องทำ IS คือ ทำค้าย ๆ วิทยานิพนธ์ แต่จะผ่านง่ายกว่า ไม่ต้องผ่านกรรมการตรวจสอบหลายท่านเหมือนกับวิทยานิพนธ์ และที่สำคัญที่สุดคือ เงิน กับความ อึด สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่วุฒิ ป.โท เพียงอย่างเดียว ยังได้สังคมดี ๆ ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นนะ คุณอาจจะได้ลูกค้าในเชิงธุรกิจ หรือ หุ้นส่วนทำธุรกิจเล็ก ๆ ก็อาจเป็นได้ :'(
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: konglha ที่ 08 มกราคม 2013, 10:31:36 ผมจบตรีออกแบบ จบโท mba การตลาด พ่ออยากให้เรียน เพราะพ่อไม่มีมรดกหรือทรัพย์สินไรให้ แกให้แต่การเรียนเต็มที่
อยากจะบอกว่าตอนนี้ผมลืมไปแล้วว่าผมจบโทมา มันไม่สำคัญหรอกครับถ้าคุณไม่ได้เอาวุฒิการศึกษาไปหางาน ผมธุรกิจ และเป็นมุนษย์เงินเดือน ใช้ความสามารถตอน ป.ตรีเป็นหลัก ความสามารถตอน ป.โทคือ ทักษะการทำธุรกิจ ที่อยากจะบอกคือ ที่คุณต้องการเรียนโท เพื่อให้ได้งานดีๆเพื่อจะส่งเสียที่บ้านใช่มั้ยครับ ผมว่าตอนนี้มุ่งมั่น ป.ตรี ก่อนและหาความรู้ IM จากในนี้แหละ บางทีอาจได้เงินมากกว่าจบโทไปทำงานบริษัทอีกนะ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: dingdong8002 ที่ 08 มกราคม 2013, 10:46:47 ขออนุญาตนอกหัวข้อสักหน่อย ผมไม่จบ ป.ตรีครับ แต่หาเงินแสน(ต่อเดือน)ได้และไม่ยากเท่าไหร!!!!!
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: CHAPTER I ที่ 08 มกราคม 2013, 11:41:58 ก่อนที่คุณจะเรียนต่อโทที่สถาบันไหนก็ตาม ควรเช็คก่อนว่ามีการรับรองคุณวุฒิ หลักสูตรจากสำนักงาน ก.พ. หรือไม่...ไม่งั้นคุณจะเสียเวลาเรียน
หลักสูตรปริญญาโทเดี๋ยวนี้เปิดกันเกลื่อนเมืองต้องเช็คให้ดีครับ ขอให้คุณมีเงินเท่านั้นก็เรียนได้ ส่วนค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับชื่อเสียงหรือเกรดของมหาวิทยาลัยครับ แต่ถ้าคุณมีทุนพอ ผมแนะนำให้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ได้ทั้งความรู้-ภาษาและประสบการณ์ใหม่ๆครับ ปล.เก็บเงินจากการทำ IM สักสองปี ก็ไปเรียนที่ต่างประเทศได้แล้วครับ สู้ๆครับ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตั้มคอมพิวเตอร์ ที่ 08 มกราคม 2013, 11:44:03 ไม่ได้จบป.ตรีมีรายได้จากทำเว็บก็เยอะแยะไปนะครับ
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: kieattipong ที่ 08 มกราคม 2013, 11:48:37 ผมครับ
กำลังเรียน ป.บัณฑิต ใกล้จบแล้วเหมือนกัน เข้าเว็บไทยเสียวมาเป็นปีแล้ว เริ่มจะชอบทำเว็บมากว่าแล้วครับ ใครก็ได้ช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: sleep ที่ 08 มกราคม 2013, 12:02:01 ลองดูพวกทุน ครับ
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: nongnarak ที่ 08 มกราคม 2013, 12:04:45 มันเริ่มดราม่าแล้ว
จากประสบการณการสัมภาษณ์งาน รับเด็ก ป.ตรี , ป.โท มาทำงาน, หรือกระทั่ง ดร. 1.เรียนจบหรือไม่ - วัดความสามารถและความพยายาม ขนาดเรียนอย่างเดียว ไม่ได้ทำงาน พ่อแม่ส่งเงินให้เรียนอย่างเดียวยังเรียนไม่จบ แสดงว่าความรับผิดชอบไม่มีจะมอบหมายหน้าที่สำคัญๆได้หรือไม่ ยกเว้นฐานะไม่ดีไม่มีโอกาสได้ศึกษา แต่ถ้าฐานะไม่ดีแต่เรียนจบ โอเคเลยคนนี้น่าสนใจ 2.สถาบัน - วัดความพยายามในการสอบเอ็นทราน พยายามแค่ไหนถึงเอ็นติด คู่แข่งเยอะ และประคับประคองให้ตัวเองเรียนจบ ฉะนั้น Resume ที่เลือกมาดูก่อนคือมหาลัยรัฐบาล 3.เกรด - วัดทักษะว่าถนัดด้านไหน ตรงกับที่ต้องการหรือเปล่า (สูง ต่ำ ไม่สำคัญ เช่น จะรับ DBA ถ้าได้ database management F จะเอามันไหม) ถ้าเกรดดีทุกอย่างก็เข้าบริษัทใหญ่ๆได้ เช่น ปตท. ปนซีเมนต์ เงินเดือนสูง โบนัส 12 เดือนไรแบบนี้ 4. ประสบการณ์ทำงาน ลืม ข้อ 1 - 3 ไปเลย ดูแคทำไรมา ทำได้ดีแค่ไห อธิบายในงานเข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม่ได้โม้ จบเลย รับเลยคนนี้ อย่าเชื่อเรื่องดวง .... อย่าเชื่อเรื่องพรสวรรค์ ... อย่าเชื่อเรื่องโอกาส คนที่บอกว่า ผมไม่มีโอกาสเหมอนคนอื่นเขา ผมไม่มีพรสวรรค์ดนนี้ ผมคงดวงไม่ดี ชีวิตอับจนแน่นอน ไม่มีอะไรที่ชนะพรแสวง ความพยายามหรอก อย่าไปซีเรียสมาก เที่ยวได้เมาได้เล่นได้ มีเพื่อนได้ แต่แค่รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองเป็นตัวเองทำ แล้วอนาคตคุณจะดี หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: EazySEO ที่ 08 มกราคม 2013, 12:08:12 ตอนนี้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนดีกว่าครับ เอาให้เรียนจบ ป.ตรีก่อน
จะเรียนต่อโท ไม่ยากครับ เพราะมีเปิดเยอะเกือบทุกมหาวิทยาลัย มีทั้งค่าเทอมถูก ทั้งแพง หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: nuugib ที่ 08 มกราคม 2013, 12:17:55 อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย
อยากให้แม่สบาย อยากมีเงินเรียนสบายๆ ใช้แรงค่ะ ยังเด็กอยู่มีแรง มีเวลา ใช้แรงนี่แหล่ะหาเงิน ห้ามอายด้วย ห้ามกลัวคนสบประมาท เก็บไว้ซักเล็กน้อย ไปหาตลาดนัดแถวมหาัลัย ดูว่ามีที่ว่างเ่ช่าไหมไม่เกินวันละ 50 บาท เสาร์อาทิต หรือวันที่ไม่มีเรียน หาไข่นกกะทา ไปทอดขายค่ะ แคะหลุมแบบขนมครก ทำน้ำจิ้มซีฟุ้ดแซ่บๆไว้ราด ขายกะทงละ 10 บาท พิเศษ 20 ค้าขาย ตลาดนัด คือทางรอดค่ะ อย่าอายทำกิน อยากให้แม่สบาย ต้องหาเงินเพิ่มคะ ไม่ใช่คิดเรื่องเสียเงิน เช่น หาเรื่องเรียนโท ไม่เกิดรายได้แถมยังเสียเงินอีก :wanwan009: ขายของไป เรียนไป ว่างไปทำเซเว่น หาเงินเข้าไว้ค่ะ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าอยากช่วยแม่เต็มที่ อย่าอายทำกิน อย่าอายเวลาคนสบประมาท ความอายไม่ได้ช่วยให้ใครอิ่มท้อง หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: ThaiMaster ที่ 08 มกราคม 2013, 13:33:21 ทำงานด้าน IM จริงๆจังๆ หรือทำพวกเว็บขายของก็รายได้พอๆกับ ป.ตรี ป.โท ละครับ ส่วนมากรายได้มากกว่าด้วยซ้ำ ไม่ต้องเหนื่อยนั่งรถไปทำงานทุกวัน
ประเด็นสำคัญของคุณผมว่า เป็นปัญหาทางด้านการเงินที่มันดูช่างบีบรัดตัวสะเหลือเกิน ควรเริ่มแก้จากตรงนี้แหละครับ อาจจะไปหาทำงานเสริม พอเริ่มมีทุน ก็หาอะไรที่เราชอบหรือถนัดมาขายในเว็บดู ขยันทำ SEO หน่อย มันก็จะค่อยๆโตไปเรื่อยๆครับ หรือไปลุยพวกงาน IM ก็ได้ครับ ต้นทุนเราอาจไม่สูงเท่าคนอื่น แต่อาศัยความขยัน สักวันมันก็จะเป็นวันของเราครับ ประเด็นที่ว่าคนรอบข้างคุณมองคุณในแง่ไม่ดี ถึงคุณจบ ป.โท ป.เอก เค้าก็ไม่ได้ยินดียินร้ายกับคุณหรอกครับ คนพวกนี้เห็นใครได้ดีไม่ได้ด้วยซ้ำ คนพวกนี้จะ พยายามดูถูกคนอื่นเพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองสูงกว่า มันเป็นความคิดที่น่าสมเพชมากกว่าครับลองคิดดูดีๆ และคนที่เค้ามีจริงๆ เค้าไม่มานั่งคิดกับเรื่องไร้สาระพวกนี้หรอกครับ เค้าเอาเวลาไปทำมาหากิน คนที่มีจริงเค้าเอื้อเเฟื้อเผื่อแผ่ทำบุญกันทั้งนั้นแหละครับ ลองไปหาหนังสือพวกสร้างแรงบันดาลใจ หรือชีวประวัติของผู้ที่ประสบความสำเร็จมาอ่านสิครับ มันจะทำให้เรามองโลกในมุมที่กว้างขึ้น และคิดในแง่บวก มีหนังสือแปลเล่มหนึ่งผมเคยอ่านสมัยมัธยมในห้องสมุด และทุกวันนี้ยังนำมาใช้และจำได้ดี กับประโยคที่ว่า "ไม่ได้อยู่ที่คนอื่นคิดกับเราอย่างไร แต่อยู่ที่ตัว เราเองต่างหากที่คิดและมองตัวเองเป็นอย่างไร หากตัวเองยังคิดดูถูกตัวเองและมองตัวเองในแง่ลบ แน่นอนละครับว่าคงปฎิเสธไม่ได้ที่จะให้คนอื่นคิดแบบเดียวกันกับคุณ" ชีวิตเราลิขิตเอง ถ้าเราคิดดีทำดีแน่นอนสิ่งที่หวังไว้ อยู่ไม่ไกลเกินที่ชีวิตมนุษย์คนหนึ่งจะทำได้ครับ โชคดีปีใหม่ครับ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: ronalton ที่ 08 มกราคม 2013, 14:21:25 ความรุ้เพี๊ยบ :wanwan004:
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: contentsiam ที่ 08 มกราคม 2013, 14:23:54 อ่านแล้วเพลิน :wanwan019:
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอŦ เริ่มหัวข้อโดย: Legolas ที่ 08 มกราคม 2013, 14:29:39 แล้วถ้าวันนึงถ้าคนแถวบ้านกดดันเรื่องอื่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเรามีหน้าที่ทำตามเค้าแบบนี้ไปเรื่อยๆตลอดชีวิตรึเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: pink-roof ที่ 08 มกราคม 2013, 14:47:44 ผมวิเคราะห์ปัญหาหลักๆ ของน้องได้ประมาณนี้นะครับ อันดับหนึ่งเลยคือ น้องรักและห่วงแม่น้องมาก ซึ่งข้อนี้พี่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งนะคับ อย่าลืมบุญคุณท่านนะครับ บางคนได้ดีแล้วลืมพ่อแม่ อันนี้ไม่ควรนะครับ ถึงแม้พ่อแม่เราจะจน เราหยิบยื่นอะไรได้เราก็หยิบยื่นให้ท่าน เหมือนกับผมตอนเด็กก็จะติดแม่มากครับ แม่อยู่ห่างผมไม่ได้ห่างเมื่อไหร่ชาวบ้านเดือดร้อนทุกที เพราะต้องช่วยกันจับผมไม่ไห้ดิ้นนะคับ ฝนตกฟ้าร้องเมื่อไหร่ ผมเป็นห่วงแม่ผมตลอด เมื่อไหร่ที่ไม่เห็นแม่ผม ผมต้องออกไปตะโกนตามเรียกหาแม่ทุกครั้ง แม่ยังเคยเล่าให้ผมและคนอื่นๆฟัง ด้วยความรู้สึก ที่ดีที่ผมเป็นห่วงท่าน แต่ผมก็ทำให้ท่านไม่สบายใจหลาย อย่างเพราะถูกตามใจ เช่น อยากได้อะไรต้องได้ แม้ไม่มีเงิน แม่ก็ต้องหามาให้ผมให้ได้ นึกถึงตอนนี้ผมก็ยังเสียใจอยู่เลย ที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่อาจจะกลับไปย้อนสิ่งที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว แต่ปัจจุบันและอนาคต ขอทำให้ดีที่สุดเพื่อแม่ พ่อ พี่น้อง และครอบครัวครับ ผมก็เป็นคนนึงที่เหมือนท่านครับ คือไม่อยากให้แม่ทำงาน อยากให้ท่านอยู่สบาย เพราะเรื่องนี้ทำให้ผมต้องทะเลาะกับแม่บ่อยๆ เพราะแม่ไม่ค่อยนอน ทำงานตลอด บางครั้งก็พูดกับแม่เสียงดังๆ อยากให้แม่นอนให้ได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงเพราะเห็นแกปวดหัวบ่อยๆ คงพักผ่อนไม่พอ ผมไม่เหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ ตรงที่ถ้าผมอยากซื้ออะไรให้แม่ ผมก็จะหาตังค์ซื้อให้เลย ไม่มีเงินเองก็ยืมของน้องๆ ช่วยกันแชร์ อย่างเช่นซื่อจานดาวเทียมให้พ่อ เห็นพ่อบ่นว่าดูมวยแล้วมันไม่ชัด ผมก็แชร์กับน้องซื้อให้เลย แต่สำหรับพี่ผมเค้าบอกว่าให้รอก่อน แต่ผมอยากซื้ออะไรหรือทำอะไรให้พ่อแม่ผม ก็ต้องรีบทำให้ทันทีเหมือนกันครับ ผมก็กล้วเหมือนที่น้องกล้วนั่นแหละครับ พ่อแม่เราก็อายุมากแล้ว ปัญหาข้อที่สอง สิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ทำให้น้องกังวล ไม่สบายใจ และเครียดคือ เรื่องเงิน ไม่พอที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือนทำให้ มีผลกระทบไปยังแม่ ตัวเองและครอบครัว ซึ่งพี่วิเคราะห์แล้วว่าข้อนี้ข้อเดียวกระทบไปทุกข้อเลย เพราะถ้าเรามีเงิน เราไม่จำเป็นต้องดิ้นรนมาทำงานถึงกรุงเทพ ต้องห่างจากครอบครัว และข้อที่สามคือ อยากจะเรียนต่อปริญญาโท จากที่พี่ใช้ Psychology(จิตวิทยา)วิเคราะห์ดูพี่วิเคราะห์ได้ว่าที่น้องอยากเรียนโทตอนนี้นะครับ เพราะเกิดจากโดนดูถูกเหยียดหยาม และโดนถามบ่อยๆ เช่นจบหรือยังล่ะ ลูกสาวป้า หลานป้า เค้าจบแล้วนะจบโท จบเอกที่โน่น ที่นี่ ตอนนี้ทำงานนั้นนี่ เงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ พี่โดนประจำล่ะครับ เช่น ตอนแรก(ตอนยังเรียนอยู่)ถามว่าจบหรือยังล่ะ ลูกป้าจบแล้วนะทำงานที่โน่นที่นี่ เงินเดือนโน่นนี่ (ตอนเรียนจบ)อ้าว มีเมียหรือยังล่ะ ไม่พามีมาด้วยเหรอ ซะอย่างงั้น!!!บางครั้งต้องทำใจครับ เพราะสังคมสมัยสอนให้แก่งแย่งแข่งขันกันครับ อยากโชว์อยากอวด ประเภทไม่มีเงินก็ยอมเป็นหนี้ แบบภายนอกดูดีเข้าไว้ประมาณนั้น บางครั้งก็ต้องปล่อยวางบ้างนะครับ คิดมากจะปวดหัวครับ สังคมสมัยนี้มีเงินเนรมิตได้ทุกอย่างครับ แต่ความสุขเนรมิตไม่ได้ ถ้าไม่รู้จักคำว่าพอครับ ฟังคน ฟังได้ครับ อะไรที่เราฟังแล้วมันได้ประโยชน์กับตัวเราเราก็รับไว้ อะไรที่ทำให้ปวดกะโหลกก็ปล่อยวางครับ ไม่ทราบว่าน้องเรียนเต็มวันหรือป่าวนะครับ ถ้าสอบอย่างเดียวหรือไม่ได้เข้าเรียนเต็มเวลาก็หางานพวก 7-Family Mart-คลังสินค้า Big C,Lotus ประมาณนี้นะครับ ช่วยได้เยอะเลย ครับอย่างน้อยได้มีเงินเหลือเก็บ และมีเงินส่งให้ทางบ้านมากขึ้นนะคับ อาจเหนือยหน่อย แต่ต้องอดทน เราไม่ได้เกิดมา มีเงินกองไว้ตรงหน้า ตื่นขึ้นมามีคนรถรับส่ง ต้องพยายามครับ อย่างน้อยได้รู้จักอดทน พ่อแม่เราเคยลำบากมามากกว่าเราต้องกี่ปี ลองคิดดูสิครับ นี่เรายังไม่ได้ซักครึ่งชีวิตของท่านเลย อย่าพึ่งท้อ หนทางมีให้เดินเสมอครับ หาให้เจอ แล้วสู้กับมันครับ คนที่เป็นหัวหน้าคนที่แท้จริง ส่วนใหญ่แล้วเคยล้มลุกคลุกคลาน กันมาแล้วทั้งสิ้นครับ ล้มแล้วล้มอีก ไม่เหมือนกับคนที่มีเงินทองมากองให้ผิดหวังขึ้นมาซักนิดหน่อยก็หาทางไม่เจอสุดท้ายก็ไม่มีทางออกเพราะไม่เคยเจออุปสรรคอะไรเลย มีคนคอยเคลียร์ให้ตลอด และอีกอย่างที่พี่คิดว่าที่น้องเป็นอย่างนี้ตอนนี้น้องอยู่คนเดียวหรือป่าวครับ มีเพื่อนเยอะมั้ย อาจจะเกิดจากความเหงา ไม่มีใครให้ปรึกษาก็ได้ครับ ปริญญาโทหรือเอก ถ้ามีโอกาสใครก็อยากเรียนครับ แต่อย่าไปเรียนตอนที่เรายังไม่พร้อมนะครับ นอกจากเราจะลำบากแล้ว อาจจะไม่จบและอาจจะเครียดยิ่งกว่าเก่านะครับ เรียนโทเรียนเอก ควรจะเรียนเมื่อเราพร้อมนะครับ เรียนตอนไหนก็ไม่สายครับ แต่ตอนนี้พี่ว่า ถ้ามีเวลาว่างก็หางานเสริมครับ ที่ได้กล่าวไปแล้ว และตอนนี้ขอให้ตั้งใจเรียนให้มากๆนะคับ สู้ๆนะคับ :wanwan003: :wanwan003: :wanwan003: ได้แง่คิดค่ะ หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: Optimus ที่ 08 มกราคม 2013, 14:57:15 ผมวิเคราะห์ปัญหาหลักๆ ของน้องได้ประมาณนี้นะครับ อันดับหนึ่งเลยคือ น้องรักและห่วงแม่น้องมาก ซึ่งข้อนี้พี่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งนะคับ อย่าลืมบุญคุณท่านนะครับ บางคนได้ดีแล้วลืมพ่อแม่ อันนี้ไม่ควรนะครับ ถึงแม้พ่อแม่เราจะจน เราหยิบยื่นอะไรได้เราก็หยิบยื่นให้ท่าน เหมือนกับผมตอนเด็กก็จะติดแม่มากครับ แม่อยู่ห่างผมไม่ได้ห่างเมื่อไหร่ชาวบ้านเดือดร้อนทุกที เพราะต้องช่วยกันจับผมไม่ไห้ดิ้นนะคับ ฝนตกฟ้าร้องเมื่อไหร่ ผมเป็นห่วงแม่ผมตลอด เมื่อไหร่ที่ไม่เห็นแม่ผม ผมต้องออกไปตะโกนตามเรียกหาแม่ทุกครั้ง แม่ยังเคยเล่าให้ผมและคนอื่นๆฟัง ด้วยความรู้สึก ที่ดีที่ผมเป็นห่วงท่าน แต่ผมก็ทำให้ท่านไม่สบายใจหลาย อย่างเพราะถูกตามใจ เช่น อยากได้อะไรต้องได้ แม้ไม่มีเงิน แม่ก็ต้องหามาให้ผมให้ได้ นึกถึงตอนนี้ผมก็ยังเสียใจอยู่เลย ที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่อาจจะกลับไปย้อนสิ่งที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว แต่ปัจจุบันและอนาคต ขอทำให้ดีที่สุดเพื่อแม่ พ่อ พี่น้อง และครอบครัวครับ ผมก็เป็นคนนึงที่เหมือนท่านครับ คือไม่อยากให้แม่ทำงาน อยากให้ท่านอยู่สบาย เพราะเรื่องนี้ทำให้ผมต้องทะเลาะกับแม่บ่อยๆ เพราะแม่ไม่ค่อยนอน ทำงานตลอด บางครั้งก็พูดกับแม่เสียงดังๆ อยากให้แม่นอนให้ได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงเพราะเห็นแกปวดหัวบ่อยๆ คงพักผ่อนไม่พอ ผมไม่เหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ ตรงที่ถ้าผมอยากซื้ออะไรให้แม่ ผมก็จะหาตังค์ซื้อให้เลย ไม่มีเงินเองก็ยืมของน้องๆ ช่วยกันแชร์ อย่างเช่นซื่อจานดาวเทียมให้พ่อ เห็นพ่อบ่นว่าดูมวยแล้วมันไม่ชัด ผมก็แชร์กับน้องซื้อให้เลย แต่สำหรับพี่ผมเค้าบอกว่าให้รอก่อน แต่ผมอยากซื้ออะไรหรือทำอะไรให้พ่อแม่ผม ก็ต้องรีบทำให้ทันทีเหมือนกันครับ ผมก็กล้วเหมือนที่น้องกล้วนั่นแหละครับ พ่อแม่เราก็อายุมากแล้ว ปัญหาข้อที่สอง สิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ทำให้น้องกังวล ไม่สบายใจ และเครียดคือ เรื่องเงิน ไม่พอที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือนทำให้ มีผลกระทบไปยังแม่ ตัวเองและครอบครัว ซึ่งพี่วิเคราะห์แล้วว่าข้อนี้ข้อเดียวกระทบไปทุกข้อเลย เพราะถ้าเรามีเงิน เราไม่จำเป็นต้องดิ้นรนมาทำงานถึงกรุงเทพ ต้องห่างจากครอบครัว และข้อที่สามคือ อยากจะเรียนต่อปริญญาโท จากที่พี่ใช้ Psychology(จิตวิทยา)วิเคราะห์ดูพี่วิเคราะห์ได้ว่าที่น้องอยากเรียนโทตอนนี้นะครับ เพราะเกิดจากโดนดูถูกเหยียดหยาม และโดนถามบ่อยๆ เช่นจบหรือยังล่ะ ลูกสาวป้า หลานป้า เค้าจบแล้วนะจบโท จบเอกที่โน่น ที่นี่ ตอนนี้ทำงานนั้นนี่ เงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ พี่โดนประจำล่ะครับ เช่น ตอนแรก(ตอนยังเรียนอยู่)ถามว่าจบหรือยังล่ะ ลูกป้าจบแล้วนะทำงานที่โน่นที่นี่ เงินเดือนโน่นนี่ (ตอนเรียนจบ)อ้าว มีเมียหรือยังล่ะ ไม่พามีมาด้วยเหรอ ซะอย่างงั้น!!!บางครั้งต้องทำใจครับ เพราะสังคมสมัยสอนให้แก่งแย่งแข่งขันกันครับ อยากโชว์อยากอวด ประเภทไม่มีเงินก็ยอมเป็นหนี้ แบบภายนอกดูดีเข้าไว้ประมาณนั้น บางครั้งก็ต้องปล่อยวางบ้างนะครับ คิดมากจะปวดหัวครับ สังคมสมัยนี้มีเงินเนรมิตได้ทุกอย่างครับ แต่ความสุขเนรมิตไม่ได้ ถ้าไม่รู้จักคำว่าพอครับ ฟังคน ฟังได้ครับ อะไรที่เราฟังแล้วมันได้ประโยชน์กับตัวเราเราก็รับไว้ อะไรที่ทำให้ปวดกะโหลกก็ปล่อยวางครับ ไม่ทราบว่าน้องเรียนเต็มวันหรือป่าวนะครับ ถ้าสอบอย่างเดียวหรือไม่ได้เข้าเรียนเต็มเวลาก็หางานพวก 7-Family Mart-คลังสินค้า Big C,Lotus ประมาณนี้นะครับ ช่วยได้เยอะเลย ครับอย่างน้อยได้มีเงินเหลือเก็บ และมีเงินส่งให้ทางบ้านมากขึ้นนะคับ อาจเหนือยหน่อย แต่ต้องอดทน เราไม่ได้เกิดมา มีเงินกองไว้ตรงหน้า ตื่นขึ้นมามีคนรถรับส่ง ต้องพยายามครับ อย่างน้อยได้รู้จักอดทน พ่อแม่เราเคยลำบากมามากกว่าเราต้องกี่ปี ลองคิดดูสิครับ นี่เรายังไม่ได้ซักครึ่งชีวิตของท่านเลย อย่าพึ่งท้อ หนทางมีให้เดินเสมอครับ หาให้เจอ แล้วสู้กับมันครับ คนที่เป็นหัวหน้าคนที่แท้จริง ส่วนใหญ่แล้วเคยล้มลุกคลุกคลาน กันมาแล้วทั้งสิ้นครับ ล้มแล้วล้มอีก ไม่เหมือนกับคนที่มีเงินทองมากองให้ผิดหวังขึ้นมาซักนิดหน่อยก็หาทางไม่เจอสุดท้ายก็ไม่มีทางออกเพราะไม่เคยเจออุปสรรคอะไรเลย มีคนคอยเคลียร์ให้ตลอด และอีกอย่างที่พี่คิดว่าที่น้องเป็นอย่างนี้ตอนนี้น้องอยู่คนเดียวหรือป่าวครับ มีเพื่อนเยอะมั้ย อาจจะเกิดจากความเหงา ไม่มีใครให้ปรึกษาก็ได้ครับ ปริญญาโทหรือเอก ถ้ามีโอกาสใครก็อยากเรียนครับ แต่อย่าไปเรียนตอนที่เรายังไม่พร้อมนะครับ นอกจากเราจะลำบากแล้ว อาจจะไม่จบและอาจจะเครียดยิ่งกว่าเก่านะครับ เรียนโทเรียนเอก ควรจะเรียนเมื่อเราพร้อมนะครับ เรียนตอนไหนก็ไม่สายครับ แต่ตอนนี้พี่ว่า ถ้ามีเวลาว่างก็หางานเสริมครับ ที่ได้กล่าวไปแล้ว และตอนนี้ขอให้ตั้งใจเรียนให้มากๆนะคับ สู้ๆนะคับ :wanwan003: :wanwan003: :wanwan003: ได้แง่คิดค่ะ ขอบคณพี่ JamesKung มาก ๆ นะครับ ตอนนี้ผมเริ่มจับทาง Amazon ได้แล้วครับ รอแค่เงินที่จะได้เดือนแรกสิ้นเดือนกุมภาประมาณ 7000 บาท ผมจะแบ่งให้ท่านส่วนนึง อีกส่วนนึงผมก็จะเก็บมาไว้ทำทุน ไว้ใช้ในการเรียน ผมตั้งไว้ว่าผมจะทำ Amazon ให้ได้เกินเดือนละ 15,000 ผมจะให้ท่านออกจากงานที่ทำ ล้วให้อยู่บ้านเฉยๆ แต่กว่าจะถึงวันนั้น แม่ผมคงต้องลำบากแบบนี้อีกหลายเดือนครับ ขอบคุณมากๆ นะครับ สำหรับทุกๆ ท่านที่ให้แง่คิด และกำลังใจที่ดีกับผม :wanwan017: :wanwan017: หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: cazama ที่ 08 มกราคม 2013, 16:12:01 ผมวิเคราะห์ปัญหาหลักๆ ของน้องได้ประมาณนี้นะครับ อันดับหนึ่งเลยคือ น้องรักและห่วงแม่น้องมาก ซึ่งข้อนี้พี่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งนะคับ อย่าลืมบุญคุณท่านนะครับ บางคนได้ดีแล้วลืมพ่อแม่ อันนี้ไม่ควรนะครับ ถึงแม้พ่อแม่เราจะจน เราหยิบยื่นอะไรได้เราก็หยิบยื่นให้ท่าน เหมือนกับผมตอนเด็กก็จะติดแม่มากครับ แม่อยู่ห่างผมไม่ได้ห่างเมื่อไหร่ชาวบ้านเดือดร้อนทุกที เพราะต้องช่วยกันจับผมไม่ไห้ดิ้นนะคับ ฝนตกฟ้าร้องเมื่อไหร่ ผมเป็นห่วงแม่ผมตลอด เมื่อไหร่ที่ไม่เห็นแม่ผม ผมต้องออกไปตะโกนตามเรียกหาแม่ทุกครั้ง แม่ยังเคยเล่าให้ผมและคนอื่นๆฟัง ด้วยความรู้สึก ที่ดีที่ผมเป็นห่วงท่าน แต่ผมก็ทำให้ท่านไม่สบายใจหลาย อย่างเพราะถูกตามใจ เช่น อยากได้อะไรต้องได้ แม้ไม่มีเงิน แม่ก็ต้องหามาให้ผมให้ได้ นึกถึงตอนนี้ผมก็ยังเสียใจอยู่เลย ที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่อาจจะกลับไปย้อนสิ่งที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว แต่ปัจจุบันและอนาคต ขอทำให้ดีที่สุดเพื่อแม่ พ่อ พี่น้อง และครอบครัวครับ ผมก็เป็นคนนึงที่เหมือนท่านครับ คือไม่อยากให้แม่ทำงาน อยากให้ท่านอยู่สบาย เพราะเรื่องนี้ทำให้ผมต้องทะเลาะกับแม่บ่อยๆ เพราะแม่ไม่ค่อยนอน ทำงานตลอด บางครั้งก็พูดกับแม่เสียงดังๆ อยากให้แม่นอนให้ได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงเพราะเห็นแกปวดหัวบ่อยๆ คงพักผ่อนไม่พอ ผมไม่เหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ ตรงที่ถ้าผมอยากซื้ออะไรให้แม่ ผมก็จะหาตังค์ซื้อให้เลย ไม่มีเงินเองก็ยืมของน้องๆ ช่วยกันแชร์ อย่างเช่นซื่อจานดาวเทียมให้พ่อ เห็นพ่อบ่นว่าดูมวยแล้วมันไม่ชัด ผมก็แชร์กับน้องซื้อให้เลย แต่สำหรับพี่ผมเค้าบอกว่าให้รอก่อน แต่ผมอยากซื้ออะไรหรือทำอะไรให้พ่อแม่ผม ก็ต้องรีบทำให้ทันทีเหมือนกันครับ ผมก็กล้วเหมือนที่น้องกล้วนั่นแหละครับ พ่อแม่เราก็อายุมากแล้ว ปัญหาข้อที่สอง สิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ทำให้น้องกังวล ไม่สบายใจ และเครียดคือ เรื่องเงิน ไม่พอที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือนทำให้ มีผลกระทบไปยังแม่ ตัวเองและครอบครัว ซึ่งพี่วิเคราะห์แล้วว่าข้อนี้ข้อเดียวกระทบไปทุกข้อเลย เพราะถ้าเรามีเงิน เราไม่จำเป็นต้องดิ้นรนมาทำงานถึงกรุงเทพ ต้องห่างจากครอบครัว และข้อที่สามคือ อยากจะเรียนต่อปริญญาโท จากที่พี่ใช้ Psychology(จิตวิทยา)วิเคราะห์ดูพี่วิเคราะห์ได้ว่าที่น้องอยากเรียนโทตอนนี้นะครับ เพราะเกิดจากโดนดูถูกเหยียดหยาม และโดนถามบ่อยๆ เช่นจบหรือยังล่ะ ลูกสาวป้า หลานป้า เค้าจบแล้วนะจบโท จบเอกที่โน่น ที่นี่ ตอนนี้ทำงานนั้นนี่ เงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ พี่โดนประจำล่ะครับ เช่น ตอนแรก(ตอนยังเรียนอยู่)ถามว่าจบหรือยังล่ะ ลูกป้าจบแล้วนะทำงานที่โน่นที่นี่ เงินเดือนโน่นนี่ (ตอนเรียนจบ)อ้าว มีเมียหรือยังล่ะ ไม่พามีมาด้วยเหรอ ซะอย่างงั้น!!!บางครั้งต้องทำใจครับ เพราะสังคมสมัยสอนให้แก่งแย่งแข่งขันกันครับ อยากโชว์อยากอวด ประเภทไม่มีเงินก็ยอมเป็นหนี้ แบบภายนอกดูดีเข้าไว้ประมาณนั้น บางครั้งก็ต้องปล่อยวางบ้างนะครับ คิดมากจะปวดหัวครับ สังคมสมัยนี้มีเงินเนรมิตได้ทุกอย่างครับ แต่ความสุขเนรมิตไม่ได้ ถ้าไม่รู้จักคำว่าพอครับ ฟังคน ฟังได้ครับ อะไรที่เราฟังแล้วมันได้ประโยชน์กับตัวเราเราก็รับไว้ อะไรที่ทำให้ปวดกะโหลกก็ปล่อยวางครับ ไม่ทราบว่าน้องเรียนเต็มวันหรือป่าวนะครับ ถ้าสอบอย่างเดียวหรือไม่ได้เข้าเรียนเต็มเวลาก็หางานพวก 7-Family Mart-คลังสินค้า Big C,Lotus ประมาณนี้นะครับ ช่วยได้เยอะเลย ครับอย่างน้อยได้มีเงินเหลือเก็บ และมีเงินส่งให้ทางบ้านมากขึ้นนะคับ อาจเหนือยหน่อย แต่ต้องอดทน เราไม่ได้เกิดมา มีเงินกองไว้ตรงหน้า ตื่นขึ้นมามีคนรถรับส่ง ต้องพยายามครับ อย่างน้อยได้รู้จักอดทน พ่อแม่เราเคยลำบากมามากกว่าเราต้องกี่ปี ลองคิดดูสิครับ นี่เรายังไม่ได้ซักครึ่งชีวิตของท่านเลย อย่าพึ่งท้อ หนทางมีให้เดินเสมอครับ หาให้เจอ แล้วสู้กับมันครับ คนที่เป็นหัวหน้าคนที่แท้จริง ส่วนใหญ่แล้วเคยล้มลุกคลุกคลาน กันมาแล้วทั้งสิ้นครับ ล้มแล้วล้มอีก ไม่เหมือนกับคนที่มีเงินทองมากองให้ผิดหวังขึ้นมาซักนิดหน่อยก็หาทางไม่เจอสุดท้ายก็ไม่มีทางออกเพราะไม่เคยเจออุปสรรคอะไรเลย มีคนคอยเคลียร์ให้ตลอด และอีกอย่างที่พี่คิดว่าที่น้องเป็นอย่างนี้ตอนนี้น้องอยู่คนเดียวหรือป่าวครับ มีเพื่อนเยอะมั้ย อาจจะเกิดจากความเหงา ไม่มีใครให้ปรึกษาก็ได้ครับ ปริญญาโทหรือเอก ถ้ามีโอกาสใครก็อยากเรียนครับ แต่อย่าไปเรียนตอนที่เรายังไม่พร้อมนะครับ นอกจากเราจะลำบากแล้ว อาจจะไม่จบและอาจจะเครียดยิ่งกว่าเก่านะครับ เรียนโทเรียนเอก ควรจะเรียนเมื่อเราพร้อมนะครับ เรียนตอนไหนก็ไม่สายครับ แต่ตอนนี้พี่ว่า ถ้ามีเวลาว่างก็หางานเสริมครับ ที่ได้กล่าวไปแล้ว และตอนนี้ขอให้ตั้งใจเรียนให้มากๆนะคับ สู้ๆนะคับ :wanwan003: :wanwan003: :wanwan003: ได้แง่คิดค่ะ ขอบคณพี่ JamesKung มาก ๆ นะครับ ตอนนี้ผมเริ่มจับทาง Amazon ได้แล้วครับ รอแค่เงินที่จะได้เดือนแรกสิ้นเดือนกุมภาประมาณ 7000 บาท ผมจะแบ่งให้ท่านส่วนนึง อีกส่วนนึงผมก็จะเก็บมาไว้ทำทุน ไว้ใช้ในการเรียน ผมตั้งไว้ว่าผมจะทำ Amazon ให้ได้เกินเดือนละ 15,000 ผมจะให้ท่านออกจากงานที่ทำ ล้วให้อยู่บ้านเฉยๆ แต่กว่าจะถึงวันนั้น แม่ผมคงต้องลำบากแบบนี้อีกหลายเดือนครับ ขอบคุณมากๆ นะครับ สำหรับทุกๆ ท่านที่ให้แง่คิด และกำลังใจที่ดีกับผม :wanwan017: :wanwan017: เพิ่งมาเห็นอันนี้พอดี คุณ JamesKung แนะนำดีมากๆ ... เหมาะสำหรับน้องที่ ยังหาตัวเองไม่เจอ หรือ ขาดกำลังใจ ขอบคุณคุณJamesKung ที่ให้คำแนะนำดีๆ ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ที่ ตั้งกระทู้นี้ และได้คำแนะนำดีๆกลับไป หัวข้อ: Re: มีสมาชิก TSB ท่านใดที่เรียนจบปริญญาโท - เอก บ้างไหมครับ เริ่มหัวข้อโดย: wizmagna ที่ 08 มกราคม 2013, 16:50:04 ผมเองจบตรีอย่างเีดียว แต่หลายปีครับ 555 ผมทำโปรแกรมขายไปด้วย เรียนไปด้วยตั้งแต่ปี 1 ผมเรียนรามฯ แถมไม่ได้เรียนด้านสายงานที่ทำด้วยนะ แถมส่งตัวเองเรียนเหมือนกัน พอจบมาแล้ว กลับมองว่าการเรียนต่อโท หรือเอก นั้นในสายงานผมเองอ่ะนะ ไม่ได้เกิดให้เงินเดือนขึ้นมากเท่าไร
ผมว่าไปอบรมด้านวิชาการที่อื่นๆ แบบคอร์สสั้นๆ ดีกว่า สามารถนำมาทำงานได้เลย และประสบการณ์ในการทำงาน สร้างเงินเดือน รายได้ดีมากครับ ตอนนี้ผมทำงานในสายงานคอมฯ และตำแหน่งอยู่ในระดับสูงกว่าคนจบโทในสายงานเดียวกันด้วยซ้ำ สำหรับคนที่ดูถูก ชอบเปรียบเทียบคนที่จบน้อยกว่าตน ผมว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนใจแคบ ตรงนี้มันอยู่ที่ตัวเราครับ ไม่ได้อยู่ที่กระดาษใบเดียวที่บอกว่าเราจบอะไร คณะอะไร เพราะจบมาแล้ว พอทำงาน ประสบการณ์ต่างหากที่จะบอกว่าคุณทำงานได้หรือไม่ ทำเป็นหรือไม่ สร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัทหรือไม่ |