ข้างล่างนี้เป็น PM จากคุณ anirutpae ที่ส่งมาหาผมอ่ะครับ ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ดี เลยขอเอาโพสท์ต่อให้เพื่อนๆได้อ่านน่ะครับ
ขอบคุณ คุณ anirutpae มากๆเลยครับ
=======================
หวัดดีครับคุณนนท์
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับสำหรับข้อมูลทั้งหมดที่เสียหายไป เรื่องบอร์ดใต้ดินไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อนๆหรอกครับ ช่วงนี้ผมก็คิดว่าเพื่อนๆทุกคนเองก็มีโปรเจคเล็ก โปรเจคน้อยให้ปั่นกันเยอะัเหมือนกันละครับ
ที่ผม PM มาหาเพราะว่าอยากจะแนะนำคุณนนท์เกี่ยวกับเรื่อง การป้องกันข้อมูลใน HDD (HardDisk) เผื่อเป็นประโยชน์กับคุณโซวในอนาคตนะครับ
ผมเห็นว่าข้อมูลทั้งหมดของคุณนนท์ตอนนี้สำคัญมากเพราะว่าเป็นข้อมูลหลักที่ใช้หากินอยู่ทุกวัน
ผมก็เลยจะเสนอแนะวิธีการที่จะรักษาข้อมูลเอาไว้โดยที่ HDD เสียข้อมูลก็ยังอยู่ครับ วิธีดังกล่าวคือการนำเอา HDD มากกว่า 1 ตัวมาทำ Raid
ไม่ทราบว่าคุณนนท์มีความรู้เรื่อง Raid บ้างหรือเปล่า ผมเห็นว่าความรู้ตรงนี้อาจจะช่วยคุณนนท์ได้บ้าง แต่ถ้ารู้อยู่แล้วก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
Raid คืออะไร

ตอบแบบเข้าใจง่ายๆเลย Raid ก็คือวิธีการรวม HDD มากกว่า 1 ลูกให้มองเป็นลูกเดียวหรือเป็นก้อนๆเท่าที่เราอยากจะมี เราอาจะมี HDD สัก 100GB 10 ลูกในเครื่องคอมเครื่องเดียวแล้วอยากจะแบ่ง HDD ออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกใช้ 5 ลูกแรก ชุดที่2 ใช้ 5 ลูกที่เหลือ โดยที่ระบบ raid สามาถรักษาข้อมูลไว้ทั้งหมดได้หากเกิดกรณี HDD ตัวใดตัวหนึ่งเสียขึ้นมา ซึ่งเราไม่ต้องกังวลเลยว่าจะกู้ข้อมูลออกจาก HDD ตัวที่เสียนั้นได้อย่างไร เพราะระบบ raid จะกระจายข้อมูลไปอยู่ทั่ว HDD ทั้ง 10 ลูกเลยทีเดียว ซึ่งข้อมูลจะกระจายอยู่ในรูปแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของ raid ที่เราจะนำเอาไปใช้งาน
Raid มีหลายประเภทอยู่เหมือนกัน ผมจะแนะนำแค่ 3 ประเภทที่นิยมใช้งานในบ้านเราละกันนะครับ
- raid0 เป็นการนำเอา HDD ตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไปนำความจุมารวมกัน ความเร็วในการอ่านเขียนเพิ่มเป็น 2-3-4 ... เท่า ขึ้นอยู่กับว่าเราเอา HDD กี่ลูกมาต่อในเครื่องของเรา อย่างเช่นเรามี HDD 100GB 3 ลูก เมื่อ set เป็น raid0 เรียบร้อยแล้ว windows จะมองเห็น HDD แค่ลูกเดียวแต่มีความจุเท่ากับ
100GB+100GB+100GB = 300GB
ข้อดีคือความเร็วในการอ่านเขียนจะสูงมาก แต่ก็ใช่ว่าจะเพิ่มเป็นทวีคูณตามจำนวน HDD นะครับ มันติดข้อจำกัดเกี่ยวกับความเร็วรอบของ HDD แล้วก็ระบบ bus บน mainboard ด้วยเหมือนกัน ส่วนข้อเสียคือ ไม่มีระบบสำรองข้อมูล หาก HDD ตัวใดตัวหนึ่งเสีย ข้อมูลทั้งหมดจะเสียตามไปด้วยทั้งหมด
-raid1 เป็นการนำเอา HDD มาต่อกันเป็นคู่ๆ เพื่อเป็นการ back up ซึ่งกันและกัน การต่อ HDD ลักษณะนี้ในเครื่องจะต้องต่อเป็นคู่ คือ 2 4 6 .. เป็นต้น
การต่อลักษณะนี้เป็นการ backup ข้อมูล 100% เลยทีเดียว แต่มีข้อเสียอย่างมากก็คือ windows จะมองเห็นความจุ HDD แค่ลูกเดียว กล่าวคือถ้าเราต่อ HDD 100GB 2 ลูก windows จะมองเห็นแค่ 100GB ทำให้เราเสียเนื้อที่ HDD ที่เราซื้อมาไปถึง 50% เลยทีเดียว และข้อเสียอีกประการนึงของ raid1 ก็คือ ขั้นตอนการเขียนข้อมูลลง HDD จะช้ามากเพราะมันจะต้องเขียนลงพร้อมกันทั้ง 2 ลูก สังเกตง่ายๆก็คือเวลาเรา copy ไฟล์ย้ายโฟลเดอร์จะช้ามากๆ เพราะฉะนั้น raid ประเภทนี้ก็ไม่เป็นที่นิยมนำมาใช้กันสักเท่าไหร่
- raid5 นิยมใช้งานกันมากที่สุดกว่าทุกประเภท raid5 เป็นการนำเอาข้อดีของ raid หลายๆประเภทมารวมกัน ทั้่ง raid0 และ raid1 ด้วย
raid5 จะเป็นการนำ HDD ตั้งแต่ 3 ลูกขึ้นไปมาต่อรวมกัน โดยความจุรวมจะมีวิธีคำนวนง่ายๆดังนี้ สมมุติ HDD 100GB
Capacity = (ความจุ HDD x จำนวน HDD ทั้งหมดที่นำมาต่อ) - ความจุ HDD
= (100 x 3) - 100
= 200GB
raid5 จะทำให้เนื้อที่ทั้งหมดของ HDD หายไปประมาณ 30% แต่ก็มีข้อดีมาทดแทนมากมายมหาศาลดังนี้
- มีระบบสำรองข้อมูล หาก HDD ลูกใดลูกหนึ่งเสีย เราสามารถที่จะ shutdown เครื่องแล้วเอา HDD สำรองใส่เข้าไปแทนที่ได้เลย ลูกที่เสียก็เอาไปเคลมได้เลย เมื่อเข้า Windows เราก็สั่งให้ software raid utillity ทำการ rebuild ข้อมูลใหม่ได้เลย ซึ่งขั้นตอนนี้อาจะใช้เวลานานสักหน่อยขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูลที่เรามีด้วย เมื่อเสร็จขั้นตอนการ rebuild ข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิมทุกประการ
ความจริงเราสามารถที่จะถอด HDD ที่่เสียออกโดยที่ไม่ต้องปิดเครื่องเลยก็ได้ แล้วก็เอา HDD ลูกใหม่เสียบเข้าไปแทนที่เลย แล้ว software raid utillity ก็จะสั่ง rebuild อัตโนมัติเลย เราไม่ต้องทำอะไรมากมายเลย ซึ่งระบบดังกล่าวเราเรียกว่า Hot Swap Hardware แต่การใชงานแบบนี้จะมีให้เห็นในระบบ server ขนาดกลางขึ้นไป เพราะมีราคาค่อนข้างสูง
เป็นไงครับพอจะเข้าใจไหมครับ ผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์กับคุฯนนท์นะครับ ผมคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่คุณนนท์ต้องคิดถึงเรื่องนี้แล้วละครับ ต่อให้เป็น PC ที่ใช้งานส่วนตัวที่บ้านก็เถอะครับ ถ้าเป็นเครื่องที่เก็บข้อมูลที่สำคัญมากๆ ผมก็คิดว่าควรจะคำนึงถึงเรื่่่อง raid แล้วละครับ ถ้าคุณนนท์สนใจที่จะนำระบบนี้มาใช้งานละก็ผมมีข้อแนะนำอีกในการเลือกซื้อ hardware ก็คือ
1. HDD ที่จะนำมาทำ raid ควรที่จะเป็นยี่ห้อและโมเดลเดียวกัน และความจุควรเท่ากันทุกลูก ข้อนี้เน้นอย่างมาก
2. หา mainbaord ที่มี function Raid0, Raid1, Raid5 เป็นอย่างน้อย เพราะบางรุ่นอาจจะมีมากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้
3. เลือกซื้อ HDD ที่มีความจุมากๆไปเลยและเวลาในการรับประกันให้นานๆหน่อย ถ้าหาซื้อ 300GB ขึ้นไปและประกัน 5 ปีขึ้นไปได้จะดีมากๆ เ้พราะสามารถเก็บข้อมูลได้เหลือเฟือ และหาก 3-4 ปีข้างหน้า HDD เกิดเสียขึ้นมา เเราสามารถเคลม หรือ หาซื้อใหม่ได้ง่าย
ก็คงมีเท่านี้นะครับ ลองพิจารณาดูนะครับ อีกอย่างเท่าที่ผมรู้ตอนนี้ Mainboard ที่มีขายในท้องตลาดปัจจุบัญมี function SATA Raid พวกนี้เกือบทุกยี่ห้อแล้วนะครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
================================