ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafe[ข่าวด่วนจาก Pantip] อเมริกาค้นพบไทม์แมชชีนจากโลกอนาคต!!!
หน้า: 1 2 [3] 4   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวด่วนจาก Pantip] อเมริกาค้นพบไทม์แมชชีนจากโลกอนาคต!!!  (อ่าน 22747 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pan11
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #40 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 09:08:41 »

 Angry เอาซะเครียดไปด้วย ยังกับรายงานจากสำนักข่าว
บันทึกการเข้า
fernsterno
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 49
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,517



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 09:15:09 »

ผมขอคิดสั้นๆง่ายๆน่ะครับ ลองดูที่ยาน made in china หรือป่าว ถ้าใช้ก็ของปลอมครับ อิอิ
บันทึกการเข้า

นายเฟิร์น นักเขียนอิสระ
PET Cute
ชะลอวัย สุนัข
btwo pet cute
Stem cells สัตว์เลี้ยง
Uma
kan1818
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 963



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #42 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 11:22:11 »

อยากย้อนเหตุการณ์ได้บ้างจัง...
คิดถึงโดเรมอน... Kiss Kiss Kiss
บันทึกการเข้า

boy1000
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 53
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,327



ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 11:28:30 »

อ่านเนื้อหาแล้วนึกว่าข่าวด่วนจาก pramool
บันทึกการเข้า

จับกัง
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 80
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 850



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 13:12:26 »

อยากย้อนไปดูอนาคต

อยากชมว่าหนังหน้าเมียสวยแค่ไหน

ถ้าเหี่ยวมาก หนูจะเปนตุ๊ด  Embarrassed
บันทึกการเข้า
TOOAds.com
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #45 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 13:34:45 »

ฟันธงว่า มนุษย์ไม่สามารถสร้างไทม์แมชชีนได้ แต่ถ้าความเร็วเืกือบเท่าแสงนี่ไม่แน่
บันทึกการเข้า
zern
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,233



ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 14:36:33 »

ความจริงแล้วไทม์แมชชีนในปัจจุบันมีแล้ว
แต่แทบไม่มีใครคิดว่ามันคือ ไทม์แมชชีน
เพราะมันถูกเรียกว่า เครื่องบิน
ใช่แล้วครับ แต่เครื่องบินมันไม่เรียกว่าไทม์แมชชีนเพราะอีกเหตุผลหนึ่งคือ มันข้ามเวลาไปได้ไม่มากพอ (ข้ามได้แค่หลักมิลลิวินาทีเองมั้ง)

ความจริงไทม์แมชชีนก็คือยานพาหนะที่มีความเร็วสูงนั่นเอง

แต่ข่าวนี้มั่วแน่นอนคนแต่งจงในเล่นมุกหรือจงใจหลอกก็ไม่รู้ แล้วไอ้ จอร์จ ดีนายน์ มันก็มีชื่อยู่ในไร้สาระวิกิ บอกว่าเป็นคนคิด dota และมีอายุ 243 ปี  Lips Sealed
ที่ผมบอกว่า เครื่องบิน เป็นไทม์แมชชีน เพราะมันสามารถเดินทางข้ามเวลาได้
ไม่ใช่เป็น มิลลิวินาที แต่เป็นหลักชั่วโมง
แต่แทบไม่เคยมีใครคิดนั่นแหละ ว่าตัวเองเคยเดินทางข้ามเวลาสักนิด
เพราะคิดแค่ว่า เดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หรือเดินทางข้ามประเทศ เท่านั้นเอง
ในความคิดผมคือ
เวลาเป็นแค่เรื่องสมมติขึ้นมา เพื่อให้มนุษย์สามารถ นัดหมาย หรือทำงาน ได้ตรงกัน
เกณฑ์ในการแบ่งเวลาคือ การที่โลกหมุนรอบตัวเองคือ 1 วัน โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์คือ 1 ปี
พอเราเดินทางไปต่างประเทศ เวลาจึงเปลี่ยนไปจากเวลาที่เราอยู่
ผมก็เลยบอกว่า เครื่องบิน เป็นไทม์แมชชีน
ถ้างั้นถ้าเราบินรอบโลกด้วยความเร็วสูงแบบทวนการหมุนของโลกก็น่าจะย้อนเวลาอย่างที่มนุษย์ต้องการได้หรือเปล่า
ผมว่าไม่น่าได้นะ
เพราะที่จริงแล้วสิ่งที่แล้วอยากย้อนไม่ใช่เวลา
แต่เป็นการย้อนเหตุการณ์มากกว่า
ส่วนเวลาแค่เป็นตัวบ่งชี้การเกิดเหตุการณ์เท่านั้น
ดังนั้น ไทม์แมชชีน ที่มนุษย์ต้องการสร้างจริงๆไม่ใช่เครื่องเดินทางข้ามเวลาหรอก
แต่เป็นเครื่องย้อนเหตุการณ์ หรือ ข้ามเหตุการณ์ไปข้างหน้ามากกว่า
เครื่องบินเดินทางข้ามเวลาได้ แต่ทำไม่สามารถข้ามเหตุการณ์ได้

ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องขอขัดนิดนึง แ่ต่คุณเข้าใจผิดน่ะครับ

เมื่อก่อนผมก็คิดว่าเวลาเป็นแค่เรื่องสมมติ จนอ่านหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพันธภาพของไอสไตน์นั่นแหละครับ
ที่บอกว่าย้อนเวลาได้โดยเครื่องบิน เพราะว่าทฤษฎีสัมพันธภาพเสนอไว้ว่าเราจะเห็นแสงมีความเร็วคงที่ 3แสน กม/วิ ไม่ว่าเราจะเดินทางด้วยความเร็วเท่าไรก็ตาม
หมายความว่ายังไง สมมติว่าเราเดินทางด้วยความเร็ว 1แสน กม./วิ ตามปกติเราควรจะเห็นแสงเดินทาง 2แสน กม./วิ แต่ไม่ใช่ครับ เราจะเห็นแสงเดินทาง 3แสน กม./วิ เท่าเดิม เป็นเพราะว่าแสงไปดึงเวลาให้เดินเร็วขึ้น ทำให้เราเห็นแสงเดินทางเร็วเท่าเดิม

ดังนั้นหมายความว่า ยิ่งเราเดินทางเร็วเท่าไร เวลาก็จะยิ่งเดินเร็วขึ้นเท่านั้น กล่าวคือ หากเราสามารถเดินทางด้วยความเร็วสัก 1แสนกม./วิ บนยานอวกาศสัก 1 ชม. กลับมาบนพื้นโลกอาจจะกลายเป็นอีก 500 ปีข้างหน้าก็ได้ ดังนั้นสิ่งนี้แหละครับที่เรียกว่าไทม์แมชชีน

ดังนั้นปัญหาเรื่องไทม์แมชชีนเดินทางสู่อนาคต มนุษย์(ไอสไตน์)สามารถไขปริศนาได้แล้ว แต่ไทม์แมชชีนเดินทางสู่อดีตยังไขไม่ออก ณ ตอนนี้ครับ  Smiley
บันทึกการเข้า

สูงสุด ที่สุดก็คืนสู่สามัญ
Kazamatsuri
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319



ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 15:26:32 »

ผมขอคิดสั้นๆง่ายๆน่ะครับ ลองดูที่ยาน made in china หรือป่าว ถ้าใช้ก็ของปลอมครับ อิอิ
อันนี้ฮาครับ  Grin
บันทึกการเข้า

tsanapak
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 40



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 15:42:01 »

ขำครับ แต่ไม่กลิ้ง
บันทึกการเข้า

 *Link Removed*
alert
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 50
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,736



ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 16:01:23 »

ความจริงแล้วไทม์แมชชีนในปัจจุบันมีแล้ว
แต่แทบไม่มีใครคิดว่ามันคือ ไทม์แมชชีน
เพราะมันถูกเรียกว่า เครื่องบิน
ใช่แล้วครับ แต่เครื่องบินมันไม่เรียกว่าไทม์แมชชีนเพราะอีกเหตุผลหนึ่งคือ มันข้ามเวลาไปได้ไม่มากพอ (ข้ามได้แค่หลักมิลลิวินาทีเองมั้ง)

ความจริงไทม์แมชชีนก็คือยานพาหนะที่มีความเร็วสูงนั่นเอง

แต่ข่าวนี้มั่วแน่นอนคนแต่งจงในเล่นมุกหรือจงใจหลอกก็ไม่รู้ แล้วไอ้ จอร์จ ดีนายน์ มันก็มีชื่อยู่ในไร้สาระวิกิ บอกว่าเป็นคนคิด dota และมีอายุ 243 ปี  Lips Sealed
ที่ผมบอกว่า เครื่องบิน เป็นไทม์แมชชีน เพราะมันสามารถเดินทางข้ามเวลาได้
ไม่ใช่เป็น มิลลิวินาที แต่เป็นหลักชั่วโมง
แต่แทบไม่เคยมีใครคิดนั่นแหละ ว่าตัวเองเคยเดินทางข้ามเวลาสักนิด
เพราะคิดแค่ว่า เดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หรือเดินทางข้ามประเทศ เท่านั้นเอง
ในความคิดผมคือ
เวลาเป็นแค่เรื่องสมมติขึ้นมา เพื่อให้มนุษย์สามารถ นัดหมาย หรือทำงาน ได้ตรงกัน
เกณฑ์ในการแบ่งเวลาคือ การที่โลกหมุนรอบตัวเองคือ 1 วัน โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์คือ 1 ปี
พอเราเดินทางไปต่างประเทศ เวลาจึงเปลี่ยนไปจากเวลาที่เราอยู่
ผมก็เลยบอกว่า เครื่องบิน เป็นไทม์แมชชีน
ถ้างั้นถ้าเราบินรอบโลกด้วยความเร็วสูงแบบทวนการหมุนของโลกก็น่าจะย้อนเวลาอย่างที่มนุษย์ต้องการได้หรือเปล่า
ผมว่าไม่น่าได้นะ
เพราะที่จริงแล้วสิ่งที่แล้วอยากย้อนไม่ใช่เวลา
แต่เป็นการย้อนเหตุการณ์มากกว่า
ส่วนเวลาแค่เป็นตัวบ่งชี้การเกิดเหตุการณ์เท่านั้น
ดังนั้น ไทม์แมชชีน ที่มนุษย์ต้องการสร้างจริงๆไม่ใช่เครื่องเดินทางข้ามเวลาหรอก
แต่เป็นเครื่องย้อนเหตุการณ์ หรือ ข้ามเหตุการณ์ไปข้างหน้ามากกว่า
เครื่องบินเดินทางข้ามเวลาได้ แต่ทำไม่สามารถข้ามเหตุการณ์ได้

ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องขอขัดนิดนึง แ่ต่คุณเข้าใจผิดน่ะครับ

เมื่อก่อนผมก็คิดว่าเวลาเป็นแค่เรื่องสมมติ จนอ่านหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพันธภาพของไอสไตน์นั่นแหละครับ
ที่บอกว่าย้อนเวลาได้โดยเครื่องบิน เพราะว่าทฤษฎีสัมพันธภาพเสนอไว้ว่าเราจะเห็นแสงมีความเร็วคงที่ 3แสน กม/วิ ไม่ว่าเราจะเดินทางด้วยความเร็วเท่าไรก็ตาม
หมายความว่ายังไง สมมติว่าเราเดินทางด้วยความเร็ว 1แสน กม./วิ ตามปกติเราควรจะเห็นแสงเดินทาง 2แสน กม./วิ แต่ไม่ใช่ครับ เราจะเห็นแสงเดินทาง 3แสน กม./วิ เท่าเดิม เป็นเพราะว่าแสงไปดึงเวลาให้เดินเร็วขึ้น ทำให้เราเห็นแสงเดินทางเร็วเท่าเดิม

ดังนั้นหมายความว่า ยิ่งเราเดินทางเร็วเท่าไร เวลาก็จะยิ่งเดินเร็วขึ้นเท่านั้น กล่าวคือ หากเราสามารถเดินทางด้วยความเร็วสัก 1แสนกม./วิ บนยานอวกาศสัก 1 ชม. กลับมาบนพื้นโลกอาจจะกลายเป็นอีก 500 ปีข้างหน้าก็ได้ ดังนั้นสิ่งนี้แหละครับที่เรียกว่าไทม์แมชชีน

ดังนั้นปัญหาเรื่องไทม์แมชชีนเดินทางสู่อนาคต มนุษย์(ไอสไตน์)สามารถไขปริศนาได้แล้ว แต่ไทม์แมชชีนเดินทางสู่อดีตยังไขไม่ออก ณ ตอนนี้ครับ  Smiley

คำนี้ต้องแก้นะครับ ผมเคยผิดบ่อยตอนเรียนฟิสิกส์ครับ  เป็น ทฤษฎีสัมพัทธภาพ  (สัมพัดทะภาพ) ครับ Smiley
บันทึกการเข้า

***** รับซื้อเว็บไซต์สายขาวคุณภาพ  ตั้งแต่ 500-30,000 uip มี traffic มาจาก Google  และไม่เคยโดนแบน adsense  เสนอราคามาทาง pm ได้เลยครับ *****
zern
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,233



ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 17:37:25 »

อ้อใช่ลืมไป  เผลอไปหน่อย พิมพ์ไปเรื่อยไม่ทันได้ดู Tongue
บันทึกการเข้า

สูงสุด ที่สุดก็คืนสู่สามัญ
bankkungz
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 948



ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 18:35:15 »

ต่อไปคงเจอยานของโดเรมีตามลำดับ

 Grin Grin Grin Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy

ขำๆครับ

ผมขอคิดสั้นๆง่ายๆน่ะครับ ลองดูที่ยาน made in china หรือป่าว ถ้าใช้ก็ของปลอมครับ อิอิ
อันนี้ฮาครับ  Grin
+1 ไปครับ  Grin Grin
บันทึกการเข้า

Rapture
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 116
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639



ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 15 มีนาคม 2009, 21:43:12 »

ความจริงแล้วไทม์แมชชีนในปัจจุบันมีแล้ว
แต่แทบไม่มีใครคิดว่ามันคือ ไทม์แมชชีน
เพราะมันถูกเรียกว่า เครื่องบิน
ใช่แล้วครับ แต่เครื่องบินมันไม่เรียกว่าไทม์แมชชีนเพราะอีกเหตุผลหนึ่งคือ มันข้ามเวลาไปได้ไม่มากพอ (ข้ามได้แค่หลักมิลลิวินาทีเองมั้ง)

ความจริงไทม์แมชชีนก็คือยานพาหนะที่มีความเร็วสูงนั่นเอง

แต่ข่าวนี้มั่วแน่นอนคนแต่งจงในเล่นมุกหรือจงใจหลอกก็ไม่รู้ แล้วไอ้ จอร์จ ดีนายน์ มันก็มีชื่อยู่ในไร้สาระวิกิ บอกว่าเป็นคนคิด dota และมีอายุ 243 ปี  Lips Sealed
ที่ผมบอกว่า เครื่องบิน เป็นไทม์แมชชีน เพราะมันสามารถเดินทางข้ามเวลาได้
ไม่ใช่เป็น มิลลิวินาที แต่เป็นหลักชั่วโมง
แต่แทบไม่เคยมีใครคิดนั่นแหละ ว่าตัวเองเคยเดินทางข้ามเวลาสักนิด
เพราะคิดแค่ว่า เดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หรือเดินทางข้ามประเทศ เท่านั้นเอง
ในความคิดผมคือ
เวลาเป็นแค่เรื่องสมมติขึ้นมา เพื่อให้มนุษย์สามารถ นัดหมาย หรือทำงาน ได้ตรงกัน
เกณฑ์ในการแบ่งเวลาคือ การที่โลกหมุนรอบตัวเองคือ 1 วัน โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์คือ 1 ปี
พอเราเดินทางไปต่างประเทศ เวลาจึงเปลี่ยนไปจากเวลาที่เราอยู่
ผมก็เลยบอกว่า เครื่องบิน เป็นไทม์แมชชีน
ถ้างั้นถ้าเราบินรอบโลกด้วยความเร็วสูงแบบทวนการหมุนของโลกก็น่าจะย้อนเวลาอย่างที่มนุษย์ต้องการได้หรือเปล่า
ผมว่าไม่น่าได้นะ
เพราะที่จริงแล้วสิ่งที่แล้วอยากย้อนไม่ใช่เวลา
แต่เป็นการย้อนเหตุการณ์มากกว่า
ส่วนเวลาแค่เป็นตัวบ่งชี้การเกิดเหตุการณ์เท่านั้น
ดังนั้น ไทม์แมชชีน ที่มนุษย์ต้องการสร้างจริงๆไม่ใช่เครื่องเดินทางข้ามเวลาหรอก
แต่เป็นเครื่องย้อนเหตุการณ์ หรือ ข้ามเหตุการณ์ไปข้างหน้ามากกว่า
เครื่องบินเดินทางข้ามเวลาได้ แต่ทำไม่สามารถข้ามเหตุการณ์ได้

ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องขอขัดนิดนึง แ่ต่คุณเข้าใจผิดน่ะครับ

เมื่อก่อนผมก็คิดว่าเวลาเป็นแค่เรื่องสมมติ จนอ่านหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพันธภาพของไอสไตน์นั่นแหละครับ
ที่บอกว่าย้อนเวลาได้โดยเครื่องบิน เพราะว่าทฤษฎีสัมพันธภาพเสนอไว้ว่าเราจะเห็นแสงมีความเร็วคงที่ 3แสน กม/วิ ไม่ว่าเราจะเดินทางด้วยความเร็วเท่าไรก็ตาม
หมายความว่ายังไง สมมติว่าเราเดินทางด้วยความเร็ว 1แสน กม./วิ ตามปกติเราควรจะเห็นแสงเดินทาง 2แสน กม./วิ แต่ไม่ใช่ครับ เราจะเห็นแสงเดินทาง 3แสน กม./วิ เท่าเดิม เป็นเพราะว่าแสงไปดึงเวลาให้เดินเร็วขึ้น ทำให้เราเห็นแสงเดินทางเร็วเท่าเดิม

ดังนั้นหมายความว่า ยิ่งเราเดินทางเร็วเท่าไร เวลาก็จะยิ่งเดินเร็วขึ้นเท่านั้น กล่าวคือ หากเราสามารถเดินทางด้วยความเร็วสัก 1แสนกม./วิ บนยานอวกาศสัก 1 ชม. กลับมาบนพื้นโลกอาจจะกลายเป็นอีก 500 ปีข้างหน้าก็ได้ ดังนั้นสิ่งนี้แหละครับที่เรียกว่าไทม์แมชชีน

ดังนั้นปัญหาเรื่องไทม์แมชชีนเดินทางสู่อนาคต มนุษย์(ไอสไตน์)สามารถไขปริศนาได้แล้ว แต่ไทม์แมชชีนเดินทางสู่อดีตยังไขไม่ออก ณ ตอนนี้ครับ  Smiley
ผมว่ายังตัดสินไม่ได้ครับว่าผมเข้าใจผิดจริงๆหรือเปล่า
ถ้าสิ่งที่ผมเข้าใจมันแย้งกับ ทฤษฎีสัมพัทธภาพ
รู้ไหมว่าทำไมเรียกว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพ
ไม่เรียกว่า กฎสัมพัทธภาพ
นั่นเพราะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ 100 % ว่าเป็นจริงครับ
หมายความว่าในข้างหน้าอาจมีอะไรที่หักล้าง ทฤษฎีสัมพัทธภาพ ได้
บันทึกการเข้า
zern
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,233



ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009, 00:23:27 »

คือที่ไม่เรียกว่ากฏ น่าจะเป็นเพราะว่ายังพิสูจน์ทฤษฎีทั้ง 100% ไม่ได้ครับ เพราะมันมีเรื่องของกลศาสตร์ควอนตัมที่ขัดแย้งกับทฤษฎีนี้อยู่น่ะครับ

แต่เวลาที่กล่าวถึงนี้มีการพิสูจน์แน่ชัดแล้วครับ  ตามนี้ครับ

อ้างถึง
เวลาในเอกภพไม่เป็นหนึ่งเดียว     
          แต่เดิมนักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า เวลาเป็นหนึ่งเดียวและเท่ากันเสมอไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดในเอกภพ แต่ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษบอกว่า เวลาในเอกภพแตกต่างกันได้ โดยความเร็วที่ต่างกันทำให้เวลาต่างกัน ยิ่งวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากเท่าไร เวลาก็จะเดินช้าลงเท่านั้นเมื่อเทียบกับวัตถุที่เคลื่อนที่ช้ากว่า ในชีวิตประจำวันเราจะสังเกตความแตกต่างของเวลาไม่ออก เพราะความแตกต่างของความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุมีน้อย แต่นักวิทยาศาสตร์   สามารถทดลองความต่างกันของเวลาได้ โดยนักวิจัยชื่อเฮเฟลและคิทติงแห่งสหรัฐอเมริกา ได้นำนาฬิกาที่สร้างจากอะตอมของธาตุซีเซียม ซึ่งวัดได้ละเอียดถึงย่าน 1 ใน 1,000 ล้านล้านของวินาที มาติดตั้งบนเครื่องบินพาณิชย์แล้วบินไปรอบโลก และเปรียบเทียบเวลาของนาฬิกาดังกล่าวกับนาฬิกาที่เหมือนกัน ซึ่งวางอยู่บนพื้นผิวโลก พบว่า นาฬิกาบนเครื่องบินช้ากว่าบนผิวโลก ทั้งสองได้เขียนรายงานลงในวารสารวิชาการชื่อ Science เมื่อ ค.ศ.1972 (พ.ศ.2515)
          จากเรื่องความเร็วที่มีผลต่อเวลานี้ ไอน์สไตน์ได้จินตนาการถึงคู่แฝดคู่หนึ่ง ซึ่งเรียกว่า  Twin Paradox โดยสมมติว่าคู่แฝดคู่นี้มีอายุ 20 ปี ชื่อสมชายกับสมหญิง สมหญิงต้องการอยู่บนโลก แต่สมชายตัดสินใจเดินทางออกไปนอกโลกด้วยยานอวกาศที่มีความเร็ว 80% ของความเร็วแสง สมหญิงที่รออยู่บนโลกสามารถใช้คณิตศาสตร์คำนวณพบว่า จังหวะการทำงานของร่างกายสมชายจะช้ากว่าเธอประมาณ 60% กล่าวคือ เมื่อหัวใจเธอเต้น 5 ครั้ง หัวใจของสมชายจะเต้น 3 ครั้ง เมื่อเธอหายใจ 5 ครั้ง สมชายจะหายใจ 3 ครั้ง เป็นต้น ในที่สุดเมื่อสมชายกลับคืนสู่โลกเรา ตอนที่ปฏิทินบนโลกของสมหญิงผ่านไป 50 ปี แต่สำหรับสมชายแล้วเวลาเพิ่งผ่านไปเพียง 30 ปี ฉะนั้นสมหญิงจึงมีอายุ 70 ปี ขณะที่สมชายมีอายุเพียง 50 ปีเท่านั้น

โค๊ด:
http://main.dou.us/view_content.php?s_id=300&page=4

เอาลิงค์ให้ดู เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้ เพราะตอนแรกที่ผมรู้ก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อเลย ว่ามนุษย์ก้าวหน้าไปถึงขนาดนี้แล้ว  Shocked
บันทึกการเข้า

สูงสุด ที่สุดก็คืนสู่สามัญ
dognet
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 251



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #54 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009, 00:44:43 »

นึกว่าโนบิตะ เป็นคนพบคนแรกซะอีก  Sad
บันทึกการเข้า

alldata
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 490



ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009, 02:06:38 »

คือที่ไม่เรียกว่ากฏ น่าจะเป็นเพราะว่ายังพิสูจน์ทฤษฎีทั้ง 100% ไม่ได้ครับ เพราะมันมีเรื่องของกลศาสตร์ควอนตัมที่ขัดแย้งกับทฤษฎีนี้อยู่น่ะครับ

แต่เวลาที่กล่าวถึงนี้มีการพิสูจน์แน่ชัดแล้วครับ  ตามนี้ครับ

อ้างถึง
เวลาในเอกภพไม่เป็นหนึ่งเดียว     
          แต่เดิมนักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า เวลาเป็นหนึ่งเดียวและเท่ากันเสมอไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดในเอกภพ แต่ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษบอกว่า เวลาในเอกภพแตกต่างกันได้ โดยความเร็วที่ต่างกันทำให้เวลาต่างกัน ยิ่งวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากเท่าไร เวลาก็จะเดินช้าลงเท่านั้นเมื่อเทียบกับวัตถุที่เคลื่อนที่ช้ากว่า ในชีวิตประจำวันเราจะสังเกตความแตกต่างของเวลาไม่ออก เพราะความแตกต่างของความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุมีน้อย แต่นักวิทยาศาสตร์   สามารถทดลองความต่างกันของเวลาได้ โดยนักวิจัยชื่อเฮเฟลและคิทติงแห่งสหรัฐอเมริกา ได้นำนาฬิกาที่สร้างจากอะตอมของธาตุซีเซียม ซึ่งวัดได้ละเอียดถึงย่าน 1 ใน 1,000 ล้านล้านของวินาที มาติดตั้งบนเครื่องบินพาณิชย์แล้วบินไปรอบโลก และเปรียบเทียบเวลาของนาฬิกาดังกล่าวกับนาฬิกาที่เหมือนกัน ซึ่งวางอยู่บนพื้นผิวโลก พบว่า นาฬิกาบนเครื่องบินช้ากว่าบนผิวโลก ทั้งสองได้เขียนรายงานลงในวารสารวิชาการชื่อ Science เมื่อ ค.ศ.1972 (พ.ศ.2515)
          จากเรื่องความเร็วที่มีผลต่อเวลานี้ ไอน์สไตน์ได้จินตนาการถึงคู่แฝดคู่หนึ่ง ซึ่งเรียกว่า  Twin Paradox โดยสมมติว่าคู่แฝดคู่นี้มีอายุ 20 ปี ชื่อสมชายกับสมหญิง สมหญิงต้องการอยู่บนโลก แต่สมชายตัดสินใจเดินทางออกไปนอกโลกด้วยยานอวกาศที่มีความเร็ว 80% ของความเร็วแสง สมหญิงที่รออยู่บนโลกสามารถใช้คณิตศาสตร์คำนวณพบว่า จังหวะการทำงานของร่างกายสมชายจะช้ากว่าเธอประมาณ 60% กล่าวคือ เมื่อหัวใจเธอเต้น 5 ครั้ง หัวใจของสมชายจะเต้น 3 ครั้ง เมื่อเธอหายใจ 5 ครั้ง สมชายจะหายใจ 3 ครั้ง เป็นต้น ในที่สุดเมื่อสมชายกลับคืนสู่โลกเรา ตอนที่ปฏิทินบนโลกของสมหญิงผ่านไป 50 ปี แต่สำหรับสมชายแล้วเวลาเพิ่งผ่านไปเพียง 30 ปี ฉะนั้นสมหญิงจึงมีอายุ 70 ปี ขณะที่สมชายมีอายุเพียง 50 ปีเท่านั้น

โค๊ด:
http://main.dou.us/view_content.php?s_id=300&page=4

เอาลิงค์ให้ดู เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้ เพราะตอนแรกที่ผมรู้ก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อเลย ว่ามนุษย์ก้าวหน้าไปถึงขนาดนี้แล้ว  Shocked


ขอบคุณ สำหรับข้อมูล ทั้งสองท่านเลยครับ   ชอบแนวนี้อ่านแล้วเพลินดี



ปล. ลิงค์ที่อ้างอิง เครือข่าย ระดับโลกเลยรึครับนี่ ผมพึ่งจะรู้นะนี่  *.*
บันทึกการเข้า
angelniwa
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009, 04:39:16 »

น่าจะมาตก หลังบ้านผม

ผมจะได้ ลองวาป ไปโลก อนาึคตดู

ฮ่าอ่า Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
TBZS
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 146
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,056



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009, 04:48:38 »

เวลามีจริงด้วยหรือ

 Smiley
บันทึกการเข้า

Rapture
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 116
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639



ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009, 06:47:22 »

คือที่ไม่เรียกว่ากฏ น่าจะเป็นเพราะว่ายังพิสูจน์ทฤษฎีทั้ง 100% ไม่ได้ครับ เพราะมันมีเรื่องของกลศาสตร์ควอนตัมที่ขัดแย้งกับทฤษฎีนี้อยู่น่ะครับ

แต่เวลาที่กล่าวถึงนี้มีการพิสูจน์แน่ชัดแล้วครับ  ตามนี้ครับ

อ้างถึง
เวลาในเอกภพไม่เป็นหนึ่งเดียว     
          แต่เดิมนักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า เวลาเป็นหนึ่งเดียวและเท่ากันเสมอไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดในเอกภพ แต่ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษบอกว่า เวลาในเอกภพแตกต่างกันได้ โดยความเร็วที่ต่างกันทำให้เวลาต่างกัน ยิ่งวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากเท่าไร เวลาก็จะเดินช้าลงเท่านั้นเมื่อเทียบกับวัตถุที่เคลื่อนที่ช้ากว่า ในชีวิตประจำวันเราจะสังเกตความแตกต่างของเวลาไม่ออก เพราะความแตกต่างของความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุมีน้อย แต่นักวิทยาศาสตร์   สามารถทดลองความต่างกันของเวลาได้ โดยนักวิจัยชื่อเฮเฟลและคิทติงแห่งสหรัฐอเมริกา ได้นำนาฬิกาที่สร้างจากอะตอมของธาตุซีเซียม ซึ่งวัดได้ละเอียดถึงย่าน 1 ใน 1,000 ล้านล้านของวินาที มาติดตั้งบนเครื่องบินพาณิชย์แล้วบินไปรอบโลก และเปรียบเทียบเวลาของนาฬิกาดังกล่าวกับนาฬิกาที่เหมือนกัน ซึ่งวางอยู่บนพื้นผิวโลก พบว่า นาฬิกาบนเครื่องบินช้ากว่าบนผิวโลก ทั้งสองได้เขียนรายงานลงในวารสารวิชาการชื่อ Science เมื่อ ค.ศ.1972 (พ.ศ.2515)
          จากเรื่องความเร็วที่มีผลต่อเวลานี้ ไอน์สไตน์ได้จินตนาการถึงคู่แฝดคู่หนึ่ง ซึ่งเรียกว่า  Twin Paradox โดยสมมติว่าคู่แฝดคู่นี้มีอายุ 20 ปี ชื่อสมชายกับสมหญิง สมหญิงต้องการอยู่บนโลก แต่สมชายตัดสินใจเดินทางออกไปนอกโลกด้วยยานอวกาศที่มีความเร็ว 80% ของความเร็วแสง สมหญิงที่รออยู่บนโลกสามารถใช้คณิตศาสตร์คำนวณพบว่า จังหวะการทำงานของร่างกายสมชายจะช้ากว่าเธอประมาณ 60% กล่าวคือ เมื่อหัวใจเธอเต้น 5 ครั้ง หัวใจของสมชายจะเต้น 3 ครั้ง เมื่อเธอหายใจ 5 ครั้ง สมชายจะหายใจ 3 ครั้ง เป็นต้น ในที่สุดเมื่อสมชายกลับคืนสู่โลกเรา ตอนที่ปฏิทินบนโลกของสมหญิงผ่านไป 50 ปี แต่สำหรับสมชายแล้วเวลาเพิ่งผ่านไปเพียง 30 ปี ฉะนั้นสมหญิงจึงมีอายุ 70 ปี ขณะที่สมชายมีอายุเพียง 50 ปีเท่านั้น

โค๊ด:
http://main.dou.us/view_content.php?s_id=300&page=4

เอาลิงค์ให้ดู เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้ เพราะตอนแรกที่ผมรู้ก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อเลย ว่ามนุษย์ก้าวหน้าไปถึงขนาดนี้แล้ว  Shocked
ขอพิมพ์ใหม่นะครับ อันเก่าลบไปแล้ว
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
ผมว่ากรณี
อย่างที่เวลาบนเครื่องบินเดินช้าลง
เป็นเพราะ activity บนเครื่องบินมันช้าลงมากกว่า
เมื่อ activity ช้าลงทำให้นาฬิกาที่สร้างจากอะตอมของธาตุซีเซียม เดินช้าลงไปด้วย
อย่างกรณีของ Twin Paradox ก็เหมือนกัน
activity บนยานช้ากว่าบนโลก
มีผลให้สภาพของสิ่งที่ activityช้า เปลี่ยนแปลงไปน้อยกว่าสิ่งที่activityเร็ว
การที่เวลาบนยานเป็น 30ปี เพราะเทียบกับactivityที่ช้าลงมากกว่า ซึ่งเวลาถ้าเทียบกับบนโลกแล้วก็ 50ปีเท่ากัน
 Shocked นี่ผมกำลังแย้ง ทฤษฎีสัมพัทธภาพอยู่เหรอนี่
มาคิดดูดีๆ
เอาของมาแช่ช่อง freeze แล้วเอาของออกมา ของนั้นจะเหมือน กรณีของ Twin Paradox หรือเปล่า
ไม่ต้องใช้ความเร็วสูง แค่ใช้ช่อง freeze ก็ทำได้  Grin

activity เช่น การหายใจ เมตาบอลิซึม การเคลื่อนที่ของอะตอม
ปล.ที่ผมบอกมันอาจผิดก็ได้  Grin เพราะผมเองไม่ค่อยเก่งฟิสิกส์มากนัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มีนาคม 2009, 08:02:55 โดย Rapture » บันทึกการเข้า
melodica
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 326



ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009, 08:13:10 »

คือที่ไม่เรียกว่ากฏ น่าจะเป็นเพราะว่ายังพิสูจน์ทฤษฎีทั้ง 100% ไม่ได้ครับ เพราะมันมีเรื่องของกลศาสตร์ควอนตัมที่ขัดแย้งกับทฤษฎีนี้อยู่น่ะครับ

แต่เวลาที่กล่าวถึงนี้มีการพิสูจน์แน่ชัดแล้วครับ  ตามนี้ครับ

อ้างถึง
เวลาในเอกภพไม่เป็นหนึ่งเดียว     
          แต่เดิมนักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า เวลาเป็นหนึ่งเดียวและเท่ากันเสมอไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดในเอกภพ แต่ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษบอกว่า เวลาในเอกภพแตกต่างกันได้ โดยความเร็วที่ต่างกันทำให้เวลาต่างกัน ยิ่งวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากเท่าไร เวลาก็จะเดินช้าลงเท่านั้นเมื่อเทียบกับวัตถุที่เคลื่อนที่ช้ากว่า ในชีวิตประจำวันเราจะสังเกตความแตกต่างของเวลาไม่ออก เพราะความแตกต่างของความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุมีน้อย แต่นักวิทยาศาสตร์   สามารถทดลองความต่างกันของเวลาได้ โดยนักวิจัยชื่อเฮเฟลและคิทติงแห่งสหรัฐอเมริกา ได้นำนาฬิกาที่สร้างจากอะตอมของธาตุซีเซียม ซึ่งวัดได้ละเอียดถึงย่าน 1 ใน 1,000 ล้านล้านของวินาที มาติดตั้งบนเครื่องบินพาณิชย์แล้วบินไปรอบโลก และเปรียบเทียบเวลาของนาฬิกาดังกล่าวกับนาฬิกาที่เหมือนกัน ซึ่งวางอยู่บนพื้นผิวโลก พบว่า นาฬิกาบนเครื่องบินช้ากว่าบนผิวโลก ทั้งสองได้เขียนรายงานลงในวารสารวิชาการชื่อ Science เมื่อ ค.ศ.1972 (พ.ศ.2515)
          จากเรื่องความเร็วที่มีผลต่อเวลานี้ ไอน์สไตน์ได้จินตนาการถึงคู่แฝดคู่หนึ่ง ซึ่งเรียกว่า  Twin Paradox โดยสมมติว่าคู่แฝดคู่นี้มีอายุ 20 ปี ชื่อสมชายกับสมหญิง สมหญิงต้องการอยู่บนโลก แต่สมชายตัดสินใจเดินทางออกไปนอกโลกด้วยยานอวกาศที่มีความเร็ว 80% ของความเร็วแสง สมหญิงที่รออยู่บนโลกสามารถใช้คณิตศาสตร์คำนวณพบว่า จังหวะการทำงานของร่างกายสมชายจะช้ากว่าเธอประมาณ 60% กล่าวคือ เมื่อหัวใจเธอเต้น 5 ครั้ง หัวใจของสมชายจะเต้น 3 ครั้ง เมื่อเธอหายใจ 5 ครั้ง สมชายจะหายใจ 3 ครั้ง เป็นต้น ในที่สุดเมื่อสมชายกลับคืนสู่โลกเรา ตอนที่ปฏิทินบนโลกของสมหญิงผ่านไป 50 ปี แต่สำหรับสมชายแล้วเวลาเพิ่งผ่านไปเพียง 30 ปี ฉะนั้นสมหญิงจึงมีอายุ 70 ปี ขณะที่สมชายมีอายุเพียง 50 ปีเท่านั้น

โค๊ด:
http://main.dou.us/view_content.php?s_id=300&page=4

เอาลิงค์ให้ดู เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้ เพราะตอนแรกที่ผมรู้ก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อเลย ว่ามนุษย์ก้าวหน้าไปถึงขนาดนี้แล้ว  Shocked
ขอพิมพ์ใหม่นะครับ อันเก่าลบไปแล้ว
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
ผมว่ากรณี
อย่างที่เวลาบนเครื่องบินเดินช้าลง
เป็นเพราะ activity บนเครื่องบินมันช้าลงมากกว่า
เมื่อ activity ช้าลงทำให้นาฬิกาที่สร้างจากอะตอมของธาตุซีเซียม เดินช้าลงไปด้วย
อย่างกรณีของ Twin Paradox ก็เหมือนกัน
activity บนยานช้ากว่าบนโลก
มีผลให้สภาพของสิ่งที่ activityช้า เปลี่ยนแปลงไปน้อยกว่าสิ่งที่activityเร็ว
การที่เวลาบนยานเป็น 30ปี เพราะเทียบกับactivityที่ช้าลงมากกว่า ซึ่งเวลาถ้าเทียบกับบนโลกแล้วก็ 50ปีเท่ากัน
 Shocked นี่ผมกำลังแย้ง ทฤษฎีสัมพัทธภาพอยู่เหรอนี่
มาคิดดูดีๆ
เอาของมาแช่ช่อง freeze แล้วเอาของออกมา ของนั้นจะเหมือน กรณีของ Twin Paradox หรือเปล่า
ไม่ต้องใช้ความเร็วสูง แค่ใช้ช่อง freeze ก็ทำได้  Grin

activity เช่น การหายใจ เมตาบอลิซึม การเคลื่อนที่ของอะตอม
ปล.ที่ผมบอกมันอาจผิดก็ได้  Grin เพราะผมเองไม่ค่อยเก่งฟิสิกส์มากนัก

ผมว่าคงมีคนแย้งกันมาเป็น 100 เป็น 1000 คนแล้วหล่ะครับ
แต่ทุกวันนี้ ทฤษฎีสัมพัทธภาพ ก็ยังอยู่
รอจนกว่าจะมีใครสักคนหนึ่ง ทำมันสำเร็จ หรือ แย้งมันได้

ส่วนผมขอตัวไปอ่าน ธรรม ของพระพุทธองค์ ก่อน เพราะรู้สึกว่า จะข้ามขั้นไปกว่านี้เยอะแยะมากมาย
 Cry
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3] 4   ขึ้นบน
พิมพ์