จิไปไหน เป็นภาษาบ้านหนู จิ ก็ เหมือนจะ อ่ะแหละเจ้าค่ะ บ่แม่นภาษาวิบัติดอกเจ้าค่ะ เป็นภาษาท้องถิ่น ถ้าคำนี้วิบัติ แสดงว่าคนแถวบ้านหนู วิบัติกันยกอำเภอเลย แหะๆ
บางคำก็พิมพ์เลียนเสียงพูด ให้ได้อารมณ์ มากขึ้น ของแบบนี้ มันอยู่ที่กาลเทศะเจ้าค่ะ ว่าใช้ตอนไหน
ทำรายงาน ทำวิทยานิพนธ์ส่ง คงไม่มีใครพิมพ์หรอกมั้งเจ้าคะ

เวลามี่พิมพ์ในเอม บางครั้งก็ใช้ คำว่า หนูมี่ มี่ เค้า เรา ตะเอง เธอ แก ส่วนคำว่า คุณ ถ้าพิมให้ถูกมันก้อดูหยาบๆ เถื่อนๆไงไม่รู้ แต่เวลาคุยกะเพื่อน เรียกคุณมันก็แหม่งๆ เปลี่ยนใหม่เป็น มุง อ่านแล้วมันออกเสียงน่ารักกว่ามรึง อิแบร่ ก็ดูดีกว่า อีบ้า เป็นไหนๆ อั้ยแบร่ ด่ากันแทน ไอ้บ้า มีหลายคำที่ใช้แทนเพื่อลดความเถื่อนของภาษาลง แต่คงความหมายเดิม เช่น พ่อ-คุณ แปลงเป็น พ่อง / พ่อมุง หรือ เชี่ย จวย สาด แสด เป็นต้นค่ะ
เหอๆ แหะๆ เอิ๊กๆ ฮี่ๆ คริคริ กิกิ งุงิ ที่พิมแบบนี้ไม่ใช่ภาษาแอ๊บแบ๊วค่ะ แต่วัยรุ่นเค้ารู้กันว่า ถ้าพิมพ์คำพวกนี้มา มันแทนอาการไหน
เหอๆ หัวเราะแบบประชดนิดๆ กึ่งประชด
แหะๆ หัวเราะแห้งๆ ประมาณว่าทำอะไรเปิ่นๆ หรือปล่อยไก่ แล้วหัวเราะแก้เขิน
เอิ๊กๆๆ หัวเราะได้ฮาสะใจมากกกกกก
ฮี่ๆ หัวเราะแบบปนเยาะเย้ย
คริคริ หัวเราพอเป็นพิธี
กิกิ แอบขำเล็กๆ ยิ้มนิดๆที่มุมปาก
งุงิ อาการไม่รู้ไม่ชี้
ข้างบนเป็นการยกตัวอย่างค่ะ ซึ่งก้อจะมีอิโมชั่นที่ทำออกมาให้ตรงกับลักษณะภาษาดังกล่าวมาด้วยค่ะ ถ้าไม่ใช้คำพวกนี้บางทีไม่ได้อารมณ์ค่ะ
ปล.พวกเราบางทีก็ไม่ได้คิดมากถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ว่าบัญญัติคำพวกนี้มาใช้แล้วจะทำให้ภาษาวิบัติ
พวกเราเข้าใจเรื่องการใช้ภาษา แต่บางทีวัยรุ่นอย่างเราก็อยากมีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มของเราบ้างเท่านั้นเอง เราก็ไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อ เราแยกแยะได้ค่ะ