สื่อตีข่าวไทยรบกัมพูชาทั่วโลก เขมรโวยอาเซียนไม่เป็นกลาง
สื่อต่างประเทศรายงานสถานการณ์ไทย-กัมพูชาทั่วโลก พร้อมเปรียบเทียบกำลังรบ ขณะที่เขมรโวยอาเซียนไม่เป็นกลาง วิ่งโร่ไปแจ้งยูเอ็นเรื่องยิงปะทะกัน
(16ต.ค.)สำนักข่าวAFP ราย งานว่า คนไทยกว่า 400 คน ต่างพากันเดินทางออกจากกัมพูชา หลังการปะทะเดือดระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา รายงานได้อ้างถ้อยแถลงของนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศว่า ยังไม่มีแผนอพยพอย่างเป็นทางการแต่กระทรวงต่างประเทศ ได้เรียกร้องให้คนไทยที่ไม่ได้มีธุระเร่งด่วน รีบกลับบ้าน และมีคนไทย432 คน จากทั้งหมดประมาณ 1,500 คน ในกัมพูชา ได้รับทราบคำเตือนแล้ว และทางการได้ขอให้คนเหล่านี้ เดินทางกลับโดยเที่ยวบินของการบิน และพวกเขาได้เดินทางถึงประเทศไทยแล้วเมื่อวันพุธ ส่วนเครื่องบินลำเลียง C-130 ของกองทัพอากาศ ได้เตรียมพร้อมสำหรับการอพยพ
ด้านสำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพทั้งของไทยและกัมพูชา ได้จัดการเจรจาเพื่อพยายามแก้ยุติปัญหาข้อพิพาทบริเวณชายแดน ที่ส่งผลให้เกิดการปะทะกันด้วยปืนและจรวด ระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย โดยกัมพูชาอ้างว่า มีทหารเสียชีวิตไป 2 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย จากการปะทะกันใกล้ปราสาทพระวิหารเมื่อวันพุธ ส่วนฝ่ายไทยระบุว่า มีทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นาย พร้อมกับเรียกร้องให้คนไทยรีบออกจากกัมพูชา และให้นักบินเครื่องบินรบเตรียมพร้อม ด้านนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่วว่า เขารู้สึกวิตกอย่างยิ่งต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแสดงความอดกลั้น
ด้านสำนักข่าว CNN รายงานว่า คนไทยส่วนใหญ่เกรงว่า การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนพิพาทรอบปราสาทพระวิหารของไทย จะถูกบั่นทอนลงเรื่อย ๆ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล ได้กดดันให้รัฐบาล ใช้แนวทางที่แข็งกร้าวในการแก้ปัญหาขัดแย้งบริเวณชายแดน ส่วนเว็บไซท์ของไทม์ส ออนไลน์ รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ไทยได้สั่งให้เครื่องบินรบเข้าประจำการ รวมถึงเครื่องบินลำเลียง เฮอร์คิวลิส เพื่อเตรียมอพยพคนไทย
ไทม์สออนไลน์ ยังเปรียบเทียบแสนยานุภาพทางทหารว่า กัมพูชาสู้ไทยซึ่งมีกำลังทหาร 3 แสนนายไม่ได้ อีกทั้งไทยยังมียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยผลิตโดยสหรัฐ ส่วนกองทัพกัมพูชา เล็กกว่าไทยถึง 1 ใน 3 ทั้งยังขาดแคลนยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย แต่ทหารส่วนใหญ่มีประสบการณ์
การสู้รบในยุคเขมรแดง ที่เชี่ยวชาญการทำสงครามกองโจร
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า รัฐบาลกัมพูชากำลังพยายามใช้วิถีทางการทูตเพื่อแสวงหาเสียงสนับสนุนจากนานาชาติ หลังจากเกิดการยิงปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทยในบริเวณพื้นที่พิพาทรอบปราสาทพระวิหารเมื่อวันพุธ โดยนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา แถลงข่าวเมื่อวานว่า รัฐบาลได้แจ้งให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะกัน และรัฐบาลกำลังใช้ช่องทางการทูตทั้งหมดที่มีเพื่อแก้ไขปัญหาการเผชิญหน้ากันบริเวณพรมแดนที่ยืดเยื้อนานหลายเดือน
นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้เรียกเอกอัครราชทูตต่างชาติทุกคนที่ประจำในกัมพูชายกเว้นเอกอัครราชทูตไทยเข้าพบเพื่อสรุปสถานการณ์เหตุการณ์ยิงปะทะกันที่กัมพูชาอ้างว่านานเกือบสองชั่วโมง และบอกด้วยว่ากัมพูชาได้ใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุดแล้ว แต่ก็มีสิทธิปกป้องตัวเองและตอบโต้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้เขายืนยันว่า รัฐบาลกัมพูชายังยึดมั่นที่จะอดทนอดกลั้นอย่างที่สุด และจะเจรจาและทำงานร่วมกับฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยอาวุธครั้งใหญ่ พร้อมกับยืนยันว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายยิงก่อนและกัมพูชามีสิทธิปกป้องดินแดนของชาติ แต่ขณะนี้สถานการณ์กลับสู่สภาพปกติแล้ว และพร้อมส่งมอบตัวทหารไทย 10 นายที่ได้จับตัวไว้ หากฝ่ายไทยร้องขอ
นายฮอร์ นัมฮง ยังกล่าวโจมตีว่า สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียนขาดความเป็นกลาง เพราะว่าไทยป็นประธานการประชุมอาเซียนในปีนี้ และบอกว่าหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ กัมพูชาก็จำเป็นต้องให้องค์กรระหว่างประเทศที่เป็นกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องดังกล่าว
http://www.komchadluek.net/200...a001_226287.php?news_id=226287 