แน่นอนคงมีคนเคยได้ยินกันหนาหูว่า สามสิบบาทรักษาทุกโรค
ชนิดยาและการรักษา มันจะ Downgrade ลงมาจากระดับปกติ
วันนี้ผมก็พาพ่อไปฟอกไตเหมือนเคย แล้วปรากฎว่าสิทธิ์สามสิบบาท ใช้กับการฟอกไตได้ด้วย
ซึ่งยังไงก็นับว่าเป็นข่าวดีมากๆ ครับ เพราะถูกลง (ท่ายเอ้ย ผมร้องเยสๆ อยู่พักใหญ่หลังคุยกับหมอเลยล่ะ)
แต่หมอก็มาปรึกษาผมว่า มันมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
ค่าฟอกเดิมสองพันต่อครั้ง เราจ่ายแค่ห้าร้อย เพราะรัฐอุดหนุนให้พันห้าร้อย
แต่ว่าเพราะห้าร้อยบาท โรงพยาบาลอยู่ไม่ได้ (ผมไม่รู้เรื่องระบบสามสิบบาท ผมเลยนึกภาพไม่ออก)
เลยเกิดสภาพว่า ชั่วโมงการฟอกจะลดลง ซึ่งส่งผลกับคนฟอกรายหนักๆ (พ่อผมอยู่กรุ๊ปเดียวกัน เข้าขั้นหนักทีเดียว)
ซึ่งกลายเป็นว่าต้องฟอกสามครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งคิดแล้วยังไงก็ยังคุ้ม
ต่อมาเรื่องน้ำยาฟอก ก็เบิกได้น้อยลง แต่อันนี้ยังไม่เป็นไร เพราะเพิ่มเวลาฟอกก็พอแทนกันได้
แต่สุดท้ายนี้สิ ออกจะเสียความรู้สึกนิดๆ ตัวกรองที่จะได้ใช้ จะได้ตัวที่ประสิทธิภาพต่ำ
นั้นหมายถึงว่า มันกรองได้ไม่ดี เทียบให้เห็นภาพคือ มันกรองผ่านช้า ทำให้เวลาการฟอกเท่ากัน
แต่กรองของเสียได้จำนวนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับตัวประสิทธิภาพสูง
ทางออกเลยเป็นต้องจัดซื้อกันเอง อย่างน้อยก็ดีกว่าใช้ของรัฐ
แต่จริงๆ เดิมตอนไม่มีสามสิบบาท ผมก็สั่งซื้อเหมือนกัน แต่ซื้อกันโรงพยาบาล
แต่ตอนนี้ถ้าซื้อ มันจะเหมือนผิดมาตราฐานสามสิบบาท เลยทำให้ต้องจัดซื้อกันเอาเอง
(ในห๊วนกลุ่มที่พากันฟอกเนี่ยแหละ คนไปฟอกกับคนไปเฝ้า มีสมาคมด้วยนะ ^^")
สรุป จริงๆ สามสิบบาทมันช่วยได้จริงๆ ครับ ทุนค่าใช้จ่ายได้ ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
แต่เสียความรู้สึกที่ระดับการรักษา มันจะต่ำลงอย่างช่วยไม่ได้
และที่สำคัญ ไม่ว่าจะชั่วโมงการฟอก น้ำยาที่ใช้ฟอก ตัวกรอง
พวกนี้รัฐเป็นฝ่ายกำหนดสเปคมาให้ ซึ่งมันแสดงถึงว่า คุณภาพการบริการในสามสิบบาท
มันต่ำกว่าระดับปกติอย่างเห็นได้ชัด
นี้ผมยังไม่นึกถึงการรักษาอย่างอื่นนะ ไม่รู้จะใช้เครื่องมือดีแค่ไหน
เราก็คงทำได้แค่รักษาตัวให้ดี ไม่ต้องเป็นภาระคนอื่น และไม่ต้องเข้า รพ. บ่อยๆ ก็พอ
