สวัสดีค่ะ
ส่วนตัวเล่นในบอร์ดนี้มาไม่นาน นะคะ ได้ความรู้อะไรหลายๆอย่างไปเยอะ เจอคนเก่งๆก็เยอะค่ะ
เป็นคนพิมพ์ไม่เก่งนะคะ เอาเนื้อๆไปละกันนะคะ เผื่อใครจะได้ประโยชน์กับมันบ้างก็ยังดี
ยาวหน่อยนะคะ... หากชอบ/ไม่ชอบอย่างไร คอมเม้นด้วยนะคะ
เริ่มจากการที่ตัวเองตั้งท้องค่ะ
ปกติก็อยู่บ้านไปวันๆ ช่วยงานที่บ้านสามี จากที่เรียบจบสายคอมพิวเตอร์มา ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรกับธุรกิจทางบ้านสามีนัก เรียนจบมาก็ไปหาประสบการณ์ที่อังกฤษมาปีนึง กลับมาก็ยังเตร็ดเตร่(เพราะที่บ้านไม่อยากให้ทำงานที่อื่น อยากให้ช่วยงานที่บ้าน)
พอแต่งงานมาและอุ้มท้อง ก็ได้แต่ทำงานบ้านจุกจิก (แต่เป็นคนไม่ชอบทำงานบ้านเสียเลย) วันๆ เปิดpantipจับกลุ่มเมาท์มอยในกลุ่มFacebook จนริเริ่มไอเดียจากการซื้อส่งมา แล้วมาปล่อยให้แม่ๆในกลุ่มได้กำไรไม่ได้เป็นตัวเงินนะคะ(รับเงินเค้ามาก่อนแล้วไปสั่งคล้ายๆพรีออเดอร์) คืออยากได้ของชิ้นนั้นให้ลูก เลยซื้อส่งมาแล้วที่เหลืองปล่อยขาย (เสมือนได้ของชิ้นนั้นฟรีๆ)
ทำไปได้สัก สองสามครั้ง บวกกับก็มีเงินเก็บนิดหน่อย ประมาณรวมๆแล้วไม่เกิน 2 หมื่น เริ่มตัดสินใจสั่งของมาสต๊อคเองละ เริ่มเปิดเวปก่อนเลย (แนวไอเดียไม่มี ทำไปงั้นๆ) ต่อมาก็เปิดเพจไปด้วย (สามีบอกให้เปิด เปิดก็เปิด55) ลูกค้าเริ่มแวะเวียนมามากขึ้น สอบถามนู่นนี่ ความต้องการสูงขึ้น ขายของได้เร็ว อีกทั้งมีกลุ่มแม่ๆในพันทิพช่วยระบายของอีกแรง เริ่มจับธุรกิจออนไลน์สักพักก็ใช้ระบบเงินหมุนเวียนไปเรื่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ
ผ่านไป 3 เดือน มาสู่เข้าระบบกระบวนการจดทะเบียนพาณิชย์ เพื่อเสียภาษีที่ถูกต้อง เพราะคิดว่าเราเริ่มมีรายได้ละ กลัวพี่สรรพ
ผ่านมาอีก 2 ปี...แถวบ้าน(กาญจนบุรี) ที่ดินเริ่มบูม เนื่องจากมีห้างหลากหลายมาเปิด รวมถึงในเมืองกาญไม่มีร้านสินค้าเด็กจริงๆจังๆ มีแต่ในห้างซึ่งแพงโข และแบรนด์ดีๆแบบในเนตไม่มีเสียด้วย จึงปรึกษากับคนที่บ้าน เนื่องด้วยเรามีภาระ ผ่อนบ้าน+รถ ที่ดาวน์เองและผ่อนเองนั้น รวมถึงลูกเริ่มจะเข้าโรงเรียน ค่าใช้จ่ายต่อเดือน หลักแสน จึงต้องคิดให้ดีๆค่ะ ประจวบกับในออนไลน์พ่อค้าแม่ค้าเยอะขึ้นมากมาย ทำให้เป้าที่เราว่าจะได้เท่านั้นเท่านี้นลดลง จึงต้องหาลู่ทางใหม่ๆเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจที่จะมีหน้าร้านล่ะ
เริ่มจากงบประมาณจำกัด ที่ดินก็ไม่มีกะเขา ก็หาเช่าห้องเล็กๆ ขนาด 80 ตรม. ไม่มีอะไรเลย(ห้องโล่งๆ) แต่ทำเลเลิศ อยู่เส้นหลัก เยื้องห้างดัง เป็นโซนที่คนมากินกาแฟ พักผ่อน เราก็ขอเช่าซะ และให้คนมาออกแบบตกแต่งภายใน
มองตอนแรก ห้องมันดูเล็กและแคบมาก วางของเราไม่พอแน่ๆ เราเลยให้ช่างจัดการใช้พื้นที่ให้คุ้มที่สุด หวังซักวันจะมีที่ดินของตัวเองแล้วเก็บของทั้งหมดได้
ผ่านไปอีก 6 เดือน จนกระทั่งวันนี้ หน้าร้านเสร็จ ด้วยงบประมาณที่บานปลายสุดดด ตอนแรกตั้งไว้ 3 แสน เกินเป็น 4 และ เกินเป็น5 ขออย่าถึง 6 เลย ไม่รู้ว่าแพงหรือถูกเพราะส่วนตัวไม่เคยมีความรู้ด้านนี้ เพียงแต่ใช้อาจารย์ที่สอนด้านศิลปะ(รู้จักกัน)ออกแบบให้ และให้ช่างไม้จัดการตกแต่งเรียบร้อย ติดกระจก (ณ ตอนนี้ยังนั่งน้ำตาตกใจ ว่าเมื่อไหร่หนาจะคืนทุน)
เน้นการทำหน้าร้านให้มีความแตกต่างจากคนอื่นๆ โดยยึดหลักว่าเราเป็นแม่อยากให้ลูกเราได้อะไรจากร้าน รวมถึง ไปแล้วได้อะไรบ้าง ก็ทำไปอย่างนั้น อาทิ
- จัดโซนให้เด็กๆเล่นของเล่นฟรีๆ มีแป้งโดว์และของเล่นต่างๆให้เล่น ระหว่างรอพ่อแม่ช๊อปปิ้ง (เด็กๆจะได้ไม่งอแงด้วย) อันนี้ชอบที่สุด เพราะพอเวลาเราเดินห้าง ลูกๆมักชอบไปเล่นจิ้มๆของเล่นเค้า ก็น่าจะมีส่วนที่ให้เด็กเล่นไปเลย ได้เจอเพื่อนๆด้วย เราว่าดีนะเด็กๆเยอะสนุกดีลูกเราได้มีเพื่อนด้วย
- มีแสงสว่างเพียงพอ และทุกอย่างต้องโค้งหากไม่ก็ต้องมีกันกระแทก เพราะบางร้านจัดซะสลัวมุมโต๊ะแหลม เรานิพาลูกไป ลูกเดินชนโต๊ะร้องไห้อีก
- มีของที่ผู้ปกครองหาและใช้ได้ ไม่แพงฟูฟ่า ไม่ถูกจนขาดคุณภาพ เลือกจากที่เราใช้นั่นแหละ ถูกและดี ก็แอบมีนะ
- มีมุมคุณแม่ เป็นโซฟายาวโค้ง ให้คุณแม่นั่งรอ มีเอกสารคู่มือ และความรู้ต่างๆ ให้คุณแม่ตั้งครรภ์ อันนี้เราคิดไว้นานละ เพราะคิดว่าคุณแม่ที่ท้องใหม่ๆ หรือคุณแม่ยังสาว เค้าชอบถามนู่นนี่นะ เราเลยจัดทำเอกสาร แบ่งเป็นเรื่องๆไป ตัวโตหน่อย อ่านง่ายดี มีเนื้อหาหลากหลายด้าน คุณแม่ได้อ่านได้ความรู้อีก หากเรา(ในฐานะเจ้าของร้าน)เราก็พูดคุยตามประสาคนมีลูก และเปลี่ยนประสบการณ์กัน เหมือนกลุ่มในFBนะ แต่เห็นหน้ากัน ก็ดีอ่ะ
อนาคตที่วาดฝันไว้ หากมีเงินมากพอ
- อยากทำโซนนิ่งเป็นแหล่งรวมเรียนรู้สำหรับเด็ก แบบฟรีๆ แบบเราอยากได้อะไรก็ใส่ไป เช่น สวนน้ำย่อมๆ มีอาหารน่ารักๆขาย ของเล่น มีห้างสำหรับเด็กไปเลย ทุกอย่างสามารถเดินทางง่ายในพื้นที่ไม่ต้องกว้างมากมาย แนวคิดเสมือนเรือสำราญอ่ะค่ะ ที่มีทุกอย่าง all in one เลย เคยไปมาทีนึงชอบสุดๆ
สุดท้าย
ไม่รู้จะพิมพ์อะไรต่อแล้วค่ะ (พูดไม่เก่งเอาซะเลย แล้วจะขายของได้ไหมเนี่ยT_T")
อยากให้เพื่อนๆพี่ๆในนี้ ติชมแนะนำได้นะคะ อยากได้ไอเดีย และแนวทางค่ะ
โชชอบที่จะคุยกับคนที่มีความคิดเห็นมากมาย เพื่อจะเป็นการรับฟังและเก็บประสบการณ์ของพวกเขามาเป็นความรู้ใหม่ของเราค่ะ
ส่วนใครที่คิดจะทำธุรกิจใดๆนั้น
โชยึดคติในการขายสินค้าของเราอย่างเดียวค่ะ
คือ ลูกค้าก็เสมือนเรา เราอยากได้ของดีลูกค้าก็เช่นกัน อยากได้การพูดดีเราก็ต้องพูดดีด้วย
อีกอย่าง ครอบครัวของโชและสามีไม่ขัดสนอะไร แต่โชเชื่อคำพูดของพ่อ(ที่ ณ ตอนนี้อยู่บนสวรรค์แล้ว)ว่า เค้ายังมาเสื่อผืนหมอนใบแล้วมีธุรกิจใหญ่โตได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ โชจึงไม่ยืมเงินญาติ ลองทำด้วยตัวเองสักตั้ง หากพลาดก็ถือเป็นกำไรชีวิตเรา ที่เริ่มมาจากการไม่มี มีเงิน แค่ หมื่นกว่าบาท หากมันจะหมดก็หมดแค่นี้ ..เหมือนเศร้าเนาะ ... แต่เชื่อเถอะค่ะ คุณลองดูแล้วจะรู้ว่าชีวิตคุณ สนุกสนานได้อีก เจออะไรอีกตั้งเยอะ
ขอบคุณค่ะ
โช
******* อัพเดดค่ะ *********
วันนี้ร้านส่งงานแล้ว งานไม่เรียบร้อยอย่างที่คิด แต่ว่า มองผิวเผินดูได้ค่ะ

เบ็ดเสร็จ 500k เฉพาะเฟอร์และบิ้วอิน

ต่อจากนี้คงหวังว่า มันจะช่วยให้อะไรๆดีขึ้นกว่าเดิมขึ้นนะคะ
ลองคำนวนค่าไฟแล้ว ตกประมาณ 10000-15000 บาทค่ะ
ค่าเช่านี้ไม่เกินหมื่นนึง
ลองดูว่าอยู่ไหวไหม
ส่วนตัวมีภาระต้องผ่อนรถ สองหมื่นกว่าบาท ผ่อนบ้าน สองหมื่น
ประกันชีวิตสามี และลูกอีก >.<"
ณ ตอนนี้ สัปดาห์หน้าก็จะเข้าไปย้ายของ เตรียมเรื่องระบบร้าน ที่คิดแล้วปวดหัวตื๊บๆ เพราะสต๊อคเราต้องออนไลน์ 24 ชม หน้าเวป อัพเดดจริง
นั่งสุมหัวคิดหลายคนมาก ได้ระบบที่ดีมาระบบนึง โดยไม่ต้องใช้ POS เครื่องหลายแสน ใช้แค่เครื่องบันทึกเงินสดรุ่นนึงที่ตอบสนองความต้องการเราได้ ราคาไม่แพงด้วย หากใครที่มีร้านค้าออนไลน์ update สินค้าในหน้าเวป เพื่อตัวแทน และลูกค้าปลีก แล้วยังขายส่งอีก รวมถึงมีหน้าร้านที่ลูกค้าแวะเวียนมาซื้อของด้วยละก็ งานช้างล่ะทีนี้ค่ะ จะเจอปัญหาแบบที่เราเจอแน่นอน
ไปละค่ะ ไว้มาอัพเดดใหม่