บทความนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากข้อความของ เจสัน ฟรายด์ ในหนังสือ REWORK ว่า...
"Great way to protect yourself from copycats, make you part of your product, and service. Inject what’s unique about the way you think into what you sell.
Decommoditize your product. Make it something no one else can offer!"
ปัญหาการก็อปปี้เป็นกันทั่วโลก ก็อปปี้สินค้า ก็อปปี้บริการ ก็อปปี้บทความ ฯลฯ ฉะนั้นเขาจึงบอกว่า Decommoditize สิ่งที่คุณทำเพื่อให้ยากต่อการเลียนแบบ...แล้วมันต้องทำยังไง
สินค้าทั่วไป กะปิ น้ำปลา กาแฟ หม้อรามชามไห เป็น Commodity
ถ้าผู้ผลิตผู้ส่งปล่อยขายให้พ่อค้าทุกคนก็เป็น Commodity
แต่ถ้าผู้ผลิตผู้ขายตกลงค้าขายร่วมกันแค่สองคน หรือ Design+Customize สินค้าสร้างแบรนด์เองและขายได้เพียงคนเดียว กลายเป็น Exclusivity นี่คือการ Decommoditize สินค้า
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดและทำจนรวยเละคือ Tim Ferriss กับผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ BodyQUICK
ทั้งโลกมีเขาเป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว รายได้จึงไม่กระจายไปสู่ผู้ขายคนอื่นๆ เทมารวมที่เขาเพียงคนเดียว
แต่ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นเป็น บริการ หรือ เป็นบทความบนบล็อกล่ะ ก็สามารถทำได้โดยการสร้างเอกลักษณ์ในการให้บริการหรือการสื่อสารที่เป็นตัวของตัวเอง ยกตัวอย่างกรณีของ Zappos เว็บอีคอมเมิร์ซที่ไม่ได้มีสินค้าแบรนด์ของตัวเองจึงหันไปพัฒนาเอกลักษณ์ในการให้บริการ
เจ้าของ Zappos เลือกที่จะจ้าง Call center แบบ In-house แทนการ Outsource จากอินเดีย และให้พนักงาน Call center ทำหน้าที่เป็นเพื่อนคู่คิดลูกค้า ไม่ซื้อของไม่ว่า อยากคุยปรับทุกข์ปรึกษาปัญหาหัวใจยังได้! ซึ่งการให้บริการแบบนี้ไม่ค่อยมีกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเจ้าอื่นในอเมริกาเพราะเจ้าของนิยมใช้เทปอัตโนมัติ ฯลฯ ทำให้ลูกค้านำประสบการณ์ที่ได้รับไปพูดต่อๆกันไปจน Viral เป็นต้น
บทความต้นเรื่องนี้มีความยาวกว่า 2,000 คำอธิบายความเป็นมาเป็นไป, Case study, และภาพประกอบ ฯลฯ แบบจัดเต็มครับ
ที่มา
http://www.theceoblogger.com/business-brand-and-fans/ 