ต่อไป »

[kasetthai]

ถ้าไม่มั่นใจตัวเอง อย่าเพิ่งลาออกครับ ทำธุรกิจไม่ง่ายนะครับ ถ้าทุ่มไม่สุดตัว ก็เจ๊ง ทำธุรกิจส่วนตัวเหนื่อยกว่างานประจำครับ งานประจำคุณอาจจะแค่เบื่อ แต่ทำธุรกิจ คุณไม่มีสิทธิ์เบื่อ ไหวไม่ไหว คุณก็ต้องสู้  

[boardseo]

ผมเคยลังเลแบบนี้เหมือนกันครับ จนตัดสินใจลาออกจากงานที่เงินที่สองหมื่นนิดๆ พร้อมเงินเก็บประมาณแสนกว่าๆ
และเริ่มทำธุรกิจตัวเอง (ขายของในเนต) ตอนแรกบอกได้เลย ลำบากมากๆ เงินเก็บก็เริ่มลดน้อย ถอยหลังไปเรื่อยๆ
อ่านในนี้คิดว่าง่าย โพสๆ ไป คนก็เข้า ที่ไหนได้ เงียบมากๆ ...

ของขายได้น้อยมากๆ ทำให้ต้องรับงานฟรีแลนมาทำด้วย แต่ก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย
แล้วมันก็เริ่มเนื่อยขึ้นเรื่อยๆ จากไฟแรงสุดๆ ไฟก็กำลงมอดพร้อมเงินเก็บหมื่นสุดท้าย..

จนคืนนึงไม่รู้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้ เครียงานฟรีแลนงานสุดท้าย แล้วก็บอกกับตัวเองว่า ขอลุกขึ้นฮึดสู้อีกครั้งกับการขาย
แต่ครั้งนี้ไม่ออนไลอย่างเดียว แต่เป็บแบบเสนอขายตามร้านต่างๆ คุณเชื่อไหม ผมไปเสนอขายสินค้าผม 1 เดือน เป็นร้อยๆ ร้าน (อาจเว่อไปแต่เยอะมากๆ)
มีสนใจผมแค่ 1 ร้าน.. ผมทำดิลกับร้านนั้น จนมีรายได้มากกว่าเงินเดือนที่เคยได้ 3 4 เท่า

ตอนนี้ก็กำลังทำเวปขายของออนไลอีกครั้ง แต่ไม่รู้จะไปรอดหรือไม่ แต่ผมก็คิดว่าไม่อยากยืมจมูกคนอื่นหายใจไปตลอด
ถ้าร้านที่ผมดิลอยู่ด้วย ไม่รับสินค้าผมแล้วรายได้ก็หายไป.. แต่ทุกวันนี้ถ้ามีเวลาว่างผมออกไปที่ไหนก็จะพกแฟ้มที่เป็นสินค้าผมไปเสนอด้วยตลอด

ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ถ้าคุณทนความกดดันได้ ผมว่าซักวันนึงประสบการณ์จะบอกคุณเองว่าควรเดินไปทางไหน อย่างไร
"ในโลกนี้ไม่มีคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ มีแต่คนที่ล้มเลิกไปก่อน" เป็นคำพูดที่คิดอยู่ในหัวผมตลอดเวลา ไม่รู้ว่าไปอ่าน ไปได้ยินมาจากไหน

ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ การออกจากงานประจำ

ดูจากความเห็นนี้
- ต้องมีเงินทุน(อย่างน้อยก็แสน)
- ต้องมีโชคด้วย(มันจะมาพร้อมความขยันและอดทน)
- ใจต้องสู้ (เพราะโอกาสล้มกับรวยเท่าๆกัน)

แล้วท่านจะมีรายได้เป็น 34 เท่าของเงินเดือน(16,000x34=544,000) ฮ่าาาา........ๆๆๆ  

[Freeze]

ผมเลือกทำธุรกิจส่วนตัวครับ
เพราะเห็นเพื่อนจบไปก่อนทำงานได้เงินเดือน 8-9 พัน เห็นแล้วนึกในใจทำกี่ปีถึงจะมีรถดี ๆ ขับ บ้านหลังใหญ่ ๆ อยู่ จบมาก็ทำเลยครับ เริ่มจากขายของในเน็ท เริ่มต้นก็ลำบากหน่อย แต่พอจะมองเห็นอนาคตตัวเองก่อนอายุ 30 แล้วครับ
สู้ ๆ ครับ คิดและลงมือทำเลยครับเดี๋ยวจะหมดไฟซะก่อน 

[washiravit]

ผมลาออกจากงานด้วยเงินเก็บสี่หมื่นกว่าบาท
ตอนที่รู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง ผมตัดสินใจลาออกภายในสามนาที

ตอนนั้นเงินเดือนไม่มีความหมายสำหรับผม
ผมต้องการสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนไม่เคยมีได้ นั่นคือเวลา
เพราะผมเชื่อว่าหน้าที่ของพนักงาน น้ำหนักเทียบไม่ได้กับหน้าที่ของลูก

ไปโรงพยาบาลทุกวัน เห็นภาพคนใกล้ตายทุกวัน
บางคนเคยเป็นนักธุรกิจสี่สิบล้าน กลายเป็นคนเอ๋อเพราะเนื้องอกในสมอง
บางคนเป็นข้าราชการจนเกษียรที่ป่วย รักษาหายขายได้ถ้ามีเงินซักหกล้าน
แต่สวัสดิ์การของราชการไม่ได้ครอบคลุมขนาดนั้น
บางนเป็น  นักลงทุนของแท้ มีกิจการทำเงินแบบ passive income เยอะมาก
แต่กำลังจะตายเพราะขาดกำลังใจ

ชีวิตเราคืออะไร ผมเริ่มคิดหาความหมาย
แล้วทุกวันนี้เราทำเพื่ออะไร

ไม่เจอคำตอบ

เดือนแรกที่ผมตัดสินใจทำงานเป็น freelance
ผมได้พันหกครับ อะ กลัวคุณเข้าใจว่าผมเขียนผิด
เดือนแรกผมได้ 1600 บาทครับ ตอนนั้นดีใจที่มีคนให้โอกาส
แต่อีกด้านก็รู้สึกว่าทำไมเรามันกระจอกจังวะ

ตั้งใจจะกลับไปทำงานประจำ ไปสมัครงานที่หนึ่ง
ให้เงินเดือน 25000 บาท (ที่ทำงานล่าสุดที่ผมออกมาเขาไม่เอาผมแล้ว)
พอจะเซ็นสัญญาจ้าง ผมเกิดนึกถึงเป้าหมายชีวิต

ผมอยากได้อะไรในชีวิตกันแน่
เงินหรือเวลา

เลยบอกผู้สัมภาษณ์ว่าขอเวลาสามวันและก็ไม่เอา

จากนั้นจำได้ดีเลยว่ามีวันหนึ่งผมตัดสินใจเปลี่ยนชีวิต
หยิบรองเท้าไปจ็อกกิ้งที่หมู่บ้านแถวนพรัตน์
วิ่งไปคิดไปว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี วิ่งให้เหงื่อแตกจะได้คิดออก
วิ่งไปเจอหมากำลังวิ่งเล่นกับลุงที่เป็นเจ้าของ
ลุงไม่เท่า แต่หมานี่เล่นเอาผมขยี้ตา
มันมีแต่ขาหน้า ขาหลังเป็นล้อเหล็ก

ผมถามลุงว่าเกิดอะไรขึ้น
ลุงบอกว่ามันโดนรถทับแต่เด็ก
ถ้าจำไม่ผิดมันชื่อเจ้าซูโม่
เลยพบคำตอบ หมามันยังสู้ได้ ทำไมเราจะไม่ได้หละ

แจ็คพอตแตก วันหนึ่งไปเดินอนุเสาวรีย์
เจอลุงคนหนึ่งมีเผือกพันที่คอ
เขาเขียนป้ายใหญ่เลยว่าขอทานมาเบียนหนังสือ
ผมนั่งคุยกันเเบบไม่อายเลย

สรุปสิ่งที่ผมได้จากลุงคนนั้นคือ
วิธีการหาเงินบนโลกนี้มันมีหลายร้อยมีวิธีมากๆ
การเป็นลูกจ้างก็คือหนึ่งในนั้น มันเป็นเพียงหนึ่งในร้อยๆวิธีเท่านั้นเอง

ทุกวันนี้หลังจากแม่ของผมหายจากมะเร็ง
ผมค้นพบแล้วว่าชีวิตของเรามีเป้าหมายเพื่ออะไร

[boardseo]

ผมลาออกจากงานด้วยเงินเก็บสี่หมื่นกว่าบาท
ตอนที่รู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง ผมตัดสินใจลาออกภายในสามนาที

ตอนนั้นเงินเดือนไม่มีความหมายสำหรับผม
ผมต้องการสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนไม่เคยมีได้ นั่นคือเวลา
เพราะผมเชื่อว่าหน้าที่ของพนักงาน น้ำหนักเทียบไม่ได้กับหน้าที่ของลูก

ไปโรงพยาบาลทุกวัน เห็นภาพคนใกล้ตายทุกวัน
บางคนเคยเป็นนักธุรกิจสี่สิบล้าน กลายเป็นคนเอ๋อเพราะเนื้องอกในสมอง
บางคนเป็นข้าราชการจนเกษียรที่ป่วย รักษาหายขายได้ถ้ามีเงินซักหกล้าน
แต่สวัสดิ์การของราชการไม่ได้ครอบคลุมขนาดนั้น
บางนเป็น  นักลงทุนของแท้ มีกิจการทำเงินแบบ passive income เยอะมาก
แต่กำลังจะตายเพราะขาดกำลังใจ

ชีวิตเราคืออะไร ผมเริ่มคิดหาความหมาย
แล้วทุกวันนี้เราทำเพื่ออะไร

ไม่เจอคำตอบ

เดือนแรกที่ผมตัดสินใจทำงานเป็น freelance
ผมได้พันหกครับ อะ กลัวคุณเข้าใจว่าผมเขียนผิด
เดือนแรกผมได้ 1600 บาทครับ ตอนนั้นดีใจที่มีคนให้โอกาส
แต่อีกด้านก็รู้สึกว่าทำไมเรามันกระจอกจังวะ

ตั้งใจจะกลับไปทำงานประจำ ไปสมัครงานที่หนึ่ง
ให้เงินเดือน 25000 บาท (ที่ทำงานล่าสุดที่ผมออกมาเขาไม่เอาผมแล้ว)
พอจะเซ็นสัญญาจ้าง ผมเกิดนึกถึงเป้าหมายชีวิต

ผมอยากได้อะไรในชีวิตกันแน่
เงินหรือเวลา

เลยบอกผู้สัมภาษณ์ว่าขอเวลาสามวันและก็ไม่เอา

จากนั้นจำได้ดีเลยว่ามีวันหนึ่งผมตัดสินใจเปลี่ยนชีวิต
หยิบรองเท้าไปจ็อกกิ้งที่หมู่บ้านแถวนพรัตน์
วิ่งไปคิดไปว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี วิ่งให้เหงื่อแตกจะได้คิดออก
วิ่งไปเจอหมากำลังวิ่งเล่นกับลุงที่เป็นเจ้าของ
ลุงไม่เท่า แต่หมานี่เล่นเอาผมขยี้ตา
มันมีแต่ขาหน้า ขาหลังเป็นล้อเหล็ก

ผมถามลุงว่าเกิดอะไรขึ้น
ลุงบอกว่ามันโดนรถทับแต่เด็ก
ถ้าจำไม่ผิดมันชื่อเจ้าซูโม่
เลยพบคำตอบ หมามันยังสู้ได้ ทำไมเราจะไม่ได้หละ

แจ็คพอตแตก วันหนึ่งไปเดินอนุเสาวรีย์
เจอลุงคนหนึ่งมีเผือกพันที่คอ
เขาเขียนป้ายใหญ่เลยว่าขอทานมาเบียนหนังสือ
ผมนั่งคุยกันเเบบไม่อายเลย

สรุปสิ่งที่ผมได้จากลุงคนนั้นคือ
วิธีการหาเงินบนโลกนี้มันมีหลายร้อยมีวิธีมากๆ
การเป็นลูกจ้างก็คือหนึ่งในนั้น มันเป็นเพียงหนึ่งในร้อยๆวิธีเท่านั้นเอง

ทุกวันนี้หลังจากแม่ของผมหายจากมะเร็ง
ผมค้นพบแล้วว่าชีวิตของเรามีเป้าหมายเพื่ออะไร

เหมือนอ่านนิยายไม่จบ 

[toekingsize]

ทำธุรกิจส่วนตัวครับ มีเวลาต่างกันเยอะ

[tazan99]

ลองวางแผนดูครับ ว่าถ้าจะมาทำส่วนตัว คุณจะทำอะไรบ้าง
และมีจุดที่ทำให้อยู่ได้ตรงไหนบ้าง

อย่าออกมาถ้ายังไม่มีแผนเลยครับ ยิ่งถ้ามีภาระ
จะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบก่อนครับ

[pattaradit2]

เงินอยู่ตามถนนครับหาทำเลดีๆก็มีเงินได้ หน้าโรงเรียน นี่ก้อีกที่หนึ่ง ไม่ได้ยากเลยแค่มีความกล้าเท่านั้น ขายของกินตามรสนิยมเด็กโรงเรียนนั้น 16kนี่จิ๊บๆครับ 

[affsom]

เงินมีอยู่ทุกที่ ที่คุณอยากจะหา แต่เวลาของคุณมันมีเป็นบางที่ ที่ๆคุณชอบ

คิดให้ดี คิดดีแล้วไม่ลงมือทำ ก็แค่นั้น

[buttaew]

ถ้าเลือกได้ผมขอเลือกทั้งสองข้อก่อนครับ เพราะ คิดง่ายๆเลยครับ ทำงานประจำเราได้เงินทุกเดือนถึงจะไม่มากแต่ได้ทุกเดือน
ส่วนทำธุรกิจเราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่มีใครบอกได้ ในเมื่อเราขายของทางเว็บอยู่แล้ว วันจันทร์-ศุกร์ ก็ทำงานประจำ
ตกเย็นมาก็ขายของในเว็บเลย แถมยังขาย เสาร์-อาทิตย์ ได้อีก ก็ลองขายในเว็บไปโดยตั้งเป้าหมายว่า วันนี้เราต้องขายให้ได้เท่าไหร่
ลองหาลูกค้าก่อนพอมีลูกค้าเริ่มเยอะแล้วค่อยกระโดดลงไปทำแบบเต็มครับ อย่างน้อยถ้าเกิดว่าวันหน่งเราล้มเราก็จะได้ไม่เจ็บมาก

[mateza991]

ถ้าผมเลือกได้ผมอยากเลือกสองข้อครับ 

[binnazdd]

คิดว่าทำธุรกิจส่วนตัว เพราะว่าผลงานทำเท่าไหร่ก็ได้ตามผลงาน รายได้ตามผลงาน 

[immaky]

ผมเองก็เคยมีคำถามเหล่านี้ในหัวเหมือนกัน และแน่นอนมันต้องหาคำตอบ

เพราะ หมากรุก ยังต้องคิด หมากชีวิตจะไม่คิดได้ไง จริงมั้ยครับ ^^

-------------------------------------------

ผมเคยได้ยินว่า...

-------------------------------------------

มีคนถามคุณต๊อบ เถ่าแก่น้อยว่า "ทำไมวันนี้คุณถึงประสบความสำเร็จทั้งที่อายุยังน้อย"
คุณต๊อบ ตอบ "เพราะผมโชคดีที่ผมรู้ว่าผมต้องการอะไรตั้งแต่เด็ก"

คุณสมคิด รวางกูร เจ้าของฉายา วลีกวนตา วาจากวนตีน บอกว่า "เป้าหมายคือทุกสิ่ง"

คนประสบความสำเร็จบอกว่า "ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้"

พี่ R14084 บอกว่า "ในโลกนี้ไม่มีคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ มีแต่คนที่ล้มเลิกไปก่อน"

คนที่ประสบความสำเร็จ "มักเปิดหู เปิดตา เปิดใจ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทั้งในเรื่องความคิดที่เป็นบวก การลงมือทำเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ฯลฯ"

----------------------------------------------------------

มาตอบคำถามให้ตัวเองกันครับ

----------------------------------------------------------

คุณมีเป้าหมายมั้ย > เป้าหมายของคุณคืออะไร?

เมื่อเป้าหมายที่เราตั้งไว้ เปรียบเสมือนปลายทาง คุณรู้ว่าปลายทางอยู่ที่ตรงนั้นแล้ว คุณมียานพาหนะที่จะพาคุณไปถึงจุดนั้นมั้ย [1 ใน 2 ทาง ตอบโจทย์ของคุณมั้ย แล้วอะไรล่ะที่ตอบโจทย์]?

เมื่อได้ยานพาหนะมาแล้ว [หมายถึงทางเลือกของคุณ] คุณได้วางแผนให้ตัวเองได้ชัดเจนพอรึยัง วางแผนการเงินรึยัง?

ลงมือทำตามแผนอย่างมีระเบียบครับ

----------------------------------------------------

คุณอาจจะต้องทำสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำก่อน ถึงจะได้สิ่งที่อยากได้
คุณอาจจะต้องอยู่ในงานประจำก่อน ถ้ายังไม่สามารถทำตามแผนของคุณได้
คุณต้องบอกตัวเองว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
เพราะว่าคุณก็รู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอด เพื่อคนที่เรารัก

ฝากไว้ครับ

ขนาดผ้าขี้ริ้วยังยอมให้ตัวเองสกปรก เพื่อให้สิ่งรอบตัวสะอาด
แล้วทำไมหัวหน้าครอบครัวจะไม่ยอมลำบาก เพื่อครอบครัวที่เรารักสบาย จริงมั้ยครับ ^^

[yimdesign]

เก็บเงินก้อนทำ ธรุกิจส่วนตัว 

[towerlove]

ซักวันมันจะเป็นของเราครับ 

[tama5941378]

สิ่งที่ต้องทำกับสิ่งที่อยากทำ เราต้องคิดดีๆนะคับ ไม่มีใครอยากทำงานประจำหรอกคับ ผมคนนึงแหละ  ผมต้องทำในสิ่งที่ต้องทำๆปก่อน แล้วถ้าผมมีเงินเกบ หรือ รายได้จาก im มากพอ ผมจะไปทำสิ่งที่อยากทำคับ เปนกำลีงใจให้ สู้ๆคับ 

[thaimakemoney]

ถ้าธุรกิจส่วนตัวของคุณรายได้ต่อเดือนยังไม่ถึง3เท่าของเงินเดือนที่ได้รับอยู่ห้ามออกครับให้ทำควบคู่กันไปก่อน

อันนี้เห็นด้วยครับผม

ใช่ครับ

[reviewer]

ถ้าใครทำทั้งสองอย่างได้ก็ทำไปเถอะครับ ถ้าไม่หนักเกินใจรับได้

ลุงหมอ  Dr.k   ทำมากกว่า2อย่าง (หมอ,IM, ...) ทำอะไรแล้วบ้างผมลืม
ท่านบอกทำอย่างน้อย3ขา อย่างไหนล้มที่เหลือจะได้ช่วยพยุง

[tk888]

อ่านแล้วคิดได้เยอะเลยครับ แนวทางเยอะมาก 

[pongpiya]

อยู่ที่นิสัยการใช้เงินของท่าน กับ ภาระหนี้สินครับ