โถ น่าสงสารน้องขวัญจริงๆ
“ขวัญ” ลั่นหนูไม่ผิด ไม่คิดเคลียร์ “ปู มัณฑนา” รับยืมโทรศัพท์ช่างแต่งหน้าใช้จริง แต่ไม่ใช่โรคจิตยืมส่งข้อความป่วนใคร ฝากดารารุ่นพี่แจ้งความสืบหาตัวตามสบาย ไม่หวั่นเข้าฉากโดนตบ เชื่ออีกฝ่ายมืออาชีพพอ ฟุ้งข่าวฉาวไม่มีผลกระทบผู้ใหญ่ยังเอ็นดูเหมือนเดิม ปัดไม่ตอบกรณี “กอล์ฟ” วีนกลางกองถ่าย
วุ่นไม่เลิกสำหรับ กองถ่ายละครเรื่อง”ปมรักรอยอดีต” ที่เกิดเกาเหลาชามโตของคนในกองจนเป็นข่าวครึกโครมหน้าหนังสือพิมพ์ต่อเนื่องหลายวัน ถึงปมความขัดแย้งระหว่างนางเอก “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” และดาราสาว “ปู ไปรยา สวนดอกไม้” และดารารุ่นพี่อย่าง “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” โดยในวันนี้กองถ่ายละครเรื่องดัง เริ่มถ่ายทำกันย่านแจ้งวัฒนะ ต้องเข้าฉากสำคัญตบตีปะทะคารมกันระหว่างแม่ลูก จนสื่อมวลชนรัวชัตเตอร์กันไม่ทันเลยทีเดียว โดยทั้งสาว “ขวัญ” และ “ปู มัณฑนา” เข้าฉากด้วยกันผ่านไปได้ด้วยดี แต่หลังจากกอง ต่างคนต่างหลบเข้ามุม ไม่มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด
โดยสาว “ขวัญ” ก็เปิดใจให้สัมภาษณ์ หลังหมอสั่งพักหลังเส้นเสียงอักเสบ เป็นครั้งแรกถึงกรณีปมความขัดแย้งต่างๆ โดยมีแม่ยืนประกบข้างๆ ก่อนจะเผยถึงอาการป่วย และบอกสภาพจิตใจดี บอกไม่รู้ตัวว่าข่าวตนเองขึ้นหน้าหนึ่ง เพราะไม่เคยอ่านข่าวตัวเองอยู่แล้ว
"อาการป่วยก็ดีขึ้นนะคะ เพราะว่าหมอเขาเก่งน่ารักดีค่ะ ก็ถือว่าหายแล้ว เสียงก็มากว่าวันแรกที่เราเป็นค่ะ เพราะวันแรกเสียงขวัญจะร่อยหรอๆ ลงทุกที ตอนแรกหมอจะไม่ให้พูดเลยค่ะ ตอนแรกเป็นแค่เส้นเสียง แล้วด้วยความที่ทุกคนหวังดีให้เรากินน้ำมะนาวกินน้ำอุ่น น้ำร้อน ซึ่งจริงๆ มันทำลายกล่องเสียงค่ะ มันจะทำให้พองกล่องเสียงอักเสบ หมอจะไม่ให้พูด ฉีดยาให้"
"สภาพจิตใจ หนูก็ไม่ได้อกหักนะ(หัวเราะ) กับข่าวก็ไม่มีอะไรค่ะ มีความสุขดี เครียดเรื่องเรียนค่ะ เพราะเราต้องทำงานแล้วก็เรียนหนักอยู่ปี 3 รายงานก็เยอะ ไหนจะต้องตัดต่อ ไหนจะต้องสร้างภาพเกี่ยวกับทำงานอีก เรื่องข่าวไม่ได้ติดตามข่าวเลยค่ะ อย่างที่ทราบหนูไปกองถ่ายแล้วก็ไปเรียน แล้วก็มากองถ่ายอีก เสร็จแล้วอาจจะเพิ่มอย่างหนึ่งคือไปโรงพยาบาลไปหาคุณหมอเช็คเสียงค่ะ"
"ขวัญไม่เห็นนะคะว่าข่าวขึ้นหน้าหนึ่ง แต่เพื่อนก็จะมีส่งแมจแสจมาบ้างว่าเป็นยังไงบ้างค่ะ"
ยืนยันไม่ได้เกาเหลากับดารารุ่นพี่ “ปู มัณฑนา” และไม่โรคจิตถึงขั้นส่งข้อความไปด่าใครแน่นอน แต่ยอมรับยืมโทรศัพท์หลายคนในกองเพราะแม่ลืมจ่ายให้จนโดนตัดสัญญาณ
"เรื่องเกาเหลาอันนี้หนูไม่ทราบค่ะ ทะเลาะกันก็คงไม่นะ เพราะเราก็ทำงานปกติค่ะ เขาไปแจ้งความก็ดีแล้วค่ะที่แจ้งความ ซีเรียสมั้ย หนูไม่ซีเรียสนะ อันนี้หนูให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดีกว่าเพราะตำรวจเขาเก่ง พ่อหนูก็เป็นตำรวจ"
"มันก็ไม่มีหลักฐานนี่คะว่าเป็นขวัญ เพราะขวัญก็ทำงานขวัญรู้ตัวขวัญว่าขวัญเป็นยังไง ไม่เห็นจำเป็นต้องเครียดเลย ขวัญไปเครียดกับเรื่องเรียนเรื่องอะไรที่ต้องรับผิดชอบดีกว่า"
“ปกติหนูก็คุยกับพี่ทุกคนเหมือนเดิมอยู่แล้วค่ะ แล้วก็ขวัญขอโทรศัพท์ก็เหมือนกับขอคุณพ่อคุณแม่ขอเพื่อนปกติ เพราะบางครั้งขวัญไม่ได้จ่ายตังค์เองค่ะ บางครั้งคุณแม่ก็มีเรื่องที่บ้าน พี่สาว ไหนจะเรื่องขวัญไหนจะเรื่องขวัญอีกแม่เขาจัดการคนเดียวในบ้าน เขาไม่ได้จัดการบริหารเก่งขนาดนั้นก็อาจจะลืมจ่ายตังค์ให้ลูกบ้างก็ต้องขอตังค์พ่อแม่อยู่"
"เรื่องยืมโทรศัพท์หนูยืมปกตินะ ยืมเล่นเกม ยืมเพื่อนโทรศัพท์ ยืมของแม่ ยืมของพี่ทุกคนทีเป็นโปรโมชั่นแต่ว่าเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น คือหนูจิตใจปกตินะ หนูไม่ได้จิตใจโรคจิตขนาดนั้นนะ"
บอกแม้มีข่าวกับดารารุ่นพี่ แต่ก็ยังสนิทใจร่วมงาน และไม่เคยคุยเรื่องข่าว ยอมรับคุยโทรศัพท์เยอะจริงตามที่ดารารุ่นพี่บอก แต่ไม่เคยทำให้งานเสียหาย
"คือหนูก็สนิทใจนะคะ หนูก็ทำงานของหนูปกติ หนูมีความสุขดี ปกติกับทุกคนค่ะไม่ได้คุยเรื่องข่าวค่ะ เรามาทำงานมีอะไรที่ต้องรับผิดชอบ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ"
"ซึ่งโทรศัพท์หนูก็คุยนะคะ ไม่ใช่ว่าหนูไม่คุย แล้วทำงานหนูก็ทำท่องบทก็ท่อง แล้วเรื่องมาสายหนูว่ามันเป็นการทำงานระหว่างขวัญกับทีมงานมากกว่า เพราะว่าอย่างที่เห็นขวัญจะแว๊บไปมา เพราะว่าขวัญอยู่ในวัยที่ขวัญกำลังศึกษา ขวัญยังเป็นนักศึกษาที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ก็มีขวัญคนเดียวนี่ค่ะ แล้วก็ก่อนรับงานขวัญก็คุยกับพี่ทีมงานทุกคนแล้วค่ะว่าขวัญต้องเรียนไปด้วยนะ ทำงานด้วยนะ ทุกอย่างต้องควบคู่ไป ไม่ใช่ทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่งไป”
บอกไม่โกรธที่เกิดข่าวแบบนี้กับตน และไม่คิดเคลียร์กับดารารุ่นพี่ บอกไม่รู้จะขอโทษอีกฝ่ายด้วยเหตุผลอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมย้ำไหว้ทุกคนที่เข้ามาในกอง พร้อมท้าเช็คได้เลยว่าใครส่งข้อความไป
"ขวัญไม่โกรธนะ เห็นมั้ยทุกคนยังรักเอ็นดูขวัญ ทุกคนมาถามขวัญว่าเป็นยังไงบ้าง หนูจะเคลียร์ หนูไม่รู้ว่าอันไหนมันจริงอันไหนไม่จริงค่ะ หนูก็ทำเต็มที่ที่สุดของหนูแล้ว น้าปูเขาก็เป็นน้าคนหนึ่งที่น่ารักเหมือนกันทุกคนเป็นรุ่นพี่ทีมงานที่น่ารักค่ะ เราไม่ได้คุยกันเรื่องข่าวค่ะ เพราะทุกคนหนักแล้วเหนื่อยแล้วค่ะกับบท แล้วแต่ละซีนมันก็ยากต้องใช้สมาธิก็ต้องทำงานให้เต็มที่เพราะวันหนึ่งเรามาถ่ายละคร เรามาทำงานให้ทุกคนที่ติดตามละครเรา"
"หนูยกมือไหว้ทุกคนนะคะ ถ้าหนูทำความผิดหนูก็ขอโทษแล้วกัน แต่นี่หนูยังไม่รู้เรื่องเลย หนูไม่รู้จะขอโทษเรื่องอะไรน่ะ หนูก็อยู่ของหนูแบบนี้ ไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครที่ไหน หนูไม่ได้ไปใส่ร้ายป้ายสีใคร เรื่องโทรศัพท์ก็เชิญเช็คได้เลยค่ะ ตามสบาย"
"แล้วหนูคุยว่าอะไรกับเขาล่ะค่ะ ซัดทอดคือมันเป็นไปตามกระบวนการของตำรวจอยู่แล้วค่ะ มันเป็นปกติที่เขาถามอะไรป้าเขาก็มีหน้าที่ตอบใช่มั้ยคะ มันก็คือตอบแล้ว ป้าไม่ได้ผิดเลยก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามกระบวนยุติธรรมดีกว่าค่ะ"
ยันหนุ่ม “กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล” หรือกอล์ฟ – ไมค์ มาหาที่กองนั้นยอมรับมาจริง แต่ไม่เคยปิดห้องคุยกันสองต่อสอง ยกเว้นตอนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าฉากเท่านั้น แจงคนเป็นเพื่อนกันเอาของมาให้ไม่น่าแปลก
"ขวัญไม่ได้พาเพื่อนเข้ามานะคะ วันนั้นก็ไม่ได้เจอกัน เรื่องมีเพื่อนมาหาที่กองก็เหมือนพี่ซี ญาติๆ แฟนคลับมาแค่นั้นค่ะ ปกติพี่กอล์ฟไม่ได้เจอขวัญค่ะ เขามาเยี่ยมเหมือนกับว่าขวัญไม่สบายแค่นั้นเอง แต่ว่าเขาก็ไม่ได้บอกเราก่อนไม่ได้ติดต่อเราก่อนค่ะ ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ได้มาหาเลยค่ะ"
"ข่าวเหมือนว่าแต่มันก็ไม่ใช่ใช่มั้ย แล้วพี่เชิญดูได้เลยว่าแต่ละห้องมันจะปิดมิดได้ไง ทุกคนเดินเข้าเดินออกกันทั้งนั้นแล้วก็อย่างขวัญมาทำงานเขาก็ต้องการให้ขวัญทำงานได้เต็มที่ใช่มั้ยคะ ก็จะเห็นมีซีนขวัญเกือบทุกซีน ขวัญเหนื่อยบางครั้งขวัญก็นอนพัก ฟังเพลงของขวัญไป เพราะฉะนั้นหนูไม่เคยล็อคห้องค่ะ ยกเว้นเปลี่ยนเสื้อผ้า"
"หนูว่าน่าจะฟังหลายๆ ความนะ เพราะว่าเราก็อยู่วงการมาตั้งนาน หนูอยู่ตรงนี้ก็มีผู้ใหญ่หลายคนตั้งเยอะที่เขาเอ็นดูเรา โตมากับตรงนี้ได้ก็เพราะผู้ใหญ่ที่เขาคอยบ่มเราค่ะ"
"กับพี่กอล์ฟไม่ได้คุยเลยค่ะ เพราะว่าต่างคนต่างทำงานให้เต็มที่ให้ดีที่สุด ทั้งงานทั้งเรียนเหนื่อยแล้วข่าวไม่น่าส่งผลกับเขานะ อันนี้ไม่ทราบเรื่องรายละเอียด แต่ไม่แปลกถ้าคนเป็นเพื่อนกันแล้วเอาของมาเยี่ยมแค่นี้เองค่ะ"
บอกไม่หวั่นผู้ใหญ่เรียกคุย เพราะเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ฟุ้งผู้ใหญ่เอ็นดูตนเองมากกว่า บอกตั้งแต่เกิดเรื่องก็มีคนให้กำลังใจตลอดโดยเฉพาะแฟนคลับตนเอง
“ผู้ใหญ่ก็คุยกันตามปกติทั่วไปค่ะ เราอยู่ช่องเดียวกันก็เหมือนครอบครัว พ่อแม่ปกครองลูก มีอะไรเราก็คุยกันปรึกษาหารือกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวเรื่องงานเรื่องเรียนก็ปรึกษาผู้ใหญ่ค่ะ ผู้ใหญ่ไม่ใช่ยักษ์นะ เขาก็เหมือนพ่อเหมือนแม่เราคนหนึ่งก็ปรึกษาได้เหมือนกัน"
"ทุกอย่างเหมือนเดิมค่ะ อย่างเวลาไปไหนมาไหนทุกคนก็ให้กำลังใจขวัญเหมือนเดิม เอ็นดูขวัญ ขวัญก็ดีใจนะคะ อบอุ่นที่ทุกคนคอยอยู่ข้างขวัญเสมอ กคบคนรอบข้างก็อบอุ่นค่ะ เท่าที่ทราบอย่างเรื่องพรีฌซ็นเตอร์ลักษ์เท่าที่หนูรับรู้คือผู้ใหญ่ทุกคนยังเชื่อใจและเอ็นดูขวัญมากกว่าค่ะ"
"อย่างแฟนคลับมันเป็นสัณชาตญาณคนค่ะเขามีความรักให้กัน เอ็นดูเราก็อยากจะให้กำลังใจเรา เอาอาหารไปให้ที่กอง อย่างขวัญอยากกินอะไรก็เอาไปให้ ยิ่งขวัญไม่สบายเขาก็เป็นห่วงขวัญ คุณแม่ ไหนจะเรื่องคุณพ่อ ครอบครัว แม่ขวัญก็เหนื่อยแล้วเขาก็มาช่วยแบ่งเบา มาช่วย อย่าลืมนะว่าขวัญไม่มีผู้จัดการ"
ยันข่าวไม่มีผลกระทบในการทำงานแน่นอน แม้จะมีข่าวเกาเหลาบ่อยก็ตาม บอกไม่คิดปรับปรุงตัว เพราะคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่เต็มที่ที่สุดแล้ว
"หนูว่าตอนนี้หนูก็ทำเต็มที่ดีที่สุดแล้วนะคะ เพราะหนูไม่สามารถเอาใจใครได้ทุกคนหรอกค่ะ เพราะคนเรามันต้องเชื่อว่าเราควรทำในสิ่งที่ดีที่สุด"
“มันอยู่ที่วันข้างหน้าค่ะ เรารู้ว่าเป็นอะไร เดินทางสายกลางย่อมดีที่สุด ขันติๆ ข่าวมันคือภาพของขวัญภายนอกนะ อย่างขวัญเป็นของขวัญยังไง ขวัญรู้ตัวขวัญ คือข่าวมันไม่สามารถมาบังคับว่าขวัญต้องเป็นแบบนี้ตามข่าวได้นะ ข่าวไม่มีผลกระทบกับขวัญเลยค่ะ ผู้ใหญ่ก็เข้าใจเรา ทำงานอยู่กับครอบครัวแฮปปี้”
ส่วนจะมีโอกาสร่วมงานกับสอง "ปู" อีกหรือไม่ เจ้าตัวบอกแล้วแต่ผู้ใหญ่ในช่อง ก่อนยิ้มรับโดนด่าในโลกไซเบอร์ว่าเป็นนางร้ายนอกจอ เจ้าตัวบอกดีแล้วจะได้พบกับนางเอกรูปแบบใหม่ บอกข่าวแค่นี้ไม่ร้ายแรงที่สุดในชีวิต
“ก็ดีนะ เป็นนางเอกยุคใหม่สู้คน(หัวเราะ) หนูไม่รู้ค่ะ หนูก็อยู่นิ่งๆ เฉยๆ มันเป็นธรรมชาติค่ะ คนไหนดีกับเราเราก็ดี คนไหนไม่ดีเราก็อยู่นิ่งๆ เราไม่เห็นจำเป็นต้องไปโต้ใครเลย"
"ในอินเตอร์เน็ตมันเป็นอะไรที่แสดงออกในทางสองแง่สองง่ามคือเราก็ไม่ได้ว่าอะไรว่าเขาจะมองเราเป็นคนไม่ดี แต่ว่าขวัญก็ทำเต็มที่ให้ดีที่สุดของขวัญแล้ว คนไหนที่เขาให้กำลังใจขวัญขวัญก็โอเคขอบคุณมาก หนูคิดว่าโตขึ้นมาเราต้องเจออะไรทีเป็นบทเรียนเราอีกเยอะ อันนี้มันเป็นประสบการณ์ที่หายากที่ขวัญไม่สามารถที่จะหาได้จากมหาวิทยาลัย"
ส่วนกรณีข่าวกอล์ฟ วีน “ปู ไปรยา” และคนในกองถ่าย เจ้าตัวขอไม่พูดเพราะไม่ใช่เรื่องของตน
"อันนี้เป็นเรื่องระหว่างเขาสองคนขวัญไม่ทราบค่ะ เพราะหนูไม่ได้เป็นคนกลางระหว่างเขาสองคนไม่ได้เป็นคนฟังเพราะว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน"
พร้อมโต้ข่าวมากองช้าเพราะแอบไปดูหนัง ยันตนไปมหาวิทยาลัยต่างหาก ก่อนโต้หนุ่มที่มาหาในกองทั้งหลายแค่เพื่อนกัน…
"ก็เนี่ยค่ะ ขวัญไปมหาวิทยาลัยมา ขวัญไปสอบพอถึงเวลาขวัญก็มาทำงาน คือขวัญรู้ว่าขวัญมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบทั้งสองอย่าง"
"หนุ่มๆที่มาหาทุกคนเป็นเพื่อนกันค่ะ มันก็เหมือนกับเพื่อนที่โรงเรียนขวัญน่ะค่ะ เพื่อนที่โรงเรียนขวัญมีผู้ชายตั้ง 30 กว่าคน แต่ว่าเพื่อนเขาไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ไม่ได้รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา สิวเขรอะ แต่งตัวเนิร์สๆ ก็เลยไม่ค่อยมีคนสนใจเลยไม่ค่อยเป็นข่าว แต่ว่าจริงๆ เขาก็เป็นเพื่อนกันนะ เพศมันไม่ได้แบ่งอะไรอย่างนี้หรอก"
ยันเส้นเสียงไม่ดีแต่รับงานนอกเพราะกลัวค่าปรับ และแจ้งคนในกองทุกครั้ง
"ถ้าขวัญไม่ไปเขาก็เรียกขวัญหลายล้านเหมือนกัน ขวัญก็สู้ไม่ไหวเหมือนกันนะคะ เราก็ไปทั้งอย่างนั้น มันก็เหมือนสัจจะเรารับงานแล้วเราก็ต้องไป ถ้าเราไม่ทำเขาก็เสีย เขาลงทุนไปตั้งเท่าไหร่ เราก็ต้องคิดถึงส่วนร่วมบ้าง"
"ซึ่งขวัญก็บอกคนในกองทุกอย่างค่ะ เพราะว่าทุกอย่างมันเป็นไซน์คอนแทคของขวัญอยู่แล้ว เรื่องเรียนขวัญด้วย"
และทิ้งท้ายก่อนเข้าฉากโดน “ปูมัณฑนา” ตบ ว่าตนไม่กลัวการนอกบท บอกเชื่อว่าอีกฝ่ายมืออาชีพพอ
"ก็รู้สึกธรรมดาค่ะ ไม่มีอะไรค่ะ ตอนนี้หนูก็ไม่มีผลกระทบต่องานนะ เพราะทุกคนก็แฮปปี้ทำงานไป ส่วนเรื่องนอกบทไม่มีหรอกค่ะ พี่เขาก็มีความเป็นมืออาชีพเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว"
อื่นๆ
