ต่อไป »

[EThaiZone]

วันนี้มีึคนจากหอการค้าไทยมา

เขามีบัตรมาว่าช่วยทำบุญ โดยเข้าชมท็อกโชว์
สมทบทุนหอการค้า กะเป็นทุนการศึกษาให้เด็กที่พ่อแม่เป็นตำรวจชายแดนภาคใต้ที่เสียชีวิต

ทีนี้ใบละ 1 พัน....  ตอนแรกๆ ผมก็คิดว่า เพื่อเด็กๆ
เลยใจอ่อนควักไป 1 พัน ก็ได้มา 1 ใบ

...

ตอนนี้มานั่งนึกกับน้อง....

1 พัน เราใช้เวลานานเท่าไรถึงจะได้มา...
ถ้าเพิ่มเท่าตัว ก็ 2 พัน  ฟอกไตให้พ่อได้ครั้งหนึ่ง (ค่าฟอกอย่างเดียว ไม่รวมค่าเครื่องมือ ยาอื่นๆ อีก)
เดี๋ยวก็ยังมีหนี้อีก


.... ตอนนี้เลยสงสัยกับตัวเอง (แต่ก็พอรู้คำตอบ)
ว่า ทำบุญนี้ มันดีเกิดบุญ หรือมันบาป

เพราะใจไม่เป็นสุข....


 

ปล. ผมไม่แสกนมาให้ดูนะ ตอนนี้เอาแปะฝาผนัง เพราะไม่ว่างไปดูหรอก - -*

[abac401]

เป็นบุญแน่นอนครับ

ถ้าเป็นผมจะคิดมากเรื่อง ถึงมือคนที่เราต้องการให้แค่ไหน
บางทีทำเป็นการตลาด รายได้ส่วนหนึ่งร่วมสมทบทุน.... แต่มันไม่บอกว่าแค่ไหน ไม่ใช่มันให้ 100 บาท นอกนั้นเป็นกำไรมัน

[issey Cromatie]

ถ้าทำไปแล้ว มาเสียดายทีหลังเนี่ยแหละค่ะ มันจะไม่ได้บุญ

ดังนั้น ก่อนทำ ต้องคิดให้ดีว่าจำนวนเงินที่ทำไป ต้องไม่ทำให้คุณกลับมาเสียดายทีหลัง
หรือทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อน


ป.ล. เรื่องมันแล้วไปแล้ว เดี๋ยวคุณก็ได้เงินก้อนใหม่มารักษาพ่ออีกค่ะ เป็นอานิสงส์ของบุญที่คุณทำไปไงคะ
ทำบุญไว้ บุญไม่หายไปไหนหรอกจ้า

[mikeyx]

บุญบาปอยู่ที่ใจครับ
ถ้าใจเราคิดเป็นบุญ เราจ่าย 1 ใบละแสนแล้วสบายใจก็ได้บุญ
ถ้าคิดว่าได้บาปจ่าย ใบละ 10 บาทสบายใจก้ได้บาป

ตัวเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญว่าบุญรึบาป
มันอยู่ที่ใจเราต่างหากว่าสิ่งที่เราให้ไปเป็นบุญหรือเป็นบาป

อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

[EThaiZone]

เป็นบุญแน่นอนครับ

ถ้าเป็นผมจะคิดมากเรื่อง ถึงมือคนที่เราต้องการให้แค่ไหน
บางทีทำเป็นการตลาด รายได้ส่วนหนึ่งร่วมสมทบทุน.... แต่มันไม่บอกว่าแค่ไหน ไม่ใช่มันให้ 100 บาท นอกนั้นเป็นกำไรมัน

ตรงนี้ผมก็คิดครับ เพราะมันขึ้นจั่วไว้ก่อนเลย ว่าสบทบทุนหอการค้า
เลยมาคิดว่า "ทุนอะไร" - -*

แต่ก็ยอมรับว่าเสียดายน่ะนะ 

ส่วนที่คุณ issey Cromatie พูดมานี้ พูดเหมือนน้องชายผมเลย
แต่น้องชายผมก็ว่าเสียดาย และถ้าเป็นเขาๆ ก็จะยังให้ แม้ว่าจะเสียดาย

สรุป นิสัยและความคิด สืบทอดทางพันธุกรรมได้ครับ (เหมือนแป๊ะ  )

[เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร]

ถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องทำจิคับ

การทำบุญต้องไม่ให้เราเดือดร้อนด้วย

ถ้าทำแล้วเราเดือดร้อนด้วย มันก็ไม่ได้บุญหรอกครับ

มันต้องอิ่มใจทั้งคนให้และคนรับ

[EThaiZone]

คราวหลังคงทำตามกำลังตัวเองครับ
ลำบากตัวเองแล้วก็ไม่เป็นสุขเหมือนกัน 

ว่าแต่มีใครเป็นเหมือนผมอีกหรือเปล่า 

[barbies55]

^
เป็นบ่อยเลย อิอิ

[thenetxx]

ผมก็เป็นเหมือนกัน ตอนทำไม่คิด
ที่ผ่านมา พวกงานแต่ง งานศพ ผ้าป่า อะไรไม่รู้ มาเดือนละ 3-4 รอบ ใส่ไป 200-1000 บาทแทบทุกงาน
พอสิ้นเดือนมีตังติดตัว 2-3 ร้อย ก็ค่อยมาคิดได้

ว่าสู้ให้พ่อแม่พี่น้องเราดีกว่า
1000 นึง อย่างน้อยก็ ให้แม่ไว้ซื้อกับข้าวกินได้ตั้งหลายวัน

ดังนั้นผมว่าทำอะไรไม่ให้เราหรือคนข้างหลังเราลำบากจะดีกว่า
ช่วงหลังมีซองอะไรพวกนี้มา ถ้าไม่มีจะบอกไปเลยว่าไม่มีตัง หรือถ้ามีก็ใส่ 1-3 ร้อย  งานแต่งมะก่อนใส่พัน เด๋วนี้ 500 ก็พอ ไปก็ไม่ค่อยได้กินอะไร -*-

[เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร]

บ้านผมเป็นร้านค้า

ส่วนมากจะมีถังผ้าป่ามาขอวาง สรุปทั้งปีไม่มีช่วงไหนขาดถังผ้าป่าเลย

ไม่รู้พระจริงพระปลอม มากันให้มั่วไปหมด

จนตอนนี้ตั้งป้ายไว้เลย ไม่รับฝากถังผ้าป่า นับถือศาสนาอิสลาม พอติดป้ายนี้แล้วดีขึ้น

พวกมาขอบริจาคให้ทหารผ่านศึกก็ไม่เข้ามา

ทุกทีนี่ 3 เดือนมาที บริจาคทหารผ่านศึก

ปล.ไม่ได้จะลบหลู่ศาสนาอื่นนะครับ

[stahcus]

บุญหรือบาปอยู่ที่จิตใจครับ 
เวลาเราทำไปแล้วเกิดสุข อิ่มเอมจิตใจ ก็เป็นบุญ ถ้าทำแล้วมีความทุกข์ จะเป็นบาปหรือเปล่าไม่รู้แต่ที่แน่ ๆ เราเป็นทุกข์ไม่ดีแน่ครับ
อีกอย่างอย่าคิดว่าการทำบุญทำที่ตัวเงินอย่างเดียว บางทีเราเห็นคนทำบุญ เราอนุโมทนา ยินดีกับเขา
อย่างนี้เราก็มีความสุขแล้วครับ เรียกว่าบุญหรือเปล่า ผมไม่รู้อีกแหละมันจับต้องไม่ได้ แต่ลองทำดูครับ
 : :

[มอมแมม]

เราว่า บาป บุญ เป็นแค่คำที่แต่งขึ้นมานะ เราคิดว่าถ้าเราให้เขาไปแล้วเรามีความสุข มันก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่อิ่มเอม

แต่ถ้าให้ไปแล้วเป็นทุกข์ มันก็ทำให้เราคิดมาก ไม่มีความสุข เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องบาป บุญ ที่เขาใช้กัน ให้ไปแล้วสบายใจ ไม่ต้องไปคิดว่าให้ไปแล้วเขาจะเอาไปทำอะไร ให้น้อย ให้เยอะ ก็ขอให้ทำแล้วสบายใจเราก็พอ เขาจึงใช้คำว่าให้ ทาน

[hiyukaus]

การทำบุญที่แท้จริงต้องไม่หวังผลตอบแทนครับ ถ้าทำแล้วไม่สบายใจก็ไม่เกิดผลครับ พระท่านสอนมา 

[metoo55]

ก่อนหน้านี้ 3 เดือน 6 เดือน ทำบุญอะไรไปบ้างหรือเปล่าครับ ถ้านี่เป็นครั้งแรก ก็ถือว่าชดเชยย้อนหลังแล้วกัน 

ชีวิตคุณต้อง ให้และรับ ถ้ากังวลว่าเรายังเอาตัวไม่รอดแล้วไปช่วยเหลือคนอื่น เราจะลำบากเลยไม่ทำอะไร แบบนี้เรียกว่าเห็นแก่ตัวครับ ยิ่งเห็นแก่ตัวยิ่งไม่ได้ครับ

เคยอ่าน พ่อรวยสอนลูกไม๊ครับ ถ้าจำได้ เงินได้มาถ้ามีโอกาศก็ต้องให้คนอื่นบ้าง


ขอชื่นชมครับ และโปรดสบายใจนะครับ  :

[D-N-A]

ผมเคยเป็นะ   รู้สึกว่า หากเรา  ทำด้วยความสมัครใจ แล้ว หากจ่ายไปเท่าไหร่ ก็จะได้มากกว่านั้น อีก หลาย เท่า   

[trvoy]

ทำแล้วมาเสียดายทีหลัง ไม่ได้บุญหรอกครับ...

[ilovecumshot]

เขาเรียกทำทานคับ ไม่ใช่ทำบุญ ทำบุญใช้กับพระเท่านั้นครับ
ถ้าทำทานไปแล้วก็อย่าไปคิดไรมากเลยคับ การทำทานก็เหมือน
กับการทำ adword แหละคับ จ่ายไปก่อนในตอนแรก เดี๋ยวก็ตี
ีกลับมาเป็นเท่าตัวทีหลัง เงินพันนึงที่คุณเสียไปอาจจะตกไปถึง
เด็กทางใต้ไม่กี่บาท แต่อย่างนึงที่ได้เกิดขึ้นกับตัวคุณเองก็คือ
คุณได้เห็นสันดานลึกๆของตัวเองในอีกด้าน ว่าแท้จริงแล้วคุณ
ก็เป็นคนๆนึงที่สนใจในสิ่งที่เกิดในชาติของตัวเองคับ อย่าไปกังวล
กับอนาคตคับ เมื่อทำบุญ หรือ ทำทานแล้วก็พยายามมองในแง่ดี
เข้าใว้คับ

[yyongg]

เขาเรียกทำทานคับ ไม่ใช่ทำบุญ ทำบุญใช้กับพระเท่านั้นครับ
ถ้าทำทานไปแล้วก็อย่าไปคิดไรมากเลยคับ การทำทานก็เหมือน
กับการทำ adword แหละคับ จ่ายไปก่อนในตอนแรก เดี๋ยวก็ตี
ีกลับมาเป็นเท่าตัวทีหลัง เงินพันนึงที่คุณเสียไปอาจจะตกไปถึง
เด็กทางใต้ไม่กี่บาท แต่อย่างนึงที่ได้เกิดขึ้นกับตัวคุณเองก็คือ
คุณได้เห็นสันดานลึกๆของตัวเองในอีกด้าน ว่าแท้จริงแล้วคุณ
ก็เป็นคนๆนึงที่สนใจในสิ่งที่เกิดในชาติของตัวเองคับ อย่าไปกังวล
กับอนาคตคับ เมื่อทำบุญ หรือ ทำทานแล้วก็พยายามมองในแง่ดี
เข้าใว้คับ

ตามนี้เลยค่ะ บวกๆๆๆไว้ค่ะ

[chuanguru]

บุญได้แน่นอนครับ ยินดีด้วยครับ แต่ได้น้อย เพราะทำให้ตนเองเกิดทุกข์ทางใจครับ ทำให้บุญถูกลดลงมา
ทำใจให้สบาย คิดแต่เพียงว่าเราได้ช่วยเขาจริงๆ ส่วนสมทบทุนอะไรนั้นก็เป็นเรื่องของเขาแล้วล่ะครับ
สาธุด้วยคน
ขอให้คุณ EThaiZone และครอบครัวมีความสุขครับ

ว่ากันเรื่องบุญแล้ว นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ถือเป็นบุญสูงสุดแล้วครับ

อ้างอิง

โค๊ด:

แม้วัตถุทานจะบริสุทธิ์ก็ดี เจตนาในการให้ทานจะบริสุทธิ์ก็ดีแต่ทานนั้นจะมีผลน้อยหรือมาก ย่อมขึ้นอยู่กับเนื้อนาบุญเป็นลำดับดังต่อไปนี้
1. ทานที่ให้แก่สัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมเพียงครั้งเดียว
2. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่ไม่มีศีลไม่มีธรรม 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 5 เพียงครั้งเดียว
3. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีลห้า 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 8 เพียงครั้งเดียว
4. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีลแปด 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 10 เพียงครั้งเดียว
5. ทานที่ให้แก่ผู้ที่มีศีล 10 คือสามเณร 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่ภิกษุผู้มีศีล 227
6. ทานที่ให้แก่พระภิกษุ 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่ พระโสดาบันเพียงครั้งเดียว
7. ทานที่ให้แก่พระโสดาบัน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระสกิทาคามีเพียงครั้งเดียว
8. ทานที่ให้แก่พระสกิทาคามี 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระอนาคามีเพียงครั้งเดียว
9. ทานที่ให้แก่พระอนาคามี 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระอรหันต์เพียงครั้งเดียว
10. ทานที่ให้แก่พระอรหันต์ 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระปัจเจกพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว
11. ทานที่ให้แก่พระปัจเจกพระพุทธเจ้า 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว
12. ทานที่ให้แก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าสังฆทานที่ให้แก่พระสงฆ์ที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธานเพียงครั้งเดียว
13. ถวายสังฆทานที่ให้แก่พระสงฆ์ที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าการถวายวิหารทาน คือ สร้างกุฏิ, อุโบสถ, ศาลาเพียงครั้งเดียว
14. ให้วิหารทาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าการให้ธรรมทานเพียงครั้งเดียว
15. ให้ธรรมทาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าการให้อภัยทานเพียงครั้งเดียว
16. ให้อภัยทาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าการรักษาศีล 5
17. รักษาศีล 5 ได้ผลน้อยกว่าการรักษาศีล 8
18. รักษาศีล 8 ได้ผลน้อยกว่าการรักษาศีล 10
19. รักษาศีล 10 แม้นาน 100 ปี ได้ผลน้อยกว่าการอุปสมบทเป็นพระภิกษุผู้รักษาศีล 227
20. การอุปสมบทเป็นพระภิกษุผู้รักษาศีล 227 ไม่ด่างพร้อย 100 ปี ได้ผลน้อยกว่าผู้ทำสมาธิให้จิตสงบชั่วขณะนานเท่าไก่กระพือปีก งูแลบลิ้น ช่วงลัดนิ้วมือเดียว

[Finish]

บุญได้แน่นอนครับ ยินดีด้วยครับ แต่ได้น้อย เพราะทำให้ตนเองเกิดทุกข์ทางใจครับ ทำให้บุญถูกลดลงมา
ทำใจให้สบาย คิดแต่เพียงว่าเราได้ช่วยเขาจริงๆ ส่วนสมทบทุนอะไรนั้นก็เป็นเรื่องของเขาแล้วล่ะครับ
สาธุด้วยคน
ขอให้คุณ EThaiZone และครอบครัวมีความสุขครับ

ว่ากันเรื่องบุญแล้ว นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ถือเป็นบุญสูงสุดแล้วครับ

อ้างอิง

โค๊ด:

แม้วัตถุทานจะบริสุทธิ์ก็ดี เจตนาในการให้ทานจะบริสุทธิ์ก็ดีแต่ทานนั้นจะมีผลน้อยหรือมาก ย่อมขึ้นอยู่กับเนื้อนาบุญเป็นลำดับดังต่อไปนี้
1. ทานที่ให้แก่สัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมเพียงครั้งเดียว
2. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่ไม่มีศีลไม่มีธรรม 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 5 เพียงครั้งเดียว
3. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีลห้า 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 8 เพียงครั้งเดียว
4. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีลแปด 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 10 เพียงครั้งเดียว
5. ทานที่ให้แก่ผู้ที่มีศีล 10 คือสามเณร 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่ภิกษุผู้มีศีล 227
6. ทานที่ให้แก่พระภิกษุ 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่ พระโสดาบันเพียงครั้งเดียว
7. ทานที่ให้แก่พระโสดาบัน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระสกิทาคามีเพียงครั้งเดียว
8. ทานที่ให้แก่พระสกิทาคามี 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระอนาคามีเพียงครั้งเดียว
9. ทานที่ให้แก่พระอนาคามี 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระอรหันต์เพียงครั้งเดียว
10. ทานที่ให้แก่พระอรหันต์ 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระปัจเจกพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว
11. ทานที่ให้แก่พระปัจเจกพระพุทธเจ้า 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว
12. ทานที่ให้แก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าสังฆทานที่ให้แก่พระสงฆ์ที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธานเพียงครั้งเดียว
13. ถวายสังฆทานที่ให้แก่พระสงฆ์ที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าการถวายวิหารทาน คือ สร้างกุฏิ, อุโบสถ, ศาลาเพียงครั้งเดียว
14. ให้วิหารทาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าการให้ธรรมทานเพียงครั้งเดียว
15. ให้ธรรมทาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าการให้อภัยทานเพียงครั้งเดียว
16. ให้อภัยทาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าการรักษาศีล 5
17. รักษาศีล 5 ได้ผลน้อยกว่าการรักษาศีล 8
18. รักษาศีล 8 ได้ผลน้อยกว่าการรักษาศีล 10
19. รักษาศีล 10 แม้นาน 100 ปี ได้ผลน้อยกว่าการอุปสมบทเป็นพระภิกษุผู้รักษาศีล 227
20. การอุปสมบทเป็นพระภิกษุผู้รักษาศีล 227 ไม่ด่างพร้อย 100 ปี ได้ผลน้อยกว่าผู้ทำสมาธิให้จิตสงบชั่วขณะนานเท่าไก่กระพือปีก งูแลบลิ้น ช่วงลัดนิ้วมือเดียว

^
^
^
ตามนั้นเลยครับ
มันอยู่ที่เจตนาด้วย ประกอบเป็น 3 ประการ
-ก่อนทำบุญ
-ขณะทำ
-ทำแล้ว

สาธุ...ยกมือสาธุกับคนทำดีก็ได้บุญเหมือนกันเรียกว่า อนุโมทนามัย