จะว่าไปคุณเจ้าของกระทู้ก็เจอปัญหาประมาณเดียวกันกับผมนะครับ แต่ก็ไม่รู้จะแนะนำยังไงเหมือนกันเพราะพิจารณาตัวเองแล้วถึงจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ระดับนึงแต่ก็ยังไม่ถือว่าดีเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเล่าให้ฟังกันแบบแชร์ประสบการณ์ละกันนะครับ
เริ่มแรกเลย เลือกที่ชอบ อันนี้จะว่าไปก็ดีแต่เวลาจะทำจริงๆมันมีอะไรที่ต้องพิจารณาหลายเรื่อง หลักๆก็เรื่องเงินทุนครับ
อย่าเช่นผมชอบ ถ่ายรูป(สิ่งที่ขายได้คือกล้องและอุปกรณ์เสริม) , คอมพิวเตอร์(ก็ต้องขายคอมกับอุปกรณ์เสริมแหละ) , ปลูกต้นไม้(อันนี้ขายสิ่งที่เกี่ยวข้องกับต้นไม้ก็ได้มีให้เลือกเยอะแยะตาแป๊ะก่าย) แต่สองอันแรกต้องตัดออกไปเพราะทุนรอนส่วนตัวของผมไม่ถึง เรียกว่าถึงชอบรถสปอร์ตแต่ทุนเิริ่มพอไหวแค่เฟสสันคันเดียว แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ตังถึงก็ตามสะดวกเลยครับ ผมก็เลยเริ่มต้นที่อุปกรณ์เกี่ยวกับต้นไม้ ทุกวันนี้ก็ไปของมันได้เรื่อยๆไม่ได้ตังมากมาย(เรียกว่าได้น้อยเลยจะตรงกว่า) แต่เท่านี้สำหรับการเริ่มต้นก็โอเยอยู่ อาทิตย์นึงเตรียมของ+วิ่งส่งของใช้เวลาราวครึ่งวันจบ เหลืออีกหกวันครึ่งทำไรดี ?
ทำที่ตัวเองถนัดและมีความสามารถ(อันนี้บางทีอาจไม่ใช่ที่ชอบก็ได้) อย่างผมช่วยแฟนกับญาติเธอทำธุระกิจอันนึง ซึ่งผมกับแฟนไม่ได้ชอบเลยแม้แต่น้อย แต่เรามีบุคคลสำคัญคือญาติของแฟนผมซึ่งเขามีความรู้ความสามารถในเรื่องของธุรกิจนี้เรียกว่ามองขาดว่าของชิ้นไหนขายได้ขายไม่ได้ ส่วนแฟนผมคุยกับลูกค้าเก่งก็ทำหน้าที่เจรจากับลูกค้า ผมคุยไม่เก่งแต่เป็นคอมก็ทำเว็บทำ SEO นั่นนี่เท่าที่พอจะทำได้ซึ่งจริงๆทำน้อยมาก(ไม่ได้จะบอกว่า SEO ไม่สำคัญนะครับ แต่อยากบอกว่าตัวสินค้าที่ขายสำคัญกว่ามาก) แล้วเราสามคนก็มาร่วมธุรกิจกัน(ญาติแฟนออกทุนซื้อของผมกับแฟนก็ออกแรงทำไป รายได้แบ่งกันตามส่วน) ทุกคนทำหน้าที่ถนัดของตัวเอง ธุรกิจตัวนี้ก็ถือว่าเติบโตได้มั่นคนพอสมควรครับ
อีกตัวที่ผมพึ่งลองๆทำตอนนี้ก็ ebay ครับ เริ่ม listing มาสองอาทิตย์ละ ออร์เดอร์ล่าสุดก็เที่ยงคืนที่ผ่านมารวมเป็น 5 ชิ้นที่ขายออก อันนี้ก็อีกอย่างที่เรียกว่าฉีกกฏสองข้อแรกที่ว่าขายของที่ชอบและถนัด เพราะสองธุรกิจแรกที่ผมว่ามาท่าทางจะไม่เวิร์คใน ebay เลยต้องใช้วิธีขายของที่วิเคราะห์แล้วว่าขายได้(อันนี้ดัดแปลงมาจากคำพูดพี่ trudy ที่นับถือครับ คิๆ)เรียกว่าขายของให้ได้ก่อนเดี๋ยวค่อยไปถนัดกันทีหลัง ส่วนเครื่องมือวิเคราะห์ผมใช้ terapeak ครับ แต่อันนี้ใช้วิเคราะห์เฉพาะสินค้าใน ebay นะครับ อาจารอาร์มแห่ง thaiebaymaster แนะนำไว้ในคอร์สที่ผมได้เป็นศิษย์รุ่นทดสอบเรียนฟรีครับ (ขออณุญาติแนะนำ link เป็นการตอบแทนค่าเรียนฟรีสักเล็กน้อย
http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=314908.60 
)
มาเรื่องการหาของกันบ้าง อันนี้เอาเฉพาะใน ebay นะครับ พอดีกำลังหนุกหนาน แรกๆก็นึกไม่ออกเหมือนกันครับว่าจะขายอะไรดี ก็ใช้วิธีเดินตามแหล่งช๊อปปิ้งพวก จตุจักร สัมเพ็ง ฯลฯ แล้วก็จดๆกับถามราคาส่งเอาไว้ก่อน เสร็จก็เอามาวิเคราะห์ใน ebay หรือ terapeak ว่าอันไหนขายได้ไม่ได้ ดูความถี่แล้วโอเยก็คำนวณว่าราคาว่าที่ขายกันมีกำไรมั๊ย ถึงความถี่ดีแต่เล่นตัดราคากันสะบั้นหั่นแหลกได้กำไรจิ๊ดเดียว(เห็นว่าใน ebay ปู้ยี่ปู้ยำกันซะเละไปหลายตัวละ)ก็ขอผ่านละ ถ้ามีกำไรและได้ราคาส่ง(โดยไม่ต้องซื้อหลายชิ้น)ก็น่าสน
ล่าสุดผมก็พึ่งได้ offer น่าสนใจจากร้านหน้าปากซอยบ้าน แบบเค้า drop ส่วนผม ship คือเค้าให้ผมเอาของเค้ามาถ่ายรูปลงขายได้ ถ้ามีคนสั่งผมก็แค่ปั่นจักรยานไปเอาของ จ่ายตังพี่เค้าในราคาส่ง(มั๊งนะ) พี่เค้าก็มีกำไร ผมก็มีกำไร อาจเป็นของที่ขายได้ไม่บ่อยมากแต่ดูความถี่ก็ถือว่าได้เรื่อยๆ เงินก็ไม่ต้องจมกับค่าของ อันนี้ก็ขายก่อนค่อยไปถนัดทีหลัง ส่วนเรื่องความสุขในการทำธุรกิจก็ไว้ค่อยไปปลื้มกับตัวเลขยอดขายละกัน จะเอาตังส่วนนั้นไปซื้อความสุขอีกทีก็ค่อยว่ากัน ถ้าเน้นขายได้ไม่เน้นเรื่องชอบและถนัดผมว่าหาร้านแถวบ้านดูก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ บางทีอาจมีอะไรใกล้ตัวที่คุณเจ้าของกระทู้มองข้ามไปก็เป็นได้นะ
อีกอันก็ IM อันนี้ทำๆหยุดๆไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพาย ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ด้วย ขอผ่านละกันนะครับ
สุดท้ายเรื่อง drop ship อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ครับ แรกๆผมก็เลือกทางนี้ก่อนเลยนะเพราะดูแล้วน่าจะเซฟทุนไว้กินเที่ยวฟุ่มเฟือยตามที่ถนัดได้เยอะอยู่ แต่พอศึกษาหาข้อมูลได้สักพักก็เกิดคำถามคาใจ อย่างเช่น มีคนใช้บริการเค้าเยอะมั๊ย ? (เพราะคนที่ใช้บริการ drop ship ก็คือคู่แข่งของเราง่ะแหละ) มองในมุม drop ship เค้าก็คงอยากให้มีคนมาใช้บริการเค้าเยอะๆอยู่แว้วใช่ป๊ะ , อย่างเราขายใน ebay เงี๊ยะ drop ship ในไทยจะให้บริการส่งนอกมั๊ย ? (อันนี้ยังไม่ได้หาคำตอบ) , ต้องซื้อของในครั้งแรกก่อนอ๊ะป่าว(มีบางเจ้าบอกครั้งแรกต้องซื้อของก่อน)อ๊าว!! ไหนบอกในโฆษณาว่าไม่ต้องสต๊อกของไง วัยรุ่นมึนนะเนี่ย ? , สมมุติว่าเราขายของเค้าได้ดีมีกำไรเยอะๆเจ้าของ drop ship รู้เข้าจะตาโตกระโดดเข้ามาร่วมวงด้วยอ๊ะป่าว ? ถ้าเข้ามาร่วมวงด้วยแล้วเค้าจะเกิดรายการตัดราคาอ๊ะป่าว ? (ข้อหลังเนี่ยผมว่าเค้ามีฟามสามารถจะทำได้เหมือนกันนะ) ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ก็เป็นข้อข้องใจและความขี้ระแวงส่วนตัวล้วนๆครับ ไม่ได้จะเปี้ยวนะ เดี๋ยว drop ship ชวนผมใฝ้ขึ้นมาละแย่เลย
"ป.ล.หากข้อสงสัยของผมหมิ่นเหม่อาจก่อให้เกิดมาม่าเชิญท่าน admin ลบ ความคิดเห็นของผมก็ไม่เคืองครับ"
สุดท้าย ถึงเจ้าของกระทู้ สู้ๆครับ

..... . . . . . . . . . . จบ เอย