แชร์ประสบการณ์ E-Commerce แบบบ้านๆ ไม่มีกั๊ก BY Popcorns

อยู่ TSB มาก็เนิ่นนานเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ในการทำ E-Commerce ครั้งแรกให้ฟัง
เห็นตอนนี้มีคนเริ่มสนใจที่จะทำกันมากขึ้น แต่ก็ต้องติดปัญหาหลายๆอย่าง อย่างที่ผมเคยเจอไม่มากก็น้อย
เป็นประสบการณ์การสั่งของจากจีนมาขาย ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็คิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ใครหลายๆคนยังไม่เคยลอง

ต้องบอกไว้ก่อนว่า สิ่งที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ตอนต้นปี ซึ่งตอนนี้ผมไม่ได้ทำแล้ว เพราะติดปัญหาที่ว่าเรียนจบ ย้ายกลับบ้าน บ้านไม่มีเน็ต ต้องหางานทำ บลาๆๆ คิดเอาไว้ว่าหางานทำได้แล้วจะเริ่มต้นทำอีกครั้ง...

ตอนที่ 1 มัวแต่กลัว เมื่อไหร่มันจะโตวะ

ปัญหาแรกที่ทุกคนจะเริ่มทำต้องเจอ กลัว กลัวเจ๊ง ใช่ใครจะไม่กลัว ผมก็กลัว ขนาดยังไม่ได้ทำ ปัญหา 108 ก็เข้ามาถามหาแล้ว
กูจะขายอะไร ขายให้ใคร แล้วขายที่ไหน ก็อย่างว่าแหละ "คิดว่าทำไม่ได้ จึงไม่ได้ทำ" คิดไปก็ปวดหัวตีดอทมันกว่า
จุดเริ่มต้นมันเริ่มเมื่อปลายปีที่แล้ว แม่ให้เงินมาซื้อ notebook 2 หมื่น แต่ไม่ซื้อ จะซื้อทำไม PC ที่หอก็มี
เอามันมาทำทุนซะเลย ผมเป็นประเภทที่ว่าถ้าไม่มีสินค้าอยู่กับมือ ตอบคำถามลูกค้าไม่ได้ ผมจะไม่กล้าขาย ดังนั้นเรื่องที่จะเป็น
นายหน้าขายของให้คนอื่นลืมไปได้เลย เป็นช่วงที่ผมได้รู้จักพี่คนหนึ่งในบอร์ดนี้ที่รับพรีออเดอร์จากจีนในเรทที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก
ก็เลยตัดสินใจได้ว่าสั่งของจากจีนมาขายนี้แหละ ทุนน้อย กำไรบาน ปัญหาต่อมาที่ถามตัวเองก็คือ กูจะเอาอะไรมาขายดีหว่า...

ตอนที่ 2 ปัญหาโลกแตก จะขายอะไรดี

ปัญหาโลกแตกจริงๆนั้นแหละ ดูจากกระทู้หลายๆกระทู้ก็ถามแนวนี้ทั้งนั้น ก็เลยมานั่งถามตัวเอง จะให้ขายของแฟชั่น กูยังใส่เสื้อตัวละร้อยอยู่เลย แฟชั่นเขาไปโลกไหนแหละก็ไม่รู้ ขายเครื่องสำอาง ตัวเองยังใช้สบู่ล้างหน้าอยู่ทุกวัน ไม่ใช่แนวเปลี่ยนๆ
ผมเลยแบ่งแนวทางการเลือกสินค้ามาขายเป็น 3 ข้อใหญ่ๆ คือ
1. สินค้าตามเทรน ตัวอย่างก็เช่น ukelele แต่คุณต้องตามเทรนให้ทันและให้ไว สินค้าพวกนี้มีจุดอิ่มตัวอยู่ ถ้าคุณไปสั่ง
ของมาขายตอนขาลงก็คิดหนักหน่อย ปล่อยของยากแถมต้องแข่งกับพวกที่มาขายก่อนหน้าคุณอีก
2. สินค้าเฉพาะกลุ่ม ตัวอย่างก็เช่น พวกเครื่องบินบังคับ ตลาดพวกนี้แคบและขายได้ง่าย แต่ก็อย่าลืมว่าคุณต้องมีความเชี่ยวชาญ
ในสินค้าที่จะขายด้วย และยิ่งคุณมีชื่อเสียงในบอร์ดของตลาดกลุ่มสินค้าที่จะขายละก็ เตรียมตัวรวยได้เลย
3.สินค้าทั่วไป ตลาดมันกว้างก็อยู่ที่ว่าจะเลือกอะไรมาขาย สินค้ากลุ่มนี้สามารถขายได้ตลอดเรื่อยๆ
สำหรับผมที่ทุนมีแค่นี้ ก็เลยคิดไว้ว่าจะเลือกสินค้าประเภททั่วไปมาขาย ผมไม่ใช่นักวิเคราะห์จึงใช้แค่หลักความน่าจะเป็น พูดง่ายก็คือเดา แต่ก็ต้องเดาอย่างมีเหตุผล และแล้วผมก็เจอสินค้าที่จะนำมาขาย นั้นก็คือ paint zoom เครื่องพ่นสีแบบพกพา หลายๆคนคงเคย
เห็นจากในทีวี คนกำลังเรื่มซ่อมแซมบ้านจากน้ำท่วมกันเยอะ ฉะนั้นสินค้าตัวนี้ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีแน่นอน ผมจึงจัดมาซะ 15 เครื่อง พร้อมท่อฉีดน้ำ 20 อัน
ต้นทุน paint zoom ต่อเครื่องคิดแบบเผื่อเยอะๆตกตัวละ 800x15 บาท รวม 12000 บาท
ขายเครื่องละ 1600x15 บาท รวม 24000 บาท กำไร 12000 บาท
ต้นทุน ท่อฉีดน้ำ ต่อแท่งคิดแบบเผื่อเยอะๆตกตัวละ 100x20 บาท รวม 2000 บาท
ขายแท่งละ 250x20 บาท รวม 5000 บาท กำไร 3000 บาท
กำไรที่น่าจะได้คือ 15000 บาท
เวลาผมคิดก็คิดแบบเถื่อนๆ แบบนี้ละครับ ไม่มีการลงรายละเอียดอะไรมากมาย ต่อไปก็เหลือแค่ว่าจะเอามันไปขายยังไงแล้วละครับ ของกองเต็มห้องไปหมด
*ฝากข้อคิดสำหรับการเลือกสินค้ามาขาย
-เห็นหลายคนชอบบอกว่าให้เลือกสิ่งที่ตัวเองชอบมาขาย ใช่ครับเลือกสิ่งที่ตัวเองชอบมาขายไม่ผิดและก็น่าจะดี
แต่อย่าลืมว่าคุณจะขายของ ไม่ใช่ซื้อของ ดังนั้นเวลาจะเลือกสินค้า ให้คิดเป็นกลาง มองหลายมุมๆ แล้วจะไม่ผิดหวัง

3.สุดท้ายก็ได้เริ่มขายซักที

หลังจากที่กล้าๆ กลัว จนมีของนอนกองอยู่เต็มห้องแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มปล่อยสินค้าทีเด็ดเราเสียที แล้วจะขายยังไงดีละ ขายที่ไหน
สินค้าก็มีอยู่ 2 แบบ จะให้ทำเว็บขายก็คงโล่งหน้าดู แถมต้องมาเสียเวลาโปรโมตพร้อมกับต้องทำ seo อีก และผมก็ไม่ได้คิดว่าจะขายสินค้านี้ไปตลอด กะว่าขายหมดแล้วจะลองหาอย่างอื่นมาขาย คำตอบที่ดีที่สุดของผมตอนนั้นก็คือ ขายตามเว็บบอร์ดไง ไม่ต้องเสียเวลาทำเว็บคนก็มีพร้อม และเว็บบอร์ดที่ผมเลือกที่จะลงขายสินค้าก็คือ overclockzone เป็นบอร์ดที่ผมชอบมาก คนก็เยอะแถมยังมีคนทุกเภท ทุกวัย หลังจากนั้นผมก็ถ่ายรูปสินค้าลงกระทู้ และโม้สรรพคุณลงไป ได้ผลเกินคาด ผมขายสินค้าหมดภายใน 15 วันตั้งแต่เริ่มโพสขายลงกระทู้ ก็มีทั้งมารับสินค้าเองบ้างส่งไปรษณีย์บ้าง ถึงรายได้จะไม่มาก แต่ก็ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ในการค้าขาย ขนาดผมขายหมดไปตั้งหลายเดือนแล้ว กระทู้ก็ลงไว้แล้วว่าหมด ยังมีคนโทรมาถามซื้ออยู่เลย

จบแล้วครับสำหรับประสบการณ์ขายบนโลกออนไลน์แบบบ้านๆ สำหรับคุณคนไหนที่คิดอยากจะลองเริ่มทำ จำเอาไว้นะครับ
"ถ้าคุณคิดว่าทำไม่ได้ คุณจึงไม่ได้ทำ"