อย่างที่คุณ  journey พูดนั่นแหละ จริงๆมันก็ควรวางเฉยไว้ จิตใจเราจะได้ไม่ขุ่นมัว
แต่เป็นไงไม่รู้ ศรัทธาของผมต่อพระพุทธศาสนานับวันจะลดน้อยลงทุกที เหตุการณ์มันเริ่มมาจาก ที่พระออกมาดวยวายโมโหที่ศิลปินเขียนภาพออกมา แล้วลูกศิษย์ลูกหาก็ออกมาโวยวาย จนลืมเรื่องนึงไปซึ่งเป็นหลักทางพระพุทธศาสนาที่สอนมาตลอดให้พยายามละเรื่อง โทษะ และ โมหะ จนผมมองว่าบางคนไม่ได้เลื่อมใส แต่กลายเป็นนับถือ กลายๆไปเป็นความลุ่มหลง
ซึ่งจริงๆเราควรตระหนักไว้ว่ามีหลักธรรมเรื่อง อสังขาร ซึ่งทั้งพระและเครือข่ายชาวพุทธเองน่าจะได้เรียนรู้และซึมซับเข้าไป ผมอยากชี้ให้เห็น วว่า ผ้าเหลืองนั้นเป็นเพียงสิ่งสมมุติขึ้นมา ไม่ว่าจะฟ้าเหลือกี่ผืนก็ไรค่า หากขาดซึ่งความศรัทธา
ตอนผมยังเด็กผมได้เรียนเรื่องนึงจากวิชาสังคมศึกษา เค้าบอกไว้ว่า การให้บุญหรือให้ทานหากเราหวังในสิ่งตอบแทน เราก็จะไม่มีทางได้บุญเลย ผมจะยกตัวอย่างให้อ่านกันสักเรื่อง
มีนายคนนึง ไปทำบุญถวายทานบ่อยครั้ง โดยที่หวังว่าจะได้บุญได้กุศล หวังถึงโชคลาภ แต่พอเอาเข้าจริง กลับไม่มีโชคลาภมหาศาลอย่างที่เค้าคิด นายคนนั้น ก็เป็นทุกข์ อาจะคิดประมาณว่า อะไรวะก็เราทำบุญตั้งเยอะทำไมไม่เห็นโชคดีกับเค้าเลย
ส่วนอีกคน ไม่เคยเข้าวัดเลย สวดมนต์ก่อนนอนก็ไม่เคย แต่ว่านานคนนี้ เห๋นคนเดือดร้อนทีไรต้องเข้าไปช่วย เพราะเค้ามีความสุขที่ได้ช่วย โดยที่ไม่ได้หวังว่าจะได้อะไรตอบแทนเลย นายคนนี้สิ ถึงจะเรียกว่าได้บุญ
อีกประเด็นที่ผมอยากจะพูดมากก็คือ การสวดมนต์ หรือท่องพระธรรมวินัย มีหลายคนจริงๆ ที่ท่องเป็นแต่ภาษาบาลี แต่ไม่ได้เข้าใจความหมายของมันเลย วันนึงท่องไปเป็นร้อยรอบ แบบนั้นสำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องงมงาย เพราะเท่าที่สมองอันน้อยๆของผมที่ได้รู้มาคือ ที่พระพุทธเจ้าได้ใช้ภาบาลีเพราะที่แรกที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้น มันต้องใช้ภาษาหนึ่ง (ผมเข้าใจว่าเป็นภาษาสิงหล รึเปล่าไม่รู้ ใครรู้ช่วยแจ้ง) ภาษาท้องถิ่นนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นภาษาบาลี แต่เอาอีท่าไหนไม่รู้ คนดันคิดว่าภาบาลีเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์
ผมเป็นคนนึงที่เลื่อมใสและศรัทธาในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา แต่กำลังเสื่อมศรัทธาต่อผู้ที่ได้รับชื่อว่าเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา ทางแก้เหรอผมไม่รู้หรอก เพราะสำหรับผมพระพุทธศาสนาไม่เคยเสื่อมครับ
อุ๊ยลืมตัวบ่นตั้งนานจะมีคนอ่านมั้ยเนี่ย  

ปล. ความเห็นของผมอาจจะเป็นอันตรายต่อบอร์ด ถ้าพี่มดเอ็กเห็นว่าไม่สมควร เชิญลบได้ตามสบายครับ ผมไม่โกรธ อิอิ