เรืองเล่าของน้องเหมือนของพี่มาก

พี่ก็เจอปัญหาเดียวกันในตอน ม.3 เหมือนกัน เป็นนักบาสเหมือนกัน พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ ล้มละลาย อยู่บ้านกับน้องแค่สองคน ต้องเลี้ยงดูตัวเอง
คือว่าน้องเล่ามา ปัญหาเดียวกันกับพี่ รูปแบบคล้ายๆ กัน แต่ต่างที่ยุคสมัยและเหตุผล
ของพี่ อีก 7 วันพี่ไม่ยอมไปสอบ เพราะพี่โกรธครูคนนึงมาก เค้าทำอะไรมาเยอะมากซึ่งขอตัดออกไป
7 วันก่อนสอบ ปู่ของพี่ได้โทรไปบอกพ่อตอนใหนไม่ทราบ พ่อแม่พี่บินกลับมาจากต่างประเทศ แล้วถามว่า เลือกเอาสองข้อ อยากเรียนต่อ หรือ จะหยุดเรียนและเลี้ยงตัวเอง
ครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถือว่าพลาดที่สุด ในชีวิต มันทำให้โอกาศอาชีพต่างๆ ที่วาดฝันไว้หายไปทันที พี่เลือกที่จะหยุดเรียน และไปทำงาน แต่พ่อพี่ให้พี่ไปทำงานก่อสร้างที่ระยอง (พ่อมาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง)
พ่อพี่ไม้ให้ถือสิทธิว่าเป็นลูก แต่ถือสิทธิให้เป็นลูกจ้าง พี่เป็น กรรมกร แบกปูน ยันเป็นช่างทาสี จากนั้นก็ทำอยู่หลายปี จนเพื่อนๆเริ่มจบกันหมด และมีงานดีๆ ทำ เรากลับมาย้อนมองตัวเองไม่มีอะไรดีๆเหลืออยู่เลย
พี่เลยตัดสินใจ กลับไปเรียน กศน และทำงานพาท์ไทม์ที่ แมคโดนัล พอจบ กศน ม.ต้น พี่ก็ย้ายมาชลบุรี ทำงานต่อเก็บเงินเรียนต่อ
ทำแบบนี้หลายปีถือว่าลำบากมากๆ
ถ้าน้องคิดเลือกเดินสายเดียวกับพี่ พี่บอกหรือแนะนำเลยว่าอย่าเลยเราหมด อนาคต ซึ่งความสามารถพี่ที่มีในตอนนี้ หากซึ่งไร้วุฒิการศึกษาแล้ว ก็เป็นเพียงแค่ชนชั้นแรงงาน ครับ
น้องก็กลับไปคิดดูให้ดีๆ นะครับ หวังว่าเรื่องของพี่เป็นบทสรุปที่ออกมาหากเลือกทางผิดนะครับ
