มาแชร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ได้ไปฟัง สัมนา eBay มานะครับ ก็ได้รู้จักคำว่า Dropship เพิ่มเติมมา อาจารย์เค้าบอกว่า ก็หมายถึง drop - ตก , ship -เรือ รวมเป็น เรือตก

ถ้าใครรับสินค้าขายแบบ pre-order หรือ อย่างซื้อขายใน eBay ก็จะเรียกตัวเองได้ว่าเป็นเอเย่นต์ โดยเราเพียงนำข้อมูลสินค้า ภาพถ่ายทุกอย่างจาก supplier (ที่สนับสนุน Dropship) มาลงในเวปเรา แล้วโปรโมทขายให้ลูกค้า > พอลูกค้าสั่ง จ่ายเงินให้เรา > เราก็ทำการสั่งซื้อ + ค่าขนส่งให้กับsupplier > แล้ว supplier จะส่งสินค้าไปยังผู้บริโภคคนสุดท้าย เอง โดยไม่จ่าหน้าซองว่ามาจากที่อยู่ไหน รู้แต่เพียงประเทศเท่านั้น > ลูกค้าเราก็ให้คำชื่นชม หรือ Feedback (eBay) ถึงเรานั่นเอง
จะเห็นว่ากระบวนทั้งหมด เราจะมีข้อระแวงอยู่บางเรื่อง เช่นว่า - กลัวลูกค้ารู้ว่ามาจากแหล่งไหน เพราะsupplier จะเขียนที่อยู่เค้าไว้เพื่อดึงลูกค้าเราไป ตรงนี้ ถ้ามองในเชิงธุรกิจระยะยาว และด้วยเหตุผลแ้ล้ว เค้าไม่ทำแบบนั้นครับ เพราะว่า เค้าจะยินดีมากที่เราเป็น sale ให้เค้า โดยเค้าไม่ต้องจ่ายเงินเดือน จริงมั้ยครับ
- จ่าหน้าซองของพัสดุ จะทำให้ลูกค้ารู้ว่ามาจากประเทศไหน เช่น จีน เป็นต้น ก็ให้เราทำการอธิบายลูกค้าว่าเรามีสำนักงานขายอยู่หลายประเทศ หรือมีสินค้าสต๊อกตามแต่ละแห่ง ก็ว่ากันไปยาว..
- เรากลัวเรื่องคุณภาพของ เรื่องระยะเวลาขนส่ง เรื่องความน่าเชื่อถือเมื่อเราจ่ายเงินไปก่อนแล้ว ต่างๆ ทั้งนี้ก็ให้เราลองก่อนครับ โดยซื้อ sample สัก 1 ชิ้น แล้วให้แน่ใจก่อนทำการ สร้างกระบวนการ dropship ครับ
และมาทีนี้ผมมานั่งคิด นอนคิดอยู่เหมือนกันว่า เมืองไทย เรา อย่างพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ จะมีกระบวนการ Dropship ได้มั้ย ตรงนี้ จะมาแชร์ให้ฟังครับ
1. เริ่มจากพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ เรียกกันว่า Dropshipper
( ควรเป็นพ่อค้าแม่ค้า ที่มีสต๊อกของเยอะ ลักษณะเน้นค้าส่ง) จากการโปรโมทเวปไซต์ที่รองรับ การเข้าชมของผู้สนใจทั่วไป โดยทางเรากำหนดสิทธิให้ กับคน หรือหลายๆคน (เค้าเหล่านั้นคือ Dropship man) เมื่อ log in เข้ามาแล้ว ได้เห็นราคาสินค้าราคาส่ง (คนทั่วไปจะเห็นราคาปกติ) เพราะเค้าอยู่ในฐานะ ผู้ขายของร้านค้าเรา โดยที่เราไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้เค้า
2. ผู้ขาย ทำการโปรโมทสินค้าผ่านร้านค้าของตัวเอง นำรูป นำข้อมูล จาก Dropshipper ว่าสินค้าชิ้นนี้ หรือแบรนด์นี้ ซื้อได้ในราคาพิเศษ (โดยผู้ขายได้บวกกำไรและค่าขนส่งไปด้วยแล้ว)
3. จากข้อ 2 เมื่อลูกค้าเห็นจากเวปแล้วสนใจของขึ้นมา ก็ทำการจ่ายเงิน โดยทำการจ่ายให้กับทางบัญชีของ Dropshipper ทันที (ลูกค้าเค้าไม่รู้หรอกครับ ว่าใครเป็นใคร

) แต่ผู้ขายก็ทราบว่า ลูกค้ารายนี้ทำการโอนเงินให้กับ Dropshipper แล้ว เพราะว่าลูกค้าไ้ด้ส่งคำสั่งซื้อ รายละเอียดข้อมูลที่อยู่จัดส่ง หลักฐานการชำระเงิน ผ่านทางหน้าเวปไซต์ของผู้ขายนั่นเอง!
4. ในทางเดียวกัน Dropshipper จะรู้ว่ามีเงินเข้า และขณะเดียวกัน ผู้ขายทำการแจ้งไปยัง Dropshipper ว่ามีผู้สนใจซื้อ ได้จ่ายเงินเรีียบร้อยแล้ว ชื่อเมล หรือชื่อ นามสกุล ดังนี้ แล้วส่งข้อมูลว่ารายการสั่งซื้อ เป็นสินค้ารายการไหน ยอดเท่าไหร่ (โดยอาจส่งใบแจ้งหนี้ ที่ทางระบบเวป eCommerce ได้สร้างไว้ให้ ส่งให้ dropshipper ไปด้วยเลย)
5. Dropshipper ทำการรีบส่งสินค้าถึงที่อยู่ลูกค้า และควรระบุจ่าหน้าซองผู้ส่ง เป็นชื่อ account ของผู้ขายรายนั้นๆ
ุ6. เมื่อลูกค้าได้รับของแล้ว และทาง Dropshipper ก็ทำการจ่ายเงินส่วนต่าง ที่ถููกลบต้นทุนบวกค่าขนส่งแล้วนั่นเอง ส่งคืนให้กับผู้ขาย ในวันถัดมา
ึ7. ลูกค้าชื่นชม ผู้ขาย และติดต่อสอบถามข้อมูลสินค้าอื่นๆ จากทางผู้ขาย โดยผู้ขายใช้มุขที่ว่า
คำตอบทุกอย่างได้อยู่ในรายละเอียดสินค้าทั้งหมดแล้ว ก็จะมาเริ่มกระบวนการ Dropship ใหม่อีกรอบ
หลายคนคงมีข้อระแวง เกิดขึ้นอีกแล้ว

หรือคำถามว่า มันจะแตกต่างอะไรกันกับ ว่า เราซื้อของมาแล้วขายต่อ จริงๆก็แตกต่างครับ ตรงที่ ผู้ขายนั้นทำงานออนไลน์โดยแท้จริง และไม่ต้องสต๊อกของครับ เห็นเพื่อนบอร์ดที่ สั่งของสต๊อกเยอะก็มีอยู่ไม่น้อย ระบบ Dropship คงเป็นทางออกของพ่อค้า แม่ค้า ที่ว่ามานะครับ