ต่อไป »

[bubbleball]

เนื่องจากเป็น admin มานาน จะติดนิสัยโรคจิตนิดๆครับ ชอบไล่ย้อนอ่านโพสต์ชาวบ้าน เรียกว่าเป็นข้อเสียก็ว่าได้   

[barbies55]

ไม่เป็นไรค่ะ สังคมเดียวกัน หากต้องโดนGGเก็บก็คงโดนกันทั้งหมดนี่แหละค่ะ ขอบคุณค่ะ 

อารมณ์ประมาณว่า ถ้าระเบิดลงก็ตายพร้อมกันไปเลย แต่คนที่เขาไม่อยากตายด้วยก็มีอยู่นะ  
ตอนแข่ง SEO สถานที่ท่องเที่ยว ยังมีกฎห้ามสแปม ห้ามสายมาร แล้วแข่งรอบนี้ไม่มีกฎเหรอ

[Piscess]

ไม่เป็นไรค่ะ สังคมเดียวกัน หากต้องโดนGGเก็บก็คงโดนกันทั้งหมดนี่แหละค่ะ ขอบคุณค่ะ 

อารมณ์ประมาณว่า ถ้าระเบิดลงก็ตายพร้อมกันไปเลย แต่คนที่เขาไม่อยากตายด้วยก็มีอยู่นะ 
ตอนแข่ง SEO สถานที่ท่องเที่ยว ยังมีกฎห้ามสแปม ห้ามสายมาร แล้วแข่งรอบนี้ไม่มีกฎเหรอ

จัดแข่งบังหน้ามังคะ จริงๆอยากได้อย่างอื่น

[RedLabel]

ไม่เป็นไรค่ะ สังคมเดียวกัน หากต้องโดนGGเก็บก็คงโดนกันทั้งหมดนี่แหละค่ะ ขอบคุณค่ะ 

อารมณ์ประมาณว่า ถ้าระเบิดลงก็ตายพร้อมกันไปเลย แต่คนที่เขาไม่อยากตายด้วยก็มีอยู่นะ 
ตอนแข่ง SEO สถานที่ท่องเที่ยว ยังมีกฎห้ามสแปม ห้ามสายมาร แล้วแข่งรอบนี้ไม่มีกฎเหรอ

จัดแข่งบังหน้ามังคะ จริงๆอยากได้อย่างอื่น

อยากดบวกให้สักล้านครั้ง แต่ยังกดไม่ได้ ติดไว้ก่อน ใครช่วยกดแทนที 

[kasetthai]

เป็นกำลังใจให้คนที่โดนผลกระทบนะครับ  การแข่งขันนับวันยิ่งเข้มข้นขึ้น ไม่ว่าจะ คีย์ไทยหรือคีย์ต่างประเทศ 
ขอบคุณคุณบอล ที่อยู่ดูแลไทยเสียวมาโดยตลอด 

[WebSnow]

โพสที่ 3 เรืองศิลธรรม

ศิลธรรม
มาจาก ศิล + ธรรม
ศิลแปลว่าความปกติ แต่ละศาสนาจะมีข้อละเว้นไม้ให้ทำสิ่งต่างๆ จุดมุ่งหมายของศิล มีไว้เพื่อไม่ให้เบียดเบียนผู้อื่นและตัวเอง
ธรรมมีความหมาย 2 อย่าง 1.ธรรมชาติ 2.ในพุทธศาสนาหมายถึงคือหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ของศาสนาอื่นๆก็มีคำสอนของศาสดาและพระเจ้า

ศิลธรรม มีในศาสนาหลักอื่นๆของโลก แต่เรียกชื่อต่างกันและสอนต่างกันบ้าง
แต่มีพื้นฐานเดียวกัน ตรงที่ว่า สอนให้คนละเว้นทำบาป ไม่เบียดเบียนกัน และสอนให้คนทำดี
ถ้าคนในแต่ละของศาสนาปฏิบัติตามคำสอนของศาสดาตน ในเบื้องต้นคนก็จะอยู่อย่างมีความสุข

นิทานศิลธรรม เรื่อง เศรษฐีและชาวบ้านป่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานมากๆ นานจนผมจำไม่ได้ เลยต้องแต่งนิทานขึ้นมาเองใหม่
เมื่อ 4 อสงไขยกับแสนมหากลัปที่แล้ว

ณ.แห่งหนึ่งชื่อว่า "บ้านป่าน้อยกลอยใจ" มีชาวบ้านป่าแห่งหนึ่งมีหมู่บ้าน50หลัง อยู่กันเป็นครอบครัว จำนวณประชากรร้อยกว่าคน อยู่ในป่า

ใหญ่
ชาวบ้านอาศัยป่าเป็นแหล่งทำมาหากิน โดยมีอาชีพหลัก 5 อย่างเพื่อดำรงค์ชีพ
1.เก็บของป่าขายและกิน 2.ล่าสัตว์  3.เลี้ยงสัตว์ 4.ปลูกพืช  5.ตัดไม้ทำฟืนและก่อสร้าง

มีชายคนหนึ่งเคยอยู่ในหมู่บ้านนั้นและก็เคยทำอาชีพ5อย่าง ต่อมามีโอกาสได้มาอยู่ในเมืองหลวงได้รับการศึกษาและมีฐานะดีเป็นเศรษฐีอยู่

ในเมืองหลวง มีอาชีพเกี่ยวกับการทำธุรกิจเกี่ยวกับป่า

วันหนึ่งเศรษฐีคนนี้ไปเที่ยวป่าและสำรวจป่า ไปพบหมู่บ้านป่าแห่งหนึ่ง ชื่อว่า "หมู่บ้าน ป่าใหญ่หวานใจเธอ" หมู่บ้านป่านี้มีอาชีพ5อย่าง

เหมือนกับ  "บ้านป่าน้อยกลอยใจ" และอาศัยป่าเพื่อเลี้ยงชีพ

เศรษฐีพบป่าใหม่
เศรษฐีเลยได้ ความคิดว่า ว่าเราอยากจะครอบครองป่า  "หมู่บ้าน ป่าใหญ่หวานใจเธอ"
โดยทำอาชีพ5อย่างเหมือนกับชาวบ้าน และเอามาเป็นของเราทั้งหมดคนเดียว
ส่วนชาวบ้านให้ไปหากินที่ป่าอื่นได้ มีป่าเยอะแยะชาวบ้านไม่น่าจะอดตาย
และคิดว่าถ้าเราไม่ทำคนอื่นก็จะทำ ชาวบ้านยังทำเลย ผู้แข็งแรงที่สุดเท่านั้นที่จะอยู่รอด
มันเป็นธรรมดาของการแข่งขันกัน ชาวบ้านต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อความอยู่รอด นั่นคือความคิดของเศรษฐี

เศรษฐีและพวกตัดป่า
เศรษฐีต้องการขยายฐานอำนาจและกิจการให้ใหญ่โตเพิ่มความร่ำรวยให้ตัวเองและพวกพ้อง
ก็เลยไปประกาศที่เมืองหลวงหาผู้มีความรู้ความสามารถระดับแนวหน้าของประเทศและมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย
แล้วให้ค่าจ้างอย่างาม เหล่าบรรดาผู้มีความสามารถก็มาทำเพื่อต้องการค่าจ้างรางวัล ทั้งหมดก็ไม่รู้ว่าผลอะไรจะเกิดขึ้นตามมา

เศรษฐีและเหล่าผู้มีความสามารถก็ไป ตัดต้นไม้ในป่าที่ "หมู่บ้าน ป่าใหญ่หวานใจเธอ" เก็บของป่าและล่าสัตว์ จนหมดป่า
แล้วสมัยนั้นไม่มีกฏหมายคุ้มครองป่า แล้วชาวบ้านป่านั้นก็หมดอาชีพทำมาหากิน 5 อย่างตามที่ตัวเองถนัด ป่าหมดไปฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาล
เกิดความแห้งแล้งและน้ำท่วม ชาวบ้านเดือดร้อน ลูกเมียลำบาก เด็กๆอดตายไปเยอะ
เหลือแต่เฉพาะชาวบ้านที่แข็งแรงที่สุดที่อยู่รอด บางคนก็ต้องออกไปทำมาหากินไกลๆในถิ่นที่ตัวเองไม่ถนัด กว่าจะเดินทางกลับบ้านก็มืดค่ำ

เพราะว่าไกลมาก สิ่งที่เคยมีเช่นข้าวสาร ตอนนี้ก็ไม่มี เหลือแต่ "แกลบ"  (พวกเราชาว thaiseo ยังโชคดียังมี "มาม่า" ให้กิน) ชาวบ้านมี

แต่"แกลบ"ไว้กิน
ชาวบ้านก็คือชาวบ้านไม่ได้ฉลาดทำมาหากินเหมือนกับที่เศรษฐีคิดไว้

ผลออกมาเศรษฐีและพรรคพวกก็ร่้ำรวยขึ้น ประสบความสำเร็จในธุรกิจ มีทั้งคนยกย่องและบ่นด่าจากผู้คน ผสมกันไป
ตอนนั้นเศรษฐีและพรรคพวกก็ไม่รู้ว่าชาวบ้านเดือดร้อนและอดตายกันมาก เพราะว่าตัวเองจากมาแล้ว

เศรษฐีคนที่ 2 3 4 5 6 ทำตาม
พอคนอื่นทราบข่าวว่าเศรษฐีคนนั้น ทำสำเร็จร่ำรวยดี ก็อยากจะทำบ้าง เศรษฐีคนที่2 คิดตามเดินตามรอย
ก็พากันไปตัดป่าไม้ จนชาวบ้านไม่มีที่ทำมาหากิน  พากันทำเรื่อยๆเกิดเศรษฐีหลายคน

เศรษฐีคนอื่นไปตัดป่าไม้ บ้านเกิดเศรษฐีคนแรก
ในที่สุดก็ไปถึงป่า "บ้านป่าน้อยกลอยใจ" ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ เศรษฐีคนแรก ซึ่งยังมีญาติๆอยู่ที่นั่น
หมู่บ้านนั้นโดนเหมือนกัน โดนตัดป่าหมดและชาวบ้านหมดทางทำมาหากิน เหลือแต่คนแข็งแรง คนอดตายกันเยอะ

ต่อมาเศรษฐีคนแรกทราบข่าวจากญาติ ว่าหมู่บ้านเกิดตัวเองและญาติตัวเองโดนแบบนี้
เศรษฐีคนนี้ก็เสียใจมากที่ทราบข่าวและเสียใจที่ตนเองเป็นผู้เริ่มต้นทำก่อน
ต่อมาเศรษฐีทราบว่ามีชาวบ้านเดือดร้อนและตายกันไปมากจากการอดอาหาร ตัวเองก็เสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าผ่านมาแล้วและพวกก็

พากันเสียใจ จนล้มป่วยลง

พระราชาทราบข่าวและลงโทษ
ต่อมาชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก  พระราชาทราบข่าวว่ามีการตัดไม้ทำลายที่ทำมาหากินของชาวบ้าน ให้ชาวบ้านอดตาย
สมัยนั้นเป็นการปกครองแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
พระราชาสั่งทหารไปจับตัว บรรดาเศรษฐีและพรรคพวกที่ไปตัดป่า จับมาขัง ให้อดอาหารตาย เหมือนกับชาวบ้านที่อดอาหารตาย
เงินทองที่หามาได้เหนือยแทบตาย ก็ได้ใช้แป๊บเดียว แล้วต้องไปตายในคุก อดอาหารตาย

-- จบแล้ว ---
____________________________________________________

วิเคราะห์ศิลธรรม ในนิทาน

1).การกระทำของเศรษฐีและพรรคพวก ผิดศิลธรรมตรงไหน ?

1.1 ผิดศิลข้อไหน ?
ถึงแม้ว่าในศิลจะไม่บ่งบอกว่าผิดข้อไหนและไม่มีกฏหมายบังคับในสมัยนั้น และกฏหมายไม่บ่งบอกว่าป่าใครเป็นเจ้าของ
แต่ผิดจุดประสงค์ของศิล คือ การเบียดเบียนชาวบ้านให้ได้รับความเดือดร้อนจำนวณมาก แล้วสุดท้ายตัวเองก็เดือดร้อนไปด้วย
(กฏหมายสามารถเลี่ยงได้ แต่กฏแห่งกรรมไม่สามารถเลี่ยงได้
กฏหมายบางครั้งอาจจะไม่ยุติธรรม แต่กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ)
(การตัดกรรม คือการละเว้นจากการทำความบาปทั้งปวง)

ขอเพิ่มเติมเรื่องของศิลในพุทธศาสนา
การไม่ละเมิดศิล ต้องไม่ละเมิดทาง กาย วาจาและใจ
ในขั้นละเอียดขึ้นไปของศิลคือ เราไม่ทำผิดศิลเอง  เราไม่สนับสนุนให้ผู้อื่นทำผิดศิล และเราไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นทำผิดศิล.

1.2 ผิดหลักธรรมข้อไหน ?
1.2.1 ผิดในหลักธรรม พรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา)
ผิดใน 2 ข้อ คือ ขาดเมตตาและกรุณา
แต่เด่นตรงขาดเมตตา
เมตตาคือ ความรัก ความอยากให้ผู้อื่นมีความสุข ประสบความสำเร็จ
ถ้าในศาสนาคริส ก็คือ ความรัก พระเยซูฉลาดมาก สอนเรื่องความรัก ให้คนรักกันและรักสรรพสัตว์
ถ้าคนมีเมตตาหรือความรัก 1 ข้อ สามารถรักษาศิลได้ 5 ข้อ ถ้าท่านรักผู้อื่นเหมือนรักตัวท่านเอง ท่านก็จะไม่เบียดเบียนผู้อื่น (ลองหาอ่านใน

เว็บพุทธศาสนามีสอน)

เศรษฐีขาดเมตตา อยากประสบความสำเร็จคนเดียวโดยตัดป่าทั้งหมด ไม่เหลือให้ชาวบ้านไว้ทำกิน
เศรษฐีไม่มีเมตตาต่อชาวบ้าน ไม่สงสารไม่เห็นใจชาวบ้านที่อ่อนแอกว่า
ไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน ใครจะอดยาก
ประเมิณความสามารถของชาวบ้านผิดไปว่าเขาจะหากินได้

ความสำเร็จของเศรษฐีเกินความพอเพียง คือต้องการมีมากๆและมีอำนาจ
ความสำเร็จในระดับชาวบ้านคือ มีอยู่มีกินและเหลือใช้และเลี้ยงลูกเมีย

ความสามารถระดับชาวบ้านเขาทำกินไปเรื่อยๆ แบ่งกันทำกิน เขาก็อยู่กันมานาน ไม่ได้มีใครเอาไปทั้งป่า
ซึ่งต่างกับเศรษฐีเอาทั้งป่า

1.2.2 ขาดหิริโอตัปปะ คือ การละอายต่อการทำบาป ซึ่งเป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนไว้

ปัจจุบัน มีการเรียก คนที่เก่งมากๆ ตามสาขาอาชีพ ว่า "เทพ" โดยเรียกตามความสามารถ แต่ไม่ได้เอาคุณธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง
ถ้าท่านเหล่าเทพเอาความรู้ความสามารถไปใช้ในทางที่ผิด ท่านก็ไม่ต่างกับมาร.

เทพกับมาร ต่างกันตรงไหน ?
เราเคยดูหนังจีนใช่ไหม มารก็มีความสามารถสูงส่ง มีอิทธฤทธิ์มากมหาศาล  หลายๆเทพก็ยังสู้ไม่ได้
เทพก็มีความสามารถสูงส่ง ทั้งคู่มีความสามารถ "สุดท้ายธรรมะย่อมชนะอธรรม" เทพชนะมาร
ทั้งคู่มีความสามารถ แต่จะมาต่างกันตรงที่ "คุณธรรม"

คุณธรรมของเทพ (เทวดา) ที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ คือ  "มีหิริโอตัปปะ"  คือการเกรงกลัวและละอายต่อการทำบาป
กว่าจะเป็นเทวดาได้ อย่างน้อยก็ต้องมีความดี ถ้าไม่มีความดีจะมาเป็นเทวดาไม่ได้
เราเคารพและไหว้เทวดาก็เหมือนเราเคารพคนดีหรือผู้ใหญ่ในสังคม

2).ทำไมทำผิดแล้วถึงรวยเอา รวยเอา
ตอบ เพราะว่ากินบุญเก่าอยู่ อดีตชาติเขาสร้างบูญไว้ บุญเก่าส่งผล พอบุญเก่าหมดไป เขาก็จะได้รับบาปที่เคยสร้างไว้

3).ใครบาปมากกว่ากัน ระหว่างเศรษฐีและพรรคพวก
ตอบ เศรษฐีบาปมากกว่าพวก

ในพระไตรปิฎก ในสมัยหนึ่งมีเพชรฆาตรคนหนึ่ง กลุ้มใจมาก เพราะว่าตัวเอง รับใช้พระราชา ลงโทษประหารตัดหัวนักโทษ
แล้วเพชรฆาตรคนนี้ได้ทำทานกับพระปัจเจคพุทธเจ้า พระท่านทราบก็เลยตรัสถามเพชรฆาตรทำนองว่า 
เจ้าของนาจ้างคนมาทำนา ท้ายสุดแล้วเมื่อเก็บเกี่ยวผล ใครได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ?
คนนั้นตอบว่า เจ้าของนาได้รับมากที่สุด ส่วนลูกจ้างได้เฉพาะค่าจ้าง
พระท่านก็บอกว่าท่านเองก็เช่นนั้น พระราชาเปรียบเสมือนเจ้าของนา และท่านเองคือลูกจ้าง
เท่านั้น ชายคนั้นก็สบายใจ......ผมจำได้ไม่ค่อยมาก จริงๆเรื่องมีต่ออีก...

[เกมส์เกมส์.com]

ไม่เป็นไรค่ะ สังคมเดียวกัน หากต้องโดนGGเก็บก็คงโดนกันทั้งหมดนี่แหละค่ะ ขอบคุณค่ะ 

อารมณ์ประมาณว่า ถ้าระเบิดลงก็ตายพร้อมกันไปเลย แต่คนที่เขาไม่อยากตายด้วยก็มีอยู่นะ 
ตอนแข่ง SEO สถานที่ท่องเที่ยว ยังมีกฎห้ามสแปม ห้ามสายมาร แล้วแข่งรอบนี้ไม่มีกฎเหรอ

มีกฏแล้วไม่ทำ ผมว่าเหมือนเดิม ...
SEO สถานที่ท่องเที่ยว แนวทางการseoแต่ละคนเป็นยังไง ผมว่าหลายท่านที่ดูออก คงรู้ดีอยู่แก่ใจ

ส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ไปขุดคุ้ยซ้ำเติมเข้า เขาก็ไปจัดกิจกรรมภายนอกแล้ว ก็หน้าจะจบ ไปดูบอร์ดสนับสนุนแล้วสงสารเขาเหมือนกัน โหรงเหรงมาก หากมีใครจัดกิจกรรมแนวนี้ขึ้นมาอีก...และมีมากๆ ขึ้น ผมเชื่อว่านั่นคือจุดที่เราต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในภายหน้า ไม่อย่างนั้นจะส่งผลเสียโดยรวม เป็นวงกว้าง

[อ่านไม่ออก]

เวปผมอันดับตกไป 1 อันดับผมยังเครียดเลย

อันนี้คุณพี่เล่นทีนึง 5 คีย์เวิด แถมยังมีเวปในมืออีกเป็นร้อย

พ่อค้าแม่ค้า คงเครียดกันหน้าดำหน้าแดง
 

[WebSnow]

โพสที่ 3 ภาค2
นิทานข้างต้นเป็นการแต่เรื่องเพื่อเปรียบเทียบเพื่อให้มองได้เห็นภาพ และประกอบอารอธิบายได้ง่ายขึ้น
ไม่ได้หมายถึงว่าท่านผู้จัดและผู้เข้าแข่งขันจะเป็นแบบนิทาน.

จากนิทานข้างต้น
เศรษฐีก็รวยได้โดยเบียดเบียนคนน้อยที่สุด โดยการตัดป่าเพียง 10-30 % แล้วแบ่งให้ชาวบ้านทำกิน 70-90 %
แล้วเศษฐีก็ไปหาป่าใหม่อีกหลายๆแห่งตัดอย่างละนิด แล้วเอามารวมกันก็จะได้มากกว่าตัดป่าเดียว

ปัญหาหลักของการแข่งขัน

เจตนาของผู้เข้าร่วมแข่งขันทำเว็บเพื่อเอารางวัลเขาไม่ได้ทำเว็บเพื่อสิ่งนั้นจริงๆ เหมือนเว็บอื่นๆที่เขาทำขายจริงหรือให้ความรู้จริงๆ
ซึ่งเป็นธรรมชาติ  ตรงนี้ยังไม่สำคัญมาก เชิญอ่านต่อ

ท่านใช้ keyword หลักหลายตัว ที่คนทำมาหากินมาแข่งขัน โดยให้คนจำนวณมากเข้าร่วมแข่งขัน เช่น 50 คน
ผลที่ออกมาจะมีแต่เว็บท่านผู้จัดจำนวณมาก 50 กว่าหน้า คนอื่นที่ทำธุรกิจด้านนี้หมดโอกาสทำมาหากินเลย ไปอยู่หน้า60 กว่าๆ
เช่นแข่งกันว่า keyword "ลดความอ้วน"
top 50 ของ google ก็คงจะเป็นเว็บของผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด อาจจะมีของคนอื่นอยู่ด้วยแต่คงไม่มาก เพราะว่าแต่ละคนเก่งๆกัน

ทั้งนั้นเลย จะอยู่ก็คือผู้แข็งแรง ส่วนผู้อ่อนแอ โน่นตกไปหน้า60กว่าๆ

พอคนเปิดเข้าไปดู ก็จะมีแต่เว็บท่าน 50 หน้า ตามปกติคนจะไม่กดดูหน้าลึกขนาดนั้น คนจะเกิดเพียงหน้า 1-2
คนที่ทำมาหากินจริงๆไปอยู่หน้า 60 ก็แย่เลย คนที่มีทุนหนาและแข็งแรงเท่านั้นที่จะได้มีโอกาส นอกนั้นดับสนิด ไม่มีโอกาสเกิดได้เลย

งานนี้ท่านรวมยอดฝีมือของประเทศเลยทีเดียว
เปรียบเสือน ช้างชนช้าง ช้างไม่ค่อยเป็นไร แต่พวกต้นไม้ใบหญ้าพวกสัตว์เล็กๆแหลกกระจุยกระจาย
เอาช้างมาชนกับแมว ช้างเหยียบแมว แมวก็เละอุจาระแตก อุจาระแตนเลยทีเดียว (เขาห้ามพูดคำหยาบ)

เหมือนรถสิบล้อ ชนรถสิบล้อกัน ก็พังอยู่
ถ้ารถสิบล้อชนกับ  มอเตอร์ไซต์ก็เละเลย แต่อีกฝ่ายไม่ค่อยจะเป็นไร

เอาผู้ใหญ่แข็งแรงมาต่อยกับเด็ก 5 ขวบ ใครชนะก็รู้อยู่ แล้วบอกว่านี่คือ กฏธรรมดาของการแข่งขันใครแข้งแรงก็อยู่รอด (สมมุติ)

เทียบนิทาน
5 keywords เปรียบเสมือนอาชีพ5อย่างที่ชาวป่าทำมาหากินเลี้ยงชีพ อยู่ในป่าใหญ่
ถ้าท่านผู้จัดทำแบบนี้ 5 keywords โดยเอา result 50 หน้า เป็นของตัวเองทั้ง 5 keywords จนผู้อื่นหมดโอกาสทำมาหา

กินใน 5 keywords
ก็เปรียบเสมือนท่านไปตัดไม้ในป่า จับสัตว์อื่นๆจนหมดป่า ชาวบ้านป่าหมดโอกาสทำมาหากิน เพราะว่าท่านตัดไปหมด ชาวบ้านป่าที่อ่อนแอก็

อยู่ไม่ได้ ไหนจะต้องมีภาระเลี้ยงดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่าและลูกเมียอีก....


ความเป็นธรรมดาของธุรกิจ มีกำไร มีขาดทุนและอยู่ตัว มีการเกิด การดำรงค์อยู่และมีการดับไป
มีการแข่งขันในธุรกิจ มีแพ้ มีชนะ และมีการให้โอกาสคู่แข่ง มีการสร้างมิตรไมตรี
แต่สิ่งที่ควรมีระหว่างการแข่งขันคือ การมีเมตตาต่อกัน มีน้ำใจต่อกัน ถ้าเป็นกีฬาเรียกว่าน้ำใจนักกีฬา

น้ำใจตรงนี้ ท่านควรจะเปิดโอกาสให้คนอื่นมีที่ทำมาหากิน แบ่งปันกันไป
ผมคิดว่ามันเกินความจำเป็นที่ท่านจะต้องมี แต่เว็บท่าน  result 50 กว่าหน้า ใน 5 keywords ท่านน่าจะเอา อันดับ 1 2 3 ใน 5

keywords ก็พอ แล้วเหลือ  4-100 ให้คนอื่นๆทำมาหากิน

ถ้าท่านเอาอันดับ 1 23 แล้ว ก็แข่งกับเจ้าอื่นๆต่อไปแบบนี้เรียกว่าการแข่งขันธรรมดาของธุรกิจ ซึ่งคนทำธุรกิจเขาเข้าใจดี
ถ้าท่านล่อแบบ 50 กว่าหน้า ของคนอื่นไม่มีวันได้ผุดได้เกิดนี่ เหมือนเเอาผู้ใหญ่ไปต่อยเด็ก

ต่อไปพอแข่งเสร็จถ้าท่านำสเร็จ คนอื่นก็เอาตาม
คู่แข่งท่านทำตาม โดยเอา keywords เดี๋ยวกัน แล้วให้เงินสดมากกว่า แล้วให้ % มากกว่าจากการขาย
ท่านก็แย่เลยคราวนี้ ถ้าท่านจะสู้ท่านก็ต้องจ่ายมากกว่า สู้กันไปกันมา ราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าจ้างทำ seo แพงกว่าเขาก็จัดประกวดแบบนี้ต่อไป ผลกระทบตามมาอีก ต่อไป คนอาจจะไปทำกับวงการอื่นๆเช่น keywords อื่นๆ คนอ่่อนแอนของวงการอื่นๆก็ตายเช่นกัน

[flukenakrab]

ผมไม่เคยเกี่ยวกับการแข่งขัน SEO เลยสักครั้ง เพราะหน่อมแน้มครับ

แต่ดูแล้วเป็นคีย์ผลประโยชน์เต็มๆ อย่างที่คุณโชว์บักท้ง เคยอธิบายไว้ตอนแข่งคำว่า "สถานที่ท่องเที่ยว" ว่าคีย์มี 3 ระดับ
สถานที่ท่องเที่ยว เป็นคีย์ที่ไม่เป็นการเฉพาะเจาะจง ทำให้รายย่อยหรือระดับกลางมีผลกระทบน้อย

แต่คีย์ที่เค้าจัดแข่งครั้งนี้เป็นคีย์ธุรกิจเลย มันคือเฉพาะเจาะจงไปหาตัวสินค้า > คลิกปุ๊บ > เจอสินค้าปั๊บ > ขายของ > กำไร > รวย

นี่คือข้อเสียของการแข่งคีย์เฉพาะเจาะจงครับ (ไม่รู้เรียกผิดรึเปล่านะครับ)

[RICHEST]

มาติดตาม 

[bugmai]

คิดแบบนี้ครับ

คนจัดยืนยิ้ม =  กำไร ใครชนะก็กำไร
คนแข่ง = เหนื่อย ทำอันดับเพื่อของรางวัล
เจ้าที่เดิม = ทำไมเว็บฉันตกอันดับลงมาไกล หาทางจะกลับไปคืน
ลูกค้า = ทำไมมีแต่สินค้าแบบเดียวกันให้เลือก จำใจซื้อ
คนค้นหาใน google = เว็บอะไรก็ไม่รู้เนื้อหาเหมือนกันหมด สินค้าเหมือนกันหมด
google = ไม่รู้อะไร แต่โดนไปแล้วคือได้เว็บเนื้อหาเหมือนกันมาครองอันดับ

พอเลิก เบื่อ ดาบมีอะไรเอาไว้เพื่ออะไรอยากให้เพื่อนๆคิดดูครับ หรือหวังแค่ของรางวัลเพียงแปปเดียว
กับผลกระทบอีกเป็นปี ใครได้กำไร ใครได้ผลประโยชน์ ใครเสียผลประโยชน์ เราได้อะไร อยากให้คิดถึงจุดนี้ครับ

คำพวกนี้มันไม่เหมือน สถานที่ท่องเที่ยว ครับ มันคือ KW บ่อเงิน ครับ

ทุกวันๆมี ผู้หญิงที่คิดจะเปิดร้านค้าบนอินเตอร์เน็ตกี่คนครับ ?

เจอประโยคนี้แล้วคิดได้เลย

[asiram]

ท่านน่าจะเอา อันดับ 1 2 3 ใน 5

keywords ก็พอ แล้วเหลือ  4-100 ให้คนอื่นๆทำมาหากิน

เห็นด้วยกับคุณ WebSnow

ณ เวลานี้ ทางที่ดีที่สุด คือ ผู้จัดควรจะต้องยอมลดราวาศอก สำหรับเรื่องนี้บ้าง
เพื่อเป็น การลดความรู้สึกของรายย่อย ที่ว่า เป็นการเอาเปรียบมากเกินไป

ส่วนเรื่อง การใช้ไทยเสียว คงจะไม่มีใคร ว่าคุณได้อีกแล้วคับ

asiram

[WebSnow]

โพสที่ 4 แนวทางแก้ปัญหา

ผมลองเสนอท่านดู เพราะว่าทราบมาว่าอย่างไรท่านก็ไม่เปลี่ยน kw

เปลี่ยนวิธีแต่ความสำเร็จท่านยังอยู่
ทั้งหมด 21 keywords

ท่านแบ่งการประกวดออกเป็น 3 รอบ

รอบที่ 1.)ประกวดรวม ท่านคิด Unique keyword ออกมา แล้วให้ 50 คนประกวด ตรงนี้จะไม่กระทบคนอื่นๆ
ท่านคัดผู้ชนะ 9 ราย เรียงตามอันดับ กำหนดว่ากี่เดือนตัดสิน

รอบที่ 2.) เอาผู้ชนะ 9 รายมาแข่งกัน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน หาที่1
กลุ่มที่1 3 คน แข่ง 5 keywords
กลุ่มที่2 3 คน แข่ง 5 keywords ต่างกัน
กลุ่มที่3 3 คน แข่ง 5 keywords ต่างกัน

ในแต่ละกลุ่ม จะแข่งกัน 3 คน ท่านจะได้ อันดับ 123 keyword นี้ท่านใช้งานได้จริง
ท่านจะมี อันดับ 123 จำนวณ 15 keywords ใช้งานได้จริง
แล้วเหลืออันดับ 4-100 ให้คนอื่น

ท่านคัดเอาคนชนะที่ 1 ของแต่ละกลุ่ม จะได้ 3 คน

รอบที่ 3.)เอาอันดับ 1  3 คนมาแข่งกันใน 5 keywords สุดยอดทองคำของท่าน
แล้วเหลืออันดับ 4-100 ให้คนอื่น

จบการแข่งขัน ท่านก็จะสง่างามองอาจไม่เบียดเบียนคนจำนวณมาก ผู้คนยอมรับท่านและทีมและผู้เข้าแข่งขัน
การแข่งขันจริงของท่าน จะมี 3 อันดับเท่านั้นต่อ kw คนอื่นๆก้มีโอกาสทำมาหากินต่อไป

20 keywords ได้อันดับ 123 ในแต่ละ kw ท่านสามารถใช้้งานได้จริงเป็นฐานธุรกิจของท่าน
จะดีกว่าท่านได้ 5 keywords แบบ result 50 หน้า.
ถ้าต่อไปคนเก่งมาใหม่ ชนะท่าน 1-2 kw ท่านยังเหลือ  18 kw ท่านยังมีเวลาเตรียมตัว ท่านไม่ล้มง่ายๆ

ท่านลงทุน 2 แสนบาท ได้ มา 20 KW เฉลี่ย KW ละ 1 หมื่นบาท

[RankMan]

ผมว่าเรื่องนี้พูดไปบ่นไปก็เท่านั้นครับ ทางผู้จัดเขาเลือกทางเดินแล้ว

-เลือกที่จะไม่ยุ่งกับบอร์ดนี้
-เลือกที่จะดำเนินการแข่งต่อไป
-เลือกที่จะใช้คีย์เวิร์ดเดิม
-เลือกที่จะ free role ขออันดับไม่สนวิธี (จากตัวอย่างเว็บที่คุณบอลเอามาแป่ะให้ดู)
-เลือกผลประโยชน์ตนเองมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม
-เลือกการไล่ที่ ปูพรม 50 อันดับ ใน 5 คีย์เวิร์ด

พ่อค้าแม่ขายที่ใช้คีย์เวิร์ดเหล่านี้เลี้ยงชีวิตตนเองและครอบครัวอยู่ก็เตรียมพบช่วงลำบากของชีวิตได้เลย (ถ้าลำบาก มีหนี้ มีค่าใช้จ่ายเยอะอยู่แล้ว ก็เตรียมลำบากกว่าเดิม)

เพราะนายทุนเขาบอกเป็นนัยแล้วว่า "เขาไม่สน" , "The show must go on."

เตรียมรับมือ !!!

[flukenakrab]

ถ้าชาว Thaiseoboard.com + SEm.or.th ร่วมกันแบนการแข่งขันครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้นครับ   

[idevilx]

ผมโดนเต็มตีนเลยครับท่าน 

[WPDSign]

คีย์ตลาด สร้างผลกระทบต่อผู้ผู้บริโภค เต็มๆ

[undeath13]

โอเค เนื่องจากเจ้าของภาพไม่ต้องการแสดงตัว ผมรับอาสาเป็นหน้าฉากโดนด่าเองละกัน  



ถ้าคิดจะแข่ง seo กันแค่เอาเล่นๆขำๆ แล้วเดือดร้อนชาวบ้านโดยส่วนรวม ด้วยความคิดเห็นส่วนตัว ผมก็ไม่สนับสนุนสักเท่าไรนะครับ (ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล แต่เกี่ยวกับกฏกติกานั่นแหละ)

ไม่ว่าเว็บนี้จะเป็นของใครก็แล้วแต่ ถือว่าไม่ได้มีความแค้นอันใดต่อกันนะครับ แต่แสดงให้เห็นว่ามันไม่ถูกต้อง

ถ้าผมเป็นกรรมการคงปรับแพ้ไปแต่แรกแล้วครับ

ผมถึงได้บอกไงว่า การแข่งขันนี้ อ่อนกฏระเบียบ เหมือนจัดขำๆช่วยกันทำลิงค์ให้ผู้จัด แบ่งๆจัดรางวัลกันไปตามสมควรเสียมากกว่า

สุดท้ายใครได้ประโยชน์ ใครจะเสียผลประโยชน์ก็แล้วแต่  คุณอาจจะไม่ใช่คนที่เลวชั่วร้ายอะไร แต่ก็อยู่ที่คุณเลือกที่จะให้ มูลค่าของรางวัล กับ มูลค่าทางจิตใจ อย่างไหนสูงกว่ากัน (สูงกว่ากันไม่ได้แปลว่าต่ำนะครับ อย่าตีความหมายผิด ผมไม่ใช่ประเภทจะมาดูถูกกันเองอย่างไร้สาระ)

อันนี้มันก็เกินไปครับ คิดดูมีแบบนี้สัก 50-70บล็อค ใน1kw จะเป็นยังไง 

[WPDSign]

ความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้น พี่ๆที่เปิดร้านออนไลน์ ที่เล่นสาย seo โดนกันเต็มๆ เพราะ key ที่ใช้แข่งขันเป็นคีย์ที่ซื้อขายกันไม่ใช้ key เพื่อความรู้ "สถานที่ท่องเที่ยว"
ที่เปิดร้านคงมีขาดทุน เลิกทำกันบ้าง
ที่เห็นๆผู้ที่ให้บริการร้านค้าออนไลน์ มีผลกระทบแน่ เห็นในนี้เปิดกันหลายเจ้า