ossytong
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 138
ออฟไลน์
กระทู้: 1,151
|
 |
« เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 20:30:26 » |
|
ขอพื้นที่เล็กๆตรงนี้ขอความช่วยเหลือละกันนะครับ ไม่รู้จะไปตั้งที่ไหน ผูกพันธ์กับที่้นี่ก็ขอลองตั้งดูนะครับ ถ้าทำให้รบกวนต้องขออภัยนะครับ
ต้องขอความรู้ หรือ แนะนำแนวทางนิดนะครับ
คือเรื่องมีอยู่ว่า
คือยายผมมีที่ว่างรกร้างอยู่ และมีคนมาขอใช้ที่ทำนา โดยจะเกรดที่ให้แต่ ขอทำฟรี 2ปี พอขึ้น ปีถัดไปถึงจะจ่ายค่าเช่า... ตรงนี้ไม่มีปัญหา
แค่ที่ ครอบครัวผมห่วงคือ เพิ่งมารู้ตอนหลังว่า จะมีผลผูกพันธ์ 6ปี เราจะไม่สามาถขายที่ได้ถ้าเค้าไม่ยอม (ไ่ม่แน่ใจว่าครอบครัวผมเข้าใจถูกหรือไม่)
ตอนนี้ยังไม่ได้มีเซ็นสัญญานะครับ แต่ทางนั้นเค้าเข้ามาทำที่เรียบร้อย เอารถปรับสภาพที่ดินเรียบร้อย
ก็เลยทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะถ้าจะให้เค้ายกเลิกไปก็ต้องจ่ายค่าที่เค้าปรับสภาพที่ เกือบ 4หมื่น ที่เค้าจ้างคนและรถมาทำงาน
ก็เลยอยากจะขอคำแนะนำว่า ถ้าเราเขียนสัญญาบอกว่า เช่าเป็นปีต่อปี และถ้าเราขาย เค้าจะไม่เรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น จะได้ไหมครับ
หรือควรทำยังไงดี เพราะ ก็อยากขายที่อยู่ถ้ารอ 6ปีจะไม่ได้อ่ะครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 21:55:20 โดย ossytong »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Legolas
Global Moderator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
   
พลังน้ำใจ: 889
ออฟไลน์
กระทู้: 10,114
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 20:32:14 » |
|
ให้คุณทนายวิรัชช่วยไงครับ ลองปรึกษาดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
X-ZYTE
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 333
ออฟไลน์
กระทู้: 1,639
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 20:59:17 » |
|
เพิ่งมารู้ตอนหลังว่า จะมีผลผูกพันธ์ 6ปี เราจะไม่สามาถขายที่ได้ถ้าเค้าไม่ยอม < เอามาจากไหนครับ - -* ยังไม่ได้เซ็นต์สัญญาไม่ใช่หรอ
จะว่าครอบครองก็ไม่ใช้ ยังไม่ครบ 10 ปีเลย ถ้าเรามีเอกสารสิทธิที่ดินถูกต้องไม่มีมุมแพ้เลยครับ ยิ่งเขาไม่ได้ทำสัญญาด้วยหวานเลยครับ
เขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรา คุณไปคุยกับเขาหาข้อตกลงและทำสัญญากับเขาให้ขัดเจนนะครับ การจดสัญญาแนะนำจดสัญญาเป็นปีต่อปี
แต่ถ้าจะไม่ต่อสัญญา คุณต้องบอกเข้าล่วงหน้านะครับไม่ใช้ไม่บอกเลยว่าจะทำให้เขาเสียหาย ระบุไปในสัญญาด้วยก็จะดี
แต่ถ้าเขาลูกเล่นมาก จัดข้อหาบุกลุกสู้เลยครับ ( เพราะมันไม่มีสัญญาลายลักษณ์อักษร ) ไม่ต้องกลัวเขาอ้างเรื่องมาปรับหน้าที่ดินครับ ^^
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
amchee2000
คนรักเสียว
พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์
กระทู้: 179
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 21:12:46 » |
|
ต้องรบกวนทนายวิรัตแล้วครับท่าน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หารายได้แบบใหม่เพียงใช้ซิม-เติมเงิน-บอกต่อ เพื่อเสรีภาพ และอิสระในการใช้ชีวิต(ซะที)ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่ลองหาข้อมูลดูก่อนได้ 
|
|
|
ossytong
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 138
ออฟไลน์
กระทู้: 1,151
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 21:37:08 » |
|
เพิ่งมารู้ตอนหลังว่า จะมีผลผูกพันธ์ 6ปี เราจะไม่สามาถขายที่ได้ถ้าเค้าไม่ยอม < เอามาจากไหนครับ - -* ยังไม่ได้เซ็นต์สัญญาไม่ใช่หรอ
จะว่าครอบครองก็ไม่ใช้ ยังไม่ครบ 10 ปีเลย ถ้าเรามีเอกสารสิทธิที่ดินถูกต้องไม่มีมุมแพ้เลยครับ ยิ่งเขาไม่ได้ทำสัญญาด้วยหวานเลยครับ
เขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรา คุณไปคุยกับเขาหาข้อตกลงและทำสัญญากับเขาให้ขัดเจนนะครับ การจดสัญญาแนะนำจดสัญญาเป็นปีต่อปี
แต่ถ้าจะไม่ต่อสัญญา คุณต้องบอกเข้าล่วงหน้านะครับไม่ใช้ไม่บอกเลยว่าจะทำให้เขาเสียหาย ระบุไปในสัญญาด้วยก็จะดี
แต่ถ้าเขาลูกเล่นมาก จัดข้อหาบุกลุกสู้เลยครับ ( เพราะมันไม่มีสัญญาลายลักษณ์อักษร ) ไม่ต้องกลัวเขาอ้างเรื่องมาปรับหน้าที่ดินครับ ^^
6ปี นั้นมาจาก กฏหมายที่เค้าจะคุ้มครองชาวนาอ่ะครับ เข้าใจประมาณว่า การเซ็น 1 ครั้งจะมีผล 6ปี (ไม่แน่ใจ) ครอบครัวเลยกังวลกันว่า เค้าเล่นแง่ หรือเปล่า เพราะคุยปากเปล่ากับยายผมวันเดียว เช้าวันถัดมาเล่นเอารถมาจัดการเลย และรีบให้ทำสัญญาเลย ครอบครัวผมก็รู้ตอนเค้าเอารถมาจัดหน้าดินอะครับ พอจะไปคุยจะปฏิเสธ ก็โดนเค้าเรียกร้อง ค่าทำงานไป 4หมื่นกว่า -0- (จะเล่นบอกว่าไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นก้ สงสารเค้าอีกนั่นละครับ แต่อีกใจก็ไม่ไว้ใจ) ก็ว่าจะเลยไปตามเลยไป แต่ยังสงสัยเรื่องผลผูกพันธ์ฺ6ปี อ่ะครับ ว่าจะเอายังไงดี จะมีผลหรือไม่ ทำสัญญาปีต่อปี จะทำให้คุ้มครอง 6ปีผู้เช่านาไม่มีผลหรือเปล่า ก็เลยเครียดกันเลยทีเดียว 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 21:38:14 โดย ossytong »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bingo
Newbie
พลังน้ำใจ: 3
ออฟไลน์
กระทู้: 40
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 22:17:46 » |
|
ถ้าเป็นจริง เราน่าจะเขียนข้อยกเว้นในสัญญาได้ครับ ลองปรึกษาทนาย สัก 2 ราย ครับ เพราะข้อกฎหมายดิ้นได้เสมอครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AM-PM
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 379
ออฟไลน์
กระทู้: 4,969
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 22:48:50 » |
|
ผมว่าไม่เกี่ยวนะ ทำสัญญา เช่ากี่ปีก็ต้องตามนั้น ส่วนที่เค้าเข้ามาทำในที่เราแล้วโดยที่ไม่ได้ทำสัญญาตกลงกันเลย เงินค่าเช่าเรารับมายังครับ ถ้ายัง เค้าไม่มีสิทธิมาทำแบบนั้นในที่ของเรานะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
eagle1
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 22:53:36 » |
|
นอนก่อนครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ามาตอบให้ครับ เกรงใจคุณภรรยา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หนุกหนาน
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 106
ออฟไลน์
กระทู้: 1,243
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 23:20:35 » |
|
ความเห็นส่วนตัวนะครับ (ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฏหมาย)
ผมไม่แน่ใจว่าคุยกันยังไง ทำไมเขาถึงลงมือเกดที่เลย ทั้งๆที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา แสดงว่าอาจจะคุยกันด้วยวาจา เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่ได้เซ็นสัญญา เขาก็ยังไม่มีสิทธิเข้ามาทำอะไรด้วยซ้ำ ส่วนที่ทำไปแล้ว ก็จะมาเรียกร้องค่าเสียหายอะไรมิได้ หรือถ้าจะเล่นแง่กฏหมาย เอาแบบหัวหมอจริงๆ ผมว่าเขาละเมิดนะ
ตรงนี้คงคุยกันลำบากหน่อย ในแง่กฏหมายได้เปรียบอยู่ แต่การเจรจาจะทำยังไงที่จะตกลงกันได้ด้วยดี ต้องลองคุยกันดู ส่วนระยะเวลาเช่า มันก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของคู่สัญญา ว่าเห็นพ้องต้องกันเป็นอย่างไร ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยอม สัญญาก็ไม่เกิดอยู่แล้ว
แต่ถ้าทำสัญญาไปแล้ว ก็ทำใจ 6 ปีครับ แต่ส่วนมากที่ดินเขาก็เช่ากัน ปีต่อปีแหละ ถ้าเพียงเพื่อทำเกษตร
และอีกอย่าง ที่ดินมันขายกันไม่ได้ง่ายๆครับ ถ้าตั้งใจจะขายจริงๆ ผมว่าพบกันครึ่งทาง ที่ 3 ปี ก็ดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ossytong
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 138
ออฟไลน์
กระทู้: 1,151
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011, 23:53:49 » |
|
ความเห็นส่วนตัวนะครับ (ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฏหมาย)
ผมไม่แน่ใจว่าคุยกันยังไง ทำไมเขาถึงลงมือเกดที่เลย ทั้งๆที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา แสดงว่าอาจจะคุยกันด้วยวาจา เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่ได้เซ็นสัญญา เขาก็ยังไม่มีสิทธิเข้ามาทำอะไรด้วยซ้ำ ส่วนที่ทำไปแล้ว ก็จะมาเรียกร้องค่าเสียหายอะไรมิได้ หรือถ้าจะเล่นแง่กฏหมาย เอาแบบหัวหมอจริงๆ ผมว่าเขาละเมิดนะ
ตรงนี้คงคุยกันลำบากหน่อย ในแง่กฏหมายได้เปรียบอยู่ แต่การเจรจาจะทำยังไงที่จะตกลงกันได้ด้วยดี ต้องลองคุยกันดู ส่วนระยะเวลาเช่า มันก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของคู่สัญญา ว่าเห็นพ้องต้องกันเป็นอย่างไร ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยอม สัญญาก็ไม่เกิดอยู่แล้ว
แต่ถ้าทำสัญญาไปแล้ว ก็ทำใจ 6 ปีครับ แต่ส่วนมากที่ดินเขาก็เช่ากัน ปีต่อปีแหละ ถ้าเพียงเพื่อทำเกษตร
และอีกอย่าง ที่ดินมันขายกันไม่ได้ง่ายๆครับ ถ้าตั้งใจจะขายจริงๆ ผมว่าพบกันครึ่งทาง ที่ 3 ปี ก็ดี
ยายผมอยู่บ้านคนเดียวน่ะครับ มีคนแนะนำมาคุยกับ ยาย ยายผมก็ขี้สงสาร + ใจดีก็รับปาก ก็ให้เค้าทำ เห็นเค้าบอกจะปรับที่ให้ ก็เลย คิดว่าจะไม่มีปัญหาน่ะ ครับ ครอบครัวผมจะอยู่อีกทีนึง พอรู้อีกที วันเดียวเอง เค้าก็เริ่มจัดการกับที่เรียบร้อย .... ก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาน่ะครับ ก็กำลังจะ หาข้อมูลอยู่้ว่าจะเขียนสัญญา รูปแบบไหนดี น่ะครับ เพราะดันไปอ่านเจอว่า ถ้ามีคนเช่าทำนา จะคุ้มครองทันที 6ปี ต่อการทำสัญญา 1 ครั้ง (อันนี้ก็ยังไม่ชัวร์อีกอ่ะครับ) +thx all เลยครับ ขอบคุณมากๆ ที่นี่อบอุ่นจริงๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ก็องโต้
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 83
ออฟไลน์
กระทู้: 1,682
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 00:09:07 » |
|
ถ้าไม่มีสัญญาฟ้องร้องเจ้าของมีโอกาสดีกว่าเยอะเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Giftrin
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 132
ออฟไลน์
กระทู้: 790
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 01:41:11 » |
|
ต่อให้เปลี่ยนสิทธิครอบครอง เเต่ก็ยังสามรถให้สิทธิเก็บกิน กับ ที่นาได้ยามเมื่อเราขายไปน่ะครับ(ถ้าผุ้ซื้อคนใหม่ยินยอม)
ร่างสัญญา ใหม่ทำดีๆ นะครับ
ปล. โฉนด หรือ นส.3 เดี๋ยวเค้าเล่นเเง่ได้นะครับ 2 ปีเนี่ย ดูให้ดีนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
awakener
ก๊วนเสียว
พลังน้ำใจ: 58
ออฟไลน์
กระทู้: 300
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 02:02:30 » |
|
ทางที่ดีต้องถามพี่ทนายวิรัชครับ แต่ถ้าเอาตามที่ผมเข้าใจนะครับ การที่มีข้อตกลงว่าจะเกลดที่ให้แลกกับการเช่าฟรี 2 ปีและจะเสียค่าเช่าในปีถัดไปนั้น ไม่ใช่เป็นการตกลงทำสัญญาเช่าแบบปกติ แต่ข้อตกลงนี้เป็น สัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา แม้ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ใช้ บังคับกันได้ตามข้อตกลงดังนั้นการที่เข้ามาปรับที่แล้ว ถือว่าสัญญามีผลแล้ว และต้องเป็นไปตามข้อตกลง มีตัวอย่างดังนี้ คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๕๒๖/๒๕๓๑ สัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา แม้ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ใช้ บังคับกันได้ตามข้อตกลง และถือไม่ได้ว่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว แม้คู่สัญญาจะตาย สิทธิและหน้าที่ดังกล่าวก็ต้องตกทอดไปยังทายาท ดังนั้นหากไม่มีการทำข้อตกลงกันใหม่ ข้อตกลงดังกล่าวก็ยังต้องใช้บังคับกันได้ และนอกจากนี้เนื่องจากการเช่าตามสัญญาต่างตอบแทนนี้เป็นการเช่าที่นา ดังนั้นจึงได้รับความคุ้มครอง ตาม พรบ.การเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม พ.ศ.2524 โดยมีบทบัญญัติว่า "การเช่าที่นาต้องทำสัญญาให้เช่าครั้งละ 6 ปี โดยไม่ต้องทำสัญญาเพียงตกลงกันด้วยวาจา สัญญานั้นก็ใช้บังคับกันได้ ดังนั้นจึงถือว่าการเช่ากัน 1 ครั้ง ต้องไม่ต่ำกว่า 6 ปี ทางแก้ของคุณก็คือ ทำข้อตกลงใหม่หรือสัญญาใหม่ขึ้นมาโดยระบุเรื่องการเช่าให้ชัดเจนและระบุว่าให้เช่าเพื่อทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การเกษตร เช่นเพื่ออยู่อาศัยเป็นต้น หรืออื่นๆ และระบุเงื่อนไขและระยะเวลาให้ชัดเจน ถ้าหากว่าฝ่ายผู้เช่ายอมทำสัญญาใหม่ ก็ถือว่าถือเอาสัญญาใหม่นี้ใช้บังคับกัน
ปล: อันนี้เป็นแค่ความเห็นผมนะครับ อาจจะผิดก็ได้ ไว้รอพี่ทนายอีกทีนะครับ ผมแค่พวกทะแนะน่ะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
teay23
ก๊วนเสียว
พลังน้ำใจ: 19
ออฟไลน์
กระทู้: 480
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 02:03:03 » |
|
ทางที่ดีต้องถามพี่ทนายวิรัชครับ แต่ถ้าเอาตามที่ผมเข้าใจนะครับ การที่มีข้อตกลงว่าจะเกลดที่ให้แลกกับการเช่าฟรี 2 ปีและจะเสียค่าเช่าในปีถัดไปนั้น ไม่ใช่เป็นการตกลงทำสัญญาเช่าแบบปกติ แต่ข้อตกลงนี้เป็น สัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา แม้ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ใช้ บังคับกันได้ตามข้อตกลงดังนั้นการที่เข้ามาปรับที่แล้ว ถือว่าสัญญามีผลแล้ว และต้องเป็นไปตามข้อตกลง มีตัวอย่างดังนี้ คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๕๒๖/๒๕๓๑ สัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา แม้ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ใช้ บังคับกันได้ตามข้อตกลง และถือไม่ได้ว่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว แม้คู่สัญญาจะตาย สิทธิและหน้าที่ดังกล่าวก็ต้องตกทอดไปยังทายาท ดังนั้นหากไม่มีการทำข้อตกลงกันใหม่ ข้อตกลงดังกล่าวก็ยังต้องใช้บังคับกันได้ และนอกจากนี้เนื่องจากการเช่าตามสัญญาต่างตอบแทนนี้เป็นการเช่าที่นา ดังนั้นจึงได้รับความคุ้มครอง ตาม พรบ.การเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม พ.ศ.2524 โดยมีบทบัญญัติว่า "การเช่าที่นาต้องทำสัญญาให้เช่าครั้งละ 6 ปี โดยไม่ต้องทำสัญญาเพียงตกลงกันด้วยวาจา สัญญานั้นก็ใช้บังคับกันได้ ดังนั้นจึงถือว่าการเช่ากัน 1 ครั้ง ต้องไม่ต่ำกว่า 6 ปี ทางแก้ของคุณก็คือ ทำข้อตกลงใหม่หรือสัญญาใหม่ขึ้นมาโดยระบุเรื่องการเช่าให้ชัดเจนและระบุว่าให้เช่าเพื่อทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การเกษตร เช่นเพื่ออยู่อาศัยเป็นต้น หรืออื่นๆ และระบุเงื่อนไขและระยะเวลาให้ชัดเจน ถ้าหากว่าฝ่ายผู้เช่ายอมทำสัญญาใหม่ ก็ถือว่าถือเอาสัญญาใหม่นี้ใช้บังคับกัน
ปล: อันนี้เป็นแค่ความเห็นผมนะครับ อาจจะผิดก็ได้ ไว้รอพี่ทนายอีกทีนะครับ ผมแค่พวกทะแนะน่ะครับ
ตามนี้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
eagle1
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 08:50:03 » |
|
มาแล้วครับ เมื่อคืนเกรงใจคุณภรรยาต้องรีบปิดไฟ สำหรับกรณีนี้ เป็นไปตาม พรบ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมครับ ไม่ใช่ตามหลักของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นะครับ หลักโดยกว้างๆของพระราชบัญญัตินี้คือ 1.“เกษตรกรรม” หมายความว่า การทำนา ทำสวน ทำไร่ ทำนาเกลือ เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เพราะฉะนั้น การเช่าเพื่อทำนา โดนแน่นอน 2. การเช่านาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ ไม่ว่าจะมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น แม้ยังมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ว่าหากมีพยานที่สามารถนำสืบกันได้ว่ามีการทำสัญญาเช่ากันแล้ว กรณีนี้ ก็ถือว่าสัญญาเช่าเกิดครับ 3.การเช่านาให้มีกำหนดไม่น้อยกว่าคราวละ 6 ปี ถ้าการเช่ารายใดที่ไม่มีกำหนดเวลาหรือกำหนดไว้น้อยกว่า 6 ปี ให้ถือว่าการเช่านานนั้น มีกำหนดระยะเวลา 6 ปี 4. การเช่านาย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์นาที่เช่า ผู้รับโอนต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนที่มีต่อผู้เช่านาตามพระราชบัญญัตินี้ 5. การเช่านาอาจสิ้นสุดก่อนกำหนดระยะเวลาการเช่านาได้ โดยผู้เช่านาและผู้ให้เช่านาตกลงเลิกการเช่านา โดยทำเป็นหนังสือต่อหน้านายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย 6. ถ้าผู้ให้เช่านาจะขายนา ต้องแจ้งให้ผู้เช่านาทราบโดยทำเป็นหนังสือแสดงความจำนงจะขายนา พร้อมทั้งระบุราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงินยื่นต่อประธานคชก. ตำบลเพื่อแจ้งให้ผู้เช่านาทราบภายในสิบห้าวันและถ้าผู้เช่านาแสดงความจำนงจะซื้อนาเป็นหนังสือยื่นต่อประธาคช. ตำบลภายในสามสิบวันนับแต่วัที่ได้รับแจ้ง ผู้ให้เช่านาต้องขายนาแปลงดังกล่าวให้ผู้เช่านาตามราคาและวิธีการชำระเงินที่ได้แจ้งไว้เพราะฉะนั้น ประเด็นที่คุณวิตกกังวลเรื่องไม่สามารถโอนได้ อันนั้นไม่ใช่ครับ โอนได้ แต่คุณจะต้องแจ้งให้เขาทราบก่อน เหมือนกับว่าเขามีสิทธิซื้อก่อนคนอื่นน่ะครับ แต่ถ้าเขาไม่ซื้อ บุคคลภายนอกทั่วไปก็สามารถซื้อได้ แต่คนที่จะมาซื้อก็ต้องเข้าใจว่ามันมีการเช่าตรงนี้อยู่ และเขาก็ต้องรับภาระการเช่าดังกล่าว จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาครับ กรณีนี้ไม่ใชกรณีสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดานะครับ เพราะกรณีสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษนั้น กฎหมายที่ใช้บังคับคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายทั่วไป แต่กรณีการเช่านา ถือเป็นกรณีบังคับตามกฎหมายเฉพาะซึ่งถือเป็นกฎหมายพิเศษครับ จริงๆรายละเอียดมีมากกว่านี้อีกมากครับ แต่อ่านเดี่ยวจะเข้าใจภาษากฎหมายลำบาก เลยเอาเฉพาะที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์แล้วกันนะ ครับ หากสงสัยในรายละเอียดเรื่องไหน ค่อยว่ากันอีกทีนะครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ossytong
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 138
ออฟไลน์
กระทู้: 1,151
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 16:49:29 » |
|
ขอบคุณทุกท่านมากๆจริงๆครับ สุดยอดมากสังคมในนี้ อบอุ่นๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ossytong
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 138
ออฟไลน์
กระทู้: 1,151
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 17:44:36 » |
|
มีคำถามเพิ่มอีกนิสนะครับ
ตอนนี้ต้องยอมให้เค้าเช่าและ T-T
แต่ที่นามีอยู่ครึ่งหนึ่งของโฉนด เราจะแบ่งให้เค้าเช่าแค่ครึ่งเดียวได้มั้ยครับ... แล้วเราจะเขียนในสัญญาประมาณไหนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หนุกหนาน
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 106
ออฟไลน์
กระทู้: 1,243
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 19:29:25 » |
|
มาแล้วครับ เมื่อคืนเกรงใจคุณภรรยาต้องรีบปิดไฟ .......................... จริงๆรายละเอียดมีมากกว่านี้อีกมากครับ แต่อ่านเดี่ยวจะเข้าใจภาษากฎหมายลำบาก เลยเอาเฉพาะที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์แล้วกันนะ ครับ หากสงสัยในรายละเอียดเรื่องไหน ค่อยว่ากันอีกทีนะครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ  ขอบคุณแทน จขกท. + ครับ ที่รักษาสัญญา เพิ่งรู้ว่าในบอร์ดเรามีทนาย มากกว่า 1 ................ แต่ส่วนมากที่ดินเขาก็เช่ากัน ปีต่อปีแหละ ถ้าเพียงเพื่อทำเกษตร ..............
แก้ไขครับ ยอมรับความผิดพลาดอย่างร้ายแรง มั่วเอาเช่าตึก มาปนเช่าที่นาไปได้ไง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fang426
ก๊วนเสียว
พลังน้ำใจ: 15
ออฟไลน์
กระทู้: 242
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 20:19:34 » |
|
เข้าใจความรู้สึกเลยอาการเครียดเพราะไม่เข้าใจกฏหมายเนี่ยได้คนดีๆในบอร์ดนี้แหละ ที่แนะนำ และให้กำลังใจ สุดยอดเลย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tanaiwirat
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 222
ออฟไลน์
กระทู้: 1,801
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 20:23:35 » |
|
มาแล้วครับ เมื่อคืนเกรงใจคุณภรรยาต้องรีบปิดไฟ สำหรับกรณีนี้ เป็นไปตาม พรบ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมครับ ไม่ใช่ตามหลักของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นะครับ หลักโดยกว้างๆของพระราชบัญญัตินี้คือ 1.“เกษตรกรรม” หมายความว่า การทำนา ทำสวน ทำไร่ ทำนาเกลือ เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เพราะฉะนั้น การเช่าเพื่อทำนา โดนแน่นอน 2. การเช่านาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ ไม่ว่าจะมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น แม้ยังมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ว่าหากมีพยานที่สามารถนำสืบกันได้ว่ามีการทำสัญญาเช่ากันแล้ว กรณีนี้ ก็ถือว่าสัญญาเช่าเกิดครับ 3.การเช่านาให้มีกำหนดไม่น้อยกว่าคราวละ 6 ปี ถ้าการเช่ารายใดที่ไม่มีกำหนดเวลาหรือกำหนดไว้น้อยกว่า 6 ปี ให้ถือว่าการเช่านานนั้น มีกำหนดระยะเวลา 6 ปี 4. การเช่านาย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์นาที่เช่า ผู้รับโอนต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนที่มีต่อผู้เช่านาตามพระราชบัญญัตินี้ 5. การเช่านาอาจสิ้นสุดก่อนกำหนดระยะเวลาการเช่านาได้ โดยผู้เช่านาและผู้ให้เช่านาตกลงเลิกการเช่านา โดยทำเป็นหนังสือต่อหน้านายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย 6. ถ้าผู้ให้เช่านาจะขายนา ต้องแจ้งให้ผู้เช่านาทราบโดยทำเป็นหนังสือแสดงความจำนงจะขายนา พร้อมทั้งระบุราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงินยื่นต่อประธานคชก. ตำบลเพื่อแจ้งให้ผู้เช่านาทราบภายในสิบห้าวันและถ้าผู้เช่านาแสดงความจำนงจะซื้อนาเป็นหนังสือยื่นต่อประธาคช. ตำบลภายในสามสิบวันนับแต่วัที่ได้รับแจ้ง ผู้ให้เช่านาต้องขายนาแปลงดังกล่าวให้ผู้เช่านาตามราคาและวิธีการชำระเงินที่ได้แจ้งไว้เพราะฉะนั้น ประเด็นที่คุณวิตกกังวลเรื่องไม่สามารถโอนได้ อันนั้นไม่ใช่ครับ โอนได้ แต่คุณจะต้องแจ้งให้เขาทราบก่อน เหมือนกับว่าเขามีสิทธิซื้อก่อนคนอื่นน่ะครับ แต่ถ้าเขาไม่ซื้อ บุคคลภายนอกทั่วไปก็สามารถซื้อได้ แต่คนที่จะมาซื้อก็ต้องเข้าใจว่ามันมีการเช่าตรงนี้อยู่ และเขาก็ต้องรับภาระการเช่าดังกล่าว จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาครับ กรณีนี้ไม่ใชกรณีสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดานะครับ เพราะกรณีสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษนั้น กฎหมายที่ใช้บังคับคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายทั่วไป แต่กรณีการเช่านา ถือเป็นกรณีบังคับตามกฎหมายเฉพาะซึ่งถือเป็นกฎหมายพิเศษครับ จริงๆรายละเอียดมีมากกว่านี้อีกมากครับ แต่อ่านเดี่ยวจะเข้าใจภาษากฎหมายลำบาก เลยเอาเฉพาะที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์แล้วกันนะ ครับ หากสงสัยในรายละเอียดเรื่องไหน ค่อยว่ากันอีกทีนะครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ  
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 20:29:44 โดย tanaiwirat »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
gotuktuk
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 69
ออฟไลน์
กระทู้: 2,207
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2011, 20:35:51 » |
|
มาแล้วครับ เมื่อคืนเกรงใจคุณภรรยาต้องรีบปิดไฟ สำหรับกรณีนี้ เป็นไปตาม พรบ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมครับ ไม่ใช่ตามหลักของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นะครับ หลักโดยกว้างๆของพระราชบัญญัตินี้คือ 1.“เกษตรกรรม” หมายความว่า การทำนา ทำสวน ทำไร่ ทำนาเกลือ เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เพราะฉะนั้น การเช่าเพื่อทำนา โดนแน่นอน 2. การเช่านาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ ไม่ว่าจะมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น แม้ยังมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ว่าหากมีพยานที่สามารถนำสืบกันได้ว่ามีการทำสัญญาเช่ากันแล้ว กรณีนี้ ก็ถือว่าสัญญาเช่าเกิดครับ 3.การเช่านาให้มีกำหนดไม่น้อยกว่าคราวละ 6 ปี ถ้าการเช่ารายใดที่ไม่มีกำหนดเวลาหรือกำหนดไว้น้อยกว่า 6 ปี ให้ถือว่าการเช่านานนั้น มีกำหนดระยะเวลา 6 ปี 4. การเช่านาย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์นาที่เช่า ผู้รับโอนต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนที่มีต่อผู้เช่านาตามพระราชบัญญัตินี้ 5. การเช่านาอาจสิ้นสุดก่อนกำหนดระยะเวลาการเช่านาได้ โดยผู้เช่านาและผู้ให้เช่านาตกลงเลิกการเช่านา โดยทำเป็นหนังสือต่อหน้านายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย 6. ถ้าผู้ให้เช่านาจะขายนา ต้องแจ้งให้ผู้เช่านาทราบโดยทำเป็นหนังสือแสดงความจำนงจะขายนา พร้อมทั้งระบุราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงินยื่นต่อประธานคชก. ตำบลเพื่อแจ้งให้ผู้เช่านาทราบภายในสิบห้าวันและถ้าผู้เช่านาแสดงความจำนงจะซื้อนาเป็นหนังสือยื่นต่อประธาคช. ตำบลภายในสามสิบวันนับแต่วัที่ได้รับแจ้ง ผู้ให้เช่านาต้องขายนาแปลงดังกล่าวให้ผู้เช่านาตามราคาและวิธีการชำระเงินที่ได้แจ้งไว้เพราะฉะนั้น ประเด็นที่คุณวิตกกังวลเรื่องไม่สามารถโอนได้ อันนั้นไม่ใช่ครับ โอนได้ แต่คุณจะต้องแจ้งให้เขาทราบก่อน เหมือนกับว่าเขามีสิทธิซื้อก่อนคนอื่นน่ะครับ แต่ถ้าเขาไม่ซื้อ บุคคลภายนอกทั่วไปก็สามารถซื้อได้ แต่คนที่จะมาซื้อก็ต้องเข้าใจว่ามันมีการเช่าตรงนี้อยู่ และเขาก็ต้องรับภาระการเช่าดังกล่าว จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาครับ กรณีนี้ไม่ใชกรณีสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดานะครับ เพราะกรณีสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษนั้น กฎหมายที่ใช้บังคับคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายทั่วไป แต่กรณีการเช่านา ถือเป็นกรณีบังคับตามกฎหมายเฉพาะซึ่งถือเป็นกฎหมายพิเศษครับ จริงๆรายละเอียดมีมากกว่านี้อีกมากครับ แต่อ่านเดี่ยวจะเข้าใจภาษากฎหมายลำบาก เลยเอาเฉพาะที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์แล้วกันนะ ครับ หากสงสัยในรายละเอียดเรื่องไหน ค่อยว่ากันอีกทีนะครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ  แน่นมากๆ +1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Happy เฮงๆ รวยๆ 2013 
|
|
|
|
หน้า: 1 2 [ทั้งหมด] ขึ้นบน |
|