ต่อไป »

[peacha]

จริงๆมันก็บาปตั้งแต่คน ฆ่ายันคนกินแหละครับ  แต่ระดับกรรมไม่เท่ากัน  คนกินคงน้อยที่สุด เพราะถือว่าจิตวิญญาณของไก่ได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว

ส่วนความผิดก็แบ่งไปเป็น มโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม เปียงยาง กันไป

คนคิด  คนสั่ง  คนลงมือ   คนกิน

ยิ่งเป็นสัตว์ใหญ่ ยิ่งมีจิตสำนึก รับรู้สูง จะเกิดทุกข์และสร้างผลกรรมได้สูง เวลามันโดนฆ่า

ส่วนกรณีที่ฆ่าแบบไม่ทรมาน ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้ผลกรรมเบาบางลงหรือไม่

ลึกซึ้งๆ

[iNdEpD]

เอาอะไรมาคิดเนี่ย     เรากินมันก็บาปคับถ้าจะคิดให้มันบาปนะคับ

[boybyboy]

แล้วพวกเราละ กินกันทำมัย

ไม่อยากบาปกินผักกันครับ

แต่ผมขอบาปต่อ
 

[GoogleBot]

จริงๆมันก็บาปตั้งแต่คน ฆ่ายันคนกินแหละครับ  แต่ระดับกรรมไม่เท่ากัน  คนกินคงน้อยที่สุด เพราะถือว่าจิตวิญญาณของไก่ได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว

ส่วนความผิดก็แบ่งไปเป็น มโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม เปียงยาง กันไป

คนคิด  คนสั่ง  คนลงมือ   คนกิน

ยิ่งเป็นสัตว์ใหญ่ ยิ่งมีจิตสำนึก รับรู้สูง จะเกิดทุกข์และสร้างผลกรรมได้สูง เวลามันโดนฆ่า

ส่วนกรณีที่ฆ่าแบบไม่ทรมาน ผมไม่แน่ใจว่าจะทำให้ผลกรรมเบาบางลงหรือไม่

ลึกซึ้งๆ

บาป ไม่ บาป อยู่ที่ เจตนา ครับผม แค่นี้ก็ไม่ต้องอธิบายแล้วครับ

[IminkZa]

ถึงจะบาป แต่อย่างน้อยก็เป็นอาชีพสุจริตและทำเงินให้เขานั่นแหละนะ

[vitit_s]

ผมคิดว่าบาปนะครับ จริงอยู่ว่าเป็นอาชีพสุจริต แต่ก็เป็นการเบียดเบียนสัตว์มีชีวิต เพราะสัตว์ทุกตัวก็รักตัวกลัวตามเหมือนกับมนุษย์ครับ

[Rosemary Syrup]

มนุษย์คิดเข้าข้างตัวเองเสมอแล่ะครับ อย่างเวลาทดลองโดยใช้สัตว์ก็บอกว่าเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลกคนอื่นๆ แล้วถ้าวันนึงมีมนุษย์ต่างดาวที่แข็งแรงกว่ามนุษย์อย่างเราๆมาจับไปทดลองบ้าง โดยบอกว่าเผื่อช่วยเหลือมนุษย์ต่างดาวคนอื่นๆ มนุษย์โลกอย่างเราๆจะยอมไหม

เดี๋ยวจะออกนอกเรื่องไปไกล สำหรับเรื่องนี้ผมว่าบาปอยู่แล้วครับ ส่วนเราที่เป็นผู้บริโภคก็บาปเหมือนกันแต่มันก็น่าจะน้อยกว่าคนฆ่าไก่อยู่มากครับ ผมเคยอ่านหนังสือมาว่า สัตว์โลกที่เกิดมาล้วนมาชดใช้กรรม ถ้าเราไปฆ่ามัน เท่ากับเราทำให้ระยะเวลาในการใช้กรรมของมันลดน้อยลงซึ่งถือว่าเป็นบาป (อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณครับ ผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง)

[polygon]

ถ้าให้ยุติธรรม ต้องถามต่อครับ  คนฆ่าบาปไหม - คนขายบาปไหม - คนซื้อบาปไหม - คนกินบาปไหม - คนกินน้ำปลาบาปไหม - กินข้าวบาปไหม(เพราะใช้ยาฆ่าแมลง)

[Rock2Rich]

ในประเด็นนี้ผมเคยสงสัยมากครับ     แต่ท่าน  ว.วชิระ  ก็เคยพูดถึงประเด็นนี้ในรายการหนึ่งว่า

        ทั้งหมดอยู่ที่เจตนาครับ    ถามว่าใครบาปสุดก็คือคนสั่งฆ่าเพราะเจตนามากที่สุด    คนต่อมาก็คนฆ่าถึงจะฆ่าเพราะหน้าที่แต่ก็ยอมทำเพื่อแลก

เปลี่ยนกับเงินจึงมีเจตนาฆ่าแน่นอนแต่ถ้าไม่มีคนด้านบนก็จะไม่เกิดเหตุการณ์นี้     ก็ไม่ต่างจากมือปืนรับจ้างฆ่าคน     ส่วนพวกเราเสมือนผู้ย่อยสลาย

ซากต่างๆเหล่านั้น     ตรงกันข้ามถ้าเราสั่งแม่ค้าที่ตลาดสดว่าฆ่าปลาแล้วแล่เนื้อให้หน่อย    อันนี้ก็บาปครับ     

[bubbleball]

เรื่องการไม่เจตนา ต้องไม่เจตนา บนความไม่ประมาทด้วยครับ  ถ้าหากมีความประมาทเกิดขึ้น ก็เกิดผลกรรมได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่นการขับรถแล้วมีอะไรพุ่งเข้ามาหน้ารถแบบกระทันหันก็ให้ดูว่าประมาทหรือไม่ประมาท ถึงแม้จะชนโดยไม่เจตนาก็ตาม  เมื่อกรรมเกิด ก็จะมีเจ้ากรรมนายเวรเกิด  และจะหลุดจากกรรมนั้นได้ก็เมื่อเกิดการอโหสิกรรมแล้ว หรือชดใช้กรรมเก่า

[Legolas]

กรรมหรือไม่ให้ดูที่เจตนาครับ เคยมีการเปรียบเทียบว่าเวลาคนตีระฆัง ถ้าเจตนามากเสียงระฆังก็จะดังไปไกล คือเจตนาเท่าไหร่เสียงจะดังขึ้นเท่านั้น แต่หากไม่เจตนา เสียงระฆังอาจจะก็จะเบาจนอาจแทบไม่ได้ยินเลยก็ได้

[NUT]

ถ้าไม่มีคนกิน ก็ไ่ม่มีคนขาย 

[cGame]

ถ้าเขาไม่ทำแล้วใครจะทำ หรือต้องนำเข้าจากต่างประเทศหล่ะ เนื้อไก่งวง แบบนี้หรอ

[pHasIs]

แปลกแหะ ทำไมสวรรค์กับนรกของแต่ละประเทศ แต่ละศาสนา ถึงไม่เหมือนกัน   

[Legendary Pon]

ถ้าไม่มีคนกิน เขาก็ไม่ฆ่าไก่หรอกครับ สมมติว่าคนทุกคนบนโลกเป็นมังสวิรัตย์ ก็ไม่มีใครทำบาปหรอกครับ

[tanut59]

ตามคำพระสอน บุญกับบาบ มันแยกกัน บุญส่วนบุญ บาบส่วนบาบ มันจะมีผลต่อชีวิตทั้งส่วนบุญและส่วนบาบ จะส่งผลไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า ก็จะได้รับกรรมที่ทำ

ภาพที่เราเห็นเขาอาจร่ำรวยมีทรัพย์สินมากมาย แต่ความจริงเขาอาจเป็นทุกข์ยิ่งกว่าคนจนๆคนหนึ่ง

เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไป เงินและทุนทำให้คนดูเก่งและฉลาดกว่าคนอืน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

ปัจจุบันมันจึงเป็นแบบนี้ (ภาพภายนอก)
คนรวย คือคนฉลาดและมีบุญ
คนจน คือคนโง่ มีกรรมและบาบ แม้จะไม่ได้ฆ่าสัตว์สักตัว

มันจึงทำให้คนที่ทำอะไร ด้วยน้ำใจเพื่อคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน จึงน้อยลงเรื่อยๆ พร้อมกับร้อยยิ้มและน้ำใจที่หายไป

ตามความเห็นของผม ที่เห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวมันเปลี่ยนไปครับ