ทำไปเลยครับ ถ้ามีการจัดการดูแลอย่างดี
จำนวนโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในแต่ละประเทศจากข้อมูลปี 2006 พบว่ามีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่เดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่ทั่วโลกจำนวน 443 โรง โดยประเทศที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มากที่สุดคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมาเป็นประเทศฝรั่งเศส และญี่ปุ่นตามลำดับ โดยกราฟข้างล่างจะแสดงประเทศและจำนวนโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในแต่ละประทศ สำหรับประเทศที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มากที่สุด 10 อันดับแรก
- ทำไมประเทศไทยถึงต้องมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในสัดส่วนที่สูงมาก ประมาณ 70% ในปี 2551 และ 1 ใน 3 ของก๊าซธรรมชาตินำเข้าจากประเทศพม่า เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศและลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ รัฐบาลมีนโยบายกระจายแหล่งเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าใหม่สำหรับโรงไฟฟ้าฐาน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ต้นทุนการผลิตต่ำและคงที่ และสามารถเดินเครื่องตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการไฟฟ้าพื้นฐาน พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งได้รับการพิจารณาในปัจจุบัน คือ พลังงานนิวเคลียร์ (ปัจจุบันโรงไฟฟ้าฐานในประเทศไทยใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน เท่านั้น)
จากการที่ประเทศมีเสถียรภาพในการผลิตไฟฟ้า (และราคากระแสไฟฟ้า) จะช่วยส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยเพิ่มการจ้างงานในประเทศ ด้วย
- คนไทยไม่มีความรับผิดชอบ จะมีการกำกับดูแลความปลอดภัยโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อย่างไรเจ้า หน้าที่เดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ต้องเข้าหลักสูตรการอบรมเฉพาะทางโดยยึด ถือความปลอดภัยเป็นมาตรการสูงสุดเมื่อสอบผ่านได้รับการอนุญาติให้เดิน เครื่องปฏิกรณ์ฯแล้วยังต้องได้รับการควบคุมการปฏิบัติงานจากเจ้าหน้าที่เดิน เครื่องปฏิกรณ์อาวุโสอีกต่อหนึ่ง
ที่ผ่านมา 47 ปี การเดินเครื่องปฏิกรณ์วิจัยโดยคนไทยได้ดำเนินมาโดยปราศจากเหตุการณ์ใดๆที่ ก่อให้เกิดรังสีรั่วไหลหรืออุบัติเหตุนิวเคลียร์แต่อย่างใด นอกจากนี้พ.ร.บ. พลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (อยู่ระหว่างดำเนินการ) ยกร่างโดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะกำกับดูแลความปลอดภัยโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์กำหนด ให้ผู้เดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะต้องขออนุญาตด้านความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่สถานที่ตั้ง แบบปฏิกรณ์ การก่อสร้าง และการเดินเครื่อง
นอกจาก นี้ การดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยของทบวงการ พลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency, IAEA) ซึ่ง IAEA จะเข้ามาตรวจสอบโรงไฟฟ้าก่อนการเดินเรื่อง ตรวจสอบการเคลื่อนย้ายเชื้อเพลิง เข้าออกจากแกนปฏิกรณ์ ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามการทำงาน และสุ่มตรวจโดยไม่แจ้งล่วงหน้าปีละ 2-3 ครั้ง
- การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศไทยจะเกิดการคอรัปชั่นหรือไม่ เนื่องจากโครงการใหญ่ๆในเมืองไทยมักจะเกิดการคอรัปชั่นเกิดขึ้นการ สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มีมาตรฐานที่สูงและจะอยู่ภายใต้การดูแลของ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ( IAEA) เพราะฉะนั้นการคอรัปชั่นจึงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะถ้าโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่สร้างมาไม่ได้มาตราฐานหรือไม่ได้การ รับรองจาก IAEA โรงไฟฟ้านั้นก็ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้
- ทำไมไม่สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในกรุงเทพฯ เนื่องจากในกรุงเทพฯ มีการใช้ไฟฟ้ามาก ทำไมต้องมาสร้างที่ต่างจังหวัดเนื่อง จากการคัดเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ตามข้อกำหนดของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือ IAEA คือจะต้องห่างไกลจากชุมชนหรือบริเวณที่มีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่น ซึ่งรวมถึงสนามบินและท่าเรือทำให้ต้องคัดเลือกสถานที่ที่ประชาชนอาศัยอยู่ ไม่หนาแน่นเหมือนในกรุงเทพฯตลอดจนฐานรากที่มั่นคงรวมถึงอีกหลายปัจจัยและถ้า เป็นไปได้สถานที่ตั้งควรเลือกบริเวณที่ติดทะเลเพื่อนำน้ำทะเลมาระบายความ ร้อนในโรงไฟฟ้า
- ทำไมโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ต้องอยู่ติดทะเลเช่น เดียวกับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาดใหญ่ทั่วไป โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ต้องใช้น้ำระบายความร้อนในปริมาณมาก หากตั้งอยู่ติดทะเลสามารถใช้น้ำทะเลที่มีปริมาณมากเพียงพอตลอดปี แต่หากตั้งอยู่ในแผ่นดินใกล้แหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำ หรือ บึงจะต้องพัฒนาแหล่งน้ำหรือสร้างที่กักเก็บน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการตลอด ทั้งปี
นอกจากนี้ ในการปล่อยน้ำระบายความร้อนออกจากโรงไฟฟ้า จะต้องไม่ให้อุณหภูมิของน้ำสูงเกินมาตรฐานตามกฎหมาย หากอยู่ติดทะเลจะไม่มีความจำเป็นต้องสร้างหอระบายความร้อนเพื่อลดความร้อน ของน้ำก่อนปล่อยออก เพราะทะเลสามารถกระจายความร้อนออกไปได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้อุณหภูมิของทะเลบริเวณรอบๆจุดปล่อยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากอยู่ในแผ่นดินจะต้องสร้างหอระบายความร้อนหรือสร้างบ่อพักเพื่อลดความ ร้อน ซึ่งทั้งหมดส่งผลให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้นด้วย
นอกจากนี้ จะต้องมีการขนส่งอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากในระหว่างการก่อสร้าง การอยู่ติดทะเลทำให้ง่ายต่อการขนส่ง
- ประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์จะได้อะไรประชาชน ที่อาศัยอยู่ภายในรัศมี 5 กิโลเมตร ที่โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ จะได้รับประโยชน์จากกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ซึ่งโรงไฟฟ้าต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ แตกต่างกันตามชนิดของเชื้อเพลิงที่ใช้ เช่น ก๊าซธรรมชาติ 1.0 สตางค์ต่อหน่วย น้ำมันเตา น้ำมันดีเซล 1.5 สตางค์ต่อหน่วย ถ่านหินลิกไนต์ 2.0 สตางค์ต่อหน่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาการเก็บเงินกองทุนสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ หากคิดในอัตราเดียวกับโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาด 1,000 เมกกะวัตต์ จะมีเงินเข้ากองทุนประมาณ 140-150 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ในระหว่างการก่อสร้างและเมื่อเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะมีการสร้างงาน จำนวนมาก รวมทั้งมีคนเดินทางเข้าไปทำงานในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจในชุมชน เช่น ที่พักอาศัย ตลาด ศูนย์การค้า มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น มีการสร้างสาธารณูปโภครองรับโครงการ เช่น ถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ ระบบไฟฟ้า-ประปา-โทรศัพท์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ซึ่งชุมชนโดยรวมจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่
- โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลงหรือไม่ใน การเลือกประเภทเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าใหม่ จะพิจารณาข้อจำกัดด้านเทคนิคก่อน เช่น ขนาด กำลังการผลิต ความสามารถในการเดินเครื่อง จากนั้น จะพิจารณาต้นทุนการผลิต ซึ่งทั้งหมดจะต้องมีการยอมรับของประชาชนและสอดคล้องกับนโยบายพลังงานของ ประเทศ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มีค่าก่อสร้างอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับโรง ไฟฟ้าประเภทอื่น เนื่องจากต้องมีมาตรฐานและการจัดการด้านความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม และมีมาตรฐานในการควบคุมของเสียในกระบวนการผลิตไฟฟ้ามากกว่าต้องใช้วัสดุ พิเศษประเภทต่างๆและใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยและซับซ้อน รวมถึงระบบสำรองต่างๆมากมาย แต่มีค่าเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายในการเดินเครื่องและบำรุงรักษาต่ำกว่า เมื่อพิจารณาต้นทุนการผลิตเฉลี่ยตลอดอายุของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ต้น ทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยจะถูกกว่าโรงไฟฟ้าประเภทอื่น แต่เนื่องจากมีสัดส่วนการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพียง 3% ในปี 2563 และ 5% ในปี 2564 ตามที่ กพช. กำหนดไว้จึงอาจจะไม่ทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลง แต่อาจจะกล่าวได้ว่า โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ไม่ทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น
- ในอาเซียนมีประเทศใดที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บ้าง และจะสร้างเมื่อใดหลาย ประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ มีความคิดที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ แต่ประเทศที่บรรจุพลังงานนิวเคลียร์ไว้ในแผนพลังงานของประเทศ และมีการเตรียมการที่ชัดเจน คือ ไทย (2,000 เมกกะวัตต์) เวียดนาม (4,000 เมกกะวัตต์) และอินโดนีเซีย (2,000 เมกกะวัตต์) ซึ่งทั้งสามประเทศมีแผนที่จะเดินเครื่องโรงไฟฟ้าโรงแรกในปี 2563 เหมือนกัน
ข้อมูลอ้างอิง : Website เกี่ยวกับสถานการณ์โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในอาเซียน
http://www.world-nuclear.org/info/inf47.html
- จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใดในประเทศไทยขณะ นี้อยู่ระหว่างการสำรวจและคัดเลือกสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงาน นิวเคลียร์ โดยการดำเนินงานตาม พ.ร.บ. คุณภาพสิ่งแวดล้อม มาตรฐานด้านความปลอดภัยของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และกฎหมายของรัฐบาลกลางประเทศสหรัฐอเมริกา (ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โดยตรง แต่ทว่ากำลังอยู่ระหว่างการยกร่างโดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ)
โดยการคัดเลือกสถานที่เริ่มพิจารณาคัดออกหรือหลีกเลี่ยงบางพื้นที่ เช่น พื้นที่สงวน แหล่งชุมชน สนามบินและท่าเรือ รอยแยกของเปลือกโลกที่ยังสามารถเคลื่อนที่ได้ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยจากคลื่นสึนามิ แหล่งท่องเที่ยว และพิจารณาแหล่งน้ำระบายความร้อนสำหรับโรงไฟฟ้า เช่น ทะเล หรือแม่น้ำ จากนั้น ดำเนินการสำรวจภาคสนามเพื่อเก็บข้อมูล รวมทั้งเจาะสำรวจโครงสร้างใต้ดิน
ในการคัดเลือกสถานที่ตั้งที่เหมาะสม จะพิจารณาปัจจัยด้านความปลอดภัย มนุษย์และสิ่งแวดล้อม เศรษฐศาสตร์และด้านวิศวกรรมตามลำดับ ตามแผนงานจะดำเนินการสำรวจและคัดเลือกที่ที่เหมาะสม 5 แห่ง จากพื้นที่ที่มีศักยภาพ 14 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในกันยายน 2552 พื้นที่เป้าหมายอยู่ใน 6 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งส่วนใหญ่มาจากผลการศึกษาในอดีต จากนั้น จะดำเนินการสำรวจและศึกษาในรายละเอียดเพื่อพิจารณาเลือกสถานที่ตั้งที่เหมาะ สมที่สุด 3 แห่ง เสนอรัฐบาลภายในปี 2553
- โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีโอกาสระเบิดเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ หรือไม่ ?ไม่มี เพราะ
1. ความเข้มข้นของเชื้อเพลิงต่างกัน ยูเรเนียม-235 ในเชื้อเพลิงนิวเคลียร์มีความเข้มข้นต่ำ 0.7 ถึง 4% เท่านั้น ส่วนยูเรเนียม-235 ในระเบิดนิวเคลียร์มีความเข้มข้นสูงกว่า 90%
2. วัตถุประสงค์และลักษณะทางกายภาพต่างกัน โรง ไฟฟ้านิวเคลียร์ถูกออกแบบมาใช้งานทางด้านสันติมีอุปกรณ์ป้องกันและมาตรฐาน ความปลอดภัยสูงมาก ส่วนระเบิดนิวเคลียร์ออกแบบมาเพื่อการทำลายล้างเท่านั้น
3. ลักษณะการระเบิดต่างกัน เครื่อง ปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (เชอร์โรบิล-4) ที่เกิดการระเบิดนั้น สาเหตุมาจากการปริแตกของเชื้อเพลิงที่ร้อนจัดแล้วกระทบกับน้ำที่อยู่โดยรอบ จึงเกิดไอน้ำและแรงดันอย่างฉับพลันกลายเป็นแรงระเบิดของไอน้ำที่มีความดัน สูง แต่การระเบิดของระเบิดปรมาณูหรือนิวเคลียร์นั้น เกิดจากการรวมตัวของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์แบบฉับพลัน เพื่อให้เกิดมวลเหนือวิกฤต (Super critical mass) เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชันอย่างรวดเร็วรุนแรง เกิดแรงขับดันอย่างมหาศาล ทำให้ลูกระเบิดแตกตัวออก เกิดแรงอัด คลื่นความร้อน และฝุ่นกัมมันตรังสีฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
4. ความรุนแรงและความเสียหายต่างกัน อุบัติเหตุ โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล-4 อาคารปฏิกรณ์เสียหายบางส่วนสภาพโรงไฟฟ้ายังคงเหลือให้เห็น แต่ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากินั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก บ้านเรือนส่วนใหญ่พังราบเป็นหน้ากลอง บริเวณพื้นที่ราบได้รับความเสียหาย 13 ตารางกิโลเมตร ส่วนบริเวณพื้นที่ภูเขาได้รับความเสียหายประมาณ 6.7 ตารางกิโลเมตร
- ทำไมประเทศไทยไม่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลมในการผลิตกระแสไฟฟ้าแทนการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์- เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์สามารถเดินเครื่องได้ตลอด 24 ชั่วโมงและไม่ต้อง พึ่งพาสภาพอากาศรวมถึงมีกำลังการผลิตที่สูง (กำลังการผลิตอยู่ระหว่าง 600-1750 เมกกะวัตต์ต่อโรง) ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ไม่สามารถเดินเครื่องได้ตลอดเวลา และต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่ามีแสงอาทิตย์เพียงพอหรือความแรงของลมเพียงพอ ในการผลิตกระแสไฟฟ้าหรือไม่ รวมถึงกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานลมมีกำลังการผลิตต่ำกว่ากำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงาน นิวเคลียร์อย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกำลังการผลิตกันต่อโรง
- พื้นที่ที่ใช้เป็นที่ตั้งสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม จะใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ในกรณีที่กำลังการผลิตเท่ากันที่ 1000 เมกกะวัตต์ ดังแสดงได้ข้างล่าง

- ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยของพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมยังคงมีต้นทุนที่ สูงซึ่งจะทำให้เป็นภาระแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในการจ่ายค่าไฟฟ้า (ข้อมูลจาก ก.ฟ.ผ.)
พลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 10-11 บาท/หน่วย
พลังงานลมประมาณ 6 บาท/หน่วย
ในขณะที่ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์จะมีค่าต่ำ กว่าหรือใกล้เคียงกับต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยของโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2.94 บาท/หน่วย (อ้างอิงจากข้อมูลในต่างประเทศ)
- แต่อย่างไรก็ตามกฟผ. ยังคงมีการสนับสนุนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ร่วมเข้าไปในระบบการผลิตไฟฟ้าควบคู่กันไปด้วย ตามแผนพัฒนาพลังงานหมุนเวียน 15 ปีของกระทรวงพลังงาน (พ.ศ. 2551 – 2565) ซึ่งรวมแล้วอีก 15 ปีประเทศไทยจะมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (พลังงานลม พลังน้ำ แสงอาทิตย์ ขยะ ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และไฮโดรเจน) ไม่น้อยกว่า 5,608 เมกะวัตต์ ทั้งนี้เพราะแหล่งพลังงานแต่ละชนิดมีข้อดี-ข้อจำกัดต่างกันจึงต้องใช้ผสม ผสานกัน
- ข้อดีและข้อเสียของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มีอะไรบ้าง ?ข้อดี1. ให้กำลังผลิตสูง ตั้งแต่ 300 ถึง 1,500 เมกะวัตต์ต่อโรง (แต่ที่นิยมสร้างคือ ขนาด 1,000 เมกะวัตต์ขึ้นไป)
เปรียบเทียบกับ พลังน้ำ (เขื่อนภูมิพล) 1 เขื่อน 731 เมกะวัตต์
ลิกไนต์ (แม่เมาะ) 1 เครื่อง 300 เมกะวัตต์
ก๊าซ/น้ำมันเตา (บางปะกง) 1 เครื่อง 600 เมกะวัตต์
ก๊าซ/ดีเซล (ขนอม) 1 เครื่อง 226 เมกะวัตต์
2. ประหยัดต้นกำเนิดพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ลิกไนต์) ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติ และประหยัดพื้นที่ก่อสร้าง
3. เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและมั่นคง ต้นทุนการผลิตต่ำและคงที่
4.มีเชื้อเพลิงเพียงพอ
5. เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่สะอาด ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ควัน ก๊าซพิษ และไม่ปล่อยของเสียสู่สิ่งแวดล้อม
6. อายุการใช้งานยาวนานกว่า 40 ปี (ในอนาคตโรงไฟฟ้ารุ่นก้าวหน้าจะสามารถใช้งานได้นาน 60 ปี)
7. ช่วยพัฒนาบุคลากรของชาติให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในสาขาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง
8. เป็นแหล่งสร้างงาน ก่อให้เกิดธุรกิจ/อุตสาหกรรม ขึ้นมารองรับมากมาย8. ราคาค่ากระแสไฟฟ้าต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนราคาสินค้าสู้กับตลาดโลกได้
9. ระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนมากขึ้น ทำให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ข้อเสีย1. ใช้เงินลงทุนสูง
2.ใช้เวลาก่อสร้างนาน
3.ไม่เชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย
4.อาจมีปัญหาด้านการยอมรับของประชาชน
- โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานิวเคลียร์ของประเทศไทยมีความเป็นมาและมีแผนอย่างไรประเทศไทยเริ่มมีแนวคิดในการดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ในปี 2509 กฟผ. เสนอโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ต่อรัฐบาล ซึ่งได้มีการศึกษาความเหมาะสม และสำรวจคัดเลือกสถานที่ตั้ง ต่อมา รัฐบาลได้เห็นชอบสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ อ่าวไผ่ จังหวัดชลบุรี และเห็นชอบให้ใช้ปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือด (Boiling Water Reactor, BWR) ขนาด 600 เมกกะวัตต์ กฟผ. ได้สั่งจองเชื้อเพลิงยูเรเนียม และเตรียมขออนุมัติเพื่อเปิดประมูลแต่ต่อมาในปี 2521 รัฐบาลเลื่อนโครงการ โดยไม่มีกำหนด เนื่องจากพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย
ในปี 2551 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้อนุมัติแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2550-2564 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 (Power Development Plan, PDP 2007: revision 2) ซึ่งกำหนดให้มีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในปี พ.ศ. 2563 และ 2564 จำนวนปีละ 1,000 เมกกะวัตต์ รวมจำนวน 2,000 เมกกะวัตต์ และ ครม. ได้เห็นชอบแผนจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานเพื่อเตรียมการจัดตั้งโครงสร้างพื้น ฐานพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ให้จัดตั้งสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (สพน.) และเห็นชอบแผนการดำเนินงานและวงเงินงบประมาณในช่วงเตรียมเริ่มโครงการ 3 ปีแรกระหว่างปี 2551 – 2553
ตามแผนจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานฯ แบ่งโครงการฯ ออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1 เตรียมเริ่มโครงการ ปี 2551 – 2553 (3 ปี)
ระยะที่ 2 ดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปี 2554 – 2556 (3 ปี)
ระยะที่ 3 ก่อสร้างโรงไฟฟ้า ปี 2557 – 2562 (6 ปี)
ระยะที่ 4 เดินเครื่องโรงไฟฟ้า ปี 2563
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเริ่มโครงการ โดยมีกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการ ได้แก่ จัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ศึกษาความเหมาะสมโรงไฟฟ้า และสำรวจคัดเลือกสถานที่ตั้ง ทั้งนี้ ในปี 2553 คณะกรรมการประสานงานเพื่อเตรียมการจัดตั้งโครงการสร้างพื้นฐานพลังงานไฟฟ้า นิวเคลียร์ จะจัดทำรายงานความพร้อมของประเทศไทยเสนอรัฐบาลเพื่อขออนุมัติการดำเนินงาน โครงการในระยะที่ 2 ต่อไป
- ทำไม ประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากระเบิดปรมาณู (นิวเคลียร์) จึงเลือกใช้พลังงานนิวเคลียร์มาผลิตกระแสไฟฟ้า (ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่เดินเครื่องอยู่จำนวน 54 โรง)เนื่อง มาจากการที่ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและเห็นข้อดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี พลังงานนิวเคลียร์จึงเกิดการยอมรับ รวมถึงประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติในการนำมา ผลิตกระแสไฟฟ้าอีกทั้งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรมจึงต้องมีการใช้ กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก ประเทศญี่ปุ่นจึงนำพลังงานนิวเคลียร์มาช่วยในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อรองรับ การใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งช่วยเพิ่มความมั่นคงทางด้านพลังงานในการผลิตกระแสไฟฟ้าภายในประเทศใน ระยะยาว
http://www2.egat.co.th/ned/ind...icle&id=191&Itemid=183 