ต่อไป »

[okgofun]

ช่วยชี้แนะหน่อยเถอะครับ script นอกดังๆเขียนโค๊ดซับซ้อนมาก ต่างจากสคริ๊ปไทย เฮ้ออ  นั่งงมถึงตี 5

พวก php opensource ดังๆที่เขาแจกกันหนะครับ เช่นระบบ wordpress , invision power board, Pligg, mambo และอื่นๆอีกมาก เมื่อเทียบกับ opensource ของไทยที่ก็ใช้งานได้ดีที่เขาแจกๆกัน

## ผมก็พอเข้าใจ PHP บ้าง พอทำระบบเป็นบ้าง ##
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ศึกษาสคริ๊ปต่างๆ อย่างของไทยเราหรือบางระบบเนี่ย หน้าเพจจะเป็น index.php แล้วก็ดึงพวก header , footer.php อะไรพวกนี้มาแสดงได้เลย รูปแบบ template ทั้งส่วนของ Admin กับหน้าเว็บเราก็แก้ได้ง่าย ดูแล้วก็เข้าใจ ว่า include config.inc.php มาหน้านั้นๆซะส่วนใหญ่ แล้วก็ include funtion หรือ class  ที่สำคัญต่างๆ

บางหน้าสำคัญๆของสคริ๊ปที่ทำงาน เช่น add ข้อมูล มันก็อาจเป็น addata.php แล้วไฟล์นี้ก็ทำการเรียกใช้ฟังก์ชั่นที่จะเก็บข้อมูล เราก็สามารถที่จะไล่ดูว่า function นั้นทำงานอย่างไรได้เป็นทอดๆที่ไฟล์นั้นเอง

------------------------------------

### แต่.........  ###
พวกสคริ๊ปหรูๆเจ๋งๆของเมืองนอก ตามที่ผมได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เมื่อคืนผมนั่งดูพวกสคริ๊ปของ wordpress,pligg

แบบว่านั่งไล่ทีละไฟล์ เช่นไฟล์แรก index.php include พวก config , setting , utils.php และอื่นๆอีกมากมาย ไฟล์อื่นๆมันก็จะทำการ include กันเป็นทอดๆไปอีก 

แล้วทีนี้ไอ้หน้าแรก index.php หนะ มันก็จะเรียกใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ แล้ว function ต่างๆพวกเนี๊ยะ มันก็จะเรียกจากไฟล์งๆกันมาเป็นทอดๆ ผมละเกือบตายกว่าจะหาได้ว่าฟังก์ชั่นใหนมันเรียกกันตอนใหน ทำงานตอนใหน เชื่อมกันตอนใหน เฮ้ออออ

แล้วฟังก์ชั่นส่วนใหญ่เนี่ย มันก็จะรับค่าคืนค่าตัวแปร อะไรวุ่นวายมากมาย ซึ่งดูแล้วปวดหัวมากๆ พยายามไล่ดูเพื่อศึกษา(เคยลองบ่อยละพวกระบบบอร์ดดังๆ แต่ก็มึนตรึบ คราวนี้อยากลองอีก แบบว่าอยากเขียนแบบนี้เป็นมั่ง เลยมึนซะ)

หลักๆของสคริ๊ปบางส่วนก็พอเข้าใจ แต่ที่ยากที่สุดสำหรับผมคือระบบ template เช่นในไฟล์ template มันจะมี {code php}  แทรกตามไฟล์ template.tpl


@@ เอ่อ สรุปเลยดีกว่า  คือผมอยากรู้มั๊กๆ ว่าหลักการของระบบพวกเนี๊ยะ เขาออกแบบระบบกันได้ยังไง กว่าจะมาเป็นระบบให้เราใช้ๆกันอะครับ แล้วไอ้รูปแบบการทำงานของ template หนะ มันมีมาตรฐานอะไรหรือครับ

แล้วเราควรทำยังไงดี ถึงจะศึกษามันได้อย่างถ่องแท้มากกว่านี้ 

ขอคำชี้แนะและข้อคิดเห็นทีนะครับ อยากเข้าใจให้มากกว่านี้ แต่ปวดหัวจะตายละ  :-\

[barbies55]

นั่งอ่านกระทู้นี้ เลยพลอยปวดหัวไปด้วยเลย 
หยินเป็นคนที่อ่าน php ไม่ออก เขียนสคริปต์ไม่เป็น แต่จะใช้วิธีแบบบ้านๆคือนั่งแกะดูส่วนที่อยากเอามาโมดิฟายเป็นส่วนๆไป
ไม่เข้าใจทั้งระบบ แค่รู้วิธีใช้มันก็โอเคละ

[Braveheart]

สําหรับผมอย่าว่าแต่ สคลิปเลยครับ PHP HTML ก็แทบยังไม่รู้เลยว่าคืออะไร
 

[Tee++;]

หงักการของ Wordpress จะใช้ไฟล์ index.php เป็นไฟล์สำหรับกำนดการเรียก Class ลูกครับ โดยที่ url ที่ถูก rewrite จะส่งค่า query มาเพื่อเรียก module ทำงานในกรณีต่างๆ โดยจะมี ทั้ง ตัวแปรที่จะ เรียก Class ลูกที่เป็น module กับตัวแปร action ในกรณีต่างๆ ส่วน Class ลูกก็จะทำงานอักทีโดย extend Class ที่เกี่ยวของมา แบ่งออกเป็นหลายๆ ชนิด เช่น Class ที่ทำงานกับพวก session cookie databse แล้วก็มี init ที่เป็นค่าตัวแปรสำคัญๆ ส่วนนึง ส่วนค่า settings เก็บมร ดาต้าเบสชื่อว่า options

พอเรียก module เจอแล้วก็จะ เอาค่าทั้งหมดของแต่ละอันมา assign ลงไปใน ไฟล์ template ซึ่งของ WP จะมีตัวมารับไป Compile อีกที แต่ไม่ใช่ว่าจะดี เพราะ Template ของ Wordpress เป็น php ทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไม มันไม่มี Function แก้ Template แบบ Diary ในเวอร์ชั่น mu เพราะว่ามันสามารถเขียน php ลงไปได้เลย เลยไม่ดีแน่ๆ ถ้าให้ user มาแก้ แพวก Template Engine ดังๆ อย่าง Smarty, FastTemplate, Savant พวกนี้น่าสนใจกกว่าครับ

ที่เขียนเป็น oop ทั้งหมดเพื่อง่ายต่อการให้คนอื่นมาเขียน plugis เสริม เพราะเวลามาเขียนต่อก็แค่ extend class เข้าไปใน core ก็จบ

แนะนำถ้าจะเริ่มให้เริ่มจาก WP ไม่ใช่ ipb เพราะมันยากง่ายต่างกันเลย ipb มี 78 ตาราง ขณะที่ wp มีแค่ 10 กว่า ลองดูครับ

[barbies55]

สําหรับผมอย่าว่าแต่ สคลิปเลยครับ PHP HTML ก็แทบยังไม่รู้เลยว่าคืออะไร
 

ไหนว่าเป็นที่ปรึกษาการทำเวบไซต์ของจังหวัดไง จังหวัดไหนเนี่ย ขอดูหน้าเวบหน่อยดิ๊

[Braveheart]

สําหรับผมอย่าว่าแต่ สคลิปเลยครับ PHP HTML ก็แทบยังไม่รู้เลยว่าคืออะไร
 

ไหนว่าเป็นที่ปรึกษาการทำเวบไซต์ของจังหวัดไง จังหวัดไหนเนี่ย ขอดูหน้าเวบหน่อยดิ๊

ที่ปรึกษาด้านการตลาดครับ ไม่เกี่ยวกับทําเว็บ เคยบอกไปแล้วนะครับ
 

[barbies55]

สําหรับผมอย่าว่าแต่ สคลิปเลยครับ PHP HTML ก็แทบยังไม่รู้เลยว่าคืออะไร
 

ไหนว่าเป็นที่ปรึกษาการทำเวบไซต์ของจังหวัดไง จังหวัดไหนเนี่ย ขอดูหน้าเวบหน่อยดิ๊

ที่ปรึกษาด้านการตลาดครับ ไม่เกี่ยวกับทําเว็บ เคยบอกไปแล้วนะครับ
 

ประธานที่ปรึกษาฝ่ายพัฒนาเว็บไซต์ จ.ตราด

หุหุ ยศใหญ่ไม่ใช่เล่นนี่นา

[Braveheart]

เคยเป็นครับ 3 เดือน
ตอนนี้มาทํา ด้านการกีฬาอย่างเดียว พยายามไม่ไปทะเลาะกับใคร
 

[immortal]

อุส่าเปลี่ยน user name แล้วยังซวยไม่เลิก

[Braveheart]

โจทย์เก่ามีเยอะครับ
ตอนนี้กําลังเจรจาอยู่   

[barbies55]

เด๋วจะหาว่าเจ๊โหด เพราะจริงๆนั่งเงียบตั้งหลายวันแม้จะรู้ว่าใครเป็นใคร แต่มาตะบะแตกตอนถูกลามปามอย่างน่าตบ

[Braveheart]

ขอโทษจริงๆ ครับ พอดีมีการพลาดกันได้ครับ ขอโทษมานะที่นี้ด้วยครับ
เอาเป็นว่าคืนดีกันนะครับ 

[golf98765]

หงักการของ Wordpress จะใช้ไฟล์ index.php เป็นไฟล์สำหรับกำนดการเรียก Class ลูกครับ โดยที่ url ที่ถูก rewrite จะส่งค่า query มาเพื่อเรียก module ทำงานในกรณีต่างๆ โดยจะมี ทั้ง ตัวแปรที่จะ เรียก Class ลูกที่เป็น module กับตัวแปร action ในกรณีต่างๆ ส่วน Class ลูกก็จะทำงานอักทีโดย extend Class ที่เกี่ยวของมา แบ่งออกเป็นหลายๆ ชนิด เช่น Class ที่ทำงานกับพวก session cookie databse แล้วก็มี init ที่เป็นค่าตัวแปรสำคัญๆ ส่วนนึง ส่วนค่า settings เก็บมร ดาต้าเบสชื่อว่า options

พอเรียก module เจอแล้วก็จะ เอาค่าทั้งหมดของแต่ละอันมา assign ลงไปใน ไฟล์ template ซึ่งของ WP จะมีตัวมารับไป Compile อีกที แต่ไม่ใช่ว่าจะดี เพราะ Template ของ Wordpress เป็น php ทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไม มันไม่มี Function แก้ Template แบบ Diary ในเวอร์ชั่น mu เพราะว่ามันสามารถเขียน php ลงไปได้เลย เลยไม่ดีแน่ๆ ถ้าให้ user มาแก้ แพวก Template Engine ดังๆ อย่าง Smarty, FastTemplate, Savant พวกนี้น่าสนใจกกว่าครับ

ที่เขียนเป็น oop ทั้งหมดเพื่อง่ายต่อการให้คนอื่นมาเขียน plugis เสริม เพราะเวลามาเขียนต่อก็แค่ extend class เข้าไปใน core ก็จบ

แนะนำถ้าจะเริ่มให้เริ่มจาก WP ไม่ใช่ ipb เพราะมันยากง่ายต่างกันเลย ipb มี 78 ตาราง ขณะที่ wp มีแค่ 10 กว่า ลองดูครับ

สรุปได้ดีมากเลยครับคุณตี๋
















แต่ผมไม่รู้เรื่องสักนิด  ภาษาโปรแกรมเมอร์นี่หน่า 

[ืnamsai49]

เด๋วจะหาว่าเจ๊โหด เพราะจริงๆนั่งเงียบตั้งหลายวันแม้จะรู้ว่าใครเป็นใคร แต่มาตะบะแตกตอนถูกลามปามอย่างน่าตบ

โหดจัง

[Sylar]

โดยที่ url ที่ถูก rewrite จะส่งค่า query มาเพื่อเรียก module ทำงานในกรณีต่างๆ โดยจะมี ทั้ง ตัวแปรที่จะ เรียก Class ลูกที่เป็น module กับตัวแปร action ในกรณีต่างๆ ส่วน Class ลูกก็จะทำงานอักทีโดย extend Class ที่เกี่ยวของมา

ง่ายๆ ก็คือต้อง ทำให้มันเป็นระบบ ที่ทุกอย่างทำงานได้อย่างลงตัว กินโฟเซสน้อยไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนและพริ้วไหว เหมือนเล่นดนตรี

[okgofun]

ขอบคุณมากๆเลยครับ เดี๋ยวผมจะลองศึกษาทำความเข้าใจเพิ่มเติมดู ตอนนี้ลองโหลด smarty มาและ