ทุกขลาภ ทำเด็ก 9 ขวบแทงเพื่อนรุ่นน้องวัย 6 ขวบดับ สาเหตุจากทะเลาะเรื่องเงินเก็บได้ 10 บาท โดนรุ่นน้องใช้ไม้ตี สวนกลับด้วยมีดแทงท้อง-ฟันหัวดับคาชุดนักเรียน ทิ้งศพไว้จนชาวบ้านไปพบ ตำรวจตามจับได้อยู่ในอาการหวาดผวาหนัก อ้างไม่รู้ว่าถึงตาย
เหตุสลดใจ เด็กวัยประถมฆ่ากันตายครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 15 มิถุนายน ร.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ โมรารัตน์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า พบศพเด็กชายบริเวณหลังโรงเรียนบ้านนากว้าง ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งญาติแจ้งความว่าหายตัวไปจากบ้านตั้งแต่เวลา 18.30 น. วันที่ 14 มิถุนายน จึงแจ้งให้ พ.ต.อ.วิเชียร พิณดวง ผกก.สภ.อ.เมืองอุดรธานี ทราบ และเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี อาสาสมัครมูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม
ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน บริเวณเนินดินซึ่งเป็นเตาเผาถ่านเก่าอยู่กลางทุ่งนา มีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ในพุ่มไม้บนเนินดินพบศพ ด.ช.รชต พึ่งมา หรือน้องเท็น อายุ 6 ขวบ นอนตะแคง สวมชุดนักเรียนเสื้อสีขาว กางเกงสีน้ำเงิน จากการชันสูตรเบื้องต้นพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่หน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์จนลำไส้ทะลัก 1 แผล ศีรษะทั้งซ้ายและขวารวม 2 แผล หางคิ้วขวา 1 แผล ด้านหลังถูกแทงเป็นแผลลึกรวม 4 แผล และน่องขาซ้าย 1 แผล แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตมาประมาณ 4-6 ชั่วโมง
ส.อ.คำ บุตรธนู อายุ 76 ปี ปู่บุญธรรมของด.ช.รชต ผู้ตาย เล่าว่า ตนแต่งงานกับนางบุญโฮม บุตรธนู ย่าของน้องเท็น โดยน้องเท็นไปอยู่ที่ กทม.กับพ่อแม่ กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา พ่อแม่แยกทางกัน จึงไปรับหลานมาเลี้ยงเมื่อเดือนมีนาคม และให้เข้าเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่โรงเรียนกระจ่างวิทย์ น้องเท็นเป็นเด็กน่ารัก ร่าเริง พูดเก่ง ทุกวันตนมีหน้าที่รับส่งไปโรงเรียน กลับมาก็ให้ย่าสอนการบ้าน แล้วจึงอนุญาตให้ออกมาเล่นกับเพื่อน วันนี้ให้บุตรสาวคนเล็กไปรับน้องเท็นกลับจากโรงเรียน จากนั้นพอนางบุญโฮมสอนการบ้านเสร็จก็ให้ขี่จักรยานไปเล่นกับเพื่อนๆ 4-5 คน
พอถึงช่วงค่ำ เวลาประมาณ 18.30 น.หลานชายอีกคนที่เล่นด้วยกัน นำรถจักรยานมาเก็บ แต่ไม่เห็นน้องเท็น สอบถามก็ไม่ได้ความ จึงออกตามหา โดยประกาศให้ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกันช่วยออกตามหานานกว่า 5 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบตัว กระทั่งเวลาประมาณ 24.00 น.มีชาวบ้านมาแจ้งว่าพบศพน้องเท็น
นายนฤเทพ สิงห์เสนีย์ ชาวบ้านนากว้างที่ร่วมออกตามหาและเป็นผู้พบศพคนแรก เล่าว่า หลังจากเวลาประมาณ 18.30 น.ตนและชาวบ้านได้ร่วมกันออกตามหาน้องเท็นตามที่ต่างๆ และมีชาวบ้านส่วนหนึ่งไปให้หมอดูในหมู่บ้านใกล้เคียงช่วย ซึ่งได้คำแนะนำว่าให้ค้นหาทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน พวกตนก็ไปตามหาตามชายป่า รวมทั้งลงงมหาในหนองน้ำแต่ก็ไม่พบ กระทั่งเวลาประมาณ 24.00 น. จึงพบศพน้องเท็นที่เนินดินหลังโรงเรียนบ้านนากว้าง ห่างจากบ้านน้องเท็นประมาณ 500 เมตร จึงรีบกลับไปแจ้งให้ญาติของเด็กทราบ
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มิถุนายน พ.ต.ท.กิตติพงษ์ จิตรคาม สว.สส.สภ.อ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลังตำรวจสืบสวนชุดพิรุณ ได้ไปที่บ้านของ ด.ช.บอย (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ อยู่ ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนทำร้ายน้องเท็น เนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้ออกไปเล่นด้วยกัน
เจ้าหน้าที่พบ ด.ช.บอย อยู่กับมารดาที่บ้าน ส่วนบิดาไปทำงานรับเหมาก่อสร้างที่ จ.หนองคาย จึงขอตรวจค้น พบเสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงนักเรียนขาสั้นสีน้ำเงินเปื้อนเลือด จึงยึดมาตรวจสอบ พร้อมกับเชิญ ด.ช.บอยและมารดามาสอบปากคำที่สถานีตำรวจ เบื้องต้น ด.ช.บอย ยังให้การวกวน อยู่ในอาการหวาดผวา สั่นกลัว ทั้งยังอ้างไม่รู้ว่าน้องเท็นเสียชีวิตได้อย่างไร เพราะหลังจากเล่นด้วยกันที่ทุ่งนาเสร็จก็แยกย้ายกันบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามพูดจาปลอบและให้มารดาช่วยสอบถามให้
จนกระทั่ง ด.ช.บอย ยอมรับว่าเป็นคนใช้มีดแทงน้องเท็น โดยเล่าว่า เป็นเพื่อนเล่นกลุ่มเดียวกับน้องเท็น แต่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไร ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกเรียนได้ชวน ด.ญ.ปูเป้ ด.ช.ป้อม และ น้องเท็น รวม 4 คน ไปขี่จักรยานเล่นในหมู่บ้าน จากนั้นก็พากันไปหาปูที่ทุ่งนา ระหว่างนั้น ด.ช.ป้อมเก็บเงินได้ 10 บาท จึงเอามาฝากไว้กับตน โดยบอกว่าจะแบ่งกัน 3 คน ไม่ให้น้องเท็น
ด.ช.บอย เล่าต่อว่า เมื่อน้องเท็นทราบเรื่องจึงมาด่า แล้วใช้ไม้ตีที่ขาของตน ด้วยความโมโหจึงใช้มีดที่แม่ใช้ปอกผลไม้ฟันไปที่ขาและศีรษะจำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง จนน้องเท็นเลือดออกและหมดสติไป จากนั้นด้วยความตกใจกลัวจึงรีบกลับบ้าน แม่เห็นอาการผิดปกติและเสื้อผ้าเปื้อนเลือดจึงสอบถาม ซึ่งโกหกไปต่างๆ จนตำรวจมาหาที่บ้าน
ต่อมาตำรวจได้พา ด.ช.บอยไปชี้จุดเกิดเหตุ และตรวจยึดมีดความยาวประมาณ 12 เซนติเมตร ที่ทิ้งไว้ในพุ่มไม้ใกล้กับที่เกิดเหตุ นำมาเป็นหลักฐานประกอบคดี เพื่อรวบรวมส่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่มาจาก
