ThaiSEOBoard.com

ส่งข้อสอบให้ทำ แต่ทำไม่ได้ แต่อยากได้เงินเดือนเยอะ เดือนที่ผ่านมา ทำข้อสอบ 10 คน ผ่าน ซักคนยังยากเลย

ข้อสอบง่ายๆ หรือว่าใช้ cms กันจนติดนิสัยล่ะเนี้ย โปรแกรมเมอร์หายากขึ้นทุกวัน   :P :P :P

ต้องให้ขอสอบแบบมีคำตอบให้เลือก  ก ข ค ง  :wanwan004:  :wanwan035:

ไม่ใช่แระ โปรแกรมเมอร์ ใช้ CMS    

CMS คนทั่วไปก็ใช้ได้ครับ ไม่ต้องจ้างถึงขนาดโปรแกรมเมอร์หรอก   :wanwan020: :wanwan020: :wanwan020:

ผมก็หมายถึงอย่างนั้นแหละครับ เด็กทุกวันนี้มันใช้ cms จนมันเขียนอะไรไม่เป็นแล้ว  :P :P :P

ผมจะตั้งใจเรียนครับ อีก2ปีจบ  :wanwan003:

ปล.ว่าแต่ข้อสอบเป็นแนวไหนหรอครับ จะได้เตรียมตัวถูก จะได้ไม่ตกงานในอนาคต

ผมก็ทำข้อสอบไม่ได้นะครับเพราะเวลาสอบต้องใช้ความรู้ที่มีอยู่ในสมอง แต่ผมทำงานได้เพราะผมมี GooGle  คหสต นะคับ ตอนสมัครงานผมก็บอกตรงๆว่าเขียนไรไม่เป็นเลย แต่พร้อมจะเรียนรู้ทั้งเวลางานและนอกเวลางาน แต่ไม่ได้ขอเงินเดือนเยอะนะคับ เพราะผมคิดว่า ถ้าผมเก่งเมื่อไหร่ เงินเดี๋ยวมันก็มาเองตามความสารถของเรา  :P :P

ข้อสอบมี 2 ชุดครับ ชุดแรก ส่งไปให้ทำที่บ้าน ถ้าทำได้ก็จะเรียกมาสมัภาษ ชุด 2 ทำที่บรืษัต มีคอมให้มีเน็ตให้ครับ google ใช้ได้เต็ม 100%  :wanwan003:

เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับ ที่นี้เด็กจบใหม่ก็ได้ พอๆกะที่อื่นครับ แต่ถ้าขยัน + เก่ง เงินเดือนขึ้นไวมากครับ

ไม่ต้องเตรียมตัวหางานครับ 2ปีมีเวลาเหลือเฟื่อในการสร้างตัว ทำให้เยอะเขียนให้เยอะ ถ้าตั้งใจจริง เผลอๆ 2 ปี จบมาไม่ต้องหางานล่ะมั้งครับ

ผมยังเสียดายเลย ตอนเรียนไปทำซากอะไรอยู่  :wanwan022: :wanwan022: :wanwan022:

โห ถ้าขนาดนี้แล้ว งั้นก็ไม่รับแหละครับถูกต้องแล้ววว  :-[

เด็กจบใหม่

ผมไม่ให้ทำข้อสอบเขียนโปรแกรมเลย น้อยคนที่จะทำได้

ผมจะดูที่ Logic มากกว่า

ส่วนใหญ่ที่เห็น คนที่เข้ามาแบบเขียนไม่เป็นเลย ทำไปสักพัก เทพ เลย

งงเหมือนกัน

โปรแกรมเมอร์เก่งๆหายากครับสำหรับเมืองไทย ส่วนคนที่เก่งจริงๆมักไม่ค่อยมาสมัครเป็นลูกจ้างใครซ่ะด้วย

มหาลัยสอนพื้นฐาน(บ้างที่) ผมมาหาเองลุยเองตลอด สมัยเรียนผมสอน CMS อาจารย์ด้วยซ้ำไป
ขอเอามุขเก่าๆมาเล่น :wanwan019:

เด็ก:อาจารย์สอนวันละกี่วิชาเหรอครับ
อาจารย์:วิชาเดียวจ้าสอนหลายวิชาไม่ได้หรอกเหนื่อยสอนหลายห้อง
เด็ก:ผมเรียน1วันการบ้าน  5 วิชาอาจารย์ว่าผมไม่เหนื่อยบ้างเหรอครับ


 :wanwan013: :wanwan013:

ตอนเรียนสอบพื้นฐานไม่มี พลิกแพลง ทำโปรเจคจ้างตลอด
จบออกมาทำอะไรไม่ได้ อยากได้งานสบายเงินสูงๆ
สายโปรแกรมเมอร์ไม่ค่อยมีน่ะ

 :P

ใช่ครับ ถ้าจะจ้างมาใช้ CMS ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมเมอร์ครับ
ถ้าจะหาคนที่เขียนโปรแกรมได้จริงๆทุกวันนี้ผมว่าหายากครับ
ตอนผมสมัครงาน เค้าให้ผมเขียนระบบสมาชิก เน็ตก็ไม่มีให้ใช้
เค้าจะ copy php manual ให้ผมบอกไม่เอา ผมก็ทำได้นะ
เพราะเคยทำมาแล้ว และผมก็ได้งานเพราะระบบสมาชิก 555+

เด็กรุ่นใหม่ บางคนแรกๆก็ไม่มีความรู้นะครับ แต่เขาก็พัฒนาตัวเองได้ดี
และส่วนใหญ่เด็กเกรด 3 กว่าสู้เด็ก 2 กว่าไม่ได้

 :-X :-X

สายโปรแกรมเมอร์ ความเก่งไม่ได้วัดที่สถาบัน  :wanwan001:

ถ้าเปิดโอกาสขนาดนี้แล้วยังทำไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับระบบการศึกษาละครับ ว่าทำไมถึงจบมาแล้วทำไม่ได้กัน ขนาดให้หาในกูเกิลแล้วทำไม่ได้นี้ ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

ตอนผมเรียน เห็นเพื่อนหลายคนกว่า 50% จบเพราะอาศัยเพื่อน ลอกเพื่อน ให้เพื่อนช่วยทำ สุดท้ายไม่ไหวจริงๆอาจารย์ก็ช่วยจนจบ ส่วนตัวผมเป็นคนหยิ่ง ทนงในศักศรี ไม่ของลอกใคร ก็เลยไม่จบ สาเหตุหลักคือขี้เกียจ + เที่ยวด้วย แต่พอมีเรื่องต้องบีบให้หาเงินเลยมาศึกษา IM นี่แหละครับ พอมีประสบการณ์แล้วเลยทำให้หางานได้ง่ายด้วยวุฒิแค่ ม.6

นี่แหระ ตัวจริง

เพื่อนนู๋หลายคน เป็นหัวหน้าห้อง ได้เกรด 3+
จบ ม.ดังๆ หลายคนยังไม่ได้งาน
เลือกงานมาก บอกเงินน้อย ที่ทำงานไกลบ้าน

ไอ้พวกที่เรียนไป เล่นไป เกือบไม่จบ ได้งานกันหมดแล้ว

 :wanwan019:

ผมก็คนหนึ่งแหละครับ จบแบบไม่ค่อยจะสนใจเพื่อนๆ เคยมีเรื่องถึงขั้นผมดิสเดรดิตเพื่อนเกือบทั้งห้อง
พอดีว่ามีเรื่องกันตอนฝึกงาน ตอนงานเลี้ยงหลังฝึกงานวันสุดท้าย เข้าใจอารมณ์คนเมานะครับ
พูดอะไรไม่ได้คิด แต่เข้ามาแบบผิดหูผม ผมก็ไม่ได้ถือสาหรอกทีแรก แต่พอมานหายเมา ดันเอาเรื่องนั้นมาพูดเรื่อยๆ
ซึ่งผมไม่ค่อยชอบ ผมเลยถามไปว่าจะหยุดได้หรือยังเรื่องฝึกงาน เขาก็ไม่หยุด สรุปผมก็เลยเป็นคนหยุดเอง
การหยุดของผมคือ ไม่สนใจเพื่อนเกือบทั้งห้อง ห้องผมมี 74 คน ผมสนใจแค่ 5 คนเพราะบ้านอยู่ติดกัน เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก
นอกนั้นทิ้งหมด แล้วทำให้มานดูว่า ถ้าผมไม่คนเพื่อนอย่างเขา ผมก็อยู่ได้ บางทีอาจดีขึ้นด้วยซ้ำไป

นั่นคือเรื่องเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่เรียนปริญญาตรี ปัจจุบันคือข้อพิสูจน์อย่างดีว่า ผมไม่คบเพื่อนกลุ่มนั้นต่อเป็นสิ่งที่ดีและถูกที่สุดแล้ว
ปัจจุบันก็จบ ปริญญาโท วิศวกรรมโทรคมนาคม ไปเรียบร้อย กำลังเป็นอาจารย์ช่วยสอนและศึกษาต่อ ปริญญาเอก
เรียน ปริญญาเอก ตัววิชาเรียนหมดละ เหลือทำ thesis ก็ทำไปเรื่อยๆ สักวันมันก็ผ่านไปเอง ถ้าผมมีความพยายามมากพอ

ทุกวันนี้งานผมมีเยอะ แต่ผมไม่ทำ พยายามหาเวลาว่างใส่ตัวเอง เพราะการทำ thesis ปริญญาเอก หากใครได้เคยสัมผัสจะรู้ว่ามันสุดขั้วขนาดไหน
บางทีทำไปแล้วถึงกับต้องบอกว่าหลุดโลกไปเลย เพี้ยนไปทั้งวัน ต้องกลับมานั่งหรือนอนสงบสติ แล้วทางออกที่สุดของผมคือการเข้าวัด
รู้สึกว่าเข้าไปแล้วสบายใจมากๆ ไปช่วยกวาดลานวัด ช่วยงานนิดๆหน่อยๆ เป็นการผ่อนคลาย
หากวันนั้นไม่ได้ไปวัด แล้วเกิดอาการเคลียด ผมก็กลับเข้ามาหาธุรกิจของผมที่ทำไว้ในโลกอินเตอร์เน็ต ทำเว็บ ขายของ คุยกับคนอื่น
นี่คือการผ่อนคลายของผม

ใครจะบอกว่าผมไม่มีหลักแหล่งก็ได้ เพราะผมไม่มีหลักแหล่งจริงๆแหละ เป็นเพียงคนช่วยสอบ ไม่มีเงินเดือน มีแต่น้ำใจ
ทำงานวิจัย ไม่มีรายได้ มีแต่รายจ่าย ต้องใช้พลังใจอย่างเดียว อยู่ห้องเช่าราคาถูกๆ 3 พัน กินข้าววันละ 1 มื้อตอนเย็น
บางทีเดินผ่านน้องๆ นศ. เขาก็บอกว่า พี่ๆ ทำไมพี่ทำตัวไม่สมกับที่กำลังเรียน ปริญญาเอกเลยหละ

คำๆนี้ผมฟังแล้วก็เลยตอบไปว่า แล้วพี่ต้องทำไงครับให้สมกับ นศ.ปริญญาเอก ต้องไปเที่ยว ต้องแต่งตัวดีๆ ต้องกินของแพงๆ หารถหรูๆ แบบน้องใช่หรือป่าวครับ

น้องๆก็เงียบแล้วเดินจากไป ทำหน้าตาเหมือนจะไม่พอใจในคำตอบของผม แต่ผมไม่สนใจหรอก เพราะเดี๋ยวทุกวันนี้เขายังมีเงินให้ใช้
เมื่อไหร่ที่เขาเรียนจบ เขาต้องทำงาน เขาต้องหาเงิน เมื่อนั้นแหละ เขาจะคิดถึงคำพูดของผม

ผมก็ไม่รู้หรืออาจไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่า ปัจจุบันนี้ นศ. ที่ผมรู้จักต้องบอกว่า 80% เขาคิดอะไรกันอยู่ บางคนก็เรียนเหมือนให้จบๆ
บางคนก็ไม่เรียนเลยด้วย แต่พอถึงเวลาสอบก็มาสอบ พอคะแนนไม่ถึงก็โทษว่าอาจารย์ออกข้อสอบยาก สอนไม่ดี ขนาดคนเขาเข้ามาเรียนทุกวันยังทำไม่ได้ แล้วเขาไม่เข้าจะทำได้ไง
จริงๆแล้วข้อสอบที่อาจารย์ออกมาให้ นศ. ทำ อาจารย์เขาไม่ได้ออกยากเลย เขาออกตามที่สอนเราแหละ เพียงแต่มีการประยุกต์ แล้ว นศ. ต้องใช้ความคิดอีกสักหน่อย จึงจะตอบได้
ผมไม่รู้นะครับว่า นศ. คนอื่นๆจะเป็นยังไง ผมไม่ได้เหมารวมนะ ผมแยกอยู่ครับว่า กลุ่มที่ผมพูดถึงคือกลุ่มที่ผมรู้จัก นอกจากนี้ผมก็ไม่พูดถึง

แล้วอย่างการทำงาน ณ ปัจจุบัน งานทุกอย่างมันมีการแข่งขั้นหมด หากคุณกำลังเป็น นศ. ที่เรียนให้จบๆไปวันๆ เมื่อไหร่ที่คุณจบได้ถึงจุดหมายของคุณแล้ว
พอคุณออกมาหางาน พลังการต่อสู้กับงาน ประสิทธิภาพของงาน ที่ได้จากตัวคุณจะน้อย

ต่างกับคนที่เป็น นศ. ที่เรียนและทำทุกอย่างแบบตั้งใจ หาสิ่งแปลกๆมานั่งทำเล่นๆแบบไม่ต้องมีใครมาสั่ง ทำเอง คิดเอง รู้เอง สุดท้าย แก้ปัญาเอง
แล้วพอเมื่อคุณไปทำงาน เจอหน้างานจริง ทุกอย่างจะลงตัวและสมบูรณ์แบบมาก เพราะคุณได้ฝึกความคิด ฝึกทักษะ สกิลต่างๆ และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวเองได้

ส่วนในเรื่องของการใช้ CMS หรือไม่ ผมไม่ขอพูดถึงแล้วกันครับ เพราะมันเป็นเทคนิค หากเรานำ CMS มาพัฒนาให้ตรงตามความต้องการของเราได้
ผมคิดว่าทุกอย่างมันก็คือคำตอบแล้วเหมือนกัน
แต่ถ้าหากว่าใช้ CMS แล้วไม่ได้ตามที่ต้องการ ก็ต้องรู้จักแก้ปัญหา เช่นใช้ C,java เป็นต้น เพื่อให้ได้ตามความต้องการ
ผมมองว่าต้องมองที่เนื้องานก่อนครับว่าเนื้องานเป็นอย่างไรแล้วต้องมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ที่ทำให้งานนั้นไปถึงจุดหมายได้

นี่แหละครับ เวลาผมได้พิมพ์ทีไร ผมจะชอบพิมพ์ยาวๆ ไม่รู้เป็นโรคอะไร 55555
หากมันยาวและไร้สาระสำหรับใครบางคน ผมก็ขออภัยไว้ด้วยครับ

 :wanwan013: :wanwan013: :wanwan013: :wanwan013: :wanwan013:

ผมก็เด็กจบใหม่ครับ จบ ปวส. ครับ
เรื่องเกรดอย่าไปพูดถึงมันครับ เกรดแสนจะน้อยนิด
เพิ่งจบเดือนมีนาที่ผ่านมา ตอนนี้ได้งาน ผู้จัดการทั่วไป บริษัทแห่งหนึ่งครับ พนักงาน10 คนนิดๆ
เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนมา มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรกับชีวิตการงานเลย แต่บางเรื่องก็สำคัญมาก

ไม่เคยคิดครับว่าเรียนเพื่อหางาน แต่เรียนในสิ่งที่ชอบ แล้วงานที่รักมันก็จะมาหาเองครับ

มาอ่านเก็บข้อมูลครับ  :wanwan017:

สมัยผมเรียน ตอบข้อสอบผิดติดลบ  ไม่ตอบปรับตก เป็นเกรด F
แถมข้อสอบสมัยพวกผมเรียน ถามละเอียดมาก เช่น ข้อความต่อไปนี้อยู่หน้าใดและบรรทัดที่เท่าไหร่  และสามารถนำข้อความนี้มาปรับประยุกต์ใช้อะไรบ้าง จงเขียนโค้ดยกตัวอย่าง
ข้อกา อย่าถามถึง ไม่มีครับ

แต่ไม่รู้นะว่าสมัยนี้เข้าเรียนกันอย่างไร  เคยถามเด็ก นศ. เล่นๆ ตอนไปเป็นอาจารย์พิเศษสอนมหาวิทยาลัย  ถามบ้านๆเลย จะทำอย่างไรให้คอมพิวเตอร์รู้ว่า ตัวเลขที่เรากรอกเข้าไปเป็นเลขคู่ หรือ คี่

ไม่อยากจะบอกเลยว่า  เงียบทั้งห้อง ทั้งที่กรอกหน้าบรรยายสอนเนื้อหาก่อนแล้ว

:wanwan012:

เกรดน้อย เรียนไม่ตรงสาย จบมาดันได้เงินเยอะกว่าพวกเกรดเยอะ - ทำงานตรงสายที่เรียน
เป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไปจนชินแล้วนะฮะ
 :wanwan024:

กำลังเรียนอยู่ อีก 3 ปี ถึงจะจบ

ระหว่างนี้ก็หาประสบการณ์ไปเรื่อยคับ :wanwan020:

ผมเห็นด้วยกับท่านนี้ครับ

ต้องพัฒนาตัวเอง มองของใหม่อยู่เสมอ  อย่าง google app engine  ผมเห็นไม่ค่อยใครตามมาเล่นด้วยเลย
ว่าจะแอบเขียนหนังสือ ขาย (ไม่รุ้ จะมีใครสนใจบ้าง ) ..  ทำเว็บบอร์ด เฉพาะ  (http://timeforums.appspot.com/index.php?board=38.0)  ยังไม่ค่อยมีใครไปตั้งคำถามหรือ 
 แสดงว่า เด็กไทยเก่ง GAE กันหมดแล้ว (?) ""  ไม่เห็นเคย xxx.appspot.com   ออกสู่สายตา มีแต่ blogspot.com  เกลื่อนจนล้น   
 สายโปรแกรมเมอร์  ต้องรับของใหม่ ให้ ทันครับ   ต้องวิ่งตามให้ทัน  ฝรั่งเข้าก้าวไปเร็วก็ต้องก้าวตามให้ทัน   

ใช้ node.js ได้ไหมครับ

ผมขอตอบในมุมมองของเจ้าของกิจการ
สายตรงด้าน software developer นะครับ
เด็กสมัยนี้ (เค้าเรียกกันว่า gen y ใช่ไหม ฮ่าาา)
1. ไม่มีความอดทน
2. ไม่มีความสามารถ
3. เรียกเงินเดือนสูง
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ ผมกล้าพูดได้ว่า 10 คน จะเป็นแบบนี้ 9 คน
โดยเฉพาะเด็กที่จบจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ
สิ่งที่ผมทำคือ ผมซักถามนิดหน่อยพอเป็นพิธีตอนรับสมัคร
แล้วผมก็จะให้ทำข้อสอบ IQ (ส่วนใหญ่ตกซะเยอะ) ชุดที่ 1 ซึ่งใช้เวลาทำประมาณ 2 ชั่วโมงได้
ตรงนี้เกิน 50% จะทำเสร็จภายใน 30 นาที (คงเดาได้นะว่าเพราะอะไร)
หลังจากนั้นถ้าใครทำเสร็จชุดแรก (ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเกือบๆ 2 ชั่วโมง ถ้าทำจริง)
ผมจะถามว่า สะดวกมาทำอีกชุดไหม ในวันถัดไป
ตรงนี้อีก 30-40% จะไม่มา (ทดสอบความอดทน ซึ่งไม่ค่อยมีกันใน ข้อ 1)
ถ้าใครมาแล้วทำชุดที่ 2 เสร็จ คุณจะมี 2 ทางเลือก
1. เอาเฉพาะคนที่ผ่าน (นั่นแสดงว่าใช่จริงๆ)
2. เอาคนที่ทำเสร็จ คะแนนไม่แย่มาก (เพราะอย่างน้อยยังมีความอดทน)
ทำไปซัก 100 คน ถ้าได้มาซัก 2 คน ก็หรูแล้วครับ  :P :P

ไม่ต้องโทษเด็กนะครับ ผมว่าการศึกษาและสภาพแวดล้อมมันสร้างให้เค้าออกมาเป็นแบบนี้ น่ากลุ้มใจครับ   :P :P

ตอนนี้หาคนมาทำงาน ต้องประเภท พร้อมที่จะรับการแนะนำและเรียนรู้งาน คือสอนงานง่าย เป็นงานเร็ว พยายามหาวิธีใหม่ๆ
แต่ส่วนหายากเลย ไม่พร้อมที่จะรับ แนะไปงง ความพยายามน้อย พอเริ่มบี้งาน ลาออก แต่ดูเงินเดือนแล้ว อิจฉา

 ได้ครับ    ทำ  deploy  จะแตกต่างกับรันบนโฮสปกติ
 js + jquery (http://www.vbhost.net/)

ตอนนี้ ผมปี 5 (ปกติเรียน 4 ปีครับ)

ผมไม่แน่ใจว่าท่านผ่านเจออะไรมานะครับ แต่การเจอแต่เด็กแบบนั้น มันก็สะท้อนภาพของบริษัทและ ประสิทธิภาพของ HR ในการกรองคนครับ ....

เด็ก GEN Y มีแนวคิด แตกต่างออกไป มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นเรื่องปกติของเด็กสมัยใหม่ครับ ด้วยพื้นฐานที่ไม่จำเป็นต้องปากกัดตีนถีบเหมือนเด็กในยุค BabyBoom (สบายกว่าเยอะ)จากพื้นฐานนี้พ่อแม่มีพื้นฐานดีขึ้นจึงส่งผลให้ เด็ก GEN นี้ มีทางเลือกมากกว่า เด็กในยุค BabyBoom เยอะ มีโอกาสทั้งในและต่างประเทศ เด็กสมัยใหม่ที่เก่งๆ เค้าเห็นโอกาสเยอะครับ

การที่คุณเจอแต่เด็กไม่เก่ง มันสะท้อน ภาพลักณ์ของบริษัทอยู่นะครับ

1. ไม่มีความอดทน   : ต้องตอบเค้าได้ว่า ทนเพื่ออะไร ???  ถ้ามันไม่คุ้ม ไม่เหมาะสม ทำไมต้องทน ??? ทำไปไร้อนาคต เสียสุขภาพ ได้ไม่คุ้มเสีย ทนทำไม ??
2. ไม่มีความสามารถ : เด็กมีความสามารถเยอะครับ แต่เค้าไปไหนกัน ??? ลองดูรอบๆตัว บริษัทชั้นนำ ที่ตอบสนองพวกเค้าว่า "ทนแล้วได้อะไร" ก็จะมีเด็กกลุ่มนี้เยอะไปหมดอยู่ดีครับ
3. เรียกเงินเดือนสูง  : เห็นส่วนใหญ่ ให้เงินเดือนโปรแกรมเมอร์กัน เริ่มต้น 15k ทั้งนั้นทำงานกัน วันละ 8ชั่วโมง 5วัน ต้องเข้างาน 9โมงเลิก 6โมง ทุกวัน ทำงานดึก ไร้ OT ... หรือบางที่ก็มี OT นะ (Official Time ^^) จะกดอยู่เท่านี้ ใครจะอยากเป็น ??? ใครจะอยากทำ ??? ภาคธุรกิจยังประเมินโปรแกรมเมอร์ต่ำแบบนี้ อย่าไปโทษแต่ตัวเด็ก หรือสถาบันการศึกษาเลยครับ ทุกฝ่ายต้องร่วมกันรับผิดชอบกันทั้งนั้นกับโครงสร้างระบบแบบนี้

ปัญหานี้ขาดโปรแกรมเมอร์ ไม่ใช่แค่ในไทย ทั่วโลกก็เป็นทั้งนั้น แต่ในไทยไร้ปัจจัยสนับสนุน ด้านนี้โดยสิ้นเชิง ... ทุกฝ่ายล้วนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาทั้งนั้น ทั้งจาก ภาคการศึกษา, และภาคเอกชนเอง ล้วนมีปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งนั้น

การมาชี้หน้าเด็กแล้วโทษการศึกษาแล้วไม่ประเมินใน บริบทของบริษัทเลย อันนี้ น่าเกลียดไปครับ....

ตอนแรกผมมองในมุม gsonic  ผมเห็นด้วยทีเด็กสมัยนี้ ไร้ความอดทน
แต่พอมองในมุมท่านผมก็เห็นด้วยจริง ๆ ที่ประเทศไทยขาดโปรแกรมเมอร์ เก่งๆ เพราะขาดการสนัยสนุน ก็ไม่รู้ว่าไอ้เรื่องการศึกษานี้ ไปอยู่ตรงไหน เพราะที่เห็นๆ กันก็คือ หมอ วิศวะ ประมาณนี้ซะส่วนใหญ่ อาจจะเพราะผู้มีสว่นรับผิดชอบมาจากยุค BabyBoom ไงครับ

แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนที่ไม่รู้จักอดทด ในสิ่งที่ตัวเองเลือก [เข้าของานคนอื่น] ผมว่ายังไง มันก็คือคนไร้คุณภาพอยู่ดี  เพราะคนเก่งจริง ทำที่ไหนก้ได้ครับ เพราะคนที่รู้จักเอาตัวรอดจะรู้จักเรียนรู้มากกว่า ส่วนตัวผมมองว่าหากเขาสามารถผ่านไปได้แล้วไม่อยากทน มันเป็นคนละเรื่องกับการที่ยังไม่สามารถผ่านจุดๆ นั้นไปได้ แล้วเข้าไปเลือกที่จะทน หรือไม่ทน

แข่งกันเข้าไปครับ สมัยนี้  :wanwan007:

ไม่มีอะไรมาก อยากแชร์ อิอิ อยากมาก
เรียนจบทำงาน->เงินเดือนเยอะ->การงานดี->แต่งตัวดี->มีรถขับ->ติดหรู เราเรียกว่าลูกจ้าง
เรียนจบไม่ทำงาน->ไม่มีเงินเดือน->ทำงานของตัวเองทำก็ได้ไม่ทำก็ได้->แต่งตัวเชยๆ->มีรถเก่าไว้ขับทำงานของตัวเองตามอัตภาพ->ไม่รู้จัก kfc pizza->เราเรียกเขาว่าเจ้าของกิจการ

ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปได้สวย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเรียนเก่ง แต่ความเป็นคนก็ไม่ได้ต่างกันแม้แต่น้อย และไม่มีอะไรที่คนเราทำไม่ได้ถ้าคิดจะทำ บางเรื่องไม่รู้ไม่ใช่ไม่เก่ง หรือทำไม่เป็น เพียงแต่ยังไม่รุ้ เดี๋ยวก็รู้เอง แค่นี้ อิอิ เกี่ยวไหมเนี้ย   :P

มองในมุมคนหาลูกจ้าง ตอนนี้งงมาก เศรษฐกิจมันดีมาก งานหาง่ายมากหรือเปล่าครับ คนไม่ง้องานเลย เราเป็นนายจ้างสิแทบต้องง้อหาคน ดูเหมือนตอนนี้ไม่มีใครว่างงานเลย  :P

คือบอกตรง ๆ ว่าผมก็จบมานานแล้ว เมื่อตอนจบมาใหม่ ๆ ไม่ค่อยจะเก่งเรื่อง Coding เท่าไหร่นัก สอบตอนสัมภาษณ์งานก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เขาก็รับผมมา ทำไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นเรดื่อยๆ แต่ก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ เสร็จแล้วย้ายที่ใหม่ประมาณ 3-4 ที่ได้ภายในเวลา 7 ปีครับ ได้อะไรเยอะแยะ ตอนนี้ก็ไม่ได้เก่งอะไรมากนะครับ รับทำเว็บไซต์เป็นงานเสริม ทำงานที่บริษัทคืองานหลัก แต่หลัง ๆ มา งานเสริมเริ่มจะเป็นงานหลัก

แต่คิดว่าในยุคนี้เด็กจบใหม่ที่ผมได้พูดคุยกับเขาหลาย ๆ คนบอกตรงกันว่า ไม่อยากเป็นลูกน้องใครแล้ว ยากจะมีกิจการเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสายที่ตรงกับตัวเองเรียนมาหรือคนล่ะอย่างก็ได้ และจากที่ได้คุยมาอีกเช่นกันเพื่อนๆ   programmer หลายๆ คนที่คุยมาได้หลุดจากการเป็นลูกจ้างหมดแล้วครับ มีผมเองที่อยู่ตรงนี้อยู่

เท่าที่ผมเคยสอบมื่อสัมภาษณ์งานมานะครับ ข้อสอบบางบริษัทหาไม่ได้ที่ Google ใช้ความคิดล้วน ๆ แต่ที่หาได้คือ Basic ต่าง ๆ ต้องนำมาประยุกต์ใช้ครับ ผมเองก็ทำไม่ได้ยๆ ที่หลาย ๆ ข้อ

(ความคิดส่ววนตัวในขณะนั้น ได้ก็ทำ ไม่ได้ก็ไม่ทำบอก ตรง ๆ กับเขาตอนนั้นเลย) ก็เลยได้ร่วมงานกับเขาตอนนั้นลยครับ เรียนรู้มาตลอด ตอนนั้นพยายามที่ะหาและเก็บอะไรให้มากที่สุด จาก Web Progammer กลายมาป็น Web Deverlope จาก Web Deverelope มากเป็น Web Design พูดได้ว่า เป็นทุกอย่างเลยก็ว่าได้ครับ

ไม่มีอะไรมากค่อยากจะแชร์อีกมุมหนึ่งของ Programmer เท่านั้นเองครับ

 :wanwan017:

 :wanwan044:

จ้างผมไหม ผมขอเดือนละ 8 พัน อิอิ

ผมเห็นก็มีเยอะนะครับ ที่รู้จักนะ จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้ว มีอาจารย์ท่านนึง ก็เอาหลักสูตร GAE มาสอนใ่นมหาวิทยาลัยด้วย 

ส่วนตัวผมก็เอาไว้ใช้ทำ Backend พวก Push Notification บนมือถือ, deploy งาน java, ตอนนี้ก็กำลังลองเล่น Go (กำลังหัด) แต่ว่าตอนหลังเจอพวก PAAS, BAAS มันสะดวกสบายกว่ามาก ทำให้หลังๆ ก็แทบไม่ได้แตะเลย

ความเห็นผมว่าทำไมเว็บบอร์ด ไม่มีคนไปตั้งคำถาม ผมมองว่า คนที่เล่น GAE น่าจะพอมีพื้นฐานโปรแกรมมิ่งแล้ว และภาษาอังกฤษก็พออ่านออก Docs มันมีข้อมูลเกือบหมดแล้ว หรือเวลาผมมีปัญหาจริงๆ ก็คงไปตั้งที่ stackoverflow กับ group ใน google forum

แนะนำด้วยครับ ผมก็เรียนโปรแกรมเมอร์เหมือนกัน

สมัยนี้ ทำไรไม่ได้ หาอะไรไม่ได้ ก็ Google อย่างเดียวเลยครับ Google อาจทำให้คนขี้เกียจมากขึ้นก็เปนได้  :wanwan004:

  อยากเห็น appspot.com  ที่ทำจากคนไทย ออกสู่สังคมออนไลน์เยอะๆ ครับ  55 
  เท่าที่เช็คตอนนี้  ( พิมพ์ site:appspot.com ใน  google  )  แถมไม่มีเลย  ภาษาไทย   เห็นมีแต่ blogspot.com  อาจเพราะมันทำได้ง่าย
  ขยับตัวเร็ว ก็มีโอกาสได้ใช้ของดีก่อน
 

appspot คืออะไรครับท่าน น่าสนใจจริงๆ

ผมก็ใช้ CMS ในการพัฒนางานต่างๆ นะครับ ไม่เห็นว่า CMS มันจะไม่ดีตรงไหน เพราะสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องเขียนจากศูนย์แล้วนิครับ

 :wanwan017:

appspot คือ บริการเว็บโฮสติ้ง โดย google ในรหัส google  app engine  
ตัดปัญหาเว็บไซต์ เรียกใช้งานไม่ได้จาก ISP ต่างๆ  และมีความเสถียรสูง run time  100% การันตี
run on Cloud Platform

ตัวอย่าง เว็บไซต์
https://app-books.appspot.com

เว็บไซต์นี้ รัน บน google  app engine หรือ google web hosting
-   deploy  CMS  word press on GAE
-  ติดตั้ง ปลั๊กอิน woocommerce ตัวล่าสุด ซี่ง  plugin ตัวนี้ มีขนาดใหญ่ กว่า 34  mb
 และ กินทรัพยกรเครื่องมาก พอสมควร
-  ฟรี  SSL ซัพพอร์ต  /ไม่ต้องซื้อเพิ่ม  เชื่อมโดเมนส่วนตัว ฟรี
-  ติดตั้ง    ปลั๊กอิน  facebook sp / comment ได้โดยตรง / ทั้ง share + Like /
   ตัวนี้  ถ้าให้ login ได้ด้วย  fb  ต้องซื้อเพิ่มนิดหน่อย)
-  ระบบ อีเมล์ โดย google mail server /  ส่งได้ 20,000 ฉบับ /วัน

-  appspot.com ยังสามารถเลือกเวอร์ชั่น แสดงเว็บไซต์ได้   หากเลือก app ที่ DEPLOYED ไว้
    ให้แสดงเป็นหน้าหลักได้แทนเว็บไซต์เดิม ได้ทันที เช่น  ลิงค์ไซค์เดิม ติดตั้ง smf  เป็น version 1 , wordpress  เป็น  version 2
    ต้องการให้อันไหนเป็นหน้าหลัก สามรถ  switch กลับ/ไปมา ได้ใน  1 วินาที โดยการเลือก version แสดงผล

    ความเห็นส่วนตัว  นับว่าเป็นโฮสติ้งที่ดีที่สุดในขณะนี้ครับ
 
  

เห็นด้วย  แต่ ถ้าเขียนโปรแกรมเชื่อมด้วย จะทำให้งานออกมาดีครับ

คนเก่งๆไปเป็นฟรีแลนซ์กันหมด

คนเก่งอาจมีน้อย :(

ตอนหางานทำใหม่ๆ หรือแม้กระทั้งปัจจุบัน ข้อสอบแบบทฤษฎี ผมทำแทบจะไม่ได้เลย แต่ข้อสอบแบบปฏิบัตินี่ ได้เกิน 80% อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนที่คัดเลือกไม่เลือกผม สุดท้ายเป็นฟรีแลนซ์สบายใจกว่าครับ ไม่ต้องทฤษฎีเยอะ ทำได้งานจบเป็นพอครับ

ผมก็เป็นเด็กจบใหม่ครับ ทำงานมาได้  3 เดือนละครับ

ผมคิดว่าบางทีมันอยู่ที่ตัว นศ ด้วยนะครับ ว่าพร้อมที่จะเรียนรู้หรือป่าว
ตอนผมทำโปรเจคจบ ผมทำเรื่อง AR(Augmented Reality)  ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าจะทำได้หรือป่าว แต่เวลาผ่านไปศึกษามันทุกวัน มันก็ทำได้เอง ผมจึงคิดว่า ถ้ายอมเปิดใจ ยอมรับสิ่งใหม่ๆ พร้อมที่จะเรียนรู้ทุกเมื่อ ผมว่า มันไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หรอกครับ ทุกวันนี้บอสผมอยากให้ผมทำอะไร ศึกษาอะไร ผมทำได้หมด เพราะผมพร้อมที่จะเรียนรู้ ปล.มันท้าทายดีครับ ยิ่งยากยิ่งชอบ

แนะนำนะครับ สำหรับ นศ ที่จบใหม่ พยายามหางานที่เรารัก หางานที่เราชอบนะครับ เพื่อที่เราจะได้สนุกกับงานและอย่าลืมพัฒนาตัวเองนะครับ

ปล.บ่นไรว๊าาาาเนี่ย ฮาาา

อาจไม่ใช่ทั้งหมดก็ได้นะครับ :(

เข้ามาอ่าน ได้ความรู้มากๆครับ มีหลายมุมมองให้คิดจริงๆ  :wanwan017:

มันก็อยู่ที่ บริษัท ที่รับพนักงานด้วยครับ
บางคนบอกเด็กสมัยนี้ มีปัญหาเยอะแบบนั้นแบบนี้
แต่อาจลืมไปว่า บริษัทเอง ก็หัวโบราณ มีปัญหาเยอะไม่แพ้กัน

ทุกวันนี้มีกี่บริษัทในประเทศนี้ ที่สามารถแยกหน้าที่ IT กับ งานอื่นๆ ออกอย่างชัดเจนได้บ้าง
บางที IT ยังต้องไปทำเอกสารหรือทำงานออกแบบเลย

เด็กจบคอมใหม่ๆ ไม่ไปทำธนาคารก็ธุรกิจอย่างอื่น เหลือสัก 20% ที่จะทำตรงสายที่เรียนมา

ชอบความเห็นนี้ครับ

กดผิดครับลบให้ด้วย

อยากเห็นข้อสอบเข้าของกระทู้จัง