หัวข้อ: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 21:01:45 จาก http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,128696.160.html มันโดนล็อคไปแล้ว
แต่ประเด็นที่ผมถกกับพี่หมอยังไม่จบครับ ที่จริงแล้วผมก็ชั่งใจอยู่พอควรว่าระหว่างจะตอบกับไม่ตอบอะไรดีกว่ากัน แต่ ผมเลือกตอบดีกว่า พออ่าน rep ของพี่หมอแล้ว ผมขออธิบายต่อว่า สำหรับผมแล้วไม่ได้มองโลกทั้งในแง่ดีและแง่ที่ไม่ดีเลยนะครับ ผมมองโลกไปตามความเป็นจริง เพราะความจริงมีทั้งดีและไม่ดีปนอยู่ในเรื่องเดียวกัน ฉะนั้นการมองโลกจึงขึ้นอยู่ กับว่าทำอะไรแล้วได้อะไร สิ่งที่เขียนในทุก rep ที่ออกแนวปรัชญาและธรรมะนั้น อยู่บนพื้นฐานว่าทำอะไรแล้ว ได้อะไร ไม่ได้ว่้าจะมีแต่บวกหรือมีแต่ลบเท่านั้น แต่ในวาระนั้นีทั้งดีและเลวผสมกันไป จึงได้อยู่ที่ว่าใครพร้อมจะดีหรือ ใครพ้อมจะเลว หรือตามทฤษฎี x กับ y ความจริงมีทั้ง x และ y ปนกันไปเลย เป็น x+y เสมอ แล้วแต่สัดส่วนไหน ระหวาง x กับ y จะมากกว่ากัน เพราะมันจะเป็นตามความจริง จริงอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น rep แรกที่ผมตอบพี่หมอไป ก็ฌชัดเจนแล้ว และที่ผมนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นแล้วไม่ยอมให้จบ เพราะนี่คือปัญหาของสังคมไทยต่างหาก คนที่ทำผิด แล้วไม่ยอมรับผิดในการกระทำนั้นต่อหน้าสังคมเป็นคนที่ไม่กล้าหาญ ผมก็บอกชัดเจนแล้วว่าทำผิดก็ยอมรับกันไป แต่สิ่งที่ ผมยังไม่ได้ตอบและกำลังจะตอบ คือว่า เมื่อคนนั้นสารภาพผิดแล้วยอมรับความผิดนั้น ก็ควรให้เขากลับตัวเป็นคนดี นี่เป็น สิ่งสำคัญ เมื่อคนอื่นเห็นตัวย่างจะได้ไม่กล้าทำผิดตาม ฉะนั้นการมองอะไรตามความจริงคือการว่าอะไรไปตามเนื้อผ้า คนทำผิดก็คือทำผิดเป็นความจริงตามนั้น ก็ควรเปิดเผย คนเราทำอะไรไปหนีควา่มจริงไม่ได้ ในขณะเดียวกันคนทำดีก็ต้องได้รับการยกย่อง เมื่อคนทำผิดถูกสังคมตำหนิ ใน ขณะที่คนดีได้รัะบการยกย่องจากสังคม ความเป็นธรรมในสังคมนั้นจะเกิดขึ้น ผมบอกชัดเจนว่าคนทำผิดหากถูกตำหนิ ก็ควรรับสภาพนั้นไป ถ้าไม่อยากเป็นเช่นนั้นก็อย่าไปทำ ถ้ารทำไปแล้วต้องยอมรับ เมื่อยอมรับแล้วต่อไปจะเกิดเป็น บทเรียน ถ้าถามใจผมเองสมมุติว่าถ้าผมได้ทำผิดไปอย่างกรณีน้องนักศึกษาฝึกงาน ผมจะรีบออกมาเล่าให้คนทั่วไป ได้รู้ไปเลย แล้วผมจะถามกลับทุกคนด้วยว่า ผมยอมรับผิดแล้วใครจะทำอะไรมั้ย ในเมื่อผมทำไปแล้วหนิ จะให้ ผมมานั่งปิดบังสิ่งที่ผมทำหรืองุบงิบรู้กันแค่ไม่กี่คนหรือ ถ้าผมทำไปแล้วผิดมันช่วยไม่ได้อยู่แล้ว ก่อนทำไม่คิด หลังทำมาคิดแ้ล้วปกปิด แล้วบอกว่ากลัวเสียหน้า เป็นที่ประจานใม้อับอายขายหน้าไปทั่วเพื่ออะไร หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: mrdrama ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 21:21:46 คุณเป็นคนที่ทำให้ผมรู้ว่า "ธรรมะ บางทีก็ไม่ได้ขัดเกลาความคิดของคนได้ทุกคนเสมอไป"
เรื่องบางเรื่องมันผ่านไปนานแล้ว แต่ก็ทำให้รู้ได้ถึงทัศนคติของคนอย่างคุณนะครับ http://drama-addict.com/?p=13030 << ไม่ได้อยากตอกย้ำ แต่อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดู หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 21:28:57 คุณเป็นคนที่ทำให้ผมรู้ว่า "ธรรมะ บางทีก็ไม่ได้ขัดเกลาความคิดของคนได้ทุกคนเสมอไป" เรื่องบางเรื่องมันผ่านไปนานแล้ว แต่ก็ทำให้รู้ได้ถึงทัศนคติของคนอย่างคุณนะครับ [url]http://drama-addict.com/?p=13030[/url] << ไม่ได้อยากตอกย้ำ แต่อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดู ดูอันนั้น ดูอันนี้ไม่ดีกว่าหรือครับ http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,115266.0.html ผมเก็ยไว้อยู่ ชัดกว่ากันเยอะเลย ไม่ต้องห่วง ผมเก็บไว้อยู่ ดู่ที่ผมเอามา จะขัดกว่ามั้ย แล้วดูข้างบนที่ผมตอบตอนตั้งกระทู้ด้วย แต่ผมกำลังขอบคุณคนที่เอามาครับ จะได้รู้ว่า คนอื่นว่าผมยังไง ผมบอกแล้ว ไงว่าผมไม่กลัว เดี๋ยวจะไปอ่านให้ละเอียด หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: bompople ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 21:33:07 เข้ามาสุ่ม4สุ่ม5 ไม่รู้เรื่อง :-[
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: sanotti ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 21:41:54 :wanwan044:สุดท้ายก็ยกระดับเป็นสุกี้
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 22:03:28 :wanwan044:สุดท้ายก็ยกระดับเป็นสุกี้ มันมีความหลังเยอะครับ ยังไง ผมก็มีประวัติมาโชกโชนอยู่แล้ว เมื่อก่อนทำไปเพราะไม่รู้ว่ากระแสสังคมมันจะแรงแบบนี้ แต่ตอนนี้รู้แล้ว แต่มันก็ทำไปแล้ว จะมาปฏิเสธมันก็เท่านั้น แต่ถามว่าผมเสียใจมั้ยกับสิ่งที่ทำไปแล้ว ผมก็ตอบว่าไม่ แต่ถ้าถามว่าผมมีประสบการณ์ก่อนลงมือโพสต์ข้อความที่เค้าขุดมาผมจะทำมั้ย ผมก็ตอบว่าผมไม่ทำ แต่ก็บอกแล้วว่า อะไรก็ตามมันต้องมีผิดมาก่อนถูก ความจริงคือควาสมจริงหนีไม่พ้น ไม่รู้จะหนีไปทำไม หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: beside ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 22:13:19 เรื่องที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปนะครับ คิดดีทำดีถึงไม่มีใครรู้ตัวเราก็คงรู้อยู่ในใจครับ
อดีตที่ผ่านมามันคงไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก มองไปที่อนาคตดีกว่าครับ ถ้าเรารู้จักให้อภัยกันสังคมเราก็จะน่าอยู่ขึ้นเยอะครับ :P หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 22:38:04 เรื่องของเรื่อง คือเมื่อสมัยก่อน ด้วยความไร้เดียงสาของผม ช่วงนั้นคือผมปฏิบัติมาแล้วได้อะไรมา ผมเล่าหมด
ตอนนั้นคิดเพียงแค่ว่า มีประสบการณ์อยากจะเผยแพร่เท่านั้น แล้วที่ผมเข้าไป adslthailand เมื่อหลายปีก่อน ผมดันเข้าไปตั้งกระทู้ธรรมะ เล่าสิ่งที่ผมเป็นนี่แหล่ะ ตั้งกี่ระทู้ก็ดราม่าทุกกระทู้ แล้วมันเป็นสิ่งที่ผ่านไปเกือบ 10 ปี มันก็ยังมีคนขุดขึ้นมา จะมาระวังตอนนี้มันก็สายไปแล้ว แต่ถ้าให้ย้อนกลับไปเหมือนเมื่อก่อน ผมก็คงทำแหละ เพราะไม่มีปหรีะสบการณ์ พอเดี๋ยวนี้มีประสบการณ์แล้วผมถึงเงียบ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็ไม่ตั้งกระทู้อีกแล้ว แต่ตอนนี้หันไปเขียนเว็บแทน เพราะเว็บอธิบายอะไรได้ละเอียดกว่าเว็บบอร์ด คำถามจึงมีอยู่้ว่า ถ้าผมไม่ทำอะไรมาในอดีต ผมจะมีประสบการณ์มั้ย มันก็ไม่มี ผมก็ยังคงคิดอย่างคนซื่อ ๆ รู้อะไรมาเห็นอะไรมาก็เล่าหมด โดยเฉพาะวิธีประเมินผลจากการปฏิบัติ คนด่าผมเค้าไม่มานั่งอ่านหรอกว่า ทำอะไรได้แบบไหน เค้าเห็นแค่ว่าผมปฏิบัติธรรมได้แบบไหนมีสถานะใดก็เอาไปด่ากัน ถ้าเค้าไปอ่าน กัน แล้วเค้ารู้ว่า ชั้นที่ 1 ต้องละความกังวล ชั้นที่ 2 ต้องละความโลภ ชั้นไหนต้องทำอะไรบ้าง เป็นเทพระดับไหนต้องทำอะไร ต้องทำให้ได้ก่อนนิถึงจะได้ ไม่ทำมันไม่ได้ แล้วค่อยมาพิจารณาถึงสิ่ง ที่ผมเขียน ผมจะได้รับความเป็นธรรมมากกว่านี้ มุมดีไม่มีใครคุ้ยไปนำเสนอ คนเรามี 2 ด้านเอาไปแค่ ด้านเดียว ความรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมหรอก แต่ก็ต้องยอมรับมันให้ได้เท่านั้น หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: DJ_Vayo ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 22:48:17 [url]http://drama-addict.com/?p=13030 [/url] << ไม่ได้อยากตอกย้ำ แต่อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดู อันนี้ฮาดีอะ เว็บใครช่างคิดได้เนาะ :wanwan004: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: pech ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 22:49:14 เห็นด้วยที่ว่า เมื่อคนทำผิด เค้าขอโทษ ก็น่าให้อภัยครับ เมื่อผิดรู้จักผิด ก็ปรับปรุง ต่อไปก็ไม่ทำอีก
ดีกว่ารู้อยู่แล้วว่าผิดก็ยังจะทำอีก :P ในสังคมเรามีเยอะครับรู้ว่าผิดก็ยังจะทำอีก เช่นคนขับรถย้อนศร ตอนขับก็นิดเดียวน่า พอตอนชน ก็บอกว่าขับรถภาษาอะไร ไม่ดูอะไรเลย อ้าวคุณขับย้อนศรมานะเนี้ย บร้าๆๆ ไม่ฟังคับขอเถียง :P (คงต้องตอบว่าขับรถภาษาติ๊กซะแล้ว) หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 22:56:43 เห็นด้วยที่ว่า เมื่อคนทำผิด เค้าขอโทษ ก็น่าให้อภัยครับ เมื่อผิดรู้จักผิด ก็ปรับปรุง ต่อไปก็ไม่ทำอีก ดีกว่ารู้อยู่แล้วว่าผิดก็ยังจะทำอีก :P ในสังคมเรามีเยอะครับรู้ว่าผิดก็ยังจะทำอีก เช่นคนขับรถย้อนศร ตอนขับก็นิดเดียวน่า พอตอนชน ก็บอกว่าขับรถภาษาอะไร ไม่ดูอะไรเลย อ้าวคุณขับย้อนศรมานะเนี้ย บร้าๆๆ ไม่ฟังคับขอเถียง :P (คงต้องตอบว่าขับรถภาษาติ๊กซะแล้ว) ในกระทู้ต้นฉบับ ก็ได้กล่าวขอโทษไปแล้วมันจะได้จบ ๆ ทีงี้ไม่เอาไปลง ผมก็เอาต้นฉบับมายันให้ดูว่าผมตอบได้ยังไง ประเด็นมันก็เป็นเรื่องว่า คนไม่ยอมรับความถูกต้อง ในเรื่องธรรมะว่าด้วย "กรรมเป็นเครื่องแสดงเจตนา" มากกว่า แล้วผมกำลังชี้ให้เห็นว่า ถ้าไม่เข้าใจอย่างถูกต้องแล้วทำให้ตนทุกข์อย่างไร มันก็กลายเป็นเรื่องไปซะงั้น ส่วน ฃิ้งค์ที่คุณว่าโยว่ามา ผมก็อ่านเรียบร้อยแล้ว ฮาไม่ออกเลย แต่ก็ฮาล่ะ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: บอท! ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:05:42 คุณเป็นคนที่ทำให้ผมรู้ว่า "ธรรมะ บางทีก็ไม่ได้ขัดเกลาความคิดของคนได้ทุกคนเสมอไป" เรื่องบางเรื่องมันผ่านไปนานแล้ว แต่ก็ทำให้รู้ได้ถึงทัศนคติของคนอย่างคุณนะครับ [url]http://drama-addict.com/?p=13030 [/url] << ไม่ได้อยากตอกย้ำ แต่อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดู ก็เว็บนี้ล่ะที่เรื่องมันผ่านไปแล้วชอบเอามาตอกย้ำเพิ่มเติม โยที่คุณถามเจ้าของเรื่องขออนุญาตเจ้าของเรื่อบ้างไหม ก่อนที่จะเอาไปเผยแพร่ วิจารณ์ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:12:51 คุณเป็นคนที่ทำให้ผมรู้ว่า "ธรรมะ บางทีก็ไม่ได้ขัดเกลาความคิดของคนได้ทุกคนเสมอไป" เรื่องบางเรื่องมันผ่านไปนานแล้ว แต่ก็ทำให้รู้ได้ถึงทัศนคติของคนอย่างคุณนะครับ [url]http://drama-addict.com/?p=13030[/url] << ไม่ได้อยากตอกย้ำ แต่อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดู ก็เว็บนี้ล่ะที่เรื่องมันผ่านไปแล้วชอบเอามาตอกย้ำเพิ่มเติม โยที่คุณถามเจ้าของเรื่องขออนุญาตเจ้าของเรื่อบ้างไหม ก่อนที่จะเอาไปเผยแพร่ วิจารณ์ ผมอนุญาตไปนานแล้ว ในกระทู้ต้นฉบับนั่นแหล่ะ มันจะได้รู้ดำรู้แดงกันไป ทำไปแล้วหนิจะไปกลัวอะไรกับสิ่งที่ทำไปแล้ว แม้แต่ผมบอกว่า ผมกคำว่าส่วนใหญ่ ในกระทู้นั้น ผมยังไม่แก้เลย แล้วยืนยันแบบนั้นว่าจะไม่แก้ ทุกอย่างปรากฎในนั้นทั้งหมด ผใก็ไม่กลัวกับความจริงอยู่แล้ว กลัวอะไรกับความจริง ผมลืมถาม mrdrama แล้วจะทำอะไรผม ในเมื่อสิ่งที่คุณว่ามามันเป็นความจริง หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: บอท! ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:18:14 ผมไม่ได้เจาะจงแค่เรื่องที่มาทำลิ้งไปครับ
ผมหมายถึงทุกเรื่องและทุกคนที่โดนอ้างถึง หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: HotelBestBuy ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:21:38 มันก็เหมือนกันไงท่าน ลองมองย้อนกลับดูสิ
หากมีคนขุดเรื่องเก่าๆหรือเล่นสิ่งที่เราเคยทำผิดไว้เมื่อก่อน เราก็เจ็บ ทั้งๆที่เราขอโทษไปแล้ว จบไปแล้ว สำนึกไปแล้ว แล้วทีพี่หมอพูด มันก็ตรงกับที่ท่านโดนในกระทู้นี้ คือ คนเรามันมีทั้งส่วนดีและไม่ดีในตัว ยังไงก็ให้โอกาสเขากลับตัว ไม่ใช่เอาเรื่องเก่าๆกลับมาตอกย้ำกันเรื่อยๆ ท่านเองก็มีส่วนดี แต่หากท่านทำผิดแล้วสังคมไม่ให้อภัยเลย เอาแต่ขุดจนท่านต้องเจ็บกับเรื่องเก่าเรื่อยๆ แบบนั้นมันดีแล้วหรือเปล่า หรือมีใครที่ไม่เคยทำผิดบ้าง ? จะลงโทษก็ลงด้วยเหตุผล ไม่ใช่ความเกลียด หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: dummy ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:22:13 เฮ้อ ไล่อ่านมาซะเยอะ
อ่านอย่างคนกลาง ยังเศร้า ขนาดในบอร์ดยังมีแบ่งภาค มิน่าในชิวิตจริงถึงมีแต่คนไม่ยอมคน แบ่งพรรคแบ่งพวก พูดยังงัยก็คงไม่ดีขึ้นแน่ๆ เพราะแต่ละคนคิดว่าตัวเองถูกเสมอ ประเทศไทยจะเป็นยังงัยบ้างน้อ ต่อไปข้างหน้า :-X หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:27:32 ผมไม่ได้เจาะจงแค่เรื่องที่มาทำลิ้งไปครับ ผมหมายถึงทุกเรื่องและทุกคนที่โดนอ้างถึง อันนี้ผมเห็นด้วย แล้วเรื่องที่ผมตั้งกระทู้มา ไม่เกี่ยวกับที่เค้าเอามาเลย ในเมื่อขุดมา ผมก็ต้องชี้แจง ทั้ง ๆ ที่ เป็นเรื่องที่ผมจะคุยกับพี่หมอ แล้วเหี่ผมโพสต์มีประโยชน์ให้แง่คิด ผมก็เอามาให้อ่านว่าผมเห็นแย้งกับพี่หมอยังไง ทำไมถึงเห็นแย้ง แต่คนนั้นคุณ mrdrama ขุดเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมา ผมก็ต้องออกมาชี้แจง คงให้เค้าว่าฝ่าย เดียวแล้วข้อมูลไม่ครบ มันไม่ได้ ในลิงค์นั้นเองก็เอาไปม่ครบ ส่วนที่ผมขอโทษตอนท้าย ยอมขอโทษจะได่้จบ ๆ ก็ไม่เอาไป แบบนี้มันไม่แน่จริงครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: chui761 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:34:28 มาอ่านกระทู้นี้แล้ว ช่วยให้ไม่ประมาทในชีวิตมากขึ้นครับ ยังไงขอเอาใจช่วยให้เดินหน้าต่อไป ที่ผ่านมาขอให้ผ่านเป็น เป็นประสบการณ์ เป็นสิ่งที่สอนคนอื่น ถือเป็นการให้ทานทางปัญญากับคนอื่นๆ นะครับ ม่ะ ไปทำเว็บต่อกันดีกว่า หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: JackBurapha ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:36:43 เรื่องมันนานมาแล้ว ผมเองก็ไมอยากขุด แต่ถ้าคุณเป็นคนยอมรับความจริง เรื่องแบบนี้มันคงไม่เกิดกับคุณ ซ้ำแล้วซ้ำอีกหรอกครับ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:40:43 มันก็เหมือนกันไงท่าน ลองมองย้อนกลับดูสิ หากมีคนขุดเรื่องเก่าๆหรือเล่นสิ่งที่เราเคยทำผิดไว้เมื่อก่อน เราก็เจ็บ ทั้งๆที่เราขอโทษไปแล้ว จบไปแล้ว สำนึกไปแล้ว แล้วทีพี่หมอพูด มันก็ตรงกับที่ท่านโดนในกระทู้นี้ คือ คนเรามันมีทั้งส่วนดีและไม่ดีในตัว ยังไงก็ให้โอกาสเขากลับตัว ไม่ใช่เอาเรื่องเก่าๆกลับมาตอกย้ำกันเรื่อยๆ ท่านเองก็มีส่วนดี แต่หากท่านทำผิดแล้วสังคมไม่ให้อภัยเลย เอาแต่ขุดจนท่านต้องเจ็บกับเรื่องเก่าเรื่อยๆ แบบนั้นมันดีแล้วหรือเปล่า หรือมีใครที่ไม่เคยทำผิดบ้าง ? จะลงโทษก็ลงด้วยเหตุผล ไม่ใช่ความเกลียด ถามว่าผมเจ็บมั้ย ก็ยอมรับว่าเจ็บบ้างเวลาที่อ่าน ใช่ครับมันเหมือนที่พี่หมอว่า แต่ถ้าเราไม่ได้ทำ เจ็บไปก็เท่านั้น ผมปฏิบัติตามหลักธรรม ผมก็ยืนยันเหมือนเดิม แต่ถามว่าผมจะเจ็บไปอีกนานมั้ย ตอนอ่านก็เจ็บ ตอนอ่านจบก็หายเจ็บแล้ว ปัญหาความเข้าใจในเรือง "กรรมเป็น เครื่องแสดงเจตนา" ที่ไม่ถูกต้องมันแรงจริง ๆ แรงมากด้วย เมื่อผมไม่มีเจตนาเหมือนคนที่ด่าผม ผมก็ไม่ได้ไปทุกข์ร้อนอะไร อยากด่า ก็ด่ากันไป คนด่าผมเขาทุกข์กว่าผมอีก เพราะคนอ่านตีความว่าสิ่งที่รู้มาว่ามันทุกข์นะ อ่านปุ๊บก็ทุกข์ปั๊บทันทีเลย ส่วนผมรู้ว่า สิ่งที่ผมจะบอก เพียงแค่เล่าในสิ่งที่ผมเห็นแล้วสัมผัส ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แล้วผมต้องมานั่งทุกำข์อะไรอีก ในเมื่อแค่นั้นก็คือแค่นั้น ส่วนเรื่องอารมณ์ผมยืน ยันว่าผมไม่มีอยู่แล้ว หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 23:46:17 เฮ้อ ไล่อ่านมาซะเยอะ อ่านอย่างคนกลาง ยังเศร้า ขนาดในบอร์ดยังมีแบ่งภาค มิน่าในชิวิตจริงถึงมีแต่คนไม่ยอมคน แบ่งพรรคแบ่งพวก พูดยังงัยก็คงไม่ดีขึ้นแน่ๆ เพราะแต่ละคนคิดว่าตัวเองถูกเสมอ ประเทศไทยจะเป็นยังงัยบ้างน้อ ต่อไปข้างหน้า :-X เอางี้ดีกว่า มาวัดความถูกต้องกันที่สุขหรือทุกข์กันดีกว่า ผมแทบจะไม่มีความทุกข์เลย แล้วผมเป็นคนไม่เข้าข้างตนเองด้วย คนอื่นเป็นไงไม่รู้ครับ ไปตอบกันเอาเอง ในกระทู้นั้นหรือ rep บนผมก็บอกแล้วว่าเพราะอะไร วัดกันแบบนี้ดีกว่า ผล ปรากฎต่อตนเองอย่างไรก็คืออย่างนั้น ทุกคนรู้ตัวดีครับถ้าไม่ปากแข็งเสียอย่าง หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: ivery ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 14:49:01 ความจริงของคุณคนเดียวอะดิ :wanwan005:
เราไม่ต้องสวดมนก็มีความสุขได้ ความสุขของคุณวัดที่อะไรหรอถึงได้บอกว่ามีมากกว่าคนอื่น ถ้าวัดด้วยการบอกว่าตัวเองมีความสุขมากว่าคนอื่น แล้วความรู้สึกเมื่อได้ทำอย่างนั้นทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นก็เชิญสุขต่อไปเถอะค่ะ ขอให้กลับสวรรค์ได้ไวๆนะคะที่โลกมนุษย์เริ่มเบื่อการมีอยู่จริงของคุณแล้ว บายๆ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:17:17 ความจริงของคุณคนเดียวอะดิ :wanwan005: เราไม่ต้องสวดมนก็มีความสุขได้ ความสุขของคุณวัดที่อะไรหรอถึงได้บอกว่ามีมากกว่าคนอื่น ถ้าวัดด้วยการบอกว่าตัวเองมีความสุขมากว่าคนอื่น แล้วความรู้สึกเมื่อได้ทำอย่างนั้นทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นก็เชิญสุขต่อไปเถอะค่ะ ขอให้กลับสวรรค์ได้ไวๆนะคะที่โลกมนุษย์เริ่มเบื่อการมีอยู่จริงของคุณแล้ว บายๆ ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างไร แหม๋มถ้ากลับสวรรค์ได้ไว ๆ อย่างที่คุณว่ามาก็ดีซิ ความสขของผมวัดที่ความว่าง เช่นมีคนมาทำอะไรให้กระทบจิตใจ หรือแม้แต่กระทบร่างกาย เริ่มจากเวลาที่ได้รับผลกระทบจนถึงเวลาที่เข้าสู่ความสงบที่เกิดขึ้นในจิตใจ 100% แล้วไม่คิดวนเวียนในเรื่องนั้น ๆ อีก หมายถึงเรื่องนั้นจะถูกลบออกจากจิตใจอย่างสิ้นเชิง ไมท่ว่าจะได้อ่านได้เห็นเรื่องนั้น ๆ ตอกย้ำตนเองกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกแล้ว ใช้เวลานานเท่าไหร่ ผมใ้เวลาเร็วสุด 0.01 วินาที ใช้เวลาช้าสุด 7 ชั่วโมงโดยประมาณเอาเท่าที่จำได้ โดยวัดจากเรื่องที่มากระทบนั้นจากที่ มีความทุกข์มากระทบจนกระทั้งหายสิ้นโดยสิ้นเชิง เช่นเรื่องที่ถูกรุมในบอร์ดไทยเสียว ใช้เวลาอ่านแล้วตัดอารมณ์ได้ในเวลา 2 วินาที นับจากที่ อ่านแต่ละ rep เสร็จแล้วก็ตอบโดยไม่ใช้อารมณ์อย่างสบาย ๆ เรื่องที่อ่านจาก drama-addiict ตามที่มีคนเอามา ใช้เวลาประ มาณ 3 นาทีนับจากที่ได้อ่านจาก rep ที่ 1 - 297 เสร็จ แล้วก็เริ่มรวบรวมข้อมุลไปตอบตั้งแต่ 298 300 - 301 ในวันถัดไป เรื่องที่ชำระ อนุสัยสันดานให้สหายธรรมที่เอาแต่ใจตนเองใช้เวลา 7 ชั่วโมง นี่คือวิธีการวัดของผม บางเรื่องช้าเพราะตอนที่ทำตอนนั้นมีกำลังสมาธิน้อยเลยตัดได้ช้า บางเรื่องที่ตัดได้เร็ว ยิ่งเฉพาะยิ่งปัจจุบันยิ่งตัดได้ยิ่งเร็ว โดยเฉพาะปัจจุบันยิ่งทำได้เร็วขึ้นกว่าเมื่อปีหรือ 2 ปีที่แล้ว เอาเท่าที่จำได้ ประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลของทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจตนเอง แต่ผมสามารถบอกวิธีประเมินผลของตนเองได้ว่ามีประสิทธิภาพในการระงับอารมณ์แค่ไหน แล้วแน่นอน กำลังสมาธิยิ่งแรงขึ้นประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่วัดออกมาจะเร็วขึ้นเท่าั้น อันนี้ต่างคนต่างวัดผมไม่รู้หรอกว่าใครเป็นอย่างไร ผมรู้ว่าของผมเป็นอย่างไร แล้วจะต้องหมั่นสำรวจประสิทธิภาพของตนเอง นั่นหมายความว่าแต่ละคนก็ตอบประสิทธิภาพจากประสบการณ์ของตนเอง ถ้าใครทำได้ดีกว่าผมเขาก็มีประสิทธิ ภาพดีกว่ามันก็เท่านั้นเอง หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: ซาเล้ง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:23:23 เมื่อไหร่จะหยุดครับเพ่ :wanwan016: :-X
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:27:33 เมื่อไหร่จะหยุดครับเพ่ :wanwan016: :-X ถ้าไม่มีใครขุดขึ้นมาผมก็หยุด ผมบอกแล้วว่า ใครเอาอะไรเก่า ๆ มาตอกย้ำผมแล้วจะให้ผมกลัวอะ คิดผิดถนัด อ่าน rep บนก็รู้แล้ว แน่นอนถ้าผมทำไม่ได้จริง ผมจะตอบไม่ได้ แต่ที่ผมตอบได้ทุก rep อย่างสบาย ๆ เพราะคำ ตอบมันมีอยู่แล้ว เพียงแต่เรียบเรียงมาแปลงเป็นภาษาเว็บบอร์ดได้อย่างไร มาอย่างไหนก็ตอบได้หมด ตรงตาม หลักธรรมด้วย ตรงตามประสบการณ์ด้วย แล้วถ้าผมตอบเรื่องใหม่คือเรื่องใหม่ เรื่องเก่ามันก็ตกไป แต่ถ้าไม่ให้มันตกก็ขุดมาอีก ถึงแม้ผมจะตัดใจได้ แต่ถ้ามันมาอีกผมก็ต้องชี้แจงอีก มันเหมือนกับการปฏิเสธข้อกล่าวหานั่นแหล่ะ ใจไม่คิดไม่เป็นทุกข์กับเรื่องนั้น ๆ แล้ว แต่ถ้าถูกกล่าวหาซ้ำซากตอกย้ำ มันก็ต้องตอบประเด็นเดิมด้วยข้อเท็จจริงซ้ำซากเหมือนกัน กล่าวหามาเมื่อไหร่ก็เื่อนั้น หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tongsolution ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:32:07 เมื่อไหร่จะหยุดครับเพ่ :wanwan016: :-X ถ้าไม่มีใครขุดขึ้นมาผมก็หยุด ผมบอกแล้วว่า ใครเอาอะไรเก่า ๆ มาตอกย้ำผมแล้วจะให้ผมกลัวอะ คิดผิดถนัด อ่าน rep บนก็รู้แล้ว แน่นอนถ้าผมทำไม่ได้จริง ผมจะแถไม่ได้ แต่ที่ผมแถได้ทุก rep อย่างสบาย ๆ เพราะคำ แถมันมีอยู่แล้ว เพียงแต่เรียบเรียงมาแปลงเป็นภาษาเว็บบอร์ดได้อย่างไร มาอย่างไหนก็แถได้หมด ตรงตาม หลักธรรมด้วย ตรงตามประสบการณ์ด้วย หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:36:10 เมื่อไหร่จะหยุดครับเพ่ :wanwan016: :-X ถ้าไม่มีใครขุดขึ้นมาผมก็หยุด ผมบอกแล้วว่า ใครเอาอะไรเก่า ๆ มาตอกย้ำผมแล้วจะให้ผมกลัวอะ คิดผิดถนัด อ่าน rep บนก็รู้แล้ว แน่นอนถ้าผมทำไม่ได้จริง ผมจะแถไม่ได้ แต่ที่ผมแถได้ทุก rep อย่างสบาย ๆ เพราะคำ แถมันมีอยู่แล้ว เพียงแต่เรียบเรียงมาแปลงเป็นภาษาเว็บบอร์ดได้อย่างไร มาอย่างไหนก็แถได้หมด ตรงตาม หลักธรรมด้วย ตรงตามประสบการณ์ด้วย ผมตอบไปแล้วก็แล้วแต่ใครจะคิด ในเมื่อผมตอบแล้วก็คือตอบ หยุดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ไม่หยุดผมบังคับใครไม่ได้นะครับ ถ้าผมเสียหายผมก็ต้องชี้แจง เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นเหมือนกัน ยังไงผมก็ต้องชี้แจง ไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ชี้แจง = ยอมรับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: monthonsite ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:38:28 มากี้อีกกระทู้ หรือเปล่าหว่า :-X :-X
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: ซาเล้ง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:40:13 เมื่อไหร่จะหยุดครับเพ่ :wanwan016: :-X ถ้าไม่มีใครขุดขึ้นมาผมก็หยุด ผมบอกแล้วว่า ใครเอาอะไรเก่า ๆ มาตอกย้ำผมแล้วจะให้ผมกลัวอะ คิดผิดถนัด อ่าน rep บนก็รู้แล้ว แน่นอนถ้าผมทำไม่ได้จริง ผมจะตอบไม่ได้ แต่ที่ผมตอบได้ทุก rep อย่างสบาย ๆ เพราะคำ ตอบมันมีอยู่แล้ว เพียงแต่เรียบเรียงมาแปลงเป็นภาษาเว็บบอร์ดได้อย่างไร มาอย่างไหนก็ตอบได้หมด ตรงตาม หลักธรรมด้วย ตรงตามประสบการณ์ด้วย โหยย พอเถอะ พอเถอะ :-X ไม่มีใครเขาขุดมาตอกย้ำคุณหรอกครับ :'( มีแต่กระจกที่สะท้อนตัวคุณพี่เอง แล้วเห็นหรือยังล่ะ? หรือว่ายังไม่เห็น :( คุณพี่ต้องการอะไรครับ คุณถึงจะหยุดเนี่ย? :wanwan015: ว่างๆก็ไปนั่งคุยกับตัวเองบ้างนะ เป็นห่วงหนะ :wanwan016: ขืนคุณยัง........แบบนี้นะ เลิกพูดถึงธรรมะได้เลย :wanwan005: ปล. ที่พิมพ์อ่ะ อยากให้...หยุด :wanwan017: ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:41:26 มากี้อีกกระทู้ หรือเปล่าหว่า :-X :-X กระทู้นี้มีมาก่อนกระทู้เมื่อวานอีก แล้วมันมีคนขุดขึ้นมา ผมบอกแล้วว่าผมบงคับคนอื่นไม่ให้ขุดไม่ได้ ถ้าไม่ขุดมันก็จบ ตาม rep บน ๆ แหล่ะ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 15:46:18 เมื่อไหร่จะหยุดครับเพ่ :wanwan016: :-X ถ้าไม่มีใครขุดขึ้นมาผมก็หยุด ผมบอกแล้วว่า ใครเอาอะไรเก่า ๆ มาตอกย้ำผมแล้วจะให้ผมกลัวอะ คิดผิดถนัด อ่าน rep บนก็รู้แล้ว แน่นอนถ้าผมทำไม่ได้จริง ผมจะตอบไม่ได้ แต่ที่ผมตอบได้ทุก rep อย่างสบาย ๆ เพราะคำ ตอบมันมีอยู่แล้ว เพียงแต่เรียบเรียงมาแปลงเป็นภาษาเว็บบอร์ดได้อย่างไร มาอย่างไหนก็ตอบได้หมด ตรงตาม ความ เห็นไม่ใช่ความจริงนะครับ ใช่ว่าคนส่วนใหญ่มองอย่างไรจะต้องเป็นอย่างนั้น เช่นถ้าผมบอกว่าผมเป็นโรคเบาหวาน ผม ก็บอกว่าผมเป็น อีก 99 คนมาบอกว่าผมไม่เป็นก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้เป็น ในทำนองเดียวกันถ้าคนอื่น 99 คน บอกว่าผมเป็นคนดี แต่ผมรู้ตัวว่าผมเป็นคนชั่ว แล้วทุกคนเห็นว่าผมดีมันก็ไม่จริงเหมือนกัน หวังว่าจะเข้าใจนะ หลักธรรมด้วย ตรงตามประสบการณ์ด้วย โหยย พอเถอะ พอเถอะ :-X ไม่มีใครเขาขุดมาตอกย้ำคุณหรอกครับ :'( มีแต่กระจกที่สะท้อนตัวคุณพี่เอง แล้วเห็นหรือยังล่ะ? หรือว่ายังไม่เห็น :( คุณพี่ต้องการอะไรครับ คุณถึงจะหยุดเนี่ย? :wanwan015: ว่างๆก็ไปนั่งคุยกับตัวเองบ้างนะ เป็นห่วงหนะ :wanwan016: ขืนคุณยัง........แบบนี้นะ เลิกพูดถึงธรรมะได้เลย :wanwan005: ปล. ที่พิมพ์อ่ะ อยากให้...หยุด :wanwan017: ขอบคุณครับ ดูเวลาจากกระทู้ที่ 20 กับ เวลากระทู้ที่ 21 ซิครับ ทิ้งช่วงไปเกือบอาทิตย์ ผมรู้ตัวผมตลอดครับ ถ้าผมผิดผมยอมไปนานแล้ว ผมบอกแล้วว่าถ้าคนไม่ยอมรับความจริงมันทุกข์ แล้วถ้ายอมรับอะไรที่มันไม่จริงแล้วจะให้ยอมรับว่าจริงมันก็ทุกข์เหมือนกันแหล่ะ ผมก็อยากหยุด ผมก็ อยู่ของผมเฉย ๆ ขุดขึ้นมาผมก็ต้องบรรเลงมันก็เท่านั้น หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Hackublog ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 16:16:54 อ่านไปเยอะ ๆ ก็น่าเบื่อหน่ายเสียจริง ๆ
ใครที่คิดว่าตัวเองจะให้ปัญญาผู้อื่น ก็ควรจะพิจารณาว่าเขายอมรับด้วยใจหรือไม่ และควรจะพิจารณาด้วยว่าสิ่งที่ให้คือปัญญาสุข หมายถึงปัญญาที่ให้ความสุขความเจริญกับผู้รับ มิได้แอบแฝงเจตนาของผู้ให้หรือไม่ โดยเฉพาะถ้าผู้คิดว่าจะเป็นผู้ให้ปัญญากับผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ให้เลย ไม่ต้องรอ ไม่ต้องถาม ไม่ต้องโต้แย้ง ไม่ต้องมายินดียินร้ายภายหลังว่า เขาผู้นั้นจะชื่นชมเราหรือไม่ และไม่ต้องคำนึงว่าเขาผู้นั้นจะรับหรือไม่รับ บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าผมจะสื่ออะไร แต่คนที่ผมจะสื่อไปให้เขา เข้าใจแน่ ผมชอบคนตรง ๆ สื่อสารตรง ๆ ไม่ต้องปั้นแต่งคำพูดสวยหรูมากมาย แต่ใช้คำพูดที่จริงใจ คำพูดที่เป็นไปตามมรรค8 ผมจะไม่ตอบกระทู้นี้อีกครับ บุคลลใดอ่านแล้วไม่พอใจ ขออภัยกันล่วงหน้า หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Normaderm ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 16:30:13 ตอนแรกอ่าน rep แรก นี่นับถือนะครับ user นี้
แต่พอตามไปอ่าน ลิ้งนี้ http://drama-addict.com/?p=13030 แล้วเสื่อมเลย :wanwan023: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 16:38:28 อ่านไปเยอะ ๆ ก็น่าเบื่อหน่ายเสียจริง ๆ ใครที่คิดว่าตัวเองจะให้ปัญญาผู้อื่น ก็ควรจะพิจารณาว่าเขายอมรับด้วยใจหรือไม่ และควรจะพิจารณาด้วยว่าสิ่งที่ให้คือปัญญาสุข หมายถึงปัญญาที่ให้ความสุขความเจริญกับผู้รับ มิได้แอบแฝงเจตนาของผู้ให้หรือไม่ โดยเฉพาะถ้าผู้คิดว่าจะเป็นผู้ให้ปัญญากับผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ให้เลย ไม่ต้องรอ ไม่ต้องถาม ไม่ต้องโต้แย้ง ไม่ต้องมายินดียินร้ายภายหลังว่า เขาผู้นั้นจะชื่นชมเราหรือไม่ และไม่ต้องคำนึงว่าเขาผู้นั้นจะรับหรือไม่รับ บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าผมจะสื่ออะไร แต่คนที่ผมจะสื่อไปให้เขา เข้าใจแน่ ผมชอบคนตรง ๆ สื่อสารตรง ๆ ไม่ต้องปั้นแต่งคำพูดสวยหรูมากมาย แต่ใช้คำพูดที่จริงใจ คำพูดที่เป็นไปตามมรรค8 ผมจะไม่ตอบกระทู้นี้อีกครับ บุคลลใดอ่านแล้วไม่พอใจ ขออภัยกันล่วงหน้า ผมก็เบื่อหน่ายที่จะตอบแหล่ะครับ ผมก็เป็นย่างที่ท่านว่าแหล่ะ แล้วที่ผมตอบผมก็ไม่ได้ตอบเพื่อให้ปัญญา แต่ผมตอบตามความจริง ในเมื่อผมรู้ว่าผมเป็นอย่างไร ผมก็เป็นอย่างที่ผมเป็น ถ้าคนอื่นว่าผมเป็นอย่างไรแล้วผมเป็นอย่างนั้นผมก็ยอมรับไปตั้งนานแล้ว การยอมรับความจริงไม่ได้ยากอะไรนิ แต่ว่าใครจะรับมันได้หรือเปล่า เท่านั้น แล้วผมก็ไม่มีอะไรแอบแฝงด้วย แล้วผมก็ไม่ได้เอาอะไรมาให้ใครใทนี้ด้วย ถ้าให้เขาไปแล้วไม่มีใครรับคนให้ก็ได้ไว้เอง เช่นกระทู้ในชิงธรรมะที่ผมเข้าไปแสดง ความเห็นในกระทู้ เพื่อตอบกระทู้นั้น ๆ ผมก็ไม่ได้หวังหรือไม่ได้สนใจว่าใครจะมาอ่านหรือไม่ เพราะถ้าทำแบบนั้นเท่ากับผมหวังผลตอบแทนจากการให้เบื้องต้น เมื่อ ผมไม่สนใจว่าใครจะอ่านหรือไม่ เชื่อหรือไม่ ผมก็ไม่เป็นทุกข์แล้วมานั่งน้อยใจว่า "ทำไมไม่มีใครอ่าน" แล้วสิ่งที่ผมให้เมื่อมีความตั้งใจให้ทันทีที่ผมคิดว่าผมจะพิมพ์ ยังไมทันพิมพ์เลย ผมได้ผลจากการให้นั้นแล้ว และถ้าผมพิมพ์ออกไปก็เป็นการตอกย้ำเจตนาหรือความตั้งใจของตนเอง เพราะเมื่อใดก็ตามใครทำให้คนอื่นชื่นชม หรือเอาสิ่งที่คนยอมรับอยู่แล้วมาให้ เพื่อให้ได้หวังคำชมนั้นเป็นประโยชน์แก่ตัว กลายเป็นผลประโยชน์เบื้องกลางคือความศรัทธา แล้าถ้าความศรัทะาไม่ระวัง ความศรัทะาในตัวบุคคลนั้นจะนำไปสู่ ลาภสักการะและนำไปสุ่ความเสื่่อมในสิ่งนั้นทั้งหมดในภายหลัง ขึ้นหลังเสื่อแล้วต้องระวังตัวอย่าให้ตกหลังเสื่อ จุดนี้ จะทำให้คนที่ไม่มีใครศรัทธาตน ก็คือการไม่ขึ้นหลังเสือ ในขณะที่การเอาอาหการไปให้เสือแล้วเสมือนการถูกเสืองับ ยิ่งดีกว่าอีกเพราะถ้าเสืองับแล้วเราเจ็บ เจตนาในการเอาอาหารไปให้เสือหกินก็ยังอยุ่ เสือไม่กินอาหารมางับเราแทนนั่นมันเรื่องของเสือ เราเจ็บมันเรื่องของเรา แต่เราเจ็บแล้วจะจำหรือไม่ ถ้าเจ็บ เท่ากับเจตนาในการเอาอาหารให้เสือจบลงไปด้วย เสื่อจะงับเรามันเรื่องของเสือเราห้ามไม่ให้เสืองับเราไม่ได้ ในขณะที่เราเอาอาหารไปให้เสือ เสือก็ห้ามไม่ให้ เราเอาอาหารไปให้ก็ไม่ได้เช่นกัน แล้วที่ผมตอบทุก rep ทุกกระทู้ก็อยู่บนพื้นฐานนี้ตลอด ถ้านี่ไม่ใช่ความจริงผมจะยอมรับผิดทุกอย่างทันที หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 16:40:46 ตอนแรกอ่าน rep แรก นี่นับถือนะครับ user นี้ แต่พอตามไปอ่าน ลิ้งนี้ [url]http://drama-addict.com/?p=13030[/url] แล้วเสื่อมเลย :wanwan023: ยินดีรับครับ เพราะผมคงจะไปทำให้ใครศรัทธาผมหรือไม่ศรัทธาผมก็ไม่ได้ ขอบคุณจากใจจริงที่ทำให้ได้บารมีในทางธรรมเพิ่ม :wanwan031: :wanwan031: :wanwan031: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tradeya ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 16:49:40 ว่าจะไม่ตอบจขกท.อีกต่อไปแล้วนะครับ แ่ต่อดไม่ได้
แต่อยากให้จขกท.ไปเรียนรู้หลักธรรมใน "การปล่อยวาง" กับ "อโหสิกรรม" ด้วยนะครับ คนอื่นคิดหรือจะว่าอย่างไรก็ช่างเขาึครับ แต่ที่จขกท.กำลังทำอยู่ทุกวันนี้มันคือ "การจองเวร" นะครับ ผมไม่เคยคิดว่าที่จขกท.พิมพ์มาทุกครั้งเป็นการสอนหรือเตือนสติผู้อื่นเลยครับ ขอสักครั้งนะครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: kudjung ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 16:57:08 (http://img1.showpic.in.th/pic/e4a/e4a86e989bbaca39a862f1eeaf3f9a87.png)
:wanwan017: :wanwan017: :wanwan017: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: nakhsing ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 16:57:47 อ่านจนจบต้องด่าตัวเองซักที "ไอควายเอ้ยนั่งอ่านควายบ่นอยู่ได้ ไปทำงาน" :'(
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:00:22 ว่าจะไม่ตอบจขกท.อีกต่อไปแล้วนะครับ แ่ต่อดไม่ได้ แต่อยากให้จขกท.ไปเรียนรู้หลักธรรมใน "การปล่อยวาง" กับ "อโหสิกรรม" ด้วยนะครับ คนอื่นคิดหรือจะว่าอย่างไรก็ช่างเขาึครับ แต่ที่จขกท.กำลังทำอยู่ทุกวันนี้มันคือ "การจองเวร" นะครับ ผมไม่เคยคิดว่าที่จขกท.พิมพ์มาทุกครั้งเป็นการสอนหรือเตือนสติผู้อื่นเลยครับ ขอสักครั้งนะครับ ขอบคุณครับ ผมก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าใครคิดอย่างไร เพราะถ้าผมคิดแบบนั้นผมก็ไม่ต่างจากคนอื่น เรื่องมันก็คงจะจบลงไปแล้ว ส่วนเรื่องการจองเวร ผมก็ไม่ได้จองเวรใครด้วยเพราะผมไม่ได้คิดร้ายใคร ไม่เคยเห็นใครเป็นศตรูผม มันก็ระงับเวรไปตาม คำสอน ส่วนการให้อโหสิกรรม ผมก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว กลับรู้สึกสงสารเขาเหล่านั้นที่มองไม่เห็นความจริงต่างหาก ส่วนการปล่อยวาง ในเมื่อผมตอบไปไม่ได้ใช้อารมณ์ในการตอบเลย ไม่ได้ตอบด้วยความโกรธ ไม่ได้ตอบด้วยความแค้น มันก็เป็นการปล่อยวางไปในตัวแล้วครับ ที่ผมตอบเพื่อแสดงอาการไม่ยอมรับความเห็นเท่านั้น ให่รู้ว่าผมไม่ยอมรับ แล้ว ที่ผมไม่ยอมรับไม่ใช่ว่าผมไม่ฟังนะครับ แต่ผมเห็นว่ามันไม่ถูกต่างหาก เหมือน rep บนที่ผมอธิบายเรื่องป้อนอาหารเสือนั่น แหล่ะ ในเมื่อเสือไม่เห็นว่าสิ่งนั้นเป็นอาหารแล้วหันมางับผมแทน ผมก็ต้องทนเจ็บให้เสืองับเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ถ้าผมเงืยบ เท่ากับผมเห็นพ้องกับความเห็นเหล่านั้น แต่ถ้าผมเห็นด้วยผมก็บอกว่าเห็นด้วย ผมบอกแล้วว่าทุกคนหยุดผมก็หยุดครับ จะ มานั่งโพสต์ทำไมให้เสียเวลา หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: เก๋าลัดคุง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:02:48 :wanwan015: ท่าจะยาว ;D
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:05:38 :wanwan015: ท่าจะยาว ;D ถ้าไม่มีใครมาต่อจากผมอีกคือจบ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: SekRanger ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:06:41 ปัญญาอ่อน!!
เค้าล็อคกระทู้ไปแล้ว แต่คนปล่อยวางดันตั้งกระทู้ใหม่เพื่อแสดงความปล่อยวาง เป็นหมอไม่จำเป็นต้องสุขภาพดี เป็นพระไม่จำเป็นต้องบรรลุ เป็นช่างทำเครื่องดนตรี ไม่จำเป็นต้องเล่นดนตรีเก่ง เป็นครู ใช่ว่าจะฉลาดกว่าศิษย์ เป็นคนที่เที่ยวสอนคนอื่น ใช่ว่าจะเคยสอนตนเอง เป็นคนที่บอกให้คนอื่นหยุด แต่ดันตั้งกระทู้พยายามแสดงความบริสุทธิ์ คนอื่นที่คุณสอนอาจจะปล่อยวางได้ทั้งหมด แล้วคุณล่ะ พ่อคนปล่อยวางที่ไล่ตั้งกระทู้ยาวววววววววววววว หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:16:27 ปัญญาอ่อน!! เค้าล็อคกระทู้ไปแล้ว แต่คนปล่อยวางดันตั้งกระทู้ใหม่เพื่อแสดงความปล่อยวาง เป็นหมอไม่จำเป็นต้องสุขภาพดี เป็นพระไม่จำเป็นต้องบรรลุ เป็นช่างทำเครื่องดนตรี ไม่จำเป็นต้องเล่นดนตรีเก่ง เป็นครู ใช่ว่าจะฉลาดกว่าศิษย์ เป็นคนที่เที่ยวสอนคนอื่น ใช่ว่าจะเคยสอนตนเอง เป็นคนที่บอกให้คนอื่นหยุด แต่ดันตั้งกระทู้พยายามแสดงความบริสุทธิ์ คนอื่นที่คุณสอนอาจจะปล่อยวางได้ทั้งหมด แล้วคุณล่ะ พ่อคนปล่อยวางที่ไล่ตั้งกระทู้ยาวววววววววววววว ผมไม่ได้ตอบกระทู้ที่ล็อคไปแล้ว แต่ผมตอบ drama-addict ที่มีคนเอามาต่างหาก คุณเข้าใจคำว่าปล่อยวางหรือเปล่า ปล่อยวางไม่ใช่ว่าไม่ตอบโฑต้อะไรเลย แต่ให้ตอบโต้ด้วยการไม่ ใช้อารมณ์ค่างหาก เหมือนลูกติดยาเสพติดก็พาลูกไปรักษา แต่ไม่ใช่ไปโกระลูกว่าทำไมไปติดยา ถ้าผมอยู่เฉย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปจะมีหลักฐานปรากฏเพียงด้านเดียว คือด้านของคนอื่นที่กล่าวหาผม แล้วส่วนที่ผมตอบโต้ล่ะหายไปไหน เวลาที่จะให้มีข้อมูลต้องให้มีข้อมูลยันทั้ง 2 ด้าน จะได้รู้กัน ว่าความจริงเป็นอย่างไร ความจริงของ 2 ฝ่ายต้องมีข้อมุลจาก 2 ฝ่ายมาตอบโต้กัน ถ้ามีด้าน เดียวมันจะไม่เป็นการยุติธรรมต่ออีกฝ่าย ผมมีสิทธิ์ป้องกันตนเองครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tradeya ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:20:44 ผมไม่ได้ตอบกระทู้ที่ล็อคไปแล้ว แต่ผมตอบ drama-addict ที่มีคนเอามาต่างหาก คุณเข้าใจคำว่าปล่อยวางหรือเปล่า ปล่อยวางไม่ใช่ว่าไม่ตอบโฑต้อะไรเลย แต่ให้ตอบโต้ด้วยการไม่ ใช้อารมณ์ค่างหาก เหมือนลูกติดยาเสพติดก็พาลูกไปรักษา แต่ไม่ใช่ไปโกระลูกว่าทำไมไปติดยา เท่าที่ตอบมานี่ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจคำว่า"ปล่อยวาง"แม้แต่นิดเดียวเลยครับ แนะนำให้ไปศึกษา้เพิ่มเติมก่อนนะครับ ปล.รวมถึงคำว่า "อโหสิกรรม" ด้วยนะครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: SekRanger ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:22:37 อย่าลืมมาตอบโต้ผมด้วยความปล่อยวางอีกนะครับ :-[
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: เก๋าลัดคุง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:26:15 ใจร้าย :( อาวมาตอบเขาหน่อย (http://www.thaiseoboard.com/Smileys/default/undecided.gif)
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Kaeji ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:26:32 ในความเชื่อของผม
หากเราเชื่อคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระโคตมพุทธเจ้าและมั่นปฏิบัติได้อย่างแท้จริงแล้ว พวกเราก็สมควรที่จะปล่อยวางความทุกข์ได้ไม่ยากเพราะพุทธแปลว่า "ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน" หากเราเบิกบานเรายังทุกข์ได้อีกหรือ? ผมคิดว่าธรรมชาติเป็นเช่นนั้นแหละ เราก็จะไม่ทุกข์มากขนาดนี้ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:27:07 ผมไม่ได้ตอบกระทู้ที่ล็อคไปแล้ว แต่ผมตอบ drama-addict ที่มีคนเอามาต่างหาก คุณเข้าใจคำว่าปล่อยวางหรือเปล่า ปล่อยวางไม่ใช่ว่าไม่ตอบโฑต้อะไรเลย แต่ให้ตอบโต้ด้วยการไม่ ใช้อารมณ์ค่างหาก เหมือนลูกติดยาเสพติดก็พาลูกไปรักษา แต่ไม่ใช่ไปโกระลูกว่าทำไมไปติดยา เท่าที่ตอบมานี่ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจคำว่า"ปล่อยวาง"แม้แต่นิดเดียวเลยครับ แนะนำให้ไปศึกษา้เพิ่มเติมก่อนนะครับ ปล.รวมถึงคำว่า "อโหสิกรรม" ด้วยนะครับ การจะเข้าใจอะไรต้องเข้าใจจากประสบการณ์ ไม่ใช่จากการอ่าน ต้องดูว่าผลได้มาเกหิดขึ้นกับตนอย่างไร ผมก็เน้นแล้วเน้นอีก ความเข้าใจหรือไม่เข้าใจธรรมะไม่มีใครเอาความคิดของตนไปตัดสินคนอื่นได้ ตนเองต้องเข้าใจเองประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง เท่านั้น ทุกอย่างเป็นปัจจัตตัง เข้าใจคือเข้าใจ เข้าใจแล้วแจ้งคือเข้าใจแล้วแจ้ง ไม่เข้าใจคือไม่เข้าใจ ทุกอย่างอยู่ที่ตน มีอยู่อย่างหนึ่งในเรื่องการปล่อยวาง คือถ้าสิ่งที่ทุกคนเอามาแล้วจริง ทำให้ผมจนแต้มแล้วผมตอบไม่ได้ ผมก็ต้องปล่อยวาง ขอโทษแล้วก็หยุดการตอบนั้นไป ในอีกทางหนึ่งถ้าพาลูกไปรักษายาเสพติดแล้วรักษาไม่หายก็ต้องปล่อยไป เพรนาะนั่น คือความจริงที่ต้องยอมรับ เมื่อเราได้ใช้ความพยายามเต็มที่แล้ว หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: SekRanger ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:31:23 โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยความปล่อยวาง
สส เถียงกันในสภาฯเพราะความปล่อยวาง ต่างก็พยายามชี้แจงความถูกต้องของตน คนนึงพูดถึงในแง่กฏหมาย อีกคนพูดถึงแง่มนุษยธรรม แม่ค้ายืนเถียงกันแย่งที่ขายผักด้วยความปล่อยวาง ต่างก็พยายามชี้แจงความถูกต้องของตน คนนึงมาก่อน อีกคนขายอยู่ตรงนี้ประจำ คนเถียงกันเรื่องที่จอดรถด้วยความปล่อยวาง ต่างก็พยายามชี้แจงความถูกต้องของตน คนนึงมาก่อน อีกคนขอจอดหน่อย รีบเอาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล คนยิงกันเพราะเรื่องชู้สาวด้วยความปล่อยวาง ต่างก็พยายามชี้แจงความถูกต้องของตน คนนึงบอกว่าตรูรู้จักมาตั้งแต่เด็ก อีกคนบอกว่า แต่ตรูจีบก่อน แล้วก็มีคนพยายามโต้เถียงกระทู้ละ 10 บรรทัด เพื่อพยายามแสดงความถูกต้อง กระทู้ล็อค ตั้งใหม่ กระทู้ไม่ตั้งใหม่ ก็ไปแจมกระทู้อื่น ทุกคน ทุกกรณีต่างกับกระณีสุดท้ายตรงที่ กรณีสุดท้ายเถียงด้วยความปล่อยวาง เพราะไม่ใช้อารมณ์ นี่เป็นธรรมะที่ได้ศึกษามา เถียง//โต้ตอบโดยไม่ใช้อารมณ์ = ปล่อยวาง หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tradeya ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:36:17 การจะเข้าใจอะไรต้องเข้าใจจากประสบการณ์ ไม่ใช่จากการอ่าน ต้องดูว่าผลได้มาเกหิดขึ้นกับตนอย่างไร ผมก็เน้นแล้วเน้นอีก ความเข้าใจหรือไม่เข้าใจธรรมะไม่มีใครเอาความคิดของตนไปตัดสินคนอื่นได้ ตนเองต้องเข้าใจเองประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง เท่านั้น ทุกอย่างเป็นปัจจัตตัง เข้าใจคือเข้าใจ เข้าใจแล้วแจ้งคือเข้าใจแล้วแจ้ง ไม่เข้าใจคือไม่เข้าใจ ทุกอย่างอยู่ที่ตน มีอยู่อย่างหนึ่งในเรื่องการปล่อยวาง คือถ้าสิ่งที่ทุกคนเอามาแล้วจริง ทำให้ผมจนแต้มแล้วผมตอบไม่ได้ ผมก็ต้องปล่อยวาง ขอโทษแล้วก็หยุดการตอบนั้นไป ในอีกทางหนึ่งถ้าพาลูกไปรักษายาเสพติดแล้วรักษาไม่หายก็ต้องปล่อยไป เพรนาะนั่น คือความจริงที่ต้องยอมรับ เมื่อเราได้ใช้ความพยายามเต็มที่แล้ว อีกคำนึงที่อยากให้ไปศึกษาเพิ่มคือ "การยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง" (http://pha.narak.com/topic.php?No=09517) ครับ คลิกไปอ่านได้เลยครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Normaderm ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:37:29 อ้างถึง เป็นหมอไม่จำเป็นต้องสุขภาพดี เป็นพระไม่จำเป็นต้องบรรลุ เป็นช่างทำเครื่องดนตรี ไม่จำเป็นต้องเล่นดนตรีเก่ง เป็นครู ใช่ว่าจะฉลาดกว่าศิษย์ :'( + thank ให้เลย หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:48:40 โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยความปล่อยวาง สส เถียงกันในสภาฯเพราะความปล่อยวาง ต่างก็พยายามชี้แจงความถูกต้องของตน คนนึงพูดถึงในแง่กฏหมาย อีกคนพูดถึงแง่มนุษยธรรม แม่ค้ายืนเถียงกันแย่งที่ขายผักด้วยความปล่อยวาง ต่างก็พยายามชี้แจงความถูกต้องของตน คนนึงมาก่อน อีกคนขายอยู่ตรงนี้ประจำ คนเถียงกันเรื่องที่จอดรถด้วยความปล่อยวาง ต่างก็พยายามชี้แจงความถูกต้องของตน คนนึงมาก่อน อีกคนขอจอดหน่อย รีบเอาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล คนยิงกันเพราะเรื่องชู้สาวด้วยความปล่อยวาง ต่างก็พยายามชี้แจงความถูกต้องของตน คนนึงบอกว่าตรูรู้จักมาตั้งแต่เด็ก อีกคนบอกว่า แต่ตรูจีบก่อน แล้วก็มีคนพยายามโต้เถียงกระทู้ละ 10 บรรทัด เพื่อพยายามแสดงความถูกต้อง กระทู้ล็อค ตั้งใหม่ กระทู้ไม่ตั้งใหม่ ก็ไปแจมกระทู้อื่น ทุกคน ทุกกรณีต่างกับกระณีสุดท้ายตรงที่ กรณีสุดท้ายเถียงด้วยความปล่อยวาง เพราะไม่ใช้อารมณ์ นี่เป็นธรรมะที่ได้ศึกษามา เถียง//โต้ตอบโดยไม่ใช้อารมณ์ = ปล่อยวาง ถ้างั้นผมอธิบายนะครับ คนหนึ่างพูดถึงเรื่องกฎหมายต้องถามว่ากฎหมายมาจากไหน ถ้ากฎหมายมาเองโดยที่ไม่มีใครสร้าง แสดงว่ากฎหมายเป็นสัจธรรม ถ้ากฎหมายมาจากคนสร้างคือสิ่งสมมุติ ตามกฎแหงสัจจะธรรมทุกอย่างที่แปรเปลี่ยนไป ได้ตามที่คนคิด ต้องนำหลักสัจธรรมมาเป็นตัวชี้วัด เพราะสัจธรรมไม่มีใครสร้าง มีแต่ใครรู้หรือไม่มากกว่า ถ้ากฎหมายถูกตาม หลักสัจธรรมกฎหมายนั้นถูกต้อง เรื่องมนุษย์ธรรมเป็นไปตามสัจธรรมไม่มีคำบรรยาย เป็นปรมัธสัจจะของสิ่งมีชีวิตหรือความจริงของสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจมีใครหนีได้ ใตรถูกแทงกายย่อมเจ็บจะปฏิเสะว่าเจ็บกายไม่ได้ แต่ใจนั้นเป็นสิ่งสมมุติจะเจ็บหรือไม่เจ็บตามก็ได้ แม้ค้าขายผักเถียงกันเหมือนผมเถียงหลาย ๆ คนคือว่าไปตามหลักสัจธรรม ซึ่งผมได้อธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีก หนึ่งในนั้นคือ "กรรมเป็นเครื่องแสดงเจตนา" ไๆม่ขออธิบายอีกแล้ว ด้านบนก็มีเรื่องเสือกับคนให้อาหารเสือมาเล่าให้ฟังแล้ว ต่อมาเรื่องเถียงเรื่องที่จอดรถ เรื่องเดียวกับปรมัธสัจจะของสิ่งมีชีวิต คนจอดรถประจำย่อมหลักเลี่ยงที่จอดรถได้ เพราะที่จอดรถเป็นสิ่งที่คนสร้างและสมมุติขึ้น ส่วนคนเจ็บมันเป็นกฎแห่งความจริงของสิ่งมีชีวิตหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปรมัธสัจจะเป็นสัจจะะรรมพึงถูกต้องเสมอ เรื่องชู้สาวเป็นสิ่งสมมุติขึ้นทั้งสิ้น เมื่อเป็นสิ่งสมมุติทั้งคู่ ทั้งการจีบ และการรู้จักมาตั้งแต่เด็ก จึงต้องตีความเจตนาว่าในขณะที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กเขาจีบกันหรือเปล่า เอาเป็นว่า ฝ่ายไหนจีบก่อนฝ่ายนั้นถูก ทุกอย่างที่ปรากฎเมื่อจะปล่อยวางได้ ต้องแยกความถูกออกจากความผิดให้ออกจากกันให้ได้เสียก่อน เมื่อแยกได้แล้วความปล่อยวางจะตามมาเอง สัจจะธรรมคืแสิ่งที่ถูกต้องเสมอไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ ผู้ไม่เข้าใจสัจธรรมจึงเป็นทุกข์ เพราะไม่เข้าใจกฎแห่งธรรมชาติ รั้นเอาแต่ความคิดของตนเป็นใหญ่ จึงเป็น ทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: SekRanger ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:50:48 555 คุณครับ
ผมไม่แกล้งคุณแล้วครับ ต้องขอโทษด้วยที่ใช้คำพูดที่ดูรุนแรง ผมเองก็ชอบธรรมะเหมือนกันครับ นึกซะว่าผมเป็นมารร้ายมาทดลองความอดทนละกันครับ เอาไว้ถ้ามีหัวข้อน่าสนใจผมจะมากวนประสาทใหม่นะครับ ขอโทษอีกครั้งครับ ลงชื่อ เสก หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tradeya ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:54:30 ผมคิดจขกทต้องเข้าใจผิดระหว่างคำว่า 'ปลง' กับคำว่า 'ปล่อยวาง' แน่ๆครับ
ผมอยากให้ทำตามคำแนะนำของผมนะครับ ไปศึกษาทำความเข้าใจก่อนนำมาปฏิบัตินะครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tongsolution ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 17:57:39 กระทู้นี้ฮาขี้แตก...555+
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Legolas ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:05:31 ผมละมึน
อ้างถึง จะปล่อยวางได้ต้องแยกถูกแยกผิดก่อน ให้ใครแยกครับตัวเราหรือสังคมหัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:05:47 555 คุณครับ ผมไม่แกล้งคุณแล้วครับ ต้องขอโทษด้วยที่ใช้คำพูดที่ดูรุนแรง ผมเองก็ชอบธรรมะเหมือนกันครับ นึกซะว่าผมเป็นมารร้ายมาทดลองความอดทนละกันครับ เอาไว้ถ้ามีหัวข้อน่าสนใจผมจะมากวนประสาทใหม่นะครับ ขอโทษอีกครั้งครับ ลงชื่อ เสก คนปฏิบัติธรรมมาเป็น 10 ปี จนกระทั่งแยกแยะได้ทุกอย่าง เค้ารู้เทม่าทันความทุกข์ของตนเองครับ สมมุติถ้าผมไม่ชี้แจง ทุกอย่างที่พิมทพ์เป็นหลักฐานเรียกดูย้อนหลังได้หมด เมื่อวันหน้ามาถึง ผมไม่ โต้อะไรเลย จะเอาหลักฐานที่ไหนมายันในอนาคต ผมไม่มีอะไรติดใจกับใครทั้งนั้น แล้วคนอย่างผม. ไม่คิดอะไรสั้น ๆ ตื้น ๆ ทุกกระทู้ที่ผมตอบในทางธรรม ผมเก็บไว้หมด เมื่อไหร่มีใครขุดมาผมต้องตอบ ตอบให้เป็นหลักฐานเท่านั้น คนละเรื่องกับการปล่อยวางหรือไม่ปล่อยวางเลยครับ ถ้ากระทู้ถูกล็อค ก็เป็นหลักฐานด้วยเช่นกัน ผมจะได้บอกในอนาคตว่าสิ่งนั้นผมชี้แจงไม่ได้ เพราะถูกล็อคไปแล้ว ถ้าผมไม่ตอบวันนี้ อนาคตข้างหน้าผมพังแน่นอน ขอให้เข้าใจด้วยนะครับ คนปฏิบัติธรรมมีสิ่ง หนึ่ง คือรู้อะไรล่วงหน้า ถ้าคุณตามที่ผมพิมพ์ตลอดจะรู้ครับว่าผมทำอะไรมีเป้าหมายเสมอ เช่นตั้งกระทู้ให้คนรุมด่าเพื่ออะไร แล้วผมได้ในสิ่งนั้นในเวลาในอนาคตข้างหน้าหรือไม่ ผมอธิ บายไปหมดแล้ว หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Kaeji ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:05:59 ผู้ไม่เข้าใจสัจธรรมจึงเป็นทุกข์ เพราะไม่เข้าใจกฎแห่งธรรมชาติ รั้นเอาแต่ความคิดของตนเป็นใหญ่ จึงเป็น นั้นสินะไม่จบไม่สิ้นจริงๆด้วย 555555 ผมก็พลอยเป็นทุกข์ไปกับเขาด้วย 5555 :wanwan024: แย่เลย :wanwan012:ทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น สมการนี้เป็นจริง :wanwan008: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: ซาเล้ง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:09:52 อ่านจนจบต้องด่าตัวเองซักที "ไอควายเอ้ยนั่งอ่านควายบ่นอยู่ได้ ไปทำงาน" :'( อยากจะบวกให้ซัก1000 ;D หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: เก๋าลัดคุง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:11:54 555 คุณครับ ผมไม่แกล้งคุณแล้วครับ ต้องขอโทษด้วยที่ใช้คำพูดที่ดูรุนแรง ผมเองก็ชอบธรรมะเหมือนกันครับ นึกซะว่าผมเป็นมารร้ายมาทดลองความอดทนละกันครับ เอาไว้ถ้ามีหัวข้อน่าสนใจผมจะมากวนประสาทใหม่นะครับ ขอโทษอีกครั้งครับ ลงชื่อ เสก คนปฏิบัติธรรมมาเป็น 10 ปี จนกระทั่งแยกแยะได้ทุกอย่าง เค้ารู้เทม่าทันความทุกข์ของตนเองครับ สมมุติถ้าผมไม่ชี้แจง ทุกอย่างที่พิมทพ์เป็นหลักฐานเรียกดูย้อนหลังได้หมด เมื่อวันหน้ามาถึง ผมไม่ โต้อะไรเลย จะเอาหลักฐานที่ไหนมายันในอนาคต ผมไม่มีอะไรติดใจกับใครทั้งนั้น แล้วคนอย่างผม. ไม่คิดอะไรสั้น ๆ ตื้น ๆ ทุกกระทู้ที่ผมตอบในทางธรรม ผมเก็บไว้หมด เมื่อไหร่มีใครขุดมาผมต้องตอบ ตอบให้เป็นหลักฐานเท่านั้น คนละเรื่องกับการปล่อยวางหรือไม่ปล่อยวางเลยครับ ถ้ากระทู้ถูกล็อค ก็เป็นหลักฐานด้วยเช่นกัน ผมจะได้บอกในอนาคตว่าสิ่งนั้นผมชี้แจงไม่ได้ เพราะถูกล็อคไปแล้ว ถ้าผมไม่ตอบวันนี้ อนาคตข้างหน้าผมพังแน่นอน ขอให้เข้าใจด้วยนะครับ คนปฏิบัติธรรมมีสิ่ง หนึ่ง คือรู้อะไรล่วงหน้า ถ้าคุณตามที่ผมพิมพ์ตลอดจะรู้ครับว่าผมทำอะไรมีเป้าหมายเสมอ เช่นตั้งกระทู้ให้คนรุมด่าเพื่ออะไร แล้วผมได้ในสิ่งนั้นในเวลาในอนาคตข้างหน้าหรือไม่ ผมอธิ บายไปหมดแล้ว โอ ปฏิบัติธรรมมาเป็น 10 ปี แล้วหรือครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:15:02 ผมละมึน อ้างถึง จะปล่อยวางได้ต้องแยกถูกแยกผิดก่อน ให้ใครแยกครับตัวเราหรือสังคมแต่ละคนพึงพิจารณาด้วยตนเองให้ตรงตามความเป็นจริงตามสัจธรรม คนปฏิบัติธรรมมากย่อมรู้สัจธรรมมาก คนฉลาดจะไม่ ยึดอะไรไว้กับความคิดของตน แต่ให้ปรับเปลี่ยนตนเองให้โน้มเอียงเข้าสัจธรรม คนโง่เลือกเฟ้นว่าสิ่งไหนเหมาะสมกับตนก็เอาแต่สิ่งนั้นแล้วมองเห็นแค่สิ่งที่เหมาะสมกับตนคือความถูกต้อง คนฉลาดจะทำอย่างไรให้เป็นไปตามสิ่งที่ตนรู้มา ถ้าสิ่งนั้นเป็นจริง สิ่งนั้นคือสัจจะธรรมเท่ากลับกลมกลืนเป็นไปตามธรรมชาติ ในทางสัจธรรมไม่มีใครพิจารณาตนเองได้ดีเท่าตน ถ้าแต่ละคนมองเห็นความ ถูกต้องแล้วตรงตามสัจธรรม สังคมทั้งสังคมก็ทำในสิ่งที่ถูกต้องได้เอง ผมไม่ได้ว่าคุณว่าโง่นะครับ แล้วคำว่าโง่กับฉลาดเป็นเพียงคำอธิบายให้เห็นภาพเท่านั้น หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:18:27 ผู้ไม่เข้าใจสัจธรรมจึงเป็นทุกข์ เพราะไม่เข้าใจกฎแห่งธรรมชาติ รั้นเอาแต่ความคิดของตนเป็นใหญ่ จึงเป็น นั้นสินะไม่จบไม่สิ้นจริงๆด้วย 555555 ผมก็พลอยเป็นทุกข์ไปกับเขาด้วย 5555 :wanwan024: แย่เลย :wanwan012:ทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น สมการนี้เป็นจริง :wanwan008: ความสุขหรือความทุกข์ ไม่มีใครรู้ของใครได้ ทุกคนต้องรู้ตัวแต่ละคน คุณไม่มีทางรู้ว่าผมทุกข์หรือไม่ แล้วผมไม่มีทางรู้ว่าคุณทุกข์หรือไม่ ความเป็นไปในตัวบุคคลอื่นเป็นการคาดการณ์จากความรู้สึกของตน ความรู้สึกของตนเท่านั้นที่เป็นความจริง หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: ivery ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:45:59 ช่วยเล่าเหตการณ์ตอนเป็นเทพให้ฟังหน่อยสิคะ
:wanwan004: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Kaeji ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:51:10 ผู้ไม่เข้าใจสัจธรรมจึงเป็นทุกข์ เพราะไม่เข้าใจกฎแห่งธรรมชาติ รั้นเอาแต่ความคิดของตนเป็นใหญ่ จึงเป็น นั้นสินะไม่จบไม่สิ้นจริงๆด้วย 555555 ผมก็พลอยเป็นทุกข์ไปกับเขาด้วย 5555 :wanwan024: แย่เลย :wanwan012:ทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น สมการนี้เป็นจริง :wanwan008: ความสุขหรือความทุกข์ ไม่มีใครรู้ของใครได้ ทุกคนต้องรู้ตัวแต่ละคน คุณไม่มีทางรู้ว่าผมทุกข์หรือไม่ แล้วผมไม่มีทางรู้ว่าคุณทุกข์หรือไม่ ความเป็นไปในตัวบุคคลอื่นเป็นการคาดการณ์จากความรู้สึกของตน ความรู้สึกของตนเท่านั้นที่เป็นความจริง สงสัยนับถือพระเจ้าคนละองค์กัน 555 พระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ยังรู้ได้เลยว่าชาวโลกเป็นทุกข์ หรือที่รู้เพราะเป็นคนไม่ธรรมดา? หรือที่คุณtanawatไม่รู้เพราะไม่ใช่คน? 5555 จะทำให้ใครเป็นทุกข์ไหมเนี้ย? 555 รู้ได้สิครับไม่ยากหรอก 5555 หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: เก๋าลัดคุง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:53:08 ช่วยเล่าเหตการณ์ตอนเป็นเทพให้ฟังหน่อยสิคะ :wanwan004: มารออ่านด้วยคน :wanwan008: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: thaizeal ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 18:54:35 กรรมคือการกระทำ
พิมพ์กระทู้ก็คือการกระทำ พิมพ์ไม่ดีใตร่ตรองไม่ถี่ถ้วน ก็จะส่งผลต่อการกระทำ และต้องยอมรับในผลของการกระทำ หลักประพฤติความดี อะไรก็ตามที่ทำไปทางกาย พูดทางวาจา หรือคิดทางใจแล้วจะยังผลดี (๑) ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน (๒) ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน (๓) ไม่ทำให้ตนเองและทั้งผู้อื่นเดือดร้อน (๔) เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น สิ่งเหล่านั้นจัดว่า เป็นความดี ใครประพฤติปฏิบัติเข้าก็เรียกว่า ประพฤติดี ทุกคนควรประพฤติแต่ความดี ยกข้อ1.ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน มากล่าว เช่นตอนนี้ ถือได้ว่าท่านกำลังเดือดร้อนเพราะกระทู้ท่านเอง ยกข้อ3.ไม่ทำให้ตนเองและทั้งผู้อื่นเดือดร้อน มากล่าว เช่น.ยัดเยียดธรรมโม๊ะที่บิดเบือนเข้าสู่สมองผู้อื่นก็ถือเป็นการสร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น ให้ผู้อื่นเดือดร้อนได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะบอกว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลก็ตาม แต่นี่มันเป็นที่สาธารณะ ยกข้อ4.เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น มากล่าว จากการตั้งใจที่จะเผยแผ่พระธรรม ถือได้ว่าท่านมีความตั้งใจที่ดี สังเกตุได้จากการสร้างเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับธรรมะของท่าน และพลังน้ำใจของท่าน ข้อนี้มีส่วนที่ดีเยอะเหมือนกัน แต่หวังว่าสิ่งที่ท่านทำมันคงไม่บิดเบือนจากคำสอนที่สอนกันมากว่าสองพันห้าร้อยปีน่ะครับ ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีอคติกับเจ้าของกระทู้แต่อย่างใด เพียงแค่เกิดความเห็นใจ และสงสารมากกว่าครับ :wanwan017: แหล่งอ้างอิง.http://variety.teenee.com/saladharm/27518.html หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Kaeji ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 19:04:01 ขอโทษครับ ......
ขอบคูณที่เตือนสติครับ คุณ thaizeal หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: มายองเนสจัง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 19:33:06 เกิดอะไรขึ้นคระ :o มามุงม่ายทัน
ใครก็ได้สปอยล์ให้เราทีจิ :-[ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Garp_ss ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 19:39:55 ผมรักทุกคนครับ :wanwan019: :wanwan019: :wanwan019:
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Kuroroman ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 19:52:58 ถามคนร้อยคนว่าใครผิด มีใครเข้าข้างคุณหรือคิดว่าคุณถูกบ้างไหมครับ
ถ้าคุณเชื่อตัวของคุณเอง คุณก็อยู่ของคุณไป จะเรียกร้องอะไร ในเมื่อมันไม่มีคนสนใจคุณอยู่แล้ว กระจกมีก็ส่องบ้างนะครับ ว่า ตอนนี้ ใครยืนอยู้่ข้างคุณบ้าง จะได้รู้ซะทีว่าตัวเองเป็นยังไง ถ้ายังคิดว่าตัวคุณถูก ก็ไม่ต้องสนใจคนอื่นต่อไป และไม่ต้องตั้งกระทู้อีกแล้ว เพราะมันไม่มีประโยชน์ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: youknowme ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 19:54:05 อย่าลบหลู่เทพกันนะเฟร้ยยย... wanwan004
(http://image.ohozaa.com/i1/cedz2.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=018cfd6ab96d7d458f465b7194d6cc7c) โค๊ด: http://www.adslthailand.com/forum/viewtopic.php?f=12&t=23167 หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Fallen ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:08:03 ใครจะทำดีก็ขอให้ทำต่อไป
อย่าได้ท้อ ! บัวมี 4 เหล่า สมัยนี้เพิ่มมาอีก เป็น 5เหล่า :wanwan001: ว่าเเต่เรื่องเป็นมาอย่างไร หรือ :P หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: chui761 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:21:58 ท่านทั้งหลาย เราหยุดแล้ว
ท่านทั้งหลายโปรดหยุดเถิด ปล่อยเขาไปเถิด หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:34:04 ผู้ไม่เข้าใจสัจธรรมจึงเป็นทุกข์ เพราะไม่เข้าใจกฎแห่งธรรมชาติ รั้นเอาแต่ความคิดของตนเป็นใหญ่ จึงเป็น นั้นสินะไม่จบไม่สิ้นจริงๆด้วย 555555 ผมก็พลอยเป็นทุกข์ไปกับเขาด้วย 5555 :wanwan024: แย่เลย :wanwan012:ทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น สมการนี้เป็นจริง :wanwan008: ความสุขหรือความทุกข์ ไม่มีใครรู้ของใครได้ ทุกคนต้องรู้ตัวแต่ละคน คุณไม่มีทางรู้ว่าผมทุกข์หรือไม่ แล้วผมไม่มีทางรู้ว่าคุณทุกข์หรือไม่ ความเป็นไปในตัวบุคคลอื่นเป็นการคาดการณ์จากความรู้สึกของตน ความรู้สึกของตนเท่านั้นที่เป็นความจริง สงสัยนับถือพระเจ้าคนละองค์กัน 555 พระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ยังรู้ได้เลยว่าชาวโลกเป็นทุกข์ หรือที่รู้เพราะเป็นคนไม่ธรรมดา? หรือที่คุณtanawatไม่รู้เพราะไม่ใช่คน? 5555 จะทำให้ใครเป็นทุกข์ไหมเนี้ย? 555 รู้ได้สิครับไม่ยากหรอก 5555 ก็บอกแล้วว่ารู้โดยการคาดการณ์ รู้โดยอนุมานและเทียบเอากับว่าถ้าสิ่งนั้นมาเกิดขึ้นกับตนแล้วตนรู้สึกอย่าไร เอาอันนั้นแทนค่าในตัวคนอื่น แต่วิธีการนี้เอามาใช้กับผมไม่ได้ คนที่เห็นผมพิมพย์ยาว ๆ ก็คิดว่าผมทุกข์ ผมก็ตอบไปแบบนั้น แล้วมันก็เป็นสัจธรรมแบบนั้นด้วย คือสำหรับคนด้วยกันมันง่าย เพราะระดับจิตใจมันใกล้เคียงกัน แต่เอามาใช้ กับผมไม่ได้เท่านั้นเอง ในขณะเดียวกันผมจะรู้ว่าคุณทุกรึเปล่า ผมก็ต้องใช้การคาดการณ์เอาเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าผมจะคาดการณ์ว่าคุณทุกข์ ผมก็ต้องรู้สาเหตุ แห่งทุกข์นั้นด้วย แล้วถ้าคิดในมุมกลับแล้วควรจะทุกข์มั้ย ความทุกข์ของคนทั้งหลายมีสาเหตุจากการไม่เข้าใจและยอมรับในสัจธรรมแทบทั้งนั้น หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Etaba ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:34:30 (http://www.dmc.tv/forum/uploads/post-1794-1141817155.gif)
แนะนำ ครับ ลองพิจารณา กายในกาย จิตในจิต กระทู้ในกระทู้ แล้วจะเห็นธรรมที่แท้จริงของตัวท่านเองครับ สวัสดีวันอาสาฬหบูชาครับ ธรรมสวัสดีครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:42:33 กรรมคือการกระทำ พิมพ์กระทู้ก็คือการกระทำ พิมพ์ไม่ดีใตร่ตรองไม่ถี่ถ้วน ก็จะส่งผลต่อการกระทำ และต้องยอมรับในผลของการกระทำ หลักประพฤติความดี อะไรก็ตามที่ทำไปทางกาย พูดทางวาจา หรือคิดทางใจแล้วจะยังผลดี (๑) ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน (๒) ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน (๓) ไม่ทำให้ตนเองและทั้งผู้อื่นเดือดร้อน (๔) เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น สิ่งเหล่านั้นจัดว่า เป็นความดี ใครประพฤติปฏิบัติเข้าก็เรียกว่า ประพฤติดี ทุกคนควรประพฤติแต่ความดี ยกข้อ1.ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน มากล่าว เช่นตอนนี้ ถือได้ว่าท่านกำลังเดือดร้อนเพราะกระทู้ท่านเอง ยกข้อ3.ไม่ทำให้ตนเองและทั้งผู้อื่นเดือดร้อน มากล่าว เช่น.ยัดเยียดธรรมโม๊ะที่บิดเบือนเข้าสู่สมองผู้อื่นก็ถือเป็นการสร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น ให้ผู้อื่นเดือดร้อนได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะบอกว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลก็ตาม แต่นี่มันเป็นที่สาธารณะ ยกข้อ4.เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น มากล่าว จากการตั้งใจที่จะเผยแผ่พระธรรม ถือได้ว่าท่านมีความตั้งใจที่ดี สังเกตุได้จากการสร้างเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับธรรมะของท่าน และพลังน้ำใจของท่าน ข้อนี้มีส่วนที่ดีเยอะเหมือนกัน แต่หวังว่าสิ่งที่ท่านทำมันคงไม่บิดเบือนจากคำสอนที่สอนกันมากว่าสองพันห้าร้อยปีน่ะครับ ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีอคติกับเจ้าของกระทู้แต่อย่างใด เพียงแค่เกิดความเห็นใจ และสงสารมากกว่าครับ :wanwan017: แหล่งอ้างอิง.[url]http://variety.teenee.com/saladharm/27518.html[/url] ถ้าผมเดือดร้อน ผมคงเดือดร้อนไปแล้ว แต่นี่ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมก็ไม่ได้อะไร ทางใจในเมื่อผมไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครเดือดร้อน ผมก็ไม่ต้องเดือดร้อน ส่วนทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือไม่ ผมต้องถามตนเองว่าผมปรารถนาเช่นนั้นหรือไม่ ถ้ามีผมก็เดือดร้อนเอง ผมได้อธิบายมาหลายครั้งแล้ว ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน ย่อมเกิดจากใจของตนทั้งสิ้น คนอื่นจะมาตัดสินแทนผู้อื่นไม่ได้ เป็นประโยชน์หรือไม่ ก็แล้วแต่ว่าใครจะเห็นประโยชน์หรือไม่เห็นก็ตาม ส่วนเรื่องบิดเบือนพระศาสนาผมได้ตอบไปชัดเจนแล้ว เมื่อผมตอบไปแล้วไม่ฟังที่ผมชี้แจง ถือว่าผ่าน หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:45:48 ถามคนร้อยคนว่าใครผิด มีใครเข้าข้างคุณหรือคิดว่าคุณถูกบ้างไหมครับ ถ้าคุณเชื่อตัวของคุณเอง คุณก็อยู่ของคุณไป จะเรียกร้องอะไร ในเมื่อมันไม่มีคนสนใจคุณอยู่แล้ว กระจกมีก็ส่องบ้างนะครับ ว่า ตอนนี้ ใครยืนอยู้่ข้างคุณบ้าง จะได้รู้ซะทีว่าตัวเองเป็นยังไง ถ้ายังคิดว่าตัวคุณถูก ก็ไม่ต้องสนใจคนอื่นต่อไป และไม่ต้องตั้งกระทู้อีกแล้ว เพราะมันไม่มีประโยชน์ ผมก็ไม่ได้ให้ใครมาสนใจผมนิครับ ใครสนใจผมหรือไม่สนใจผม ผมไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่ผมรู้ว่าถ้าผมไม่ตอบผมเดือดร้อนแน่ ๆ เพราะผมได้ทำหลักฐานว่าผมตอบแล้ว ใครสนใจหรือไม่สนใจมันเรื่องของเขา ทุกอย่างมันตัวใครตัวมันอยู่แล้ว ใครดวงตาเห็นธรรม คนนั้นพ้นทุกข์ ใครที่ดวงตาไม่เห็นธรรมคนนั้นก็แล้วแต่ ผมบอกใครไม่ได้นอกขากบอกตนเอง หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:51:45 ท่านทั้งหลาย เราหยุดแล้ว ท่านทั้งหลายโปรดหยุดเถิด ปล่อยเขาไปเถิด ผมบอกแล้วไใม่มีใครฟังผม มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหล่ะ กว่าจะได้ผลปฏิบัติมาเลือดตาแทบกระเด็น แล้วจะให้คนมาจูงให้หลงทางง่าย ๆ มันไม่ง่ายไปหรือ กว่าจะได้มาเจ็บปางตาย ตายแล้วก็ฟื้นหลายครั้ง ถ้ามีคนทำให้ผมเขวง่าย ๆ ที่ผมทำมานับ 10 ปีก็สูญดิ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า ผลที่ไๆด้มันเป็นอย่างไร หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: jellyz ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:54:35 ท่านทั้งหลาย เราหยุดแล้ว ท่านทั้งหลายโปรดหยุดเถิด ปล่อยเขาไปเถิด ผมว่าสนุกดีนะครับ เป็นสีสรรของบอร์ดดี ปล.ผมลูกช้างรหัส 42 ครับ ของพี่รหัสอะไรเหรอครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: HotelBestBuy ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 20:55:36 บรรลุธรรม แต่ติดอยู่ในขั้น ในลำดับ ในชื่อ ในยศ ในนามธรรม หรือแม้แต่ติดใน "ธรรมที่บรรลุ" แล้วที่บรรลุแล้วคือธรรมอะไร
หรือบรรลุในความติด บรรลุในความหลง ประพฤติธรรมแต่กลับติดในธรรม เป็ดเป็นเป็ดเพราะว่ามันเป็นเป็ด ไม่ใช่เพราะมันพูดว่ามันเป็นเป็ด เป็ดเป็นเป็ดย่างก็เพราะมีคนมาย่างเป็ด เป็ดเป็นเป็ดพะโล้ก็เพราะมีคนทำพะโล้เป็ด แต่แม้จะมีคนย่าง หรือเลือกทำพะโล้ เป็ดก็คือเป็ด ปล เป็ดเอ็มเคอร่อยมาก ขึ้นหลังเสือแล้วลงลำบาก เพราะกลัวเสือกัด แต่หากลงได้ แม้เสี่ยงที่จะเจ็บ แต่ก็ไม่ทุกข์นาน โบราณเลยว่าไว้ รักวัวให้ผูก รักจะเป็นเป็ดให้ลงจากหลังเสือ :wanwan017: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: chui761 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:01:26 ท่านทั้งหลาย เราหยุดแล้ว ท่านทั้งหลายโปรดหยุดเถิด ปล่อยเขาไปเถิด ผมว่าสนุกดีนะครับ เป็นสีสรรของบอร์ดดี ปล.ผมลูกช้างรหัส 42 ครับ ของพี่รหัสอะไรเหรอครับ รหัส 4111 ค้าบ เทคนิคการแพทย์ รุ่น ถีบนี้เพื่อ มช. เอิ้กๆ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: เก๋าลัดคุง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:03:30 ท่านทั้งหลาย เราหยุดแล้ว ท่านทั้งหลายโปรดหยุดเถิด ปล่อยเขาไปเถิด ผมบอกแล้วไใม่มีใครฟังผม มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหล่ะ กว่าจะได้ผลปฏิบัติมาเลือดตาแทบกระเด็น แล้วจะให้คนมาจูงให้หลงทางง่าย ๆ มันไม่ง่ายไปหรือ กว่าจะได้มาเจ็บปางตาย ตายแล้วก็ฟื้นหลายครั้ง ถ้ามีคนทำให้ผมเขวง่าย ๆ ที่ผมทำมานับ 10 ปีก็สูญดิ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า ผลที่ไๆด้มันเป็นอย่างไร แน่ใจนะว่า บรรลุธรรม มานับ 10 ปี :P หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:07:10 อย่าลบหลู่เทพกันนะเฟร้ยยย... wanwan004 ([url]http://image.ohozaa.com/i1/cedz2.png[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/show.php?id=018cfd6ab96d7d458f465b7194d6cc7c[/url]) โค๊ด: [url]http://www.adslthailand.com/forum/viewtopic.php?f=12&t=23167[/url] มาเลยครับ ผมพร้อมสู้ครับ นี่คือข้อมูลที่ทำให้ผมได้ข้างบนมา อ้างแล้วต้องดูของผมด้วยนะครับ ถ้าไม่ดูผมถือว่าได้ดูเรียบร้อยแล้ว http://www.dhumma.net/index.php?option=com_content&view=article&id=66&Itemid=66 http://www.dhumma.net/index.php?option=com_content&view=article&id=66&Itemid=67 สิ่งที่ได้ทั้งหมดเป็นประสบการณ์ แล้วในเมื่อเป็นประสบการณ์ ผมก็ต้องบอกไปตามประสบการณ์ เวลาที่เราจะปฏิบัติตามใครสักคน วิธีประเมินผลจากการปฏิบัติเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าผมเขียนวิธีปฏิบัติแล้วมีคนถามว่าผมเอาวิธีประเมินผลนี้มาจากไหน ถ้าผมตอบว่าได้ตาม ประสบการณ์ มันก็ฟ้องอยู่แล้วว่าผมเป็นอย่างที่เขียนไว้ข้างบน ในเมื่อผมตั้งใจเผยแพร่วิธีประเมินผลจากการปฏิบัติไปด้วย ผมก็จำ เป็นต้องเปิดเผยตัวตน ทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ แล้วผมไม่อยากเปิดเผยหรอก เพราะมันผิดหลักธรรมคำสอนในพุทธศาสนา แต่สิ่งที่ผม อยากมอบให้สังคม คือเมื่อปฏิบัติธรรมอะไรไปแล้ว คือต้องรู้สภาวะธรรมของตนเองด้วย จะรู้ได้อย่างไร เอาความรู้สึกที่ตน เป็นไปเทียบกับสวรรค์แต่ละชั้น ตรงกับข้อไหนก็ได้ขั้นนั้นแหล่ะ ผลของใครก็คือผลของคนนั้น ผลของผมก็คือผลของผม ไม่ใช่ีหลับหูหลับตาปฏิบัติโดยที่ไม่รู้ว่าตนได้อะไรมา ด้วยเหตุนี้ผมต้องยอมแลกการเปิดเผยตัวตนพร้อมกับวิธีประเมินผล ซึ่งควบคู่กันมาตามประสบการณ์ด้วย แล้วจะว่าไปผมก็ไม่ตั้งใจจะขุดมาด้วย เพราะเรื่องมันก็นานแล้ว แต่ผมเตรียมรับมือกับพวกขุดเอาไว้แล้ว ขุดมาเมื่อไหร่ผมก็ตอบ เมื่อนั้น แล้วนี่จึงเปห็นเหตุที่ทำให้ผมต้องสร้างหลักฐานไว้ ถ้าอนาคตเจอขุดอีก ผมก็เอาหลักฐานมายันได้อีก บันไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ใหเกิดความเสียหายต่อตนเองจากการถูกกล่าวหาจากคนอื่น โดยที่เขารูที่มาที่ไปไม่ครบ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: k_sakda ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:18:20 ถกกันเรื่องธรรมะ ชอบติดตามอ่านครับ แต่ไม่กล้าออกความเห็นครับ กลัวคนอื่นจะรู้ ว่าผมไม่รู้ว่าผมไม่รู้อะไร แต่ผมนึกว่าผมรู้แล้ว ???
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:20:58 ([url]http://www.dmc.tv/forum/uploads/post-1794-1141817155.gif[/url]) แนะนำ ครับ ลองพิจารณา กายในกาย จิตในจิต กระทู้ในกระทู้ แล้วจะเห็นธรรมที่แท้จริงของตัวท่านเองครับ สวัสดีวันอาสาฬหบูชาครับ ธรรมสวัสดีครับ ผมสำรวจตนเองเสมอครับ การกระทำทุกอย่างที่ทำลงไป ผมรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร แล้วนี่คือเหตุปัจจัยที่ทำให้ผมยันทุก rep โดย ตลอดโดยไม่จนสักที ถ้าผมไม่สำรวจตนเอง ผมโดนถล่มไปขนาดนี้ ผมคงนั่งเหงือแตกท่วมตัวหรือเลิกเล่นเน็ตไปแล้ว เพราะทน ความอัปยศที่ตนทำไว้ไม่ไหว หลักการคือทำอะไรก็รู้ เพื่ออะไรก็รู้ ไม่สงสัยกันบ้างหรือครับว่า คนนับสิบรุมคน ๆ เดียวไม่จนหรือไม่ ยอมรับสักที ในเมื่อผมสำรวจตนเองตลอด หน้าเว็บก็เขียนวิธีปฏิบัติหราอยู่ ทุกคนก็ควรไปสำรวจตนเองด้วย จริงอย่างที่ผมว่ามามั้ย ผมพิสูจน์ของผมมานับ 10 ปีแล้ว ผมต่างจากเทพพระองค์อื่นแค่มีร่างมนุษย์เท่านั้น แต่อย่างอื่นผมทำได้ไม่ต่างจากเทพพระองค์อื่น นะครับ เช่นใช้วิชาเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้คน จากที่เดินไม่ได้หลังโกง เดินด้วยความเจ็บปวดทรมานมาตลอด ผมก็ทำให้หายได้โดย ถอดเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้เค้า ในทางพุทธไม่ให้ทำหรอก ผมก็อธิบายไปด้วยว่าเป็นการแทรกแซงกรรม เวลาที่ผมทำให้ผมต้องบอกด้วย ว่าต้องไปทำอะไๆรมาชดใช้ คนที่เดินขาโกง มาปฏิบัติธรรมกับผมเขาสามารถเดินขาตรงมาอวดให้ผมดูดวยความปิติมาแล้ว เอาเท่า ที่พิสูจน์จากสิ่งที่เห็นตามปกติ สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาพิจารณาให้ผมต้องยอมรับความจริงด้วย หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: idscene ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:22:16 ขอความสลบ เอ้ย สงบ = =' จงบังเกิดแก่ทุกๆท่านครับ :P
ปล. thaiseo เป็นบอร์ดน่าอยู่ครับ (เกี่ยวกันไหมเนี่ย) :wanwan009: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:22:58 ถกกันเรื่องธรรมะ ชอบติดตามอ่านครับ แต่ไม่กล้าออกความเห็นครับ กลัวคนอื่นจะรู้ ว่าผมไม่รู้ว่าผมไม่รู้อะไร แต่ผมนึกว่าผมรู้แล้ว ??? ผมไม่ตั้งใจจะตอบธรรมะในบอร์ดนี้เลยครับ แต่ผมกำลังปกป้องตนเองจากข้อมูลที่ทำให้ผมเสียหายอยู่ เคลียร์เมื่อไหร่ก็จบเมื่อนั้นครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:25:24 ขอความสลบ เอ้ย สงบ = =' จงบังเกิดแก่ทุกๆท่านครับ :P ปล. thaiseo เป็นบอร์ดน่าอยู่ครับ (เกี่ยวกันไหมเนี่ย) :wanwan009: ผมพิมพ์ครั้งที่ 2 ถ้าไม่มีอะไรมาต่อท้ายผมอีก ผมหยุดครับ หวังว่าไม่มีให้ผมต้องพิมพ์ครั้งที่ 3 นะครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Tanut007 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:26:34 หยุดเถิดท่าน ท่านหมอหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด ผมยกย่องท่านเรื่องความมีน้ำใจตลอดนะ ธรรมของท่านบางครั้งทำให้ผมสงบขึ้นมาได้
ธรรมะสวัสดี หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Etaba ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:28:35 ([url]http://www.dmc.tv/forum/uploads/post-1794-1141817155.gif[/url]) แนะนำ ครับ ลองพิจารณา กายในกาย จิตในจิต กระทู้ในกระทู้ แล้วจะเห็นธรรมที่แท้จริงของตัวท่านเองครับ สวัสดีวันอาสาฬหบูชาครับ ธรรมสวัสดีครับ ผมสำรวจตนเองเสมอครับ การกระทำทุกอย่างที่ทำลงไป ผมรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร แล้วนี่คือเหตุปัจจัยที่ทำให้ผมยันทุก rep โดย ตลอดโดยไม่จนสักที ถ้าผมไม่สำรวจตนเอง ผมโดนถล่มไปขนาดนี้ ผมคงนั่งเหงือแตกท่วมตัวหรือเลิกเล่นเน็ตไปแล้ว เพราะทน ความอัปยศที่ตนทำไว้ไม่ไหว หลักการคือทำอะไรก็รู้ เพื่ออะไรก็รู้ ไม่สงสัยกันบ้างหรือครับว่า คนนับสิบรุมคน ๆ เดียวไม่จนหรือไม่ ยอมรับสักที ในเมื่อผมสำรวจตนเองตลอด หน้าเว็บก็เขียนวิธีปฏิบัติหราอยู่ ทุกคนก็ควรไปสำรวจตนเองด้วย จริงอย่างที่ผมว่ามามั้ย ผมพิสูจน์ของผมมานับ 10 ปีแล้ว ผมต่างจากเทพพระองค์อื่นแค่มีร่างมนุษย์เท่านั้น แต่อย่างอื่นผมทำได้ไม่ต่างจากเทพพระองค์อื่น นะครับ เช่นใช้วิชาเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้คน จากที่เดินไม่ได้หลังโกง เดินด้วยความเจ็บปวดทรมานมาตลอด ผมก็ทำให้หายได้โดย ถอดเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้เค้า ในทางพุทธไม่ให้ทำหรอก ผมก็อธิบายไปด้วยว่าเป็นการแทรกแซงกรรม เวลาที่ผมทำให้ผมต้องบอกด้วย ว่าต้องไปทำอะไๆรมาชดใช้ คนที่เดินขาโกง มาปฏิบัติธรรมกับผมเขาสามารถเดินขาตรงมาอวดให้ผมดูดวยความปิติมาแล้ว เอาเท่า ที่พิสูจน์จากสิ่งที่เห็นตามปกติ สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาพิจารณาให้ผมต้องยอมรับความจริงด้วย เจ๊ย :o gone to big! หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:34:03 หยุดเถิดท่าน ท่านหมอหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด ผมยกย่องท่านเรื่องความมีน้ำใจตลอดนะ ธรรมของท่านบางครั้งทำให้ผมสงบขึ้นมาได้ ธรรมะสวัสดี ก่อนจะตอ rep ไม่ได้อ่าน rep บนหรือครับ สมมุติถ้าผมไม่ตอบ ผมจะไม่มีหลักฐานไปยันกับอนาคต ผมทำเท่านั้นไม่มากกว่านั้น หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:40:29 ([url]http://www.dmc.tv/forum/uploads/post-1794-1141817155.gif[/url]) แนะนำ ครับ ลองพิจารณา กายในกาย จิตในจิต กระทู้ในกระทู้ แล้วจะเห็นธรรมที่แท้จริงของตัวท่านเองครับ สวัสดีวันอาสาฬหบูชาครับ ธรรมสวัสดีครับ ผมสำรวจตนเองเสมอครับ การกระทำทุกอย่างที่ทำลงไป ผมรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร แล้วนี่คือเหตุปัจจัยที่ทำให้ผมยันทุก rep โดย ตลอดโดยไม่จนสักที ถ้าผมไม่สำรวจตนเอง ผมโดนถล่มไปขนาดนี้ ผมคงนั่งเหงือแตกท่วมตัวหรือเลิกเล่นเน็ตไปแล้ว เพราะทน ความอัปยศที่ตนทำไว้ไม่ไหว หลักการคือทำอะไรก็รู้ เพื่ออะไรก็รู้ ไม่สงสัยกันบ้างหรือครับว่า คนนับสิบรุมคน ๆ เดียวไม่จนหรือไม่ ยอมรับสักที ในเมื่อผมสำรวจตนเองตลอด หน้าเว็บก็เขียนวิธีปฏิบัติหราอยู่ ทุกคนก็ควรไปสำรวจตนเองด้วย จริงอย่างที่ผมว่ามามั้ย ผมพิสูจน์ของผมมานับ 10 ปีแล้ว ผมต่างจากเทพพระองค์อื่นแค่มีร่างมนุษย์เท่านั้น แต่อย่างอื่นผมทำได้ไม่ต่างจากเทพพระองค์อื่น นะครับ เช่นใช้วิชาเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้คน จากที่เดินไม่ได้หลังโกง เดินด้วยความเจ็บปวดทรมานมาตลอด ผมก็ทำให้หายได้โดย ถอดเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้เค้า ในทางพุทธไม่ให้ทำหรอก ผมก็อธิบายไปด้วยว่าเป็นการแทรกแซงกรรม เวลาที่ผมทำให้ผมต้องบอกด้วย ว่าต้องไปทำอะไๆรมาชดใช้ คนที่เดินขาโกง มาปฏิบัติธรรมกับผมเขาสามารถเดินขาตรงมาอวดให้ผมดูดวยความปิติมาแล้ว เอาเท่า ที่พิสูจน์จากสิ่งที่เห็นตามปกติ สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาพิจารณาให้ผมต้องยอมรับความจริงด้วย เจ๊ย :o gone to big! อันนี้แค่ขี้เล็บเท่านั้น ผมไม่ใช่คนขี้คุย ผมทำงานของผม ผมทำลูกเดรยว วิชาเทพทุกวิชาผมทำได้หมด เอาอีกเรื่องที่เจ้าตัวมาเล่าให้ผมฟังเอง ตอนนั้นเค้าตายไปแล้ว และคนที่บ้านก็เห็นว่าเค้าหยุดหายใจแล้ว มาขอให้ผมช่วย ผมบอกว่าวิญญาณออกจากร่างไม่เกิน 3 นาทีพอช่วยได้ ไปยื้อจิตมาจากพญายม แล้วดึงกลับเข้าร่างก่อน ทำเสร็จเจ้าตัวตื่นมาเล่าให้ฟังว่า เห็นผมใส่ชุดไหนไปดึงเค้ากลับเข้าร่างยังไง พอแล้วยัง แต่เรื่องนี้ 8 ปีแล้วพยานไม่รู้ตายแล้วยัง เพราะแก่มากแล้ว พอแล้วนะครับ น่าจะสรุปได้ แต่นี่แค่ขี้เล็บเท่านั้นอีก ทุกวันนี้ผมก็ยังทำงาน อยู่นะครับ งานผมเยอะมากในแต่ละวัน คอยดูผลงานกันนะครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: มายองเนสจัง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:40:29 ความผิดเราเท่าขี้ผง ความผิดคนอื่นเท่าเห็บไดโนเสาร์ :wanwan015:
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: HotelBestBuy ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:44:19 มีอิทธิฤทธิ์ด้วยเหรอท่าน :P
วิชาเทพที่ว่าใช้ทำอะไรได้บ้างครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: ซาเล้ง ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:47:02 ความผิดเราเท่าขี้ผง ความผิดคนอื่นเท่าเห็บไดโนเสาร์ :wanwan015: :o หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Etaba ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:49:20 ([url]http://www.dmc.tv/forum/uploads/post-1794-1141817155.gif[/url]) แนะนำ ครับ ลองพิจารณา กายในกาย จิตในจิต กระทู้ในกระทู้ แล้วจะเห็นธรรมที่แท้จริงของตัวท่านเองครับ สวัสดีวันอาสาฬหบูชาครับ ธรรมสวัสดีครับ ผมสำรวจตนเองเสมอครับ การกระทำทุกอย่างที่ทำลงไป ผมรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร แล้วนี่คือเหตุปัจจัยที่ทำให้ผมยันทุก rep โดย ตลอดโดยไม่จนสักที ถ้าผมไม่สำรวจตนเอง ผมโดนถล่มไปขนาดนี้ ผมคงนั่งเหงือแตกท่วมตัวหรือเลิกเล่นเน็ตไปแล้ว เพราะทน ความอัปยศที่ตนทำไว้ไม่ไหว หลักการคือทำอะไรก็รู้ เพื่ออะไรก็รู้ ไม่สงสัยกันบ้างหรือครับว่า คนนับสิบรุมคน ๆ เดียวไม่จนหรือไม่ ยอมรับสักที ในเมื่อผมสำรวจตนเองตลอด หน้าเว็บก็เขียนวิธีปฏิบัติหราอยู่ ทุกคนก็ควรไปสำรวจตนเองด้วย จริงอย่างที่ผมว่ามามั้ย ผมพิสูจน์ของผมมานับ 10 ปีแล้ว ผมต่างจากเทพพระองค์อื่นแค่มีร่างมนุษย์เท่านั้น แต่อย่างอื่นผมทำได้ไม่ต่างจากเทพพระองค์อื่น นะครับ เช่นใช้วิชาเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้คน จากที่เดินไม่ได้หลังโกง เดินด้วยความเจ็บปวดทรมานมาตลอด ผมก็ทำให้หายได้โดย ถอดเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้เค้า ในทางพุทธไม่ให้ทำหรอก ผมก็อธิบายไปด้วยว่าเป็นการแทรกแซงกรรม เวลาที่ผมทำให้ผมต้องบอกด้วย ว่าต้องไปทำอะไๆรมาชดใช้ คนที่เดินขาโกง มาปฏิบัติธรรมกับผมเขาสามารถเดินขาตรงมาอวดให้ผมดูดวยความปิติมาแล้ว เอาเท่า ที่พิสูจน์จากสิ่งที่เห็นตามปกติ สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาพิจารณาให้ผมต้องยอมรับความจริงด้วย เจ๊ย :o gone to big! อันนี้แค่ขี้เล็บเท่านั้น ผมไม่ใช่คนขี้คุย ผมทำงานของผม ผมทำลูกเดรยว วิชาเทพทุกวิชาผมทำได้หมด เอาอีกเรื่องที่เจ้าตัวมาเล่าให้ผมฟังเอง ตอนนั้นเค้าตายไปแล้ว และคนที่บ้านก็เห็นว่าเค้าหยุดหายใจแล้ว มาขอให้ผมช่วย ผมบอกว่าวิญญาณออกจากร่างไม่เกิน 3 นาทีพอช่วยได้ ไปยื้อจิตมาจากพญายม แล้วดึงกลับเข้าร่างก่อน ทำเสร็จเจ้าตัวตื่นมาเล่าให้ฟังว่า เห็นผมใส่ชุดไหนไปดึงเค้ากลับเข้าร่างยังไง พอแล้วยัง แต่เรื่องนี้ 8 ปีแล้วพยานไม่รู้ตายแล้วยัง เพราะแก่มากแล้ว พอแล้วนะครับ น่าจะสรุปได้ แต่นี่แค่ขี้เล็บเท่านั้นอีก ทุกวันนี้ผมก็ยังทำงาน อยู่นะครับ งานผมเยอะมากในแต่ละวัน คอยดูผลงานกันนะครับ เจ๊ย เจ๊ย ปานวาด บอร์ดนี้เทพเยอะจัง อย่าอาฆาตข้าพเจ้านะขอรับ :wanwan031: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: Tanut007 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:50:52 ใจเย็นๆ ท่าน tanawat มันผ่านแล้ว ก็ให้มันผ่านไป จะมาฝื้นฟอยหาตะเข็บทำไมกัน
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:51:29 ความผิดเราเท่าขี้ผง ความผิดคนอื่นเท่าเห็บไดโนเสาร์ :wanwan015: :o ถูกต้อง มันถึงไม่จบไงครับ ส่วนผม ผมแจงความผิดของผมไปชัดเจนแล้ว พื้น ๆ มากเลย เป็นเทพไม่ได้ถ้าไม่รับข้อนี้ เป็นเทวดายังไม่ได้เลยครับ แล้วก็เป็นมนุษย์ที่ดีก็ไม่ได้ด้วย หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tangkui ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:52:03 อยากให้ จขกท chat กะท่าน WebSnow จัง อยากรู้ใครเทพกว่าใคร
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: GoogleBot ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:52:40 ความผิดเราเท่าขี้ผง ความผิดคนอื่นเท่าเห็บไดโนเสาร์ :wanwan015: :o ถูกต้อง มันถึงไม่จบไงครับ ส่วนผม ผมแจงความผิดของผมไปชัดเจนแล้ว พื้น ๆ มากเลย เป็นเทพไม่ได้ถ้าไม่รับข้อนี้ เป็นเทวดายังไม่ได้เลยครับ แล้วก็เป็นมนุษย์ที่ดีก็ไม่ได้ด้วย เห็บไดโนเสาร์ กับ เหาไดโนสี มันต่างกันหรือเหมือนกันอ่ะครับ หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:53:22 ใจเย็นๆ ท่าน tanawat มันผ่านแล้ว ก็ให้มันผ่านไป จะมาฝื้นฟอยหาตะเข็บทำไมกัน คนฟื้นคือคนที่เอา rep มาต่อจากผมนั่นแหล่ะครับ ผมจะมาฟื้นทำไม เสียเวลาผม หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: unine ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:56:27 ต่อๆ รอต่อ :wanwan011: :wanwan011: :wanwan011:
หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tongsolution ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:58:20 ความผิดเราเท่าขี้ผง ความผิดคนอื่นเท่าเห็บไดโนเสาร์ :wanwan015: :o ถูกต้อง มันถึงไม่จบไงครับ ส่วนผม ผมแจงความผิดของผมไปชัดเจนแล้ว พื้น ๆ มากเลย เป็นเทพไม่ได้ถ้าไม่รับข้อนี้ เป็นเทวดายังไม่ได้เลยครับ แล้วก็เป็นมนุษย์ที่ดีก็ไม่ได้ด้วย เห็บไดโนเสาร์ กับ เหาไดโนสี มันต่างกันหรือเหมือนกันอ่ะครับ คงต้องวานท่านเทพ จขกท. ตอบแล้วหละครับ :wanwan004: หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: tanawat30 ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:59:03 ([url]http://www.dmc.tv/forum/uploads/post-1794-1141817155.gif[/url]) แนะนำ ครับ ลองพิจารณา กายในกาย จิตในจิต กระทู้ในกระทู้ แล้วจะเห็นธรรมที่แท้จริงของตัวท่านเองครับ สวัสดีวันอาสาฬหบูชาครับ ธรรมสวัสดีครับ ผมสำรวจตนเองเสมอครับ การกระทำทุกอย่างที่ทำลงไป ผมรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร แล้วนี่คือเหตุปัจจัยที่ทำให้ผมยันทุก rep โดย ตลอดโดยไม่จนสักที ถ้าผมไม่สำรวจตนเอง ผมโดนถล่มไปขนาดนี้ ผมคงนั่งเหงือแตกท่วมตัวหรือเลิกเล่นเน็ตไปแล้ว เพราะทน ความอัปยศที่ตนทำไว้ไม่ไหว หลักการคือทำอะไรก็รู้ เพื่ออะไรก็รู้ ไม่สงสัยกันบ้างหรือครับว่า คนนับสิบรุมคน ๆ เดียวไม่จนหรือไม่ ยอมรับสักที ในเมื่อผมสำรวจตนเองตลอด หน้าเว็บก็เขียนวิธีปฏิบัติหราอยู่ ทุกคนก็ควรไปสำรวจตนเองด้วย จริงอย่างที่ผมว่ามามั้ย ผมพิสูจน์ของผมมานับ 10 ปีแล้ว ผมต่างจากเทพพระองค์อื่นแค่มีร่างมนุษย์เท่านั้น แต่อย่างอื่นผมทำได้ไม่ต่างจากเทพพระองค์อื่น นะครับ เช่นใช้วิชาเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้คน จากที่เดินไม่ได้หลังโกง เดินด้วยความเจ็บปวดทรมานมาตลอด ผมก็ทำให้หายได้โดย ถอดเปลี่ยนสังขารขันธ์ให้เค้า ในทางพุทธไม่ให้ทำหรอก ผมก็อธิบายไปด้วยว่าเป็นการแทรกแซงกรรม เวลาที่ผมทำให้ผมต้องบอกด้วย ว่าต้องไปทำอะไๆรมาชดใช้ คนที่เดินขาโกง มาปฏิบัติธรรมกับผมเขาสามารถเดินขาตรงมาอวดให้ผมดูดวยความปิติมาแล้ว เอาเท่า ที่พิสูจน์จากสิ่งที่เห็นตามปกติ สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาพิจารณาให้ผมต้องยอมรับความจริงด้วย เจ๊ย :o gone to big! อันนี้แค่ขี้เล็บเท่านั้น ผมไม่ใช่คนขี้คุย ผมทำงานของผม ผมทำลูกเดรยว วิชาเทพทุกวิชาผมทำได้หมด เอาอีกเรื่องที่เจ้าตัวมาเล่าให้ผมฟังเอง ตอนนั้นเค้าตายไปแล้ว และคนที่บ้านก็เห็นว่าเค้าหยุดหายใจแล้ว มาขอให้ผมช่วย ผมบอกว่าวิญญาณออกจากร่างไม่เกิน 3 นาทีพอช่วยได้ ไปยื้อจิตมาจากพญายม แล้วดึงกลับเข้าร่างก่อน ทำเสร็จเจ้าตัวตื่นมาเล่าให้ฟังว่า เห็นผมใส่ชุดไหนไปดึงเค้ากลับเข้าร่างยังไง พอแล้วยัง แต่เรื่องนี้ 8 ปีแล้วพยานไม่รู้ตายแล้วยัง เพราะแก่มากแล้ว พอแล้วนะครับ น่าจะสรุปได้ แต่นี่แค่ขี้เล็บเท่านั้นอีก ทุกวันนี้ผมก็ยังทำงาน อยู่นะครับ งานผมเยอะมากในแต่ละวัน คอยดูผลงานกันนะครับ เจ๊ย เจ๊ย ปานวาด บอร์ดนี้เทพเยอะจัง อย่าอาฆาตข้าพเจ้านะขอรับ :wanwan031: เทพที่อาฆาต ไม่มีครับ แตเทพชั้นบรมเทพขึ้นไป อโหสิกรรมให้ทุกคนโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว โดยปกติ เทพไม่ลงโทษมนุษย์นะครับ เพราะมนุษย์คิดกับเทพอย่างไร ผลนั้นสะท้อนเข้าหตัวตาม "กรรมเป็นเครื่องแสดงเจตนา" อยู่แล้ว และที่ผมบอกให้หยุดก็เพราะสาเหตุนี้ด้วย แล้วผมก็ไม่อยากถภลำมาถึงเรื่องปาฏิหารย์ แต่มันตอบ ปกติไม่ได้อีกแล้ว ในเมื่อ rep ก่อนหน้าขวักสิ่งเก่า ๆ มาซะแบบนั้นแล้วไม่มีทางเลือก หัวข้อ: Re: การยอมรับความเป็นจริง เริ่มหัวข้อโดย: *~เก้าคุง~* ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 21:59:59 ขอล๊อคกระทู้ครับ เนื่องจากเถียงไปก็ไม่จบ ใครมีปัญหา pm เคลียกันเองละกันครับ
|