สำหรับคนที่จะไปเรียน amazon ผมแนะนำซื้อหนังสือครับ เล่มละ 199 บาท ส่วนตัวผมอ่านของ ณัฐพงศ์ เอื้อมเสถียรพร หรือ ของ donottellmyboss โหลดฟรี
สาระสำคัญที่เราควรรู้กับการทำ amazon มีแค่
1.วิธีสมัคร
2.วิธีรับเงิน
3.วิธีขนส่ง
4.วิธีดูว่าสินค้าไหนขายดีใน amazon
ซึ่งทุกอย่างมันไม่จำเป็นต้อง ไปอบรม หาอ่านฟรีที่ไหนก็ได้
ไปอบรมข้อเสีย อย่างแรกเลยเขาจะจำกัดความคิดคุณว่าคุณต้องขายสินค้าแนวไหน หาที่ไหน มันก็เดิมๆ ของ 7-11 supermarket คลองถม จตุจัก สำเพ็ง
แล้วคุณว่าเขาสอนมากี่รุ่น แล้วแต่ละรุ่น เขาก็สอนแบบเดียวกันหมด ผมสังเกตุสิ่งที่คนไทยขาย จะมีคนเกาะติดประมาณ 60-70 คน ตัดราคากันเถื่อนมาก
นิสัยคนไทยคือ ฉันต้องขายได้ ขอแค่ขายได้ กำไรเท่าไรช่างมัน ผมสังเกตุเห็นคนต่างชาติ จะกดราคากันไม่เยอะ(เว้นจีน กับ อิสราเอล) ยิ่งกดกันไป ก็จะพากันเจ๊งไปหมด
แต่คนไทย ไม่สนใจอะไรเลย อยากขายอย่างเดียว

มันทำให้ จะเจ๊งกันเป็นแถบๆ และ ผมจะบอกสิ่งที่เขาไม่สอนว่ามีอะไรบ้าง
1.ข้อนี้สำคัญมากคือ วิธี add product via upload ผมว่าเขาไม่สอนคุณแน่ๆ เพราะผมเคย แอบดูคลิปแจกฟรี ที่มีคนไปอบรม เขาถ่ายมา

วิธี add product via upload จะทำให้เรา ขายสินค้าได้ถูกต้องตรงหมวดหมู่มากขึ้น เวลาผมดูสินค้าคนไทย ส่วนใหญ่จะไปอยู่ใน everything else ซึ่งมันไม่ตรงหมวดหมู่ เผลอๆจะโดน amazon แขวน account สะเปล่าๆ
สาเหตุส่วนใหญ่ผมคิดว่า น่าจะหา หมวดหมู่ขายสินค้าไม่เจอ เพราะมันจะ add product ตรงๆไม่ได้(ผมก็เคยเป็น

) ต้องใช้วิธี add product via upload เท่านั้นถึงจะลงสินค้าได้หลากหลายหมดหมู่ และ จะ add product via upload ได้ต้องเป็น pro seller (ไอ้ที่เสียตัง แต่เค้าให้ฟรี 1 เดือนนั่นแหละ)
2.วิธีแก้ suspended เดียวนี้ amazon จะเหมือน ebay คือ ต้อง suspended ผู้ค้าหน้าใหม่ เพื่อเช็คข้อมูลว่ามีตัวตนจริงไหม คนไทยโดนหลายคนมาก เห็นบ่นกันเต็มตาม facebook คนสอน แต่ คนที่สอน ไม่ได้สอนวิธีคิด จะแก้ปัญหาส่วนนี้เลย (คนอบรมคนไหนมันจะบอกว่ามันมีข้อเสียแบบนี้)
3.ถ้าคุณว่า ebay ตัดสินใจ งี่เง่าแล้ว ไม่ยุติธรรมกับคนขายแล้ว เจอ amazon หนักกว่าเยอะ ผมเคยโดน ตอนแข่งราคากับคน อิสราเอล account ผมโดนแบน เพราะ ว่า ผมเขียน condition note แปะไปว่าสินค้าของผม ฉลากไม่เหมือนในรูปนะ คนอิสราเอลก็เขียนเหมือนผมแต่มี *เพิ่มเข้ามา

ผมโดนแบน ทันที แต่ คนอิสราเอล ขายได้หน้าตาเฉย ผมคุยกับ seller support แล้ว เขาก็ไม่สนใจ = = แบนผมคนเดียว อดค่าขนมไป 2 อาทิตย์ พึ่ง โดนปลดแบนมาหมาดๆ listing ผมโดนลบ ทิ้งเพราะ amazon เปลี่ยน กฏใหม่ โดยไม่แจ้งอะไรผมเลย ขึ้น warning เตือนรัวๆ
4 ชั่วโมงต่อมา ผมโดนแบนรอบ 2

เพราะเขาบอกว่า เขา warning ผมมาหลายครั้งแต่ผมยังไม่ลบออก (คือเวลาที่เขา warning ผมนอนอยู่ แล้วผมผิดอะไรผมยังไม่รู้รายละเอียดมากมายเลย มาบอกแค่ว่าห้ามขาย)
4. ข้อนี้ก็สำคัญ ถ้ามีปัญหา สิ่งที่จะช่วยได้นอกจาก seller support แล้ว คือ seller forum สงสัยอะไร ถามได้หมด ตอบไวมาก เรียกได้ว่าถามได้ 24 ชั่วโมง เพราะจะมีพ่อค้าเทพๆ สิงอยู่ใน seller forum คอยให้คำปรึกษา เรา ภาษาอังกฤษใช้คำธรรมดาไม่ต้องแกรมมา ก็ได้
ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจ ทุกครั้งที่ผม ตั้งกระทู้ถาม ผมจะบอกเสมอว่าผมไม่เก่งภาษาอังกฤษนะ ขอโทษ ด้วย ต่างชาติ พิมพ์กลับมา ว่า ภาษาคุณยังดีกว่า คน texas เยอะ
ขอ EDIT เพิ่ม5.เขาไม่สอนคุณเรื่องการจัดการสินค้าของคุณ จากคนที่อบรมสอนขายใน amazon ชอบบอกให้ไปซื้อ ของใน super market 7-11 สำเพ็ง ประตูน้ำ มาขายแต่ไม่เคยสอนเรื่อง การ stock ของเลย มันจริง ที่ว่าขายของใน amazon อาจจะจับเสือมือเปล่า รอลูกค้ามาสั่งค่อยออกไปซื้อก็ได้ แต่!! ถ้าสมมุติคุณลงสินค้าไว้ แล้ว สินค้าคุณขายได้ แต่พอไปซื้อของหมด ทำไง กำไรที่ได้กับค่าน้ำมันจะคุ้มหรือเปล่า หรือบางคนอาจจะบอก ว่า รอ order เยอะๆ ค่อยสั่งทีเดียว แต่ถ้า order เราไม่มีละ จะทำยังไง คุณก็จะ cancel order ลูกค้า ส่งผลต่อ performance อีก poor performance กันกระจาย ผมสำรวจมาแล้ว แล้ว พวก perfomance นี่ อยากจะบอกเลยว่า มันอยู่กับเรานานมาก ผม cancel ไป 2 ชิ้น เป็นตราบาปจนถึงทุกวันนี้

เอาแค่นี้ก่อนละกัน นะครับ ผมเขียนได้ไม่เก่งเท่าไร ภาษายังมั่วๆอยู่

สรุปว่า อย่าไปอบรมเลย ยกเว้นจะเป็นแบบ Advance ที่สอน FBA สอน add product via upload อันนั้นก็ไปเรียนไว้ก็ดี
พี่ก็ใช้้ 2 เล่มเหมือนกับของน้องนี่แหละ :wanwan016:นี่แหละ
แต่พวกน้องควรจะอ่านหนังสือเป็นพื้นไปก่อน พี่ชอบไปฟังสัมมนาฟรีนะ หรือเสียเงินประมาณ 3,000 บาทข้าวกล่างวันฟรี กับ เบรค 2 มื้อ
ถ้าตอบคำถามพี่ได้ พี่สมัครวันนั้นเลย
หากมีเวลามีเงินทุนจะไปอบรมหาความรู้เพิ่มเติมก็ดีนะคะ ได้เพื่อนใหม่ได้สังคมใหม่
แต่พี่อยากจะให้ใช้วิจารณาณของตัวเราเองหลังจากไปฟังสัมมนาฟรี อบรมเสร็จเราจะได้อะไรกลับไปบ้าง
เลือกวิทยากร เลือกคอร์ส โดยไม่ได้มองมุมแค่ยอดขายอย่างเดียว คนทำมีอายุน้อยต่ำกว่า 20 ปี ประสบความสำเร็จแล้วหลังจากเรียนคอร์สพื้นฐาน
พี่มีเหตุผลที่ไม่เชื่อยอดขายของเด็กคนนี้นะคะ
พี่ไปเรียนต่อปริญญาโท รู้สึกว่าอาจารย์ไม่ค่อยได้สอน คือให้เราไปอ่านหนังสือมาก่อน แล้วอาจารย์มีคำถาม ตอบไม่ตรงกับใจ ของอาจารย์
อาจารย์ก็เขียนชื่อหนังสือ เล่มประมาณ 200 หน้า ภาษาอังกฤษ หมด ให้เวลาอ่านวันหนึง พอพูดประโยคเดียว อาจารย์รู้ว่าเราเข้าใจแล้ว
ตอนเรียนแม้ว่าคะแนนสอบ Tofel หรือ gmat ของพี่จะดี บางครั้งพี่ฟังอาจารย์ฝรั่ง พูดไม่ทัน พี่จะให้เขาพูดช้าๆ อาจารย์ก็ไม่ยอมบอกว่าเรียนระดับนี้
ต้องพูดให้เหมือนเจ้าของภาษา แต่ระบบการศึกษาแบบนี้พี่ชอบนะ สอนให้เด็กคิด บอกว่าให้ลืมที่สอนใ้หมด แล้วคิดกลยุทธ์ใหม่ๆ
พี่เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เรียน เสาร์ อาทิตย์ ภาคค่ำ จันทร์-ศุกร์ บินไปทำงานต่างประเทศ
เสาร์พอเครื่องบินลงตอน 7 โมง ไปเรียนเก้าโมงเช้า วันอาทิตย์เลิกเรียน 3 โมงเย็น ห้าทุ่มต้องบินอีกแล้วไปทำงานให้ทันตอนเช้า
คนที่ทำสำเร็จมีเป็นส่วนน้อย พวกที่ทำสำเร็จอยู่ได้ยาวๆ เท่าที่พี่สังเกตจากการเขียน Product Description น่าจะมีความรู้ขั้นปริญญาโท
จบ MBA จากต่างประเทศ หรือมีประสบการณ์พวก Import Export สินค้าจากต่างประเทศ
เขาอบรมเสร็จเขาก็เอาขั้นตอนการทำ e Commerce ไปต่อยอดเริ่มตั้งแต่วางแผนธุรกิจ คิดกำไร ลดต้นทุนี่
ยกตัวอย่างการทำ deal กับบริษัท Shipping ต่างประเทศซึ่งกว่าเราจะทำ deal กับเขาได้ เขาต้องพิสูจน์แล้วว่าเราสามารถทำกำไรให้กับเขาตลอด มีเจ้าหน้าที่มาดู stock มาตรวจสอบสินค้าว่าเป็นสินค้าต้องห้ามหรือไม่
เฉพาะค่าขนส่งจะต้องเกิน 1,000,000 บาทต่อเดือน จะได้ผ่านง่ายหน่อย ยกตัวอย่างพวกขายอุปกรณ์มวย กระสอบทราย จะไม่ค่อยมีคนขายกัน ยิ่งขายสินค้าที่มีน้ำหนักเยอะสามารถตัดคู่แข่งได้เยอะ เพราะ ค่าขนส่งเมื่อเทียบกับไปรษณีย์ไทยน้ำหนัก 2 กิโลอาจจะถูกกว่าไปรษณีย์ไทย 500 บาทขึ้นไป
คอร์ส advance ในความหมายของพี่ก็ยังไม่ใช่ แค่Advance ที่สอน FBA สอน add product via upload
เพราะให้ห้อง Amazon คุณ Djkoet ได้เขียนเรื่องนี้ไว้มีภาพประกอบอธิบายอย่างดีค
อร์ส advance มันรวมถึงผู้เรียนสามารถต่อยอดได้ ได้กำไรเพิ่มในแต่ละเดือน แก้ปัญหาด้วยตัวเองได้
ไม่ใช่โชว์ยอดขายว่าได้เพิ่มเป็นกี่เท่าหลังจากเรียนจบ เพราะมันเป็นการมองในมุมเดียวพวกเราก็เคลิ้มตามโมษณากัน
หลักสูตรจะมีเงินล้าน ภายใน 6 เดือน กำไรต้นทุน เท่าไหร่หล่ะ มีการคืนเงินให้ลูกค้าเท่าไหร่ในเดือนนี้ หรือลูกค้ามีการเปิดข้อพิพาทเท่าไหร่ พวกเราคิดตรงนี้ด้วยหรือเปล่า
คนที่ทำขายสินค้าเองบน Amazon ได้รายได้ 1 ล้านบาทต่อเดือน หรือ เราเป็นผู้ช่วยขายสินค้าให้เขาทำให้เขามีรายได้ 1 ล้านบาทต่อเดือน
ถ้าเราเป็นผู้ช่วยขายสินค้าให้เขาทำให้เขามีรายได้ 1 ล้านบาทต่อเดือน ตัวเราจะมีรายได้เท่าไหร่ เมื่อหักคาใช้จ่ายแล้วเราจะมีกำไรเทาไหร่ ?? 
บางครั้งน้องต้องคิดด้วยว่าสินค้าที่เขาแนะนำว่ามันขายบน e Commerce ตัวนี้ได้กำไร 300 บาท up มันเป็นสินค้าที่ไปรษณีย์ไทยสามารถส่งได้หรือเปล่า เราส่งไปลูกค้าไม่ได้ของ เปิด case บ่อยลูกค้า บัญชีเราโดนระงับ
ดังนั้นการหาสินค้ามาขายไม่ใช่เลือกสินค้าถูกมาขาย แต่เป็นสินค้าที่คนต้องการ สามารถขายได้ไม่ผิดกฏ ebay amazon
และเราขายแล้วได้กำไร ไม่ใช่ขายแล้วขาดทุนทุกเดือนยกตัวอย่างคนขายน้ำมันหอมระเหยขวดเล็กๆ
ไปเช็คค่าธรรมเนียมดูสิพี่ว่าขาดทุนอย่างน้อยเดือนละ 6,000 บาท แล้วเขียน Title มีคำว่า Essential หรือ Original
ซึ่งเจอลูกค้าเคี่ยวให้ Fb- เพราะมันไม่ใช่หัวน้ำหอมแท้ มันเป็นกลิ่นสังเคราะห์ ลูก้าบางคนรู้ว่าเป็นของปรังแต่ง
เพราะไม่มีหัวน้ำหอมกลิ่นไหน ราคาอยู่ในช่วง $1-$2 Free shipping อีกต่างหาก
คนที่ประสบความสำเร็จจากการขายจริงๆ เขาย่อมอยากต่อยอดขยายกิจการไปหาสินค้าใหม่ๆ แตก product line ใหม่
บางครั้งมันก็ไปกระทบคนขายตัวเล็กที่หา Niche Product มาขายตั้งแต่เริ่มต้น ใช้ความได้เปรียบทั้งเงินทุน ความรู้ แรงงาน ติดต่อกับผู้ผลิต ถึงชั้นขายราคาต่ำชั้นก็ได้กำไร
คนอื่นไม่ต้องมาขายตามสิ่งที่พี่อยากให้น้องไปเตรียมการมีขั้นตอนต่อไปนี้
1 หาข้อดีข้อเสียของการทำ eBay กับ Amazon ให้ได้มากกว่าที่วิทยากรให้ข้อมูลตัวอย่างข้อเสียของ Amazon ที่พี่เห็นคือลงขายง่าย คนขายเก่าเสี่ยงต่อการถูก Copy สินค้าสูง
ลูกค้า amazon จู้จี้กว่า ebay หากไม่รู้วิธีรับมือลูกค้า ไม่เกิน 3 เดือน account โดนแบน
ถ้าขายสินค้าได้เยอะ ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้ Amazon จะแพงกว่า ebay
Amazon ไม่สนับสนุนเรื่องการสร้างแบร์น ebay ตรงส่วน About me Page คนขายสามารถระบุชื่อเว็บไซด์ของตัวเองได้
ที่นี่ที่เดียว
รอรับเงิน 14 วันAmazon คน shop น้อยลงเนื่องจากผู้ซื้อต้องเสียภาษีทั้งคนซื้อและคนขาย
ดังนั้นคนขายที่ดูสถานการณ์เป็น ก็ไปเตรียมร้านค้าตัวเองให้ลูกค้ามา shop สินค้าถูกกว่า amazon
2 คำนวณค่าธรรมเนียมต่างๆที่ต้องจ่ายทั้งค่าธรรมเนียมจริง ค่าธรรมเนียมแฝงตัวอย่าง หากขายสินค้านี้ x บาทแล้วเราจะได้กำไรสุทธิจริงๆเท่าไหร่ ต้นทุนเท่าไหร่
ถ้าไม่หาตัวเลขนี้แล้วเตรียมใจไว้เลยว่าจะจนด้วย ebay หรือ amazon
หากหากำไรได้ หากต้องเจอคู่แข่ง เล่น Price war จะได้รู้ว่าควรจะสู้ด้วย promotion เพื่อกระตุ้นการการขายวันไหน
ราคาที่ลดได้ๆเท่าไหร่ กำไรที่จะได้มาควรเป็นเท่าไหร่หากเราจะขาย ecommerce ตัวไหน เราก็ควรรัก ecommerce ตัวนั้น เราควรจะปฏิบัติตามกฏของ e commerce เหล่านั้น
เข้าไปหาข้อมูลใน Help Menu พิมพ์ new seller ดูว่า account จะถูกปิด หรือโดน แบนมีกรณีไหนบ้าง

พี่รวมถึงพวกทำ seo ที่โดน Google แบน ด้วยนะคะ
จำคำพี่ไว้ ขายสินค้าได้เยอะ ยอดขายดี feedback ดี แต่ไม่มีกำไร มันกินไม่ได้ นะคุณน้อง......
สุดท้ายน้องก็เหนื่อย ขาย account ดีกว่า
ลองหา สินค้าที่ชาวบ้านไม่ขายแล้วน้องขายได้ หรือขายสินค้าแบบนี้เฉพาะเดือนนี้ เพราะ Big C มันลดราคา เช่น กระทะยี่ห้อ T
ทำการตลาดช่องทางอื่นด้วย 