ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comพัฒนาเว็บไซต์Brand & Authorityขอเป็นหนึ่งในผู้ต้องการเป็น Entrepreneur ครับ (สะเดาะห์ความคิดเพื่อความฝัน)
หน้า: [1] 2 3   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอเป็นหนึ่งในผู้ต้องการเป็น Entrepreneur ครับ (สะเดาะห์ความคิดเพื่อความฝัน)  (อ่าน 8633 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 16:12:52 »

อ้างถึง
เรื่องนี้ขออุทิศให้ตัวเอง เพื่อนๆเหล่าพนักงานกินเงินเดือนที่ต้องการออกมาทำตามความฝัน เพื่อให้เป็นศิลาจารึกว่าพวกเราจะต้องเป็น Self-Employee ให้จงได้ กระทู้นี้ขอตั้งให้เป็นกำไรใจ จากคนที่ยังไม่เข้าใกล้ความสำเร็จอย่างผม จะขอให้ก้าวนี้ทำตามความฝันเสียซักที

Episode 1

ผมเคยได้รับการฟันธง ฟันยับ ฟันอาจารย์ลักษณ์ด้วยซะเลยว่าในอนาคตผมจะเป็นคนรวยที่สุดในตระกูล ตอนนั้นผมอายุ 10 ปี พอได้ยินดังนี้ผมเชื่อโดยสนิทใจว่าอนาคตผมจะรวยอภิมหารวย เพราะหมอดูท่านนั้นย้ำนักย้ำหนาและการันตีด้วยศักดิ์ศรีของหมอดู รู้มั้ยครับชีวิตผมหลังคำทำนายเป็นอย่างไร? ผมโดดเรียน เล่นเกมส์ และเฮฮาไปวันๆอย่างสุดแสนไร้สาระ ทำไมผมจะต้องเรียนหละ ในเมื่ออนาคตผมจะรวย

หลังจากรับปริญญา ผมเริ่มธุรกิจ E-commerce ขายของจำพวกวัตถุมงคลจีนต่างๆ สโลแกนของผมคือผมไม่ได้ขายความเชื่อ ผมขายงานศิลปะ เท่ห์ไหมครับ ผมเชื่อมั่นว่าผมเป็นพ่อค้า ไม่ได้เป็นนักการเมือง ผมจะต้องพูดความจริง ขายความจริงเท่านั้น ดังนั้นผมจึงบอกลูกค้าทุกคนว่าของพวกนี้ไม่มีพลังอำนาจวิเศษใดๆ ไม่ได้ปลุกเสกด้วยพิธีกรรมทางศาสนา มันเป็นเพียงอุปกรณ์ที่ทำให้เราเกิดความมั่นใจ ทำให้ชีวิตของเราเต็มไปด้วยพลังของความเชื่อมั่น ขายเกือบๆปี

ผมเจ๊งครับ! ทำไมเจ๊ง ในเมื่อผมจริงใจกับลูกค้า ไม่หลอกลวง และพูดแต่ความจริง



เหตุผลง่ายๆครับ จะไม่เจ๊งได้อย่างไร ปี่เซียะที่แกะจากหินผมขายที่ราคา 900 บาท ในขณะที่คู่แข่งขาย 2,400 บาท ของผมและของคู่แข่งเหมือนกันเป๊ะเพราะรับมาจากที่เดียวกัน แต่ลูกค้าเลือกที่จะจ่ายแพงกว่ากับเจ้าของคู่แข่ง เพราะของแพงพ่วงมาด้วยคำว่า “ปลุกเสกแล้ว พร้อมบูชา มีอิทธิฤทธิ์เรียกเงินได้จริงๆ” ผมได้แต่อึ้ง ลูกค้ายิ้มที่ได้ของถูกใจ พ่อค้ายิ้มที่ขายได้ ส่วนผมยิ้มเพราะชักเห็นแววของความล่มจม พอนานๆเข้าเริ่มเข้าเนื้อ เลยตัดสินใจเลหลังขายในราคาต่ำกว่าทุน โชคดี Stock สินค้าไม่เยอะ เลยเจ็บไม่มากราวๆหมื่นกว่าบาทเท่านั้น นี่คือบทเรียนแรกของผม มันทำให้ผมรู้ว่าเรื่องบางอย่างในโลกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องของเหตุผลเสมอไป ก็อย่างว่าเนอะ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้ความรู้สึกมากกว่าตรรกะอยู่แล้ว แม้กระทั่งในโลกของการทำงานก็เช่นกัน บางครั้งเรื่องของตรรกะก็ไม่ใช่คำตอบเสมอไป

เดี๋ยวมาต่อครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิถุนายน 2013, 17:09:19 โดย washiravit » บันทึกการเข้า

washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 17:10:03 »

ลองถามตัวเองเล่นๆ คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าคุณเป็นคนทำงานหนักในขณะที่อีกคนหนึ่งเงินเดือนขึ้นเอาขึ้นเอาเพราะประจบเก่ง คุณต้องเลิกงานดึกเพราะต้องเคลียร์งานของอีกคนทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ คุณต้องตื่นแต่ 7 โมงเพื่อเข้างานให้ทัน 9 โมงเพื่อไม่ให้ถูกตัดเงิน คุณต้องหน้าดำค่ำเครียดจากคำสั่งแกมขอร้องของเจ้านายที่สั่งงานคุณขณะเขานั่งอยู่ที่ Starbuck หัวหน้าคุณ Yes to all กับลูกค้า แต่ No to all กับคุณ คุณได้เงินเดือนขึ้นปีละ 5% ในขณะที่เจ้าของกิจการซื้อรถหรูเพิ่มอีกคัน ฯลฯ

ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรสำหรับผม ผมมองว่านี่คือเรื่องที่ยุติธรรม เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลือกที่จะสมัครใจเป็น Salary Human นั่นคือเราไม่ได้ขายแค่ความสามารถอย่างเดียว ทำไมหนะหรือ เพราะเราต้องใช้เวลาทำงานถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน (อเมริกาคนส่วนใหญ่ทำงานแค่ 7 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น) ดังนั้นเวลาคุณทำงานเป็นพนักงานกินเงินเดือนสิ่งที่คุณขายจึงไม่ใช่แค่ความสามารถ แต่คุณขายคือชีวิตของคุณ  เวลาของคุณ ความเป็นส่วนตัวของคุณ สุขภาพของคุณและที่แย่ที่สุด คุณขายครอบครัวคุณด้วยเช่นกันเพราะเวลาที่คุณมอบให้คนที่คุณรักจะน้อยลงไปทุกที


ขอขอบคุณภาพจาก http://www.networkcamerathai.com ครับ

มีคำคมประโยคหนึ่งบอกว่าการทำงานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย ถูกต้องทำการทำงานหนักไม่ทำให้ใครตาย ณ ตอนนั้นจริง แต่ความเครียดทที่เป็นนศัตรูตัวร้ายของมนุษย์ทำให้คนตายมานับไม่ถ้วนแล้ว ลองคิดดูเวลาคุณลุกขึ้นจากเตียงในตอนเช้าคุณมีความรู้สึกเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ หดหู่หรือกระปรี้กะเปร่า เลวร้ายกว่านั้นสมมุติว่าคุณตื่นเช้ามากๆแต่รถสายที่คุณต้องการโดยสารไปไม่ยอมมาเสียซักที พอมาแล้วคุณก็ต้องเผชิญรถติดแบบตังเมอีก ตกกลางวันคุณก็ต้องไปต่อคิวแย่งกันทานอาหารร้านอร่อย และต้องรีบกลับมาให้ทันเวลาเข้างานตอนบ่ายโมง หลังจากทำงานอีก 5 ชั่วโมงรวดจนถึงเวลาเลิกงาน คุณก็ต้องไปยืนรอรถโดยสารที่แสนจะมาช้าและแออัดอีก กว่าจะกลับถึงบ้านคุณก็เหนื่อยก็เพลีย หรือถ้าคุณมีรถ คุณขับรถเองเหนื่อยหรือไม่ ค่าน้ำมันเท่าไหร่ ภาษี เฉี่ยวชน ค่าสึกหรอ บลาๆๆๆ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือภาพขยายของความเครียดที่คุณชาชินไง เริ่มเห็นภาพความเครียดหรือยังครับ

เดี๋ยวมาต่อครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิถุนายน 2013, 17:11:00 โดย washiravit » บันทึกการเข้า

iTrendy360
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 14
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 17:13:40 »

ปูพรมรอค่ะ ^_^
บันทึกการเข้า

loc.know
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 199
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 974



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 17:21:09 »

อยากอ่านต่อเร็วๆแล้ว
บันทึกการเข้า

บันทึกชีวิต เมื่อเริ่มต้นเป็นชาว IMers

เต็มแล้วครับ ไว้เจอใหม่รุ่น 5 ครับ
aituanoe
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 36
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 649



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 17:26:37 »

รออ่านต่อคับ
บันทึกการเข้า
KaPong_Inter
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 683



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 17:32:53 »

 wanwan003 ปู่เสื่อรอ
บันทึกการเข้า

washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 18:10:07 »

ที่สำคัญผมมองว่าความเครียดร้ายแรงพอๆบุหรี่หรือยาเสพติด เพราะมันคือการตายผ่อนส่งเหมือนกัน เวลาที่ร่างกายของเราเครียด มันจะหลั่งสารสเตียรอยด์ (steroid) ที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง บางคนตั้งข้อสงสัยว่าชีวิตคือการหาเงินตอนหนุ่มสาวและเอาไปรักษาตัวตอนแก่ใช่หรือไม่ บางคนฝันว่าจะทำงานจนเกษียณและนำเงินไปลงทุน เท่าที่เห็นเจ๊งมาเยอะเพราะไม่มีประสบการณ์ มาล้มตอนแก่นี่ฟื้นยากมาก ขอถามจริงๆนะครับนี่นะเหรอชีวิตอันมีค่า มันเป็นคุณภาพชีวิตที่พวกเราใฝ่หา? บางคนอาจจะมีข้อโต้แย้งว่าเขาหรือเธอรักงานที่ทำ อันนั้นยกไว้ แล้วคนที่ไม่รักงานที่ตัวเองทำหละ ใน 1 วัน จ-ศ ส่วนใหญ่เขาทำอะไรกัน?

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือเราถูกปลูกฝังด้วยระบบการศึกษาชนิดฝังหัวว่าการที่เราจะประสบความสำเร็จได้คือต้องตั้งใจเรียน เพื่อที่จบมาจะได้เกรดเฉลี่ยดีๆ ไปทำงานดีๆ เงินเดือนดีๆ คุณภาพชีวิตดีๆ น่าแปลกทุกวันนี้ผมยังได้ยินเสียงโอดโอยจากคนที่มีงานทำดีๆกันอยู่เลย


ขอบคุณรูปภาพจาก wikimedia.org

ผมเปลี่ยนงานด้วยเหตุผลสองอย่าง 1. ต้องการความท้าทาย 2. เงินเดือนที่เพิ่มขึ้น หลังจากการเปลี่ยนงานครั้งแรก ผมได้ทำงานกับบริษัทที่ดีที่สุดในชีวิต ตอนทำก็รู้สึกว่างานหนัก แต่ทำไหว เราก็พยายามสะสม port ดีๆ หวังว่าวันหนึ่งเราจะได้เป็นเจ้าของกิจการเป็นของตัวเอง ทำได้สองเดือน เกิดเรื่องไม่คาดฝัน แม่ผมล้มป่วยลง ด้วยโรคที่เป็นก็คือมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 แล้วมันคืออะไร? คุณลองไปค้นหาใน Google ดูสิครับ หรือลองเข้าไปค้นในเว็บ Pantip ก็ได้ มันเป็นโรคที่ฆ่าชีวิตผู้หญิงไทยเป็นอันดับหนึ่ง โรคนี้เป็นโรคที่ไม่ทางรักษาให้หาย อัตราการรักษาหายของโรคมะเร็งปากมดลูกระยะ 3 (วัดจากคนไข้ที่สามารถมีชีวิตรอดมากกว่า 5 ปี) มีไม่ถึง 40% ตอนนั้นผมอยากลาออกแล้ว เพราะงานไม่สามารถช่วยทำให้แม่ผมหายป่วยได้ ตอนนี้ผมไม่ได้ต้องการเงิน ผมต้องการเวลาเพื่อใช้กับคนที่ผมรักต่างหาก

เดี๋ยวมาต่อครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิถุนายน 2013, 18:41:41 โดย washiravit » บันทึกการเข้า

doykung
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 37
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 453



ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 18:40:43 »

รออ่านครับ
บันทึกการเข้า

"มืออาชีพ ก็คือ มือสมัครเล่นที่ไม่ยอมเลิกเล่น"

วลีดีๆจากกระทู้...เริ่มต้นจากเงิน 500 บาท...
shooter
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 99
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,415



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 19:45:18 »

เหมือนเคยเห็น...เล่าเรื่องได้น่าสนใจดีคับ
บันทึกการเข้า

เพิ่ม 5000 view ใน YOUTUBE เพียง 599 บาท 10000 view เพียง 999 บาท ภายใน 5 วัน สนใจ PM

CreativeShooter

รับปรึกษาปัญหาโซเซียล เพิ่มยอดขายในธุรกิจคุณ
washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 19:54:35 »

ผมลองถามเพื่อนซี้อย่างไพ่ symbolon tarot ว่าถ้าผมทำงานต่อจะเป็นอย่างไร ได้ไพ่ใบนี้ครับ


(ข้อยบ่ได้ Spam เด้อ แต่ถ้าเอาออก คุณจะไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมผมต้องลาออก)

จากความรู้สึกของผม ถ้าผมยังทำงานต่อไป ผมก็เหมือนกรรมกรแบกหาม ดูสีหน้าสิครับ ไร้ชีวิตชีวา ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร เหมือนการแบกหินขึ้นหน้าผา ถ้าแปลเป็นไทยก็คืองานแบบเข็นครกขึ้นภูเขานั่นแหละ จิตของผมไม่ได้อยู่ที่งานแล้ว ดังนั้นผมจึงใช้เวลา 30 นาทีถามตัวเองว่าระหว่างหน้าที่ของการเป็นลูกน้อง กับหน้าที่ของความเป็นลูกแม่ หน้าที่ไหนที่ผมไม่ได้ทำแล้วจะเสียใจไปตลอดทั้งชีวิต ใช่ครับ…!!! ผมเลือกทำงานต่อ จะบ้าเหรอ ผมลาออกจากงานโดยทันที

เวลาคุณเปลี่ยนสถานะจากผู้มีงานเป็นผู้ว่างงานส่วนใหญ่มีความรู้สึกอย่างไรครับ อาจจะทุกข์ใจ กังวล หรือรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองมืดมนใช่ไหม วินาทีแรกที่ผมตื่นขึ้นมาหลังจากที่ไม่ต้องไปทำงานอีก ผมรู้สึกโปร่ง โล่งและสบายมากๆ (ยกเว้นเรื่องของคุณแม่ผมนะครับ) บ้านของผมเป็นตึกแถว 4 ชั้น ผมนอนอยู่ห้องชั้น 4 แลสายตาลงมาเห็นรถติดทอดสายเป็นสาย ผมเห็นคนเดินเร่งรีบเหมือนแข่งกับเวลาอะไรสักอย่าง ผมมองดูคนเหล่านั้นและบอกตัวเองว่าต่อไปนี้ผมไม่ต้องเป็นอย่างนั้นอีกแล้ว สำหรับผมอาจจะดูหยิงยโสที่จะพูดคำๆนี้ แต่ความรู้สึกผมมหามีความสุขที่เราได้กลายเป็นผู้หลุดพ้นจากวัฏจักร Salary Human เป็นความสุขจากการได้ลิ้มรสการไม่ต้องมีพันธะทางลูกจ้างอีกต่อไป

ชีวิตช่างอิสระเหลือเกิน

เดี๋ยวมาต่อครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิถุนายน 2013, 22:47:57 โดย washiravit » บันทึกการเข้า

Udonthanitimes
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,107



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 20:38:09 »


มาติดตามอ่าน ...   ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

kowit2
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 20:41:45 »

ชอบอ่านครับ เขียนไวๆนะครับ  wanwan011
บันทึกการเข้า

Be patient because patience looks natural.
ผลงานการทำเนื้อหา บทความ ที่มีคุณภาพในความเป็นจริงครับ

ฟรีอีเมล ดีจริงหรือ ? : ฟรีอีเมล ที่ให้ใช้งานทั่วไป เหมาะกับธุรกิจของคุณหรือไม่ หรือว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนมาใช้ Email แบบเสียเงิน
ไวรัสคอมพิวเตอร์ รู้ไว้ป้องกันได้ : ไวรัสคอม ป้องกันได้ หากลองศึกษาวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง และอย่าลืมติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัสด้วยนะ
yorushop
antimage3114
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 56
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 423



ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 20:48:37 »

ติดตามด้วยคนครับ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวชีวิตครับ ชอบครับๆ  wanwan017  wanwan017
บันทึกการเข้า

Imagination is more important than knowledge.
ultimatecha
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 400
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,008



ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 21:47:22 »

บทความดีมากๆครับ wanwan017 wanwan017
บันทึกการเข้า

pink-roof
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 47
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,376



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 21:57:44 »

รอ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า

sisterme
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 22:40:22 »

ชอบครับ เขียนต่อเรื่อยๆนะครับ
บันทึกการเข้า
Sattawatpop
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 476



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 22:50:11 »

ชอบครับ รออ่านต่ออยู่นะครับ
บันทึกการเข้า

kondam
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 532
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,136



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 23:31:02 »

ขอบคุณครับ อ่านเพลินดีครับ  wanwan011
บันทึกการเข้า

ขอแนะนำ : wanwan034

1. จดโดเมน ต่ออายุ godaddy ลด 40% ถูกที่สุดในตอนนี้! คลิก

2.จดโดเมน + private 8.88$ [namecheap]   คลิก

3.แนะนำคลาวด์โฮสติ้งไทย ที่ผมใช้อยู่ [Thaidata]   คลิก
loveloveaon
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 31
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,233



ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 23:54:34 »

ตามครับ +ไปก่อนเลย
บันทึกการเข้า
Student
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 191



ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2013, 01:37:25 »

ลงชื่อก่อนอ่าน  wanwan020
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3   ขึ้นบน
พิมพ์