ตอบคุณก้ามปูนะคะ
ขอบคุณที่คิดแบบนั้น ยอมที่จะใช้นายหนุ่ม แต่ขอถามเหอะว่า ผู้ชายส่วนใหญ่ เขาจะยอมเหมือนที่คุณยอมหรือเปล่า เพราะมันออกจะไปริดรอน สิทธิการหลอกหญิงของหลายๆคน ถ้ามีกฏหมายนี้ ดิฉันก็ยอมคะ
ขออภัย ที่ในโพสนี้ขนมอาจจะใช้คำรุนแรง แต่ถ้า ไม่ประสบกับแม่ ของตัวเอง ไม่มีใครเข้าใจหรอก เพราะไอ้ชายชั่วๆคนนึงทำลาย ...จบ

ครับส่วนตัวผมไม่เห้นด้วยกับ พรบ. นี้อยู่แล้ว แต่ว่าจุดที่จะรับได้ คือ จะต้องไม่มี ข้อ 1
ไม่ใช่เพื่อผู้ชายหรอก เพื่อความมั่นคงของสถาบันครอบครัวเอง
เพราะส่วนตัวผมคิดว่าถ้าสถาบันครอบครัว สั่นคลอนแล้วทุกอย่างในประเทศน้อยๆนี้สำเร็จ
ทั้งหมดที่ว่าออกมานี้ มันอาจจะไม่มีผลกับผมก็ได้ เพราะผมอาจจะไม่ได้แต่งงาน และไม่โดนผู้หญิงหลอก หรือแต่งงานกันแค่ครั้งเดียว
แต่จากความคิดและสมองอันน้อยๆ ของผมบอกว่าปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นกับสถาบันครอบครัวแน่ๆ
ตัวอย่าง
นางสาวเอ เป็นภรรยาของนายบี และนายบีเป็นคนที่มีจิตใจหึงหวงอย่างรุนแรง (หน้ามืดที่ผู้ชายอื่นมาคุยสนิทสนมกับเมียตัวเองว่างั้นเถอะ)
มีวันหนึ่ง มีพนักงานใหม่มาทำงานที่บริษัทเดียวกันกับนางสาวเอ (นายบีก็ทำงานที่นี่ด้วย แต่คนละแผนก) ชื่อว่า นายซี โดยที่นายซีมีนิสัยกล้าคิดกล้าจีบ
เมื่อเห็นว่านางสาวเอสวยน่ารัก และใช้คำว่านางสาว จึงเข้าใจว่ายังไม่แต่งงาน เลยลองจีบดู และพยายามทำความสนิทสนม โดยที่นาวสาวเอยังอึดอัดว่าจะบอกดีรึเปล่าว่าแต่งงานแล้ว (ก็เค้าจะจีบจริงๆ รึเปล่าก็ไม่รู้ ขืนพูดไปเค้าไม่ได้คิดจะจีบก็หน้าแตกอ่ะเดะ)
เมื่อนายบีซึ่งอยู่คนละแผนกมาเจอเข้า ด้วยความหึงหวง ต่อยเปรี้ยงเข้าไปสองที ตีกันพัลวัล
แค่นี้ผมว่าตำรวจคงปวดหัวตายแล้ว

ปล. 100 คู่ อาจจะมีแค่คู่เดียวที่เป็นแบบนี้ แต่ว่าทั้งประเทศรวมกันนี่เยอะแน่นอน
ปล2. กรณรีนี้แค่อยู่บริษัทเดียวกัน ถ้าอยู่คนละบริษัท แล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้ แล้วนายบีรู้ทีหลัง จะรุนแรงกว่านี้แน่นอน (คนละที่ นายซียิ่งหาโอกาสจะรุ้ได้ยาก)
ปล3. เรื่องนี้จะเห็นว่าผู้หญิงไม่ได้ผิดเลย (เพราะงั้นผมไม่ได้ดูถูกเพศแม่นะเจ๊ แต่กำลังดูถูก เพศของผมเอง

) มันผิดที่ความไม่รู้ต่างหาก
ปล4. ผมไปต่อยคนมาจีบ แฟนผมครั้งนึง และไปนัดเคลียร์ 3 ครั้ง โดยที่สรุปแล้ว ไอ้พวกนั้นเป้นรู่นน้องโรงเรียนเก่าผม แต่ที่จีบเพราะมันไม่รู้ และแฟนผมก็เล่าให้ฟังด้วย ว่าเค้ามาสนิทสนม แต่ว่าไม่กล้าบอกกลัวหน้าแตก ทำให้ผมเอาเรื่องพวกนั้นมาแต่ง เป็นเรื่องที่เล่า (ผมเป็นจิ๊กโก๋มากไปป่าวเนี่ย)
ปล5. ผู้ชายเป็นเพศแห่งการต่อสุ้ และอารมณ์รุนแรง ดังนั้นเรื่องที่เล่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้มาก
การจดทะเบียนสมรส ไม่ได้เป็นการประกาศให้สังคมรับรู้ครับ ถ้าแค่ให้สังคมรับรู้ อย่างเดียว แค่อยู่ด้วยกันเฉยๆ ก็ได้ แค่นี้ใครต่อใครเขาก็รู้แล้วว่าอยู่ด้วยกัน เป็นผัวเมียกัน
แต่มันเป็นการบอกว่า ชายหญิงคู่นี้ ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ในอนาคตเกิดมีปัญหาอะไรตามมาก็สามารถใช้ข้อกฏหมายเรียกร้องได้ เช่น การแบ่งทรัพย์สมบัติ การยื่นขอเลี้ยงดูบุตร ฯลฯ ถ้าไม่จดทะเบียน ก็จะไม่มีกฏหมายอะไรรองรับครับ
ประกาศที่ผมว่านี่ รวมไปถึงไอ้การแบ่งทรัพย์สินนั่นด้วยคร๊าบบบ เพราะเชื่อเถอะว่าถ้าไม่จดก็จะมีคนบอกว่า ไม่รู้ ไม่จริง ไม่ได้แต่ง ผู้หญิง(ผู้ชายด้วย)คนนี้เป็นแค่เมียน้อย(ผัวน้อย) เราเป็นญาตินี่แหละควรจะได้สมบัติไป (แบบนี้จะยิ่งปวดหัวเข้าไปใหญ่)