ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeรวมสาระโดย kitdee
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 19   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: รวมสาระโดย kitdee  (อ่าน 37480 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
บอท!
ยามว่าง
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 146
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,517



ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 13:36:56 »

อ่าน the top secret ถ้าเราคิดอะไรแล้วจะได้อันนั้น
เพราะกฏของแรงดึงดูด


ผมคิว่าไม่อยากง่วง ไม่อยากหิว
ร่างกายแข็งแรง คิดนานแล้วไม่เคยได้สักที
บันทึกการเข้า

/*SEO ทำอย่างไร สอนผมบ้างนะครับ*/
Original King is King of all King.
King who come to be Legend.
//all roads lead to rome
สารบัญ (Search Engine Optimization)
--= 10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ seo ----dr.k-------
ไม่มีอะไรจ๊ะ
digitalex
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 14
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 13:47:39 »

อ่านแล้วนีกว่าอยู่ใน โคโซโว  Lips Sealed Lips Sealed
บันทึกการเข้า

Moha
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 67
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,521



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 13:59:59 »

ทำไมมันมีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้นเลยว้า  เรื่องดีๆ น่าจะมีมั่งนะ
บันทึกการเข้า

น่ารักดอทคอม : ถึกๆ ต่อไป กับ เว็บ 1.x หรือ เว็บทำมือวันละ หน้าสองหน้า manual html เพียวๆ + เทคนิคเดิมๆ

เว็บใครๆ ก็รัก
- แนะนำ => Directory : หางาน : เกมส์ : หวย
- pha.narak.com : PHA => People Living With HIV / AIDS : เว็บไซค์สังคมของผู้ป่วย HIV
ใครมี twitter คุยกันขำๆ กับ ผมได้นะ => @iammoha หรือจะ facebook ก็ @paspon
deedy
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 63
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,343



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 14:06:47 »


เหตุการณ์สำคัญตลอดปี 2552

มกราคม

-ประชาชนเดินขบวนต่อต้านสินค้าอเมริกัน ฝรั่งเศส เผาสินค้าที่สนามหลวง

 

อีกไม่กี่วันก็มกราคมแล้ว ไม่น่าจะมีวี่แววคนไทยแอนตี้สินค้าอเมริกัน กับฝรั่งเศสเลย ได้ยินข่าวแต่ของจีนแอนตี้  เราไปเกี่ยวอะไรด้วยน้า  Tongue แถมเผาที่สินค้าที่สนามหลวงด้วย  Huh?

หมอดูคนนี้ทายแรงๆ มาหลายปีแล้ว ไม่เห็นตรงสักปี แรกๆ ก็กลัว แต่หลังๆ ฟังแล้วขำๆ แต่ดีแล้วที่ีไม่เกิดขึ้นตามคำทำนาย ไม่งั้นแย่แน่เลย  Cry


ว่าแต่ว่าปีนี้หมอกฤษณ์คงจะไม่ได้ดูดวงดาราไปอีกยาวววว คอนเฟิร์ม+++  Grin

บันทึกการเข้า

dragonkoong
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 14:09:35 »

ทายมาตั้งเยอะ กะว่าทายถูกหนึ่งอันมันก็ดังว่างั้น  Angry
บันทึกการเข้า

ตุ๊กตาถัก cutedollshops
http://www.cutedollshops.com

buy healthcare and medical device promotion
http://astore.amazon.com/best-seller-health-20
cyberblue
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 45
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,348



ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 15:57:52 »

อ้างถึง
มีนายกฯ คนกลางแน่ อักษรย่อ “พ”

พานทองเทียมแน่นอน หมอหยินฟันคอ  Shocked

พอล ภัทรพล ต่างหาก  Grin

ะรับบาป มากกว่ามั้ง Grin
บันทึกการเข้า

cyberblue
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 45
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,348



ดูรายละเอียด
« ตอบ #26 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 16:00:19 »

คุ้นๆ ว่า คำทำนาย เหมือนปี 51 เลยนะ ไ้อ้หิมะตก ก็ทำนายมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่าปี 51 จะตก

หมอคนนี้ ไม่เคยทายอะไรดีเลย มีแต่วิบัติตลอดอะ

ฟังหูไว้หูละกันครับ
บันทึกการเข้า

userOne
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 40
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,587



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 16:07:10 »

อ้างถึง
ทั้งนี้ การทำนายของหมอนิดก็มีส่วนที่ผิดพลาดเยอะเช่นกัน เช่น ทำนายว่าจะไม่มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2550 อย่างแน่นอน, พรรคพลังประชาชนจะชนะการเลือกตั้ง แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะได้เป็นนายก, พลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตรจะได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกต่อจาก พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน, หลังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์พ้นตำแหน่งนายกไปแล้ว แต่นายอภิสิทธิ์จะไม่ได้เป็นนายก เป็นต้น


จาก wiki

พรรคพลังประชาชนจะชนะการเลือกตั้ง แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะได้เป็นนายก
อันนี้แม่นข้ามปี  Cheesy
บันทึกการเข้า

Shuriken
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 17:19:13 »

ก็ผมบอกแล้ว ว่ามีเกณฑ์ (ซั่วๆ)
บันทึกการเข้า
Giftrin
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 132
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 790



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 20:46:41 »

ชุดชั้นใน Sexy ของ วิคตอเรย ซีเครด

ผมว่าแฟนเราบางคนอาจจะชอบนะครับ   Cheesy
บันทึกการเข้า

black_oleys
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 118



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 23:34:44 »

หมอนิด  Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

barbies55
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 417
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,521



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2008, 23:57:11 »

สมัยสาวๆ เคยมีหนุ่มซื้อกระเช้าแบรนด์มาให้เป็นของขวัญปีใหม่ ก็โอเคนะ ที่มีน้ำใจให้ของขวัญ
แต่ก็จริงอย่างที่ท่านว่า ความรู้สึกมันแบบว่า เหมือนลูกหลานซื้อให้เลย  Tongue
บันทึกการเข้า

รับทำเทมเพลท รับโมเทมเพลทให้เข้ากับสคริปต์ต่างๆ


On the Internet, Never One Know You are a Dog.
ผ้าขี้ริ้วห่อทองย่อมเป็นทองฉันใด เอาทองเปลวมาห่อขี้ก็ยังเป็นขี้ฉันนั้น
elrarour
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 316



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2008, 00:28:21 »

คนระดับรากหญ้าจะอดอยาก ไม่มีจะกิน อาชญากรรมจะพุ่งแรงมาก คนขายตัว เด็ก เยาวชน นักศึกษา จะขายตัวกันเยอะ ยาบ้า ยาเสพติดต่างๆ จะเข้ามาระบาดมาก ปี 2552

เครียดเลย นี่หรือเมืองพุทธ!!! Shocked
บันทึกการเข้า

cyberblue
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 45
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,348



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2008, 01:55:31 »

คุ้นๆ ว่า คำทำนาย เหมือนปี 51 เลยนะ ไ้อ้หิมะตก ก็ทำนายมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่าปี 51 จะตก

หมอคนนี้ ไม่เคยทายอะไรดีเลย มีแต่วิบัติตลอดอะ

ฟังหูไว้หูละกันครับ
บันทึกการเข้า

khonthai
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 53
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,303



ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2008, 03:48:31 »

แตกต่างจากปีนี้ตรงไหน Grin
บันทึกการเข้า
kitdee
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,162



ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2008, 05:49:48 »

  ‘อาหาร’!!! ถือเป็นหนึ่งใน ‘ปัจจัย 4’ ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ ซึ่งตามหลักทั่วไปอาหารที่รับประทานเข้าสู่ร่างกายต้องคุณภาพดี มีสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ.....ที่สำคัญคือต้องสะอาดและปราศจาก ‘สารพิษ’ เจือปน อันจะก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่สุขภาพ

     อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าการเลือกรับประทานอาหารในแต่ละ ‘เมนู’ ของมนุษย์ จำเป็นต้องคัดสรรมากขึ้น เพราะปัจจุบันมี ‘อาหารอันตราย’ ไม่ปลอดภัยต่อร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจากข้อมูลของ ‘Team Content’ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) พบว่า มี ‘เมนูโปรด’ ของใครหลายคน ถูกจัดเป็น ‘อาหารอันตราย’ อย่างน้อยๆ 10 ชนิด ได้แก่ . . .


   1. แฮมเบอร์เกอร์

     จัดเป็นอาหารประเภทที่ ‘มีความเสี่ยงสูง’ เพราะเวลาที่สูญเสียไปในระหว่างรอกระบวนการนำ ‘เนื้อ’ มาใช้ปรุงทำให้มี ‘แบคทีเรีย’ เกิดขึ้นได้สูง ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้ ‘สารเคมีสีแดง’ มาช่วยกำจัดเนื้อที่กำลังจะเน่าเสีย ทำให้เนื้อแดงเปลี่ยนเป็นเขียว นอกจากนี้แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่ ‘สารปรุงรส’(MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ โดย ‘MSG’ เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ผู้บริโภคอ้วนขึ้นด้วย

   2.ฮอทด็อก

      เป็นอีก ‘เมนูอันตราย’ เพราะมีกระบวนการผลิตคล้ายแฮมเบอร์เกอร์ และ ‘ฮอทด็อก’ ทั้ง หมดยังใส่ ‘สารไนไตรท์’ เพื่อช่วยทำให้เนื้อยึดตัวและช่วยเติมไส้กรอกให้เต็ม โดย ‘สารไนไตรท์’ เป็นสารที่ทำให้เกิด ‘โรคมะเร็ง’ ในกระเพาะอาหาร มะเร็งในเม็ดเลือด เนื้องอกในสมองและมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ

      นอกจากนี้ ‘ถุงหลอด’ ที่ใช้บรรจุฮอทด็อก ก็ทำจาก ‘คอลลาเจนสังเคราะห์’ ที่เป็นสารก่อให้เกิด ‘โรคมะเร็ง’ ได้สูง มีไขมันที่เป็นสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40% เมื่อนำ ไปปิ้งย่าง มันจะทำให้มี ‘สารพิษร้ายแรง’ ที่เรียกว่า ‘อะคริลิไมด์’(Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็งและ ‘ทำลายประสาท’

   3.เฟร้นช์ฟราย- มันฝรั่งทอด

       เป็นอาหารที่มี ‘ความเป็นพิษสูง’ โดยการทอด ‘เฟร้นช์ฟราย’ ใช้อุณหภูมิสูงทำให้มี ‘สารอะคริลิไมด์’ ออกมา นอกจากนี้ ‘น้ำมัน’ ที่ใช้ในการทอดมันฝรั่งแต่ละครั้งจะเกิดการ ‘ออกซิไดซ์’ ในมันฝรั่งยังมี ‘ดรรชนีกลีซิมิค’(Glycemic) อยู่สูงมาก.....นั่นหมายถึงมันเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก

   4. คุกกี้

     ที่เด่นชัดมาก คือ สัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ซึ่งอาหารในประเภทที่มีน้ำ ตาลปริมาณสูงเช่นนี้ จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

   5.พิซซ่า

      ‘พิซซ่า’ ประกอบด้วยอาหารที่มาจากการ ‘ตัดแต่งพันธุกรรม’ 5 ชนิด คือ.....

    1.’เนยแท้’(cheese) เพียง 10% เท่านั้น ซึ่งไม่ควรเรียกว่าเนยแท้ได้เลย.....
    2.’แป้ง’ ที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโม เลกุลที่เคยมีอยู่เข้าไปใหม่.....
    3.’ซอสมะเขือเทศ’ ทำด้วยสารคล้ายมะเขือเทศที่สร้าง ‘ยาฆ่าแมลง’ ของมันขึ้นมาได้เองในร่างกายของท่าน.....
    4.’แป้งสาลี’ ชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม
    5.มี ‘น้ำมันฝ้าย’ ประกอบอยู่ โดยฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้ในฝ้ายเมล็ดจะเป็นตัวดูดเอาสารพิษต่างๆเอาไว้ได้มากที่สุด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณะสุข ต่างไม่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันที่จะรับรองว่ามันปลอดภัยต่อการบริโภคได้หรือไม่ มันไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น แต่มันเป็น ‘น้ำมันไฮโดรจีเนต’ และมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

      นอกจากนี้ ‘ผิวหน้าแป้งพิซซ่า’ ที่อบปิ้งในอุณหภูมิสูง อาจมี ‘สารอะคริลิไมด์’ เกิดขึ้นด้วย ขณะที่การเพิ่มหน้าพิซซ่า ‘เพ็พเปอโรนิ’ หรือเพิ่มหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจาก ‘ไนไตรท์’ สารกันบูดและสารเคมีอื่นๆ รวมทั้งไขมันอิ่มตัวที่มีการเติมเข้าไปจากโรงงาน


   6.น้ำอัดลม

     สารตัวสำคัญที่มีอยู่ใน ‘น้ำอัดลม’ คือ ‘กรดกำมะถัน’(Phosphoric acid) ซึ่งมีความเป็นกรดสูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน กรดที่สะสมอยู่ในร่างกายทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ และ ‘น้ำโซดา’ ที่เป็นส่วนประกอบอีกตัวของน้ำอัดลมจะเป็นตัวชะล้างแคลเซียมออกจากกระดูก จนทำให้เกิด ‘โรคกระดูกพรุน’

     นอกจากนี้ในน้ำอัดลม 1 กระป๋อง จะมี ‘น้ำตาลที่ไม่ให้พลังงาน’ อยู่ 12 ช้อนชา ในน้ำอัดลมที่ช่วยลดน้ำหนักตัว หรือ Diet soda ที่ใช้ ‘น้ำตาลเทียมสังเคราะห์’(Artificial sweetener) เพิ่มความหวาน จะทำให้ร่างกายกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เพราะน้ำตาลสังเคราะห์เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามาก ขณะที่ ‘สี’ ที่ใช้เติมในน้ำอัดลม ยังเป็น ‘สารก่อมะเร็ง’ ด้วย

   7.ชิ้นไก่ทอด-เนื้อนุ่มไร้กระดูก

      เป็นเมนูที่ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว การรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไปจะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมัน มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส ‘MSG’ ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ ‘นัคเก็ตชิคเก้น’ บางอันจะมี ‘สารอะลูมิเนียม’ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเมตะโบลิสซึมของร่างกายด้วย

   8.ไอศกรีม

      มีไขมันอยู่สูงมากเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีคาร์โบไฮเดรตอยู่มากเกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีน้ำตาลอยู่มากทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น เต็มไปด้วยไขมันไฮโดรจีเน็ตและไขมันที่แปรเปลี่ยน(Transfat) ไปจากธรรมชาติและยังช่วยเพิ่มพูนโคเลสเตอรอล ทำให้เส้นเลือดแดงใหญ่อุดตัน ทำให้มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

   9.โดนัท

      โดยเฉลี่ยแล้วจะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัท 1 ชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ นอกจากนี้โดนัทยังทอดในน้ำมันที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งน้ำมันประเภทนี้จะทำให้มีกลิ่นหืนและมีสารอนุ มูลอิสระเกิดขึ้น ทำให้เกิดสารพิษและทำให้ร่างกายเมตะโบลิสซึมช้าลง เป็นการคุกคามต่อสุขภาพที่ดี และยังเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น

   10.อาหารขบเคี้ยวยามว่าง

    ในปัจจุบันมีการบริโภค ‘โปเตโต้ชิพ’ กันมาก โดยน้ำมันที่ใช้ในการทอดโปเตโต้ชิพในแต่ละครั้งจะเกิดการออกซิไดซ์ และทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารอะคริลิไมด์ (Acrylimides) ซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาทออกมา นอกจากนี้การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ถุงอาจได้รับสารอะคริลิไมด์สูงมากกว่า 500 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราสูงสุดที่อนุญาตให้มีในน้ำดื่มทั่วไปได้การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ชิ้น อาจได้รับสารอะคริลิไมด์ เท่ากับอัตราที่มีอยู่ในน้ำดื่ม 1 แก้ว

     นอกจากนี้ใน ‘โปเตโต้ชิพ’ ยังมีไขมันอิ่มตัวแอบแฝงอยู่มาก มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดแคลนน้ำได้ และยังไปปิดกั้นการดูดซึมของไขมัน ทำให้การดูดซึมแร่ธาตุจากสารอาหาร ที่รับประทานเข้าไปได้น้อยลง ทำให้ปิดกั้นการดูดซึม ‘สารคาโรทินอยด์’ และสารเคมีอื่นๆที่ได้มาจากพืชที่ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคจุดด่างของผิวหนังทำงานได้ด้อยลง



     รู้โทษของอาหารเหล่านี้แล้ว ควรจะหลีกเลี่ยงแล้วหันไปรับทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพดีกว่า!!!

















ข้อมูลจาก : แนวหน้า
บันทึกการเข้า

"ชีวิตนี้สั้นนัก, อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์, อภัยให้ไว, รักอย่างแท้จริง, หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ "
kitdee
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,162



ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2008, 07:11:23 »







30 ปีก่อน จากสถานะของเล่นเหลือค้างสต๊อก วันนี้กลับกลายเป็นของสะสมที่บางตัวมีราคาสูงเป็นหลักแสน ! ใครจะไปเชื่อว่า เพียงชั่วข้ามคืน ราคาประมูลตุ๊กตาวินเทจตัวหนึ่งบนเว็บ eBAY จะดีดตัวพุ่งสูงขึ้นจากเดิมถึง 10 เท่า !

จากตุ๊กตาที่เด็กๆ (และผู้ใหญ่บางคน) เคยหวาดกลัวในอดีต วันนี้กลับกลายเป็นตุ๊กตาแสนน่ารัก ครองใจได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มิหนำซ้ำยังเป็นต้นกำเนิดของธุรกิจที่สร้างรายได้ในยามวิกฤตฝืดเคืองชนิดเป็นกอบเป็นกำ

...นี่คือความมหัศจรรย์ของตุ๊กตาซึ่งมีนามว่า "Blythe"...

Blythe Story...เรื่องเล่าของเด็กหญิงไบลท์
Blythe ตุ๊กตาวินเทจสัญชาติอเมริกันกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 1972 ทว่าแรกทีเดียวยังไม่ดังเปรี้ยงปร้าง มีปัญหานิดหน่อยตรงดีไซน์ดวงตากลมโตที่สามารถเปลี่ยนได้ 4 สี ทั้งเขียว ชมพู ส้ม และน้ำเงิน เพียงแค่ดึงห่วงที่อยู่หลังศีรษะ นั่นทำให้ (ในยุคนั้น) เธอกลายเป็นตุ๊กตาที่เด็กๆ พากันหวาดกลัว เลยไม่เป็นที่นิยม จนต้องปิดตัวลงหลังจากออกวางขายในตลาดได้แค่เพียง 1 ปีเท่านั้น !

30 ปีต่อมา เรื่องก็กลับตาลปัตร เมื่อตุ๊กตาเด็กเล่นสินค้าเหลือค้างสต๊อกกลับกลายเป็นตุ๊กตาหายากในหมู่นักสะสม...

Blythe ฟื้นคืนชีพอีกครั้งพร้อมสัญชาติญี่ปุ่น (บริษัท Takara ได้รับลิขสิทธิ์ผลิตต่อ) ด้วยโชคชะตานำพาให้เธอได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา TV ให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Parco เพียงชั่วข้ามคืนเธอก็กลายเป็นตุ๊กตายอดนิยม ส่งผลให้ราคาประมูล Blythe บนเว็บ eBAY ดีดตัวพุ่งสูงขึ้นจากเดิม 35$ เป็น 350$ รวมถึง Neo-Blythe บนเว็บประมูลของ Yahoo ขายหมดเกลี้ยงสต๊อกถึง 4 ครั้ง !

จากแวดวงนักสะสมระบาดลามข้ามมาแวดวงแฟชั่น เห็นชัดเมื่อถึงงาน Annual Blythe Charity Fashion Show ได้มีการระดมพลสุดยอดดีไซเนอร์ฝีมือดีของห้องเสื้อแบรนด์เนมชื่อดังจากทุกมุมโลกอย่าง John Galliano, Prada, Gucci, Vivienne Westwood, Issey Miyake, Versace, Sonia Rykiel ฯลฯ มาร่วมกันออกแบบเสื้อผ้าตัวจิ๋วให้กับเหล่านางแบบ Blythe ได้สวมเดินเฉิดฉายอยู่บนแคตวอล์ก กลางกรุงโตเกียว

ปี 2001 Takara แปลงโฉม Blythe ให้ดูโดดเด่นขึ้นด้วยขนาดตัว 11 นิ้ว พร้อมกับชื่อใหม่ว่า "Neo Blythes" พอครบรอบ 1 ปี Blythe คลอดสายพันธุ์ใหม่ทันที ภายใต้ชื่อ "Petite Blythe" ด้วยไซซ์กะทัดรัดเพียง 4 1/2 นิ้ว ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีสีตาให้เลือกเพียงสีเดียว แต่เธอสามารถขยับเปลือกตาขึ้นลงได้พร้อมๆ กับการดัดบอดี้ส่วนต่างๆ ให้ดูมีการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันตุ๊กตาวินเทจที่ชื่อ Neo Blythes มีคอลเล็กชั่นต่างๆ รวมกว่า 120 คอลเล็กชั่นแล้ว

ปี 2002 หลังจากที่ Gina Garan (โปรดิวเซอร์สาวชาวอเมริกัน) ได้รับตุ๊กตา Blythe เป็นของขวัญ ทำให้เธอตกหลุมรักมันพร้อมๆ กับถ่ายภาพเธอ Blythe เก็บไว้กว่า 100 รูป จนถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือรวมภาพถ่ายชื่อ "This is Blythe" รวมถึงหนังสือ Firecracker Alternative Book ที่ขายได้กว่า 100,000 เล่ม และจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่าย ที่ทำให้ชื่อของ Gina"s Gallery โด่งดังและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก

น้องไบลท์..."เธอไม่ใช่แค่ของสะสม"
ถ้าบาร์บี้คือตุ๊กตาสาวรูปร่างหน้าตาสะสวยเปอร์เฟ็กต์มาดเจ้าหญิง "น้องไบลท์" ก็คือตุ๊กตาเด็กน้อยกะเปิ๊บกะป๊าบรูปร่างไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งที่ยังต้องการ "เจ๊ดัน" มาปั้นให้เธอฉายแสงแห่งความสวยสง่า ไม่น่าแปลกใจ ที่ความสนุกสำหรับคนรักไบลท์ตัวจริงนั้นไม่ใช่แค่การมีเธอ (จำนวนเยอะๆ) ไว้แค่สะสม (หรือเก็งกำไรยามขายต่อ) แต่อยู่ตรงการได้ "ปั้นเติมเสริมแต่ง" ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเด็กน้อยให้กลายเป็นหญิงสาว

กิจกรรมหลักๆ ของคนรักไบลท์นั้น นอกเหนือจากการพาน้องไปเที่ยวถ่ายรูปตามที่ต่างๆ แล้ว จึงมีการ "คัสตอม" หรือการแปลงโฉมรวมอยู่ด้วย เริ่มตั้งแต่วิธีเล่นที่เบสิกสุดๆ คือ "การจับแต่งตัว" เปลี่ยนชุดตามแคแร็กเตอร์ของน้องรุ่นนั้นๆ...

"เสน่ห์อยู่ตรงความหลากหลาย เพราะชุดส่วนมากจะไม่หวือหวา ฟูฟ่อง แฟชั่นจ๋าเจ้าหญิงเหมือนบาร์บี้ แต่ชุดของน้องไบลท์จะเป็นชุดธรรมดาเหมือนกับที่คนใส่จริงในชีวิตประจำวัน อาจเป็นชุดแซก ชุดกระโปรงสั้น ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ฯลฯ แถมมีแอ็กเซสซอรี่เป็นผ้าคาดผม หมวก กระเป๋า สร้อยคอ รองเท้า ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนให้น้องได้เหมือนคนคนหนึ่งจริงๆ ผมของเค้าหวีได้ สระผมได้ อาบน้ำให้เค้าได้" แนน-จารวี รักยุทธ์ หนึ่งในหญิงสาวผู้หลงใหลความน่ารักของตุ๊กตาไบลท์ เล่าให้ฟัง

นอกจากเรื่องชุด ยังมีวิธีการคัสตอมขั้นแอดวานซ์ ไม่ว่าจะเป็นการเมกอัพ การต่อขนตา การติดเพชรที่ขนตา การเปลี่ยนสีตา การทำ sleep eye (หลับตาได้) การทำผม การใส่วิก เรื่อยไปจนถึงการทำผิวหน้าให้ด้าน (เพื่อให้ถ่ายรูปสวย เพราะส่วนมากผิวหน้าเมื่อออกจากโรงงานจะมีลักษณะมัน ทำให้เกิดเงาสะท้อนเวลาถ่ายรูป) ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ กลุ่มที่เล่นไบลท์ได้รวบรวมวิธี พร้อมรูปภาพประกอบอย่างละเอียดเอาไว้ให้ทำกันได้เองอย่างฟรีๆ ในเว็บไซต์ www.blythethailand.com

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไบลท์ตัวแรกเพียงตัวเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงบุคลิกได้หลากหลาย ทำให้ผู้เล่นไม่ค่อยเบื่อ แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง เช่น การดัดแปลงทรงผมทำได้ค่อนข้างยาก เพราะแต่ละรุ่นจะเจาะรูผมแตกต่างกัน ใช้สีผมแตกต่างกัน ตลอดจนเลเยอร์และชนิดของเส้นผมที่ต่างกัน (ผู้เล่นไบลท์บอกว่า เส้นผมก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแคแร็กเตอร์ด้วย) นั่นทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่ค่อยคัสตอมทรงผมหรือเปลี่ยนสีผม แต่กลับเลือกที่จะซื้อไบลท์ตัวที่ 2 3 4...

blythethailand.com...โลกออนไลน์ของคนรักไบลท์
เกือบ 2 ปีตั้งแต่ก่อตั้งชุมชนคนรักไบลท์ในโลกไซเบอร์ เริ่มต้นด้วยจำนวนสมาชิกเพียงไม่กี่คน จนปัจจุบันยอดสมาชิกแตะหลัก 3 พันคน (ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่รวมแฟนขาจรที่เข้ามาดูภาพสวยๆ และเทคนิคการคัสตอมแบบฟรีๆ) ที่สำคัญเว็บไซต์นี้เองทำกลุ่มคนเล่นไบลท์ที่ออนไลน์กระจัดกระจาย เริ่มปรากฏตัวออกมาจับกลุ่มและทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ใช่แค่คนที่กระจุกอยู่แค่ในกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ยังมีในเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะเมืองเชียงใหม่ที่ออกมาจัดมีตติ้งแล้วถึง 3 ครั้ง

"ช่วงแรกตุ๊กตาไบลท์ในเมืองไทยหายากมาก เว็บนี้จึงเปิดขึ้นตอนแรกเพื่ออยากแชร์คนซื้อ ตอนนั้นเคยเข้าเว็บไซต์ในญี่ปุ่นก็ไม่มีหน้าที่ให้ลูกค้าสั่งซื้อ คือคนเล่นถ้าไม่บินไปซื้อที่ฮ่องกงเองก็ต้องรอซื้อราคาแพงในประเทศ" ไชยยศ กอสุวรรณพิพัฒ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Blythethailand.com กล่าว

ไบลท์ไทยแลนด์เป็นเว็บไซต์ภาษาไทยที่รวบรวมแทบจะทุกสิ่งทุกอย่างที่คนรักไบลท์ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดตข่าวคราวคอลเล็กชั่นที่ออกใหม่, เรื่องราวน่ารู้ และประวัติความเป็นมาต่างๆ เกี่ยวกับตุ๊กตาไบลท์, tip และ technique วิธีการ custom Blythe, Blythe shop, บอร์ดพูดคุย สอบถามเกี่ยวกับตุ๊กตาไบลท์ ฯลฯ

จิตรลดา ศุภชัยมงคล อีกหนึ่งหัวแรงสำคัญของเว็บไซต์ไบลท์ไทยแลนด์ในส่วนของคอนเทนต์ เล่าให้ฟังว่า เธอเองเริ่มต้นจากความชอบไบลท์ แต่แทนที่จะสร้างบล็อกที่เขียนเรื่องราวของตัวเอง จึงหาเรื่องราวเกี่ยวกับไบลท์ที่น่าสนใจมาแปลแชร์ให้คนคอเดียวกันได้อ่าน

"ไบลท์เป็นมากกว่าตุ๊กตา อย่างการตกแต่งตุ๊กตาก็ถือเป็นงานศิลป์ชนิดหนึ่ง หรือแม้แต่การแต่งหน้าก็ได้ใช้เทคนิคสี ซึ่งคนชอบศิลปะก็ชอบตรงนี้ สำหรับคนถ่ายภาพ เวลาไปเที่ยวที่ไม่ชอบถ่ายตัวเอง พวกเขาก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวผ่านตุ๊กตาไบลท์ซึ่งมีแคแร็กเตอร์เหมือนพวกเขา หรือบางคนอาจจะคัสตอมตุ๊กตาเพื่อเสริมอารมณ์ในภาพถ่าย"

ที่ผ่านมา ไบลท์ไทยแลนด์ได้จัดเวิร์กช็อปมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกได้โตโยต้าเป็นสปอนเซอร์ในการสอนเย็บชุดฟรี ครั้งต่อมาสอนการถ่ายภาพตุ๊กตาฟรีโดยโอลิมปัส ซึ่งการตอบรับนั้นเป็นไปอย่างล้นหลาม ซึ่งแม้ผู้เข้าร่วมส่วนมากเป็นผู้หญิง แต่ก็มีผู้ชายบางคนเข้าร่วมด้วย ไม่ใช่แต่ผู้หญิง มีผู้ชายบางคนเล่นไบลท์เหมือนเล่นโมเดล จึงมีการคัสตอมเป็น "บอยไบลท์" ซึ่งว่ากันว่า...ราคาสูงมาก

จิตรลดายังบอกอีกว่า ประโยชน์ของการเล่นตุ๊กตาไบลท์นั้นมีแน่นอน เธอยกตัวอย่าง น้องกีกี้ (สมาชิกรุ่นแรกๆ) ที่เริ่มเล่นมาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ตอนนี้ช่วยคุณแม่เย็บชุดไบลท์ขายในเว็บไซต์ ยังมีโปรดักต์อื่นๆ อย่างหมวกสานใบจิ๋ว ที่มีแม่บ้านรวมกลุ่มกันทำขึ้นมาขายในกลุ่มคนเล่นไบลท์ ซึ่งทำเท่าไรก็ขายหมดทุกครั้ง จนทำไม่ทัน

Blythe impact...สารพัดธุรกิจจากความฮิตไบลท์
สาเหตุที่เสื้อผ้าตุ๊กตาไบลท์ส่วนมากนิยมตัดกันเองนั้น เพราะทั้งชุดและแอ็กเซสซอรี่ส่วนมากมักเป็นของนำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาของที่นำเข้าจึงมีราคาสูงเกินความจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความจริงคือ แม้ Takara หรือบริษัทแม่เจ้าของลิขสิทธิ์ตุ๊กตาจะอยู่ที่ "ญี่ปุ่น" แต่ประเทศที่เป็นแหล่งจำหน่ายแหล่งใหญ่เรื่องเสื้อผ้าและแอ็กเซสซอรี่ต่างๆ กลับกลายเป็น "ฮ่องกง" รองลงมาคือ "เกาหลี"

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละว่า สินค้าเจ้าตุ๊กตาตัวแค่นี้แพงกว่าของคนซะอีก ที่นำเข้ามาเสื้อผ้าถูกสุดๆ คิดเป็นเงินไทยแล้ว 250 บาทขึ้นไป ว่ากันว่า เทียบราคาชุดที่สั่งซื้อจากฮ่องกงตัวละ 800 บาท ที่เมืองไทยสามารถทำขายได้ในราคาไม่เกิน 200 บาท !

เห็นโอกาสอย่างนี้ "หญิง-พจนา หลีทอง" เจ้าของร้านตัวโปรดที่ยูเนี่ยนมอลล์ ลาดพร้าว หนึ่งในสาวกไบลท์ก็เลยได้ไอเดียผลิตเสื้อผ้าน้องไบลท์ขายซะเลย...

แต่เดิมร้านตัวโปรดขายตุ๊กตาผ้าอยู่แล้ว 3-4 เดือนก่อนนี่เองที่เพิ่งเปลี่ยนมาขายสินค้าเกี่ยวกับตุ๊กตาไบลท์ด้วย สำหรับตัวตุ๊กตาสนนราคาตั้งแต่ 3,900 บาทไปจนถึงหลักหมื่น ส่วนชุดที่สั่งตัดขายเอง โดยการรวมกลุ่มของแม่บ้านที่ตกงานในต่างจังหวัดมาเป็นแรงงานช่วยเย็บ (ที่ร้านมีขายทั้งปลีกและส่ง ราคาตั้งแต่ 150-300 บาท)

"จากกลุ่มแม่บ้าน 3-4 คนที่เคยเย็บชุดบาร์บี้ซึ่งส่วนมากเป็นชุดในนิยาย ก็ปรับดีไซน์ให้เย็บชุดเหมือนของคนธรรมดามากขึ้น โดยแบบก็นำมาจากชุดของคนจริงๆ เหมือนคนทั่วไปใส่ยังไง ชุดไบลท์ก็เป็นอย่างนั้น นอกจากชุดก็มีแอ็กเซสซอรี่อื่นๆ อีก เพราะคนเล่นไบลท์จะดูแลเหมือนเป็นเพื่อน จะหาหมวก รองเท้า กระเป๋า มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะกินข้าวของเขาเอง" พจนากล่าว

นอกจากนี้ ที่ร้านตัวโปรดยังมีบริการ "โม" (modify) น้องไบลท์ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การทำตาโต การทำ sleep eye เจาะปาก ใส่ฟันเหล็ก ทำผม ขัดหน้าให้ด้าน ฯลฯ เรียกว่า ทำทุกอย่าง อย่างที่เจ้าของต้องการให้เปลี่ยนแปลงแคแร็กเตอร์ตุ๊กตาตัวโปรด ซึ่งราคาค่าบริการมีตั้งแต่ 3,000 บาทไปจนถึง 10,000 บาท

ส่วนมากลูกค้าที่พาน้องไบลท์มาโมแต่ละครั้งก็จะทำหลายๆ อย่างไปเลย เพราะขั้นตอนในการโมนั้นต้องถอดนอตที่หัวออกมา สำหรับระยะเวลาในการโมแต่ละครั้งประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็มารับคืนได้แล้ว

Do You Know
กระแสความฮิตของตุ๊กตาไบลท์ไม่เพียงจำกัดอยู่แต่ในกลุ่มคนเล่นตุ๊กตา ในแวดวงแฟชั่น เราได้เห็นเสื้อเพนต์ลายตุ๊กตาไบลท์หลายต่อหลายแบบ ทั้งกระเป๋า ตุ้มหู แม้กระทั่งลายปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน กรอบรูป ฯลฯ สารพัดสิ่งของเครื่องใช้ที่ล้วนแต่มีภาพความน่ารักของตุ๊กตาไบลท์อีกครั้ง

นี่แหละ Blythe...ตุ๊กตาวินเทจที่คืนชีพกลับมาสร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้คนในยุคนี้ ! ตุ๊กตาไบลท์ในเมืองไทย มีตั้งแต่ราคา 3,500 บาทไปจนถึงหลักหมื่น หลักแสน ขึ้นอยู่กับรุ่นและความเก่า ยิ่งเก่ายิ่งแพง ยิ่งหายากยิ่งราคาสูง !

BlytheThailand New Year Party 2009 เป็นงานมีตติ้งคนรักไบลท์ ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ ที่ Little Home ทองหล่อ









ข้อมูลจาก : ประชาชาติ
 
 
บันทึกการเข้า

"ชีวิตนี้สั้นนัก, อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์, อภัยให้ไว, รักอย่างแท้จริง, หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ "
kitdee
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,162



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2008, 07:14:27 »

"ถ้าคุณหัวเราะ โลกก็จะหัวเราะไปกับคุณ"

หลายคนคงคุ้นเคยกับประโยคนี้กันอย่างแน่นอน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ความสุขสามารถที่จะแพร่ไปในอากาศได้จริงๆ

ไม่ใช่การยกอ้างขึ้นมาด้วยความรู้สึก เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ชิ้นหนึ่งที่ยืนยันว่า ความสุขของคุณสามารถส่งถึงคนอื่นๆ ได้ราวกับมันคือเชื้อที่แพร่กระจายทางอากาศได้

งานวิจัยที่ว่านี้ ปรากฏใน British Medical Journal เป็นงานวิจัยร่วมกันของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและแคลิฟอร์เนีย โดย Dr.Nicholas Christakis และ James Fowler ได้ศึกษาที่เมืองซานดิเอโก จากประชากรกลุ่มตัวอย่างเกือบ 5,000 คน และศึกษาเชื่อมต่อไปอีก 50,000 สังคม ที่เกี่ยวพันกับกลุ่มประชากรตัวอย่าง เช่น อาจจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานกับกลุ่มคนที่กำลังศึกษา ผลการวิจัยพบว่าความสุขที่เกิดขึ้นในระดับบุคคล ขึ้นอยู่กับความสุขที่เกิดขึ้นในหมู่เพื่อน ซึ่งในการวิจัยเขาสรุประดับความสุขที่แพร่กระจายออกมาได้ 3 ระดับ ได้แก่

ถ้าคุณมีความสุข ความสุขนี้จะทำให้เพื่อนสนิทคุณมีโอกาสที่จะมีความสุขด้วยเพิ่มขึ้น 25% ต่อมาความสุขนี้จะกระจายไปยังเพื่อนของเพื่อนสนิทอีก 10% และสุดท้ายความสุขนี้จะส่งถึงเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนสนิทเราอีก 5.6%

ไวรัสความสุขนี้จะส่งผ่านถึงกันโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องรู้จักเลยก็ได้ ว่าเจ้าเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนสนิทของเราเป็นใคร ?

คิดดูแล้วเห็นจะจริง เพราะหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่า เวลาที่เราอยู่ใกล้คนที่กำลังมีความสุข ความสดใส หรือความขบขัน เราก็รู้สึกดีเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะถึงนี้ เพียงแค่เรามีความสุข น่าจะเป็นการส่ง ส.ค.ส.ชั้นยอดถึงคนที่เรารัก โดยที่ยังไม่ได้จดหมึกปากกาลงบนการ์ดอวยพรแต่อย่างใด

การเมืองเหลว เศรษฐกิจแหลก แต่ถึงอย่างไร เรามายิ้มกันดีกว่า ว่าไหม












ข้อมูลจาก : ประชาชาติ
บันทึกการเข้า

"ชีวิตนี้สั้นนัก, อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์, อภัยให้ไว, รักอย่างแท้จริง, หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ "
kitdee
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,162



ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2008, 07:19:47 »

คนที่เกิดเดือนมกราคม
สำหรับคนที่เกิดในเดือน แรกของปี เป็นคนที่มักมองโลกในแง่ดี ไม่ใช่พวก ย้ำคิดย้ำทำ เป็นคนขยัน ทำอะไรจริงจัง ฉลาด เจ้าระเบียบนิด ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ ขี้หึง มีกรอบในชีวิต เป็นคนอารมณ์อ่อนไหว มีความ กระตือรือร้น ไม่ค่อยชอบออกไปไหนมาไหนเท่าไหร่ สามารถอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนได้ทั้งวัน

คนที่เกิดเดือนกุมภาพันธ์
คนที่เกิดในเดือนแห่งความรัก เป็นคนโรแมนติก ชอบเดินทางในความฝัน มีความสุข กับจินตนาการอันสดใส แต่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่ รักอิสระเสรีภาพ อ่อนไหวมาก ๆ โกรธง่ายหายเร็ว ดื้อนิด ๆ น่ารัก พูดจาอ่อนหวาน ชอบดูหมอ เชื่อโชคลางอาถรรพณ์ ใช้เงินเก่ง

คนที่เกิดเดือนมีนาคม
เลข 3 เป็นเลขมหาเสน่ห์ เพราะฉะนั้นคนที่เกิดเดือน 3 ย่อมต้องเป็นคน มีเสน่ห์แน่นอน ไปไหนใคร ๆ ก็รัก ขี้อ้อน ปากร้ายแต่ใจดี ชอบทำตัวมีลับลม คมใน เป็นคนขี้สงสาร เห็นใครเดือดร้อนเป็นอด เข้าไปช่วยเหลือไม่ได้ แต่เป็นพวกเจ็บแล้วจำ บุญคุณต้องทดแทนความแค้นต้องชำระ ชอบท่องเที่ยวเดินทางไกล ขี้หงุดหงิด

คนที่เกิดเดือนเมษายน
คนที่เกิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เดือนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของหน้าร้อน ทำให้คนที่เกิดเดือนนี้อยู่นิ่งไม่ค่อยเป็น เจ้าอารมณ์ ก้าวร้าวนิด ๆ ก็อากาศมันร้อนนี่ ขี้หึงมาก ๆ แต่เป็นพวกใจอ่อน มีความกระตือรือร้นสูง พูดจาน่าฟัง มนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนง่าย มักช่วยเหลือแก้ปัญหาให้ผู้อื่น ได้เป็นอย่างดี กล้าหาญ รักการผจญภัย

คนที่เกิดเดือนพฤษภาคม
คนเกิดเดือน 5 ฉลาดเป็นกรด ใจแข็งมาก มีความตั้งใจสูง หากทำอะไรต้องทำสำเร็จ ชอบตกเป็นเป้าสนใจจากผู้อื่น เก็บอารมณ์เก่ง มีอิทธิพลต่อคนรอบข้างสูง เป็นคนเจ้าระเบียบ มีเซนส์ ชอบเดินทาง อยู่ไม่ติดบ้าน ขยันทำงาน มีความรับผิดชอบ แต่ใช้เงินเก่ง

คนที่เกิดเดือนมิถุนายน
เกิดกลางปีพอดิบพอดี เป็นคนอารมณ์อ่อนไหว ชอบคำพูดหวาน ๆ ไพเราะเสนาะหู มีความเป็นศิลปินสูง อารมณ์วูบไปมาเหมือนใบไม้ไหว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ชอบขีดเขียน เป็นคนไม่ค่อยตรงเวลา นัดใครมักไปสาย หรือไม่ก็ไปซะเร็วเกิน ไปเรียนก็สายบ่อย ทำงานก็สายเหมือนกัน เสียใจง่าย แถมนานด้วย คารมดี ขี้บ่น เป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง มักทำให้คนรอบข้างหัวเราะได้เสมอ หาเพื่อนเก่ง เจ้าแฟชั่น เบื่อง่ายหน่ายเร็ว

คนที่เกิดเดือนกรกฎาคม
คนเกิดเดือนนี้ เป็นคนตรง ไม่ชอบโกหก หยิ่งทะนงในความสามารถของตัวเอง เป็นคน สนุกสนาน โมโหง่าย ขี้หงุดหงิด ฉลาดแกมโกง อารมณ์แปรปรวนง่าย ขี้หึง ชอบอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่ค่อยยอมออกมามองโลกอันกว้างใหญ่ ชอบอะไรก็ชอบอยู่แค่นั้น ไม่ค่อยยอมรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่กับอะไรเดิม ๆ ได้นาน รักเพื่อน ไว้ใจคนยาก แต่ถ้าไว้ใจแล้วจะยกให้หมดทั้งใจ ทำให้มักต้องเจ็บเพราะเรื่องนี้ ไม่ค่อยขยัน ชอบเที่ยวกลางคืน รักแสงสี

คนที่เกิดเดือนสิงหาคม
สำหรับคนที่เกิดเดือนวันแม่ เป็นคนสุภาพ แต่ว่าขี้งกมาก ๆ เก็บเงินเก่งสุด ๆ ปาก ไม่ค่อยดีนัก กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มีความเป็นผู้นำ สามารถเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อคนที่รักได้ มีความมุ่งมั่นแรงกล้าหากโดนดูถูก อ่อนไหว โรแมนติก ไม่ค่อยมีโชคเรื่องความรักนัก ชอบพบเจอเพื่อนใหม่ ๆ ขี้เซา

คนที่เกิดเดือนกันยายน
เป็นคนดูเงียบ ๆ แต่จริง ๆ คุยเก่ง ชอบวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะเรื่องชาวบ้าน เรื่องการเมือง กีฬา ได้หมด เป็นคนวางแผนชีวิต ใจเย็น แถมใจดีด้วย ชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น รอบรู้ไปหมดซะทุกเรื่อง ซื่อสัตย์ ขยัน ความจำเป็นเลิศ ชอบเรียนรู้ สิ่งใหม่ ๆ ให้ชีวิต เก็บความลับเก่ง ชอบเล่นกีฬายามว่าง ชอบการเดินทาง ช่างเลือกเรื่องความรัก

คนที่เกิดเดือนตุลาคม
ชอบเมาท์กับเพื่อนฝูงมีเสน่ห์น่าหลงใหล อ่อนหวานน่าทะนุถนอม มักเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี ไม่ชอบโกหก เพื่อนสำคัญที่สุด เสียใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ว่าหายเร็วเหลือเชื่อ เป็นคนอารมณ์ร้ายราวกับตัวอิจฉาในละคร น้ำเน่า ใช้เงินเป็น ไอเดียบรรเจิด ชอบงานศิลปะ รักการอ่านการขีดเขียน โรแมนติก และขี้หึงทีเดียว

คนที่เกิดเดือนพฤศจิกายน
เป็นพวกล้านโปรเจคท์ มีเรื่องให้คิดวุ่นวายเต็มหัวสมองไปหมด แต่มองการณ์ไกลกว่าชาวบ้านเขา มีความคิดแปลก ๆ ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง มีชีวิตชีวาเสมอ ชอบล้วงความลับของ ชาวบ้าน แต่เก็บความลับอยู่นะ มนุษยสัมพันธ์ เป็นเลิศ ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ รักเดียวใจเดียว แต่เป็นคนอารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว

คนที่เกิดเดือนธันวาคม
เกิดเดือนสุดท้ายของปี เป็นคนเอา แต่ใจตัวเอง ชอบมีอิทธิพลเหนือผู้อื่น ทะเยอทะยาน ชอบการเข้าสังคม หาเงินเก่ง มักไม่ค่อยพอใจ ในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ความปรารถนาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ชอบให้ผู้อื่นสนใจ รักการเอาชนะ เกลียดความพ่ายแพ้ที่สุด ไม่ค่อยแต่งตัว แต่ถ้าชอบแต่งตัวก็เป็นพวกผู้นำแฟชั่นไปเลย ดูแลคนเก่ง มีความเป็นผู้นำสูง.

By.. เดลินิวส์
บันทึกการเข้า

"ชีวิตนี้สั้นนัก, อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์, อภัยให้ไว, รักอย่างแท้จริง, หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ "
kitdee
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,162



ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2008, 07:22:57 »

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่โง่
เเต่ถ้าฟังโปเตโต้ ถึงมีรักเเท้เเต่ก็ดูเเลไม่ได้

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ตาใส่เเจ่ม
เเต่ถ้าฟังบอดี้เเสลม มักจะโทษว่าความรักทำให้คนตาบอด

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เพ้อเจ้อ
เเต่ถ้าฟังพีชเมกเกอร์ จะละเมอถึงเเต่เรื่องบนเตียง

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ปากเราติดดิสเบรก
เเต่ถ้าฟังเบิร์ด-เสก ถึงอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจเราชอกช้ำ
เเต่ถ้าฟังไอน้ำ จะชอกช้ำเพราะรักคนมีเจ้าของ

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เหงาหงอย
เเต่ถ้าฟังเสนาหอย จะเเอบเหงาคนเดียว

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่งมงายในความเชื่อเเละศรัทธา
เเต่ถ้าฟังทาทา มักจะพูดว่า ไอ บีลีฟๆ

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันอย่างไม่ต้องนอนละเมอ
เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์ มักจะเจอรักแท้ในคืนหลอกลวง

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่เน่าเสีย
เเต่ถ้าฟังนัท มีเรีย มักจะโทษว่า รักไม่ช่วยอะไร

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันจนสิ้นชีวิน
เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน เเล้วจะบอกว่า ถ้าเขามาฉันจะไป

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราไม่คุยโม้
เเต่ถ้าฟังโปเตโต้ จะถูกต่อว่าปากดีนะเรา

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรามีสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน เ
เต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์ เพียงเเค่วางมือบนบ่า น้ำตาก็ไหล่

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเจอคนดีเสมอ
เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์ มักจะเจอผู้ร้ายคนใหม่

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเข้าใจกัน
เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์ บอกได้คำเดียวว่า ยิ่งกว่าเสียใจ

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรารักกันยิ่งกว่าชีวิน
เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน จะเป็นได้เเค่เพื่อนสนิท

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจใสเเจ่ม
เเต่ถ้าฟังว่าน วงเเพลม จะตัดพ้อต่อว่า ไม่บอกให้รู้สักเรื่องได้ไหม

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เเรด
เเต่ถ้าฟังบิ๊กเเอส มักจะเล่นของสูง

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่หยิ่งยะโส
เเต่ถ้าฟังติ๊ก ชีโร่ จะโอหังว่า รักไม่ยอมเปลี่ยนเเปลง

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจเปล่งปลั่ง
เเต่ถ้าฟังอาหรั่ง จะคุ้มคลั่งว่า ทำบ้า....ทำบ้าอะไร

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ดีที่ใจมิใช่เพียงเเค่หน้าตา เ
เต่ถ้าฟังปนัดดา ก็จะรู้เพียงว่า ขอเป็นคนเลวที่รักเธอ

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่สั่นคลอน เ
เต่ถ้าฟังสุนทราภรณ์ เเล้วเธอจะรู้สึก!!

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เปลืองเเรง
เเต่ถ้าฟังพรศักดิ์ ส่องเเสง จะเปลืองเเรง เพราะ
มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คใครโทรมา

+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้สอบผ่านทุกๆ ปี
เเต่ถ้าฟังเเอน สุชาวดี มักจะติดร.วิชาลืม

คิดว่าไม่ซ้ำนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ธันวาคม 2008, 08:38:16 โดย kitdee » บันทึกการเข้า

"ชีวิตนี้สั้นนัก, อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์, อภัยให้ไว, รักอย่างแท้จริง, หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ "
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 19   ขึ้นบน
พิมพ์