ในโลกของการเทรด Forex มีสองแนวทางหลักที่เทรดเดอร์นิยมใช้คือ “เทรดระยะสั้น” (Short-Term Trading) และ “เทรดระยะยาว” (Long-Term Trading) การเข้าใจข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบจะช่วยให้คุณเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเองได้มากขึ้น
เทรดระยะสั้น (Short-Term Trading) คืออะไร?การเทรดระยะสั้นคือการเปิดและปิดออเดอร์ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น นาที ชั่วโมง ไปจนถึง 1 สัปดาห์ กลยุทธ์ยอดนิยมในแบบนี้ ได้แก่ Day Trading (เปิด-ปิดภายในวันเดียว) Scalping (เปิด-ปิดหลายครั้งในวันเดียว) และ Swing Trading (ถือหลายวัน)
ข้อดีของการเทรดระยะสั้น- มีโอกาสทำกำไรทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง
- สามารถถือหลายตำแหน่งในวันเดียว ทำให้เพิ่มโอกาสได้มาก
ข้อจำกัด- ต้นทุนรวมอาจสูง (สเปรด ค่าคอมมิชชั่น) เพราะเปิด-ปิดหลายครั้ง
- ต้องใช้ประสบการณ์ ความเร็ว และวินัยในการติดตามกราฟ
- มีความเครียดสูง เพราะต้องอยู่เฝ้าหน้าจอและตัดสินใจเร็ว
เทคนิคที่ควรรู้สำหรับเทรดระยะสั้น1. จดบันทึกทุกครั้งที่เทรด เพื่อวิเคราะห์จุดอ่อน-จุดแข็งของตนเอง
2. รอสัญญาณการเข้าออกอย่างชัด เช่น แนวรับ-แนวต้าน, Price Action, Indicator
3. เลือก Time Frame ให้เหมาะกับกลยุทธ์ เช่น 5–15 นาที สำหรับ Scalping
4. ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น MACD, MA, Price Action เพื่อช่วยให้แม่นยำ
5. ตั้ง Stop Loss และ Take Profit เพื่อควบคุมความเสี่ยง
ที่มา:
https://www.tradewithauntie.com/short-trade-long-trade/ 