สุรินทร์ - ทหารไทยกร้าวไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กัมพูชา เข้าไปเหยียบตัวปราสาทตาเมือน ชี้พื้นที่ยังไม่ชัดเจน รับ 3 ข้อเสนอ 1.ถอนกำลังกลับที่ตั้ง 2.ลาดตระเวณร่วม 3.รื้อลวดหนามด้านหลังตัวปราสาท มีผล 08.00 น.วันนี้( 6 ส.ค.)
ชุดชป.ขว.(ชุดปฏิบัติการข่าว) กองกำลังสุรนารี (ช่องจอม) ได้มีการเปิดการเจรจาในระดับพื้นที่ของฝ่ายไทย และกัมพูชา เกี่ยวกับ สถานการณ์ความตรึงเครียดในพื้นที่ปราสาทตาเมือนตู๊จ (ตาเมือนเล็ก) ตาเมือนธม(ตาเมือนใหญ่) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ส.ค.2551 ที่ผ่านมา
ฝ่ายไทยนำโดย พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.กกล.สุรนารี พ.อ.นิเวศน์ ฉายากุล ผบ.สน.ปทก.(หน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา) พ.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมไชย ผบ.ทหารพรานที่ 24 พ.อ.สรชัช สุทธิสนธ์ รองเสนาธิการกองกำลังสุรนารี ฝ่ายกัมพูชา นำโดยนายซาน วันนา รองผวจ.อุดรมีชัย นายวาท ปารนิน ประธานช่องโอร์เสม็ด จ.อุดรมีชัย พ.ต.เอือน เทียรา รองผบ.ปชด.402 (หน่วยป้องกันชายแดน 402) พ.ต.เรียน นารา รองหน.ปทก.(หน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา) ร.อ.โปว เพ็ง รองหน.ปทก. ร.อ.ปาง ปุท จนท.ประจำ สนง.ปทก.และ ร.อ.โตจ ซาลี รองหน.สน.ปทก.
แหล่งข่าวระบุว่า การหารือของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายกัมพูชา เสนอขอให้ฝ่ายไทย ดำเนินการ 4 ข้อ ประกอบด้วย
1. ขอให้ฝ่ายไทยถอนกำลังทหารที่วางกำลังไว้ที่บริเวณปราสาท กลับที่ตั้งตามปกติ ที่ตั้งห่างจากตัวปราสาท ประมาณ 1 ก.ม.
2.ขอให้ทหารทั้งสองฝ่าย มีการลาดตระเวณร่วมเหมือนเดิม
3. ให้ไทยรื้อรั้วลดหนาม ที่วางกั้นทางเข้าออก บริเวณด้านหลังปราสาท ทางทิศใต้ ออกให้หมด
4.กัมพูชาขอให้ไทยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ และคณะของกัมพูชา เดินทางเข้าไปดูตัวปราสาทได้เหมือนเดิม โดยชาวกัมพูชาทั้งคณะ จะเดินทางด้วยมือเปล่า ไม่มีการติดอาวุธเข้ามาในเขตไทย
ฝ่ายไทยเห็นชอบตามที่ตัวแทนฝ่ายกัมพูชาเสนอ 3 ข้อ ยกเว้น การอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของกัมพูชาเข้าไปในตัวปราสาท โดย พล.ต.กนก ให้เหตุผลว่า เนื่องจากบริเวณตัวปราสาท ยังเป็นพื้นที่ ที่ยังไม่ชัดเจน จึงยังไม่อยากให้มีการเข้าออกในช่วงเวลานี้ และไม่อยากให้ทั้งสองฝ่าย เกิดการเผชิญหน้ากัน จึงขอให้คงสภาพความเป็นอยู่เหมือนเดิม ต่างคนต่างไม่เข้ามาครอบครองพื้นที่ดังกล่าว ส่วนเรื่องการปักปันเขตแดน ก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายดำเนินการต่อไป
พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ
นอกจากนั้น พล.ต.กนก ยังเน้นให้ฝ่ายกัมพูชาระวัง ในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เพราะการนำเสนอข่าวที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง จะสร้างความขัดแย้งกับทั้งสองฝ่ายได้ เช่น การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนกัมพูชา โดยอ้างการเปิดเผยของ นายซาน วันนา รอง ผวจ.อุดรมีชัย ที่ระบุว่าเมื่อวันที่ 2 ส.ค.เจ้าหน้าที่ทหารของฝ่ายไทย ที่ดูแลปราสาทตาเมือนธม ไม่อนุญาตให้คณะของ พล.ต.โปว เฮง รองแม่ทัพภูมิภาคที่ 4 เข้าไปยังตาปราสาท ทั้งที่ปกติชาวกัมพูชาสามารถเข้า-ออก ตัวปราสาทได้อยู่แล้ว ซึ่งผิดกับข้อเท็จจริง เพราะตามปกติ ฝ่ายไทยก็ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กัมพูชา เข้ามายังตัวปราสาทอยู่แล้ว
เมื่อมีการนำเสนอข่าวเช่นนี้ จึงเป็นการทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่า ตัวปราสาทอยู่ในเขตกัมพูชา แต่ฝ่ายไทยไปอ้างสิทธิ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ขณะที่ฝ่ายไทย ก็รับที่จะระมัดระวังในการให้ข่าวกับสื่อมวลชนในประเด็นที่จะสร้างความขัดแย้งให้กับทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
แหล่งข่าวระบุว่า ผลของการหารือ ที่ฝ่ายไทยรับข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชา ทั้งการถอนกำลังส่วนหน้าออกจากตัวปราสาท การลาดตระเวณร่วมของทั้งสองฝ่าย และการรื้อรั้วลวดหนามด้านหลังตัวปราสาท จะมีผล ในเวลา 08.00 น.วันที่ 6 ส.ค.เป็นต้นไป โดยการลาดตระเวณร่วมกันของทหารไทย และกัมพูชา ได้กำหนดให้บริเวณช่องทะมอโดน เส้นทางเข้า-ออก ชายแดนไทย -กัมพูชา ที่อยู่ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน เป็นจุดรวมพลการลาดตระเวณ โดยกำลังพลแต่ละฝ่ายในการลาดตระเวณร่วม ฝ่ายละ 10 นาย ในการปฏิบัติการแต่ละครั้ง
สำหรับฐานปฏิบัติการทางทหารของไทย ตั้งอยู่ห่างจากตัวปราสาทตาเมือนธม ประมาณ 1 ก.ม.โดยมีทหารพรานประจำการตามปกติ จำนวน 1 กองร้อย ขณะที่ฐานปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ตัวปราสาทตาเมือนธม ประมาณ 400 เมตร และไม่ทราบกำลังประจำที่ชัดเจน
สำนักข่าวเนชั่น / ข่าวโดย นิกร จันพรม
+++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อประเมินเบื้องต้น ผลการเจรจาเจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่ของไทยและกัมพูชา ดูจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความตรึงเครียดในพิ้นที่กลุ่มปราสาทตาเมือนไปได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่ในระยะกลางถึงระยะยาว สถานการณ์จะแปรเปลี่ยนไปในทิศทางใด น่าสนใจอย่างยิ่งท่จะติดตามอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาในประเด็นที่ว่า ผู้มีอำนาจในรัฐบาลกัมพูชาจะหยิบยกประเด็นข้อพิพาทพื้นตัวปราสาทต่าง ๆ ตั้งแต่เขาพระวิหาร มาสร้างเงื่อนไขให้กลายเป็นข่าว หวังผลการเมืองหรือผลประโยชน์ในทางใดทางหนึ่ง อีกหรือไม่
เลือกตั้งภายในกัมพูชาได้ยุติไปแล้ว พร้อมชัยชนะแบบถล่มทลายแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามคาดของ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ทิ้งให้ปรากฎการณ์ "เลือดเดือดปราสาทพระวิหาร" กลายเป็นบาดแผลร้าวลึกระหว่างพี่น้องคนไทยด้วยกันเอง จากการเข้าโรมรันกันเอง ณ เชิงเขาพระวิหาร
กรณีกลุ่มปราสาทตาเมือน จะถูก "ใคร" ลากไปเชื่อมโยงกับ "ประเด็นอะไร" เพื่อ "หวังผลอะไร" หรือไม่อย่างไรนั้น คงต้องติดตามใคร่ครวญกันด้วยสติปัญญาต่อไป
ท่านใดสนใจเบื้องหน้าเบื้องหลัง สามารถติดตามได้ที่ "วิเคราะห์เตียบันกับตาเหมือนธม" จากคุณ เรือรบ เมืองมั่น ตามลิงก์ข้างล่าง
http://www.oknation.net/blog/ruarob/2008/08/06/entry-1/ 
ดูเหมือนฝ่ายการเมืองของกัมพูชา จะไม่พยายามลดความตึงเครียดของสถานการณ์ลง หนำซ้ำยังพยายามจุดกระแสเรื่องราวให้บานปลาย พร้อมที่จะนำไปสู่ความความขัดแย้งรุนแรงได้ตลอดเวลาเช่นกรณีปราสาทพระวิหาร
หลังฝ่ายเจรจาระดับท้องที่ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องข้อตกลงกันในกรณีปรากฎการณ์กลุ่มปราสาทตา ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง พล.อ.เตีย บันห์ รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ก็ออกโรงเต้นแร้งเต้นกาอีกครั้ง บอกให้ไทยถอนทหารจากตาเมือนธม สวนทางคำพูดของ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.กกล.สุรนารี เสียนี่
เหมือนจะบอกว่า ระดับท้องที่มีภารกิจอะไรก็ทำไป การเมืองจะใช้ปากเสียอย่าง นับเป็นสูตรสำเร็จรูปของรัฐบาลกัมพูชามาทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ
เตีย บันห์
ลองมาดู เตีย บันห์ โชว์พาว ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ เมื่อวานนี้(5 ส.ค.) กันครับ
พล.อ. เตีย บันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า
ปราสาทตาเมือนธม ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 อยู่ในเขตแดนของกัมพูชาอย่างชัดเจน และต้องการให้ฝ่ายไทยถอนกำลังทหารออกไปจากบริเวณนี้ พล.อ.เตีย บันห์ ย้ำว่า
จุดยืนของกัมพูชานั้น ต้องการเจรจากับทหารไทย และต้องการให้ทหารไทยถอนกำลังกลับไป ขณะที่พันตรีโฮ บันธาย ผู้บัญชาการทหารกัมพูชา ระบุว่า กัมพูชาได้มีการตรึงกำลังทหาร 50 นาย ใกล้กับที่มั่นของกำลังทหารไทย และวางกำลังอีกราว 200 นาย ห่างจากที่ตั้งของตัวปราสาท 300 เมตร
การเคลื่อนไหวของกองทัพกัมพูชาครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาระบุว่า ทหารไทยราว 70 นายเข้ามายึดครองพื้นที่ปราสาทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และห้ามกำลังทหารกัมพูชาเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
"พื้นที่ทับซ้อนทางบก " ถูกฝ่ายกัมพูชาหยิบยกขึ้นมาเล่นตลอด เชื้อได้เลยว่า "พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล" ที่มีทรัพยากรธรรมชาติมูลค่ามหาศาล จะถูกปั่นกระแสขึ้นมาอีกไม่นานหลังจากนี้
วันนี้ ผมหยิบข่าวมาเล่าให้ฟัง ไม่มีอะไรมากครับ แค่คันปากเท่านั้น จริง ๆ ครับ
#################
http://www.oknation.net/blog/Mynews/2008/08/06/entry-2 