ต่อไป »

[rukkur]

ผมไม่ได้กล่าวหาพระแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการความรู้ความคิดเห็นเท่านั้น

วันนี้ เวลาประมาณ 4 โมงเช้า ผมเห็นพระ 1 รูป กำลังเดินขอรับบริจาคเป็นเงิน (ไม่ทราบเหมือนกันว่ารับบริจาคไปทำอะไร) อยู่ในหมู่บ้าน ตามซอยต่าง ตามร้านขายข้าวแกงต่างๆ
พอเดินไปถึง พระรูปนั้น ก็จะพูดเกี่ยวกับการขอรับบริจาค แล้วก็ยืนรอ จนกว่าโยมจะบริจาค เสร็จแล้ว ถึงจะเดินออกไปจากที่นั่น

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ คิดว่าเห็นสมควรหรือไม่อย่างไร ผิดหลักพระพุทธศาสนา มั้ย หรือยังไง แบบไหน ??

[seonew]

ผิดแน่นอน พระรับเงินรับทองไม่ได้


http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=4051.0

http://www.youtube.com/watch?v=T_OVvMpK6-g

[-DirectX-]

ไม่เหมาะสมนะครับ เพราะมันไม่ใช่กิจของสงฆ์

[chewpong]

ถึงจะไม่เคยบวช แต่ก็คิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแน่..สะกิด ตร.ให้เข้าไปซิวเลย 

[chan]

พระห้ามเดินเรี่ยรายเงินบริจาคนะครับเขามีกฏอยู่ลองหาอ่านดู ตำรวจสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ซอยบ้านผมก็เห็เหมือนกัน หรือแจ้งไปที่ต้นสังกัดได้ แจ้งตำรวจได้เลย

[BrainFreeze]

ถึงจะไม่เคยบวช แต่ก็คิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแน่..สะกิด ตร.ให้เข้าไปซิวเลย 

ตามนี้ครับ ให้ตำรวจขอดูบัตร

[PositiveThinking]

ถ้าอย่างนี้เห็นว่าไม่ควรให้น่ะครับ
ส่วนเรื่องพระจริงมั้ยผมก็ไม่กล้าวิจารย์พระ
(รู้กันว่าอย่างนี้ไม่ใช่กิจสงฆ์นะครับ)

[SumaYi]

พระรับเงินโดยตรง ผิดศีลต้องอาบัตปาจิตตีย์ หากจำเป็นจริงๆต้องให้ไวยาวัจกรดำเนินการแทน แต่ที่เห็นในปัจจุบันก็ใส่ซองเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียด ป้องกันชาวโลกติเตียน (โลกวัชชะ) เหมือนการถวายเครื่องดื่มพวกเอ็ม แป๊บซี่ นม หลังเพลไปแล้ว ถ้าพระฉันจะผิดศีล ต้องดื่มน้ำสะอาดเท่านั้น แต่ชาวบ้านก็ถวาย ผิดศีลเหมือนกันแต่ไม่โลกวัชชะ

[newbie-pro]

เรื่องพระจริงพระปลอมขอ Stop ไว้ก่อนนะครับ จะขอย้อนยุคไปยังสมัยที่พระผู้มีพระภาคยังทรงมีชีวิตอยู่ แรกๆ ก็ไม่มีศีลเลยสักข้อ ซึ่งแปลว่าพระในยุคแรกๆ ไม่ต้องแบกศีลให้หนักนั่นเอง ทำไม่รึ เพราะพระในยุคแรกๆ มีแต่พระดีๆ ไม่มีใครทำอะไรให้เสื่อมเสีย

ครั้นต่อมาเมื่อพระพุทธศาสนา่เจริญขึ้นก็ได้มีคนเข้ามาบวชมากขึ้น ซึ่งก็มีทั้งคนดีซึ่งตั้งใจเข้ามาเพื่อบำเพ็ญเพียร และคนไม่ดีที่เห็นแก่กิน และต้องการความสบาย

คนดีเข้ามาบวชไม่มีปัญหา แต่คนไม่ดีสิชอบสร้างเรื่อง เริ่มตั้งแต่การอยอกล้อกับโยมสาวๆถูกเนื้อต้องตัว เหมือนหนุ่มสาวอยอกกัน ครั้นญาติโยมเห็นก็เอาไปนินทากันอย่างอร่อย และเรื่องดังๆ อย่างนี้ก็ไปถึงหูพระพุทธเจ้าจนได้ แล้วพระพุทธเจ้าก็จะเรียกประชุมสงฆ์ พร้อมกับชี้แจงว่ามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านโพนทนาได้ เราจึงบัญญัติข้อห้ามตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป คือ "ห้ามพระภิกษุถูกเนื้อต้องตัวหญิงแม้แต่ปลายผมก็ห้าม" เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสดังนี้ก็เป็นอันที่รู้กันว่าทำไม่ได้แล้วนะ

แต่คนไม่ดีอะ ยังไงเสียมันก็ต้องหาเรื่องอีกจนได้แหละ ห้ามถูกเนื้อต้องตัวใช่ไหม ไม่ทำก็ได้ ก้ไปทำอย่างอื่นสิ เช่น เห็นโยมอวบๆ เดินมาก็แซวเลยว่า " โอ้โห โยมสาว เจ้าทำบุญด้วยอันใด ทำไม่ท่อนบนถึงอลังการเหมือนลูกมะพร้าวเลย ส่วนท้ายก็อุ๊แหมะช่างตระการตาเสียจริง" ครั้นญาติโยมได้ยินเช่นนี้ ก็เอาไปนินทากันอย่างอร่อย และเรื่องดังๆ อย่างนี้ก็ไปถึงหูพระพุทธเจ้าจนได้ แล้วพระพุทธเจ้าก็จะเรียกประชุมสงฆ์ พร้อมกับชี้แจงว่ามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านโพนทนาได้ เราจึงบัญญัติข้อห้ามตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป คือ "ห้ามใช้วาจาจาบจ้วงหญิงสาว"

แต่คนไม่ดีอะ ยังไงเสียมันก็ต้องหาเรื่องอีกจนได้แหละ ห้ามถูกเนื้อต้องตัวใช่ไหม ห้ามใช้วาจาจาบจ้วงใช้ไหม่ ก็ไปทำอย่างอื่นสิ......แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมอีก 225 กรณี  
หมายความว่าหลังจากที่มีศีลคลุม 227 ข้อแล้ว ก็ไม่มีเรื่องใหม่เกิดขึ้นอีกแล้วในเวลานั้น พระภิกษุจึงมีศีลแค่ 227 ข้อ

และจำนวนคนที่ติเตียน แม้มีเพียงหนึ่งคนก็ถือว่ามีคนติเตียนอยู่ดูดี ต่อให้คนชื่นชมร้อยคนก็เอาชนะไม่ได้นะครับ  ธรรมะเอาความถูกต้องมาตัดสิน ไม่ได้เอาประชาธิปไตยมาตัดสินนะเออ จะบอกให้


ทีนี้จะดูง่ายๆว่าพระทำผิดศีลหรือไม่ให้สังเกตอย่างเดียวคือ การกระทำนั้นน่าจะโดนติเตียนได้หรือไม่ ถ้าติเตียนได้แสดงว่าผิดศีลแล้ว เพียงแต่ว่าจะหนักเบาแค่ไหนเท่านั้นเอง

ก่อนจบถามนิดหนึ่ง  
 พระเล่น facebook ผิดศีลไหม
 พระโทรศัพท์จีบโยม ผิดศิลไหม