ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeอยากให้ดูเป็นอุทาหรณ์ "พระไม่อยากดัง"
หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้ดูเป็นอุทาหรณ์ "พระไม่อยากดัง"  (อ่าน 8061 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
โก๊ะกัง
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 69
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:01:47 »

ขออภัยครับ เพื่อความไม่แตกแยก หรือบานปลาย ขอลบออก เพื่อพระพุทธศานาสืบต่อไป  wanwan017 wanwan017
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 กันยายน 2011, 13:55:41 โดย โก๊ะกัง » บันทึกการเข้า

65 พลังน้ำใจ.  ขอบคุณสำหรับ Thaiseo ที่มอบพลังให้ครับ ยูเซอร์ นี่จะขอจบเพียงเท่านี้ จะไม่เข้ามาม่า คาเฟ่อีก จะไปยูเยอร์ใหม่ แล้วพบกันน่ะ!!   NOCAFE เท่านั้น

ไม่เสียดาย ยิ่งเริ่ม ยิ่งแข็งแกร่ง หาโอกาสใหม่ ไม่จำเจอยู่กับอดีต ไปพร้อมที่กำลังปิดรับสมาชิกนี่แหละครับ!!

บาย ๆๆๆๆ
หมีกระป๋อง
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 826
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,155



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:07:40 »

หยาบคายอะรับไม่ได้

แล้วพอมาว่าพระอาวุโสอีก อยากจะพูดเลยว่า

"มารศาสนา"
บันทึกการเข้า

ken2
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 88
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,062



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:09:07 »

หลายกระทู้แล้วมั้ง ไม่รู้อันเดียวกันมั้ย

http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,225286.0.html

http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,225274.0.html
บันทึกการเข้า

bananaoxy
Verified Seller
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 26
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 352



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:17:33 »

ดูเมื่อเช้าแล้วปลงครับ
บันทึกการเข้า

meq
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:18:41 »

แย่มากๆ
บันทึกการเข้า

Haniba55
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 99
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,600



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:39:33 »

ไอ้นี้มันไม่ใช่ พระ แล้ว
แค่คนชั่วๆ เอาผ้าเหลืองมาห่มเท่านั้น
พวกมารศาสนา

บันทึกการเข้า
pyramide
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 35
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 596



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:43:58 »

มารศาสนาชัดๆ ขนาดแม่ชีกำลังตักข้าวอยู่แท้ๆ  ทำไมไม่มีใครจัดการ Cry
บันทึกการเข้า

isaiguni
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 169
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 756



ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:53:50 »

เฮ้อ นี่หรือเมืองพุทธ
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:57:55 »

ทำใจไม่ขอวิจารณ์   wanwan023
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
dhammarong
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 12:59:04 »

เอ่อ...พูดไม่ถูกครับ  wanwan012
บันทึกการเข้า
prince_ice
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 54
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 406



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 13:03:25 »

ทำไมญาติโยม ถึงนิ่ง?
บันทึกการเข้า

สักวันจะประกาศให้โลกรู้ "Goo" ที่แหละจะทำ Blogger เงินล้าน
ถ้าไม่มีเงินทุน ก็ลงทุนด้วยแรงตน
ฟรี!! พื้นที่ฝากไฟล์ Online ส่วนตัว สมัครเลย
chatgolf
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 165



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 13:04:55 »

ทุกวันนี้  จะทำบุญใส่บาตร  ผมกลับไปทำที่บ้านเท่านั้น ที่ขอนแ่นเท่านั้น
   
บันทึกการเข้า

่jojoekung
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 13:48:57 »

 wanwan003 ผมอยากให้ทุกคนดูด้วยวิจารณญาณครับ บางครั้งการกระทำบางอย่างอาจไม่สามารถแสดงถึงจิตใจส่วนลึกได้ ดั่งคำพูดที่ว่าหนึ่งภาพสื่อได้หนึ่งพันความหมาย ในส่วนตัวผมก็ได้ใกล้ชิดกับวัดวามากตั้งแต่เด็ก  ได้ใกล้ชิดกับธรรมมาไม่มากก็น้อย ผมว่าอย่าเพิ่งไปตีความในแง่ไม่ดีเกินไป ในมุมมองของผมนี่คืออุบายธรรมมะ ว่าการไปวัดอย่าไปหวังอะไรมาก เช่นหวังได้โชคลาภเงินทองเป็นต้น
ซึ่งพระอรหันในอดีต ที่ทำท่าทางที่ทำให้คนไม่ศรัทธาแบบนี้ก้อมากเช่น หลวงปู่ทองรัตน์ กนฺตสีโล ซึ่งเป็นพระในสายของหลวงปู่มั่นและหลวงปู่เสาร์ ท่านก็ได้ประปฏิบัติสอนทำแบบโหดกว่านี้เยอะ สามารถอ่านประวัติของท่านเพิ่มเติ่มได้ ตามลิ้งด้านล่างครับ
http://www.dlitemag.com/index....=60:-lite-voyage&Itemid=59
หรือ
www.songpak16.com/11-lungputongrat.pdf

ฉะนั้นเราจึงไม่ควรไปโพสดุด่า เราต้องหาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนให้ดีเสียก่อน

เด็กวัดป่า: http://www.facebook.com/pages/...B8%B1%E0%B8%94/110312755736461

บันทึกการเข้า
postmunnet
Global Moderator
หัวหน้าแก๊งเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,813



ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 13:54:07 »

ไม่ขอวิจารณ์ครับ
แต่ขอให้ทุกท่านอย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง Tongue

เราต้องมองหลายๆมุมๆหลายๆด้านนะครับ เห็นคำวิจารณ์แต่ละท่านแล้วทำให้นึกถึงข่าว ครูกับลูกศิษที่ฆ่าตัวตายเลย Tongue
บันทึกการเข้า
นี่หรือเมืองพุทธ
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 121
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,130



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 14:57:22 »

เฮ้อ นี่หรือเมืองพุทธ


เรียกผมทำไมหรือครับ   Tongue


อ่านแล้วก็ปลงๆ กันไว้บ้าง

ขอ quote ข้อความนี้มาให้อ่านกัน

http://www.thaiseoboard.com/in...274.msg3092324.html#msg3092324

อย่าไปวิจารณ์หรือด่าทอพระภิกษุเลยครับ  บาปกรรมและนรกมันอยู่ที่ปากเรานี่เอง

เพราะเรายังไม่รู้ว่าจริง ๆแล้วจิตใจท่านเป็นเช่นไร

สมัยหนึ่งไม่นานมานี้ เคยมีคนวิพากษ์วิจารณ์ท่านพระอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมมปันโน ว่าท่านไม่ใช่พระอรหันต์หรอก พูดจาก็

หยาบคาย ด่าคนโน้นคนนี้ และอื่นๆอีกมากมาย

แล้วบังเอิญมีพระรูปหนึ่ง ท่านสงสารจึงกล่าวเตือนว่า เรื่องของพระปล่อยให้พระท่านจัดการเถิด อย่าหาบาปใส่ตัวโดยไม่สมควรเลย

ท่านว่า มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่ละอุปนิสัยได้ นอกนั้นพระอริยเจ้าทั้งหลายละได้แต่กิเลส แต่อุปนิสัยละไม่ได้

พระสารีบุตรเกิดเกิดเป็นลิงยาวนานถึง 500 ชาติ บางคราวท่านกระโดดข้าวลำธารด้วยความเคยชิน พระที่เป็นปุถุชนว่าท่านว่าไม่สำรวม

สงสัยคงบรรลุธรรมไม่จริง พระอรหันต์น่าจะสำรวมกาย วาจาใ จ ได้ดี



พระอีกรูปหนึ่งสมัยพุทธกาลชอบด่าคนว่าไอ้ถ่อย ท่านพูดหยาบเป็นปกติ แต่เป็นพระอรหันต์ ละกิเลสได้ เป็นที่รักของมนุษญ์และเทวดาทั้ง

หลาย พระพุทธเจ้าว่าท่านผู้นี้เคยเกิดเป็นพราหมณ์ชาติตระกูลบริสุทธิ์ไม่ปลอมปนสายโลหิตกับใครมาถึง 500 ชาติ ถ้อยคำด่าทั้งหลายนั้น

เป็นความเคยชินท่ีด่าผู้อื่นซึ่งมีวรรณะต่ำกว่าตนอยู่เสมอ(พาหมณ์เขาถือตนว่าวรรณธสูงส่ง บริสุทธฺ์กว่าผู้ใด) เมื่อบรรลุธรรมแล้ว ก็ละกิเลส

ได้ แต่ละอุปนิสัยไม่ได้ เป็นความเคยชิน



พระพุทธเจ้าท่านห้ามไม่ให้ใครตำหนิ ดูถูก ดูหมิ่นพระอริยะทั้งหลาย ทั้งกรณีพระสารีบุตร และพระอรหันต์รูปอื่น ๆ เพราะสิ่งทั้งหลายที่คนใน

โลกนับถือว่าดี ว่าเหมาะสม ว่าควรแล้ว ก็เป็นไปเพียงสมมุติเท่านั้น ผู้บรรลุธรรมท่านไม่มีความยึดถือในสิ่งเหล่านั้น ท่านไม่สนใจ ไม่มี

อิทธิพลต่อจิตใจของท่านเลย จะมีก็แต่เพียงอนุโลมตามโลกไปเท่านั้น



เช่นครั้งเลือกพระพุทธอุปปุฏฐาก ท่านก็ไม่เลือกพระอรหันต์ เพราะจะต้อนรับบุคคลให้เหมาะสมกับฐานะเขาไม่ได้ เนื่องจากพระอรหันต์มอง

คนเสมอกันหมด ปัญหาคือคนที่ยังมีกิเลสมักมีความถือตัว คิดว่าข้าเป็นกษัตริย์ ข้าเป็นพราหมณ์ ข้าเป็นพ่อค้าร่ำรวยมาก ทำไมจึงต้อนรับข้า

ไม่สมควรแก่ฐานะ ดังนี้จึงให้พระอานนท์ซึ่งเป็นพระโสดาบันเป็นพระพุทธอุปปุฏฐาก (พระโสดาบันกิเลสยังมากอยู่นะครับ ร้องไห้เสียใจก็

เป็น ราคะโทสะ ยังมีอยู่ แต่ท่านไม่ละเมิดธรรม)



เคยอ่านเรื่อง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านมีเพื่อนอีก 2 รูป คือท่านฤาษีลิงเล็ก กับใครอีกท่านหนึ่งผมจำ

ไม่ได้ ทั้ง 2 รูปนี้หลวงพ่อปานบอกให้ไปอยู่ในป่า ทั้งสองท่านมีอภิณญาแก่กล้า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านว่าเพื่อน 2 คนนี้เก่งกว่าท่านอีกทำ

ฤทธิ์แสดงฤทธิ์ได้ เหาะเหิร เดินดิน ไปนรก สวรรค์ก็ได้ แต่พฤติกรรมส่วตัวจะออกแผลง ๆ ทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขา เดี๋ญวอยู่

ดี ๆ ท่านอาจจะนั่งเอาหัวทิ่มดินเอาขาชี้ฟ้าเล่นซะยั้งงั้น ชาวบ้านจะแตกตื่น และหมดความศรัทธา หาว่าพระเป็นบ้าเสีย อาจารย์ท่านเลยให้ไป

อยู่ป่า ห้ามเข้ามาอยู่ในเมือง



พระเซ็น ก็มักมีอะไรแผลง ๆ บางองค์ท่านอยู่แบบที่ใครก็คาดไม่ถึง มีรูปหนึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่  สอนลูกศิษ์ลูกหามามากมาย แต่หาคนตั้งใจ

ปฏิบัติเพื่อละกิเลสไม่ค่อยจะมี อยู่มาวันหนึ่งท่านเลยทิ้งวัด ออกเดินทางไปโดยลำพัง ลูกศฺษ์ก็พากันตามหา ท่านก็หนีเรื่อยไปเพราะเบื่อ

หน่าย จนสุดท้ายไม่มีใครหาท่านพบ จนลูกศิษญ์คนหนึ่งไปพบท่านกำลังขอทานอยู่ ผมเผ้ารุงรัง หน้าตาดูไม่ได้ ลูกศิษย์อ้อนวอนให้

ท่านกลับวัด ท่านก็ไม่กลับ ลูกศิาย์เลยขออยู่ด้วย ท่านก็ไม่ให้อยู่ ลูกศิษญ์ก็ไม่ไป ท่านเลยบอกว่าถ้าทำตามท่านได้ก็อยู่ได้ แต่ถ้าทำตาม

ท่านไม่ได้ก็ต้องไป จนอยู่มาวันหนึ่งมีขอทานที่อยู่อาศัยใต้สะพานใกล้กันเสียชีวิต ท่านกับลูกศิษญ์ก็ช่วยกันฝัง แล้วพบว่าขอทานคนนี้มี

อาหารที่ตนขอทานมาได้อยู่ชามหนึ่งแต่อาหารนั้นเน่าบูดแล้ว  ลุกศิษย์จะเททิ้งแต่อาจารย์กลับเอามากิน แล้วก็บอกลูกศิษ์ให้กิน ลูกศิย์ก็กิน

ไม่ได้ สุดท้ายท่านบอกว่า เห็นไหมล่ะ เจ้าอยู่กับข้าไม่ได้หรอก ตกลงลูกศิาษย์ต้องยอมไปจากอาจารย์



พระบางรูปในนิกายเซ็น แสดงปริศนาธรรม ด้วยการตบหน้าอาจารย์  แต่อาจารย์กลับยิ้ม บอกว่าดี ๆ

เป็นการแสดงว่าตนหมดความยึดถือในตัวตนแล้วทั้งศิษ์และอาจารย์


ท่าอาจารย์พุทธทาสของเรา สมัยยังหนุ่มๆ คนก็ยังหาว่าท่านเป็นพระบ้านะ เพราะทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขาทำกัน


ผู้ที่บรรลุธรรมนั้นเขาหมดความยึดถือแล้ว  แต่เราปุถุชนนั้นยังยึดนั่นถือนี่อยู่เต็มไปหมด มันเลยยุ่ง


ที่เขียนมายืดยาวนี้ ผมไม่มีเอี่ยวอะไรกับใครเลย แค่อยากเตือนพวกเราว่าอย่าหาบาปใส่ตัวโดยรู้เท่าไม่ถึงกาลเลย อยู่เฉย ๆดีกว่า


กรณีหลวงพ่อเกษมนั้น เรายังไม่รู้ว่าท่านดีหรือไม่ดีอย่างไร ดังนั้นอะไรที่เราไม่ทราบแน่ชัดก็อย่าไปคาดเดาเลยครับ เกิดท่านเป็นพระ

อรหันต์จริง การด่าว่า บริภาษพระอรหันต์นี่บาปหนักมากนะครับ เพราะท่านเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วโดยสิ้นเชิง

เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองครับว่าท่านเป็นเช่นไร แต่เราเป็นชาวบ้านผู้ไม่รู้ว่าใครเป็นอะไร หรือไม่เป็นอะไร ...ไม่รู้ก็เฉยไว้ดีกว่าครับ

ด้วยความรักและห่วงใยครับ

บันทึกการเข้า

. . . . .
จงคร่ำครวญมิยาบิ
barbies55
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 417
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,521



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 15:01:25 »

วัดนี้ดังมากค่ะ เดินสายมาถึงเชียงรายเพื่อมาเผยแพร่คำสอน (ดังในทางเสื่อมนะ)
บันทึกการเข้า

รับทำเทมเพลท รับโมเทมเพลทให้เข้ากับสคริปต์ต่างๆ


On the Internet, Never One Know You are a Dog.
ผ้าขี้ริ้วห่อทองย่อมเป็นทองฉันใด เอาทองเปลวมาห่อขี้ก็ยังเป็นขี้ฉันนั้น
Poom Astina
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 38
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 581



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 15:14:14 »

ก้าวร้าวเกินไปอะ คิ้วก็ไม่ยอมโกน

ดูแล้วแปลกๆครับ
บันทึกการเข้า

mazda2lover.com เว็บไซต์หาเพื่อนหรือพูดคุยเกี่ยวกับรถยนต์มาสด้า 2 mazda 2 แต่ง <mazda 2 club Thailand>
สาระความรู้เกี่ยวกับ ความรู้เรื่องรถมือสอง ที่น่าสนใจ
bubbleball
Administrator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 444
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,695



ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 15:15:05 »

จริงๆความเสื่อมมันก็มีซ่อนอยู่ครับ อยู่ที่เห็นไม่เห็น แสดงออกไม่แสดงออก

จริงๆจะด่าคน หรือ ด่าพระ ก็บาป เหมือนกันครับ

แต่ก็ทำให้ผมสงสัยเหมือนกันว่า ด่าคน กับ ด่าพระ ไหนบาปกว่ากัน

ด่าคนดี กับ ด่าพระไม่ดี ไหนบาปกว่ากัน

หลังๆผมไม่ค่อยเอาสรรพนามหรือรูปลักษณ์ภายนอกมาเป็นตัวชี้วัดสักเท่าไรแฮะ

เอาเป็นว่าบาป บุญ อยู่ที่ตัวเราเองนั่นแหละ สิ่งที่เราเห็น ไม่ชอบใจ เราเอามาแกว่งใจเรา ใจเราก็ขุ่นเอง
บันทึกการเข้า

กลุ่มซื้อขายบริการเกี่ยวกับ SEO อื่นๆ โดยตรง
SEO MARKET THAILAND

สงสัยติดต่ออะไรไปทักหาที่ Fair Thailand (ไม่ค่อยอ่านกล่องข้อความที่นี่)

Fair Market Thailand   กลุ่มค้าขายรวมอื่นๆ ในภายหลัง


ปลาทอง
ลายเซนต์สูงไม่เกิน 250px
่jojoekung
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 15:24:29 »

@คุณPoom Astina ครับลองดูคลิปนี้ให้จบคับแล้วคุณจะรู้ว่าทำไมท่านไม่โกนคิ้ว
ตามลิ้งค์นี้เลยคับ http://youtu.be/EFWUiaQhPgw
บันทึกการเข้า
veemala
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 323
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 651



ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 20 กันยายน 2011, 15:35:01 »

อ้างถึง
ที่เขียนมายืดยาวนี้ ผมไม่มีเอี่ยวอะไรกับใครเลย แค่อยากเตือนพวกเราว่าอย่าหาบาปใส่ตัวโดยรู้เท่าไม่ถึงกาลเลย อยู่เฉย ๆดีกว่า

กรณีหลวงพ่อเกษมนั้น เรายังไม่รู้ว่าท่านดีหรือไม่ดีอย่างไร ดังนั้นอะไรที่เราไม่ทราบแน่ชัดก็อย่าไปคาดเดาเลยครับ เกิดท่านเป็นพระ

อรหันต์จริง การด่าว่า บริภาษพระอรหันต์นี่บาปหนักมากนะครับ เพราะท่านเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วโดยสิ้นเชิง

เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองครับว่าท่านเป็นเช่นไร แต่เราเป็นชาวบ้านผู้ไม่รู้ว่าใครเป็นอะไร หรือไม่เป็นอะไร ...ไม่รู้ก็เฉยไว้ดีกว่าครับ

ด้วยความรักและห่วงใยครับ
อย่าเชื่อคำพูดแบบนี้เลยค่ะที่ว่า พระสงฆ์ทำผิดแล้วเราติเตียนท่านจะเป็นบาป
เอาพระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง พระพุทธเจ้าไม่เคยกล่าวคำหยาบคายแบบนี้เลยค่ะ
พระผู้สละแล้วซึ่งห่างไกลกิเลศ โมหะย่อมไม่มี


อ้างถึง
อย่าโกรธเมื่อใครติเตียนพระพุทธเจ้า
              ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเหล่าอื่นอาจกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์.
ท่านทั้งหลายไม่พึงผูกอาฆาต ขุ่นเคือง ไม่พอใจในบุคคลเหล่านั้น.
เพราะถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์นั้น,
 
อันตรายเพราะความโกรธเคืองนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.

ถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์
จะรู้ได้ละหรือว่า คำกล่าวของคนเหล่าอื่นนั้น เป็นคำกล่าวที่ดี (สุภาษิต) หรือไม่ดี (ทุพภาษิต) ?

"ไม่ทราบ พระเจ้าข้า."

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง (คลี่คลาย) เรื่องที่ไม่เป็นจริง ให้เห็นว่าไม่เป็นจริง
ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง
ข้อนั้นไม่แท้ ข้อนั้นไม่มีในพวกเรา ข้อนั้นไม่ปรากฏในพวกเรา ดังนี้."

พรหมชาลสูตร ๙/๓

ที่มา  พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน โดย อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ


อย่าดีใจตื่นเต้นเมื่อใครชมเชยพระพุทธเจ้า
              "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเหล่าอื่นอาจกล่าวชมเชยเรา ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์
ท่านทั้งหลายไม่พึงแสดงความชื่นชมโสมนัส หรือความรู้สึกตื่นเต้นในบุคคลเหล่านั้น

เพราะถ้าท่านทั้งหลายมีความชื่นชมโสมนัส มีความตื่นเต้นในบุคคลที่กล่าวชมเชยเรา ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์
อันตรายเพราะเหตุนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงรับรองเรื่องที่เป็นจริง ให้เห็นว่าเป็นจริง
ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวชมเชยเรา ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์ ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นจริง
ข้อนั้นแท้ ข้อนั้นมีในพวกเรา ข้อนั้นปรากฏในพวกเรา ดังนี้."

พรหมชาลสูตร ๙/๔
ที่มา  พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน โดย อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ


บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ขึ้นบน
พิมพ์