ต่อไป »

[m2studio]

คุณเจ้าของกระทู้ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยอะ ... เลยยังคงสงสัยต่อไป ว่าทำไมต้อง Query แบบนี้ - -"

ที่ทำเพื่อให้ เวปมีความยืนหยุ่นสูง

ปัญหา
1. ราคามีเศษ ไม่ครบ 100 ไม่สวย ราคาสินค้า 1526 แบบ นี้ ขาย 1600 จำง่ายกว่า ทำให้ มีเศษปัดครบ 100
2. ราคาทีการปรับขึ้นเป็นประเภทของมัน เช่น ราคา น้ำัมันพ์ช ขึ้น 5% ก้อเลย +5% ทำให้ มีคัวถ่วงน้ำหนัก
3. มีการ JOIN LEFT เพราะ A คือ ราคาสินค้า B คือ ตัว field ที่ไปอยู่ใน ประเภทของสินค้า ก้อเลย อยู่คนละ Table ครับผม

ทำใ้ห้ต้องประมวลผลแบบLEFT JOIN + ปัดเศษครบ 100 + ถ่วงน้ำหนักของสินค้า = ราคา ที่ตรวจสอบ

คืออย่างนี้ครับ คำถามผม
ผมไม่รู้นะว่า ออกแบบ DB กันยังไง
ทำไมต้องมีไอ่ตัวถ่วงน้ำหนัก B ถ้าต้องการมีเพื่อไว้ปรับ DB เป็น % เพื่อคำนวณค่าเก่า หรือเพื่อเก็บเป็น History ก็ไม่น่าจะต้องไป JOIN เอาเลยเสียเวลา
ให้ใช้ Update table ราคาไปเลยดีกว่า เพราะโดยปกติ ของข้อมูลพวกนี้ query บ่อยกว่า update มากๆ ยอมเสียเวลา update ครั้งเดียวดีกว่าไม่ต้อง JOIN

ถ้าไม่มี B ก็ไม่ต้อง JOIN ถูกไหมครับ ถ้าไม่ต้อง JOIN ก็ลดเวลาไปได้เพียบ อีกอย่าง ถ้าเกิดเป็นการ search ซ้ำๆ ใช้พวก caching เข้าช่วยก็จะดีมาก
แต่สำหรับ เรื่องราคาการ search คงระบุยากว่า user ต้องการ search ราคาช่วงที่เท่าไรบ้าง เว้นแต่ว่า UI คุณบังคับให้ user เลือกได้แค่ไม่กี่ช่วงราคาสินค้า
----------------------
ตอบกันเยอะกันสงสัยเจ้าของกระทู้อ่านไม่ทัน 
ก็คือจริงๆ แล้วสร้าง temp table ที่คำนวณแล้วนะครับ ที่ผมจะแนะนำ ไม่รู้ว่าอ่านแล้วงงหรือเปล่า 

[Bone]

คุณเจ้าของกระทู้ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยอะ ... เลยยังคงสงสัยต่อไป ว่าทำไมต้อง Query แบบนี้ - -"

ที่ทำเพื่อให้ เวปมีความยืนหยุ่นสูง

ปัญหา
1. ราคามีเศษ ไม่ครบ 100 ไม่สวย ราคาสินค้า 1526 แบบ นี้ ขาย 1600 จำง่ายกว่า ทำให้ มีเศษปัดครบ 100
2. ราคาทีการปรับขึ้นเป็นประเภทของมัน เช่น ราคา น้ำัมันพ์ช ขึ้น 5% ก้อเลย +5% ทำให้ มีคัวถ่วงน้ำหนัก
3. มีการ JOIN LEFT เพราะ A คือ ราคาสินค้า B คือ ตัว field ที่ไปอยู่ใน ประเภทของสินค้า ก้อเลย อยู่คนละ Table ครับผม

ทำใ้ห้ต้องประมวลผลแบบLEFT JOIN + ปัดเศษครบ 100 + ถ่วงน้ำหนักของสินค้า = ราคา ที่ตรวจสอบ

คืออย่างนี้ครับ คำถามผม
ผมไม่รู้นะว่า ออกแบบ DB กันยังไง
ทำไมต้องมีไอ่ตัวถ่วงน้ำหนัก B ถ้าต้องการมีเพื่อไว้ปรับ DB เป็น % เพื่อคำนวณค่าเก่า หรือเพื่อเก็บเป็น History ก็ไม่น่าจะต้องไป JOIN เอาเลยเสียเวลา
ให้ใช้ Update table ราคาไปเลยดีกว่า เพราะโดยปกติ ของข้อมูลพวกนี้ query บ่อยกว่า update มากๆ ยอมเสียเวลา update ครั้งเดียวดีกว่าไม่ต้อง JOIN

ถ้าไม่มี B ก็ไม่ต้อง JOIN ถูกไหมครับ ถ้าไม่ต้อง JOIN ก็ลดเวลาไปได้เพียบ อีกอย่าง ถ้าเกิดเป็นการ search ซ้ำๆ ใช้พวก caching เข้าช่วยก็จะดีมาก
แต่สำหรับ เรื่องราคาการ search คงระบุยากว่า user ต้องการ search ราคาช่วงที่เท่าไรบ้าง เว้นแต่ว่า UI คุณบังคับให้ user เลือกได้แค่ไม่กี่ช่วงราคาสินค้า
----------------------
ตอบกันเยอะกันสงสัยเจ้าของกระทู้อ่านไม่ทัน 
ก็คือจริงๆ แล้วสร้าง temp table ที่คำนวณแล้วนะครับ ที่ผมจะแนะนำ ไม่รู้ว่าอ่านแล้วงงหรือเปล่า 

ครับขอบคุณที่ชี้แนะครับผม

[Affiliatetorich]

[A + (AB/100)] + (100 -[A + (AB/100)]%100) = Z;

กำหนดให้ X = A + (AB/100)


สมการใหม่คือ  X + (100-X%100) = Z;


X%100 = Y โดยที่ 0 < Y < 100


สมการ คือ X + (100-Y) = Z;


X + C = Z  ;  0 < C < 100


สมการลดรูปได้เป็น  A + (AB/100) + C = Z

              100A + AB + 100C = 100Z

              A(100 + B) + 100C = 100Z    จบข่าว


ลองตรวจดูได้ครับ ถูกป่ะ

[Mr.Blogger]

แก้กันได้ยังครับ เห็นตั้งแต่บ่ายๆ
ชาวไทยเสียว อึด และมีน้ำ(ใจ) เยอะจริงๆ ^ ^

[mumdochata]

งง อ่ะคุยไรกัน

[ossytong]

ซับซ้อนดีจัง

[raimai]

[A + (AB/100)] + (100 -[A + (AB/100)]%100) = Z;

ตามความคิด จขกท แค่สร้างตัวแปรมาสำหรับ [A + (AB/100)] ก็น่าจะพอ เพื่อลดการคำนวณ 2 ครั้ง
ตั้งแต่เรียนมายังไม่เคยเจอการลดรูปที่มี mod อยู่ในสมการเหมือนกัน เลยไม่รู้ว่าปกติแล้วโจทย์อื่นๆมันสามารถลดรูปได้หรือเปล่า

[NEXT13]

  ขออนุญาตงงครับ

[Bone]

[A + (AB/100)] + (100 -[A + (AB/100)]%100) = Z;

กำหนดให้ X = A + (AB/100)


สมการใหม่คือ  X + (100-X%100) = Z;


X%100 = Y โดยที่ 0 < Y < 100


สมการ คือ X + (100-Y) = Z;


X + C = Z  ;  0 < C < 100


สมการลดรูปได้เป็น  A + (AB/100) + C = Z

              100A + AB + 100C = 100Z

              A(100 + B) + 100C = 100Z    จบข่าว


ลองตรวจดูได้ครับ ถูกป่ะ

A = 2060 , B = 10

[A + (AB/100)] + (100 -[A + (AB/100)]%100) = Z;

ได้ [2060 + (2060*10 / 100)]  + ( 100 - [2060 + (2060*10 / 100)]%100) = Z
2060+206 + (100 - 2266%100) = Z
2266 + 100 - 66 = Z
2300 = Z

ส่วน สมการ A(100 + B) + 100C = 100Z   
ได้
2060(100+10) + 100 C = 100Z
จากที่แจ้ง C คือ (100-Y) และ
กำหนด Y คือ X%100 และ
กำหนด X คือ A + (AB/100) สรุป
C คือ 100 - (X%100) และ 100 - [A + (AB/100)]%100

แทน C
2060(100+10) + 100*[100 - [A + (AB/100)]%100] = 100Z

ได้เป็น
2060(110) + 100*[100-[2060 + (2060*10/100)]%100] = 100Z
226600 + 100*[100-2266%100] = 100Z
226600 + 100*34 = 100Z
226600+3400 = 100Z
2300 = Z

รู้สึกเหมือนจะไม่ลดรูปนะครับ แถมทำงานมากกว่าเดิมด้วย เพราะแทนด้วยตัวแปรใหม่ๆทำให้ ดูคล้าย แต่กลายเป็นว่า เราต้อง *100 และ /100 อีกทีครับผม

[marknary]

Z=Floor[((A+AB)/100)/100]x100

แล้วอันนี้อะลดยังครับๆ

[Bone]

[A + (AB/100)] + (100 -[A + (AB/100)]%100) = Z;

ตามความคิด จขกท แค่สร้างตัวแปรมาสำหรับ [A + (AB/100)] ก็น่าจะพอ เพื่อลดการคำนวณ 2 ครั้ง
ตั้งแต่เรียนมายังไม่เคยเจอการลดรูปที่มี mod อยู่ในสมการเหมือนกัน เลยไม่รู้ว่าปกติแล้วโจทย์อื่นๆมันสามารถลดรูปได้หรือเปล่า

กรณีการลด รูปแบบนี้ จะใช้สมการ หรือ ทฤษฎีแบบ เดิมๆ ไมไ่ด้ต้องใช้ ทฤษฏีเฉพาะ ใน Math สำหรับ com เป็นวิชาหนึ่งของ ระดับ ป.ตรี (กลัวเขียนชื่อวิชาผิด) Discrete mathematics ครับผม

จะทำการย้าย *100 หรือ /100 ไม่ได้ ก้อเหมือน วังวน หาทางออกไม่ได้ ต้องใช้ วิชานี้เท่านั้น เลยเรียกว่า Math สำหรับ Com ครับผม [Discrete mathematics]

ปล. เพราะผมจบมา 10 กว่าปี หนังสือหายไป ตอนนี้ ก้อเลย ดันทุรัง ใช้ ไปแล้ว ไม่ต้องลดรูป เลย ครับ 555555+

[marknary]

discrete math เพิ่งเรียนไปปีที่แล้วครับ

ไม่ค่อยได้พิสูจน์แต่หาคำตอบได้ แต่ยังไง คำตอบที่ถูกต้อง ผมไม่ขอลงไว้นะที่นี่นะครับ

[Bone]

Z=Floor[((A+AB)/100)/100]x100

แล้วอันนี้อะลดยังครับๆ

A = 2060 , B = 10

[A + (AB/100)] + (100 -[A + (AB/100)]%100) = Z;

ได้ [2060 + (2060*10 / 100)]  + ( 100 - [2060 + (2060*10 / 100)]%100) = Z
2060+206 + (100 - 2266%100) = Z
2266 + 100 - 66 = Z
2300 = Z

Z=Floor[((A+AB)/100)/100]x100

Z=Floor[(2060+ 2060*10)/100/100]*100
Z=Floor[(2060+20600)/100/100]*100
Z=Floor[22660/100/100]*100
Z=Floor[226.60/100]*100
Z=Floor[2.26]*100 ซึ่งไม่รู้ว่าเก็บจุดเปล่า อาจจะได้
Z=Floor[2]*100 กรณีไม่เก็บ
Z=Floor[2.26]*100 กรณีไม่เก็บ
*หมายเหตุ
float floor ( float $value )
Returns the next lowest integer value by rounding down value if necessary.
สรุปไม่เก็บ
Z = 2*100 = 200 ไม่ถูกครับ

[marknary]

Z=Floor[((A+AB)/100)/100]x100

แล้วอันนี้อะลดยังครับๆ

A = 2060 , B = 10

[A + (AB/100)] + (100 -[A + (AB/100)]%100) = Z;

ได้ [2060 + (2060*10 / 100)]  + ( 100 - [2060 + (2060*10 / 100)]%100) = Z
2060+206 + (100 - 2266%100) = Z
2266 + 100 - 66 = Z
2300 = Z

Z=Floor[((A+AB)/100)/100]x100

Z=Floor[(2060+ 2060*10)/100/100]*100
Z=Floor[(2060+20600)/100/100]*100
Z=Floor[22660/100/100]*100
Z=Floor[226.60/100]*100
Z=Floor[2.26]*100 ซึ่งไม่รู้ว่าเก็บจุดเปล่า อาจจะได้
Z=Floor[2]*100 กรณีไม่เก็บ
Z=Floor[2.26]*100 กรณีไม่เก็บ
*หมายเหตุ
float floor ( float $value )
Returns the next lowest integer value by rounding down value if necessary.
สรุปไม่เก็บ
Z = 2*100 = 200 ไม่ถูกครับ

ใช่ครับมันไม่ถูก ๆ ก็บอกแล้วว่าผมไม่บอกคำตอบที่ถูกต้องในนี้หรอกๆ

[themaxaboy]

  งงสามตลบ

[marknary]

คำตอบที่ไดัคือ
100+(Floor[(A+(AB/100))/100])*100
ลองไปพิสูจน์ดูครับ เขียนโปรแกรมเปรียบเทียบค่าดู(ผมแอบทำมาแล้ว)

คำตอบได้เท่านี้ รบกวนเปลี่ยนชื่อกระทู้เอา ค่าน้ำใจออกด้วยครับเห็นแล้วตะหงิดๆ

[marknary]

ในที่นี่เวลาการประมวลผลน่าจะลดได้ครึ่งหนึ่ง เพราะการคำนวณของนิพจน์ A+(AB/100) คำนวณแค่ครั้งเดียว นอกนั้นเป็นเรื่องของการคำนวณค่าคงที่ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็น O(1)

[Popu]

เห็นแล้วเหนื่อยแทนเลยนะเนี่ย

[Bone]

คำตอบที่ไดัคือ
100+(Floor[(A+(AB/100))/100])*100
ลองไปพิสูจน์ดูครับ เขียนโปรแกรมเปรียบเทียบค่าดู(ผมแอบทำมาแล้ว)

คำตอบได้เท่านี้ รบกวนเปลี่ยนชื่อกระทู้เอา ค่าน้ำใจออกด้วยครับเห็นแล้วตะหงิดๆ

รู้สึกว่าจะเกิด มาม่าและ ผมขอปิดกระทู้ครับ และ ก้อ ขอบคุณทุกท่าน

ส่วนเรื่อง สมการผมใช้ตัวเดิมไปเลย ช่างมันอะครับผม ดันทุรังใช้ไปก่อน แล้วค่อยแก้ไขอีกที
ถือคติ งานไม่สมบรูณ์แต่มี ดีกว่า คิดเยอะและไ่ม่ได้ทำ ขอบคุณทุกท่านครับ

[marknary]

มาม่าตรงไหนครับ ได้คำตอบแล้วรีบปิดกระทู้ไปเลย

หุหุ ไม่ได้หวังอะไร แค่คำว่าขอบคุณ สักคำยังไม่มีเลย