ธุรกิจประเภทนี้มันไม่ได้วัดที่ยอดธุรกิจหรือตำแหน่งเพียงอย่างเดียวครับ ไม่งั้นคนมีเงินหลายๆแสนก็เป็นตำแหน่งสูงๆได้แล้ว
การเอาเงินหว่านเพื่อหวังผลเป็นแนวคิดที่ผิดพลาดของคนที่เริ่มทำธุรกิจประเภทนี้มากๆ
เพื่อนผมเคยใช้เงินแสนนึง (โดนกล่อม) เพื่อขึ้นตำแหน่ง super visor ในเจ้านึง อีกหนึ่งเดือนก็เลิก หลังจากมาโม้ได้เดือนนึง

ถามว่าเพราะอะไร เพราะมันคือเอาเงินซื้อตำแหน่ง ซึ่งคุณจะได้เข็มและตำแหน่ง แต่คุณจะไม่ได้เงินกลับคืนมาเลย (อาจจะได้บ้างแค่ช่วงเวลาหนึ่ง) มันผิดคอนเซปต์ของธุรกิจประเภทนี้ แล้วไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหลายคนแอนตี้ธุรกิจประเภทนี้ เพราะมันคือการหลอกโดยการสร้างความคาดหวังโดยแลกกับการทุ่มเงินเพื่อเอาตำแหน่งแบบผิดๆ (ขายฝัน) แล้วก็เลียนแบบการทำแบบผิดๆ
เงินที่ได้มาไว บางครั้งก็แลกกับการทุ่มเงินที่ไวเช่นกัน แต่ถ้าเวลาล้มก็ล้มเป็นแถว ส่วนหัวแถวก็ย้ายหนี โดยไม่แคร์สักเท่าไร (ส่วนใหญ่ผมเจอคนลักษณะนี้เกลี้ยกล่อมเยอะนะ ไม่ได้คิดถึงคนอื่นหรอก คิดถึงแต่มันนี่ที่ตัวเองจะได้ ประเภทที่ว่าทำก่อนรวยก่อน ทำหลังก็เป็นได้แค่ช่วยให้คนที่มาก่อนรวย ถ้าคิดแบบนี้มันเหมือนหาคนเป็นฐานมาเหยียบ)
ถ้าจะทำธุรกิจนี้จริงๆ ควรศึกษาให้ละเอียดครับโดยเฉพาะผู้เริ่มต้นใหม่ อย่าให้โดนกล่อมง่ายๆ แต่ให้ตัดสินบนพื้นฐานข้อมูลเป็นหลัก
คราวก่อนมีน้องคนนึงมาเล่าธุรกิจตัวนึงให้พี่ที่รู้จักฟัง เผอิญผมก็นั่งฟังอยู่ด้วยไม่ได้อะไร แล้วน้องเขาก็ชอบใช้อักษรย่อว่า ธุรกิจ A ทีแรกผมก็ไม่ได้เอะใจหรอก นึกว่า A B C D แล้วพอน้องเขาพูดอีกว่า พี่คงพอจะรู้ธุรกิจที่ขึ้นต้นด้วย A ลงท้ายด้วย y ผมก็เลย อ๋อ (ถ้าจะพาดพิงแล้วจะอ้อมๆทำไม เขาฟังก็รู้อยู่ดีแหละ)

(จริงๆไอ้แบบนี้ก็ไม่ถูกนะ สอนให้ดิสเครดิตธุรกิจอื่น แต่เข้าใจว่าก็สอนๆกันมา เพราะอย่างคราวที่แล้วผมไปนั่งฟังของเจ้านึง เป็นเพื่อนพี่ชายที่ชวนไป คนพรีเซนต์เขาก็พูดแบบนี้เหมือนกัน)
ข้อแนะนำสุดท้าย คนทำ mlm อย่าตื๊อหรือเสียเวลาดึงคนทำ mlm คนละธุรกิจด้วยกันเอง และไม่จำเป็นไม่ต้องมานั่งเปรียบเทียบหรือเบรมกันไปกันมา เพราะถึงเวลาถ้ามีคนทำธุรกิจอื่นมาตื๊อคนในสายงานของคุณบ้าง คุณก็จะไม่ชอบใจเช่นเดียวกัน
ท่องไว้ครับ อะไรที่คุณไม่ชอบ คุณก็อย่าไปทำกับคนอื่น ทำด้วยความจริงใจ มีอะไรก็พูดไปตรงๆ และไม่มีความสำเร็จไหนได้มาแบบฟรีๆ แต่ก็ให้อยู่บนพื้นฐานของความพอดีตามกำลังทรัพย์ที่ตัวเองรับผิดชอบได้ และถ้าคุณทำไม่สำเร็จ ก็ให้ถือเสียว่า เป็นค่าซื้อประสปการณ์ด้านที่เป็นบวกก็แล้วกัน
สำหรับธุรกิจประเภทนี้จะมีคนแอนตี้หรือไม่ชอบเยอะ ก็ไม่แปลก เพราะส่วนใหญ่มันผิดที่คนทำหลายๆคนนั่นหล่ะ แต่อย่างว่าจะให้ทุกคนทำถูกต้องแบบเพอร์เฟคทั้งหมดคงเป็นไปได้ยาก (แต่ไอ้ที่ผิดแบบเกือบทั้งองค์กรนั่นก็น่าเอือมเหลือเกินที่บริษัทแม่ไม่คิดจะควบคุมนักธุรกิจให้อยู่ภายใต้จรรยาบรรณที่ควรพึงกระทำ) ฉะนั้นเวลามีคนด่าก็รับฟังไว้ ยิ่งเถียงแทนก็เหมือนยิ่งจุดประเด็นให้เกิดการถกเถียงเพราะความน่าหมั่นไส้เสียเปล่าๆ
ไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากรวย เพียงแต่เราต้องรวยแบบไม่เบียดเบียนใครจนเกินไป