ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.com< กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน)สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe)อะไรคือ >>> ตัวถ่วงความเจริญของประเทศไทย ????
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อะไรคือ >>> ตัวถ่วงความเจริญของประเทศไทย ????  (อ่าน 4412 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Zero-G
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 830



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 04:10:02 »



จากยุคเศรษฐกิจ-การทำธุรกิจโดยยึดมั่น “ธรรมาภิบาล” ปัจจุบันในประเทศไทยการทำธุรกิจ-เศรษฐกิจ “เชิงสร้างสรรค์” เป็นสิ่งที่ถูกต่อยอดขึ้น ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากล...ว่าเป็นสิ่งดี-มีประโยชน์
กล่าวสำหรับ “ธรรมาภิบาล” หรือ “กู๊ด กอฟเวอร์แนนซ์ (good governance)” นั้น ก็หมายรวมถึง ศีลธรรม, คุณธรรม, จริยธรรม, ความถูกต้องชอบธรรมทั้งปวง ซึ่งวิญญูชนพึงมีและพึงประพฤติปฏิบัติ โดยปัจจุบันมีการใช้หลักธรรมาภิบาลกันอย่างกว้างขวางทั้งภาครัฐและเอกชน ส่วน “เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์” หรือ  “ครีเอทีฟ อีโคโนมี (creative economy)” ที่เป็นทิศทางการทำธุรกิจยุคใหม่ ก็หมายรวมถึงการมีความรับผิดชอบต่อสังคม และให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความซื่อสัตย์สุจริตและคุณธรรมด้วย
   
เทรนด์ธุรกิจไทยยุคนี้คือการก้าวสู่ “บรรษัทภิบาลที่ดี”
   
แต่ก็ยังมีส่วนที่ยัง “ล้าสมัย” ทำธุรกิจ “คิดเอาแต่ได้”
   
ทั้งนี้ ธุรกิจในประเทศไทยในปัจจุบันยังคงมีบางส่วนที่มีการดำเนินการหรือมีการใช้ กลยุทธ์ที่ “ไร้ซึ่งหลักธรรมาภิบาล-ไม่สร้างสรรค์” โดยตัวอย่างกลยุทธ์ก็เช่น ใช้อิทธิพลบางด้านบีบบังคับเอเย่นต์สินค้า-ร้านค้า ห้ามรับ-ห้ามจำหน่ายสินค้าของธุรกิจรายอื่น ซึ่งด้วยบางปัจจัยบีบคั้น ก็ทำให้ทางเอเย่นต์สินค้า-ร้านค้านั้น ๆ ต้องจำยอม
   
กับการใช้กลยุทธ์ที่ไร้ซึ่งหลักธรรมาภิบาลนี้ ทางนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ รศ.ดร.สมชาย ภคภาสวิวัฒน์ สะท้อนความเห็นในภาพรวมทั่วไปว่า... กรณีที่ธุรกิจรายใดมีการนำเอาอิทธิพลใด ๆ มาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่มีเจตนาเพื่อต่อรอง บีบบังคับ หรือกีดกันไม่ให้เกิดการทำการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรมนั้น ถือเป็นเรื่องที่ “ผิดจริยธรรม และขาดจิตสำนึกในการทำการค้าอย่างมาก !!” ในประเทศที่พัฒนาแล้วเรื่องนี้ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิร้ายแรงตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการผูกขาดและการกีดกัน ทางการค้า หรือแอนตี้ทรัสต์ ลอว์ (antitrust law) และรวมถึงเป็นการ “กระทบสิทธิในการบริโภคของผู้บริโภค”
   
นักวิชาการรายนี้ชี้ในภาพรวมต่อไปว่า... ในประเทศไทยเราที่ผ่าน ๆ มาก็เคยมีกรณีลักษณะนี้เกิดขึ้นโดยอุตสาหกรรมหรือธุรกิจหลายประเภท อาทิ... เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, สื่อสิ่งพิมพ์ ฯลฯ ซึ่งแม้กฎหมายด้านนี้ของไทยจะยังไม่เข้มแข็ง แต่ผู้ที่เสียหายก็ร้อง ต่อคณะกรรมการป้องกันการผูกขาดทางการค้าที่ดูแลเรื่องการค้าเสรี ได้ ขณะเดียวกัน กับธุรกิจเองก็ควรต้องคำนึงเรื่องของ “จริยธรรมองค์กร” เป็นสำคัญด้วย
   
สิ่งนี้ในระบบการค้าเสรีเป็นสิ่งที่เรียกว่า สภาวะของทุนนิยมสามานย์ ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างสินค้าในตลาดแข่งขันเกิดปัญหา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรมและยอมรับไม่ได้” ...รศ.ดร. สมชายระบุ
   
ด้าน รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ชี้ถึงเรื่องเดียวกันนี้ในภาพรวมว่า... การกีดกันทางการค้าในลักษณะดังกล่าวนี้ ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับสินค้าบางประเภทที่มีคู่แข่งขันไม่มากในตลาด ซึ่งในต่างประเทศจะมีกฎหมายที่เข้มงวดในเรื่องนี้มาก เพราะเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้
   
การกระทำเช่นนี้เป็นการปิดตลาด เป็นการบิดเบือนทางการค้า หรือกีดกันทางการค้า ทำให้กลไกทางการตลาดทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้บริโภคเสียผลประโยชน์” ...รศ.ดร.สมภพระบุ
   
ขณะที่ อ.สมนึก แตงเจริญ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐ ศาสตร์ ก็ระบุในภาพรวมว่า... เรื่องการกีดกันทางการค้า เช่นบริษัทธุรกิจไปกดดันเอเย่นต์หรือผู้ค้าไม่ให้รับสินค้าที่เป็นคู่แข่งมา ขาย การทำการตลาดลักษณะนี้มีเกิดขึ้นมานานแล้วในไทย ซึ่ง “เป็นกลยุทธ์ทางการค้าที่ไม่สมควรทำ” ต่อให้เป็นการกระทำที่ไม่ผิดกฎหมายก็ตาม
   
การกระทำเช่นนี้ถือว่าไม่เป็นการทำการค้าที่แข่งขันเสรี ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านไหนก็ไม่สมควรใช้อำนาจทางการตลาดที่ผิดเช่นนี้ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดหลักจริยธรรม” ...อ.สมนึกทิ้งท้าย
   
ทั้งนี้ จากภาพรวมในเชิงหลักการ สู่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง กับสื่อสิ่งพิมพ์นั้น ในสถานการณ์ขณะนี้ต้องยอมรับว่าการแข่งขันกันก็เป็นไปอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งทุกสำนักพิมพ์และทุกองค์กรส่วนใหญ่แล้วต่างยึดวิถีทาง กลยุทธ์ในการแข่งขันบนพื้นฐานของคุณธรรม มีจรรยาบรรณในการเป็นสื่อที่ดี มีจริยธรรม มีมิตรไมตรีต่อกันในความเป็นสื่อด้วยกัน เพื่อแข่งกันสร้างสรรค์งานข่าวที่มีคุณภาพ ป้อนสาระสำคัญสู่ผู้อ่าน แต่ใครจะคาดคิดว่าภายใต้หลักจริยธรรมการมีจรรยา บรรณในการทำธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ จากอดีตที่เคยมีการกลั่นแกล้งคู่แข่งด้วยการถีบหนังสือพิมพ์ทิ้งจากรถไฟ ปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีสกปรกด้วยการบีบบังคับเอเย่นต์ร้านค้าไม่ให้จำหน่าย สินค้าของคู่แข่ง
   
การมีอิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่เต็มไปด้วยวิชามารที่ต้องการทำลายคู่แข่ง ด้วยวิธีการที่ไร้จรรยาบรรณ ขาดหลักคุณธรรม ไร้ศักดิ์ศรี เพื่อย่ำยีผู้อื่น ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ขอให้เชื่อเถอะว่า ความดีมีศีลธรรมในการทำธุรกิจย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเสมอไป และพิษภัยที่ใครทำกับผู้อื่น ก็อย่าให้คืนสนองไปสู่ตัวผู้ทำบ้างก็แล้วกัน
   
ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุค “เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์”
   
แต่ยังมี “ธุรกิจแนวคิดไดโนเสาร์” ที่ “หลงยุค” อยู่
   
ไม่สร้างสรรค์-ไร้ธรรมาภิบาล-ถ่วงความเจริญชาติ !!.

แหล่งข่าวโดย :
โค๊ด:
http://www.dailynews.co.th/
บันทึกการเข้า

artit
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 800



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 08:52:34 »

แต่ผมว่าอคติ  อะครับ และฐิถิ
บันทึกการเข้า

Solid Snake
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 156
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,547



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 08:57:23 »

ผมว่าการศึกษาครับ

ถ้าการศึกษาไม่ดี ทุกอย่างก็จะไม่ดีเป็นลูกโซ่

ดูเหมือนทุกรัฐบาลก็ไม่อยากแก้ปัญหาการศึกษาเพราะว่าลงเงินลงทุนไปแล้วจะเห็นผลก็ต่อเมื่อีก 15 ปีไปแล้ว จะกลายเป็นว่ารัฐบาลสมัยนั้นๆไม่มีผลงาน (ลงเงินลงทุนลงแรงไปแต่ประโยชน์เกิดอีก 15 ปีไปแล้ว)
บันทึกการเข้า

iah(carus)
Verified Seller
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 113
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 327



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 09:01:24 »

ผมว่าการศึกษาครับ

ถ้าการศึกษาไม่ดี ทุกอย่างก็จะไม่ดีเป็นลูกโซ่

ดูเหมือนทุกรัฐบาลก็ไม่อยากแก้ปัญหาการศึกษาเพราะว่าลงเงินลงทุนไปแล้วจะเห็นผลก็ต่อเมื่อีก 15 ปีไปแล้ว จะกลายเป็นว่ารัฐบาลสมัยนั้นๆไม่มีผลงาน (ลงเงินลงทุนลงแรงไปแต่ประโยชน์เกิดอีก 15 ปีไปแล้ว)

ผมเห็นด้วยกับการพัฒนาการศึกษาครับ เพราะการศึกษาคือห่วงโซ่แรก ๆ ที่จะดึงห่วงโซ่อื่น ๆ ให้ดีขึ้นได้ครับ
บันทึกการเข้า

ขัน
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 167
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,254



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 09:08:59 »

ต้องเร่งการศึกษา คุณธรรม จริยะธรรม
ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่มุ่งไปทางวัตถุนิยมหมดแล้ว

ติดนิสัยใช้เงินเปลือง เป็นหนี้ง่ายเพราะคอยพึ่งพาแต่คนอื่น
นายก อานันท์ เคยพูดไว้ว่า เราไม่ควรหาปลามาให้เขากิน แต่เราควรสอนวิธีจับปลาให้เขา อะไรทำนอนนี้แหละ
สอนให้เด็กสบายเกินไป ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พอไม่มีคนช่วยก็พาลโทษคนอื่นอยู่ร่ำไป
 wanwan015
บันทึกการเข้า

ก้ามปู
เสือซุ่มด่า
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 218
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,171



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 09:12:51 »

แต่ผมว่าอคติ  อะครับ และฐิถิ

ผมก็ว่างั้นแหละ

มันไม่ได้เริ่มจากธุรกิจหรอก มันเริ่มจากตัวคนต่างหาก มักง่าย เห็นแก่ตัว อิจฉาริษยา

แต่ทุกอย่างพวกนี้สามารถแก้ได้ด้วย

ผมว่าการศึกษาครับ

ถ้าการศึกษาไม่ดี ทุกอย่างก็จะไม่ดีเป็นลูกโซ่

ดูเหมือนทุกรัฐบาลก็ไม่อยากแก้ปัญหาการศึกษาเพราะว่าลงเงินลงทุนไปแล้วจะเห็นผลก็ต่อเมื่อีก 15 ปีไปแล้ว จะกลายเป็นว่ารัฐบาลสมัยนั้นๆไม่มีผลงาน (ลงเงินลงทุนลงแรงไปแต่ประโยชน์เกิดอีก 15 ปีไปแล้ว)

ผมเห็นด้วยกับการพัฒนาการศึกษาครับ เพราะการศึกษาคือห่วงโซ่แรก ๆ ที่จะดึงห่วงโซ่อื่น ๆ ให้ดีขึ้นได้ครับ

แต่คงใช้เวลานานกว่า 30 ปี เพื่อให้เกิดความซึมซับ เข้าไปทีละนิดทีละหน่อย เพราะถ้าครูสอนเด็กให้ดี แต่ผู้ใหญ่ที่บ้านพาชั่ว ยังไงก็ไม่มีทางดี ต้องรอให้ผู้ใหญ่ชั่วๆเริ่มล้มหายตายจากไปทีละคนสองคน แล้วเสริมความดีเข้าเรื่อยๆ

วันหนึ่งผมรู้สึกแย่มาก ที่เห็นเด็กอายุ 3-4 ขวบเมาเหล้า แล้วดวยวาย ที่เมาเพราะผู้ใหญ่ (มีศักดิ์เป็นน้าของเด็ก อายุไม่เท่าไหร่หรอก 19-20 เอง) ยุให้เด็กกินให้เด็กเมา แล้วตัวเองก็หัวเราะชอบใจ แต่พอเด็กโตไปปกว่านี้ กลายเป็นเด็กเกเร น้าคนนั้นกลายเป้นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบมากขึ้น ก็จะมาว่าเด็กว่าเด็กไม่รักดี ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนบ่มเพาะนิสัยแบบนี้เข้าไป ข้อนี้ชี้ให้เห็นว่า คนไม่ชอบยอมรับความผิดที่ตัวเองเคยทำมาในอดีต แถมยังโยนความผิดให้เด็ก (เรื่องแบบนี้มีอีกเยอะ เช่น พ่อสุบบุหรี่ ลูกสูบบ้างพ่อด่า อะไรทำนองนี้) แบบนี้คงต้องรอให้ผู้ใหญ่พวกนั้นเริ่มล้มหายตายจากไปเรื่อยๆ แล้วปลูกฝังความดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่นานแฮะ  wanwan019

แล้วใครจะไปทำ  wanwan006 Tongue
บันทึกการเข้า

ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่างตอบอะไรใครนะครับ เพราะไม่ได้เข้าบอร์ดเลย
HomHuan
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 315



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 10:20:16 »

ผมว่าการศึกษาครับ

ถ้าการศึกษาไม่ดี ทุกอย่างก็จะไม่ดีเป็นลูกโซ่

ดูเหมือนทุกรัฐบาลก็ไม่อยากแก้ปัญหาการศึกษาเพราะว่าลงเงินลงทุนไปแล้วจะเห็นผลก็ต่อเมื่อีก 15 ปีไปแล้ว จะกลายเป็นว่ารัฐบาลสมัยนั้นๆไม่มีผลงาน (ลงเงินลงทุนลงแรงไปแต่ประโยชน์เกิดอีก 15 ปีไปแล้ว)

สรุป คือนักการเมืองครับ
บันทึกการเข้า
abac401
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 37
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,683



ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 10:23:13 »

ระบบอุปถัมป์
บันทึกการเข้า
pizad_sura
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,611



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 10:26:27 »

ผมว่า

ค่านิยม ความรักชาติครับ  wanwan003


ใครจะเถียงก็เถียง อิอิ
บันทึกการเข้า
RICHEST
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 354
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,231



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 12:30:01 »

ผมว่า ความคิดของคนไทย นะ wanwan044
บันทึกการเข้า

yingnohng
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 110



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 12:40:47 »

คิดว่าความคิดของพวกเราทุกคนค่ะที่รอแต่บอกว่าอะไรคือตัวถ่วงทั้งที่สังคมก็ต้องมีพวกเราทุกคนเป็นองค์ประกอบ และทุกสถาบันไม่ว่าจะเป็นครอบครัว การศึกษา ศาสนา การปกครองเราล้วนแต่เป็นสมาชิกอยู่ไม่น้อยกว่าหนึ่งสถาบันนี่คะ เราทุกคนมีหน้าที่ทำความเจริญให้ประเทศชาติทุกวันค่ะ กินเหล้าน้อยลง ทำงานสุจริตมากขึ้น ลดใช้พลังงาน สอนลูกหลานให้เป็นคนดี ใฝ่หาความรู้ เสียภาษี ถ้าคนในชาติเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ทำแบบนี้ ชาติเราก็รุ่งเรืองค่ะ แต่ถ้าเราบอกว่าเป็นเพราะนักการเมือง เพราะครู เพราะโรงเรียน เพราะกระแสเกาหลี(ว่าไปโน้น)เพราะอะไรอีกมากมายโดยเราไม่ร่วมลงมือทำอะไร เราจะรู้ได้ยังไงคะ ว่าการแอบทำผิดเล็กๆน้อยๆให้ลูกเราดู แล้วลูกเราโตขึ้นไปเป็นนักการเมืองในอนาคตก็จะทำตามเราแต่อาจเป็นในระดับที่รุนแรงกว่า
เรามาช่วยชาติกันเถอะค่ะ wanwan003
บันทึกการเข้า

Flik
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 28
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 378



ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 12:46:51 »

ระบบนี้มีมาตั้งแแต่ สมัยโบราณแล้วครับ

มันอยู่ใน DNA ของชาวไทย

 wanwan022
บันทึกการเข้า
ball6847
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 212
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,152



ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 12:47:14 »

ในความคิดผม อยากจะพัฒนาประเทศ ต้องพัฒนาคุณภาพประชากร อยากจะพัฒนาประเทศ ดันไปคิดมากเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา แต่พวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะพัฒนาคุณภาพประชากรได้ครับ ผมฟันธง สิ่งที่จะพัฒนาได้คือการรณรงค์ ปลูกฝัง จริยธรรมและคุณธรรม ให้คนไทย สิ่งที่สำคัญคือสามัญสำนึกครับ ไม่ใช่ปัจจัยในเรื่องการเงิน

ผมอยากเห็นคนไทยเป็นคนดี มากกว่าเป็นคนรวย หรือคนการศึกษาสูงๆ ขอแค่มีสามัญสำนึก ประเทศชาติจะเป็นระเบียบและอยู่ในกรอบมากกว่านี้ แต่ผมก็หมดหวังที่จะได้เห็นเหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้หรอก ชีวิตนี้ไดแค่ทำตัวเองให้ดี ไม่เบียดเบียนใคร แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว

เหมือนที่พระบอก อยากจะเปลี่ยนประเทศมันต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ก่อน พัฒนาด้านอื่นให้ตาย พัฒนาจิตสำนึกคนไม่ได้ก็ไร้ประโยชน์
บันทึกการเข้า

3didy
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 57
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,049



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 12:54:05 »

หลายอย่าง ที่สำคัญ ระบบเส้นสาย พวกพ้องกันเอง กีดกันคนมีความสามารถ พวกนี้มักจะอ้างว่า คนเก่งนี่หยิ่ง ทำงานด้วยยาก ความจริงแล้วก็คือ ถ้าคนที่ไม่มีความสามารถ ไม่พยายามพัฒนาตัวเองก็จะเป็นอย่างทุกวันนี้ คือทุกอย่าง มั่วแหลก หลอกรับทานกันสารพัด

นี่ละครับ คือสภาพสมองไหล คนเก่งเขาไม่แคร์หรอก ไปอยู่ีท่ไหนคนก้รับ

อีกอย่างคือยางอายและศักดิศรีครับ  ผมเคยเห็นคนที่เล่นเปียโนก้องแก้งๆๆ เหมือนคนแขนขาด เล่นได้แค่มือขวาง่ายๆ โน๊ตก็อ่านไม่ออก ยังทำตัวเป็นโปรดิวเซอ อะเรนเจอ หน้าตาเฉย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤศจิกายน 2009, 12:56:30 โดย 3didy » บันทึกการเข้า

MVใหม่นางแบบสวยๆ-อนิเมชั่นผมครับ
https://www.youtube.com/watch?v=UxYAjv42q8M

http://www.facebook.com/kampon.tan

http://www.bandapp.com/k3nnyt4n
Jorko de Joke
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 13:00:39 »

กำจัด "ธุรกิจในระบบข้าราชการให้หมดไป" ไอ้พวกรับสมัครทีลูกเอ็งลูกข้า รับเงินใต้โต๊ะและรับเด็กฝากกำจัดไปเลย แค่นี้ระบบก็โต และแข็งแรงเอง อย่าลืมว่าเมืองนอกเค้ามีแต่ส่งเสริมภาคธุรกิจ แต่บ้านเรานักธุรกิจต้องภาวนาอย่าให้มันมายุ่งกับกับตรูเลย... wanwan006
บันทึกการเข้า

zZzZ
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 120
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,503



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 13:13:01 »

ถ้าเอาในแง่ธุรกิจ ที่บทความว่ามาก็ใช่ แล้วก็มี
- Double standard ถ้าพวกตรูโกงเอง มักจะเงียบ
- ระบบเส้นสาย
- คอรัปชั่น (เสนองานก็ต้องมีใต้โต๊ะ)ถ้าอีกฝ่ายได้งานก็หาทางล้มโครงการหรือทำให้โดนปรับไป
- ประมูลไม่โปร่งใส จัดซื้อจัดจ้างกันแบบ มัวๆ โครงการมาเอาเงินรัฐไปเช่น ซื้อเครื่่องกรองน้ำพลังแสงอาทิตย์แบบมัดมือชก
- นโยบาย ส่งเสริมพื้นฐานให้ได้ เทคโนโลยีราคาต้องถูก เนตต้องถูกและเร็ว แต่เมืองไทยผลประโยชน์ยังแบ่งไม่ลงตัว ก็ไม่ดันออกมาหรอก
- ความเคยชิน
- R&D เกิดยาก ถ้าคนยังไม่เชื่อในสิทธิ เมืองไทยเป็นเมืองที่เป็น ผู้ใช้ มากกว่า ผู้สร้าง ก็เพราะข้อนี้
- ไม่แปรรูป ? ทำงานกันแบบเดิมๆ ต้นทุนสูงก็ขึ้นค่า FT ความเสี่ยงน้อยดี เพราะยังไงก็ไม่มีคู่แข่ง
วันดีคืนดีอยากขึ้นเงินเดือนก็เอาประชาชนเป็นตัวประกัน ขู่ตัดไฟ ขู่ไม่วิ่งรถไฟ ...
อำนาจมีมากเกินไปในองค์กรหรือเปล่า

อังกฤษก็เคยเจอปัญหาที่สพภาพมีอำนาจต่อรองมากเกินไป (ถ่านหิน) เจอคนงานขู่หยุดงาน
แต่เขาก็แก้มาได้จนสหภาพลดอำนาจไป แต่เมืองไทยแตะไม่ได้ เดี๊ยวสื่อเกลียด เดี๊ยวมีผลทางการเมือง
อื่นๆ ยาว
บันทึกการเข้า

ayeweb
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 321
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,202



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 13:21:32 »

นี่แหละมนุษย์
บันทึกการเข้า


ข่าวไอที ข่าวสารไอที แอพไอโฟน บริการอื่นๆ
บริการ ตรวจหวย อื่นๆ ทั่วไปสาระน่ารู้ ความรู้ต่างๆ
Host ไทย เว็บผู้หญิงนะคะ แต่ผู้ชายก็เข้าได้ค่ะ
ตรวจหวย
ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล>>
เช่าโฮสติ้ง Ruk-com
onlyones
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 329
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,824



ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 13:29:48 »

ความเห็นแก่ตัวและความเห็นแก่ได้ครับคือตัวถ่วงสุดๆ

ความหวังอยู่ที่คนรุ่นใหม่แล้วละครับเพราะว่าแก้นิสัยมันยากครับ wanwan010
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤศจิกายน 2009, 13:32:05 โดย onlyones » บันทึกการเข้า
TOOLS
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 430



ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2009, 13:34:58 »

นึกถึงอย่างเดียวเลยคือ


นาธาน โอมานนน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์