ธุรกิจทำร้านพรีออเดอร์ในไทยก็ปัง ต้องรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการทำร้าน
ทำความเข้าใจ "ธุรกิจพรีออเดอร์" โมเดลที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการขยายสินค้า
ธุรกิจพรีออเดอร์ คือ รูปแบบการขายสินค้าที่ผู้ขายยังไม่มีสินค้าอยู่ในสต็อกจริง แต่จะเปิดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าก่อน จากนั้นจึงทำการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายในต่างประเทศตามจำนวนที่ได้รับออเดอร์มา เพื่อนำเข้ามาจัดส่งให้กับลูกค้าต่อไป โมเดลนี้ได้รับความนิยมเนื่องจากมีข้อดีหลายประการ ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ หรือผู้ที่ต้องการทดลองตลาดสินค้าใหม่ๆ
ข้อได้เปรียบและข้อควรระวังของการทำร้านพรีออเดอร์ที่คุณต้องรู้
การทำธุรกิจพรีออเดอร์ มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจ:
ข้อได้เปรียบ:
• ลดความเสี่ยงเรื่องสต็อกสินค้าจม: ไม่ต้องลงทุนซื้อสินค้ามาสต็อกจำนวนมากก่อน ทำให้ลดความเสี่ยงหากสินค้าขายไม่ได้
• ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูง: ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนมหาศาลในการสต็อกสินค้าจำนวนมาก สามารถเริ่มได้จากทุนไม่สูงนัก
• นำเสนอสินค้าได้หลากหลาย: สามารถเลือกนำเสนอสินค้าที่หลากหลายจากหลายแหล่งได้ง่ายกว่าธุรกิจที่มีสต็อกสินค้าเอง
• ทดลองตลาดได้ง่าย: สามารถทดลองนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เพื่อดูการตอบรับของตลาดก่อนตัดสินใจนำเข้าในปริมาณมาก
ข้อควรระวัง:
• ระยะเวลาในการรอสินค้า: ลูกค้าต้องรอสินค้านานกว่าการซื้อสินค้าพร้อมส่ง ซึ่งอาจทำให้เสียลูกค้าที่ต้องการสินค้าด่วนได้
• ความเสี่ยงจากผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย: ต้องพึ่งพาความน่าเชื่อถือของผู้จำหน่ายในต่างประเทศ ทั้งในเรื่องคุณภาพสินค้า ระยะเวลาการจัดส่ง และการแก้ไขปัญหาหากสินค้ามีข้อบกพร่อง
• การสื่อสารกับลูกค้า: ต้องสื่อสารและบริหารจัดการความคาดหวังของลูกค้าเรื่องระยะเวลาการได้รับสินค้าให้ชัดเจน
• ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน: หากรับชำระเงินเป็นเงินบาท แต่ต้องชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินอื่น อาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
การค้นหาและเลือกแหล่งสินค้าที่เชื่อถือได้ หัวใจสำคัญของธุรกิจพรีออเดอร์ที่ยั่งยืน
แหล่งสินค้าสำหรับธุรกิจพรีออเดอร์มีอยู่หลากหลายทั่วโลก เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น หรือสหรัฐอเมริกา แต่หนึ่งในแหล่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากมีสินค้าหลากหลายและราคาที่แข่งขันได้คือ ประเทศจีน ผู้ประกอบการจำนวนมากจึงเลือก นำเข้าสินค้าจากประเทศจีน 
โดยตรงเพื่อนำมาเสนอขายแบบพรีออเดอร์ ซึ่งมีแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่มากมายที่เป็นแหล่งรวมผู้ผลิตและผู้ค้าส่ง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณา:
• ความน่าเชื่อถือของผู้จำหน่าย: ศึกษาข้อมูล รีวิว และประวัติการค้าของผู้จำหน่าย
• คุณภาพของสินค้า: หากเป็นไปได้ ควรขอตัวอย่างสินค้ามาตรวจสอบก่อนสั่งซื้อจำนวนมาก
• เงื่อนไขการสั่งซื้อและการจัดส่ง: ทำความเข้าใจเงื่อนไขการสั่งซื้อขั้นต่ำ ระยะเวลาการผลิต และตัวเลือกการจัดส่ง
• การสื่อสาร: ผู้จำหน่ายควรมีการสื่อสารที่ชัดเจนและตอบสนองรวดเร็ว
การตั้งราคา การตลาด และการขายสินค้าพรีออเดอร์ให้ดึงดูดใจลูกค้าเป้าหมาย
การตั้งราคาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจพรีออเดอร์ การคำนวณต้นทุนต้องครอบคลุมทั้งต้นทุนสินค้า ค่าขนส่งระหว่างประเทศ ค่าภาษีนำเข้า (ถ้ามี) ค่าดำเนินการต่างๆ รวมถึงต้นทุนแฝง เช่น ค่าโฆษณา ค่าแรง และต้องบวกกำไรที่ต้องการเข้าไปด้วย ราคาที่ตั้งควรแข่งขันได้และดึงดูดใจลูกค้าเป้าหมาย
ด้านการตลาดและการขาย ควรสร้างช่องทางการขายออนไลน์ที่ชัดเจน เช่น เพจบนโซเชียลมีเดีย หรือร้านค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ นำเสนอสินค้าให้น่าสนใจ ด้วยภาพถ่ายที่สวยงามและคำอธิบายที่ครบถ้วน จัดโปรโมชั่นพิเศษ หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อดึงดูดลูกค้า
การบริหารจัดการคำสั่งซื้อและระบบโลจิสติกส์จากต่างประเทศถึงมือลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าแล้ว ผู้ประกอบการต้องทำการสั่งซื้อสินค้าจากผู้จำหน่ายในต่างประเทศ และติดตามสถานะการผลิต/จัดส่งอย่างใกล้ชิด การเลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสม (เช่น ทางอากาศสำหรับสินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว หรือทางเรือสำหรับสินค้าปริมาณมาก) และการจัดการเรื่องศุลกากรเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อสินค้ามาถึงประเทศไทย ต้องทำการตรวจสอบสินค้าก่อนจัดส่งให้ลูกค้า และจัดการระบบการจัดส่งภายในประเทศให้รวดเร็วและปลอดภัย การสื่อสารอัปเดตสถานะการสั่งซื้อให้ลูกค้าทราบอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในการทำธุรกิจพรีออเดอร์
การบริการลูกค้า: สร้างความไว้วางใจและรักษาฐานลูกค้าในธุรกิจพรีออเดอร์
หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจพรีออเดอร์คือ "ความไว้วางใจ" เนื่องจากลูกค้าต้องรอสินค้าเป็นเวลานาน การบริการลูกค้าที่ดีจึงมีความสำคัญมาก:
• สื่อสารชัดเจน: แจ้งรายละเอียดสินค้า ระยะเวลาการรอสินค้า และอัปเดตสถานะให้ลูกค้าทราบอยู่เสมอ
• ตอบคำถามรวดเร็ว: ตอบข้อสงสัยหรือข้อกังวลของลูกค้าด้วยความสุภาพและรวดเร็ว
• แก้ไขปัญหา: หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับสินค้าหรือการจัดส่ง ต้องมีแนวทางแก้ไขที่ชัดเจนและเป็นธรรม
การบริการลูกค้าที่ดีจะช่วยสร้างความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าในระยะยาว
การจัดการด้านการเงินและข้อกฎหมายที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจเพื่อความมั่นคง
เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต ผู้ประกอบการควรพิจารณาเรื่องการจดทะเบียนพาณิชย์ หรือการจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือและดำเนินงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ การจัดการด้านการเงิน การบันทึกรายรับรายจ่าย การคำนวณต้นทุน และการวางแผนภาษี เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ธุรกิจมีกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืน
สรุป
ธุรกิจทำร้านพรีออเดอร์ เป็นโมเดลที่มีศักยภาพและน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจออนไลน์ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา แต่ด้วยข้อได้เปรียบด้านเงินลงทุนและความเสี่ยงที่ต่ำกว่า หากผู้ประกอบการมีการวางแผนที่ดี เลือกแหล่งสินค้าที่เชื่อถือได้ บริหารจัดการระบบการสั่งซื้อและโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารและบริการลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ การทำธุรกิจพรีออเดอร์ในประเทศไทยก็สามารถ "ปัง" และเติบโตไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
อื่นๆ
