ต่อไป »

[metoo55]

มีหลายคนกำลังหารายได้พิเศษ บางคนหาทางสร้างรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ด้าน Programming, Database หลายคนควาวมรู้ท่วมหัว แต่ไม่รู้เอามาหาเงินยังไง พอดีผมมีปัญหาแล้วคิดว่า..ถ้ามีคนตอบโจทย์นี้ได้ คงสร้างรายได้ให้เค้าได้อย่างสบาย...

ผมใช้ WordPress มาหลายปี การพัฒนาของ WordPress จาก Blog ไปสู่ CMS เต็มตัว แต่สิ่งที่ WordPress ขาดหายไปหรือยังทำได้ไม่ดีนัก คือ Forum เพื่อสร้าง Community ในเว็บ เพื่อให้ผู้ใช้งานสร้าง Content ได้เอง แม้ที่จริง WordPress มี bbPress อยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับ Forum อย่าง vBulletin, IP Board, PhpBB, SMF รวมไปถึง Discuss ก็นับว่าอห่างไกล จึงมีผู้ใช้งานจำนวนมาก หาวิธิเชื่อม WordPress กับ Software Forum ดังกล่าว แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีตัวเชื่อมต่อ Bridge หรือ Integration ได้อย่างสมบูรณ์ และเชื่อใจได้

นี่จึงเป็นการเสนอไอเดียให้ทำ Mod, Plugin ที่ช่วยในการเชื่อมการใช้งาน WordPress กับ Forum อย่าง vBuletin, IP Board, Phbbb, SMF ซึ่งอาจตั้งราคาอยู่ที่ $10 - $99 สำหรับผู้ใช้ทั่วไป และอาจสูงถึง $199 สำหรับลูกค้าองค์กรที่ต้องการ Support พิเ้ศษ โดยอาจเก็บเป็นรายปี หรือเก็บต่อครั้งตามเวอร์ชั่น ซึ่งต้องตั้งราคาสำหรับการ Upgrade ดังนั้น หากสามารถทำจนมีฐานลูกค้าแล้วก็สามารถเก็บกินได้เรื่อยๆ พัฒนาต่อได้เรื่อยๆ ถามว่าจะมีผู้ยอมจ่ายมากน้อยเพียงใด ก็ลองดูปริมาณผู้ใช้ WordPress ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีการใช้งานที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจมี 10% - 20% เท่านี้ก็มากพอแล้ว 

และหากถามว่าถ้า vBulletin, Wordpress, IPboard มาทำ Bridge, Plugin เองล่ะ อันนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะตอนนี้แนวโน้มไปทางสร้างระบบนิเวศของเตัวเองขึ้นมาต่างหาก WodPress ก็มีระบบอะไรของตัวเอง vBulletin ก็มีระบบ CMS ของตัวเอง ซึ่งผลที่เราเห็นคือมันไม่เวิร์ค หลายคนจึงต้องเอาจุดเด่นของแต่ละค่ายมาประกอบกัน สุดท้ายหากมีคู่แข่ง ลูกค้าหรือผู้ใช้งานจะดูว่า..ใครสามารถทำให้ระบบนิ่ง และดูแลเค้าได้นานกว่า เค้าก็เลือกรายนั้น

ก็เป็นไอเดียเล็กๆ ที่เกิดจากปัญหา และหลายคนกำลังรอคำตอบ ฝากเอาไว้ครับ..

[bonshington]

... fb มี social plugin อยู่แล้ว ใช้แทนระบบ comment ได้นิคับ?

...ไม่มีเหตุผฃที่ทำให้มันต้องทำงานคู่กับ wp ในเมื่อเวปนึง ก็ลงหลาย cmsได้ แล้วก็แยก app pool เอา
เช่น www.myweb.com และ board.myweb.com ก็ไม่เห็นต้องใช้ plug-in อะไร แค่ configเองนะ

[metoo55]

...ไม่มีเหตุผฃที่ทำให้มันต้องทำงานคู่กับ wp ในเมื่อเวปนึง ก็ลงหลาย cmsได้ แล้วก็แยก app pool เอา
เช่น www.myweb.com และ board.myweb.com ก็ไม่เห็นต้องใช้ plug-in อะไร แค่ configเองนะ

แบบนั้น user จะต้องลงทะเบียน 2 ครั้งครับ คือที่ wp และ webboard และหากที่เว็บบอร์ด มีคนเอา username ไปแล้ว แปลว่าก็ต้องหา username ใหม่ สำหรับ webboard ทำให้ ต้องมี 2 username เวลาใช้เว็บเรา

[guzzilar]

...ไม่มีเหตุผฃที่ทำให้มันต้องทำงานคู่กับ wp ในเมื่อเวปนึง ก็ลงหลาย cmsได้ แล้วก็แยก app pool เอา
เช่น www.myweb.com และ board.myweb.com ก็ไม่เห็นต้องใช้ plug-in อะไร แค่ configเองนะ

แบบนั้น user จะต้องลงทะเบียน 2 ครั้งครับ คือที่ wp และ webboard และหากที่เว็บบอร์ด มีคนเอา username ไปแล้ว แปลว่าก็ต้องหา username ใหม่ สำหรับ webboard ทำให้ ต้องมี 2 username เวลาใช้เว็บเรา

ถ้ามีฝีมือถึงขั้นเขียนปลั๊กอินบอร์ดเพิ่มเติมได้ ผมว่า แค่ปรับโครงสร้าง db ให้สองตัวนี้เชื่อมกันได้ก็คงไม่ยากครับ แล้วก็รับงานตรงนี้เฉพาะจุดไปเลย อาจจะดีกว่ามานั่งโมใหม่ create ขึ้นใหม่หมด แล้วเสี่ยงว่าจะขายไม่ออก เสียเวลาฟรี ก็เป็นได้นะครับ

ปล.ผมก็พูดเป็นอีกทางเลืิอกนึึงครับ แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อว่า ถ้าทำมาจริงๆ จะขายไม่ได้เลย ยังไงผมก็มองว่ามันคงขายได้บ้างล่ะน่ะ (แต่ผมก็เลือกที่จะรับเชื่อม db ให้ลูกค้าดีกว่ามานั่ง create ใหม่อยู่ดี)

[bonshington]

user เดียวก็ทำได้คับ
ตย เช่นการใช้ oauth หรือ fb login

db ของ wp ไม่เหมาะกับทำ board อย่างแรง มันเหมาะกับ content ที่ซับซ้อน แต่ปริมาณไม่มาก
ซึ่งต่างจาก board ที่เน้น content มาก แต่ไม่ซับซ้อน

ทางออกที่ดีที่สุด แค่แก้ระบบ login ง่ายกว่าเป็นไหนๆ

ตย การทำ ก็คือ เช่นว่า board ให้ดูว่า เวลา login ตัว form มันยิงเข้าไปที่ไหน เราก็ใช้ js หรือเขียน php เพื่อลอก action เดียวกัน ทำให้เวลา login 1 ที่ แต่ความจิง ระบบหลังบ้านจะ login ให้ 2ที่

[metoo55]

db ของ wp ไม่เหมาะกับทำ board อย่างแรง มันเหมาะกับ content ที่ซับซ้อน แต่ปริมาณไม่มาก
ซึ่งต่างจาก board ที่เน้น content มาก แต่ไม่ซับซ้อน

ก็เพราะแบบนี้ หลายคนจึงอยากได้ในส่วน Forum แยกออกมา โดยเฉพาะใช้พวก vBulletin หรือ IP Board เป็นส่วน Forum ไปเลย แต่ในที่สุดก็จะไปเจอคำถามเรื่องการเชื่อมโยง User Database

ทางออกที่ดีที่สุด แค่แก้ระบบ login ง่ายกว่าเป็นไหนๆ

ตย การทำ ก็คือ เช่นว่า board ให้ดูว่า เวลา login ตัว form มันยิงเข้าไปที่ไหน เราก็ใช้ js หรือเขียน php เพื่อลอก action เดียวกัน ทำให้เวลา login 1 ที่ แต่ความจิง ระบบหลังบ้านจะ login ให้ 2ที่

ปัญหา คือ การเชื่อมระหว่าง WordPress กับ Forum ต่างๆ มันไม่ใช่แค่เพียง User Database แต่มันไปถึง cookie การจดจำผู้ใช้งานและอื่นๆ เช่น หากเวลา login ไม่ตรงกัน logout ไม่ตรงกัน จะทำอย่างไร มิฉะนั้นจะเกิดอาการไปเล่นเว็บบอร์ดเสร็จ จะไป comment ที่เว็บหลัก ก็เจอว่าเว็บหลัก Expire ไปแล้ว ต้อง login เพื่อให้ไป comment (ผมพูดถึงในกรณี ควบคุมสมาชิกในการใช้งาน คือต้อง login ก่อนตอบ comment แบบ blognone)

[bonshington]

ปัญหา คือ การเชื่อมระหว่าง WordPress กับ Forum ต่างๆ มันไม่ใช่แค่เพียง User Database แต่มันไปถึง cookie การจดจำผู้ใช้งานและอื่นๆ เช่น หากเวลา login ไม่ตรงกัน logout ไม่ตรงกัน จะทำอย่างไร มิฉะนั้นจะเกิดอาการไปเล่นเว็บบอร์ดเสร็จ จะไป comment ที่เว็บหลัก ก็เจอว่าเว็บหลัก Expire ไปแล้ว ต้อง login เพื่อให้ไป comment (ผมพูดถึงในกรณี ควบคุมสมาชิกในการใช้งาน คือต้อง login ก่อนตอบ comment แบบ blognone)

เวลา login มันอาจจะเหลื่อมกันมากสุดก็หลักวินาที ซึ่งไม่ใช้ปัญหา ถ้าใช้วิธี loginหลังบ้าน 2 ระบบ ส่วนเวลา logout ก็เขียน code clear cookie 2 ที่สิ
ส่วนเรื่อง cookie expire ทั่วไป เวปบอร์ดพวกนี้ ไม่มีการ expire อยู่แล้วนิ หรือถ้ามี ก็ตั้งให้ระยะเท่ากัน เช่น expire 1วันเหมือนกันทั้ง2ระบบ

หรือถ้าจะเอา dynamic หน่อย ก็สร้าง user ปลอมขึ้นมา เช่น ปกติ user ชื่อ "bonshington" สำหรับboard ก็เป็น bonshington@board แล้ว pwd ระบบก็ gen ขึ้นมาเอง เขียน script login ตอน get board น่าจะได้

เคยดู db ของ wp แต่จำไม่ได้ว่ามันรองรับการ login หลาย domain รึเปล่า แต่ถ้ารองรับ ก็ง่าย

[น้ำใส]

fb น่าจะตอบสนองโจทย์นี้ได้ดีนะครับในเวลานี้ ใช้โปรโมทไปในตัว fb comment กำลังตีตลาด forum community ที่สำคัญมันแสดงตัวตนได้ดีกว่า forum ตัวอื่นๆการเชื่มโยงดึงข้อมูล profile ถ้าพัฒนาต่อยอด app fb น่าจะโอเคครับ

[guzzilar]

fb น่าจะตอบสนองโจทย์นี้ได้ดีนะครับในเวลานี้ ใช้โปรโมทไปในตัว fb comment กำลังตีตลาด forum community ที่สำคัญมันแสดงตัวตนได้ดีกว่า forum ตัวอื่นๆการเชื่มโยงดึงข้อมูล profile ถ้าพัฒนาต่อยอด app fb น่าจะโอเคครับ

ระวังแค่อย่างเดียว อย่าให้ user ไหลออกไปคุยกันในเฟซบุคจนไม่เข้ากระดานสนทนาหลักของเรา 

ปล.ผมเห็นมาแล้วสองเว็บที่เป็นลักษณะแบบนั้น 

[SpiderManKing]

ถามหน่อย สมมุติว่าผมพัฒนา โปรแกรมเสริม(plugin, module, component) กับให้กับพวก drupal,joomla,word press
แต่ไม่ต้องเขียน code ลงไป 100% อาจเขียนแค่ 80% ที่เหลืออีก 20% ให้ทำเป็น web service แต่ 20% เป็นส่วนที่เป็นหัวใจหลัก
ถึงแกะ code ไปได้ เต็มที่ก็ 80% ที่เหลือยังไงก็แกะไม่ได้เพราะไม่มี code ตั้งแต่แรกแล้ว นอกจากจะไปเขียนเพิ่มเอง
คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาลูกค้าซื้อไปแล้วเอาไปขายต่อได้หรือปล่าว

และอยากถามในมุมมองคนซื้อว่า ถ้าเจอโปแกรมเสริมที่เป็นใช้ลูกเ่ล่นแบบนี้ในการป้องกัน source code ทั้ง ๆ ที่สามารถเขียนแบบปกติโดยไม่ใช้ web serive ก็ได้
ถ้าเป็นคุณจะซื้อหรือไม่ ?

[bonshington]

ถ้าจะทำแบบให้ขายได้ ต้องทำเป็น web app คือเป็นเวปของเราเอง แล้วใช้ oauth login ดีที่สุด ปลอดภัย ใช้ง่าย ไม่โดนขโมย source

เช่นว่า เราทำเวปบอร์ด www.goodboard.com
แล้วก็เอาไปขายให้เวป www.abc.com

เวลาabc จะมา board ก็ board.abc.com ให้มัน redirectมาพร้อมpost ข้อมูล login เช่น fb id, secret key ต่างๆที่ใช้ยืนยัน
แล้วก็เขียน plug-in มาที่บอร์ดเรา ก็แค่นั้น

แต่แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ board ฟรีทั่วไปที่มอียู่แล้ว

[Fallen]

การสมัคร เขียน script ให้ กรอกที่เดียว เเล้วส่งค่าไป เข้าทั้ง wp + board แล้ว ยืนยัน กลับมาที่ script เเล้ว ยิงไปที่ การยืนยันของ wp + board ไม่ได้เหรอ?
การ login ก็ login ใน script ที่ทำต่างหากเเล้วเข้าพร้อมกันทั้งสองที่เลย ไม่ได้เหรอ ?

[TOOAds.com]

เขียนแค่ปลั๊กอินบอร์ด ไม่ง่ายกว่าหรอ จะเอาไปรวมกับสคริป smf พวกนั้นทำไม แต่อยากจะรวมกันก็ตามสะดวก เกิดมาจะตายวันไหนไม่รู้เลย จะทำอะไรยากๆไปทำไม - -"