(ไม่ได้งมงายเรื่องพวกนี้หรอกครับแต่เห็นมันเรื่องใกล้ตัวและมีความรู้)
ภาพถ่ายพายุสุริยะทะลุเกราะแม่เหล็กโลกแถบสแกนดินีเวีย วันที่ 29 ธันวาคม 2553
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สมาคมดาราศาสตร์ไทย, Sunflower Cosmos, วิชาการ.คอม, Wikipedia , Mr.Vop's Blog
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม Mr.Vop's Blog ได้แสดงภาพถ่ายการลุกสว่างของแถบออโรร่า ที่กล้องบนดาวเทียม F17 ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สามารถจับภาพไว้ได้ โดยเหตุการณ์การลุกสว่างของแถบออโรร่านี้ เกิดขึ้นบนน่านฟ้าทางเหนือของประเทศแถบแสกนดิเนเวีย หลังเกิดปรากฎการณ์กลุ่มพายุสุริยะขนาด G1 เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ในจังหวะที่กระแสแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์หันขั้วใต้เข้าหาโลก ทำให้เกิดรูทะลุบนเกราะแม่เหล็กของโลก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ Paul McCrone ได้นำปรากฎการณ์พายุสุริยะทะลุเกราะแม่เหล็กของโลกครั้งนี้ ไปวิเคราะห์ โดยใช้ข้อมูลทั้งจากระดับแสงที่ตามองเห็นได้ และจากระดับแสงในช่วงคลื่นอินฟาเรด มาประมวลผล เพื่อศึกษาและใช้ประโยชน์ต่อไป เนื่องจากการทะลุเข้ามาของพายุสุริยะที่มีระดับ 60 โปรตรอนต่อตารางเซนติเมตรเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก
แล้ว พายุสุริยะ คืออะไร จะทำอันตรายอย่างไรต่อโลกของเรา กระปุกดอทคอม จะมาอธิบายให้ฟังกันค่ะ

พายุสุริยะ ลักษณะเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่พัดปะทะโลกอย่างรุนแรง แล้วผ่านไปถึงดาวพฤหัสได้


สนามแม่เหล็กโลกปกป้องเรา ขณะพายุสุริยะพัดเข้ามา

อุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทร (สีส้ม สีเหลือง) มีความร้อนสูงในพื้นที่วงกว้างมาก
พายุสุริยะ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ชาวไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนัก แต่สำหรับที่ประเทศอังกฤษ มีรายงานข่าวว่า นักวิทยาศาสตร์กำลังหวาดวิตกถึงปรากฏการณ์ พายุสุริยะ เป็นอย่างมาก และถึงขั้นที่ทำให้ ดร.เลียม ฟ็อกซ์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ สั่งประชุมฉุกเฉิน เพื่อหาทางรับมือหากเกิด พายุสุริยะ ขึ้นเลยทีเดียว
นั่นเพราะเคยมีการคาดการณ์กันว่า ปรากฏการณ์ พายุสุริยะ จะพุ่งเข้าสู่โลกครั้งต่อไปในช่วงปี ค.ศ 2012 และจะนำมาซึ่งความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะทำให้ระบบการสื่อสารและคมนาคม รวมทั้งระบบอินเทอร์เน็ตล่มไปทั่วโลก ส่งผลต่อระบบไฟฟ้า การบิน เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี ค.ศ.1859 ที่ พายุสุริยะ ได้เข้าถล่มประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งอาจจะทำให้เกิดพายุหมอกควันปกคลุมไปทั่วเมืองใหญ่ ๆ ของยุโรปด้วย