ในแต่ละวันมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นบนโลกนี้
รวมทั้งเรื่องราวที่ผมจะเล่าในวันนี้ด้วยครับ
เรื่องเกิดขึ้นไม่นานครับแค่ปลายปีที่แล้วเอง
แต่มันส่งผลให้ อะไรหลายๆอย่าง เปลี่ยนไปตลอดชีวิต
เมื่อหญิงวัย 50 กว่าๆคนหนึ่งได้รู้ว่าสามีของเธอมีภรรยาน้อย
เป็นเรื่องที่เธอไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ
ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ เรียกว่า”ขลุกอยู่กับงาน”
คิดแค่ว่าจะทำยังไง ให้ชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ดีขึ้น
เธอจึงทำทุกวิถีทางในการหาเลี้ยงชีพพร้อมเลี้ยงครอบครัว
ทำให้ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ในชีวิตของเธอไม่เคยมีคำว่า “หยุดพัก” เลย
ด้วยความที่เรียนมาน้อย เธอจึงอยากให้ลูกได้เรียนสูงๆ
ในช่วงแรกๆ ปลูกผัก โหระพา ขาย
ตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปขายผักคนเดียว กลับบ้านก็ 9-10 โมง
ดินสอทุกแท่ง ปากกาทุกด้าม สมุดหนังสือทุกเล่ม
ได้มาจากการขายผัก
หลังจากนั้นไม่นาน ปลูกผัก เดิมๆไปนานๆ ผักไม่ค่อยสวย
ขายไม่ค่อยได้ราคา เธอก็เปลี่ยน มาปลูกผัก คะน้า หอม ตะไคร้ ขาย
สักพักใหญ่ๆ หลายปี จนในที่สุดเธอก็เลิกปลูกผักไป
เนื่องจากมีอาการเหนื่อยเพลียจากฤทธิ์ สารเคมี และยาฆ่าแมลง
และอาชีพต่อมาที่เธอทำจนถึงปัจจุบันคือ ทำข้าวแต๋น ขาย
ส่วนสามีของเธอเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง คุมงานก่อสร้างทั่วไป
ช่วงที่มีงาน ก็ทำงาน พอเลิกงานกลับมาก็มาช่วยที่บ้านทำข้าวแต๋น
ในช่วงที่ไม่มีงาน ก็มาช่วยกันทำ อย่างเต็มที่
10 กว่าปีที่เธอและครอบครัวยึดอาชีพ ทำข้าวแต๋นขาย
นั่งอยู่ข้างๆเตาไฟ หมอนึ่งข้าว ทำข้าวเหนียวให้เป็นก้อนๆ
แล้วไปตากให้แห้ง พอแห้งแล้วก็ เอามาทอด
ทอดเสร็จโรยน้ำตาล ใส่ถุง แล้วไปขายที่ตลาด เป็นอย่างนี้มาตลอด
จากก้อนใหญ่ที่ขายไม่ค่อยได้ ก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นก้อนเล็กๆ
ที่ขายดี แต่ทำยาก ใช้เวลาทำนาน ตลอดทั้งวัน
วันไหนที่ฝนตก ก็ต้องใช้ไฟย่าง ให้ข้าวเหนียวที่เป็นก้อนแห้ง
กว่าจะทอดได้ เพราะถ้าไม่แห้งก็ทอด ไม่ฟู แข็งไม่อร่อย
ทุกอย่างที่ทำ เกิดขึ้นจากความคิดของเธอ
ด้วยเพียงแค่เธอคิดว่า อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของสามี
และ “ทำเพื่อลูก”
จนในบางครั้งเธอดูเหมือนจะเป็น “เสาหลัก” ของครอบครัวด้วยซ้ำ
ด้วยความ มานะ อุตสาหะ พยายาม อดทน ของเธอ
ส่งเสียให้ลูกได้เรียนจนจบปริญญาตรี
ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอพร้อมสามีดีใจและภูมิใจมาก
ก่อร่างสร้างตัว เก็บหอมรอมริบ สร้างฐานะ ความมั่นคงให้ครอบครัว
เป็นลำดับๆ เพื่อไม่ให้ลูกๆได้น้อยหน้าหรืออายใครๆ
ทุกอย่างก็เหมือนจะดี และจบอย่างสวยงามแล้ว
แต่ชีวิตก็คือชีวิต ไม่ใช่ละครที่ตอนจบ จะสวยงาม ไปหมด
ปลายปีที่แล้ว “คนงาน” ที่ช่วยสามีเธอทำงาน มาบอกว่า
สามีของเธอมี “เมียน้อย” ทุกอย่างหยุดลง เหมือนโลกหยุดหมุน
เธอทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่เธอทำมา ตลอด 30 กว่าปี
ที่หวังเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว มันกลับทำให้เธอมองไม่เห็น
อะไรบางอย่างที่ทำให้เธอ เสียใจมาก
สามีของเธอ แอบคบกับผู้หญิงที่ทำงานด้วย เกือบๆ 10 ปี
เธอบอกว่าเธอไม่เสียใจอะไรมาก (แต่ที่จริงแล้วเธอเสียใจมากๆเลยแหล่ะ)
แค่เสียใจที่สามีของเธอ เอาค่าแรงที่ได้จากการรับเหมา
ไปให้ผู้หญิงคนนั้นแทนที่จะเอามาเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
มันทำให้เธอ ผิดหวัง โกรธ เกลียด เสียความรู้สึก สับสน วุ่นวายใจ มากๆ
จนบางความคิด เธอคิดอยากจะ “ฆ่า” ตัวตาย ให้มันพ้นๆไป
แต่เมื่อนึกถึงลูกๆ เธอก็ทำไม่ลง
เธอมีลูกอยู่ 3 คน คนโตแต่งงานแยกครอบครัวไป
คนกลางเรียนจบปริญญาตรีมีงานทำแล้ว
คนเล็กอยู่บ้านไม่อยากเรียนต่อ ก็เลยอยู่ช่วยทำงานที่บ้าน
เธอเป็นห่วงคนเล็กมาก เพราะทำอะไรไม่ค่อยเป็น เพราะอยู่แต่ในบ้าน
เธอก็เลยต้องอยู่ต่อไป ด้วยสติ สัมปชัญญะ ครึ่งๆ กลางๆ ที่เธอมีอยู่
ส่วนสามีของเธอในช่วงแรกๆ ก็ยืนกลาง “กระต่ายขาเดียว” ไม่ยอมรับๆ
แต่ พยาน หลักฐาน จากคน ใกล้ชิด หลายๆคนของสามีของเธอ
ที่พร้อมใจกันมา บอกเธอ ด้วยความ เห็นใจ และสงสาร อยากให้ เธอตาสว่าง
จำนนด้วยหลักฐาน แม้จะไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ช่วงแรกๆเธอทำใจไม่ได้ จึงให้สามีของเธอหลบหน้าไปอยู่ที่อื่นสักพัก
ให้เธอได้ทำใจก่อน โชคดีหรือบุญใดก็ตามทำให้เธอ หันหน้าเข้าหาพระธรรม
ความรู้สึกต่างๆ ภายในจิตใจเริ่มเบาบางลงบ้าง
เธอขอให้สามีของเธอบวช เผื่อทำให้ทุกอย่างๆดีขึ้น
“ผ้าเหลือง” ไม่สามารถทำให้จิตใจสามีของเธอสงบได้
กลับทำให้สามีของเธอร้อนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในกรงขัง อึดอัด
สุดท้ายก็ลาสิขาออกมาอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม
ด้วยหวังว่าจะให้เคราะห์กรรมที่เผชิญในคราวนี้เบาบางลงอีก
“ลูกชายคนกลาง” ของเธอจึงขอบวชให้เธออีกครั้ง 1 เดือนเต็ม
ซึ่งเป็นช่วงที่ดูเหมือนว่าจิตใจของเธอสงบเยือกเย็น และเข้าใจโลกมากขึ้น
หลังจากนั้นมาเธอก็เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเอง
เข้าวัดฟังธรรม เจริญสมาธิ ภาวนา ทำบุญ อยู่ไม่ได้ขาด
ส่วนทางกลับสามีของเธอ ที่นับวันจะดู เกรี้ยวกราด มากขึ้น
โมโห่ง่าย ทำร้ายข้าวของ พูดไม่ถนอมน้ำใจ ด่าโวยวาย
ซ้ำร้ายจะทำร้ายเธออีก ทั้งๆที่ไม่ได้เมา
ซึ่งเมื่อก่อน อาการลักษณะนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนเมาเท่านั้น
ทั้งๆที่เธอเย็น ให้อภัยแล้ว สามีกลับร้อนมากขึ้น
ส่วนหนึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดจากการที่ สามี ของ “เมียน้อย”
เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้หรือเปล่า
ทำให้ “เมียน้อย” ตอนนี้ เป็น “หม้าย”
สามีของเธอก็เลยน่าจะเข้าออกที่นั่นได้ง่ายขึ้น (หรือป่าวไม่รู้)
หรือไม่ก็จะเพราะเวรกรรมใด ของใคร หรือผีตนไหน
สิงสู่ ชักนำ ให้เป็นไปอย่างที่เป็นทุกวันนี้ก็ไม่ทราบได้
เธอกลับจากวัด สามีก็ว่าให้ เธอถึงบัญชีเงินฝาก สามีก็โวยวาย
เธอถามขอเงินซื้อของใช้ภายในบ้านสามี ก็วิ่งกรูเข้าหาจะต่อยตี
กรรมใด...ของใครหรือที่ทำให้เป็นแบบนี้
ทำให้ตลอดทั้งผู้หญิงคนหนึ่งมีแต่เรื่องวุ่นวายใจ
จากคนที่ตั้งหน้าตั้งตาช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แม้อายุจะย่างเข้า 60 ปีแล้ว
กลับต้องมาทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสเป็นปีแล้ว
ซ้ำร้ายเรื่องราวทำนองนี้ยังเกิดขึ้นกับ “ลูกชายคนโต” ของเธออีก
“ลูกสะใภ้” ของเธอ คบชู้
ลูกชายคนโตของเธอตกอยู่สภาพไม่ต่างอะไรไปจากเธอเลย
แน่นอนคนที่เป็น “แม่” อย่างเธอก็ย่อมทุกข์กว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า
เวรกรรมใดนักหนา....ที่เรื่องราวความทุกข์ใจต่างๆ
ถึงประดัง เรียงหน้า ถาโถม เข้าหาเธอ ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง มากมายอย่างนี้
แม้ตอนนั่งเขียนอยู่นี้เธอก็ยังคงทุกข์ใจอยู่
พอจะมีทางไหนบ้างไหมที่จะช่วยบรรเทาให้เบาบางลงบ้าง
ผู้หญิงคนนั้น คือ “คุณแม่” ของผม คนเขียนเองครับ ผมคือ “ลูกชายคนกลาง” รับรู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่ผมไม่ได้อยู่ที่บ้าน อย่างเดียวที่ทำได้ก็คือ ให้กำลังใจแม่ ส่วนพ่อผมไม่ได้โกรธหรอกครับเพราะ พ่อก็คือพ่อ แค่สงสารแม่มากเท่านั้นเอง ทั้งเรื่องพี่ชาย ทั้งเรื่องพ่อ อะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้ ผมคิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะเล่าให้คนอื่นฟังดีไหม มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของผม แต่คิดไปคิดมาก็ไม่ได้เสียหายอะไรที่ใคร จะอ่านหรือฟังไว้เป็นบทเรียนอีกบท สำหรับทุกคนที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ หลายๆคนอาจจะมีความทุกข์มากมายกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ อย่างที่บอกว่า แล้วแต่บุญแต่กรรมของใครที่ได้ทำมา “เข้าใจโลก” แต่ผมก็อดสงสาร คุณแม่ผมไม่ได้ครับ
ผมจึงคิดอยากจะทำบุญ พิมพ์หนังสือธรรมะ “เสบียงทิพย์” เป็นธรรมทาน เพราะเมื่อครั้งตอนที่ผม ไปบวช 1 เดือน หนังสือธรรมะเล่มนี้ดีมากๆครับ ผมตั้งใจว่าจะพิมพ์ สัก 1,000 เล่มขึ้น ไปแล้วนำไปแจกในงานนมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2555 ที่จังหวัดนครพนมปีหน้าครับ เพื่อสร้างกุศลผลบุญให้แม่ เผื่ออะไรๆ ที่ไม่ดีในครอบครัวผมจะเบาบางลงไปบ้างครับ ผมจึงอยากจะขอคำปรึกษา จากท่านๆที่พอจะรู้เกี่ยวกับการสั่งพิมพ์หนังสือธรรมะ ว่าทำยังไง ทำที่ไหน ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ติดต่อ ใคร ประมาณนี้ครับ ช่วยแนะนำผมด้วยครับ
ตลอดจนผมขอเชิญชวนทุกๆ ที่มีความประสงค์ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสือธรรมะ “เสบียงทิพย์”เพื่อแจกเป็นธรรมทาน ในงานนมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2555 ที่จังหวัดนครพนม ประมาณวันที่ 26 มกราคม 2555 ที่จะถึงนี้ ส่วนรายละเอียดการร่วมทำบุญ หากผมได้คำแนะนำจากท่านผู้รู้ แล้วจะมาแจ้งอีกทีครับ ร่วมทำบุญด้วยนะครับ
“ถึงเวรกรรม หรือ บาปกรม ที่เคยได้ทำไป อาจไม่สามารถลบล้างได้ด้วยการ สร้างบุญกุศล ก็ตาม แต่ผมก็เชื่อนะครับว่า ทำดีจะต้องได้ดี ไม่วันใดก็วันหนึ่งครับ”
[/i]
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม