ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  อื่นๆ / Cafe / ฟักข้าว พืชไม้เลื้อยมากพร้อมคุณประโยชน์ เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2018, 16:33:07

     ฟักข้าวชื่อนี้ใครหลายคนอาจจะคุ้นหูแต่ว่าไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไรและคืออะไร ฟักข้าวนั้นเป็นพืชไม้เลื้อยตระกูลเดียวกับแตงกวามะระ ฟักข้าวนั้นมีสีที่สดและสวยงามค่อนข้างที่จะเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ แต่ฟังข้าวไม่ได้มีดีแค่สีที่สุดเท่านั้นเพราะ ฟักข้าวมีประโยชน์อีกด้วยเรามาดูกันว่าฟักข้าวมีประโยชน์อย่างไร


    ประโยชน์ของฟักข้าว

1.บำรุงผิวพรรณ และปกป้องผิวจากแสงแดด

     ฟักข้าวนั้นมีสารอนุมูลอิสระสูงมาก จึงสามารถที่จะช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายได้ แล้วยังสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดชะลอการเกิดริ้วรอยและปัยหาผิวแห้งกราณ

2.ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อเอดส์

     ประโยชน์ข้อนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากเพราะว่าฟังข้าวนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถจะยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อเอดส์ได้ และยังช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งลุกลาม เพราะว่าในฟักข้าวมีโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยลดการเติบโตของเชื้อโรค

3.บำรุงสายตา

     เจ้าฟักข้าวนั้นดูหน้าตาแปลกแต่ทว่าประโยชน์นั้นมีมากเลยทีเดียวโดยเฉพาะการบำรุงสายตา และปกป้องดวงตาจากโรคต้อกระจก ป้องกันตาเสื่อม และป้องกันการมองไม่เห็นในตอนกลางคืน

4.ป้องกันมะเร็งได้

     ฟังข้าวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีไลโคปีนที่สูง โดยแพทย์นั้นพบว่า ไลโคปีนที่มีในเยื้อหุ้มของเมล็ดฟักข้าวเป้นเหมือนสารต้านมะเร็ง ซึ่งมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

5.ป้องกันโรคหัวใจ

     สามารถชดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้ เพราะว่าฟังข้าวนั้นมีสารและสรรพคุณที่สามารถบำรุงหัวใจให้แข็งแรง และลดไขมันคอเลสเจอรอลในเส้นเลือดและป้องกันภาวะไขมันอุดตันเส้นเลือดได้
#คุณประโยชน์#พืชไม้เลื้อย#ฟักข้าว
2  อื่นๆ / Cafe / มะเขือเทศ ของดีทีเด็ด ประโยชน์เน้นๆของสาวๆ เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2018, 15:27:54

     มะเขือเทศสีสดงดงามสีสวยช่วนน่ารับประทาน รู้หรือป่าวว่าประเขือเทศที่เราพบกันตามตลาดตามอาหารนั้นมีประโยชน์ที่ดีต่อผู้หญิงมากน้อยแค่ไหน มะเขือเทสนั้นอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน เอ วิตามินซี วิตามินเค และยั่งมีสารอื่นๆที่ดีต่อสุขภาพมากมาย


ประโยชน์ของมะเขือเทศ

1.มีสารอาหารที่ดีแก่ร่างกาย

     มะเขือเทสนั้นอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน เอ วิตามินซี วิตามินเค และยังมี ไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำทำให้ไม่อ้วนนั้นเอง

2.ช่วยบำรุงผิวให้สุขภาพดี

     มะเขือเทศนอกจากจะมีสีที่สวยแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารต่างๆที่ทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้น อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยป้ป้องผิวจากแสงแดดและยังมีไลโคปีนที่ช่วยให้ผิวพรรณไม่ถูกรังสี UV ทำร้าย

3.ทำให้กระดูกแข็งแรง

     ในมะเขือเทศมีวิตามินเค และ แคลเซียมซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำให้กระดูกของมนุษย์นั้นแข็งแรงมากขึ้น นอกจากจะเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงแล้วยังซ่อมแซมอีกด้วย รวมไปถึงไลโคปีนที่ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ดี

4.ต่อสู้มะเร็ง

     ในเจ้าตัวมะเขือเทศนั้นมีสารสารหนึ่งที่เรียกว่า ไลโคปีน ซึ่งจะมีประโยชน์หลายๆอย่างและยังสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งกระเพาะอาหาร และอื่นๆ มาพร้อมกับสารที่ต้านอนุมูลอิสระเช่น วิตามิน A และ C อีกด้วย

5.ลดน้ำตาลในเลือด

     บางทีร่างกายของมนุษย์นั้นไม่ต้องการสารอาหารหรือสารอะไรจ่างๆมากเกินไปรวมไปถึงน้ำตาลด้วย มะเขือเทศนั้นช่วยให้น้ำตาลในเลือดนั้นสมดุดและยังเป็นแหล่งของโครเมียมที่มีส่วยช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือด

6.มองเห็น

     การมองเห็นเป็นสิ่งสำคัญต่อมนุษย์เราอย่างมาก เพราะเป็นส่วนที่ข่วยทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆและดำเนินชีวิตหรือกิจกรรมต่อไปได้ มะเขือเทศสามารถปรับปรุงการมองเห็นของเราให้ดีชึ้น เพราะว่ามีวิตามินเอที่ช่วยในการปรับปรุงการมองเห็น

     ประโยชน์ของมะเขือเทศนั้นดีจริงๆเลย และยังสามารถนำไปประกอบอาหารต่างๆและเพิ่มรสชาติให้อาหารได้ดีอีกด้วย หากใครอยากลองมะเขือเทศละก็บอกเลยไม่ผิดหวัง
#ผลไม้#ผัก#มะเขือเทศ#มีประโยชน์  wanwan020
3  อื่นๆ / Cafe / นอนน้อย กับผลเสียต่อร่างกาย เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2018, 16:08:11

     อาการนอนน้อยนั้นค่อนข้างที่จะทรมานอยู่ในระดับหนึ่งเลยก็ว่า เนื่องจากจะกวนใจในการทำกิจกรรมในแต่ละวันแล้ว ยังส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมากอีกด้วย คนเรานั้นควรนอนหลับให้เต็มอิ่มถ้าเป็นไปได้ให้นอนวันละ 7-9 ชั่วโมง


     การนอนหลับในแต่ละช่วง

1.ระยะหลับธรรมดา

     ระดับที่ 1 คือระยะร่างกายเปลี่ยนจากภาวะตื่นเข้าสู่การหลับลึก ถือว่าเป็นการหลับในระยะแรก และผู้คนมักไม่รู้สึกว่าหลับ

     ระดับที่ 2 คือระยะร่างกายนอนหลับสนิท

     ระดับที่ 3 ระยะร่างกายนอนหลับลึกและอาจมีการละเมอได้

2.นอนหลับฝัน

     การนอนแบบหลับฝันนั้นส่วนมากจะเข้าสู่การนอนที่มีเวลาได้ 90นาที การนอนหลับในระยะนี้จะแตกต่างกันระยาอื่นๆซึ่ระยะหลับฝันมีความถี่ที่เร็วแล้วแรงดันโวลต์ต่ำเหมือนกับคลื่นสมองที่ตื่นอยู่กล้ามเนื้อจะไม่เคลื่อนไหวขณะที่นอนหลับ ยกเว้นการควบคุมการเคลื่อนไหวของดวงตา

ระยะเวลาของการนอนน้อย

1.ทารก ควรหลับวันละ 16-18 ชั่วโมง

2.เด็กเล็กก่อนวัยเรียน ควรหลับวันละ 10-12 ชั่วโมง

3.เด็กโตเข้าเรียนวัยรุ่น ควรหลับอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง

4.ผู้ใหญ่ควรนอนหลับ 7-9 ชั่วโมง

5.สตรีมีครรภ์ที่อายุครรภ์อ่อน ควรนอนหลับให้มากกว่าปกติ



อันตรายของการนอนน้อย

1.กระทบต่อกระบวนความคิด

     จะทำให้ความสามารถในการใช้เหตุผล การแก้ปัญหา สมาธิในการทำสิ่งต่างๆนั้นลดลง หรือทำให้ความจำนั้นไม่ดี

2.ปัญหาสุขภาพ

     โดยปกติแล้วนั้นร่างกายของเราหากนอนหลับอิ่มหรือเพียงพอนั้นจะทำให้ร่างกายสดชื่นและมีแรงทำอะไรมากมายรวมถึงสมองด้วยจะสามารถมีความโล่งและความจำดีแต่ทว่าการนอนน้อยอาจทำให้เกิดความเสี่ยงกับปัญหาสุขภาพเช่น หัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง และ เบาหวานเป็นต้น

3.ความต้องการทางเพศลดลง

    การนอนน้อยส่งผลต่อสุขภาพทางเพศอีกด้วยจะทำให้ความสนใจในการร่วมเพศนั้นลดลง

4.ขี้ลืมง่าย

     ถ้าปกติแล้วคนนอนอิ่มหรือเพียงพอจะมีความจำที่ดีกว่าคนนอนน้อยเพราะว่า สมองจะพักเซลล์ประสาทของสมองและจัดการพื้นที่ความคิดให้พร้อมเปิดรับข้อมูลในแต่ละวัน แต่ถ้านอนน้อยอาจทำให้ส่งผลต่อความจำทำให้ลืมได้

5.ทำให้ประสบอุบัติเหตุได้

     การนอนน้อยนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักๆเลยก็ว่าได้ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเพราะว่าการนอนน้อยนั้นทำให้ง่วงซึม ตอบสนองช้าและจะส่งผลต่ออุบัติเหตุได้

     การนอนหลับพักผ่อนนั้นสำคัญจริงๆ เราควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอกันเถอะจะได้ไม่เป็นโรคต่างๆอีกทั้งร่างกายยังแข็งแรงอีกด้วย
#นอนน้อย#นอนน้อยไม่ดี#สุขภาพ#เสี่ยง,
4  อื่นๆ / Cafe / เคล็ดลับที่ไม่ลับ เปลี่ยนเล็บเหลือง ให้กลับมาขาว เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2018, 11:09:44

     สาวๆหลายคนนั้นประสบพบเจอกับอาการเล็บเหลืองไม่สดใส จำเป็นต้องทาเล็บกลบสีไว้ตลอดหรือไม่กล้าล้างสีเล็บออก แต่ทว่ามันไม่ได้ยากอะไรเลยสำหรับการรักษาให้เล็บกลับมาขาวดังเดิมวิธีต่างๆมีอะไรบ้างละ? ไปดูกันเลย


วิธีแก้เล็บเหลือง

1.ตะใบเล็บ

     ใช้ตะใบ ตะใบเล็บให้สะอาดแล้วเช็ดออกด้วยแอลกอฮอล์ และให้ใช้บล๊อคขาวนั้นขัดเล็บเนื้อละเอียด ถูไปให้ทั่วและตะไบเบาๆ เบาทำภารกิจเสร็จจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

2.พักทาเล็บ

     ในสมัยนี้หรือในปัจุบันการทาเล็บและตกแต่งเล็บให้สวยงามนั้นมีอย่างมากและแพร่หลายสุดๆแต่การทำเล็บแบบนั้นจะส่งผลให้เล็บแท้ของเรานั้นไม่ได้รับอากาศและทำให้เหลืองในที่สุด ถ้าอยากให้เล็บสวยละก็ ควรพักทาเล็บบ้างนะ

3.อาหารบำรุงเล็บ

     อาหารบำรุงเล็บนั้นใครๆหลายคนอาจงงว่า เอ้ออาหารอะไรละที่บำรุงเล็บมีด้วยหรอ? ตอบเลยว่ามีเป็นอาหารจำพวกที่อุดมไปด้วยแคลเซียมนั้นเอง อาหารบำรุงเล็บนั้นก็คือ นม เต้าหู้ โยเกิร์ด ผักโขม ถั่วแดง ไข่แดง

4.เพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่เล็บ

     การทำเล็บหรือการทาเล็บนั้นย่อมมีการล้างออก และส่วนมากในการล้างออกใช้นำยาล้างเล็บที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะสามารถทำให้เล็บนั้นแห้งและเกิดปัญหาตามมาได้ จึงจำเป็นต้องแช่เล็บของเราไว้ในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาทีเพื่อให้เล็บฟื้นตัว

5.มะนาว

     มะนาวประโยชน์จะเยอะไปไหนเนี่ย เจ้ามะนาวนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายและหาได้ตามท้องตลาดทั้วไป จึงเป็นที่นิยมในการใช้ขจัดเล็บเหลือง วิธีคือ นำเจ้ามะเน้ามาขัดๆหมุนๆบนเล็บให้สะอาดแล้วเช็ดเล็บให้แห้งแล้วล้างด้วยน้ำสะอาด จะช่วยให้เล็บกีขึ้น

6.ยาสีฟัน

     นำยาสีฟันชนิดที่ฟอกฟันให้ขาว มาทาบนเล็บแล้วพอกทิ้งไว้แล้วใช้แปลงขัดอีกทีนะลดปัญหาเล็บเหลืองได้
     จากทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นวิธีง่ายๆที่ใครๆหรือสาวๆคนไหนก็ทำได้ ถ้าใครตามหาวิธีเปลี่ยนเล็บเหลืองให้เป็นเล็บขาวละก็ลองใช้ดูนะ
#เล็บเหลือง#วิธีแก้#หายเล็บเหลือง,
5  อื่นๆ / Cafe / สาเหตุ ที่ทำให้หูฟังพังบ่อยๆ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2018, 16:48:40

     หลายๆคนต่างสงสัยว่าทำไมหูฟังของเรานั้นมันพังบ่อยเหลือเกินและใครหลายๆคนนั้นซื้อใหม่เป็นว่าเล่นซื้อเหมือนแจก สาเหตุมันมาจากตัวเราเองนี้ละที่ทำให้มันพังบ่อยๆ เรามาดูกันว่าทำไมหูฟังนั้นถึงพังบ่อย

สาเหตุที่ทำให้หูฟังพังบ่อยๆ

1.ดึงสายหูฟังออกโดยไม่จับขั้ว

     โดยปกติแล้วในหูฟังนั้นจะมีขั้วให้จับเพื่อดึงหูฟังออกจากรูหรือเสียบเข้ารู แต่หลายๆคนใช้วิธีผิดๆก็คือการกระตุกสายหูฟังออกมาเลยหรือเวลาจะถอดหูฟังออกจากโทรศัพท์ไม่ดึงตรงข้อออกแต่ไปดึงตรงสายแทนจะทำให้สายขาดหรือสายหักในได้

2.ไม่พันสายให้ดี

     หลายคนมักเก็บสายหูฟังแบบไม่ดี แบบไม่ดีที่ว่านั้นคืออะไรก็คือการเก็บหูฟังแบบไม่ได้ทำให้มันดีมากนักโดยการเก็บแบบม้วนๆลวกๆหรือยัดใส่กระเป๋าไปแปปลวกๆ ถ้าทำแบบน้มันจะทำให้สายนั้นพันกันและสายหูฟังมีโอกาสขาดอีกด้วย

3.เก็บหูฟังในที่ร้อน

     มีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าการเก็บหูฟังในที่ร้อนนั้นก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการชำรุตของหูฟังหรือสายหูฟัง การวางหูฟังไว้ในที่ที่มีความร้อนหรือบริเวณรอบๆนั้นสามารถที่จะส่งผลให้ตัวสายหูฟังนั้นละลายและชำรุดในที่สุด

4.เกี่ยวหรือเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ

     การที่ใช้หูฟังนั้นหลายใครๆคนมักประสบปัญหานี้ก็คือหากเรานิยมใส่หูฟังเดินไปไหนมาไหนหรือเวลาทำงานเรามักจะลืมตัวว่าเราใส่หูฟังอยู่แล้วเราลุกออกมาทันทีทำให้สายกระชากอาจเกิดการขาดได้แล้วการใส่หูฟังเดินหรือทำกิจกรรมก็ควรระวังให้ดีว่าจะไปเกี่ยวกับวัตถุอื่นๆทำให้ขาดได้ อย่างเช่นการใส่หูฟังวิ่ง ควรระวังหูฟังไปเกี่ยวกับสิ่งอื่น

5.ฟังเสียงที่ดังมากจนเกินไป

     หลายๆท่านนั้นอาจจะคิดว่าการฟังเสียงดังนั้นมันมีผลต่อการทำให้หูฟังของเราเสียด้วยหรอ  ก็ขอตอบเลยว่ามีส่วนที่อาจทำให้เสียหายหรือชำรุดได้ เนื่องจากการเปิดเสียงดังมากจนเกินไปอาจจะส่งผลให้แผ่นวงจรหรือแผ่นไดอะเฟรมที่อยู่ข้างในเกิดความเสียหายทำให้ลำโพงแตก

     ถ้าเราอยากใช้หูฟังของเราให้นานๆนั้นเราควรที่จะดูแลรักษาให้ดีและระวังการใช้งานให้ดีถ้าทำได้แบบนั้น หูฟังของเราก็จะอยู่ทนนานไม่ชำรุดหรือจากเราไปเร็วกว่าที่ควร
#สาขหูฟังขาด#สาเหตุ#หูฟัง#หูฟังขาด
6  อื่นๆ / Cafe / วิธีแก้ข้อเท้าแพลง ให้เป็นข้อเท้าถูก!! เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2018, 11:21:22

     ข้อเท้าแพลงนั้นสามารถเกิดได้จากหลายๆอย่าง ซึ่งสาเหตุที่ข้อเทาแพลงก็คือเอ็นช่วยยืดกระดูกระหว่างขอเท้ากับกระดูกขานั้นเกิดยึดตึงผิดปกติหรือฉีกขาด ซึ่งอาการขาแพลงนั้นจะเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับบางคน เนื่องจากบางคนต้องใช้ขาในการทำงาน เช่น นักกีฬา


อาการของข้อเท้าแพลง

1.เจ็บปวดบริเวณข้อเท้าหรือที่เกิดอาการ และได้รับความปวดเมื่อลงน้ำหนัก

2.ข้อเท้าบวม

3.มีรอยช้ำเลือดบริเวณข้อเท้าหรือผิวหนัง

4.ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

สาเหตุของเข้าเท้าแพลง

อาจเกิดได้จากหลายๆปัจจัยที่ทำให้ข้อเท้าของเรานั้นอยู่ในท่าที่ผิดปกติจนทำให้เส้นเอ็นยึดข้อผิดปกติ

สาเหตุที่เสี่ยงที่อาจให้เกิดอาการเท้าแพลง

1.หกล้ม ก้าวผิด

2.กระโดดแล้วลงจังหวะผิด

3.วิ่งบนพื้นที่ขระชระหรือเป็นหลุมเป็นบ่อ

4.ออกกำลังกาย ที่ใช้ขาเป็นส่วนมากเช่นกีฬา บาสเก็ตบอล ฟุตบอล หรือ วิ่ง

5.มีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ จะสามารถทำให้เกิดอาการเท้าแพลงได้ง่ายเนื่องจากรับน้ำหนักมากกว่าปกติ

6.ประสบอุบัติเหตุ เช่น รถชน รถล้ม


การรักษาข้อเท้าแพลง

     ขึ้นอยู่กับอาการว่าข้อเท้าของเรานั้นรุนแรงมากหรือรุนแรงน้อยซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้วเท้าแพลงที่ไม่รุนแรงมากนักสามารถรักษาเองได้ และจะใช้เวลาซักระยะหนึ่งเพื่อให้หาย เช่น

1.รับประทานยา

     ผู้เข้าเท้าแพลงสามารถไปหาซื้อยามารับประทานได้เช่นยาแก้ปวด เพื่อบรรเท้าอาการปวด

2.พันผ้าบริเวรที่แพลง

     ใช้ผ้าในการช่วยยืดบริเวณที่ข้อเท้าแพง จะสามารถลดอาการบวมได้ แต่อย่ารัดแน่นจนเกินไปหละเลือดอาจไม่เดินได้

3.ยกข้อเท้าขึ้น

     ใช้หมอนรองหรือยกให้สูงใขณะที่นอนราบ เพื่อให้ของเหลวที่คั่งอยู่บริเวณที่เราปวดไหลออก และสามารถบรรเท้าอาการบวมให้ลดลงได้

4.พักผ่อน

     วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในทั้งหมดก็ว่าได้ นั้นก็คือการพักผ่อนซึ่งโดยปกติเท้าอาการข้อเท้าแพลงจะได้รับความเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อเดินบ่อยๆหรือลงน้้ำหนัก เพราะฉะนั้นพยายามไม่เดินจะช่วยให้หายได้ไวขึ้น


วิธีการป้องกันข้อเท้าแพลง

1.วอมหรืออบอุ่นร่างกายก่อนเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย

2.ระมัดระวังตัวมากขึ้น

3.สวมรองเท้าให้พอดีกับเท้า

4.ไม่ใส่ส้นสูง

5.ออกกำลังกายเป็นประจำฝึกการเคลื่อนไหวร่างกาย

6.บริหารกล้ามเนื้้อและเอ็นในส่วนต่างๆ เพื่อให้เกิดความแข็งแรง

     เป็นยังไงบ้างกับเจ้าอาการข้อเท้าไม่ถูกเอ้ยข้อเท้าแพลง มันอาจจะเป็นปัญหาของใครหลายๆคนนะแต่มันมีวิธีแก้ด้วยตัวเองด้วยละ ยังไงก็แล้วแต่ผู้มีอาการข้อเท้าแพลงไม่ควรเดินเยอะๆ หรือลงน้ำหนักบริเวณข้อเท้าเยอะ เพื่อตัวเองจะได้หายจากอาการปวดไวไว
#ข้อเท้าแพลง#เจ็บข้อเท้า#อาการปวด
7  อื่นๆ / Cafe / สาเหตุ ที่ทำให้ นอนไม่หลับ เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2018, 16:21:44

     การนอนไม่หลับหรือโรคนอนไม่หลับนั้น เป็นปัญหาของใครหลายๆคนโลกเลยก็ว่าได้เนื่องจากการนอนไม่หลับนั้น ทำให้ร่างกายอ่อนแรงไม่แข็งแรงเนื่องจากไม่ได้รับการพักผ่อนที่ควรได้รับ และการนอนไม่หลับนั้นถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับคนที่ทำงานเลยทีเดียว


สาเหตุของอาการนอนไม่หลับ

1ทางด้านร่างกาย

     อาจจะเกิดจากการป่วยของโรคที่เป็นอยู่หรือปวดตามจุดจึงทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ เช่นไมเกรน โรคหายใจผิดปกติขณะนอนหลับ

2.ด้านจิตใจ

     โดยทั่วไปแล้วคนเรามักจะพบเจอปัญหาหรืออุปสรรคในชีวิตประจำวันในแต่ละวันแล้วก็อยู่ที่ว่าเราเก็บมันมาคิดมากน้อยแค่ไหน เพราะ การนอนไม่หลับนั้นสามารถเกิดจาก ความเคลียด วิตกกังวล ซึมเศร้า จนทำให้การการเปลี่ยนแปลงของประสาท ทำให้นอนไม่หลับ

3.ปัจจัยภายนอก

     สภาพแวดล้อมนั้นเป็นที่ที่ทำให้บุคคลคนนั้นเกิดความคิดอะไรหลายๆอย่าง อย่างเช่นสิ่งแวดล้อมดีบรรยากาศดีก็จะผ่อนคลายนอนหลับเต็มอิ่มอะไรประมาณนั้น แต่ว่าถ้าสภาพแวดล้อมไม่ดีละ นั้นส่งผลอย่างมากในการนอนหหลับ เช่น เสียงดัง แสงสว่างเกินไป กลิ่นไม่ดี เป็นต้น

4.ปัจจัยอื่นๆ

     อาการนอนไม่หลับนั้นเกิดได้จากหลายๆสาเหตุและมีสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นอนไม่หลับนอนก็คือ เกิดจากลักษณะนิสัยของตนเองที่ทำมานั้นเอง เช่น การนอนดึก หรือทำงานเป็นกะ หรือแม้แต่การข้ามเขตเวลาก็ใช่ด้วย และการดื่มเครื่องดื่มบางชนิดก็ส่งผลให้นอนไม่หลับได้ด้วยเช่นเดียวกัน เครื่องดื่มจำพวก กาแฟ ที่มีคาเฟอีน หรือนโคตินในบุหรี่และสารเสพติดต่างๆ


การรักษาโรคนอนไม่หลับ

     การนอนในเวลาที่ตรงกันทุกวันทำให้เป็นประจำ เพื่อให้ได้นอนหลับได้เพียงพอต่อความต้องการของรางกาย และหลีกเลี่ยงจากสิ่งหมกมุ่นต่างๆที่มีส่วนที่ทำให้ความคิดของเรานั้นฟุ้งซ่าน และควรหลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีคาเฟอีน

การป้องกันการนอนไม่หลับ

1.ปรับพฤติกรรมตนเอง

2.เปลี่ยนสภาพแวดล้อม

3.รับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย

4.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

5.ลดความเคลียด

     อย่าคิดว่าการนอนไม่หลับนั้นไม่ใช่ปัญหาหรือเรื่องเล่นๆนะ เพราะว่าถ้านอนไม่หลับแล้วร่างกายของเราไม่ได้รับการพักผ่อนเท่าที่ควรจะได้รับ อาจส่งผลทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอ และเกิดโรคต่างๆตามมาได้อีกด้วยนะ
#นอนไม่หลับ#โรคนอนไม่หลับ#สาระ#สาเหตุ,
8  อื่นๆ / Cafe / เคล็ดที่ไม่ลับ ข้อศอกขาวเนียนแจ่มวาว เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2018, 13:34:31

     ปัญหาศอกดำนั้นเป็นปัญหาของสาวๆหลายๆคนเลยก็ว่าได้เนื่องจากในชีวิตประจำวันของเรานั้นร่างกายของคนเรานั้นมักจะโดนนู้นโดนนี้อยู่ตลอด โดยเฉพาะศอกนั้นอาจจะโดนมากกว่าหลายส่วนเพราะบนคนนั้น ชอบนั่งเท้าคางโดยใช้มือวางบนโต๊ะทำให้ศอกนั้นโดนกดน้ำหนักลงไปกับโต๊ะอาจทำให้ดำหรือด้านได้ งั้นเรามาดูวิธีทำให้ข้อศอกขาวเนียนกันเลยดีกว่า


1.ขัดด้วยน้ำมะนาว

     ในน้ำมะนาวนั้นมีสารมากมายและก็มีสารตัวสำคัญก็คือ AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมาและยังสามารถช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มีความขาวเพิ่มจากเดิมอีกด้วย


2.สครับด้วยเกลือ

     การสครับนั้นเป็นวิธีที่สาวๆหลายคนนั้นใช้อยู่ แต่ว่าเจ้าเกลือวัสถุดิบที่อยู่ในบ้านเรานี้ละก็สามารถช่วยในการทำให้ข้อศอกขาวเนียนขึ้นมาด้วยโดยการ นำเกลือไปผสมกับเบบี้ออยล์แล้วจากนั้นให้นำมาขัดเบาๆที่บริเวณข้อศอก แล้วจากนั้นก็ทิ้งไว้ก่อนประมาณนึง แล้วค่อยล่างออกนะ


3.สครับด้วยน้ำตาลทรายแดง

     จากข้อที่2นั้นการสครับนั้นนิยมจริงๆในหมู่สาวๆแต่ไม่ได้มีแค่เกลือนะที่ทำได้ โดยเจ้าน้ำตาลทรายแดงนี้ก็ใช้ได้ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ว่าให้นำเจ้าน้ำตาลทรายแดงนั้นไปผสมกับน้ำผึ้งคนให้เข้ากัน และนำมาขัดหรือวนบริเวณข้อศอกเราเช่นเดิมจากนั้นทิ้งไว้ก่อนประมาณนึงแล้วค่อยล่างออก


4.ทาโลชั่นบำรุงข้อศอก

     การทาโลชั่นนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ข้อศอกของเรานั้นขาวเนียนกระจ่างใสมากขึ้นโดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป การทาโลชั่นจะทำให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส โดยส่วนมากแล้วจะนิยมทาโลชั่นกัน ในตอนเช้าและตอนเย็น


5.น้ำมันมะพร้าว

     การนวดด้วยน้ำมันมะพร้าวนั้นสามารถช่วยลดความดำและป้องกันไม่ให้ผิวแห้งได้ดีมากๆ วิธีใช้ก็เหมือนเดิม นำมานวดหรือวนบริเวณข้อศอกจะช่วยลดความดำได้

    เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อแก้ไขต่างๆ หวังว่าสาวๆหรือใครอีกหลายๆคนจะได้รับรู้วิธีการทำให้ข้อศอกขาวเนียนนะ
#แก้ศอกดำ#ขาวเนียน#ศอกขาว#ศอกดำ
9  อื่นๆ / Cafe / ผักคะน้า ผักอ่อนน้อม มากคุณประโยชน์ เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2018, 16:26:57

     ผักคะน้าผักพูดเพราะ ชื่อคุ้นหูคนเราเป็นอย่างดี เป็นพืชใบเขียวที่นิยมรับประทานกันทั่วไปหรือทุกที่นอกจากจะหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ยังอร้่อยอีกด้วยแต่ว่าหลายคนอาจจะไม่ชอบนอกจากจะมีกลิ่นเฉพาะตัวนิดนึง เอาเป็นว่าก็แล้วแต่คนชอบอะเนาะเรามาดูประโยชน์ของเจ้าผักพูดเพราะกันดีกว่า

ประโยชน์ของผักคะน้า

     1.นำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง

ผักคะน้าสามารถนำไปประกอบอาหารได้มากมายไม่ว่าจะเป็น ผัดคะน้าหมูกรอบ ผัดผัก ยำก้านคะน้า ต้มจับฉ่าย และอีกหลายๆเมนู แต่ละเมนูอร่อยเหาะเลยทีเดียว

     2.มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายมนุษย์

     3.ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายนั้นแข็งแรง

คะน้านั้นมีวิตามินเออยู่สูง แถมยังมีวิตามินซีอยู่อีกด้วย การรับประทานผักคะน้าขะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงและป้องกันโรคต่างๆได้

     4.บำรุงสายตา

คะน้ามีสารต้านอนูมูลอิสระในผักคะน้าที่ชื่อว่าเบต้าแคโรทีน ซึงเป็นสารที่สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นวิตามินเอได้ ส่งผลดีต่อดวงตาและบำรำดวงตา

     5.เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

เนื่องจากคะน้ามีแคลเซียมที่สูงและเป็นพืชผักที่เสริมสร้างแคลเซียมได้ค่อนข้างดี จึงสามารถทำให้กระดูกของคนนั้นแข็งแรง

      6.ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย

คะน้าผักสารพัดประโยชน์อีกทั้งยังมี ไฟเบอร์ที่สูงมากและในส่วนของใบะน้านั้น หากนำมารับประทานให้เหมาะสมแล้วละก็ จะช่วยเพิ่มยอาหาให้ลำไส้และสามารถกระตู้นระบบขับถ่ายได้

     อย่างไรก็ตามเราไม่ควรกินคะน้าให้มันมากเกินไปนะ เพราะว่าคะน้านั้นมีสารกอยโทรเจน ที่ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรรอยด์หากรับประทานในปริมาณทีมาก อาจทำให้สารกอยโทรเจนเข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบเมตาบอลิซึมและจะทำให้เกิดการท้องอืดามมาได้ จากที่กล่าวมาเราควรอยู่บนความพอดีรับประทานแต่พอดีจะได้ประโยชน์มากขึ้นกับร่างกายตัวเองด้วยนะ
#ประโยชน์#ผักคะน้า#ผักอ่อนน้อม#มากคุณประโยชน์#สาระน่ารู้
10  อื่นๆ / Cafe / ออฟฟิตซินโดรม ภัยร้ายใกล้ตัว!! เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2018, 16:26:25

     ปัจจุบันการทำงานในออฟฟิตนั้นมีมากมายเหลือเกินเพราะในปัจจุบันธรุกิจเยอะขึ้นก็เลยจำเป็นต้องมีพนักงานในบริษัทหรือออฟฟิตมากขึ้น ใช่แล้วถ้าพูดถึงออฟฟิตในบริษัทก็ต้องมีคนนั่งทำงานแล้วอะไรละนั่งทำงานแล้วทำไม ตอบเลยว่าการนั่งทำงานในออฟฟิตมีสาเหตุที่เสี่ยงจะเป็นโรคอยู่โรคหนึ่งคือ ออฟฟิตซินโดรม  เรามาทำความรู้จักกับออฟฟิตซินโดรมกันดีกว่า

     อาการของออฟฟิตซินโดรม

1.ปวดศรีษะ มมีอาการปวดไมเกรนบ่อยๆ เนื่องจากใช้สายตามาก และมีเความเคลียด

2.ปวดเมื่อต่าง โดยปกติแล้วเวลาเราทำอะไรนานๆมักจะปวดนู้นปวดนี้อยู่เสมอนั้นละคือออฟฟิตซินโดรมเพราะโรคจะมาจากการนั่งนานๆ ท่าเดิมนานๆ

3.อาการเจ็บและตึง อาการเหล่านี้จะมาจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ

4.อาการเหน็บชาและแขนขาอ่อนแรง

5.นอนไม่หลับ หรืออาจไท่หลับสนิท เกิดจากความเคลียดหรืออาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ

     สาเหตุหลักๆของออฟฟิตซินโดรม

1.เกิดจากการนั่งทำงานในท่าทางเดิมๆนานๆไม่ยืดหรือไม่ค่อยขยับท่าทางหรือเปลี่ยนท่า ให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย

2.เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์มากจนเกินไป การใช้สายตามากๆและบวกกับรังสีจากจอภาพทำให้เกิดการปวดตาได้

3.สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่เหมาะสม ก็ขึ้นอยู่กับออฟฟิตในแต่ละบริษัทว่าเป็นอย่างไรแต่ส่วนมากออฟฟิตที่จะทำให้เกิดโรคนั้นจะเป็นออฟฟิตแบบว่า แออัด อากาศไม่ถ่ายเท่ เกาอี้ไม่เหมาะกับสารีระเรา

     วิธีการป้องกันโรคออฟฟิตซินโดรม

1ควรจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานของตัวเองให้ดี

2.จัดท่าทางต่างๆของเราในการทำงานให้เหมาะสม เช่น ยืดบ้างเปลี่ยนท่าบ้าง ไม่เกรงมาก ไม่นั่งหลังงอจนเกินไป

3.ออกกำลังกายเป็นประจำ ข้อนี้แนะนำอย่างยื่งเพราะว่าการออกกำลังกายนั้นนอกจะ จะต้านโรคหลายชนิดได้แล้วยังสามารถทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรงตามไปด้วย
#ออฟฟิตซินโดรม#ภัยร้ายใกล้ตัว#ภัยร้าย#
11  อื่นๆ / Cafe / สตรอเบอรี่ผลไม้รสชาติดี ประโยชน์นับไม่ถ้วน เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2018, 15:29:52

     สตรอเบอรี่ผลไม้สุดยอดประโยชน์และเป็นผลไม้ที่โปรดปราณของใครหลายๆคนถ้าเอ่ยถึงชื่อหรือเห็นแค่รูป เชื่อได้เลยว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักเจ้าสตรอเบอรี่ ผลไม้สีแดงรสชาติหวานและกลิ่นหอมแถมมีประโยชน์อย่างมากมายอีกด้วย เรามาดูกันว่าเจ้าสตรอเบอรี่นี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

1.ต้านอนุมูลอิสระ

สตรอเบอรี่ผลไม้ที่สุดยอดสรรพคุณ ที่หลายๆคนชอบนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นแล้ว สตรอเบอรี่มีสูงกว่าอย่างมาก

2.วิตามินซีที่สูง

ในตัวสตรอเบอรี่นั้นมีวิตามินซีที่สูงอย่างมาก ซึ่งเจ้าวิตามินซีนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์เราและยังสามารถสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างคอลลาเจนได้ด้วย

3.บำรุงสายตา

จากข้อ2ที่เอ่ยถึงวิตามินซีไม่ได้มีแค่นั้น มีวิตามินเอด้วย ที่ช่วยในการบำรุงสายตาและช่วยป้องกันโรคต้อกระจก และยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยปรับความดันในตาให้ปกติ

4.บำรุงสมอง

สมองของทุกคนนั้นล้วนมีการเสื่อมจากการใช้งานตั้งแต่เกิดยันปัจจุบัน ย่อมมีการเสื่อมของสมองเป็นธรรมดา แต่ทว่าเจ้าสตรอเบอรี่นั้น มีวิตามินซีและไฟโตนิวเทรียนต์ ทำให้สารอนุมูลอิสระหายไปพร้อมกับคืนความอ่อนเยาว์ให้กระประสาทและสมอง

5.รักษาหลอดเลือด

สตรอเบอรี่มีกากใยสูงจึงสามารถช่วยลดไขมนที่ไปอุดตันในเส้นเลือด และช่วยเพิ่มปริมาณไขมันทีดี ที่จะช่วยลดไขมันอุดตันในหลอดเลือด

6.ป้องกันโรค

ช่วยป้องกันเกี่ยวกับโรคข้อต่างๆ เช่น โรคเกาต์ โรคข้ออักเสบ

     เป็นยังไงกับเจ้าสตรอเบอรี่ผลสีแดงรสชาติหอมหวานนี้ นอกจากจะอร่อยแล้วยังแถมคุณประโยชน์และสรรพคุณให้แก่ผู้ทานได้อีกด้วย
#ประโยชน์นับไม่ถ้วน#ไม่ถ้วน#สตรอ#สตรอเบอรี่
12  อื่นๆ / Cafe / ข้อดีของหมากฝรั่งที่หลายคนอาจไม่รู้ เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2018, 15:37:39

     หลากคนมองว่าเจ้าหมากฝรั่งนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากรสชาติหวานแค่นั้นแถมเคี้ยวแล้วดูเสียบุคลิกมากกว่าเดิมอีกด้วย แต่ทว่าเจ้าหมากฝรั่งมันก็มีข้อดีของมันด้วยเช่นกันไม่ได้มีเพียงข้อเสียอย่างเดียวเรามีดูข้อดีของมันกันเลยดีกว่า

     1.สร้างเสริมความจำให้ดีขึ้น

หมากฝรั่งนั้นเพิ่มประสิทธิภาพทางจิต และสามารถทำให้เข้าใจเกี่ยวกับงานที่ทำในวันต่างๆได้ดีเพราะว่าการเคียวหมากฝรั่งนั้นจะเพิ่มออกซิเจนไปยังสมองซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพความจำและการรับรู้ได้ดีขึ้น

     2.เพิ่มความตื่นตัว

เจ้าหมากฝรั่งสามารถเพิ่มความตื่นตัวได้เนื่องจากทำให้ร่างกายไม่ได้ขยับกรามในการเคี้ยวทำให้ตื่นตัวและไม่ง่วงอีกด้วย

     3.ลดความเครียด

หลายคนในปัจจุบันอาจพบกับความเคลียดไม่ว่าจะเป็นในการทำงาน ในการคุยเรื่องการทำอะไรก็แล้วแต่ การเคี้ยวหมากฝรั่งนั้นจะทำให้จิตใจเราแน่นิ่งมากขึ้นอยู่กับที่มากขึ้น และสามารถลดฮอร์โมนความเคลียดอีกด้วย

     4.ปกป้องฟัน

หมากฝรั่งนั้นไม่ได้มีประโยชน์แค่ให้เคี้ยวหรือเป่าเล่นเท่านั้น ยังสามารถช่วยปกป้องฟันได้ด้วย ด้วยการที่หมากรั่งนั้นต้องเคี้ยวอยู่ในปากของเราเอง จึงสามารถลดคราบจุลินทร์และช่วยเสริมส่รางและเครืบฟัน

     5.ลดกรดไหลย้อน

หลายคนที่ประสบปัญหาการเจอกรดไหลย้อนในแต่ละวันอาจจะหงุดหงิดที่เจอแบบนี้อยู่บ่อยๆทั้งแสบทั้งร้อน แต่ว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งนี้หลังจากรับประทานอาหารจะสามารถลดกรดไหลย้อนได้ ซึงการเคี้ยวจะทำให้ผลิตน้ำลายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถล้างกฏได้

     6.ช่วยเพิ่มลมหายใจ

หมากฝรั่งสามารถที่ช่วยเพิ่มลดหายใจที่ดีขึ้นได้ บางคนอาจพบเจอปัญหามีกลิ่นทางเดินหายใจ แต่เจ้าหมากฝรั่งสามารถช่วยฆ่าแบคทีเรียในช่องปากได้

     7.ช่วยเลิกสูบบุหรี่

หมากฝรั่งหลายๆยี่ห้อที่เรารู้จักหรือไม่รู้จักนั้นจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่โดยหมากฝรั่งดังกล่าวจะให้ปริมาณนิโคตินและสามารถควบคุมได้

     8.บรรเทาอาการปากแห้ง

ปากแห้งนั้นเป็นปัญหาที่หลายคนเจอโดยเฉพาะหน้าหนาวแล้วบางทีเราอาจลืมลิฟมันที่ช่วยทาให้ชุ่มฉ่ำได้แต่ทว่า เจ้าหมากฝรั่งก็สามารถบรรเทาอาการปากแห้งได้เช่นกัน เพราะจะช่วยในการกระตุ้นน้ำลายนั้นเอง

     จะเห็นได้ว่าเจ้าหมากฝรั่งนั้นก็มีดีกว่าที่คิดอยู่มาก ของทุกสิ่งหากค้นหาหรือศึกษาดีดีแล้วละก็อาจจะรับรู้ถึงประโยชน์ของมันก็ได้
#ข้อดีของหมากฝรั่งที่หลายคนอาจไม่รู้#ประโยชน์#หมากฝรั่ง
13  อื่นๆ / Cafe / เคล็ดแต่ไม่ลับ วิธีปลุกหนวดให้ยาวเร็วขึ้น เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2018, 16:55:49

     ในปัจจุบันแฟชั่นหนวดนั้นมีอย่างแพร่หลายไม่ใช่ว่าคนไว้หนวดจะดูไม่ดีเสมอไป คนไว้หนวดดูดีมีเยอะแยะมากมาย ในปัจจุบันนี้คนไว้หนวดแฟชั่นมากมาย จึงมีการปลุกหนวดกันเกิดขึ้น

     เรามาดูวิธีที่ทำให้หนวดยาวเร็วขึ้นกันดีกว่า

1.การโกนหนวด

ควรใช้ After Shave เพราะมีแอลกอฮอ ที่ช่วยในการเร่งหนวดให้หนาและยาวขึ้น

2.ดูแลใบหน้าให้สะอาด

การดูแลใบหน้าให้สะอาดเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกๆท่านอยู่แล้ว และถ้าเราทำความสะอาดหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่สะอาด ก็จะทำให้ช่วยกระตุ้นหนวดเคราได้

3.ใช้ครีมบำรุง

ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของยูคาลิปตัส สามารถทำให้หนวดยาวขึ้นได้


4.นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับให้เพียงพอ ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายจึงทำให้ร่างกายหลังฮอโมนไปซ่อมแซมเซลล์ผิวทำให้หนวดขึ้นได้ไวกว่าเดิม

5.ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั้นจะส่งผลดีต่อตัวเราอย่างมากเพราะสามารถทำให้เราร่างกายแข็งแรงแล้วยังสามารถมีส่วนช่วยให้หนวดเคราขึ้นไวอีกด้วย

6.เซรั่มปลุกหนวด

เป็นวิธีที่ทำให้หนวดขึ้นได้ไวที่สุด แต่ขึ้นอยู่ที่ตัวเราดูแลตัวเองด้วย

     การที่บุคคลที่มีหนวดไม่ได้หมายความว่าจะดูไม่ดีเสมอไป คนมีหนวดดูดีมีมากมายอยู่ที่มุมมองของคนเรา การมีหนวดที่สวยงามและดีนั้นไม่ยากอย่างที่คิด แต่ต้องใช้อดทนในการฟูมฟักนานพอสมควร
#เคล็ดแต่ไม่ลับ วิธีปลุกหนวดให้ยาวเร็วขึ้น#ปลุกหนวด
14  อื่นๆ / Cafe / 5วิธีแก้เข่าดำ เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2018, 15:49:47

     หลายคนอาจพบประสบปัญหาเกี่ยวกับเข่าดำ ใช่แล้วเขาดำนั้นเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับหมู่สาวๆมันจะทำให้ดูหมองคล้ำ และไม่สง่า แต่เราจะมาแนะนำ 5สิ่งที่สามารถแก้เข่าดำได้


1.เปลือกมะนาว

เปลือกมะนาวนั้นมีสรรพคุณที่หลายคนอาจไม่รู้ เจ้าเปลือกมะนาวนั้นมีกรดซิตริกที่ช่วยกัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป

2.เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดานี้ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี สิ่งที่เรารู้จักกันนี้หละที่สามารถขจัดเข่าดำออกได้

3.น้ำมะพร้าวอ่อน

น้ำมะพร้าวผลไม้มากสรรพคุณ นอกจากที่จะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ที่ช่วยทำให้เข่าไม่ดำอีกด้วยโดยการนำน้ำมะพร้าวมาทาแล้วนวดๆ

4.หอมใหญ่

หอมใหญ่ สิ่งที่มีอยู่ทุกครัวและสามารถนำไปประกอบอาหารได้ในหลายรุปแบบและอีกประโยชน์หนึ่งของหอมใหญ่ก็คือสามารถนำมาปั่นและผสมน้ำมะนาว เพื่อแก้เข่าดำได้อีกด้วย

5.มะขาม

มะขามผลไม้ที่มีรสชาติที่อร่อยและยังมากสรระคุณอีกด้วย เนื่องจากเจ้ามะขามนี้สาวๆล้วนรู้จักกันดีอยู่แล้วในเรื่องของการขัดตัวและสามารถแก้เข่าดำได้ด้วยนะ

     สาวๆคนไหนที่ประสบปัญหาเข่าดำลองไปใช้กันได้นะเนื้องจากหาไม่ยากแล้วยังมีสรรพคุณที่ดีงามอีกด้วย
#5วิธีแก้เข่าดำ#เขาดำ#แก้
15  อื่นๆ / Cafe / 4วิธีทำให้สุขภาพทางเพศ ไม่ห่อเหี่ยว เมื่อ: 30 ตุลาคม 2018, 15:29:07

หลายคนคงมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพท่านชายที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือผิดหวังในการถึงจุดสุดยอดไม่รู้ว่าจะสาเหตุอะไร วันนี้เรามีวิธีที่สามารถทำให้น้องชายของท่านกับมาฟิตและแข็งแกร่งเหมือนเดิม

1.การออกกำลังกาย

กายออกกำลังกายนั้นควรทำเป็นประจำอยู่แล้วนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง และยังทำให้สุขภาพทางเพศดีขึ้นอีกด้วย เราควรออกกำลังกายอย่างน้อยประมาณ20นาที เพื่อเสริมสร้างร่ายกายให้แข็งแรง

2.งดสุบบุหรี่

บุหรี่นั้นมีโทษมากมายเราควรเลิกสูบบุหรี่ เนื่องจากมีการ วิจัยมาแล้วว่า คนที่ดูดบุหรี่จะทำให้เสื่อมสภาพและน้องชายมีขนาดเล็กลง

3.ไม่เคลียดมากจนเกินไป

เนื่องจากความเคลียดนั้นนอกจากจะทำให้เราปวดหัวแล้ว ยังส่งผลทำให้ร่างกายเสียอีกด้วย  เนื่องจากการเคลียดนั้นเป็นปัญหาอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ที่สามารถทำให้ สมรรถภาพทางเพศของท่านชายลดลง


4.ควรนอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับนากจากจะมีข้อดีที่ทำให้ให้ร่างกายของเรานั้นผ่อนคลายและได้พักผ่อนยังสามารถลดการเคลียดซึ่งเป็นบ่อเกิดแก่การเกิดการเสี่อมสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย

     เราควรที่จะพักผ่อนและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเองถ้าเราไม่ทำใครจะทำเพราะว่าสุขภาพดีหาซื้อไม่ได้นอกจากทำเองนะจ้า
#4วิธีทำให้สุขภาพทางเพศ ไม่ห่อเหี่ยว
16  อื่นๆ / Cafe / วินตามินดี วิตามินที่ประโยชน์หลากหลาย!! เมื่อ: 30 ตุลาคม 2018, 14:20:09

ในชีวิตของคนเรานั้น ต้องการวิตามินอยู่ในแต่ละวันเพื่อเสริมสร้างสิงติ่งๆที่ร่ายกายต้องการ จึงมีคนหมู่มากที่นิยม ซื้อวิตามินมารับประทาน นอกจากจะซื้อวิตตามินตามร้านขายแล้ว ยังสามารถหาได้จากสัตว์ในหลายประเภทอีกด้วย

     วันนี้เราจะมาพูดถึงว่าเจ้าวิตามินดี มันดีอย่างไร และสามารถหารับประทานจากไหนได้บ้าง

ประโยชน์ของวิตามินดี

1.มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม สามารถทำให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันจากโรคกระดูกบาง กระดูกพรุน

2.ช่วยในกันป้องกันโรคหวัดได้ถ้ารับประทานคู่กับวิตามินเอและวิตามินซี

3.ข่วยในการรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบ

     วิตามินดีหาได้จากอาหารดังนี้

1.ปลาซาดีน

2.ปลาแซลมอล

3.ปลาทู

4ไข่

5.นม

     ไม่ว่าเราจะรับประทานอะไรก็แล้วแต่ เราควรรับประทานให้อยู่ในความพอดีไม่งั้นอาจจะส่งผลเสียแก่ร่างกายของเราได้
17  อื่นๆ / Cafe / 8ผักอันตราย ที่ไม่ควรรับประทานดิบ เมื่อ: 30 ตุลาคม 2018, 12:03:28

การรับประทานอาหารต่างๆย่อมมีผักเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วส่วนของตัวผักนั้นค่อนข้างที่จะมีประโยชน์อย่างมากในทุกๆชนิด แต่ว่าการรับประทานผักนั้นต้องรับประทานให้ถูกวิธีมิฉะนั้นอาจจะเกิดอันตรายกับตัวผู้รับประทานเอง เนื่องจากผักบางชนิดนั้นควรรับประทานสุก ถ้ารับประทานดิบอาจเกิดอันตรายได้
      เรามาดูกันว่าผักที่ไม่ควรรับประทานขณะที่ยังดิบอยู่มีอะไรบ้าง

1.บรอกโคลี่

บรอกโคลี่นั้นมีสารที่สามารถทำให้เกิดอาการท้องอืด และยังมีฮอร์โมนบางอย่างที่กระตุ้นทำให้เกิดการเป็นโรคไทรอยด์

2.กระหล่ำปลี

กระหล่ำปีมีสารออกซาเลต ซึ่งถ้าร่างกายของเราได้รับนั้น สารออาซาเลตจะเข้าไปสู่กรวยไตและสามารถทำให้เป็นโรคนิ้วได้ และยังมีสาร กอยโตรเจน ที่คอยยับยั้งฮอร์โมนของต่อมโทรอยต์ในร่างกายทำให้ ดึงไอโอดีนจากเลือดไปใช้น้อยกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นบ่อเกิดทำให้เป็นโรคคอหอยพอกได้

3.ดอกกระหล่ำ

ดอกกะหล่ำ ซึ่งดอกกระหล่ำนั้นหากนำมารับประทานดิบๆ จะทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีระบบย่อยอาหารไม่ดี เพราะว่าเจ้าดอกกระหล่ำนั้นมีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่ระบบย่อยอาหารจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลชนิดนี้ได้ จะทำให้เกิดอาการท้องอืด และแน่นท้อง

4.ถั่วฝักยาว

ผักยอดฮิตที่ใครๆหลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะมารับประทานกับ ขนมจีน ส้มตำ หรืออะไรอีกมากมาย ในตัวถั่วฝักยาวนั้นมีไกลโคโปรตีน และเลคตินในปริมาณที่สูง  จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ และความดันโลหิตต่ำ

5.ผักโขม

ในผักโขมดิบๆ จะมีกรดออกซาลิก ทำให้ร่ายกายของคนเรานั้นเกิดการระคายเคืองและขัดขวางไม่ให้ร่างกายของเรานั้นดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม และจะส่งผลทำให้เกิดเป็นโรคนิ่ว

6.ถั่วงอก

ผักยอดนิยมและสุดฮิตสุดๆสำหรับเจ้าถั่วงอก เนื่องจากสามารถนำไปปรุงอาหารได้แทบทุกเมนู โดยเฉพาะก๋วยเตี๊ยวแล้วละก็บอกเลยอร่อยเหาะ แต่ทว่า ถั่วงอกนั้นมีสารโซเดียมซัลไฟต์ จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ หายใจไม่สะดวก และความดันโลหิตต่ำ

7.มันสำปะหลัง

การรับประทานมันสำปะหลังดิบๆนั้นมีผลเสียมากกว่าที่คิดโดยเฉพาะในรากและใบ เพราะมีพิษที่สามารถส่งผลให้ถึงแก่ความตายได้ เพราะพิษของเจ้ามันสำปะหลัง จะเข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบหัวใจทำให้วิงเวียนศีรษะ และ อุจจาระร่วง

8.หน่อไม้

อาหารสุดแซ่บที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด แต่ทว่า ในหน่อไม้นั้นมีสารที่เรียกว่า ไซยาไนด์ ซึ่งจะทำให้เป็นพิษต่อร่างกายแล้วสารนี้จะไปจับกับฮีโมโกลบิน ทำให้ร่ายกายของเราขาดออกซิเจน ถึงขั้นหมดสติและอาจเสียชีวิตได้

  สำหรับ 8ผักอันตรายที่ไม่ควรรับประทานดิบๆแล้วนั้นถ้าหากนำมาประกอบอาหารและทำให้สุกจนปลอดภัยรับรองได้ว่าประโยชน์นั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตอบควรรับประทานอาหารหรือผักที่ปรุงสุกแล้วจะดีกว่านะจ้า
หน้า: [1]