ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  อื่นๆ / Cafe / Re: มาหารายได้ วันละ 5 - 50$ กันเถอะ เมื่อ: 18 มิถุนายน 2009, 17:53:42
ขอด้วยคนค่า สนใจมาก  Kiss
2  อื่นๆ / Cafe / Re: คำถามของ ไอสไตน์ เขาว่า 98% ของคนบนโลกนี้ เมื่อ: 14 มีนาคม 2009, 07:58:08
อ้างถึง
เท่ากันได้ครับ ก็อย่างที่ผมบอกไป โอกาสในการเท่ากันมันมีอยู่
หมายความว่าวิธีนี้ใช้ระบุว่าถุงที่ชั่งเป็นถุงปลอมไม่ได้ 100 %
การชั่งครั้งเดียวแล้วบังเอิญว่าได้น้ำหนัก 90g แล้วบอกว่าถุงที่เหลือไม่มีน้ำหนัก 90 กรัมอีกได้หรือครับ
ถ้าได้แปลว่าคุณรู้แต่แรกแล้วว่าถุงที่ชั่งอยู่เป็นถุงที่มีเหรียญปลอม
ไม่งั้นคุณก็ต้องบอกกำกับว่า
เมื่อเหรียญในถุงปลอม มีจำนวน 10,20,30,... ต้องไม่มีน้ำหนักทั้งถุงเท่ากับถุงที่มีเหรียญจริงที่เหลือ
แต่
ถ้าคุณบอกว่าคุณบังเอิญหยิบ เหรียญ 1 เหรียญ จากถุงปลอมมาชั่งได้ 9 g
แล้วบอกว่าถุงนี้เป็นถุงปลอม แบบนี้โอเคครับ


ปล.กรณีนี้ไม่เหมือนกับกรณี ครูถามเงินทอนนักเรียนนะครับ
ดูเผินๆมันอาจจะดูเหมือนเฉยๆแต่จริงๆมันแตกต่างนะ ผมอยากให้แยกแยะให้ออก

เหอๆ คือ ว่าอย่างนี้นะครับ ที่ว่าเท่าไม่ได้เพราะ ถ้าจะเท่ากัน เราต้องรู้ 2 อย่างถึงจะนำมาเท่ากัน แต่ถ้าเรารู้อย่างเดียวแล้วเราจะเอาไปเท่ากับอะไรล่ะ เช่น คุณมีเงิน 100 บาท จะรู้ได้ไงว่ามากหรือน้อย จะรู้ก็ต่อเมื่อมีการเปรียบเทียบกับ เงินในกระเป๋าอื่นๆ ทีนี้ ถ้าถุงมี 12 ถุง สมมติให้มี เบอร์ 1-12 และเบอร์ 12 เป็นถุง ปลอม ผมใช้วิธีสุ่มเสี่ยงชั่ง ทีละถุง โอกาส ที่ผมจะเลือก เบอร์ 12 เป็นถุงแรก ก็เป็น 1/12 และเคสนี้เท่านั้นที่ ถูกพอดี คำถามถามแค่ อย่างน้อยที่สุดกี่ครั้ง ถึงจะรู้ ก้เคสนี้ คือ 1 ครั้งรุ้เลยไงครับ  เราไม่สนเคสอื่น ถูกต้องที่ว่าถุงอื่นอาจจะหนักเท่ากับถุงนี้ก็ได้ครับ แต่เราได้ถุงที่ปลอมแล้ว เราก็ไม่ได้ชั่งต่อไปอีกแล้ว ผมไม่ได้หาวิธีการที่จะนำไปใช้ได้ในทุกๆครั้ง เพื่อเป็นสูตรและถูก 100% สำหรับนำไปใช้กับ การชังถุงทองในวันต่อไป แต่มุ่งแค่จะตอบปัญหาว่า น้อยสุดกี่ครั้งเท่านั้นครับ 

ถ้าจะหาวิธีที่ใช้ได้ทุกครั้ง 100%  ผมคิดไม่ออกครับ ต้องรอคำตอบจากคุณแล้วล่ะครับ

ปล. รู้สึกเหมือนกำลัง ตอบกระทู้ พันทิล ห้องศาสนา ปรัชญาเลยแฮะ


ประเด็นนี้หนูเห็นด้วยกะท่าน rapture นิดนึงค่ะ คือ ท่าน utto อาจจะลืมไปว่าทองในแต่ละถุงมันไม่เท่ากัน ฉะนั้นจึงมีทองอยู่ 2 ถุงที่มีสิทธิ์หนัก 90 กรัม ไม่ว่าทองในถุงนั้นจะปลอมรึไม่ ฉะนั้นถ้าท่าน utto จะบอกว่าหยิบมาชั่งถุงนึงหนัก 90 กรัม แล้ว แล้วบังเอิญมี 10 เหรียญ เป็นทองปลอมนั้น แสดงว่าท่านต้องเทเหรียญออกจากถุงตอนชั่งแล้วนับว่ามันมีกี่เหรียญแล้วเอามาหารด้วยน้ำหนัก เป็น 90/10 = 9 กรัม ทำนองนี้ ไม่งั้นวิธีของท่านก็เป็นแค่สมมติฐาน ยังไม่ใช่คำตอบอ่ะค่ะ เพราะมันไม่มีข้อสนับสนุนว่าไอ้ถุงนี้มันเป็นทองปลอมจริง (ในกรณีที่ท่านไม่ได้เทเหรียญออกมานับจำนวน)
เพราะทองปลอม 9 กรัม 10 เหรียญ นี่มันไขว้อยู่กับทองจริง 10 กรัม 9 เหรียญ ท่านจะพิสูจน์ได้อย่างว่าท่านมือแม่นหยิบถุงทองปลอมได้จริง ไม่ใช่ถุงทองจริง คำตอบมันยังเป็นแค่ 50% ไม่ใช่ 100% อ่ะค่ะ

หนูเข้าใจประเด็นคำตอบของท่าน utto เด้อค่า แต่มันเหมือนเป็นมุมมองของคนที่รู้อยู่แล้วว่าในแต่ละถุงมีทองอยู่จำนวนเท่าไหร่ แล้วใส่เบอร์ 1-12 เสร็จแล้วก็หลับตาหยิบ ปรากฎว่ามือดีหยิบได้ถุง 10 เหรียญ 90 กรัมพอดี เลยไม่ต้องชั่งต่อ เพราะรู้ว่าเป็นถุงทองปลอมแน่ ถ้าอารมณ์นี้ คำตอบจะเป็น 100% ค่า


อันนี้หนูมาถกด้วยเด้อค่าเพราะเห็นประเด็นนี้น่าสนใจดีค่า  Kiss
3  อื่นๆ / Cafe / Re: ข้อสอบ สอบเข้าอนุบาล สาธิต ลองทำกันดูครับ เมื่อ: 11 มีนาคม 2009, 06:47:51
ข้อสอบทั้งหมด :    7 ข้อ
ตอบถูก :    7 ข้อ
ตอบผิด :    0 ข้อ

ไอ้สองหลังยังก๊ะข้อสอบเอ็นท์วัดไอคิวเลย  Tongue
4  อื่นๆ / Cafe / Re: คำถามของ ไอสไตน์ เขาว่า 98% ของคนบนโลกนี้ เมื่อ: 11 มีนาคม 2009, 04:18:38
ข้อ 10 คิดแบบนี้จะถูกไหมคะ  Huh?

โจทย์บอกว่าเหรียญที่แปลกไม่รู้ว่าหนักหรือเบากว่า ซึ่งหมายความว่าเหรียญนั้นน้ำหนักต่างกว่าเหรียญอื่น เวลาชั่งเราก็สามารถอนุมานได้ว่ามันอยู่ในกองที่น้ำหนักเบา/หนัก กว่าอีกข้าง

วิธีการ
1. แบ่งเหรียญออกเป็น 2 กอง กองละ 6 เหรียญเท่ากัน แล้วชั่ง กองที่มีเหรียญแปลกจะมีน้ำหนักเบา/หนักกว่า
2. เอากองที่เบากว่ามาแบ่งชั่งเป็นข้างละ 3 เหรียญ กองที่มีเหรียญแปลกจะเบา/หนักกว่าอีกกอง
3. เลือกเอา 2 ใน 3 เหรียญของกองที่เบากว่าจากข้อ 2 มาชั่งเทียบกันเอง ถ้าน้ำหนักเท่ากันแสดงว่าเหรียญที่ไม่ได้ชั่งคือเหรียญแปลก ถ้าอันไหนเบา/หนักกว่าอีกข้าง อันนั้นแหละค่า คือเหรียญแปลก

ชั่งแค่ 3 ครั้งพอดี  :Smiley

เอิ๊กกกก อย่าเพิ่งเชื่อวิธีคิดอันนี้นะเคอะ หนูทำผิดดดด ลืมไปว่าเค้าไม่ได้บอกว่ามันหนักรึเบา งานเข้าตั้งแต่ชั่งทีแรกละ ติดกับดักเฮียไอน์สไตน์เข้าเต็มๆ  Lips Sealed

คิดๆๆๆ

มาคิดใหม่อีกที มันต้องมีน้ำหนักปกติไว้อ้างอิงเพื่อเทียบว่ากองไหนผิดปกติ
คราวนี้หนูขอแบ่งเป็น 3 กอง กองละ 4 เหรียญ นะฮ้า ซึ่งมันคิดออกมาได้ 2 กรณีคะ

วิธีการ
- เอากองที่ 1 ชั่งเทียบกะ กอง 2 ถ้าน้ำหนักเท่ากัน ก็เข้ากรณีที่ 1 คือ กองที่3 มีเหรียญแปลก แต่ถ้านน.ไม่เท่ากันจะเข้ากรณีที่ 2

กรณีที่ 1
1. เอาเหรียญจากกองปกติมา 3 เหรียญ และเหรียญจากกองไม่ปกติมา 3 เหรียญ ชั่งเทียบกัน ถ้านน.เท่ากัน แสดงว่าอีกเหรียญที่ไม่ได้ชั่งในกองที่ 3 แหละแปลก ลองเอามาชั่งกะเหรียญปกติ ก็จะรู้ได้ว่ามันหนักกว่ารึเบากว่า * กรณีนี้ต้องโชคดีมากเพราะชั่งแค่ 2 ครั้งเองก็รู้แล้ว

2. ถ้าชั่งจากข้อ 1 แล้วได้นน.ไม่เท่ากัน คือ หนัก/เบากว่า (สมมติว่าหนักนะคะ) แสดงว่าเหรียญแปลกอยู่ใน 3 อันที่ชั่งอยู่ ก็เอา 3 เหรียญนี้ มาชั่งเทียบกัน 2 เหรียญ ถ้าอันไหนหนักกว่า(ตามสมมติ) อันนั้นแหละค่าเหรียญแปลก หรือ ถ้าน้ำหนักเท่ากัน แสดงว่าเหรียญที่ไม่ได้ชั่งแหละค่า เหรียญแปลก *กรณีนี้ชั่ง 3 ครั้งพอดี


กรณีที่ 2 (แอบยาก งงเต๊ก)
อันนี้พอชั่งครั้งแรกเราจะยังไม่รู้ว่ากองที่ 1 กะ 2 อันไหนมีเหรียญแปลก แต่ที่แน่ๆ คือกอง 3 เป็นเหรียญปกติ ปัญหาคือ มันชั่งได้อีกแค่ 2 ครั้ง กะเหรียญ 2 กอง 8 อันที่ไม่รู้ว่าไอ้ที่แปลกมันหนักรึเบาแล้วอยู่กองไหน??

*ให้จำด้วยนะคะตอนที่ชั่ง 1 กะ 2 คานกระดกด้านไหน สมมติว่าคานกระดกซ้าย ก็อนุมานได้ว่าถ้าเหรียญแปลกมันอยู่กองที่ 1 แสดงว่าเหรียญมันหนัก ถ้าเหรียญแปลกมันอยู่กองที่ 2 แสดงว่าเหรียญมันเบา (หรือถ้าคานกระดกขวาก็แค่สลับ 1 เป็นเบา สองเป็นหนัก)

-- ถ้าแบ่งออกมาเป็นภาพก็จะเป็น 1111(หนัก) 2222(เบา) 3333(ปกติ)

1.ให้แบ่งเหรียญชั่งเป็นสองกองกองละ 4 เหรียญ โดยผสมเหรียญทั้งสามกองเข้าด้วยกันเป็น 1123 กับ 1233 ทำนองนี้ค่ะ คราวนี้จะได้ออกมา 3 กรณีค่า

กรณีที่ 1
1.1.ชั่งดูถ้าคานกระดกซ้ายเหมือนเดิม แสดงว่ามีเหรียญแปลกอยู่ในกองใดกองหนึ่ง ก็เอา 11 จากกองหนัก และ 2 จากกองเบา ออกมาชั่งเทียบเลยค่า

1.2.เอา 1 กะ 1 มาชั่งเทียบกัน ถ้าเท่ากัน แสดงว่าเหรียญแปลกคือ 2 และมีน้ำหนักเบากว่าเพื่อน

กรณีที่ 2 ถ้าคานกระดกอีกด้าน
--  ให้เอา 2 จากกองหนัก กับ 1 จากกองเบา มารวมเป็นหนึ่งกอง(12) ชั่งเทียบกับ เหรียญสองอันที่มีน้ำหนักปกติ(33) ถ้ากอง 12 หนักกว่า 33 แสดงว่า เหรียญแปลกคือ 1 ที่หนักกว่าเพื่อน หรือ ถ้า 12 เบากว่า 33 แสดงว่าเหรียญแปลก คือ 2 ที่เบากว่าเพื่อน

กรณีที่ 3 ถ้าน้ำหนักออกมาเท่ากัน
-- ให้พึ่งเหรียญที่ยังไม่ได้เอามาชั่ง ซึ่งก็คือ 1 กับ 22 โดยให้เอา 2 กะ 2 นี่ล่ะมาเทียบกันเอง ถ้าคานกระดกก็ให้ดูว่าเหรียญข้างไหนเบากว่า อันนั้นคือเหรียญแปลก ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าเพื่อน แต่ถ้าทั้งสองเหรียญหนักเท่ากัน แสดงว่าเหรียญแปลกคือ 1 ที่หนักกว่าเพื่อน

ชั่งไม่เกิน 3 ครั้งค่า หนูพออธิบายรู้เรื่องไหมก๊ะเนี่ย Tongue

*เหอๆ ยากมากมายหลายตลบ ใครมีวิธีอื่นที่ง่ายกว่านี้ไหมคะ  Cry
 
หน้า: [1]